หญิงสาวงงงวยกับคำพูดของเขา จะมาแนะนำชื่ออะไรกัน เธอไม่ได้สนใจเรื่องชื่อ แต่สนใจเรื่องที่เขาทำกับเธอ
ม่านฟ้าพยายามไม่มองอะไรที่มันห้อยโตงเตง แต่เพราะเธอนั่งอยู่บนเตียง ระดับสายตาเธอมันอยู่ระดับเอวเขาตลอดเวลา หญิงสาวยืนขึ้นเต็มความสูง
อย่างนี้ค่อยยังชั่วหน่อย เธอจะได้สูงเท่าเขา
“ไม่ได้ข่มขืนแล้วนี่อะไร รอยพวกนี้อย่าบอกนะว่าไม่ใช่แกทำ” เธอชี้รอยบนตัวที่มองเห็นจากเนินหน้าอกจนถึงหน้าท้องแบนราบและน้องสาว รอยดูดจนขึ้นสีแดงกุหลาบเกิดขึ้นแทบจะทั่วตัวเธอ
เขามีปากเดียวหรือมีหลายปากถึงได้ดูดขนาดนี้ เห็นเธอเป็นของกินหรือไง ดูดกันขนาดนี้
“ฉันก็เป็นรอยเหมือนกัน” คนยืนห้อยโตงเตงเองก็ไม่ยอม ใช่ว่าเขาดูดเธอคนเดียวเสียที่ไหน เธอเองก็ดูดเขาไม่ต่างกัน
“ตรงไหนไม่ทราบ” คนยืนบนเตียงไม่ยอมรับ ดูแล้วเขาไม่ได้มีตรงไหนที่เป็นรอยแดงเลยสักนิด
ท่านประธานหนุ่มหันหลังให้เธอ ม่านฟ้าใช้สองมือปิดปากตัวเองไว้แน่น ซากอารยธรรมข้างหลังเขานั่นฝีมือเธอเหรอ จะว่าเขาทำตัวเองก็คงไม่ใช่ เพราะอยู่กันแค่สองคน แก้มก้นของเขาทั้งสองข้างมีรอยกัดด้วย
แล้วภาพความทรงจำบางอย่างก็เกิดขึ้นในมโนสำนึกของเธอ
“ก้นคุณน่ากินจัง”
“อา...อย่ากัด”
“ก็มันน่ากิน เหมือนซาลาเปาเลย ขอกินหน่อยนะ ซาลาเปากับไส้กรอกน่ากิน”
เมาแหละ คงเพราะเธอเมา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็เพราะความเมาทั้งนั้น เธอจำอะไรไม่ได้เลย
“อา...หมิงเสียว”
เธอจำไม่ได้สักอย่าง จำไม่ได้เลย
“เอาอีกนะคะ หมิงยังอยากอยู่”
“อา...อย่างนั้นแหละค่ะ เลียตรงนั้นเลย”
อีหมิง!...มึงทำอะไรลงไป
ม่านฟ้ามองหน้าเขาพร้อมกับรู้สึกผ่าวร้อนทั้งใบหน้าเพราะความอาย แต่ไอเย็นของเครื่องปรับอากาศทำให้หนาวยะเยือกไปทั้งตัว และระลึกขึ้นมาได้ว่าตอนนี้ทั้งเขาและเธอต่างเปล่าเปลือย
“ไอ้แก่บ้า” เธอบ่นพึมพำกลบเกลื่อนความอายแล้วรีบเดินไปเข้าห้องน้ำทันที
ทว่า...
“เฮ้ย!” หญิงสาวร้องพร้อมกับผงะจากกระจกบานใหญ่ในห้องน้ำด้วยความตกใจ นี่ใช่ไหมที่ก่อนหน้านี้เขากระถดถอยหนีเธอ โธ่...อีหมิง อีผี!
