พอร์กเกอร์อยากจะทำอะไรบางอย่าง แต่อย่างไรก็ตามเขาจำดวงตาคู่นั้นได้ เขาไม่เคยเห็นดวงตาแบบนั้นมาก่อนตลอดช่วงชีวิตของเขาไม่มีคนปกติทั่วไปที่จะมีดวงตาเช่นนั้นพอร์กเกอร์ลังเล"นายนี่มันขี้แยชะมัด!"เจนรู้สึกกระวนกระวาย เธอเฝ้าดูพอร์กเกอร์มองไปรอบ ๆ อย่างลังเลคนเดียวที่สามารถทำบางอย่างได้ในตอนนี้คือพอร์กเกอร์ หัวหน้าแก๊งค์ และคนตัวโตต่างก็เจ็บหนักทั้งคู่“ปล่อยเราไป ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้ นอกจากนี้พวกคุณยังบาดเจ็บสาหัส แน่ใจหรือว่าคืนนี้พวกคุณจะสามารถออกจากเมืองเอสนี้ได้?” เธอพูดในขณะที่ขู่และสัญญา “ในส่วนของเงิน ฉันจะให้พวกคุณล้านเหรียญเพื่อแบ่งปันระหว่างพวกคุณเอง ถ้าไม่…” เธอมองไปที่คน ๆ นั้น เขาบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน หากพวกเขายังคงดำเนินการต่อไปเรื่อย ๆ เธอก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ในขณะที่กำลังตื่นตระหนกเหตุผลของเธอก็เริ่มกลับมาหาเธอ ดวงตาของเธอคมขึ้น“พวกคุณมีสองทางเลือก”“หนึ่งปล่อยเราไป ฉันจะไม่ตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ฉันจะโอนเงินหนึ่งล้านเหรียญไปยังบัญชีของคุณในวันพรุ่งนี้ ทุกคนก็จะมีความสุข”“ประการที่สองเราทำให้เก
“ทำไมคุณถึงไปอยู่ที่นั่นได้?”พวกเขาทั้งสองประคับประคองกันไปตลอดทาง เมื่อพวกเขากลับถึงบ้าน เธอก็เปิดประตู และเดินเข้าไปเธอหันกลับมา และจ้องมองชายคนนั้น ขณะที่รอคำตอบจากเขาเขาไปอยู่ที่นั่นได้อย่างไรในช่วงเวลานั้น?ราวกับว่าชายคนนั้นไม่ได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกของเธอ เขาชี้ไปที่ระเบียงอย่างไร้เดียงสา “เจนนี่ไปทำงานทุกวัน และฌอนก็จะยืนอยู่ที่นั่นเพื่อดูรถของเจนนี่แล่นออกไปเช่นกัน”“ผมรู้เวลาที่คุณเลิกงานนะเจนนี่”สิ่งที่เขาหมายถึง ก็คือเขาจะรออยู่ที่ระเบียงทุกวันเพื่อดูรถของเธอขับออกไปและกลับเข้ามาเธอตกใจมาก เธอได้คิดถึงคำตอบทั้งหมดที่เป็นไปได้ แต่เธอไม่คาดคิดว่า…อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้คาดหวังที่จะได้คำตอบเช่นนี้“ตึกนี้สูงมาก คุณจะเห็นฉันด้วยหรอ?” เธอรู้ตัวในทันใดใครคนนั้นดึงเธอไปที่ระเบียง “พี่เรย์ให้สิ่งนี้กับผม”เจนเห็นว่าที่ระเบียงมีของเยอะมาก เธอตกใจอีกครั้ง“ผมใช้เวลามากมาย ในการรวบรวมสิ่งนี้เข้าด้วยกัน” คน ๆ นั้นยังคงส่งเสียงเจื้อยแจ้วข้าง ๆ เธอ และมันก็ดังก้องอยู่ในหูของเธอเธอลดสายตาลง ใช้เวลามากมาย ในการรวบรวมสิ่งนี้เข้าด้วยกันเลยหรอ?อย่างไรก็ตาม
