Home / รักโบราณ / บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม / ตอนที่ 11 แสร้งปล่อยเพื่อจับ?

Share

ตอนที่ 11 แสร้งปล่อยเพื่อจับ?

last update Last Updated: 2024-12-19 11:25:11

ตอนที่ 11

แสร้งปล่อยเพื่อจับ?

ภายในห้องหอยามนี้มีเพียงแสงสว่างเล็กน้อยจากเทียนมงคลที่ตั้งอยู่ที่โต๊ะกลางห้องหอเพียงเท่านั้น

ม่านมุ้งแพรสีแดงมงคลหรูสำหรับใช้กั้นที่เตียงนอนถูกกลางออกจนทำให้ไม่สามารถมองเห็นทะลุผ่านเข้าไปด้านในเตียงได้ โม่หลงอวี้เอื้อมพระหัตถ์เลิกม่านกั้นมุ้งออกเล็กน้อย ถึงได้พบว่ายามนี้มีสตรีผู้หนึ่งกำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียง มิหนำซ้ำนางยังนอนทั้งที่มีผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงสดคลุมอยู่ เสียด้วย

ทั่วแคว้นเป่ยซีคงจะมีเพียงเฉินจินฮวา ชายารองผู้นี้ของพระองค์เท่านั้นที่กล้าทำเช่นนี้ หากเป็นสตรีอื่นพระองค์มั่นใจ เป็นอย่างยิ่งว่าอย่างไรก็ไม่มีทางหลับลงในคืนเข้าหอเช่นนี้ที่เจ้าบ่าวยังทันทีจะเปิดผ้าคลุมหน้าให้แน่

ยิ่งกว่านั้นผู้ที่นางแต่งด้วยคือเขาที่มีศักดิเป็นถึงไท่จื่อรัชทายาทที่ถูกแต่งตั้งอย่างถูกต้อง มากไปด้วยอำนาจวาสนาอันยิ่งใหญ่ คืนเขาหออันสำคัญเช่นนี้นางยังกล้านอนหลับได้ลงคอ

ดูท่าแล้วเห็นทีว่าสตรีผู้นี้ก็ไม่ได้ยินดียินร้ายกับการที่ต้องเข้ามาเป็นชายารองของเขาเลยแม้แต่น้อย ครั้งที่ได้พบนางเมื่อหลายวันก่อนพระองค์ยังทรงคิดว่าอาจเป็นเพราะนางตั้งใจรักษากิริยาท่าทางเพื่อให้ดูดีในสายตาของตนจึงไม่ได้มีท่าทีชม้อย ชม้าย ชายตา หรือมีอาการเขินอายแต่อย่างไร

โม่หลงอวี้เกิดความสงสัยขึ้นในใจแล้วว่า หรือว่านางต้องการทำเหมือนไม่สนใจพระองค์เพื่อที่จะให้พระองค์เกิดความสนใจต่อนาง เป็นการแสร้งปล่อยเพื่อจับ หรือว่าไม่คิด สนใจและไม่ต้องการความสนพระทัยจากพระองค์อยู่แต่แรกแล้วกันแน่

พระองค์ทอดพระเนตรมองร่างเล็กที่นอนตัวตรงสวมเพียงชุดด้านในสีแดงพร้อมผ้าที่คลุมหน้าเจ้าสาวอยู่อย่างไม่เข้าพระทัยเลยจริง ๆ

พระองค์ประทับอยู่ข้างเตียงนานเพียงนี้หากแกล้งหลับคงทำไม่ได้สมจริงเช่นนี้ โม่หลงอวี้ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งว่าพระองค์ควรจะเรียกนางให้ตื่นขึ้นมาก่อนหรือไม่

หรือว่าควรจะเปิดผ้าคลุมหน้าให้นางได้นอนหายใจไปสบายยิ่งขึ้นดี

เจ้าของร่างสูงผู้ทรงอำนาจเลือกอย่างหลังในที่สุด พระองค์ค่อย ๆ ขยับเข้าใกล้ชายารองคนใหม่ที่นอนเยียดยาวเป็นระเบียบอยู่ที่เตียงด้านในแล้วจึงเลิกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออกมาจากใบหน้างามอย่างเบามือ

ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวถูกเปิดออกแล้ว ใบหน้างดงามที่ยามนี้ ไร้ซึ่งการแต่งแต้มด้วยเครื่องประทินโฉมใด ๆ นั้นกลับดึงดูดสายพระเนตรของพระองค์เป็นอย่างยิ่ง ริมฝีปากสีชมพูหวานของนางไม่ได้มีสีชาดแต่งแต้มเอาไว้แม้เพียงเล็กน้อย แต่กลับน่ามองยิ่งกว่ายามที่ริมฝีปากงามถูกแต่งเติมไปด้วยชาดสีสด

ความงามธรรมชาติที่ดูธรรมดากลับคล้ายจะตราตรึงได้มากกว่าความงามที่ถูกแต่งแต้มเสริมเพิ่มเติมเข้าไปเสียอีก

ไม่รู้ว่าพระองค์เผลอทอดมองใบหน้างามนี้นานเพียงใดกัน ครั้งนางขยับตัวเปลี่ยนท่านอนเป็นหันใบหน้าสวยนั้นเข้าไปด้านในเตียงและหันแผ่นหลังออกมายังทิศทางที่เขาอยู่แทนนั่นแหละพระองค์จึงได้รู้พระองค์ว่าเผลอทอดมองนางอยู่นาน

นางดูนอนหลับได้อย่างผ่อนคลายจนพระองค์รู้สึกริษยาอยู่หน่อย ๆ จากที่คิดจะแวะมาเปิดผ้าคลุมหน้าให้เพียงเท่านั้นก็จะเสด็จกลับเรือนใหญ่แห่งตำหนักบูรพาที่เป็นตำหนักพักส่วนพระองค์ก็เกิดเปลี่ยนพระทัยขึ้นมา

โม่หลงอวี้ประทับลงบนเตียงฝั่งด้านนอกที่ยังมีพื้นที่วางอยู่ ก่อนจะถอดอาภรณ์ตัวนอนออกจนเหลือเพียงอาภรณ์ตัวในเพียงเท่านั้น

อาภรณ์ที่ถูถอดออกจากกายถูกพระองค์โยนออกจากเตียงไปอย่างส่ง ๆ

เจ้าของพระพักตร์ที่ยากต่อการคาดเดาอารมณ์ได้นั้นทอดพระวรกายลงบรรทมเคียงข้างชายารองคนใหม่ของพระองค์ในเวลาต่อมา

เหมือนว่าใต้หมอนจะมีถุงหอมสอดเอาไว้ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ส่งออกมาทำให้โม่หลงอวี้ที่มักจะบรรทมไม่ค่อยหลับนั้นเผลอบรรทมหลับไปอย่างไม่ทันจะรู้ตัว

ด้านนอกตำหนักทิศประจิมในเวลานี้นั้น มีขบวนนางกำนัลรับใช้และขบวนบ่าวรับใช้รอท่าอยู่ด้านนอกกว่าสิบกว่าชีวิต แยกเป็นสองส่วนคือส่วนที่เป็นนางกำนัลและขันทีที่รอท่าเตรียมรับใช้องค์ไท่จื่อ ส่วนบ่าวรับใช้ที่นำขบวนด้วยอาหลัวนั้นก็รอรับใช้พระชายารองคนใหม่

พวกนางข้ารับใช้ทั้งหมดนั้นรอท่าอยู่ที่ลานหน้าตำหนักอยู่เกือบจะสองชั่วยามเห็นจะได้แล้วแต่ก็ยังไม่มีวี่แววการเคลื่อนไหวในตำหนักด้านในเลยแม้แต่น้อย

