สองวันต่อมาชาร์มมิ่งก็บินลัดฟ้าสู่กรุงเทพมหานคร และเดินทางต่อไปยังประเทศเกาหลี เพื่อไปเซ็นสัญญาแทนบิดา ที่กำลังอยู่ในช่วงฮันนีมูนครบรอบวันแต่งงานที่อิตาลี
หลังจากนั้นอีกสองวันวิโมกข์ก็เดินทางไปสิงคโปร์พร้อมบารมีและวิเวียน เพื่อร่วมประชุมปิดงบไตรมาสแรกของบริษัทที่ถือหุ้น
ส่วนเจ๊หวังก็เดินทางกลับบ้านเกิดที่ฮ่องกงหลังจากนั้นอีกหนึ่งวัน เพื่อกลับไปเยี่ยมญาติพี่น้องเหมือนทุกปี ที่บ้านจึงเหลือเพียงมีนา อีริคและหนึ่งเท่านั้น และมีคนรับใช้ที่เป็นเมียของคนงานในฟาร์มอีกสี่คน ที่จะมาทำหน้าที่ของตัวเองในตอนเช้าและกลับไปในตอนเย็น
มีนาเดินกรีดกรายไปทั่วทั้งบ้าน ตรวจตราการทำงานของเหล่าคนรับใช้เหมือนตอนที่เจ๊หวังอยู่
“ตรงนี้ไม่สะอาดนะ กลับมาเช็ดใหม่อีกรอบด้วย” เธอใช้นิ้วปาดไปบนรูปปั้น แล้วใช้เสียงวางอำนาจ
“ตรงนั้นฉันยังไม่ได้ทำค่ะ รอทำตรงนี้เสร็จก่อนแล้วฉันจะไปทำนะคะ” สาวใช้ตอบก
“สวัสดีครับคุณวิเวียน คุณบารมี” โรเจอร์ทักทายคู่รักทั้งสองอย่างเป็นมิตร แต่กับวิโมกข์เขาจำใจต้องทักเพื่อมารยาท เพราะรู้สึกได้ว่าฝ่ายนั้นก็มีใจให้ชาร์มมิ่งเหมือนกัน “สวัสดีครับ”วิโมกข์สบสายตากับอีกฝ่ายที่ทำเหมือนไม่อยากทักทายตน จึงพยักหน้าตอบรับลวก ๆ ให้ฝ่ายนั้นได้รู้ว่าเขาก็ไม่อยากทักทายมันเหมือนกันการกระทำของชายหนุ่มทั้งสองไม่ได้ผ่านสายตาของเจ็สสิก้าไปง่าย ๆ นางรู้สึกได้ทันทีว่าสองคนนี้ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่า.. นางเหลือบไปที่หลานสาวโดยอัตโนมัติ.. ผู้ชายที่เธอพาเข้าห้องเมื่อคืนนี้..“คุณสองคนมาตั้งแต่เมื่อไหร่”“เรามาหลายวันแล้วครับ”“แล้วจะกลับกันเมื่อไหร่ล่ะ”“พรุ่งนี้ครับ”“แล้วพักอยู่ที่ไหนกันล่ะ”“พวกเราพักอยู่ที่นี่แหละครับ”“เธอด้วยเหรอวิเวียน”“ค่ะ”“ทำไมเธอต้องพักที่โรงแรมด้วยล่ะ เธอทำงานที่นี่เธอก็น่าจะมีคอนโดหรือบ้านพักส่วนตัวสิ พักในโรงแรมแบบนี้มันแพงไปนะ”คำ
เห็นเธอดูหงอย ๆ ก็รู้เลยว่าต้องมีปัญหาอะไรสักอย่าง จึงรู้สึกเป็นห่วงอย่างลึกซึ้ง“ชาร์ม.. มีเรื่องอะไรก็ระบายให้พี่ฟังได้นะ”เธอมองหน้าคนรักและคลี่ยิ้มกว้าง จะให้เธอเล่าให้เขาฟังได้ยังไง ในเมื่อมันเป็นเรื่องของเขาเอง“ชาร์มเครียดเรื่องเขาคนนี้แหละค่ะ” นิ้วเรียวจิ้มที่อกแกร่ง ก่อนจะโน้มหน้าไปแนบซบ“พี่ก็บอกรักไปแล้วนี่ ทำไมยังเครียดอยู่อีก” หรือเธอคิดว่าตอนนั้นมันไม่โรแมนติก