เรย์มึนงง ฌอนห้ามไม่ให้เขาไปที่บ้านของเจนอีกต่อไป นอกจากนี้เมื่อแพทย์ของเขาได้ให้ยากับฌอนเสร็จ และกลับไป ใบหน้าของเขาก็ดูกังวลเป็นอย่างมาก เรย์รู้สึกว่าเจนต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆในท้ายที่สุดเมื่อเขาโทรหาเจนมันก็เหมือนกับว่าเธอได้กินระเบิดเข้าไป เธอทั้งกล่าวหา และตะโกนดุด่าเขาว่า "เพลย์บอย" "ปฏิบัติต่อชีวิตของคนเหมือนเกม" และ "สอนแต่เรื่องชั่ว ๆ ให้กับคนอื่น"เรย์รู้สึกแปลกยิ่งขึ้นเมื่อเขามองไปที่การโทรที่สิ้นสุดลงแล้ว เจนก็ตัดสายเขาทิ้งเธอเรียกเขาว่าเพลย์บอย…แปลกมาก เพราะนี่ไม่ใช่วันแรกที่เจนรู้ว่าเขาเป็นเพลย์บอย และเจ้าชู้แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับเธองั้นเหรอ?นอกจากนี้เธอยังบอกว่าเขาสอนบางคนในสิ่งที่ไม่ดี ... เธอหมายถึงใครกัน?เรย์สงสัยเรื่องนี้มาก ๆ แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถคาดเดาความจริงได้เลยเจนวางสายไปแล้ว แต่เธอก็ยังโกรธอยู่ถ้าเธออธิบายเรื่องงี่เง่านั้นเป็นอย่างดี เธอก็จะบอกว่าเขาไร้เดียงสา ถ้าเธอพูดอย่างหยาบคาย เขาก็จะดูโง่เง่าที่สุด ความทรงจำ และไอคิวของเขานั้นมันเหลือเพียงแค่เด็กแปดขวบคนงี่เง่านั้นจะรู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร?เขาหมายถึงอะไรกันที่บอกว่าร้อ
“ฉันอยากเจอเธอ”เธอได้ตัดสินใจแล้ว เธอไม่ได้กำลังขอ แต่เธอกำลังสั่งโครเกอร์เข้าใจ เขารู้ว่าเจนจะไม่ยอมง่าย ๆเขาพยักหน้าอย่างหนัก “ผมจะพาคุณไปพบเธอเองครับ”เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้อยากเจอซูซี่ทันทีถ้าเธอสามารถลากเขาออกจากเตียงกลางดึกด้วยโทรศัพท์เพียงครั้งเดียว นั่นหมายความว่าเธอตัดสินใจที่จะจัดการเรื่องนี้โดยเร็วนอกจากนี้ โครเกอร์ยังรู้ว่าหญิงสาวไม่เชื่อใจเขาเท่าที่เธอเคยเป็นอีกต่อไปโครเกอร์ไม่เสียเวลาพาหญิงสาวไปที่คอนโดมิเนียมเล็ก ๆ ชั้น 4 ที่ถนน ริงเมื่อกริ่งประตูดังขึ้น คนที่อยู่ข้างในก็เปิดประตู เสียงของเธอดูง่วงจากการนอน เธอพูดอย่างยั่วยวนด้วยภาษาอู๋ที่ฟังดูน่าฟัง “คุณกลับถึงบ้านแล้วเหรอ? มีอะไรสำคัญนักหนาเนี่ย? ทำไมเจ้านายของคุณน่ารำคาญจัง?”“เจ้านายของคุณไม่น่ารำคาญแน่นอน ถ้าเธอน่ารำคาญเธอจะยืนอยู่หน้าประตูของคุณได้อย่างไร?”เสียงนั้นทำให้คนในบ้านรู้สึกหนาวตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอประหลาดใจอย่างมาก“ค คุณ…ทำไมคุณมาที่นี่?”ซูซี่ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย อย่างไรก็ตาม เธอดูเป็นผู้หญิงมากกว่าที่เจนจำได้ เจนมองดูใบหน้าของซูซี่เปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีขาวในขณะที่เธอยังคงไม่แสดงสีหน้าใ