เหล่าข้ารับใช้นั้นล้วนแล้วแต่ไม่กล้าส่งเสียงเรียกรบกวนผู้เป็นนายเหนือหัว รวมไปถึงทุกคนในตำหนักต่างก็รู้ดีว่าฝ่าบาทมีรับสั่งให้องค์ไท่จื่อนั้นหยุดราชการสามวันโดยนับวันนี้เป็นวันแรก จึงไม่มีเหตุอันสมควรใดให้พวกจะต้องเสี่ยงชีวิตรบกวนความสงบขององค์ไท่จื่อกับพระชายารองคนใหม่

“องค์ไท่จื่อยังไม่เสด็จออกมาหรือ” เป็นฝูกงกงที่เอ่ยถามขึ้นกับอาหลัว

“ยังเลยเจ้าค่ะ ซ้ำด้านในตำหนักก็ไม่มีเสียงการเคลื่อนไหวเลย พวกข้าน้อยเลยไม่กล้าเข้าไปรบกวนการพักผ่อนของเจ้านายทั้งสอง”

“ไม่ง่ายเลยกว่าที่องค์ไท่จื่อจะมีวันหยุดพัก พระองค์ได้พักผ่อนเต็มที่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี” ฝูกงกงเอ่ยขึ้น แม้ในใจจะนึกแปลกใจอยู่บ้างเพราะไม่ว่าพระชายารองก่อนหน้าทั้งสองก็ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่องค์ไท่จื่อนั้นจะประทับอยู่ที่ตำหนักนานเช่นนี้ คงไม่ได้เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นด้านในห้องหอหรอกกระมัง

หากเป็นเช่นนั้นจะทำเช่นไรดี เขาคนนี้แล้วก็คนทั้งตำหนักบูรพาคงไม่อาจหนีพ้นโทษประหารไปได้แน่

คิดไปคิดมาฝูกงกงกลับเริ่มว้าวุ่นใจจนไม่อาจรออยู่เฉย ๆ ได้อีก เขาเตรียมตัวที่จะเอ่ยเรียกองค์ไท่จื่อที่อยู่ด้านใน หากไม่ใช่ว่าก่อนที่ตนจะเอ่ยปากนั้นก็มีเสียงการเคลื่อนไหวภายในห้องหอดังขึ้นเสียก่อน

“แม่นางอาหลัว เจ้าให้คนไปต้มน้ำรอท่าเอาไว้เถอะ ไม่นานคงจะได้ใช้แล้ว”

“เจ้าค่ะ ฝูกงกง” อาหลัวเองก็รู้ความ นางหันไปสั่งคนของตนให้เร่งไปแจ้งคนต้มน้ำให้เตรียมนำน้ำมาได้แล้ว

ด้านฝูกงกงนั้น ก็เดินตรงไปตรวจความเรียบร้อยของฉลองพระองค์ที่เตรียมมาให้องค์ไท่จื่อ ซึ่งมีนางกำนัลที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีเป็นผู้ถือถาดฉลองพระองค์เอาไว้

ในขณะที่เหล่าข้ารับใช้กำลังเตรียมการรอท่ากันอย่างขะมักเขม้น คนทั้งสองในห้องหอกลับไม่เป็นเช่นนั้น

พวกเขาต่างก็นอนอยู่บนเตียงนิ่ง ๆ แม้จะตื่นตั้งแต่หนึ่งเค่อก่อนแล้ว (1เค่อ=15 นาที)

“เหตุใด เจ้าตื่นแล้วยังไม่ลุกออกจากเตียงอีก หรือเจ้าอยากอยู่ใกล้ชิดกันให้นานขึ้น” โม่หลงอวี้ตรัสขึ้นทั้ง ๆ ที่ยังประทับนอนอยู่ข้าง ๆ กับชายารองคนใหม่ของตน

“ทูลองค์ไท่จื่อ หม่อมฉันไม่กล้าอาจเอื้อมข้ามพระวรกายพระองค์เพคะ” นางตอบกลับทันทีด้วยน้ำเสียงไร้เยื่อใยยิ่ง

“ความหมายของเจ้าคือเปิ่นไท่จื่อเป็นตัวเกะกะ?”

