เมเรดิธแสร้งกระพริบตาอย่างบริสุธิ์ดูไม่มีพิษไม่มีภัยใดๆ น้ำเสียงของเธอฟังดูนุ่มนวลและหมดแรงแย่างไรก็ตาม ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะตาบอดกับการแสดงที่ชัดเจนขนาดนี้แต่ไม่สามารถดูออกได้ การแสดงงี่เง่าเช่นนี้มีผลสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะไม่ต้องบอกมาเดลีนรู้ดีว่าเจเรมี่จะเห็นด้วยโดยแทบไม่มีคำถามใดๆกับเรื่องนี้ ไม่นานนัก เป็นดั่งเช่นมาเดลีนคิดไว้ไม่มีผิดเขาพยักหน้า "ถ้างั้นก็อยู่”นั่นไง! มาเดลีนรู้ว่าเจเรมี่จะทำแบบนี้โดยแทบไม่ต้องคาดเดากับเรื่องนี้ได้เลย และเธอรู้สึกได้ว่าเมเรดิธ มองมาที่เธอด้วยหางตาอย่างยั่วโมโหกระทั้ง เมเรดิธที่ดูภาคภูมิใจได้เพียงไม่กี่วินาทีก่อนจะถูกเจเรมี่ทำลายวิมานแห่งชัยชนะของเธอ เขาหันไปทางแม่บ้านฮิวจ์ เขาพูดเพียงไม่กี่คำ "ไปเตรียมห้องรับรองสำหรับคุณครอว์ฟอร์ด”มาเดลีนที่กำลังดื่มซุปแทบสำลักเมื่อเธอได้ยินสิ่งนี้กับหูสีหน้าแห่งชัยชนะบนใบหน้าของเมเรดิธที่เคยมีแทบเลือนหายไปในพริบตานี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?เมเรดิธรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่มีทางเป็นจริง ‘ฉันคือคุณครอว์ฟอร์ดที่เขาพูดถึงหรือเปล่า?’มาเดลีนตระหนักคิดเรื่องนี้อย่างดี เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เธอต้องมีชีวิตอยู่รอดจนกว่าจะถึงวันที่เมเรดิธได้รับผลกรรมอย่างสาสม!มาเดลีนไม่สามารถหลบหนีไปจากเกลนเดลได้สำเร็จ เจเรมี่มักพาเธอกลับไปที่คฤหาสน์วิทแมนเป็นครั้งคราวท่านปู่ วิทแมน ชื่นชอบมาเดลีนอย่างเหลือเชื่ออีกทั้งเขายังใจดีกับเธออย่างน่าประหลาดใจ ครั้งหนึ่งเขาเคยตบไหล่เธอแล้วพูดว่า 'เด็กคนนี้ช่างดูคุ้นเคยอะไรขนาดนี้ เธอคิดว่าเราเคยเป็นปู่และหลานสาวในชาติก่อนหรือไม่?'ความจริงแล้วไม่ใช่แค่คุณปู่ท่านนี้ที่มีความรู้สึกแบบนี้ แต่มาเดลีนเองก็รู้สึกเช่นเดียวกันในขณะที่เธอได้พบกับชายชราผู้มั่งคั่งคนนี้ เธอรู้สึกเหมือนเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อนเมื่อใดก็ตามที่มาเดลีนไปที่คฤหาสน์วิทแมน นอกจากเธอต้องแสร้งทำเป็นใจดีและอ่อนโยนต่อเจเรมี่่แล้ว เธอยังได้เห็นปฏิกิริยาของทุกคนที่ปฏิบัติต่อเธอราวกับว่าเธอเป็นสิ่งที่อุจาดตาไม่หน้ามอง — โดยเฉพาะเมเรดิธในตอนแรก หล่อนสามารถกำจัดมาเดลีนออกไปและได้รับตำแหน่งคุณนายวิทแมนได้สำเร็จ แต่ตอนนี้ คนพวกนี้ไม่สามารถข้ามหน้าข้ามตาเจ้าของตระกูลอย่างผู้อาวุโสวิทแมนได้ การที่จะได้รับตำแหน่งของนายหญิงวิทแมนตอนนี้ยากพอๆกับการบินได้ในช่วงบ่ายวันจ
