Home / มาเฟีย / บ่วงรักมาเฟียคลั่ง / ตอนที่  7 การปรากฏตัวของโซเฟีย

Share

ตอนที่  7 การปรากฏตัวของโซเฟีย

last update Last Updated: 2025-06-06 14:23:55

ตอนที่

7

การปรากฏตัวของโซเฟีย

ความเงียบสงบในคฤหาสน์คาร์ดินัลถูกทำลายลงด้วยการมาเยือนของแขกที่ไม่ได้รับเชิญ แพรไหมที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนอนใหญ่ รู้สึกถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ความตึงเครียดแผ่ซ่านไปทั่วราวกับพายุที่กำลังจะมา

เสียงพูดคุยที่ดังขึ้นมาจากด้านล่าง ทำให้แพรไหมรู้สึกกระวนกระวาย เธอเดินไปที่ระเบียงห้อง มองลงไปยังโถงทางเข้าหลัก เห็น คริสเตียน ยืนอยู่กับหญิงสาวคนหนึ่งที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน หญิงสาวคนนั้นสวยสง่าในชุดราตรีหรูหราราคาแพง ใบหน้าของเธอคมคาย ดวงตาเฉี่ยวคม และท่าทางที่แสดงออกถึงความมั่นใจในตัวเองอย่างสูง

'ใครกัน?' แพรไหมคิดในใจ เธอรู้สึกถึงความไม่ชอบหน้าอย่างบอกไม่ถูกต่อหญิงสาวคนนี้

“โซเฟีย คุณมาที่นี่ทำไม” เสียงเย็นชาของคริสเตียนดังขึ้น ทำให้แพรไหมรู้ว่าหญิงสาวคนนั้นชื่อ โซเฟีย

“คริสเตียน ที่รัก ฉันแค่คิดถึงคุณ” โซเฟียตอบด้วยน้ำเสียงหวานเยิ้ม แต่แววตาของเธอกลับแข็งกร้าว

“ฉันได้ยินมาว่าคุณมี ‘แขก’ คนพิเศษ ฉันก็เลยอยากจะมาทักทาย”

โซเฟียเหลือบมองขึ้นมาบนระเบียงห้องนอน ดวงตาของเธอจับจ้องแพรไหมอย่างจงใจ แพรไหมรู้สึกเหมือนถูกแทงด้วยสายตาคู่นั้น มันเต็มไปด้วยความเหยียดหยามและเป็นเจ้าของ

คริสเตียนขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณไม่มีสิทธิ์มาที่นี่โดยไม่ได้รับอนุญาต”

“โอ้ คริสเตียน อย่าทำเป็นใจร้ายไปหน่อยเลย” โซเฟียเดินเข้าไปใกล้คริสเตียนมากขึ้น แขนเรียวของเธอโอบรอบแขนของเขาอย่างสนิทสนม

“เราไม่ได้เจอกันนานแล้วนะคะ ฉันแค่คิดถึงคุณจริงๆ”

แพรไหมมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกเจ็บปวด เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอก ที่กำลังยืนดูคนรักเก่าของสามีแสดงบทรักใคร่กัน

“คุณควรจะกลับไป โซเฟีย” คริสเตียนพูดเสียงแข็ง “ผมไม่มีเวลาสำหรับเรื่องไร้สาระของคุณ”

“ไร้สาระเหรอคะ” โซเฟียหัวเราะเบาๆ

 “คริสเตียน คุณรู้ดีว่าฉันไม่ใช่เรื่องไร้สาระ ฉันคือคนที่คุณเคยรัก และฉันก็ยังรักคุณอยู่”

คำพูดของโซเฟียทำให้แพรไหมรู้สึกเหมือนถูกตบหน้า เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงตัวแทนของโซเฟีย เป็นคนที่คริสเตียนใช้เพื่อทดแทนความรักที่เขามีต่อโซเฟีย

“เรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว” คริสเตียนพูดเสียงเย็นชา “ผมมีภรรยาแล้ว”

โซเฟียหันมามองแพรไหมอีกครั้ง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม

“ภรรยา คุณหมายถึงเด็กผู้หญิงคนนั้นเหรอคะ คริสเตียน คุณแต่งงานกับเธอเพราะอะไรกันแน่ ความรักเหรอหรือแค่ความสงสาร”

คำพูดของโซเฟียทำให้แพรไหมหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ เธอรู้สึกเหมือนถูกหยามศักดิ์ศรีอย่างรุนแรง

“คุณไม่มีสิทธิ์พูดถึงภรรยาของผมแบบนั้น” คริสเตียนพูดเสียงต่ำ ดวงตาของเขาฉายแววอันตราย

“ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ล่ะคะ คริสเตียน” โซเฟียยิ้มเยาะ

 “ฉันก็แค่พูดความจริง ฉันรู้ว่าคุณไม่ได้รักเธอ คุณไม่มีทางรักผู้หญิงธรรมดาๆ แบบนั้นได้”

แพรไหมกัดริมฝีปากแน่นจนได้รสเค็มปร่าของเลือด เธอพยายามควบคุมอารมณ์ ไม่ให้ตัวเองแสดงความอ่อนแอออกมาต่อหน้าโซเฟีย

“คุณควรจะกลับไป โซเฟีย” คริสเตียนพูดอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาเริ่มหมดความอดทน

“ก็ได้ค่ะ คริสเตียน” โซเฟียถอนหายใจอย่างแสร้ง

“ฉันจะไปก็ได้ แต่ฉันจะกลับมา ฉันจะกลับมาทวงทุกอย่างที่เป็นของฉันคืน”

โซเฟียเดินผ่านแพรไหมไปอย่างจงใจ เธอหยุดยืนอยู่ตรงหน้าแพรไหม มองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความดูถูก

“เธอคงรู้ตัวดีนะคะ ว่าตัวเองอยู่ในสถานะไหน” โซเฟียกระซิบเสียงเบา

 “เธอเป็นแค่ตัวแทนของฉัน เป็นแค่หมากตัวหนึ่งในเกมของคริสเตียน”

แพรไหมกำมือแน่น เธอพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ตอบโต้ เธอรู้ว่าถ้าเธอทำอะไรลงไป จะมีแต่ทำให้สถานการณ์แย่ลง

โซเฟียยิ้มเยาะ ก่อนจะเดินออกจากคฤหาสน์ไป ทิ้งให้แพรไหมยืนตัวสั่นเทาอยู่บนระเบียง

คริสเตียนเดินขึ้นมาบนห้องนอน เขาเห็นแพรไหมยืนตัวแข็งทื่ออยู่ริมระเบียง ใบหน้าของเธอซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

“คุณได้ยินทุกอย่างแล้วใช่ไหม” คริสเตียนถามเสียงเรียบ

แพรไหมพยักหน้า เธอไม่สามารถพูดอะไรได้ในตอนนี้ ความรู้สึกเจ็บปวดและอับอายมันจุกอยู่ที่ลำคอ

คริสเตียนเดินเข้าไปใกล้แพรไหม เขายื่นมือไปจับคางของเธอ บังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา

“อย่าสนใจสิ่งที่โซเฟียพูด” คริสเตียนพูดเสียงทุ้มต่ำ “เธอไม่มีความหมายอะไรสำหรับผม”

แพรไหมมองเข้าไปในดวงตาของคริสเตียน พยายามหาความจริงใจในแววตาคู่นั้น แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าเธอจะเชื่อเขาได้หรือไม่

“ฉันรู้” แพรไหมตอบเสียงแผ่ว “แต่ฉันก็อดรู้สึกเจ็บไม่ได้”

คริสเตียนถอนหายใจเบาๆ “ผมรู้”

เขาดึงร่างของแพรไหมเข้ามากอด แพรไหมซบหน้าลงบนอกของเขา ปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาอย่างเงียบๆ เธอรู้สึกปลอดภัยในอ้อมแขนของเขา แต่ความรู้สึกเจ็บปวดและไม่มั่นคงก็ยังคงอยู่

“ผมจะไม่ให้ใครมาทำร้ายคุณ” คริสเตียนกระซิบข้างหูเธอ

 “ผมสัญญา”

แพรไหมได้ยินคำสัญญาของเขา แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าเธอจะเชื่อใจเขาได้มากแค่ไหน เธอรู้ว่าคริสเตียนเป็นมาเฟีย เขาอาจจะปกป้องเธอได้ แต่เขาก็อาจจะทำร้ายเธอได้เช่นกัน

เธออยู่ในอ้อมแขนของเขา ปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาอย่างเงียบๆ เธอไม่รู้ว่าอนาคตของเธอจะเป็นอย่างไร เธอรู้แค่ว่าเธอต้องเข้มแข็ง และต้องพยายามเอาชีวิตรอดในโลกที่อันตรายและซับซ้อนของคริสเตียน