เจนมองลึกเข้าไปในตาของ ซูซี่ ทอมสัน “คุณกำลังใช้ครอบครัวดันน์ เพื่อคุกคามฉันอยู่หรือเปล่า?”“เจน ดันน์ ถ้าคุณแฉฉัน คนทั้งโลกก็จะได้รู้ว่าครอบครัวดันน์ไม่มีอะไรมากไปกว่าเปลือกที่ว่างเปล่า”“ฉันดีใจที่จะเห็นคุณสูญเสียทุกอย่าง”“ถ้าเป็นคุณ คนที่สูญเสียทุกอย่างไป คุณจะยังคงยืนอยู่ต่อหน้าฉัน และถามฉันว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ด้วยท่าทางที่ห่างเหินแบบนี้ได้ไหม?”เธอเกลียด เจน ดันน์ เจนมีสิทธิอะไรที่ทำตัวสูงส่งและยิ่งใหญ่กว่าเธอ?คนที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นทาสรับใช้จะมีชีวิตที่ดีกว่าเธอมาก ๆ ในอีกสามปีต่อมาได้อย่างไร?เจน ดันน์ ที่สกปรก และต่ำต้อย จะมาเปรียบเทียบกับเธอได้อย่างไร?“คุณมีความสามารถอะไร? ถ้าไม่ใช่แค่สืบทอดธุรกิจของพ่อต่อ?“ทุกสิ่งที่คุณมีในตอนนี้ มันก็มาจากบุญเก่าจากครอบครัวของคุณทั้งหมด”"ไม่ ไม่ใช่สิ”“คุณขโมยทุกอย่างมาจากครอบครัวของคุณเอง”“เจน ดันน์ คุณไม่ใช่แค่ต่ำต้อยเท่านั้นนะ แต่คุณยังเป็นคนชั่วร้ายอีกด้วย”“คุณนี่ไม่เว้นแม้กระทั่งครอบครัวของตัวเองเลยเหรอ?”ปัง! มือของโครเกอร์สั่นขณะที่เขาพูดว่า “คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร! คุณดันน์ได้กล่าวไปแล้วว่าจะปล่อยให้ผ่านไป
เจนนั่งกินเงียบ ๆ ในขณะที่อีกคนกำลังเฝ้ามองดูเธอหญิงสาวก้มหน้าลงขณะที่เธอกินอย่างเต็มปากเต็มคำ ส่วนคนที่อยู่ตรงข้ามเธอเอามือกุมไว้ใต้คางของเขาขณะที่เขาเฝ้ามองดูเธอกินอย่างเงียบ ๆ สำหรับผู้ที่ไม่ทราบถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง พวกเขาอาจจะตีความผิดว่าพวกเขาทั้งสองคือคู่รักที่คบกันมายาวนานแน่ ๆ ในความเงียบของยามค่ำคืนการพยากรณ์อากาศได้เตือนถึงความหนาวเย็น และเป็นคืนที่อุณหภูมิลดลงอย่างกะทันหันเมื่อได้ยินเสียงกรอบแกรบเจนก็ตื่นขึ้น หลังจากตั้งใจฟังเธอก็ตระหนักได้ว่าเสียงนั้นดังมาจากใต้เตียงเธอนั่งอย่างระมัดระวังแล้วมองไปที่ด้านล่างของเตียงเธอมักจะคิดว่าคน ๆ นี้มีนิสัยแปลก ๆ โซฟาในห้องนั่งเล่นน่าจะดีกว่าพื้นห้องนอนของเธอ แต่เขาก็ดื้อรั้น และยืนกรานที่จะทำเตียงนอนของเขาบนพื้นห้องนอนของเธอแทนที่จะนอนในห้องนั่งเล่นที่สบายกว่าถ้าจะให้เธอเลือก เธอก็จะเลือกยอมไปนอนที่โซฟาในห้องนั่งเล่นดีกว่านอนที่พื้นเช่นนี้ในตอนนี้เมื่อเธอมองไปที่ด้านล่างของเตียงฟันของเขาก็ส่งเสียงกระทบกัน แขนของเขาโอบรัดรอบตัวเองแน่นขณะที่เขานอนตัวงอเป็นรูปร่างคล้ายกับกุ้ง"คุณหลับอยู่เหรอ?" ในความมืดของคื