ใช่เลย ไม่ผิดหรอก หน้าเธอตอนนี้จะเรียกว่า ‘ผี’ ก็คงไม่ผิด ใบหน้างี้เลอะเทอะไปด้วยเครื่องสำอาง ขอบตาที่พี่อุ๊ช่วยกรีดให้เมื่อตอนเย็นวานไหลย้อยลงมาเกือบถึงปลายจมูก
แล้วไอ้ขนตาปลอมที่เคยติดอยู่บนขอบตา ตอนนี้มันย้ายไปติดที่คิ้วแทน ก็สมควรหรอกที่เขาจะกลัว อย่าว่าแต่เขากลัวเธอเลย เธอเองก็ยังกลัวตัวเองด้วยซ้ำ นี่มันอะไรกัน น่าอายชะมัด!
สาวหน้าเลอะมองหาอุปกรณ์ที่พอจะทำให้หน้าตัวเองกลับมาเป็นปกติ หันซ้ายหันขวาเห็นแต่เจลล้างหน้า
“ไม่ขอแล้ว ใช้เลยละกัน รับหน้าตัวเองไม่ไหว” หญิงสาวบ่นกับตัวเอง
“เฮ้ย! เข้ามาทำไม” ม่านฟ้าตวาดแหวใส่คนที่เดินเข้าห้องน้ำมาด้วยหน้าตาซื่อ ๆ
“จะเข้าห้องน้ำ ทำอะไรนานนักหนา”
โห พอบ่นนี่พูดไทยชัดเชียว หญิงสาวค้อนให้ท่านประธาน จากนั้นก็รีบล้างหน้าผีของเธอออกอย่างตั้งใจ หวังว่าสิวจะไม่ขึ้นนะ
คนหนึ่งล้างหน้าอยู่ตรงเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า อีกคนที่อยู่ในมุมหนึ่งของห้องน้ำกำลังยืนปล่อยมวลน้ำที่อัดแน่นมาทั้งคืนลงชักโครก เสียงของก๊อกน้ำหยุดแล้ว แต่เธอได้ยินเสียงเขาปัสสาวะอย่างชัดเจน
‘ผู้ชายหน้าไม่อาย ฉี่ทั้งที่ผู้หญิงยืนอยู่ตรงหน้า ด้านเบอร์ไหน’ ม่านฟ้าค้อนให้คนที่ไม่สนใจเธอ
“ไม่อายเหรอ” เขาพูดในตอนที่ตัวเองมายืนกอดอกมองเธอ
“เฮ้ย! ห้ามมอง” คนหน้าแดงหันหลังให้เขา รีบใช้มือปกปิดร่างกายของตนเอง เธอกะว่าล้างหน้าเสร็จแล้วจะอาบน้ำ เลยไม่ได้นุ่งผ้าเช็ดตัว แล้วตอนที่เขาเดินเข้ามา เธอก็มัวแต่สนใจร่างกายเปลือยเปล่าของเขา ทำให้ไม่ได้สนใจร่างกายตัวเอง
“ฉันไม่กินซ้ำ ไม่ต้องกังวล” คนไม่กินซ้ำเดินเข้าตู้อาบน้ำโดยไม่สนใจเธอเลยสักนิด
ความร้อนไล่ลามตั้งแต่อกขึ้นบนผิวหน้าของม่านฟ้า ทั้งโกรธ ทั้งอาย ทั้งโมโห ใครจะให้เขากินซ้ำกัน ถึงเขาอยากแค่ไหน บอกเลยว่าเธอก็ไม่ยอม ที่ยอมเมื่อคืนเพราะเมาทั้งนั้นแหละ
ไม่ต้ององต้องอาบมันแล้วน้ำ เธอรีบล้างหน้า คิดว่าจะกลับห้องของตัวเองก่อนที่เขาจะอาบน้ำเสร็จ
ยังไม่ทันที่ขาของเธอจะก้าวออกจากห้องน้ำ คนไม่กินซ้ำก็โผล่หัวออกมาจากตู้อาบน้ำและสั่งเธอเสียงเข้ม