ความตึงเครียดที่โซเฟียทิ้งไว้ในคฤหาสน์ยังคงอบอวลอยู่แม้เธอจะจากไปแล้ว แพรไหมยังคงยืนอยู่บนระเบียง มองตามร่างของโซเฟียที่เดินลับหายไปจากสายตา หัวใจของเธอยังคงเต้นระรัวด้วยความเจ็บปวดและสับสน เธอรับรู้ได้ถึงความรุนแรงในคำพูดและการกระทำของโซเฟีย มันไม่ใช่แค่คำพูดเฉยๆ แต่มันคือการประกาศสงครามอย่างชัดเจน

คริสเตียนเดินขึ้นมาบนห้องนอน เขาเห็นแพรไหมยังคงยืนนิ่งอยู่ริมระเบียง ใบหน้าของเธอซีดเผือด ดวงตาแดงก่ำจากการกลั้นน้ำตา แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและหวาดหวั่น

“คุณได้ยินทุกอย่างแล้วใช่ไหม” คริสเตียนถามเสียงเรียบ ไม่มีแววประหลาดใจในน้ำเสียงของเขา

แพรไหมพยักหน้า เธอไม่สามารถพูดอะไรได้ในตอนนี้ ความรู้สึกเจ็บปวดและอับอายมันจุกอยู่ที่ลำคอจนแทบหายใจไม่ออก การถูกเปรียบเทียบและการถูกลดทอนคุณค่าต่อหน้าคนอย่างโซเฟียมันเจ็บปวดเกินกว่าที่เธอจะรับไหว

คริสเตียนเดินเข้าไปใกล้แพรไหม เขายื่นมือไปจับคางของเธอ บังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา แพรไหมสบเข้ากับดวงตาคมกริบสีนิลที่ไร้อารมณ์คู่นั้น เธอมองเข้าไปในดวงตาเขา พยายามอ่านความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ แต่ก็ไม่พบสิ่งใดเลย

“อย่าสนใจสิ่งที่โซเฟียพูด” คริสเตียนพูดเสียงทุ้มต่ำ “เธอไม่มีความหมายอะไรสำหรับผม”

คำพูดของเขาอาจจะฟังดูหนักแน่น แต่สำหรับแพรไหมแล้ว มันกลับไม่สามารถช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นได้เลย เธอเห็นสายตาของโซเฟีย สายตาที่แสดงความเป็นเจ้าของคริสเตียนอย่างชัดเจน และเธอเห็นความสัมพันธ์บางอย่างที่คริสเตียนพยายามปฏิเสธ

“ฉันรู้” แพรไหมตอบเสียงแผ่ว น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ “แต่ฉันก็อดรู้สึกเจ็บไม่ได้”

คริสเตียนถอนหายใจเบาๆ “ผมรู้”

เขาดึงร่างของแพรไหมเข้ามากอด แพรไหมซบหน้าลงบนอกของเขา ปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาอย่างเงียบๆ เธอรู้สึกปลอดภัยในอ้อมแขนของเขา อ้อมแขนที่แข็งแกร่งและอบอุ่น แต่ความรู้สึกเจ็บปวดและไม่มั่นคงก็ยังคงอยู่ เธอไม่รู้ว่าอ้อมกอดนี้เป็นเพียงการปลอบโยน หรือเป็นเพียงการแสดงความเป็นเจ้าของตามสัญชาตญาณของเขา

“ผมจะไม่ให้ใครมาทำร้ายคุณ” คริสเตียนกระซิบข้างหูเธอ เสียงของเขาแหบพร่าและหนักแน่น “ผมสัญญา”

แพรไหมได้ยินคำสัญญาของเขา แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าเธอจะเชื่อใจเขาได้มากแค่ไหน เธอรู้ว่าคริสเตียนเป็นมาเฟียผู้ทรงอิทธิพล เขาอาจจะปกป้องเธอได้จากศัตรูภายนอก แต่เขาก็อาจจะทำร้ายเธอได้เช่นกันด้วยคำพูดและการกระทำที่เย็นชาของเขา

รู้ว่าอนาคตของเธอจะเป็นอย่างไร เธอรู้แค่ว่าเธอต้องเข้มแข็ง และต้องพยายามเอาชีวิตรอดในโลกที่อันตรายและซับซ้อนของคริสเตียน คาร์ดินัล

หลังจากเหตุการณ์นั้น บรรยากาศในคฤหาสน์ก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน แม้คริสเตียนจะยังคงใช้ชีวิตตามปกติ แต่แววตาของเขากลับดูห่างเหินและเย็นชามากขึ้นกว่าเดิม เขาไม่ค่อยพูดคุยกับแพรไหมมากนัก และมักจะใช้เวลาอยู่ในห้องทำงานของเขาเป็นส่วนใหญ่ แพรไหมรู้สึกเหมือนถูกทิ้งให้อยู่กับความรู้สึกโดดเดี่ยวและว่างเปล่า

