LOGIN“หนุ่มน้อยคืนนี้ช่วยบริการพี่หน่อย พี่จะจ่ายให้อย่างงาม” “คุณคือใคร เข้ามาในห้องผมได้ยังไง” เธอผลักผลักเขาลงบนเตียง กระหน่ำไม่ยั้ง จนเขาเองยังไม่ทันตั้งตัว แต่ก็ปฏิเสธความต้องการตัวเองไม่ได้เช่นกัน ณิชา…คุณหนูไฮโซผู้เคยมีทุกอย่าง แต่ชีวิตกลับพลิกผันหลังครอบครัวล้มละลาย เธอถูกบังคับให้แต่งงานกับ คีรติ ทายาทหนุ่มเย็นชา เพื่อพยุงธุรกิจของตระกูล แต่ก่อนวันแต่งงาน… เธอขอคืนเดียวของอิสรภาพ เพียงแค่คืนเดียว…ที่เธอตั้งใจจะทำในสิ่งที่ใจอยากทำ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เธอเข้าห้องผิด…และนอนกับชายหนุ่มที่เธอจะต้องแต่งงานด้วย เขาเย็นชา เกลียดผู้หญิงเจ้ามารยา แต่เธอ…ร้ายจนจับทางไม่ได้ ความเข้าใจผิด ความหึงหวง และไฟร้อนรัก… เริ่มปะทุขึ้นระหว่างคนสองคน “เมียร้าย” กับ “สามีเย็นชา” เกมรักครั้งนี้…ใครจะชนะ ใครจะพ่ายใจ
View Moreห้อง VIP 66
“ถ้าตระกูลอภิพัฒน์วัฒนากุลรู้ว่าฉันไม่บริสุทธิ์... อยากรู้เหมือนกันว่าจะยังอยากให้ฉันแต่งงานกับนายคีรติอยู่ไหม?...”
เสียงหัวเราะเย้ยหยันลอดออกจากริมฝีปากบางของณิชา หญิงสาววัยยี่สิบสี่ ผู้เคยได้ชื่อว่าเป็นคุณหนูไฮโซ ร่ำรวยใช้เงินเหมือนกระดาษที่ผลิตได้เอง
ณิชาเดินเซเข้ามาในห้องพัก VIP 66 กลิ่นแอลกอฮอล์เจือปนกับน้ำหอมราคาแพง เธอปลดส้นสูงออก เดินเท้าเปล่าขึ้นเตียงโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
เสียงประตูห้องน้ำเปิดออก กลิ่นสบู่จางๆ ลอยมากับไออุ่นของไอน้ำ ชายหนุ่มร่างสูงในเสื้อคลุมอาบน้ำสีดำยืนอยู่ตรงนั้น เขาคือ (คีย์ คีรติ หนุ่มวัยยี่สิบเก้า)
“คุณคือใคร เข้ามาในห้องผมได้ยั—”
เขา ไม่ได้พูดจบ เพราะณิชาเดินเข้ามาใกล้เกินไป ดวงตาเธอแดงวาวจากฤทธิ์แอลกอฮอล์และแรงอารมณ์พลุกพล่าน
“พ่อหนุ่มคืนนี้ช่วยบริการพี่หน่อยนะจ๊ะ รับรองได้เลยว่าพี่จะจ่ายให้อย่างงาม...”
น้ำเสียงของเธอแฝงความเย้าท้าทาย ทั้งร้ายและเศร้าในเวลาเดียวกัน
เขาขมวดคิ้ว เขารู้สึกถึงบางอย่างในน้ำเสียงนั้นความปวดร้าวที่ซ่อนอยู่ใต้รอยยิ้มร้าย
“คุณเมา กลับห้องคุณเถอะ ที่นี่ห้องผม”
เขาเอ่ยเสียงเข้ม
“นี่แหละ... ห้องของฉันฉันเช่าไว้ไม่ผิดแน่”
เธอตอบดวงตาปรือลิ้นรัวแทบพูดไม่เป็นภาษา
ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้อีกก้าวจนได้กลิ่นสบู่จากตัวเขาอย่างชัดเจน
แรงผลักจากเธอทำให้เขาถอยไปชนขอบเตียง เธอจ้องหน้าเขา อย่างแรงท้าทาย
“อย่ามองฉันแบบนั้นสิ...”