“ทรงตรัสเองนะเพคะ หม่อมฉันไม่ได้พูด” โม่หลงอวี้หันไปมองใบหน้าหวานที่ยามนี้ดูไร้อารมณ์ใด ๆ

“หึ คนของจวนไท่เว่ยช่างมีความกล้าหาญนัก คืนเข้าหอเจ้าไม่อยู่รอสวามีก็ช่างเถอะ ยามตื่นมายังต่อปากต่อคำมิหยุด”

“พวกเราสกุลเฉินเป็นตระกูลนักรบย่อมต้องมีความกล้าหาญเพคะ ส่วนเรื่องที่พระองค์ตรัสว่าหม่อมฉันไม่อยู่รอสวามีนั้นไม่จริงเพคะ หม่อมฉันรอพระองค์อยู่ เพียงแต่เปลี่ยนจากนั่งรอเป็นนอนรอเท่านั้นเพคะ”

“คงมีเพียงเจ้าที่กล้าเอ่ยออกมาเช่นนี้ ไม่นึกกลัวเลยหรือว่าเปิ่นไท่จื่อจะโมโหเจ้า ไม่โปรดปรานเจ้า”

“หม่อมฉันประจบไม่เป็นเพคะ คำพูดอาจไม่หวานหูถูกพระทัยพระองค์ หากพระองค์ไม่ทรงโปรดหม่อมฉันก็เข้าใจได้และยินดียอมรับเพคะ” เฉินจินฮวากล่าวออกไปอย่างด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ ความจริงแล้วนางตั้งใจและจงใจอยากให้องค์ไท่จื่อผู้นี้ไม่โปรดปรานนางเสียด้วยซ้ำ เช่นนี้แล้วนางจึงจะอยู่ที่วังบูรพาแห่งนี้อย่างเงียบสงบหน่อย ยื้อเวลาชีวิตต่อไปได้นานขึ้นอีกนิด

“มีภรรยาคนใดเป็นเช่นเจ้าบ้างไม่อยากให้สามีรักใคร่โปรดปรานเช่นนี้ หากเราปลดเจ้าออกจากตำแหน่งชายารองซะเดี๋ยวนี้เล่าเป็นอย่างไร” เขาตรัสขึ้นด้วยน้ำเสียงกึ่งไม่พอใจ

“เช่นนั้นก็ทรงเขียนหนังสือปลดหม่อมฉันซะตอนนี้เลยเป็นอย่างไรเพคะ” เจ้าของร่างเล็กเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเบิกบาน ซ้ำยังลุกขึ้นมานั่งตัวตรง จากที่นอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงอย่างไร้อารมณ์ ยามนี้ใบหน้างามกลับประดับไปด้วยรอยยิ้มกว้างด้วยความดีใจ “ข้าวของสัมภาระของหม่อมฉันคงยังไม่ได้จัดเก็บเข้าที่น่าจะยังอยู่ในหีบห่อยิ่งสะดวกขนกลับไปได้อย่างง่ายดายรวดเร็ว”

พระองค์ไม่รู้ว่ายามนี้พระองค์ควรรู้สึกอย่างไรกับท่าทีของสตรีตรงหน้าของพระองค์ดี ทั้งที่เมื่อครู่พระองค์จงใจข่มขู่ว่าจะปลดนาง แต่นางกลับทำท่าทีดีใจมากที่จะต้องถูกปลดจนนัยน์ตางามของนางนั้นเป็นประกายขึ้นมาทีเดียว

“หากถูกปลดตั้งแต่วันแรกที่แต่งเข้ามา เจ้าคิดว่าจวนสกุลเฉินของเจ้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ใดกัน เจ้าเล่ากลับบ้านเดิมไปพร้อมหนังสือปลดภรรยาไม่รู้สึกอายหรืออย่างไร”

“คนสกุลเฉินเดิมหน้าอยู่ไหนก็อยู่เช่นเดิมนั่นแหละเพคะ ส่วนหม่อมฉันค่อนข้างหน้าหนาเพคะไม่รู้สึกอับอายย่อมถือหนังสือปลดที่พระองค์มอบให้กลับจวนเป็นอย่างดีแน่เพคะ” นางเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มกว้าง