ลีโอ ยังคงเข้ามาดูแลเธออย่างสม่ำเสมอ เขามักจะนำหนังสือมาให้ หรือพูดคุยเรื่องทั่วไปเพื่อคลายความอึดอัดของแพรไหม และมักจะคอยสังเกตการณ์เธออยู่ห่างๆ ราวกับจะดูว่าเธอโอเคหรือไม่

“คุณแพรไหมครับ น้ำชาครับ คุณแพรไหมรู้สึกเสียใจหรือเปล่าครับ ผมเองก็ช่วยอะไรคุณมากไปกว่านี้ไม่ได้ ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ” ลีโอเอ่ยขึ้นในบ่ายวันหนึ่ง ขณะที่เขานำชามาเสิร์ฟให้เธอ

แพรไหมส่ายหน้า “คุณลีโอไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกค่ะ ฉันแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมโซเฟียถึงได้เกลียดฉันขนาดนั้น”

ลีโอถอนหายใจ “คุณโซเฟียเป็นคนสำคัญคนหนึ่งในอดีตของนายครับ”

“สำคัญถึงขนาดไหนคะ” แพรไหมถาม ดวงตาของเธอฉายแววอยากรู้

ลีโอลังเลเล็กน้อย ก่อนจะตอบว่า “เธอเคยเป็นคู่หมั้นของนายครับ”

คำตอบของลีโอทำให้แพรไหมรู้สึกเหมือนถูกกระแทกเข้าที่หน้าอก ความจริงนี้มันเจ็บปวดกว่าที่เธอคิด เธอรู้ว่าโซเฟียพูดถึงเรื่องความรักเก่า แต่ไม่คิดว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะลึกซึ้งถึงขั้นคู่หมั้น

“พวกเขาเคยรักกันมากเหรอคะ” แพรไหมถามเสียงแผ่ว

ลีโอเงียบไปครู่หนึ่ง “ผมไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ครับคุณแพรไหม”

แพรไหมพยักหน้าอย่างเข้าใจ เธอรู้ว่าลีโอคงไม่สามารถเปิดเผยเรื่องส่วนตัวของเจ้านายได้มากไปกว่านี้ แต่ความจริงที่ได้รับรู้ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกไร้ค่าและโดดเดี่ยวมากขึ้นไปอีก

ตลอดหลายวันต่อมา แพรไหมพยายามปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในคฤหาสน์ให้ได้มากที่สุด เธอทำตามกฎระเบียบที่คริสเตียนวางไว้ทุกอย่าง เธอเริ่มเรียนรู้การจัดการคฤหาสน์ เรียนรู้มารยาททางสังคม และเริ่มเรียนภาษาอิตาลีตามคำสั่งของคริสเตียน แม้ว่าเธอจะรู้สึกเหนื่อยและท้อแท้ แต่เธอก็พยายามอย่างสุดความสามารถ เพราะเธอรู้ว่านี่คือหนทางเดียวที่จะทำให้เธอมีที่ยืนในโลกของคริสเตียน

ในยามค่ำคืน เมื่อคริสเตียนกลับมาถึงคฤหาสน์ แพรไหมก็จะต้องนอนร่วมห้องกับเขาตามคำสั่งของเขา แม้พวกเขาจะนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน แต่ก็เหมือนมีกำแพงที่มองไม่เห็นกั้นกลางอยู่ระหว่างทั้งสองคน คริสเตียนมักจะเข้านอนดึก และตื่นเช้าเสมอ ทำให้แพรไหมแทบไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับเขาเลย แพรไหมมักจะแกล้งหลับเมื่อเขาเข้ามาในห้อง เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับความเย็นชาของเขา

บางครั้งแพรไหมก็รู้สึกว่าคริสเตียนจะสัมผัสเธอเบาๆ ตอนที่เธอกำลังแกล้งหลับ สัมผัสนั้นแผ่วเบาจนเธอไม่แน่ใจว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเพียงความรู้สึกของเธอเอง แต่มันก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะทุกครั้งไป

วันหนึ่งเมื่อแพรไหมกำลังเดินอยู่ในโถงทางเดินชั้นสอง เธอได้ยินเสียงดังมาจากห้องทำงานของคริสเตียน แพรไหมเดินเข้าไปใกล้ประตูห้องทำงานอย่างเงียบเชียบ เธอได้ยินเสียงคริสเตียนกำลังพูดคุยกับใครบางคนด้วยน้ำเสียงที่ดุดันและเกรี้ยวกราด

“ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามายุ่งกับเรื่องของฉัน!” คริสเตียนตะคอกเสียงดัง

“นายไม่เข้าใจหรือไงว่าฉันกำลังจะทำอะไร!”