จึงอยากให้เขาพูดใหม่อีกครั้ง “พี่รักเรานะ รักมากจึงหึงและหวงมาก เป็นห่วงด้วย” ได้ยินแบบนี้เธอคงหายเครียด และกลับมาร่าเริงเป็นสาวน้อยคนเดิมของเขาสักที “พี่จริงจังกับเรามากนะ”“ขอบคุณค่ะ ชาร์มปลื้มมากเลยที่ได้ยินคำว่ารักจากปากของพี่โมกในเวลาแบบนี้”“ถ้าอย่างนั้นก็กลับมาร่าเริงได้แล้ว พี่ไม่ชอบอาการของเราตอนนี้เลย”“ค่ะ” เธอตอบรับด้วยสีหน้าชื่นบานแต่วิโมกข์ก็ยังดูออกว่าเธอเศร้า เพราะแววตาของเธอไม่สดใสตามสีหน้าสักนิด แต่ในเมื่อเธอไม่บอกว่าเพราะอะไรเขาก็จะไม่เซ้
“ค่ะคุณย่า”“จริงเหรอหลานรัก” เจ็สสิก้ายิ้มกว้างกับคำสารภาพของหลานสาว เข้าไปสวมกอดเธอแน่นด้วยความยินดี “ย่าดีใจที่เป็นโรเจอร์ ไม่ใช่ผู้ชายแปลกหน้าที่ไหน”“เดี๋ยวก่อนค่ะคุณย่า” หญิงสาวดันตัวเองออกจากอ้อมกอดของผู้เป็นย่า แล้วชี้ไปที่เตียงนอน “คุณย่าหมายถึงที่นี่เหรอคะ”“ใช่จ้ะ”“ไม่ใช่เขาหรอกค่ะ คุณย่าเข้าใจผิดแล้ว”ใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นมาทันที “แล้วหลานนอนกับใคร”“หนูจะอายุยี่สิบห้าแล้วนะคะคุณย่า หนูต้องรายงานคุณย่าด้วยเหรอคะว่านอนกับใคร”“บอกย่ามาเดี๋ยวนี้นะว่าเขาเป็นใคร แล้วหลานรู้จักเขามากแค่ไหนถึงพามานอนด้วยกัน”“จำเป็นด้วยเหรอคะที่ต้องรู้จักกันก่อน ประเทศเราเสรีเรื่องเซ็กส์นะคะคุณย่า”“ชาร์มมิ่ง! หลานเป็นเด็กก้าวร้าวแบบนี้ตั้งเมื่อไหร่กัน เมื่อก่อนหลานไม่เคยเถียงย่าแบบนี้เลยนะ”“เมื่อก่อนคุณย่าก็ไม่เคยบงการชีวิตหนูขนาดนี้เหมือนกันค่ะ&r
หลังจากคำสารภาพหลุดจากปากของหญิงสาวไปแล้ว บรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็เต็มไปด้วยความอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ต่างฝ่ายจะพยายามยิ้มให้กัน“โล่งอกขึ้นแล้วใช่ไหมคะ” เธอถามเขาเมื่อเรือใกล้เทียบฝั่ง“ครับ แต่ใจหนึ่งก็เสียดายที่จะไม่มีโอกาสแบบนี้อีกแล้ว”“เรายังเป็นเพื่อนกันได้นี่คะ ก่อนขึ้นจากเรือเรามาดื่มฉลองเพื่อมิตรภาพกันดีไหมคะ”“ถึงไม่อยากจะรับแต่ก็ตกลงครับ แต่แชมเปญหมดแล้ว” เขาชูขวดแชมเปญที่เหลืออยู่ก้นขวดเพียงเล็กน้อย “บรั่นดีพอไหวไหมครับ”“ดีค่ะ”เมื่อได้คำตอบจากเธอเขาจึงสั่งบรั่นดียี่ห้อโปรดมาหนึ่งขวด และนั่งดื่มกันไปเรื่อย ๆ แม้เรือจะจอดเทียบท่าแล้ว จนกระทั่งเหล้าหมดขวดจึงพากันขึ้นจากเรือ พร้อมเสียงหัวเราะไหลลื่นที่เกิดจากฤทธิ์แอลกอฮอล์“ขอบคุณมากนะคะสำหรับวันนี้ ฉันสนุกมาก” เธอบอกกับเขาเมื่อมาถึงล็อบบี้ของโรงแรม“ผมก็เหมือนกัน” โรเจอร์มองหญิงสาวด้วยสายตาอาวรณ์ “ขอผมจูบคุณสักครั้งได้ไหม”“ฉันเป็นคนไทยค่ะ ให้ผ
