Beranda / โรแมนติก / บ่วงรักผีเสื้อ / บทที่ 1 ผีเสื้อหัดบิน - 50%

Share

บทที่ 1 ผีเสื้อหัดบิน - 50%

last update Terakhir Diperbarui: 2024-10-31 21:15:35

ฝ่ามือเหี่ยวย่นลูบศีรษะเล็กด้วยความสงสาร ตั้งแต่เล็กจนโต ตนเห็นคุณหนูตัวน้อยนั่งรอบุพการีกลับมาจากทำงานอยู่ที่ขั้นบันไดตรงมุกหน้าบ้านเสมอ จนบางครั้งก็ฟุบหลับหน้าแนบไปกับราวบันได เคยปลุกให้ขึ้นไปนอนบนห้องก็ไม่ยอม จะรอแต่พ่อกับแม่อย่างเดียว ถึงมาพักหลังนี้จะไม่ค่อยเห็นเด็กสาวมานั่งรอเหมือนเมื่อก่อนอีก แต่ตนก็รู้ดีว่าในใจลึก ๆ ของรวิชานั้นโหยหาความอบอุ่นมากแค่ไหน

“น้องอายรู้ค่ะ แหม...น้องอายโตแล้วนะคะไม่ใช่เด็ก ๆ ที่จะมานั่งงอนตะพึดตะพือเหมือนเมื่อก่อน”

รวิชายิ้มจนตาหยีเพื่อให้แม่นมสูงวัยคลายกังวล ทั้งที่ในใจนั้นยังอัดแน่นไปด้วยความน้อยใจบุพการีที่เหมือนลืมไปแล้วว่ามีเธอเป็นลูก

สายตาของผู้สูงวัยได้แต่มองคนตรงหน้าที่นั่งกินมื้อเย็นไปเงียบ ๆ คนเดียวเช่นทุกครั้งด้วยความรักและสงสาร ถึงแม้อีกฝ่ายจะพยายามแสดงออกมากแค่ไหนว่าตัวเองเข้มแข็ง แต่คนที่เลี้ยงมากับมือตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งโตเป็นสาวน้อยน่ารัก ทำไมตนจะไม่รู้ว่าในใจของรวิชากำลังคิดอะไร บางคืนตนยังได้ยินเสียงคุณหนูน้อยละเมอร้องไห้อยู่เลย

หลังเสร็จจากมื้อเย็นแล้ว รวิชาก็ออกมานั่งเล่นที่ระเบียงห้องนอน มุมนี้เป็นมุมที่เธอชอบมากที่สุดเวลาที่ต้องคิดอะไรเพลิน ๆ เพียงลำพัง สายลมโชยเอื่อยพัดพากลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกแก้วในสวนด้านล่างขึ้นมาโอบล้อมรอบกาย หญิงสาวปล่อยใจมองไปยังท้องฟ้ามืดมิด พลันความคิดบางอย่างก็ผุดวาบขึ้นมาในหัว

ไปเรียนต่อเมืองนอกดีไหมนะ...

“เค้นเอาคำตอบจากมันมาให้ได้ ถ้ามันไม่ยอมพูดก็จัดการง้างปากมันพูดให้ได้ คงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าต้องจัดการยังไง”

เสียงทุ้มสั่งความอย่างเคร่งเครียดของชายหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ข้างบ้าน และอาศัยรั้วเดียวกันกับบ้านของเธอ ทำให้รวิชาต้องรีบทรุดตัวลงนั่งกับพื้นระเบียง โชคดีที่มุมนี้มีต้นไม้ใหญ่บดบังมุมโปรดจากสายตาคนภายนอก จึงทำให้คนมองจากข้างนอกแทบดูไม่ออกว่าหลังกิ่งก้านของต้นไม้ต้นนี้ยังมีห้องนอนของเธอซุกซ่อนอยู่