แพรไหมรู้สึกตกใจ เธอไม่เคยได้ยินคริสเตียนใช้น้ำเสียงแบบนี้มาก่อน มันเต็มไปด้วยความโกรธและความคุกคาม

“นายไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน คริสเตียน!” เสียงอีกเสียงหนึ่งตอบกลับมา เสียงนั้นเป็นเสียงของผู้ชายที่ฟังดูคุ้นเคย

“ฉันก็แค่ห่วงนาย! นายกำลังทำอะไรที่เสี่ยงเกินไป!”

'เสียงนั้น…เป็นเสียงของเฮนรี่' แพรไหมจำได้ทันที เธอรู้สึกประหลาดใจที่เฮนรี่มาที่นี่ และดูเหมือนเขากำลังทะเลาะกับคริสเตียนอย่างรุนแรง

“นายไม่ต้องมาห่วงฉัน!” คริสเตียนตะคอกกลับ

“หน้าที่ของนายคือนั่งเงียบๆ และทำตามคำสั่งของฉัน!”

“นายมันบ้าไปแล้ว คริสเตียน!” เฮนรี่ตะโกนกลับ

“นายกำลังจะทำลายทุกอย่าง! ทำลายตัวเอง! ทำลายตระกูล!”

เสียงของคริสเตียนเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะดังขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบและน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม

“ถ้าแกยังไม่หยุดพูด ฉันจะทำให้นายต้องเสียใจที่พูดแบบนั้น”

แพรไหมรู้สึกหวาดกลัวอย่างจับใจ เธอไม่เคยเห็นคริสเตียนโกรธถึงขนาดนี้มาก่อน เธอรู้สึกถึงพลังอำนาจมหาศาลที่แผ่ออกมาจากตัวเขา แม้จะอยู่ห่างจากประตูห้องก็ตาม

“นายจะทำอะไรฉัน คริสเตียน!” เฮนรี่หัวเราะอย่างท้าทาย

 “นายจะฆ่าฉันเหรอ! นายทำไม่ได้หรอก! นายรู้ดีว่านายทำไม่ได้!”

“อย่าท้าทายฉัน เฮนรี่” คริสเตียนพูดเสียงต่ำ

“นายรู้จักฉันดีกว่าใคร”

แพรไหมได้ยินเสียงเก้าอี้ล้มลงดังโครม และเสียงต่อสู้กันดังขึ้นในห้อง เธอรู้สึกตกใจและหวาดกลัว เธออยากจะเข้าไปดู แต่ก็ไม่กล้าพอ เธอรู้สึกได้ถึงอันตรายที่กำลังคุกคามอยู่ภายในห้องนั้น

ไม่นานนักเสียงต่อสู้ก็เงียบลง แพรไหมได้ยินเสียงถอนหายใจอย่างหนักของคริสเตียน ก่อนที่ประตูห้องทำงานจะถูกเปิดออก

ลีโอยืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าของเขาดูซีดเผือด เขาเหลือบมองเห็นแพรไหมยืนอยู่ตรงประตูห้องนอน ดวงตาของเขามีแววตกใจเล็กน้อย

“นาย…” ลีโอพูดเสียงแผ่ว

“จัดการซะ” คริสเตียนสั่งเสียงเรียบ ก่อนจะเดินออกมาจากห้องทำงาน ใบหน้าของเขาดูเรียบเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่แพรไหมเห็นรอยฟกช้ำเล็กน้อยที่มุมปากของเขา

คริสเตียนเดินผ่านแพรไหมไปอย่างรวดเร็วราวกับมองไม่เห็นเธอ แพรไหมมองตามแผ่นหลังของเขาไปจนลับตา

'เกิดอะไรขึ้นข้างในนั้น'แพรไหมคิดในใจ เธอรู้สึกเป็นห่วงเฮนรี่ แต่ก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปดู

ลีโอถอนหายใจออกมาอย่างหนัก ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงานของคริสเตียน ประตูห้องถูกปิดลงอีกครั้ง แพรไหมยังคงยืนอยู่ที่เดิม รู้สึกถึงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์แห่งนี้

เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้แพรไหมตระหนักได้ว่าโลกของคริสเตียนนั้นอันตรายกว่าที่เธอคิดไว้มากนัก ไม่ใช่แค่ศัตรูภายนอกเท่านั้นที่น่ากลัว แม้แต่คนใกล้ชิดของเขาก็ยังสามารถกลายเป็นเหยื่อของความรุนแรงและอำนาจของเขาได้ เธอรู้สึกหวาดกลัวและสับสน เธอไม่รู้ว่าเธอจะสามารถเอาชีวิตรอดในโลกแบบนี้ได้นานแค่ไหน

