LOGINวิโมกข์คือชายหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดที่ผิดหวังจากความรักอย่างรุนแรง เขากลายเป็นคนอ่อนแอไร้หลัก หมกมุ่นอยู่กับสุรานานนับเดือน แต่หลังจากนั้นก็ได้สติเพราะคำพูดแทงใจของเด็กสาววัยสิบเจ็ดปีคนหนึ่ง เจ็ดปีต่อมาเขาได้กลายเป็นนายหัวผู้ทรงอิทธิพลในธุรกิจค้าหอยเป๋าฮื้อ และต้องเผชิญหน้ากับอดีตคนรักที่เข้ามาอยู่ในบ้านของเขาอีกครั้ง... ชาร์มมิ่งในวัยยี่สิบสี่ปีเดินทางจากนิวยอร์กสู่สงขลาอีกครั้งหลังจากเจ็ดปีผ่านไป เพราะถูกเพื่อนรักขอร้องให้มาแสดงละครขัดขวางอดีตคนรักของพี่ชาย เธอไม่อยากทำแบบนี้เลยเพราะพอใจที่จะแอบรักเขาไปแบบนี้มากกว่า แต่จะทำไงได้ล่ะ.. ในเมื่อเธอก็ถูกผู้เป็นย่าคอยจับคู่อยู่เรื่อยไป จึงตัดสินใจเลือกในสิ่งที่หัวใจปรารถนา... การแสดงที่มาจากส่วนลึกของจิตใจจริงๆ จึงเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่วินาทีที่เธอเจอหน้าเขา
View Moreบทที่ 1 น้ำตาลูกผู้ชาย
วิโมกข์ตัวแข็งเป็นหินเมื่อได้ยินคำพูดของคนที่รักกันมาถึงห้าปี ไม่อยากเชื่อเลยว่าคำพูดแบบนั้นจะออกมาจากปากของเธอได้ และมันก็ถูกพูดออกมาหลังจากที่เขาและเธอเพิ่งจะเสร็จกิจรักกันบนเตียง
“มีนกำลังโกรธโมกใช่ไหม” ชายหนุ่มที่สวมกางเกงเพียงตัวเดียวถามขึ้น คิดว่าตัวเองอาจทำอะไรผิดพลาดตอนที่ร่วมรักกัน จนทำให้เธอไม่พอใจ “โมกทำให้มีนไม่มีความสุขเหรอ เรามาเริ่มกันใหม่อีกรอบก็ได้นะ”
“มันไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก มีนมีความสุขกับมันมาก แต่มีนพูดเพราะเราไปด้วยกันไม่ได้ต่างหาก” มีนาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ไม่มีแววเสียใจแม้แต่นิด “คุณไม่ใช่คนที่มีนต้องการฝากชีวิตด้วย เราจบกันแค่นี้ดีกว่าโมก”
“ทำไมล่ะมีน มีนกลัวว่าโมกจะทำให้มีนลำบากเหรอ ถึงโมกจะเสียพ่อไปแล้ว แต่ท่านก็ทิ้งสวนยางไว้ให้โมกตั้งสามพันกว่าไร่ ฟาร์มหอยเป๋าฮื้อที่โมกบุกเบิกก็เริ่มต้นไปได้ดี แล้วโมกก็ยังมีหุ้นกับบริษัทผลิตยางรถยนต์กับเพื่อนด้วย อีกหน่อยโมกก็จะใช้หนี้ธนาคารหมดและรวยมากกว่านี้ มีเงินให้มีนใช้จ่ายไม่ขาดมือ โมกไม่ปล่อยให้มีนลำบากหรอก อย่าทิ้งโมกไปเลยนะมีนนะ” วิโมกข์ในวัยยี่สิบเจ็ดปีคุกเข่าวิงวอนต่อคนรัก
“อย่าทำแบบนี้เลยโมก มีนไม่ใจอ่อนหรอกนะ” เธอขยับตัวหนีห่างจากเขาอย่างไม่พอใจ “เอาเวลาที่มาฟูมฟายกับมีนไปดูแลบรรดาแม่เลี้ยงของโมกเถอะ ป่านนี้คงมารอคิวขอแบ่งสมบัติกันเต็มบ้านแล้ว”