รวิชาแอบมองชายหนุ่มเจ้าของบ้านติดกันผ่านซี่ช่องว่างระหว่างราวระเบียง เธอมักเห็นเขาในเวลาค่ำมืดประมาณนี้ที่ตนออกมานั่งที่นี่ น่าแปลกว่าตอนกลางวันเธอไม่เคยเจอเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียวทั้งที่บ้านอยู่ติดกัน อีกทั้งโรงรถของเขาก็ดันอยู่ใกล้กับระเบียงห้องนอนของเธอเสียได้ และเท่าที่เห็นจากลักษณะท่าทางภายนอก รวมถึงการพูดจาดุดันราวกับสั่งเก็บใครสักคนของเขาบ่อย ๆ หรือบางคราวก็ดูข่มขู่คุกคามอยู่ในที จึงทำให้เธอแอบตั้งฉายาของเขาว่า “คุณแวมไพร์มาเฟีย” หรือบางครั้งจะเรียกสั้น ๆ แค่ว่า “คุณผีดิบ” เพราะเหมาะกับบุคลิกของเขาที่สุด

ชายหนุ่มขับรถสปอร์ตคู่ใจออกไปแล้ว รวิชาจึงโผล่หน้าออกมาจากราวระเบียงแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตามเดิม ดวงตากลมโตมองตามไฟท้ายของรถที่แล่นห่างออกไปเรื่อย ๆ จนสุดสายตา

“ได้เวลาผีดิบออกหากินแล้วสินะ”

พรรณรายขับรถมาบ้านรวิชาในเวลาประมาณสามทุ่มเศษ หญิงสาวลงจากรถแล้วเปิดประตูด้านหลังเพื่อหยิบเดรสสั้นสีขาวครีมที่แขวนไว้ ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในตัวบ้าน ซึ่งเจ้าของบ้านกำลังนั่งดูโทรทัศน์รออยู่ในห้องรับแขกแล้ว พอเห็นพรรณรายเดินมาพร้อมกับเดรสที่ตนขอเอาไว้ จึงหยิบรีโมตขึ้นมาปิดโทรทัศน์แล้วลุกขึ้นเดินนำขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเอง

ทั้งคู่ใช้เวลาแต่งตัวแต่งหน้าไม่ถึงชั่วโมงก็พากันออกจากบ้าน ทิ้งสายตาของผู้สูงวัยที่แอบมองอยู่ตรงหน้าต่างด้วยความเป็นห่วงอยู่เบื้องหลัง

“โธ่ คุณหนูนะคุณหนู ที่แท้ก็แอบออกไปเที่ยวกลางคืนหรอกหรือเนี่ย นึกว่าเพื่อนจะมาหากันเฉย ๆ เสียอีก ที่ไหนได้...”

ได้แต่รำพึงกับตัวเอง สุดท้ายก็ตัดสินใจหอบหมอนและผ้าห่มออกมานอนที่โซฟาตัวยาวในห้องรับแขกเพื่อรอรวิชากลับบ้าน เพราะถ้าคุณหนูกลับมาในตอนค่ำมืดดึกดื่น บุญเกิดที่เป็นทั้งคนสวนและคนขับรถอาจจะไม่ได้ยินเสียงกดออดเรียกที่หน้าประตูรั้ว ตนจึงตัดสินใจมานอนเฝ้าเสียตรงนี้เลย

รวิชาก้าวขาลงจากรถด้วยความไม่มั่นใจนัก ครั้นพอลงมายืนที่ข้างรถได้ ก็รีบเอามือดึงชายกระโปรงให้ปิดขาลงมาอีกสักหน่อยเพราะมันสั้นแสนสั้น เมื่อครู่ตอนนั่งอยู่ในรถเธอก็ดึงแล้วดึงอีก จนพรรณรายเห็นแล้วอดค่อนขอดไม่ได้

“แกจะดึงอะไรกันนักกันหนายายอาย เดี๋ยวชุดของฉันก็ยืดหมดพอดี” พรรณรายยืนหน้าง้ำกอดอกมองเพื่อน

“ฉันเหมือนใส่เสื้อแค่ตัวเดียวแล้วไม่ได้ใส่กระโปรงเลยน่ะ ชุดอะไรของแกเนี่ยทำไมมันสั้นอย่างนี้ นี่ถ้านมพิมมาเห็นต้องบ่นหูชาแน่เลย”