โม่หลงอวี้มองรอยยิ้มของนางยามเอ่ยถึงหนังสือปลดภรรยาอย่างรู้สึกไม่ค่อยพอพระทัยนัก คราวแรกตั้งพระทัยจะทำให้นางรู้สึกกลัวแต่กลับเป็นพระองค์เองที่เหมือนกำลังถูกปั้นหัวอยู่

“ถูกข้าปลดออกไป เกรงว่าทั่วทั้งแคว้นคงจะไม่มีใครกล้าแต่งเจ้าเข้าจวนอีก”

“เช่นนั้นก็ไม่เป็นอะไรเพคะ หม่อมฉันสามารถเร้นกายกลับบ้านเก่าท่านปู่ได้ ภายหน้าหากได้พบผู้ใดที่ข้าและเขามีใจตรงกันนั่นยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ พวกเราสองคนสามารถเร้นกายใช้ชีวิตร่วมกันได้แน่เพคะ”

“ดูท่าเจ้าวางแผนคิดการณ์ไกลได้ไม่เลว แต่ดูแล้วแผนที่วางเอาไว้ของเจ้าคงจะไม่ได้ใช้ เพราะข้าไม่มีทางปลดเจ้าออกไปง่าย ๆ เช่นนั้นแน่เก็บแผนของเจ้าเอาไว้ฝันเอาเถอะว่าจะได้อิสระ” พระองค์ลุกขึ้นเต็มความสูง ไม่ลืมที่จะหันไปยิ้มเยาะชายารองคนใหม่ของพระองค์ครั้งหนึ่งก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไป และเรียกให้ฝูกงกงเข้ามารับใช้

เมื่อได้ยินสิ่งที่องค์ไท่จื่อตรัส เฉินจินฮวาเหมือนถูกทำลายความหวังอันน้อยนิดจนหายไปจนหมด นางนั่งนิ่งอยู่บนเตียงใหญ่อย่างไร้อารมณ์เช่นเดิมจนกระทั่งอาหลัวเข้ามาเปิดม่านกั้นเตียงออกและประคองนางพาออกมาปรนนิบัติล้างหน้าเปลี่ยนอาภรณ์

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษ วังหลวงอันสุขสงบในปีที่สามหลังจากฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ ทรงมีราชโองการให้ยกเลิกการคัดเลือกพระสนม โดยทรงให้เหตุผลต่อเหล่าขุนนางในราชสำนักว่าการคัดเลือกพระสนมและการมีพระสนมมากเกินไปจะเป็นการสิ้นเปลืองอีกทั้งพระองค์อยากตั้งใจบริหารบ้านเมืองมากกว่าสนใจเรื่องของสตรีมากมายในวังหลังแม้เหล่าขุนนางส่วนมากจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับการที่ทรงต้องการยกเลิกการคัดเลือกพระสนมแต่ไม่สามารถขัดต่อฮ่องเต้ได้ เพราะเรื่องผู้สืบทอดสายเลือดมังกรยามนี้ก็ทรงมีองค์ชายถึงสองพระองค์ และองค์หญิงหนึ่งพระองค์ที่ประสูติจากพระครรภ์ของฮองเฮา ถือเป็นสายพระโลหิตสายตรงที่ล้ำค่าวังหลังยามนี้นอกจากพระสนมในฮ่องเต้องค์ก่อนที่อยู่ภายใต้การดูแลของฉุนหวงกุ้ยไท่เฟย แล้วนั้นสนมในฮ่องเต้โม่หลงอวี้ก็นับแล้วไม่เกินหกคนชิงอีจินฮองเฮา จากสกุลเฉินหมิงกุ้ยเฟย จากสกุลหมิง (หมิงเช่อเฟย)สวีผิน จากสกุลสวี (สวีเช่อเฟย)มู่กุ้ยเหริน ฉวีกุ้ยเหริน (หรูจื่อจากตำหนักบูรพา)หม่าฉางจ้าย อี้ฉางจ้าย (หรูจื่อจากตำหนักบูรพา)สตรีอื่นในวังแม้จะอยู่ในสถานะพระสนมของฝ่าบาทแต่ผู้ที่ได้รับใช้พระองค์จริง ๆ กลับมีเพียงเฉินฮองเฮาเท่านั