ในยามค่ำคืน คริสเตียนกลับเข้ามาในห้องนอน แพรไหมยังคงแกล้งหลับ เธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ จากตัวเขา และความตึงเครียดที่ยังคงอบอวลอยู่รอบกาย

คริสเตียนล้มตัวลงนอนบนเตียง เสียงถอนหายใจของเขาดังขึ้นอย่างหนัก แพรไหมรู้สึกได้ถึงน้ำหนักของเขาที่ยุบลงบนเตียงอีกด้านหนึ่ง ความเงียบในห้องนั้นหนักอึ้งและน่าอึดอัด

เธอได้ยินเสียงพลิกตัวของเขา ก่อนที่จะสัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่เลื่อนมาโอบเอวของเธอ ดึงร่างของเธอเข้าไปใกล้เขามากขึ้น แพรไหมรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆ ของเขาที่รดต้นคอ

“หลับซะ” คริสเตียนกระซิบเสียงทุ้มต่ำ

 “อย่าคิดมาก”

คำพูดของเขาดูเหมือนจะปลอบโยน แต่ก็แฝงไว้ด้วยความเย็นชาบางอย่าง แพรไหมยังคงแกล้งหลับ เธอนอนนิ่งอยู่ในอ้อมแขนของเขา พยายามข่มตาให้หลับในความหวาดกลัวและความสับสน เธอไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปในชีวิตของเธอในคฤหาสน์แห่งนี้ เธอรู้เพียงว่าทุกวันที่ผ่านไป ยิ่งทำให้เธอมั่นใจว่าเธอได้ก้าวเข้าสู่บ่วงรักที่อันตรายและคาดเดาไม่ได้อย่างแท้จริง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บ่วงรักมาเฟียคลั่ง   ตอนที่ 80 เติมเต็มความสมบูรณ์ของครอบครัว

    ตอนที่ 80 เติมเต็มความสมบูรณ์ของครอบครัวหลังผ่านบทพิสูจน์แห่งผู้นำ และการกอบกู้วิกฤตการณ์ครั้งสำคัญ อเล็กซานเดอร์ ได้รับความไว้วางใจจากทุกฝ่าย แต่สิ่งที่เติมเต็มชีวิตของเขาและ ลลิล ให้สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริงคือ ข่าวดีที่สุด ที่พวกเขารอคอยมาตลอด เสียงเล็กๆ ในอนาคตกำลังจะกลายเป็นความจริง และนำพาความสุขมาสู่ตระกูลคาร์ดินัลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนหลังจากที่ทั้งสองคนได้พูดคุยกันอย่างจริงจังเรื่องการมีทายาท อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ก็เริ่มเตรียมตัวสำหรับการเป็นพ่อแม่ ลลิลเริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการดูแลทารกอย่างละเอียด ส่วนอเล็กซานเดอร์ก็เริ่มจัดเตรียมห้องเล็กๆ ในคอนโดเพื่อรอรับสมาชิกใหม่ความคาดหวังเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน แต่พวกเขาก็พยายามไม่กดดันตัวเอง จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง ลลิลรู้สึกไม่สบายตัว อาการคลื่นไส้และอ่อนเพลียทำให้เธอสงสัย เธอตัดสินใจใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ และผลลัพธ์ที่ปรากฏก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความสุขและความตื่นเต้นสองขีดสีชมพู ปรากฏชัดเจน ลลิลกรีดร้องด้วยความดีใจ เธอไม่สามารถเก็บความลับนี้ไว้คนเดียวได้ เธอตัดสินใจจะบอกข่าวดีนี้กับอเล็กซานเดอร์ในทันที แต่เธอ