รวิชาทำปากยื่น ยิ่งเห็นสายตาของหนุ่ม ๆ ที่เริ่มมองมาทางตนก็ยิ่งทำให้ความมั่นใจหดหาย พรรณรายเห็นอาการของเพื่อนแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ส่ายหน้าช้า ๆ ทอดสายตามองราวกับผู้ใหญ่มองเด็ก

“อ่อนจริง ๆ เลยแก นี่...ลองมองไปรอบ ๆ สิยายอาย คนอื่นเขาแต่งกันยิ่งกว่าแกอีก ไม่เห็นจะมีใครเขาทำท่าทางเป็นเด็กหัดเปรี้ยวอย่างแกเลยสักคน”

พรรณรายกวาดตามองเพื่อนสาวขึ้นลงตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า รู้ดีว่าตนกับรวิชานั้นค่อนข้างมีทรวดทรงองค์เอวเกินกว่าเด็กสาววัยมัธยมพอสมควร เพื่อนในกลุ่มยังเคยเปรยให้ฟังอยู่หลายครั้งว่าอิจฉาพวกเธอในเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นหากแต่งตัวแต่งหน้าแบบนี้ไม่มีทางที่จะมีคนมองออกว่าพวกตนเพิ่งพ้นรั้วกระโปรงบานมาสด ๆ ร้อน ๆ

“ฉันอุตส่าห์แต่งตัวแต่งหน้าให้แกเป็นสาวสวย ไม่มีใครเขามองออกหรอกว่าแกเพิ่งจะจบม.ปลายมา” พรรณรายกระซิบกระซาบกับรวิชา ก่อนจะฉุดแขนให้เข้าไปข้างในสถานบันเทิง

รวิชามองเพื่อนที่ยืนเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยระหว่างที่ยื่นบัตรสมาชิกให้พนักงานตรวจสอบที่หน้าประตูด้วยแววตาขบขัน เธอเห็นแล้วว่าพรรณรายพยายามอย่างยิ่งที่จะวางตัวให้ดูเหมือนเป็น “ผู้ใหญ่” เพื่อจะได้ไม่ถูกคนอื่นมองว่าเป็นเด็กน้อยหนีเที่ยว ทว่าเธอกลับมองแล้วรู้สึกตลกมากกว่า เพราะยิ่งทำให้ดูเหมือนเท่าไร ท่าทางที่แสดงออกมามันก็ยิ่งดูไม่เป็นธรรมชาติเท่านั้น

คิดได้ดังนั้นเธอจึงวางตัวสบาย ๆ ยิ้มให้พนักงานทั้งสองคนที่หน้าประตูเล็กน้อยหลังจากที่พวกเขาอนุญาตให้เธอกับเพื่อนเข้าไปด้านในได้ โดยมีพนักงานหญิงอีกคนเดินนำไปยังโต๊ะที่อยู่ด้านใน

“โห...”

รวิชาเบิกตากว้างอย่างตื่นเต้นเพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้มาเที่ยวสถานที่อย่างนี้ เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มรอบตัวราวกับมีลำโพงแนบหูอยู่ตลอด ทำให้หญิงสาวไม่ได้ยินสิ่งที่พรรณรายพูดอยู่ด้านข้าง อีกทั้งแสงไฟสลัวสลับกับสปอตไลต์สีต่าง ๆ ที่สาดไปทั่วทั้งฮอลล์ ก็ทำให้เธอเผลอตัวหยุดยืนอยู่กับที่แล้วกวาดตามองไปรอบด้านราวกับเด็กหลงทางที่หลุดไปในดินแดนมหัศจรรย์