เรียกได้ว่าดีแลนหวังคือเฮียที่จิตใจดีของคนรอบข้าง ชวีชอบพูดว่าดีแลนหวังไม่เหมือนพ่อตรงนิสัย แต่ใคร ๆ ก็รู้ว่าชวีแค่ประชด ถึงจะเป็นพี่น้องต่างมารดา แต่หวังชางดูแลน้อง ๆ ดีเสมอ ทั้งยังเป็นคนได้สมบัติน้อยที่สุดเวลาพ่อแบ่งอะไรให้ทั้งสามคน ‘มันของนอกกาย ที่มีก็ใช้ไม่หมด’ นั่นคือคำพูดของคนที่เคยประสบเคราะห์ร้ายมาหลายเรื่อง ทั้งเรื่องลักพาตัว ทั้งอุบัติเหตุ กาสิโนที่มาเก๊าตอนนี้หวังชางยกให้เดวิดหวังทั้งหมด ตั้งแต่รู้จักกับม่านฟ้าและแม่ยายทั้งสองพาเข้าวัดบ่อย ๆ ทำให้เขาได้รู้แล้วว่าชีวิตเราไม่มีอะไรมาก แต่อย่าโลภ อย่าอยากได้ของที่ไม่ใช่ของเรา และประกอบอาชีพสุจริต เป็นแบบอย่างที่ดีกับลูก เงินที่มีเอาไปด้วยไม่ได้เมื่อถึงเวลาที่ต้องจากโลกนี้ไป เราต้องรู้จักแบ่งปัน ยิ่งให้เราจะยิ่งได้ เมื่อก่อนเขาไม่เคยคิดว่าคำสอนนี้จะเป็นจริง แต่ตอนนี้เขาเชื่ออย่างหมดใจ และยิ่งเชื่อมากขึ้นเมื่อในอีกสองปีต่อมาเขากับม่านฟ้าก็มีลูกชายฝาแฝด เด็กชายแพทริกและพาริสหวัง แฝดสองคู่ด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่ต้องคิดอะไรมาก เรื่องนี้หวังชางเก็บไว้อวดได้อีกหลายคน พวกมันทำลูกได้ เขาไม่เถียง แต
สองหนุ่มสาวเจ้าของปาร์ตี้ตรงไปยังห้องน้ำทันทีที่ได้ที่ตรวจการตั้งครรภ์ หวังชางเข้าไปในห้องน้ำเพื่อลุ้นกับม่านฟ้า สายตาของทั้งสองจับจ้องที่ตรวจทั้งห้าอันก่อนจะร้องเฮออกมาด้วยความดีใจ ไม่น่าเชื่อว่าครั้งนี้ก็ติดง่ายดาย “เป็นไง ท้องไหม” คำถามของน้องชายสุดที่รักดังขึ้นทันทีที่ม่านฟ้ากับหวังชางกลับมาที่โต๊ะหมูกระทะ “ท้อง ระดับกูก็ต้องท้องอยู่แล้ว” คนเมียท้องได้ทีคุยโวเป็นการใหญ่ ให้มันได้อย่างนี้สินะ ความเล่นใหญ่ไม่มีใครเกินคุณชายใหญ่ ชวีคีบหมูสามชั้นย่างเหลืองกรอบวางบนจานของคุณชายใหญ่เพื่อเป็นรางวัลที่ผลิตหลานให้เขาเพิ่ม “ไอ้ชายรอง กูเหม็น” ว่าแล้วพี่ชายใหญ่รีบวิ่งไปยังห้องน้ำเพื่ออาเจียน แต่ดูแล้วไม่มีใครสงสารหวังชางเลยสักนิด พวกเขาได้แต่หัวเราะคิกคัก โดยเฉพาะม่านฟ้าเมียรักของเขาหัวเราะไม่ยอมหยุด คอยดูนะ คนท้องก็คนท้องเถอะ เขาจะใช้แรงงานให้เข็ดไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ นอกจากท้องง่ายแล้ว ทั้งสองยังได้ลูกแฝดในท้องนี้ นี่ละนะ เวลาคนเราดวงขึ้นทำอะไรก็ดีไปหมด ใครจะคิดว่าท้องลูกคราวนี้ได้ถึงสองคนอย่างที่ม่านฟ้าหวังไว้ เพราะท้องแฝดจึงอยู่ในการดูแลขอ