  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนที่ 54 ทุกอย่างคลี่คลาย (จบ)

    ตอนที่ 54 ทุกอย่างคลี่คลาย หนึ่งเดือนผ่านไปเรื่องราวทั้งหมดคลี่คลายแล้ว องค์ไท่จื่อเล่า เรื่องราวทั้งหมดให้นางฟังรวมไปถึงจุดจบของเฮ่อหลินจือและเฮ่อหลูเค่อ รวมไปถึงหัวหน้าเผ่าต้าเหอที่ท่านพ่อของนางเป็นคนไปจัดการ เผ่าต้าเหอตอนนี้กลายมาเป็นพื้นที่ครอบครองของแคว้นเป่ยซี เต็มตัวแล้ว ยามนี้รอแต่งตั้งอ๋องเพื่อไปปกครองเมื่อ ระหว่างรอฝ่าบาทพิจารณาผู้ที่เหมาะสมท่านพ่อของนางจะเป็นผู้ดูแลความสงบที่นั่นไปก่อนหมิงเช่อเฟยตั้งแต่องค์ไท่จื่อให้เสด็จออกไปยังที่ปลอดภัยก็ยัง แวะท่องเที่ยวไม่ยอมกลับมาเสียที อาจูที่ติดตามไปด้วยก็พลอยยังไม่ได้กลับมาด้วยกันส่วนสวีเช่อเฟยนั้นเคยเก็บตัวเงียบอยู่ในตำหนักอย่างไรก็เป็น เช่นนั้นไม่เปลี่ยนแปลงส่วนตัวนางเองก็ได้เปิดใจกับองค์ไท่จื่อไปทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องความฝันบอกเหตุหรือคำทำนายที่ได้รับ และเหตุผลว่าทำไม นางถึงไม่อยากจะมีครรภ์กับพระองค์ในเวลานั้นพระองค์รับฟังนางทุกเรื่องอย่างไม่เร่งรัดสรุปตัดความ ทรง เปิดใจให้นางได้เปิดเผยทุกอย่างในใจมีเรื่องหนึ่งที่นางถึงขั้นอึ้งหนักไปเลยนั่นคือเรื่องของนักพรต ลู่อวี้แห่งอารามโต้เทียน“ดูเหมือนนักพรตลู่อวี้ที่ชายารักกล

  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนที่ 53  เป็นไปตามแผน

    ตอนที่ 53 เป็นไปตามแผนวันนี้คือวันที่ถูกกำหนดเอาไว้ให้ทำการใหญ่ องค์ไท่จื่อและเฮ่อหลูเค่อรวมไปถึงหน่วยกล้าตายมากฝีมือลอบเข้าวังหลวงได้อย่างง่ายดาย เป็นเพราะองค์ไท่จื่อได้ผลัดเปลี่ยนเวรยามภายในวังหลวงก่อนหน้านี้เรียบร้อยแล้วในที่สุดก็สามารถเข้ามาถึงห้องทรงอักษรของฮ่องเต้โม่หลงเซียวได้อย่างง่ายดาย ตามทางที่มีเหล่าขันทีและนางกำนัลเฝ้าอยู่ตอนนี้มีเพียงแค่ร่างที่ไม่รู้สึกตัวนอนหมดสติอยู่ตามพื้นเช่นเดียวกันกับเหล่าองครักษ์ประจำวังหลวง“องค์ไท่จื่อลงมือได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่ต้องเสียทั้งแรงและเวลาไปเปล่า ๆ” เฮ่อหลูเค่อเอ่ยขึ้นหลังจากถอดผ้าคลุมหน้าของตนออกเมื่อเข้ามาถึงห้องทรงพระอักษรด้านในแล้วหน่วยกล้าตายถูกสั่งให้เฝ้าอยู่ด้านนอกห้าคน และตามเขากับองค์ไท่จื่อเข้ามาอีกห้าคน“สิ่งที่ข้าลงมือทำด้วยตัวเองแน่นอนว่าย่อมต้องไร้ที่ติ” ไท่จื่อหนุ่มกล่าวก่อนจะเป็นผู้เปิดประตูบานสุดท้ายที่จะนำพาพระองค์ไปหาผู้เป็นเสด็จพ่อของพระองค์ที่ทรงประทับอยู่ห้องด้านในเมื่อประตูบานสุดท้ายเปิดออกก็พบกับผู้เป็นฮ่องเต้แห่งแคว้นเป่ยซีทรงประทับอยู่บนแท่นพระที่นั่งด้วยท่าทีทรงอำนาจ สายพระเนตรทอดมองเหล่าผู้มาใหม่ด้ว