“อย่าทิ้งโมกไปเลยนะมีน โมกอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมีน” เขาไม่โกรธเธอสักนิดที่พูดจาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันต่อว่าครอบครัวของเขา ได้แต่อ้อนวอนขอความเห็นใจจากเธอ
“มีนหมดรักโมกแล้วเข้าใจซะบ้าง”
“มีน.. อย่าทิ้งโมกนะมีน โมกอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมีน” น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาเป็นทาง ขณะร้องเรียกคนรักที่เดินจากไปอย่างไม่ไยดี
ร้านบาร์เบียร์ จ.สงขลา
บารมีมองสภาพไม่เป็นผู้เป็นคนของเพื่อนเกลออย่างอ่อนใจ ไม่เคยคิดเลยว่าอดีตเพลย์บอยที่พ่อต้องคอยตามเอาเงินไปปิดปากครอบครัวฝ่ายหญิงอยู่บ่อยครั้งเมื่อสมัยแตกเนื้อหนุ่ม จะหมดสภาพเพราะผู้หญิงเพียงคนเดียวได้ขนาดนี้
“ตอนที่พี่เขามาถึงก็เมาแอ๋มาแล้วครับ” ผู้จัดการร้านเล่าให้เจ้าของร้านที่เพิ่งมาถึงฟัง
“แค่ชั่วโมงเดียวกินไปหมดนี่เลยเหรอ” บารมีมองขวดเปล่าบนโต๊ะ
“ครับพี่ทศ พี่เขาเล่นกรอกกับขวดเลยครับ ดื่มไปร้องไห้ไป แล้วก็เรียกหาแต่คุณมีน ผมกลัวแขกคนอื่นจะไม่พอใจเอา ก็เลยโทรเรียกพี่นี่แหละครับ”
“นายช่วยดูแลหน่อยก็แล้วกัน ถ้าเขาฟื้นก็อย่าให้ไปไหน”
“แต่เป็นแบบนี้มาสามวันแล้วนะครับพี่ทศ พี่เขาชอบหายไปตอนที่ผมไม่อยู่ตลอด ผมคงดูแลไม่ไหวหรอกครับ” ผู้จัดการร้านจำใจต้องปัดภาระให้พ้นตัว เพราะดูแลลูกค้าคนอื่นก็ยุ่งมากพอแล้ว ยังต้องมาดูแลคนเมาหนักแบบนี้อีก เขารับไม่ไหวแล้วจริงๆ
“สงสัยต้องส่งกลับไปให้เจ๊หวังจัดการ” บารมีพึมพำกับตัวเองแล้วบอกให้ผู้จัดการช่วยกันพยุงปีกเพื่อนรักไปที่รถ “ขอบใจมาก ดูแลร้านให้ดีล่ะ”
“ครับพี่” ผู้จัดการร้านรับคำแล้วเดินจากไปเมื่อหมดหน้าที่
บารมีปรับดึงเข็มขัดนิรภัยคาดให้เพื่อนรัก ปรับเบาะเอนลงไปอีกหน่อยเพื่อให้เขานอนได้สบายขึ้น แล้วจึงสตาร์ทรถขับออกไป
ฟาร์มสวนยางโชคอนันต์
เจ๊หวังวางผ้าเช็ดตัวลงในกะละมัง มองสภาพของเจ้านายน้อยที่กำลังจะขึ้นมาเป็นใหญ่แทนบิดาด้วยน้ำตาคลอเบ้า
“มีน.. อย่าทิ้งโมกนะ.. โมกรักมีน.. มีน.. มีน.. กลับมาหาโมกนะ.. ผมรักคุณ..”
แม่บ้านใหญ่วัยห้าสิบปีนั่งสะอื้นไห้อยู่ข้างเตียงของชายหนุ่มผู้ผิดหวังจากรัก นางไม่เคยคิดเลยว่าอีปลิงดูดเลือดที่ดีที่แต่งตัวสวยและหลงงมงายกับการพนันจะทำกับคุณหนูของตนได้ขนาดนี้
“โธ่คุณหนูของหวัง หวังกับคุณผู้ชายรู้อยู่เต็มอกว่าอีเป็นคนแบบไหน แต่พวกเราก็จำใจยอมรับอีเพราะอีทำให้คุณหนูมีความสุข เลิกทำตัวเสเพลสร้างแต่ปัญหาให้ตามแก้ หวังไม่เคยคิดเลยว่าอีจะกล้าทำแบบนี้กับคุณหนูของหวัง ฮึก ๆ ๆ”
“โมกอยากตายมีน.. ไม่มีคุณผมตายดีกว่ามีน.. ฮือ ๆ ๆ ฮือๆ ๆ มีน.. อย่าทิ้งผม..”