เขาดูแลเธอดีตั้งแต่ตั้งท้อง คลอด และช่วยเลี้ยงลูก ม่านฟ้าเคยคิดเหมือนที่ในนิยายพูดไว้ ว่าเธอคงเป็นพวกกู้ชาติหรือไม่ก็เป็นแม่ทัพแนวหน้าในชาติที่แล้ว ชาตินี้ถึงได้โชคดีได้ผู้ชายอย่างหวังชางเป็นสามี “อย่าบีบแรง อืม” เสียงคำรามของเขาพาหัวใจคนบีบสยิวซ่าน “ตกลงคนที่จะทนไม่ได้ตอนท้องนี่เฮียหรือหมิงกันแน่ เมียเฮียฮอตตลอด” หวังชางกระเซ้าคนที่ทั้งลูบทั้งบีบ จากที่นิ่ม ๆ ตอนนี้เริ่มไม่นิ่มแล้ว ทุกอย่างกำลังตั้งชี้โด่เด่รอคอยการปลดปล่อย “นั่นสิคะ หรือว่าทั้งคู่” ม่านฟ้าหัวเราะคิกคักเมื่อเขาพลิกกายมาคร่อมเธอ “เรานี่นะ สามยกแล้วยังไม่พออีกเหรอ ตัวเองได้นอนกลางวัน แต่เฮียเนี่ยแอบงีบในห้องทำงาน ประธานหวังจะตัดออกจากกองมรดกเอานะ” คนจะโดนตัดออกจากกองมรดกซุกหน้ากับหน้าอกนุ่ม ม่านฟ้าอยากจะเถียง แต่ไม่อยากจะพูดมาก ในเวลานี้เธอทำเพียงแอ่นกายให้เขาดูดกลืนได้ถนัดมากขึ้นสามเดือนต่อมา หวังชางและม่านฟ้าบินมาเที่ยวเมืองไทย ฟ้ารุ่งและฟางซีซวน รวมทั้งท่านประธานหวังเดินทางมาพร้อมกับทั้งคู่ เพราะเป็นห่วงดีแลนหวังนั่นแหละ ผู้ใหญ่ทั้งสามคนรวมถึงเจ
“นี่น้องชายหมิง” ฟ้ารุ่งเปิดรูปเด็กชายวัยสิบสามปีใส่ชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนชื่อดังในต่างประเทศ “หล่อจังเลย” ม่านฟ้าชม “แอ๊ะ แอ๊ะ!” “โอ๋ หล่อไม่เท่าดีแลนของยายหรอก” ฟ้ารุ่งตบตูดเด็กชายตัวน้อยที่ปีนขึ้นมานอนบนอกแม่ “ตอนที่เราจากกันหมิงอายุเท่าไหร่นะคะพี่เจน” ฟ้ารุ่งถามถึงอดีตที่เธอลืมเลือนไปเสียแล้ว “ตอนนั้นหมิงสิบขวบ” นี่เป็นครั้งแรกที่เจนสุดาเล่าทั้งรอยยิ้ม ความทุกข์ใจในเวลาเก่าก่อนได้หายไปแล้ว ครั้งนี้พวกเขาทั้งสี่คนได้กลับมาอยู่ร่วมกัน “หมิงร้องไหมตอนแม่ไม่อยู่” ฟ้ารุ่งลูบหลังลูกสาวอย่างห่วงใย ช่วงเวลาที่ขาดหายไปหลายปีทำให้เธอรู้สึกปวดใจ “แม่ ก็ต้องร้องสิ ไม่ร้องก็แปลกแล้ว แต่หมิงไม่ได้ร้องให้แม่เจนเห็นนะคะ กลัวแม่เจนเป็นห่วง” ม่านฟ้าเวลานั้นรู้ว่าแม่ฟ้าหายไป เธอร้องไห้เพราะกลัวว่าแม่จะตาย แต่ก็ไม่อยากให้แม่เจนที่เอ็นดูเธอต้องเสียใจด้วยเหมือนกัน ตอนนั้นเธออายุสิบขวบ รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร มีเรื่องของคนไม่ดีที่ตามแม่เจนทำให้เธอและแม่เจนต้องหนี นั่นก็เป็นปัญหาใหญ่ของเธอและแม่เจนเวลานั้น ม่านฟ้ารู้ดีว่าไม่ค