“ถ้าอย่างนั้นเราเปลี่ยนมาดื่มบรั่นดีกันไหมครับ เพราะผมก็ชอบดื่มแบบนั้นเหมือนกัน” เขาหัวเราะกับความตรงไปตรงมาของหญิงสาว ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงเออออพอใจกับแชมเปญของเขาไปแล้ว ไม่ว่าจะด้วยมารยาหรือด้วยมารยาท“อย่าเลยค่ะ แชมเปญขวดนี้คงไม่ใช่ถูก ๆ เปิดมาแล้วก็ดื่มให้หมดเถอะค่ะ”“แต่คุณชาร์มมิ่งไม่ชอบนี่ครับ”“ไม่ชอบไม่ได้หมายความว่าดื่มไม่ได้นี่คะ ขวดนี้ราคาก็ไม่ใช่ถูก ๆ ด้วย เราดื่มมันให้หมดดีกว่าค่ะ”“คุณชาร์มมิ่งนิสัยไม่เหมือนลูกคนเศรษฐีเลยนะครับ รู้จักคุณค่าของเงินมาก”“ชมกันเกินไปแล้วค่ะคุณโรเจอร์ ฉันก็แค่ทำตามที่คุณแม่สอนมาเท่านั้น”“คุณแม่คุณชาร์มมิ่งท่านสอนว่าอย่างไรเหรอครับ”“ท่านสอนว่าอย่าทิ้งขว้างสิ่งของเพียงเพราะเราไม่ชอบมัน ไม่ว่าจะเป็นของกินหรือของใช้ ถ้าเราซื้อมาแล้วเราต้องกินต้องใช้ ให้เหมือนกับตอนที่เรารู้สึกอยากได้มัน นี่แหละค่ะที่คุณแม่ฉันสอน”“คุณแม่ของคุณชาร์มมิ่งน่ารักนะครับ ผมอิจฉาคุณจริง ๆ ที่มีคุณแม่คอยอบรม&r
“ส่งแล้วให้อยู่เฝ้าด้วยไหม” เขาทำท่ากะลิ้มกะเหลี่ยใส่เธอ“อย่ามาทำสายตาแบบนี้นะคะ วิไม่ใจอ่อนหรอก”“ใจดำ พี่ก็ขอโทษเป็นร้อยเป็นพันครั้งไปแล้ว ทำไมยังไม่ยกโทษให้พี่อีกล่ะ” ครั้งหนึ่งเขาเคยล่วงเกินเธอ แต่เป็นเธอที่เป็นคนเริ่มต้นก่อนเพราะความเมา เขาเองก็มึน ๆ และเขากับเธอก็เป็นแฟนกัน แล้วแบบนี้ใครมันจะอดใจไหวล่ะแต่หลังจากตื่นขึ้นมาในกลางดึก เธอก็ซ้อมเขาด้วยฝ่ามือและฝ่าเท้าจนระบมไปทั้งตัว แถมยังมีรอยเขียวจาง ๆ ที่หางตาเป็นของแถมให้ลูกน้องสงสัยอีก คืนนั้นเธอพูดกับเขาว่าถ้าไม่อยากให้เธอบอกเลิกก็อย่าฉวยโอกาสอีก และห้ามถูกเนื้อต้องตัวเกินการกอดและหอมจนกว่าเธอจะยกโทษให้“ขอโทษอีกสักร้อยครั้งนะคะ แล้ววิจะยกโทษให้”“โธ่วิ”“ถ้ารักวิจริงก็ต้องทำให้ได้ แค่ร้อยวันเท่านั้น แล้ววิยอมเป็นของพี่ทศด้วยสติที่ครบถ้วนเลยค่ะ” ถึงแม้เธอจะเป็นคนที่เสรีเรื่องเซ็กส์ แต่ก็ไม่ชอบการมีเซ็กส์แบบขาดสติ จึงไม่พอใจกับการกระทำของเขา“ใจร้าย ถ้าเป็นไอ้โมกมันไม่ทนแบบพี่หรอก” เขาพาด