ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้?เธออยากกลับไปเมื่อสองปีที่แล้วมาก ๆ สมัยที่ไร้ทุกข์ไร้กังวล“ผมอยู่ ผมอยู่นี่” เขาตอบรับเธออย่างใจเย็นซูชิงอวี่รู้ว่าความอ่อนโยนของเขาในตอนนี้ก็แค่ชั่วคราว เธอก็ไม่ควรจะใกล้ชิดกับเขาอีก แต่เธออดไม่ได้ที่อยากจะฉุดรั้งความอบอุ่นเพียงน้อยนิดนี้เอาไว้ลี่ถิงเชิน ถ้าหากคุณยังเป็นคุณคงจะดีไม่น้อย?…ลี่ถิงเชินตื่นขึ้นมาตอนรุ่งสาง ยังไม่ลืมตาก็รู้สึกได้ว่ามีคนอยู่ในอ้อมแขนเมื่อนึกถึงขวดเบียร์เปล่ากองนั้นที่เขาดื่มเมื่อคืน เขาดื่มเก่งมาก บวกกับเขาควบคุมได้เพียงพอ และเรื่องที่จะดื่มจนสลบแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นกับเขาอย่างแน่นอนเขาปวดหัวรุนแรง ทำอย่างไรก็นึกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ออก เขารู้สึกกระวนกระวาย หรือแม้กระทั่งไม่กล้าลืมตาไปเผชิญหน้าจนกระทั่งเขาเตรียมใจพร้อมถึงได้ลืมตาขึ้น ในตอนที่เห็นว่าผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนคือซูชิงอวี่ถึงได้โล่งอกขึ้นมาได้แต่วินาทีต่อมาเมื่อนึกถึงสถานการณ์ในตอนนี้ของทั้งสองคนขึ้นมาได้ เขาจึงจะผลักร่างกายของหญิงสาวออกอย่างแรงทันทีในตอนที่เขาอยากจะดึงแขนกลับ จู่ ๆ สายตากลับมองไปยังใบหน้าของซูชิงอวี่ การเคลื่อนไหวของเขาหยุดลง
ประตูห้องน้ำถูกคนผลักออกอย่างแรง ทำให้ซูชิงอวี่ที่เพิ่งเก็บกวาดเส้นผมเสร็จตกใจอย่างมาก เธอมองไปทางเขาอย่างประหม่า “คุณ…”ยังพูดไม่ทันจบก็เห็นลี่ถิงเชินที่เปลือยร่างกายท่อนบน ร่างกายที่กำยำล่ำสันของชายหนุ่มพุ่งเข้าดวงตาของเธอโดยไม่มีลางบอกทั้ง ๆ ที่มีลูกกับเขาแล้วด้วยซ้ำ ภาพที่ไม่ได้เห็นนานกว่าหนึ่งปียังคงทำให้ซูชิงอวี่รู้สึกไม่คุ้นชิน เธอจึงเบนสายตาไปทางอื่นอย่างรวดเร็วเงาของชายหนุ่มพาดปกคลุมใบหน้าของเธอ ลมหายใจอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาแฝงไปด้วยความร้อนกรุ่นพุ่งเข้ามา ซูชิงอวี่ขดตัวด้วยสัญชาตญาณ จ้องมองเขาด้วยความระแวง “คุณจะทำอะไร?”ลี่ถิงเชินก้มตัวลงช้า ๆ ดวงตาดำเข้มมองไปยังใบหน้าซีดขาวของเธอแล้วถามขึ้น “ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าป่วย คุณป่วยเป็นอะไร?”ซูชิงอวี่สบตาเข้ากับดวงตาของเขาที่เต็มไปด้วยการสำรวจ ในใจรู้สึกซับซ้อนเป็นอย่างมากดวงตาคู่นั้นไม่มีความเย้ยหยัน เหยียดหยามและเย็นชา เขากำลังถามอาการป่วยของเธออย่างจริงใจในตอนนี้ซูชิงอวี่อารมณ์ซับซ้อน จู่ ๆ เธอก็มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัว หากเธอบอกลี่ถิงเชินตอนนี้ เขาจะรู้สึกผิดกับสิ่งที่เขาทำก่อนหน้านี้บ้างไหม?เห็นเธอลังเลใจ ลี่ถ