เจนรู้สึกว่ามีบางอย่างกดเธอจากทางด้านหลัง เธอเอื้อมแขนออกไปเพื่อผลักมันออก แต่ก็ไม่สามารถผลักมันออกไปได้เลยเธอตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับ และเธอก็ได้รับ 'เซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่'“ใครให้คุณมานอนใต้ผ้าห่มของฉัน?”เธอเหวี่ยงแขนทุบตีเขาเบา ๆ และเขาก็จับแขนของเธอไว้ “เจนนี่ สวัสดีตอนเช้า”เมื่อมองไปที่ท่าทางง่วงนอนของเขา เจนก็รู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆ “ฌอน สจ๊วต คุณสัญญาว่าจะไม่เข้ามาใกล้ฉันแล้วนะ ใครอนุญาตให้คุณมานอนใต้ผ้าห่มของฉัน?”ชายคนนั้นตะเกียกตะกายอย่างตื่นตระหนก “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน อย่าโกรธผมเลยนะเจนนี่”ด้วยความรีบร้อนที่เขาพยายามที่จะลุกขึ้นนั้น มันทำให้เขาได้ล้มทับเจนดวงตาของเธอเบิกกว้างทันที เธอรู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งที่ร้อนผ่าวกำลังเผชิญหน้ากับเธออย่างเต็มที่ หนึ่งวินาที สองวินาที สามวินาที…อร๊ายยยยย!——“ฌอน สจ๊วต!” เธอเอื้อมมือออกไปอย่างลนลาน เพื่อผลักเขาออกไปจากเธอ ผ้าห่มก็กระจัดกระจายลงไปเต็มพื้น“คุณ -” ดวงตาของเธอลุกโชนด้วยความโกรธ เมื่อเห็นรอยนูน ๆ ที่เห็นได้ชัดเจนมากภายในกางเกงนอนของชายคนนั้น "คุณ-"“เจนนี่ ผมรู้สึกไม่ค่อยดี” ใบหน้าของเขาแดงก่ำเจนพยายามระงับ
เมืองซานย่าณ โรงแรมบันยันทรี"ผ่อนคลายหน่อยสิ" ชายในชุดทักซิโด้สีอ่อนโน้มตัวเข้าหาหูของหญิงสาวอย่างเกี้ยวพาราสีได้พูดออกมาเบา ๆ อย่างนุ่มนวลหญิงสาวก้าวถอยหลังไปเล็กน้อย แม้มันจะเป็นการกระทำที่ไม่ได้ตั้งใจและไม่ทันตั้งตัวก็ตาม แต่มันก็ยังไม่รอดพ้นสายตาอันเฉียบคมของชายคนนั้นในชั่วพริบตาเขาได้ก้าวถอยหลังไปสองก้าวในแบบฉบับบของสุภาพบุรุษ พรางหัวเราะเบา ๆ “เจน คุณดูกังวลมากเกินไปนะ”ฝ่ามือของเธอเกร็งและเธอรู้สึกได้ถึงความเหนียวจากเหงื่อที่กลางฝ่ามือของเธอ ‘แน่นอน ฉันประหม่า…คนที่ฉันกำลังจะไปเจอนั้น…’“อันที่จริงคุณไม่จำเป็นต้องกังวลมากนักก็ได้นะ เขาชอบพักผ่อนในช่วงฤดูร้อนที่โรงแรมบันยันทรีซานย่านี้ในทุก ๆ ปี ปกติเขาจะอยู่ที่นี่ประมาณหนึ่งเดือน” ชายคนนั้นพูดนิ่ง ๆ ด้วยภาษาจีนกลางที่เน้นเสียงของเขา ซึ่งมันทุ้มต่ำราวกับเสียงของเครื่องดนตรีเชลโล“เพราะฉะนั้น เจน คุณไม่จำเป็นต้องรีบมาที่นี่เพื่อพบคน ๆ นั้นทันทีที่ลงจากเครื่องบินหลังจากการเดินทางที่ยาวนานหรอกนะ”เธอส่ายหัว จนถึงตอนนี้หัวใจของเธอก็ยังคงสับสนอยู่เธอหนีไปโดยไม่บอกใครสำหรับสิ่งที่เธอกำลังหลบหนีอยู่นั้น มีเพียงเธอคนเดียว