ฟางซีซวนเล่าเรื่องราวของฟางหมิงให้กับคนในครอบครัวตระกูลหวังฟังอย่างไม่ปิดบัง เขาเดินทางไปติดต่อการค้าที่ประเทศไทย ก่อนจะกลับเขาจึงแวะดื่ม และไม่คิดว่าจะเจอกับนักเลงแถวนั้นที่พยายามจะปล้นเขา เขาวิ่งหนีแต่โดนยิงที่ขา ฟางซีซวนเองก็ไม่รู้ว่าฟางหมิงเข้ามาช่วยเขาตอนไหน รู้แต่ว่าทั้งคู่วิ่งไปจนสุดทาง เสียงน้ำกระทบฝั่งบอกให้รู้ว่าข้างหน้าเป็นแม่น้ำหรือทะเล ฟางหมิงพาเขากระโดดลงน้ำ ในตอนนั้นทั้งคู่จมลงไปในน้ำลึก แต่อาจเพราะความโชคดีของพวกเขาก็ได้ที่เจอคนช่วยไว้ทัน แต่น่าเสียดายคือฟางหมิงบาดเจ็บที่ศีรษะต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัด ในเวลานั้นไม่มีเวลาจะตามหาญาติคนไข้หรือดำเนินเรื่องเอกสารที่ถูกต้อง ฟางซีซวนให้เพื่อนของเขาที่เป็นนักธุรกิจใหญ่ช่วยเหลือในครั้งนั้น ฟางหมิงหลับไปหนึ่งเดือนเต็ม และเมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งเธอก็จำอะไรไม่ได้เลย ฟางซีซวนใช้อำนาจที่มีจัดการเรื่องเอกสารและแต่งงานกับเธอพร้อมพาเธอมาอยู่ฮ่องกงในเวลาต่อมา “อาหมิงฟื้นขึ้นมาพูดแค่ ‘หมิง’ ผมจึงตั้งชื่อเธอใหม่ว่าฟางหมิง หลังจากที่เราแต่งงานกัน” ฟางซีซวนเล่าถึงอดีต ซึ่งคนที่นั่งฟังอย่างเจนสุดาได้
เจนสุดานึกขอบคุณสวรรค์ที่ส่งลูกทั้งสองมาให้เธอ ถึงเธอจะไม่ได้คลอดม่านฟ้ามาเอง แต่เพราะอยู่ด้วยกันมาสิบกว่าปี ความผูกพันจึงมีไม่น้อย ส่วนเจนิตาคือลูกที่เธออุ้มท้องและเลี้ยงดูมาถึงสิบปี ความรักและสายใยของสายเลือดนั้นแนบแน่นเกินกว่าช่วงเวลาที่ขาดหายไปจะพรากความรักความห่วงใยของแม่ลูกได้ หลังจากไหว้พระใหญ่ พวกเขาแวะรับประทานอาหารเจในวัดที่มีบริการ ต้องยอมรับว่าอาหารเจของที่นี่ โดยเฉพาะเต้าหู้ถือว่ารสชาติค่อนข้างดี “กลับกันรึยังสาว ๆ” หวังชางที่เดินถ่ายรูปจนครบทุกจุดกลับมาถามสาว ๆ ที่กำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารเจ “เฮียไม่กินเหรอ” ม่านฟ้าถามอย่างห่วงใย “ไม่ ๆ เพิ่งกินกาแฟไป” ถึงที่นี่จะอยู่สูงจนต้องนั่งกระเช้ามาหลายนาที แต่กาแฟเจ้าดังที่มีสาขาทั่วโลกก็ยังตั้งอยู่บนยอดเขาแห่งนี้ เรียกได้ว่าความสะดวกสบายครบครัน “อิ่มแล้วไปกันเถอะ คิดถึงดีแลนแล้ว” เจนิตาลุกและเร่งทุกคน ป่านนี้เจ้าอ้วนพุงกะทิของเธอจะนอนกลางวันหรือยังนะ “นั่นสิ ดีแลนหลานอา” พลอยใสเองก็ติดหลานยิ่งกว่าใคร อยากฟัดหลานรักให้หายคิดถึง หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นพว