หัวของมาเดลีนรู้สึกหนักอึ้งจนแทบจะระเบิด หลังจากที่เมเรดิธเขย่าเธออย่างแรง มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่ลงไปอีก"แมดดี้ ทำไมเธอใจร้ายขนาดนี้ได้ยังไง? ฉันไม่สนใจว่าเธอจะมีความเกลียดต่อฉันและไม่พอใจฉันมากมายแค่ไหน แต่ลูกของฉันเป็นเพียงเด็กตาดำ ๆ ทำไมเธอถึงทำแบบนี้กับแจ็คได้?”สิ่งนี้ฟังดูคุ้นเคยมากมาเดลีนไม่เคยลืมเธอเกือบจะพูดโต้ตอบแบบเดิมกับเมเรดิธเหมือนในครั้งก่อนแต่ว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น?เมเรดิธต้องการจะสื่อถึงอะไร?"แมดดี้ บอกฉันหน่อยว่า เธอซ่อนแจ็คไว้ที่ไหน? บอกฉันมา!"เมื่อมาเดลีนยังดูสับสน เมเรดิธเห็นดังนั้นจึงกรีดร้องเสียงหลงถามเธออย่างหัวเสียอีกครั้ง"แจ็ค?" มาเดลีนพยายามนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่เธอจะหลับไป จากนั้น เธอมองไปรอบ ๆ ตัว ก่อนจะพบว่า เธออยู่ที่บ้านปัจจุบันของเธอเธอกำลังพาแจ็คสันกลับไปที่คฤหาสน์ วิทแมน ก่อนหน้านี้ แล้วทำไมเธอมาที่นี่ตอนนี้?มาเดลีนรู้สึกถึงลมกระโชกเย็นที่คืบคลานขึ้นมาจากด้านล่างของเท้าของเธอ เธอสั่น เธอไม่กล้าที่จะจินตนาการว่าเกิดอะไรขึ้น"มาเดลีน ฉันคิดไม่ถึงว่าเธอจะทำในสิ่งที่เธอเคยพูดออกมาว่าเธอจะทำเช่นนี้" เสียงหนาวเย็นเข้ากระดูกดังข
เพียงแค่หนึ่งนาทีผ่านไปในพริบตามาเดลีนตื่นขึ้นมาด้วยเสียงร้องของเมเรดิธ เจเรมี่มองเธออย่างเย็นชาและกดหมายเลขสามตัวลงบนโทรศัพท์ของเขา เขากำลังจะเรียกตำรวจ!"ไม่!”ในที่สุดบาดแผลที่กดทับเส้นประสาทที่แน่นหนาของเธอถูกฉีกขาดออกเธอเดินก้าวไปยืนข้างหน้าเจเรมี่ด้วยใบหน้าซีดเซียว "เจเรมี่ ฉันไม่ได้ซ่อนลูกชายของคุณ! ฉันจะไม่ทำแบบนั้นแม้ว่าฉันจะชังเมเรดิธแค่ไหนก็ตาม!"ฉันเคยรู้สึกเจ็บปวดจากการถูกแยกออกจากเลือดเนื้อของตัวเอง ดังนั้นฉันรู้ว่ามันรู้สึกแย่ยิ่งกว่าความตาย ฉันไม่เคยคิดจำทำแบบนั้น—”"เธอจะมีความสุขก็ต่อเมื่อเมอร์ต้องผ่านความเจ็บปวดนี้ด้วยเช่นกัน ใช่ไหม?" เจเรมี่ ขัดจังหวะ มาเดลีน การจ้องมองของเขาเหมือนมีดคม ทิ่มแทงหัวใจของมาเดลีนอย่างไร้ความปราณี"มาเดลีน เสือดาวไม่เคยเปลี่ยนจุดของมัน ผู้หญิงอย่างเธอต่อให้ตายได้ 1,000 ครั้ง แต่ความแค้นในใจผมจะไม่มีวันลดลง!”ฟ่ออคำพูดที่เกรี้ยวกราดของเขาเจาะเข้าไปในหัวใจของมาเดลีนราวกับกระสุนที่เธอไม่สามารถหลบหนีไปได้"อย่าได้คิดว่าจะได้ออกมาหลังจากเข้าไปในนั้นอีก" เจเรมี่พูด พร้อมกับกดปุ่มโทรศัพท์ของเขา เขายังคงเรียกว่าตำรวจในที่สุดมันเป็