อืม...ตอนนี้รู้แล้วล่ะว่าอลิสรู้สึกอย่างไรตอนที่วิ่งตามกระต่ายเข้าไปในโพรง

รวิชาก้าวขาออกเดิน แต่สายตาก็ยังมิวายมองนั่นมองนี่ไปรอบกายด้วยความตื่นเต้น กลิ่นของเครื่องปรับอากาศผสานไปกับกลิ่นแอลกอฮอล์ และกลิ่นของน้ำหอมราคาแพงที่เหล่านักเที่ยวต่างประพรมร่างกันมานั้นลอยอบอวลอยู่ในอากาศ เสียงพูดคุย เสียงหัวเราะแข่งกันกับเสียงเพลงที่ดังสนั่นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเวียนหัวแต่อย่างใด กลับรู้สึกสนุกมากกว่า

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 100%

    “อ้าว! วันนี้คุณอายไม่เข้าบริษัทหรือ” เมื่อเช้าก็ออกมาด้วยกันแท้ ๆ แต่แม่เจ้าประคุณแอบหนีไปเที่ยวไหนกันล่ะนี่ ชายหนุ่มคิดอย่างเข่นเขี้ยวในใจเมื่อเจอ “เซอร์ไพรส์” สุดพิเศษจากศรีภรรยาภีมพลยิ้มกริ่มอย่างหมายมาด เห็นทีต้องรีบกลับไปรับขวัญก่อนเวลาเสียแล้ว ชายหนุ่มหยิบกระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถออกมา เหลือบไปเห็นแฟ้มงานสองแฟ้มที่ยังคงแผ่หราอยู่เต็มโต๊ะ แล้วนึกขึ้นได้ว่ายังดูค้างเอาไว้ เขากวาดตามองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ใจจริงเขามีตัวเลือกเอาไว้อยู่แล้ว เมื่อตัดสินใจได้เขาก็คว้าแฟ้มขวามือเดินออกจากห้องทันที จากนั้นจึงไปยื่นให้กับเลขาฯ ส่วนตัว“ผมเลือกของบริษัทนี้ ให้ฝ่ายจัดซื้อทำเรื่องได้เลย อ้อ วันนี้ผมไม่เข้าแล้วนะ” พูดจบชายหนุ่มก็ผละออกไป และต้องหยุดชะงักเมื่อเลขาฯ รีบวิ่งมาถามถึงงานบางอย่างที่เขาให้เตรียมไว้สำหรับช่วงบ่ายนี้“คุณภีมคะ แล้วเรื่องที่ให้เตรียมเอาไว้บ่ายนี้ล่ะคะ”“ยังคอนเฟิร์มอยู่ แต่ว่าคุณช่วยอะไรผมหน่อยสิ”ภีมพลหันมายิ้มพรายเต็มวงหน้าเมื่อคิดอะไรดี ๆ ขึ้นมาได้

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 70%

    อดคิดไปถึงบิดามารดาผู้ล่วงลับไปแล้วไม่ได้ ท่านทั้งสองช่างมีความอดทนและมุมานะอย่างล้นเหลือที่สู้ฝ่าฟันจนกระทั่งบริษัทเป็นรูปเป็นร่างได้ขนาดนี้ นึกมาถึงตอนนี้แล้วก็โกรธตัวเองที่ตอนนั้นเอาแต่น้อยใจ คิดว่าท่านทำแต่งานจนไม่สนใจใยดีกับเธอผู้เป็นลูกสาวเพียงคนเดียว‘รวิชา แปลว่าลูกพระอาทิตย์ เพราะฉะนั้นหนูต้องเข้มแข็ง อดทนให้สมกับที่เป็นลูกสาวของพ่อ ชีวิตของหนูจะต้องรุ่งโรจน์สดใสเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้า’ถ้อยคำจากบิดายังคงดังก้องอยู่ในหัวทุกครั้งที่นึกถึงเวลาเมื่อรู้สึกอ่อนล้าทั้งร่างกายและจิตใจ ถ้าไม่มีแม่นมชราและสามีที่คอยเป็นกำลังใจให้ ป่านนี้ชีวิตเธอจะหักเหไปทางไหนแล้วบ้างก็สุดรู้“อรุณสวัสดิ์จ้ะ”เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับจุมพิตเบา ๆ ที่ข้างแก้ม จากนั้นคนตัวโตก็ทรุดตัวลงนั่งซ้อนหลังไว้พร้อมกับดึงบ่าของเธอให้เอนซบลงมาบนตัวเขา“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ตื่นเช้าจังเลยนะคะ” หญิงสาวทักทายกลับไปก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของสามี“จำเป็นต้องตื่นเช้าน่ะ จู่