  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนที่ 52 กำจัดเสี้ยนหนาม  

    ตอนที่ 52กำจัดเสี้ยนหนามตอนนี้ไม่ว่าเรื่องใดที่เกิดขึ้นภายในตำหนักบูรพาก็ไม่มีสิ่งใดที่เฮ่อหลินจือไม่รู้ เรื่องที่อี้กงกงขันทีคนสนิทของฝ่าบาทมาทำไมที่ตำหนักบูรพาก็เช่นเดียวกันนางรู้สึกพอใจอยู่ลึก ๆ ที่สตรีแซ่เฉินผู้นั้นกำลังตกอยู่ในความมืดมิด เช่นนั้นหากนางจะเป็นผู้ช่วยปลดปล่อยสตรีแซ่เฉินผู้นั้นให้ได้พบเจอกับความสงบตลอดไปจะดีแค่ไหนกันนะ“น่าน่านักฆ่าที่เราเรียกใช้ได้ตอนนี้มีอยู่เท่าไร่หรือ”“ราว ๆ เกือบสามสิบคนเจ้าค่ะ”“จำนวนไม่น้อยเลยนี้ มากเพียงพอที่จะกำลังสตรีนางหนึ่ง ไม่สิมากเกินไปด้วยกระมัง” นางเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดี“น่าน่ารับคำสั่งข้าเรียกให้นักฆ่าทั้งหมดที่เรามีตามไปกำลังสตรีแซ่เฉินผู้อวดดีให้ข้า” หญิงสาวเอ่ยสั่งออกมาเสียงเย็นรถม้าคันใหญ่เร่งมุ่งหน้าลงใต้ด้วยความเร็ว ยามนี้แม้รถม้าจะเร็วเพียงใดแต่จิตใจของคนในรถม้ากลับเร็วกว่าใจของพวกเขาลอยไปถึงหุบเขาทางใต้ที่ท่านพ่ออยู่นานแล้ว“ท่านแม่ ท่านพี่เป็นแม่ทัพกล้าเสมอมา กี่ร้อยสนามรบไม่ว่าเล็กใหญ่ล้วนผ่านมาได้ ครั้งนี้ท่านพ่อก็จะต้องรอดชีวิตได้อีกแน่” เฉินฟูหมิงเอ่ยบอกท่านแม่ที่อยู่ในอ้อมกอดของตนในยามนี้“แต่อี้กงกงกล่าวว่าพ่อเจ้