การมองเห็นถูกบิดเบือนจากสายฝนเธอไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากสายตาที่พร่ามัวนี้ แต่ความโกรธของเจเรมี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เธอสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนเขากระชากคอเสื้อของเธอแน่น มันทำให้เธอหายใจแทบไม่ออกสายตาคมกริบสังเกตุเห็นใบหน้าแดงของเธอที่หายใจไม่ออก ในที่สุดเขาก็ปล่อยมือราวกับว่าเขากำลังปลดปล่อยความโกรธ จากนั้น เขาก็ผลักเธอออกไปมาเดลีนอ้าปากค้างเมื่อร่างกายของเธอเปียกโชกท่ามกลางสายฝนเธอหยิบโทรศัพท์ที่เปียกน้ำขึ้นมาข้อความบนหน้าจอบ่งบอกหายนะบางอย่างมีข้อความจากผู้ส่งที่ไม่รู้จักด้านบนของรายการ ‘เด็กคนนี้ไม่ยอมฟังฉัน ฉันเลยทุบตีเขาไปตอนนี้ เขาไม่ส่งเสียงร้องให้รู้สึกรำคาญ เมื่อไหร่ที่เธอจะทำให้พวกวิทแมนจ่ายเงินเพื่อรับเด็กคนนี้กลับคืนสักที? 'เมื่อเธออ่านข้อความนี้ สมองขอมาเดลีนก็แทบระเบิด จากนั้นจิตใจของเธอเข้าสู่ห้วงแห่งความว่างเปล่าเเทบจะไม่ต้องเดานี่เป็นข้อความเกี่ยวกับการลักพาตัว แต่ทำไมข้อความนี้ถึงส่งถึงเธอ?“มาเดลีน เธอกลายเป็นอะไรไปแล้ว นี่เธอยังไปไกลถึงขั้นทำงานร่วมกับนักเลงเพื่อลักพาตัวลูกชายของผมอีก หากลูกชายของผมบาดเจ็บแม้แต่นิดเดียว ผมจะเฉือนเนื้อของคุณออก
ชายปริศนาบอกตำแหน่งของเขากับเธอก่อนที่จะวางสายมาเดลีนรีบโทรหาเจเรมี่ทันที แต่เธอนึกขึ้นได้ว่าเขาอาจจะบล็อกเบอร์มือถือของเธอไปแล้วจากนั้น เธอเลื่อนดูรายชื่อผู้ติดต่อที่ว่างเปล่าของเธอ หมายเลขเดียวที่เธอโทรได้ตอนนี้คือเบอร์ของ ท่านปู่วิทแมนอย่างไรก็ตาม เธอคิดไตร่ตรองเรื่องนี้สักพัก มาเดลีนก็ล้มเลิกความคิดนั้นเวลาไม่รอช้า และมาเดลีนเองไม่มีทางเลือกอื่น เธอเรียกรถแท็กซี่และบอกที่อยู่คนขับคนขับเป็นผู้ชายที่ดูเป็นมิตร เมื่อเห็นว่ามาเดลีนหน้าซีดดูเจ็บปวดสาหัส เขาแนะนำเธอให้ไปโรงพยาบาลเขาอยากส่งเธอไปโรงพยาบาลด้วยความเมตตา หลังจากมาเดลีนขอบคุณและปฏิเสธเขา พวกเขาก็เดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางการเดินทางผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ในที่สุดเธอก็มาถึงสถานที่ที่ชายคนนั้นให้เธอเป็นสถานที่แห่งหนึ่งในชนบทที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาและแหล่งน้ำ ต้นไม้ที่มีใบเหลืองมีอยู่ทั่วไปสายลมยามค่ำคืนพัดผ่านเธอ ความหนาวเหน็บเข้าสู่ร่างกายของเธอมาเดลีนตัวสั่น และอาการปวดของเนื้องอกในท้องของเธอยังคงปวดอยู่ยังไงก็ตาม เธอมีเวลาไม่มากแล้ว เมื่อเธอคิดถึงความปลอดภัยของแจ็คสัน เธอก็ยังคงกัดฟันและก้าวไปข้างหน