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 35%

    หลังจากถวายสังฆทานจนกระทั่งกรวดน้ำเสร็จเรียบร้อย ภีมพล รวิชา และนมพิมก็พากันเดินออกมาเทน้ำที่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้ากุฏิ ชายหนุ่มสวดบทกรวดน้ำพึมพำโดยไม่ออกเสียง ในขณะที่หญิงสาวและนมพิมอธิษฐานเพื่อส่งผลบุญให้แก่ผู้ล่วงลับอยู่ในใจวันนี้เป็นวันครบรอบวันเสียชีวิตของบิดามารดาของรวิชา นมพิมเปรยเอาไว้หลายวันก่อนหน้าแล้วว่าอยากมาทำบุญให้ท่านทั้งสอง ซึ่งเธอเองก็เห็นด้วยเพราะคิดไว้เหมือนกันว่าจะมาทำบุญวันนี้ จึงชวนสามีหนุ่มให้มาด้วยกัน และเขาก็ไม่ขัดข้อง เพราะตั้งแต่ผ่านพ้นพิธีแต่งงานมาได้สองเดือน ภีมพลก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับพุทธศาสนาอีกเลยจากนั้นทั้งสามคนก็เดินทางกลับบ้าน พอมาถึง ชายหนุ่มปล่อยให้รวิชาได้อยู่กับแม่นมตามลำพังเพราะคิดว่าทั้งสองคนคงมีเรื่องอยากพูดคุยกัน เขาเองก็เห็นใจคนแก่อย่างนมพิม เพราะตั้งแต่รวิชาเรียนจบมาก็เอาแต่ทำงาน แถมหลังจากนั้นสองเดือนก็เข้าพิธีแต่งงานกับเขา ทำให้บางคืนรวิชาไม่ได้กลับไปนอนบ้านตัวเอง ถึงแม้เขากับรวิชาจะแก้ปัญหาด้วยการสลับบ้านนอนเป็นวันเว้นวันแล้วก็ตาม แต่หัวอกคนแก่ก็คงหงอยเหงาเป็นธรรมดา

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 100%

    “ตอบแบบนี้ค่อยชื่นใจหน่อย อย่างนี้ต้องให้รางวัล”ชายหนุ่มจับล็อกปลายคางมนของหญิงสาวไว้ แล้วก้มลงตบรางวัลให้คนปากหวานช่างจำนรรจาจนเขากระชุ่มกระชวยทุกทีที่ได้ฟังนาทีนี้ภีมพลเหมือนจะคลั่งเสียให้ได้ สาวน้อยช่างหวานจับจิตจับใจสมกับที่รอคอยมานานแสนนาน ถ้าไม่ติดว่าเธอยังใหม่กับความสัมพันธ์แบบนี้แล้วล่ะก็ รับรองได้เลยว่าทั้งเขาและเธอยังคงนัวเนียกันอยู่บนเตียงเป็นแน่“อื้ม...อาภีมขา นี่มันริมถนนนะคะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”แค่หญิงสาวพูดเบา ๆ แต่สำหรับชายหนุ่มแล้วน้ำเสียงสั่นพร่านิด ๆ นั้นช่างฟังดูเซ็กซี่ยั่วยวนดีเหลือเกิน เขานึกถึงตอนเธอครวญครางอยู่ใต้ร่างของเขา ทั้งภาพทั้งเสียงยังคงติดตาตรึงใจเสียจนอะไร ๆ มันพรักพร้อมขึ้นมาอีกแล้ว“เราเข้าหมู่บ้านมาแล้ว ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านมาหรอก รถอาก็มืด ใครจะมองเข้ามาเห็นล่ะคะ”เอาอีกแล้ว ลงท้ายด้วยคะ ขาแบบนี้แปลว่าเริ่มไม่ปลอดภัยแล้วเป็นแน่ ยังไม่ทันจะได้อ้าปากพูดอะไร แต่ชายหนุ่มก็ชิงพูดขึ้นเสียก่อน“แวะบ้านอาก่อนนะคะ”แค่เห็นแววตาระยิบระยับแพรวพราวของเข