  • บ่วงรักมาเฟียคลั่ง   ตอนที่ 79 บทพิสูจน์แห่งผู้นำ

    ตอนที่ 79 บทพิสูจน์แห่งผู้นำท่ามกลางความกังวลเรื่องทายาทและความสุขในชีวิตคู่ อเล็กซานเดอร์ ก็ต้องเผชิญกับบททดสอบครั้งสำคัญในบทบาทของผู้นำ นั่นคือการแก้ไขวิกฤตการทุจริตที่เกิดขึ้นในโครงการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ ความท้าทายนี้ไม่เพียงเป็นการพิสูจน์ความสามารถของเขา แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงคุณธรรมและความโปร่งใสที่ กลุ่มคาร์ดินัล ยุคใหม่ยึดมั่นเมื่อหลักฐานเริ่มชัดเจนว่ามีการทุจริตจริงในบริษัทสตาร์ทอัพที่คาร์ดินัลลงทุนไป อเล็กซานเดอร์ ก็ตัดสินใจดำเนินการอย่างเด็ดขาดและรอบคอบ เขาไม่ได้ต้องการเพียงแค่จับตัวผู้กระทำผิด แต่ต้องการถอนรากถอนโคนปัญหา เพื่อไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตอเล็กซานเดอร์เรียกประชุมทีมงานคนสำคัญของคาร์ดินัลที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ รวมถึง เดฟ และหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย เขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาชื่อเสียงและความโปร่งใสของบริษัท“เราจะไม่ยอมให้การทุจริตใดๆ มาแปดเปื้อนชื่อเสียงของคาร์ดินัลอีกแล้ว” อเล็กซานเดอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นในห้องประชุม “เราต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องและเป็นธรรมที่สุด”เขามอบหมายให้ทีมผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เข้าม

  • บ่วงรักมาเฟียคลั่ง   ตอนที่ 78 บททดสอบใหม่และเสียงเล็กๆ ในอนาคต

    ตอนที่ 78 บททดสอบใหม่และเสียงเล็กๆ ในอนาคตชีวิตคู่ของ อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ดำเนินไปอย่างราบรื่นและอบอุ่น แต่ในโลกของธุรกิจและความรับผิดชอบที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ย่อมมี ความท้าทายใหม่ๆ เข้ามาทดสอบความเข้มแข็งของพวกเขาเสมอ และท่ามกลางความท้าทายเหล่านั้น เสียงเล็กๆ ในอนาคตก็เริ่มดังขึ้นในหัวใจของทั้งคู่ในขณะที่โครงการเยียวยาชุมชนของมูลนิธิคาร์ดินัลดำเนินไปอย่างงดงาม และได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวาง ปัญหาใหม่กลับเกิดขึ้นภายในอาณาจักรธุรกิจของคาร์ดินัลเองคริสเตียน ได้มอบหมายให้ อเล็กซานเดอร์ เข้ามาดูแลการลงทุนใน โครงการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ ซึ่งเป็นสาขาใหม่ที่คาร์ดินัลกำลังให้ความสนใจอย่างมาก แต่โครงการนี้กลับประสบปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นมีรายงานว่าบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่คาร์ดินัลเข้าไปลงทุน มีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการภายใน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ล่าช้ากว่ากำหนด และที่สำคัญที่สุดคือ มี ข่าวลือเรื่องการทุจริต ของผู้บริหารระดับสูงบางรายในบริษัทนั้น“พ่อว่าเรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้ละเอียดเลยนะอเล็กซานเดอร์” คริสเตียนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดในห้องทำงานของเขา “เราไม่อยากให้ชื่อเสียงของคา

  • บ่วงรักมาเฟียคลั่ง   ตอนที่ 77 บทใหม่แห่งชีวิตร่วม

    ตอนที่ 77 บทใหม่แห่งชีวิตร่วมหลังพิธีวิวาห์ที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยความหมาย อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ก็ได้เริ่มต้นบทใหม่ของชีวิตในฐานะสามีภรรยาอย่างเป็นทางการ การใช้ชีวิตคู่ไม่ใช่แค่เรื่องของความรักที่โรแมนติก แต่ยังรวมถึงการปรับตัว การเรียนรู้ และการเติบโตไปพร้อมกันในทุกๆ วันชีวิตคู่เริ่มต้นขึ้นที่คอนโดมิเนียมสุดหรูของอเล็กซานเดอร์ ซึ่งบัดนี้กลายเป็น "เรือนหอ" ที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัวของพวกเขา แม้จะเคยมาพักอยู่ด้วยกันบ่อยครั้ง แต่การย้ายข้าวของทั้งหมดเข้ามาอยู่ด้วยกันอย่างถาวร ก็เป็นประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปลลิลใช้ความสามารถด้านการออกแบบของเธอเข้ามาเนรมิตห้องชุดให้เป็นพื้นที่ที่สะท้อนตัวตนของทั้งคู่ได้อย่างลงตัว เธอเพิ่มความสดชื่นด้วยต้นไม้เล็กๆ และเปลี่ยนผ้าม่านเป็นสีเอิร์ธโทนที่อบอุ่น นอกจากนี้ยังมีมุมเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยหนังสือและงานศิลปะที่เธอชื่นชอบ ทำให้คอนโดแห่งนี้มีชีวิตชีวาและเป็น "บ้าน" อย่างแท้จริง“คุณชอบไหมครับคุณ” อเล็กซานเดอร์ถามด้วยรอยยิ้มหลังจากที่ลลิลจัดข้าวของเสร็จเรียบร้อยลลิลโอบแขนรอบเอวเขา “ฉันชอบมากค่ะที่รัก มันเป็นบ้านของเราจริงๆ”การปรับตัวเข้าหากันในรายละเอียด