หลังจากที่แทนเนอร์พูดแบบนั้น เสื้อของมาเดลีนถูกฉีกออกมาเดลีนเจ็บปวดมากจนเธอไม่มีแรงที่จะดิ้นรน เมื่อเธอคิดว่าเธอคงหมดหวังแล้วแทนเนอร์กำลังจะช่วงชิงร่างกายเธอไป ทันใดนั้นประตูถูกเตะเปิดออกพร้อมกับเสียงดังประตูเอียงไปด้านหนึ่งก่อนจะตกลงบนพื้นมาเดลีนหันหน้าไปทางต้นเสียงก่อนจะเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาที่ดูน่ากลัวของเจเรมี่ เขาดูเหมือนกับซาตาน เมื่อสายตาที่เจเรมี่จ้องมองมาที่เธอมันเต็มไปด้วยความน่ากลัวและความทรยศ เธอก็สั่นสะท้านเจเรมี่ก้าวไปข้างหน้าและดึงแทนเนอร์ ซึ่งกำลังกดทับมาเดลีน ออกไป"กล้าดียังไงมาลักพาตัวลูกชายของผม? เบื่อกับการมีชีวิตแบบนี้แล้วใช่ไหม?”เขาชกแทนเนอร์อย่างแรงที่ด้านข้างของใบหน้า ทำให้แทนเนอร์โอดครวญด้วยความเจ็บปวด ฟันซี่หนึ่งของเขาหลุดออกและเลือดเริ่มไหลออกมาจากปากของเขา เจเรมี่เตะแทนเนอร์ไปที่มุมกำแพง และในจังหวะนั้น แทนเนอร์ไม่สามารถลุกขึ้นจากความเจ็บปวดได้มาเดลีนล้มลงบนพื้นอย่างอ่อนแรง เธอพยายามปกปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าด้วยเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งเจเรมี่มองเธอด้วยความรังเกียจ "มาเดลีน เธอมันต่ำช้ายิ่งกว่าแต่ก่อน”เขามองเธอเขม็งก่อนจะเดินไปเข้าห้องใดห้
'งั้นหรอ?’‘คุณทำสัญญาแค่กับเมเรดิธในชีวิตนี้แค่นั้นงั้นเหรอ?’‘แล้วสิ่งที่คุณพูดมันออกมาในตอนนั้นมันเป็นแค่คำพูดที่ไร้ความหมายเหรอ? และฉันคงเป็นเพียงแค่ภาพบนอากาศที่พัดผ่านเข้ามาในชีวิตที่ไม่ควรค่าแก่การจดจำสินะ’ฮ่าๆ มาเดลีนหลับตาที่เหนื่อยล้าลง เธอไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นน้ำตาหรือหยดน้ำฝนที่ไหลล้นไปทั่วดวงตาของเธอก่อนที่เธอจะมีกำลังที่จะลุกขึ้นยืน แทนเนอร์และเธอถูกนำตัวเข้าไปในรถตำรวจตลอด 48 ชั่วโมงที่ถูกคุมขัง มาเดลีนไม่สามารถรอดพ้นจากการถูกทำร้ายร่างกายในสถาณการณ์คล้ายคลึงกับครั้งก่อนได้อีกเลยเหตุการณ์นี้ ทำให้เธอรู้สึกมึนงงกับเรื่องนี้ทั้งหมด เธอมึนงงจนไม่รู้สึกเจ็บเมื่อริ่มมีอาการอาเจียนเป็นเลือดมีเพียงน้ำตาเท่านั้นที่ไหลออกมาจากดวงตาของเธออย่างไม่สามารถควบคุมได้ น้ำตาทำให้หัวใจของเธอพร่ามัวและทำให้หัวใจของเธอจมลงไปในน้ำอย่างไร้ทางรอดมาเดลีนคลานไปบนพื้นก่อนจะค่อยๆจับลูกกรงเพื่อพยุงตัวเองขึ้น แต่เเล้วใครบางคนเตะและต่อยเข้าที่หลังของเธอทุกรูปแบบเมื่อเธอมองไปที่แสงแดดข้างนอก เธอก็ยิ้มอย่างคร่ำครวญในขณะที่เธออาศัยอยู่ในโลกที่เธอสร้างขึ้นด้วยต้วยน้ำมือตัวเองมานานห