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 70%

    “ถ้าอย่างนั้น...คืนนี้อยู่กับอาทั้งคืนได้ไหม ตามใจอาหน่อยได้ไหมคะ”เขาถามพร้อมกับประพรมจุมพิตไปทั่วหน้าอย่างหลงใหล ก่อนจะเอ่ยประโยคสำคัญที่ทำให้คนฟังหัวใจพองฟูคับอก“อาก็รักน้องอาย ไม่ใช่แค่คืนนี้ที่อาอยากให้น้องอายอยู่ด้วยแต่เป็นทุก ๆ คืน และตื่นมาตอนเช้าก็เห็นหน้าน้องอายเป็นคนแรกในทุก ๆ เช้า”ชายหนุ่มหยุดพูด แล้วก้มลงจุมพิตที่หน้าผากอีกครั้งหนึ่งแล้วไต่ระเรื่อยมาจนถึงใบหู ใจอยากจะโจนจ้วงเข้าหาร่างเย้ายวนนี้ให้สมกับที่รอคอยมานานแสนนาน แต่ก็อยากให้หญิงสาวได้สัมผัสกับความสวยงามจากประสบการณ์ในรักครั้งแรกมากกว่า เขาจึงต้องอ่อนโยนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แม้ว่าความต้องการจะอัดแน่นจนแทบระเบิดแล้วก็ตาม“แต่งงานกับอานะคะ”ไหน ๆ เธอก็เรียนจบแล้ว มีงานมีการทำถือว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว หนำซ้ำยังจดทะเบียนสมรสเป็นคนคนเดียวกันในทางกฎหมายแล้วด้วย เขาจึงคิดว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรออีกต่อไป เพราะเขากับเธอก็แทบจะเป็นของกันและกันอยู่แล้ว จะเหลือก็แต่การอยู่ร่วมบ้านเดียวกันในฐานะของสามีภรรยาเท่านั้นรวิชาคลี่ยิ้มกว้างพล

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 35%

    ภีมพลยืนยิ้ม มองภรรยาทางนิตินัยที่กำลังยักย้ายส่ายสะโพกอย่างสนุกสนานกับเพื่อนกลุ่มใหญ่อยู่ข้างล่างด้วยแววตาทอดอ่อน เมื่อวานสอบวันสุดท้าย วันนี้รวิชาจึงขออนุญาตเขาพาเพื่อน ๆ มาสนุกกันที่คลับอย่างเต็มที่เพื่อเป็นการฉลองจบการศึกษา อีกทั้งฉลองที่ยอดขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสปานั้นทะลุเป้าเกินกว่าที่คาดหมายไว้พอสมควรสาวน้อยของเขาเรียนจบแล้ว...ปีกว่ากับการอยู่ในตำแหน่งคู่หมั้น สองปีกว่ากับการอยู่ในตำแหน่งสามีตามกฎหมาย รวมแล้วร่วมสี่ปีเต็มกับการเฝ้าดูแลเด็กสาวคนหนึ่งให้เติบโตเป็นหญิงสาวแสนสวย และมากความสามารถจนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปเมื่อก่อนเขาเอาแต่นั่งนับวันเวลาว่าเมื่อไรเธอจะเรียนจบ เพราะอยากตีตราจองเธอเอาไว้ด้วยร่างกาย ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียวตามประสาผู้ชายทั่วไปที่คิดอยากมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนรัก ทว่าพอวันเวลาผ่านไป ความคิดของเขาก็ค่อยปรับเปลี่ยนไปทีละนิดตามความผูกพันที่เพิ่มขึ้นระหว่างเขากับเธอเซ็กซ์ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่เขาต้องการจากเธอเพียงอย่างเดียวเหมือนเมื่อก่อน เพราะมันถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกมั่นคงในรัก และการรับรู้ถึงการเป็นส่วนหนึ่งขอ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status