  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนที่ 51 เรื่องราวในอดีต

    ตอนที่ 51เรื่องราวในอดีต ทั่วทั้งวังหลวงไม่มีผู้ใดไม่ได้ยินเรื่องที่ฝ่าบาททรงกริ้วองค์ไท่จื่อหนักถึงขั้นต่อว่าอย่างรุนแรงในระหว่างการประชุมราชการในช่วงเช้าที่ผ่านมาต่อหน้าขุนนางทั้งราชสำนักภายในวังหลวงมีผู้ใดไม่รู้บ้างว่าแท้จริงแล้วองค์ไท่จื่อกับฝ่าบาทต่างก็มีความเนินห่างกันอยู่ องค์ไท่จื่อโม่หลงอวี้ผู้นี้หัวรั้นจนเกินไปจนมักจะเกิดการโต้แย้งกันอยู่เสมอฟังจากที่เหล่าข้ารับใช้ในวังหลวงเล่าต่อกันมาว่าหากองค์ไท่จื่อไม่ได้เป็นพระโอรสองค์โตที่ประสูติแก่ฮองเฮาพระองค์ก่อนที่ด่วนสิ้นพระชนม์ไปฝ่าบาทก็คงไม่ทรงไว้หน้าไท่จื่อผู้นี้แล้วก็คงมีรับสั่งให้ปลดออกจากตำแหน่งหวงไท่จื่อนานแล้วภายในวังหลวงและเหล่าขุนนางต่างแอบพูดคุยกันถึงเรื่องนี้อยู่บางอย่างลับ ๆ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีผู้ใดจะกล้าผู้ออกมาอย่างเปิดเผย แต่ถึงอย่างนั้นเหล่าขุนนางก็เริ่มคิดแผนการเอาไว้หลายทางมากขึ้นเผื่อว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้ พวกเขาอาจต้องเลือกระหว่างองค์ชายรองและองค์ชายสาม แน่นอนว่าองค์ชายรองซึ่งเกิดจากพระสนมชิงเฟยดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกแรกที่ถูกนึกถึงแต่ถึงแม้หากจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงผู้ดำรงตำแหน่งหวงไท่จื่ออ

  • บุปผาไร้ใจแห่งตำหนักทิศประจิม   ตอนที่ 50 ใจจริงของเจ้า

    ตอนที่ 50ใจจริงของเจ้าสามวันสามคืนแล้วที่องค์ไท่จื่อไม่ได้เสด็จมาหานางที่ตำหนักทิศประจิม อีกทั้งไม่มีฝูกงกงหรือผู้ใดมาแจ้งเลยว่าเหตุใดถึงไม่ทรงเสด็จมาซึ่งผิดไปจากปกติเป็นอย่างมากเพราะพระองค์ไม่เคยไม่เสด็จมาหานางนานถึงเพียงนี้นางไม่ได้ให้อาจูไปสอบถามที่ตำหนักหลักตรงๆ เพราะกลัวที่จะเสียหน้าจึงได้สั่งให้อาจูไปแอบสืบจากองครักษ์เฝ้าประตูเงียบ ๆ ถึงได้ความมาว่าองค์ไท่จื่อเสด็จกลับมาที่ตำหนักบูรพาทุกวัน เพียงแต่เสด็จวังหลวงแต่เช้ากว่าเดิม และเสด็จกลับมาดึกด้วยทุกคืนช่วงนี้อาจจะทรง ทรงงานหนักมากจนไม่มีเวลา แต่อย่างไรเฉินจินฮวาก็มั่นใจว่าต่อให้จะดึกแค่ไหนหรือว่านางจะหลับไปแล้วอย่างไรพระองค์ก็จะเสด็จมาหานางอยู่ดี ต่อให้ไม่ได้เจอนางยามตื่นก็คงจะต้องแวะมาแกล้งนางยามหลับนางทำให้พระองค์โกรธเคืองหรือก็ไม่น่าเป็นไปได้ คืนก่อนที่แวะมาเสวยมื้อค่ำที่ตำหนักของนางก็ทรงไม่มีท่าทีแปลก ๆ หรือไม่สบ อารมณ์ใด ๆ เลย เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะทรงโกรธเคืองนางฉะนั้นอาจจะเป็นเพราะทรงยุ่งเท่านั้นล่ะ จริง ๆ แล้วไม่ใช่ว่า พระองค์ไม่เสด็จมาหานางควรจะดีใจหรือเปล่า นางหวังให้เป็นเช่นนี้ มาตลอดมิใช่หรือแล้วเวลานี้ม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status