เธอกระซิบเสียงแผ่ว
“ฉันจ้างคุณมานอนกับฉัน... หากไม่พร้อมบริการ บอกมา...จะได้เรียกคนอื่นมาบริการแทน...”
น้ำเสียงของเธอเย็นชา แต่แฝงความสั่นไหวบางอย่างอยู่ในนั้น เหมือนพยายามกลบความเจ็บด้วยความร้าย
เธอสบตาเขา แล้วตบบ่าเบา ๆ รอยยิ้มเยาะบนริมฝีปากบางทำให้หัวใจเขาสะดุด
แสงไฟสลัวภายในห้อง สะท้อนผ่านผิวขาวนวลของเธอ เผยให้เห็นความขัดแย้งระหว่างความเย่อหยิ่งกับความเปราะบางที่ซ่อนอยู่ภายใน
“ว่ายังไง... หากไม่ปิดดีล พี่จะได้เรียกคนใหม่แล้ว ชัดช้าเสียอารมณ์”
เสียงเธอแผ่วต่ำแต่ชัดเจน ยั่วเย้าและท้าทาย
“แต่บอกตามตรงพี่เสียดายน้องนะถ้าไม่รับงานนี้... น้องหล่อเหลาถูกใจพี่มาก”
สองมือบางคล้องคอเขาแน่น กลิ่นน้ำหอมราคาแพงผสมกลิ่นสบู่จากตัวเขา ทำให้อากาศรอบตัวร้อนขึ้นอย่างประหลาด
คีย์ยืนนิ่ง ดวงตาคมใต้แสงไฟห้องนุ่มนวลเขาสบตาเธอ ริมฝีปากเม้มแน่นเหมือนกำลังหักห้ามบางอย่างในใจ
“คุณเมามาก กรุณาตั้งสติ”
เสียงเขาแผ่วต่ำและทุ้มลึก
“เมาแล้วไง เมาแล้วมีเงินจ่าย นายก็เมากับฉันสิ...”
เธอขยับเข้าใกล้มากขึ้นจนลมหายใจแทบจะกลืนกัน
ปลายนิ้วของณิชาลูบผ่านแนวกรามของเขาเบาๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งเย่อหยิ่ง ทั้งเจ็บช้ำในคราวเดียว
“ถ้าคุณไม่อยากเสียเวลาฉัน ก็ผลักฉันสิ...หรือคุณไม่กล้า?”
คำพูดนั้นเหมือนคำสั่งท้าทาย เขามองเธอนิ่ง ความร้อนจากร่างของหญิงสาวซึมผ่านจนหัวใจเต้นแรง
แต่แทนที่จะผลัก... เขากลับยกมือขึ้นจับข้อมือเธอไว้แน่น
“คุณไม่รู้หรอกว่ากำลังเล่นกับอะไรอยู่...”
“แล้วฉันเล่นกับอะไรอยู่บอกฉันมาสิ ....อยากลอง”
เสียงหัวเราะของเธอเบา แต่แฝงแรงปะทะที่ทำให้เขาแทบลืมหายใจ
แววตาของเธอร้อนแรงจนแทบจะกลืนเขาได้ทั้งตัว
ปลายนิ้วบางวางอยู่บนต้นคอ เขารับรู้แรงสั่นเล็กๆ จากมือเธอ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ หรือเพราะหัวใจของเธอกำลังเต้นแรงจนควบคุมไม่ได้
“คุณแน่ใจนะ…ว่าจะไม่เสียใจ”
เสียงเขาแหบต่ำ แฝงความลึกเหมือนกลืนลงไปในลำคอ
เธอเลิกคิ้ว มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ราวกับผู้ชนะในเกมที่เขายังไม่ทันตั้งตัว
“ฉันเลือกแล้ว… ไม่เคยเสียใจ”
เขามองเธอสักครู่ น้ำเสียงเข้มขึ้นแต่แฝงความอบอุ่น
“งั้นคืนนี้… ผมจะบริการคุณเอง”
ความเงียบชั่วครู่เต็มไปด้วยแรงดึงดูด แสงไฟสลัวสะท้อนดวงตาและรอยยิ้มของเธอ
ทั้งคู่ยืนอยู่ใกล้กัน หัวใจเต้นแรง ดวงตาสื่อถึงความท้าทายและแรงปรารถนาที่ไม่อาจปฏิเสธ
เขากดจูบที่ริมฝีปากเธออย่างแรง ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากเล็ก ๆ ของเธอ กวัดไกว่ตามซอกฟันเรียงซี่ ก่อนดูดดึงลิ้นเล็กรียวอย่างหิวกระหาย
“อืม....”
ณิชาครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว นี่คือครั้งแรกที่เธอได้ต้องมือชาย ทุกการสัมผัสเธอถึงกับขนลุกเพราะความเสียวซ่าน
เธอหายใจถี่ เขาสังเกตได้ทันที เธอไม่เหมือนผู้หญิงที่ช่ำชอง หรือเคยผ่านประสบการณ์แบบนี้
แต่สิ่งที่เขาเห็นคือความกล้าและความท้าทายในสายตาเธอ เย้ายวนเขายิ่งนัก
เกาะอกถูกถอดออกจากร่างเล็ก เผยให้เห็นความบอบบางและโค้งเว้าของเธอ ทำให้เขาต้องกลืนน้ำลาย
ร่างเล็กขาวนวลของเธอเคลื่อนไหวเบา ๆ บนเตียง สร้างแรงดึงดูดจนแทบทำให้เขาสูญการควบคุม
เธอครางเบา ๆ อย่างพึงพอใจ ดวงตาเปล่งประกายความท้าทาย
เขายกมือขึ้น แตะเบา ๆ ที่แขนและไหล่ของเธอเพียงเล็กน้อย สัมผัสนั้นทำให้ทั้งคู่รับรู้ถึงความใกล้ชิด
“คุณ… ทำให้ผมแทบไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย”
เขาพูดเสียงต่ำ แฝงแรงปรารถนาและความตื่นเต้น
เธอยิ้มบาง ราวกับรู้ว่าแรงดึงดูดนี้กำลังครอบงำเขา
“คุมไม่ได้ก็ไม่ต้องคุม ปล่อยให้อารมณ์ของคุณนำทางไปเลย ฉันพร้อมแล้ว ช่วยทำให้ฉันมีความสุขก็พอ”
“คุณจะไม่ผิดหวัง”
เขาเลื่อนใบหน้าไปหาทรวงอก สองมือเคล้าคลึงสองเต้าที่ยอดสีชมพูชูเด่น โลมเลียยอดถันจนเปียกชุมไปด้วยน้ำลาย
ก่อนที่จะครอบครองด้วยปากร้อนดูดดึงอย่างหิวกระหาย สลับซ้ายขวาเหมือนทารกหิวนม อย่างไงอย่างงั้น
“อ่าส์...อืม....เบาก่อน ...อ้ะ....”