“โธ่คุณหนู” เจ๊หวังเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาทางหางตาของคนที่กำลังหลับ ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มาโทรหามีนา
(ใครคะ..) เสียงปลายสายถามมาอย่างงัวเงีย
“คุณมีนเหรอคะ หวังเองค่ะ”
(หวัง.. เจ๊หวังใช่ไหม)
“ค่ะเจ๊หวังเอง”
(โทรมาทำไม คุณหนูของเจ๊ไม่ได้อยู่กับฉันหรอกนะ เราเลิกกันแล้ว) เธอกระซิบตอบกลับมา
“หวังรู้ค่ะ หวังถึงโทรมาหาคุณนี่ไงคะ หวังขอร้องนะคะ อย่าเลิกกับคุณหนูของหวังเลยค่ะ คุณหนูของหวังทำอะไรผิดบอกหวังได้ไหมคะ หวังจะได้บอกให้เขารู้ตัว”
(คุณหนูของเจ๊ไม่ผิดหรอก แต่เขาแค่หมดความหมายสำหรับฉันแล้วต่างหาก)
(คุยกับใครครับมีน)
(เขาโทรมาผิดค่ะ) มีนากดสายทิ้งทันที
มือที่กำหูโทรศัพท์สั่นเทาด้วยความโกรธเมื่อได้ยินเสียงผู้ชายดังเข้ามาในสายชัดเจน ที่แท้เธอก็มีผู้ชายคนใหม่นี่เอง เธอถึงได้ทิ้งเขาไปอย่างไม่ไยดีแบบนี้
“พอกันที ชาตินี้อั๊วจะไม่ขอญาติดีกับลื้ออีกต่อไป อีนางงูพิษ!”
สามวันต่อมา ท่าอากาศยานหาดใหญ่
หญิงสาววัยกลางคนหน้าตาคมเข้มแบบสาวใต้แท้ๆ พร้อมด้วยหญิงสาววัยรุ่นหน้าตาบ่งบอกความเป็นลูกครึ่งหนึ่งคน และหน้าตาฝรั่งจ๋าอีกหนึ่งคน กำลังช่วยกันมองหาป้ายชื่อจากผู้ที่มารอรับด้วยใจจดจ่อ
“เขาไปรับผิดสนามบินหรือเปล่าคะแม่” หญิงสาวหน้าตาแบบลูกครึ่งวัยสิบแปดปี นามว่าวิเวียนถามมารดา เพราะเธอรู้ว่ายังมีสนามบินอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดนี้
“แม่โทรมาบอกเขาแล้วว่าที่นี่” ปราณีบอกกับลูกสาวขี้สงสัย
“คนนั้นชูป้ายชื่อคุณครูด้วยค่ะ ใช่เขาหรือเปล่าคะ” หญิงสาวหน้าตาน่ารัก รูปร่างผอมสูงเกินวัยสิบเจ็ดปี นามว่าชาร์มมิ่ง แอนนาเบล เครน ชี้ไปยังคนที่วิ่งถือป้ายเขียนว่า ‘คุณปราณี จากฟาร์มสวนยางโชคอนันต์’ เข้ามา
“ใช่จ้ะชาร์มมิ่ง พี่อำนวยทางนี้จ้ะ” ปราณีตอบรับเด็กสาวแล้วกวักมือพร้อมส่งเสียงเรียกชายคนนั้น
“ขอโทษทีที่มาช้าครับคุณปราณี พอดีรถคันแรกที่ให้มารับคุณมันถูกชนตูด ผมก็เลยต้องออกมาแทน” อำนวยพูดไปหอบไปด้วยความเหนื่อย
“ไม่เป็นไรจ้ะพี่อำนวย เด็กๆ ทักทายคุณลุงเขาหน่อยสิจ๊ะ” เธอปฏิเสธพร้อมรอยยิ้มจริงใจแล้วจึงบอกกับสาวน้อยทั้งสองให้ทักทายผู้ใหญ่
“สวัสดีค่ะ / สวัสดีค่ะ” สองสาวยกมือไหว้หนุ่มใหญ่แบบไทย
“สวัสดีจ้ะ สงสัยจะพูดไทยได้ทั้งคู่นะครับคุณปราณี”
“จ้ะพี่ นี่ลูกสาวฉันเองชื่อวิเวียน แล้วคนนี้ก็ลูกเจ้านายฉันชื่อชาร์มมิ่ง อยู่ที่โน่นฉันถูกจ้างให้เป็นครูสอนภาษาไทยให้ลูกๆ เจ้านายโดยเฉพาะ พอดีโรงเรียนที่โน่นปิดเทอมพวกเขาก็เลยขอมาเที่ยวด้วย แล้วลูกชายฉันเป็นอย่างไรบ้างพี่” เธอแจงรายละเอียดให้ฟังแล้วถามถึงลูกชายด้วยความห่วงใยลึกซึ้ง
“พี่ว่าคุณปราณีไปดูเองดีกว่าครับ” อำนวยตอบเพียงแค่นั้น...