  • บ่วงรักมาเฟียคลั่ง   ตอนที่ 76 ถักทอความรัก สู่พิธีวิวาห์

    ตอนที่ 76 ถักทอความรัก สู่พิธีวิวาห์หลังจากที่ อเล็กซานเดอร์ ได้ขอ ลลิล แต่งงานอย่างเป็นทางการ บรรยากาศของความสุขและความตื่นเต้นก็ปกคลุมไปทั่วคฤหาสน์คาร์ดินัล การเตรียมงานแต่งงานเริ่มต้นขึ้นอย่างเรียบง่าย แต่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความหมาย สะท้อนถึงความรักที่มั่นคงและบริสุทธิ์ของทั้งคู่ทั้งอเล็กซานเดอร์และลลิลต่างเห็นพ้องต้องกันว่างานแต่งงานของพวกเขาจะต้อง เรียบง่าย อบอุ่น และเป็นส่วนตัว โดยเน้นไปที่ความหมายและความผูกพันของสองครอบครัวมากกว่าความหรูหราอลังการ“ฉันอยากให้งานแต่งงานของเราเป็นวันที่เราได้แบ่งปันความสุขกับคนที่เรารักและห่วงใยค่ะที่รัก” ลลิลบอกกับอเล็กซานเดอร์ในขณะที่พวกเขากำลังปรึกษากันเรื่องการจัดงานอเล็กซานเดอร์ยิ้ม “ผมก็คิดอย่างนั้นครับคุณ”พวกเขาตัดสินใจที่จะจัดพิธีหมั้นและงานแต่งงานเล็กๆ ที่ คฤหาสน์คาร์ดินัล ซึ่งเป็นสถานที่ที่ลลิลมีความทรงจำดีๆ มากมาย และเป็นเหมือนบ้านอีกหลังของเธอ โดยจะมีเพียงญาติสนิทและเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับเชิญแพรไหม ผู้เป็นแม่ของอเล็กซานเดอร์ เป็นผู้ดูแลการเตรียมงานทั้งหมดอย่างละเอียดอ่อน เธอต้องการให้งานแต่งงานของลูกชายออกมาสมบู

  • บ่วงรักมาเฟียคลั่ง   ตอนที่ 75 จุดเริ่มต้นแห่งชีวิตคู่

    ตอนที่ 75 จุดเริ่มต้นแห่งชีวิตคู่หลังจากผ่านพ้นอุปสรรคและร่วมสร้างสรรค์สิ่งดีๆ มาด้วยกัน อเล็กซานเดอร์ ก็ตระหนักแล้วว่า ลลิล คือผู้หญิงที่ฟ้าส่งมาให้เขา เขาไม่ต้องการรออีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่ความรักของพวกเขาจะก้าวไปอีกขั้น สู่การเริ่มต้นชีวิตคู่ที่ชัดเจนและมั่นคงการขอแต่งงานไม่ใช่แค่เรื่องของคำพูด แต่เป็นเรื่องของความรู้สึกและช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ อเล็กซานเดอร์ใช้เวลาหลายวันในการวางแผน เขาอยากให้การขอแต่งงานครั้งนี้เป็นความทรงจำที่ลลิลจะไม่มีวันลืมเขาปรึกษาเรื่องนี้กับ แพรไหม ผู้เป็นแม่ ซึ่งเป็นคนที่เข้าใจหัวใจของผู้หญิงดีที่สุด“ลูกอยากขอแต่งงานกับลลิลครับแม่” อเล็กซานเดอร์กล่าวด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข “ผมอยากให้มันเป็นอะไรที่พิเศษที่สุดสำหรับเธอ”แพรไหมยิ้มอย่างอ่อนโยน “แม่ดีใจด้วยนะลูก แม่รู้ว่าลลิลคือคนที่ใช่สำหรับลูกจริงๆ”แพรไหมช่วยอเล็กซานเดอร์วางแผนอย่างละเอียด เธอแนะนำให้เขาเลือกสถานที่ที่มีความหมายกับทั้งคู่ และสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัว อเล็กซานเดอร์คิดถึง บ้านพักที่เขาใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ความรักของเขาและลลิลเริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริงเขาจัดเตรียมทุกอย่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status