เสียงเธอสั่นเทา
ณิชาถึงกับยกขาเรียวถูสีผ้าปูที่นอนด้วยความเสียวซ่านที่เขามอบให้
เขาโน้มตัวเข้าใกล้ ริมฝีปากทาบลงบนต้นคอของเธอ ปลุกความรู้สึกที่ทั้งหวานทั้งร้อนแรงในเวลาเดียวกัน
“ต่อไปผมจะไม่เบามือแล้วนะ…”
เขากระซิบเบา ๆ
คีรติถูกนำส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน เตชทัตรีบโทรแจ้งครอบครัวของเขา ทุกคนต่างมาถึงพร้อมกันด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและหัวใจที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น ขวัญที่อยู่คอนโดของณิชาก็ทราบข่างจากเตชทัต เธอไม่รีรอที่จะแจ้งให้ ณิชาทราบ“ณิชา…พี่คีย์ถูกยิง ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล พี่เตให้พวกเราไปเดี๋ยวนี้เลยนะ อาการพี่คีย์ไม่ค่อยดีนัก”ทันทีที่ขวัญพูดจบ ณิชาใบหน้าซีดเผือด หัวใจหล่นวูบลงไปถึงตาตุ่มแม้ในใจจะพร่ำบอกว่าตัวเองเกลียดเขา เกลียดที่เขาทิ้งเธอไปโดยไม่หันกลับมาแต่ทำไม…แค่ได้ยินว่าเขาเจ็บ ใจเธอกลับเจ็บยิ่งกว่า “แล้วขวัญจะให้ณิชาไปในฐานะอะไรล่ะ” เธอถามเสียงสั่น“ในเมื่อเขาก็มีแฟนแล้ว”ขวัญเม้มริมฝีปาก ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างหนักใจ“ณิชา…เรื่องทั้งหมดมันไม่ใช่อย่างที่ณิชาคิด”คำพูดนั้นทำให้ณิชาชะงัก“หมายความว่ายังไง ขวัญบอกณิชามาเถอะ”ณิชาจับแขนเพื่อนเขย่าเบา ๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสนและอยากรู้จนแทบกลั้นไม่อยู่ขวัญถอนหายใจยาว“มันถึงเวลาแล้วที่ณิชาต้องรู้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา…มันคือเรื่องโกหก”ณิชาจ้องหน้าเพื่อนด้วยความงุนงง รอคอยคำอธิบายด้วยหัวใจที่เริ่มสั่นไหว“ตั้งแต่วันที่พี่
วันนัดหมายอันมืดมนของนายธันวา เด็กหญิงและเด็กชายนั่งเบียดกันอยู่ข้างตู้คอนเทนเนอร์ในท่าเรือ ใบหน้าไร้เดียงสาตัดกับบรรยากาศอึมครึมรอบตัวนายธันวากับคู่ค้าต่างยื่นเงินให้กันอย่างเร่งรีบ ราวกับต้องการปิดดีลให้เร็วที่สุด“ล็อตนี้ส่งไปก่อนสามสิบคนครับ อีกสามสิบผมจะรีบตามไปให้ ไม่เบี้ยวแน่นอน”“ขอบคุณมากครับคุณธันวา”“ยินดีครับ บอกคุณบอสได้เลยยังมีแรงงานแบบนี้อีกมาก”เขาหัวเราะเบา ๆ อย่างไร้ความเมตตาพวกมันเร่งลำเลียงผู้คนขึ้นเรือ เสียงฝีเท้าปะปนกับคำสั่งกระด้างดังสะท้อนในความมืดของท่าเรือ“เอ้า ไป รีบเดินขึ้นเรือ อย่าชักช้า!”เด็กสาวคนหนึ่งสะอื้น น้ำตาไหลอาบแก้มก่อนจะโผกอดพี่สาวแน่น“ฮือ…ฮือ… หนูกลัวจังพี่”พี่สาวก้มลงโอบกอด พลางกระซิบปลอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ไม่ต้องกลัวนะ พี่ไม่ทิ้งเธอหรอก จะเป็นตายยังไง เราจะไปด้วยกัน”ยังไม่ทันที่คำปลอบจะจางหาย เสียงตะคอกก็ดังแทรกขึ้นอย่างไร้ความปรานี“หยุดร้องสักที เลิกทำตัวเป็นภาระ! ไป!”ความเจ็บปวดแล่นวาบ เด็กสาวร้องออกมาสั้น ๆ“โอ๊ย!”“รีบเดิน ถ้าไม่อยากโดนดี ไป!”คำขู่กระแทกอากาศในท่าเรืออันมืดสลัว ขณะเดียวกัน รอบพื้นที่เงียบงันกลับถูกปิดล้อมอย่า