“อือ.. อา..” เขาครางกระเส่าในลำคอ เมื่อถูกปลายนิ้วเรียวคลึงเคล้นที่ปลายเอ็นอุ่นที่จมอยู่ในอ่างน้ำ เรือนร่างแข็งแกร่งเกร็งจนเห็นเส้นเลือดปูดโปน เอื้อมมือไปกุมเต้าเต่งตึงแล้วก้มไปดูดดุน สนองความเสียวซ่านคืนให้แก่เธอบ้าง “ชาร์มจ๋า ทำไมถึงซุกซนอย่างนี้ล่ะครับ อา..เมียจ๋าครับ เมียจ๋าของผัว”“พี่โมกปากหวาน” หญิงสาวชอบคำเรียกหาของสามี ทุกครั้งที่เสพสมด้วยกันเธอจึงตื่นตัว มีอารมณ์ร่วมไปกับเขาอย่างมาก “พี่โมกขา..ซู้ด.. ชาร์มเสียว ซู้ด..” เธอครวญครางบอกเขาก่อนจะจูบเขาวิโมกข์จูบตอบภรรยาอย่างดูดดื่ม ขณะที่มือเลื้อยต่ำไปที่ระหว่างเรียวขา ลูบไล้เนินเนื้อที่คั่นกลางที่ทำให้เขาคลั่งไคล้“ชาร์มมีความสุขมั้ย ซู้ด..”“มีสิคะ” ตอบแล้วจัดการขยับสะโพกกลืนกินเอ็นอุ่นของสามี แล้วเป็นฝ่ายขับเคลื่อน พาสามีทะยานสู่ความสุขด้วยตนเอง“เมียจ๋า.. ผัวเสียว อา..” วิโมกข์แทบคลั่งทุกครั้งที่เมียรักเป็นฝ่ายขึ้นคร่อม “โอ๊ยเสียว..” ทั้งกอดทั้งดูดดุนยอดอกเต่งตึงที่กระเพื่อมอยู่ตรงหน้า“อา..” ร่างระหงสะท้านเยือก เสียวสะท้านทั้งช่วงบนและช่วงล่าง กอดคอสามีไว้แน่นเมื่อเขาอุ้มเธอในท่า
“ถ้ามึงอยากให้น้องสาวคนสวยของมึงเป็นม่ายก็เอาสิวะ” บารมีทำท่าจะลุกขึ้นบ้าง แต่คนรักของเขาไม่ยักห้ามอย่างที่คิดไว้ จึงหันไปค้อนใส่เธอ “ทำไมไม่ห้ามพี่บ้างล่ะวิ เสียฟอร์มหมดเลย”วิเวียนหัวเราะชอบใจกับการข่มใส่กันของคนรักและพี่ชาย “ก็วิอยากเห็นพลังแห่งรักของพี่ทศนี่คะ“พี่โมกกับพี่ทศนี่ตลกดีนะคะ วันหลังมาแสดงละครให้เราสองคนดูอีกนะ” ชาร์มมิ่งชูนิ้วโป้งให้เพื่อนซี้ทั้งสอง“เพราะมึงคนเดียวเลยไอ้ทศที่แสดงไม่เนียน”“เพราะมึงนั่นแหละที่ไม่ยอมชักปืนออกมาจริง ๆ”“ให้กูยิงมึงจริง ๆ เลยไหมล่ะ จะได้ตายสมจริงไง”“อยากให้น้องมึงเป็นม่ายก็เอาสิวะ” บารมีท้าทายด้วยประโยคเดิม ทำหน้าตายียวนใส่เพื่อนรักการโต้เถียงกันของสองหนุ่มคู่ซี้สามสิบปี สร้างเสียงหัวเราะให้กับสองสาวคู่ซี้ยี่สิบปีจนน้ำตาไหล และจบลงด้วยการนอนเล่นที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ จนเผลอหลับไปจริง ๆ ทั้งสี่คน... จบ ...ตอนพิเศษ3 ปีผ่านไป