ธันวาเดินเข้ามาชนแก้วกับณิชาอีกครั้ง คราวนี้เขาไม่ได้ถอยออกไปเหมือนก่อนแต่ยืนปักหลักอยู่ตรงหน้า ราวกับตั้งใจว่าจะใช้โอกาสนี้ทำความรู้จักเธอให้มากขึ้นณิชายกยิ้มบาง ๆ ส่งให้เขาอย่างจงใจ เธอรู้ดีว่าการกระทำเล็กน้อยนี้อาจขัดใจคีรติแค่ไหน และนั่นยิ่งทำให้เธออยากทำ"มองมาสิพี่คีย์ ณิชาจะทำให้พี่รู้ว่าพลาดแค่ไหนที่เลิกกับณิชา หึหึ"เธอพึมพำกับตัวเองอย่างรู้สึงเหนือกว่าเขา“คุณณิชา…ไม่ทราบว่าตอนนี้ทำงานอะไรอยู่ครับ เปิดบริษัทของตัวเอง หรือช่วยงานคุณพ่อ”ธันวาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพจริงใจ ก่อนจะเสริมเบา ๆ“เอ่อถ้าไม่สะดวกตอบก็ไม่เป็นไรครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ” ณิชาส่ายหน้าเบา ๆ“ณิชาเคยไปเป็นเลขาอยู่ช่วงหนึ่ง แล้วก็คิดว่าจะกลับไปช่วยงานที่บริษัทคุณพ่อค่ะ”ธันวาเลิกคิ้วนิดเดียวอย่างสนใจ“เลขาคุณคีรติหรือครับ เห็นช่วงหนึ่งมีข่าวว่าคุณคบกัน”ณิชานิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนจะตอบเสียงแผ่วลงเล็กน้อย“ค่ะ…แต่ตอนนี้เลิกกันแล้วค่ะ”“ทราบครับ ว่าเลิกกันแล้ว” เขาพยักหน้าเหมือนรู้อยู่ก่อนแล้ว“เห็นคุณพ่อคุณบอกผมว่าตอนนี้คุณคบกับชาวต่างชาติ”“หา…?” ณิชาเผลออุทาน ก่อนจะรีบปรับสีหน้า“อ๋อ…ค่ะ”คำตอบนั้นหลุดออกไปโดยอั
เขาคว้าแขนเธอไว้อีกครั้งแรงกระชากทำให้ร่างบางเสียหลัก ก่อนจะถูกดันแนบติดกับผนังเย็นเฉียบสองแขนแกร่งยกขึ้นกั้นซ้ายขวาปิดทางหนีของเธอไว้จนมิด“จะทำบ้าอะไร!”ณิชาดันอกเขาเต็มแรง เสียงสั่นด้วยทั้งโกรธทั้งตกใจ“ออกไปให้พ้นเดี๋ยวนี้นะ!”“ณิชา…พี่”เสียงเขาแผ่วลงแววตาเจ็บปวดอย่างคนที่มีความจริงค้างคาอยู่เต็มอกอยากพูด…แต่พูดไม่ได้“พี่อะไร?”เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขา ไม่ยอมหลบ“พูดมาสิ ถ้ามีอะไรก็พูดมา! รอฟังว่าจะพูดอะไรออกมา”คีรติกัดฟันแน่นมือที่กั้นอยู่สั่นน้อย ๆ อย่างห้ามตัวเองไม่อยู่“พี่ไม่อยากให้ณิชาไปพูดคุยกับไอ้ธันวานั่น”น้ำเสียงเขาเข้มขึ้น“มันเป็นคนอันตราย”ณิชาหัวเราะหยันแววตาเย็นชาจนแทงใจ“เหรอ?”“พูดจบหรือยังคะ?...ไม่ขอบให้ไปคุยกับคนอื่นเหรอ หึหึ ช่างกล้าเนอะที่จะมาเตือนฉัน”เธอเอ่ยช้า ๆ ชัดทุกคำ“ถ้าพูดจบแล้ว กรุณาเอามือคุณออกไปด้วยค่ะ”สายตาเธอกวาดมองแขนเขาที่กั้นอยู่“ทำแบบนี้ ฉันเสียหายนะคะ…คุณคีรติ”คำว่า คุณคีรติเหมือนมีดกรีดลึกเข้าไปกลางอกเขาทั้งสองสบตากันความเจ็บปวดสะท้อนอยู่ในดวงตาทั้งคู่ไม่มีใครยอมถอยไม่มีใครกล้าพูดความจริงทันใดนั้น“ณิชาอยู่นี่เอง!”เสียงขวั