วิเวียนหัวเราะชอบใจเมื่อได้ยินพี่ชายพูดดังนั้น “จ้างให้ก็จับไม่ได้หรอกค่ะ เหนือสายสืบยังมีเมียสายสืบ ประโยคนี้ไม่เกินจริงค่ะ”“แต่คุณไอเธอก็มาดีจริง ๆ นะไอ้โมก ทำตัวเหมือนลูกค้าทั่วไป ไม่เห็นจะมาแซะกูตรงไหนเลย.. ไม่น่าเชื่อว่าลับหลังจะร้าย”“เพราะเธอเป็นนักแสดงไงคะ รู้จักมารยาหญิงไหม” วิเวียนกระแทกเสียงถามคนรัก“ดูท่าจะจบไม่ดีซะแล้ว รีบไปกันดีกว่า เดี๋ยวเราจะติดเชื้อไปอีกคู่” วิโมกข์บอกคนรัก“หมั่นไส้ ๆ ๆ จะรักกันไปถึงไหนคะ” วิเวียนเหน็บแนม แต่ใจจริงนั้นพอใจกับความรักของพวกเขาทั้งคู่อย่างที่สุด นึกขอบคุณเพื่อนรักอยู่เสมอที่รักพี่ชายของเธอจากใจจริง ทำให้เขากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง“เธอทำให้ฉันรู้และเข้าใจคำว่าสองเรา ไม่ว่าจะร้อนหรือว่าจะหนาวก็ไม่กลัว มีเธอที่รักข้างในจิตใจ ให้ฉันก้าวเดินต่อไป ต่อจากนี้..” วิโมกข์ร้องเพลงท่อนหนึ่งของเพลงโปรด ที่รู้สึกว่าเข้ากับชีวิตรักของเขามากอีกสามคนที่เหลือถึงกับปล่อยเสียงว้าวออกมาดังลั่น ไม่คาดคิดว่านายหัวอันดับหนึ่งของเมืองไทยจะมีคว
“จะเหมือนกันได้อย่างไร ในเมื่อคนทำคนเดียวกัน ป้าหวังเขารอบคอบจะตาย” วิเวียนกล่าวชมผู้อยู่เบื้องหลังอาหารปิกนิกสองชุดนี้จากใจ ยื่นน้ำเย็นให้พี่ชายแล้วจึงยื่นให้คนรักอีกแก้ว“แต๊งกิ้ว” ชาร์มมิ่งรับแก้วน้ำดื่มจากเพื่อน “วันเสาร์ที่จะถึงนี้เรามาปิกนิกกันอีกนะคะพี่โมก ชาร์มจะได้พาอีริคมาด้วย” เธอยังมีแก่ใจนึกถึงเด็กชายตัวน้อยในบ้าน“ถ้าแม่เขาไม่มานะ” วิโมกข์นึกสงสารเด็กน้อยอยู่เหมือนกัน และหวังว่ามารดาของเขาจะแวะมาเยี่ยม หลังจากที่หายเงียบไปสองอาทิตย์แล้ว“เราน่าจะพาเขาไปเที่ยวทะเลสักวันนะคะพี่โมก” วิเวียนแนะนำ“รอให้เขาปิดเทอมก่อนดีกว่าวิ ใกล้สอบแบบนี้ให้เขาตั้งใจทบทวนบทเรียนก่อน สอบเสร็จค่อยพาไปฉลอง” บารมีแย้งเพราะเห็นว่าอีกไม่ถึงเดือนโรงเรียนก็จะสอบแล้ว“อย่างที่ไอ้ทศพูดก็เข้าท่านะ” วิโมกข์เห็นด้วย“ถ้าอย่างนั้นวิจะบอกอีริคให้ตั้งใจอ่านหนังสือสอบ ถ้าสอบได้คะแนนดี ๆ จะมีรางวัลให้” เธอนึกถึงวิธีที่บิดาชอบทำ“อย่าทำบ่อย ๆ นะวิ เดี๋ยวอีริคจ