ซูชิงอวี่ยิ่งอยู่ยิ่งไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้ เปลี่ยนหน้าไวยิ่งกว่าพลิกหน้าหนังสือเสียอีกเมื่อก่อนคนที่อยากหย่าร้างก็คือเขา ตอนนี้เมื่อเอ่ยถึงเรื่องหย่าคนที่พาลโกรธก็ยังเป็นเขา หรือว่าเขาจะสะเทือนใจเพราะการตายของน้องสาวจนกลายเป็นโรคจิต และเข้าวัยทองล่วงหน้าแล้วงั้นเหรอ?ตอนที่ลี่ถิงเชินอาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมา ซูชิงอวี่ยังคงนอนอยู่บนเตียง หันหลังให้กับเขาไม่มีการบอกลาที่อืดอาดยืดยาดเหมือนเมื่อก่อน มีเพียงเสียงปิดประตูที่เย็นชาซูชิงอวี่รู้ว่าร่างกายของตัวเองหลายวันมานี้อ่อนแอเกินไป ทำอะไรก็ไม่สะดวก เธอจึงไม่ต่อต้านสักเท่าไหร่ในการแต่งงานครั้งนี้มีเพียงหนึ่งเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยนไปก็คือแม่บ้านจางที่มีน้ำใจ ทุกวันจะสวมผ้ากันเปื้อน ถือตะหลิวเตรียมอาหารอร่อยเอาไว้ให้เธอด้วยความตั้งใจ“คุณนาย วันนี้ฉันทำซุปโสมพุทราจีนบำรุงเลือดลม คุณดื่มเยอะ ๆ หน่อยนะคะ”ซูชิงอวี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน “แม่บ้านจาง คุณช่วยต้มซุปปลาให้ฉันเยอะๆหน่อยนะ”“ค่ะ”แม่บ้านจางมองสภาพอากาศข้างนอก “หิมะตกหนักเต็มลานบ้าน คุณนายไม่ออกไปเล่นหิมะเหรอคะ? ฉันจำได้เมื่อก่อนคุณชอบลากคุณชายไปเล่นปาหิมะที่สุด ความสัมพันธ์ชายหญิง
เธอกำลังดูอย่างใจลอย เสียงของลี่ถิงเชินที่ดังขึ้นกะทันหันทำให้ซูชิงอวี่ตกใจจนล้มลงบนพื้น และเอกสารที่อยู่ในมือก็ตกกระจัดกระจายเต็มพื้นไปหมดปกติกลางดึกลี่ถิงเชินถึงจะกลับมา ทำไมวันนี้เขาถึงกลับมาเร็วแบบนี้ได้?ถึงแม้ทั้งคู่ยังเป็นสามีภรรยากัน การกระทำแบบนี้ของเธอก็น่าอับอายมาก ยิ่งไปกว่านั้นเธอรู้ว่าลี่ถิงเชินเกลียดคนที่ทำอะไรลับหลังมากที่สุดซูชิงอวี่กลืนน้ำลาย พูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติ “คุณ คุณกลับมาแล้วเหรอ”ลี่ถิงเชินไม่รู้ไปเข้าร่วมงานอะไร สวมชุดเป็นทางการสีขาวดำ ชุดสูทเน้นให้เห็นรูปร่างสูงใหญ่ของเขา ดวงตาเย็นชาคู่นั้นมองไปที่ตัวเธอ ซูชิงอวี่ก็รู้สึกเหมือนตัวเองเข้าไปอยู่ในห้องน้ำแข็งเขาค่อยๆก้าวขาที่เรียวยาวมาทางเธอ และถอดเสื้อสูทออกอย่างช้าๆ เขาเกิดมาก็เป็นคุณชายที่คาบช้อนเงินช้อนทอง อากัปกิริยาท่าทางจึงมีออร่าความเป็นผู้ดีอยู่เต็มเปี่ยมทั้งที่เป็นแค่ท่าทางการถอดเสื้อ ซูชิงอวี่ก็กลับตกใจจนอกสั่นขวัญหาย เธออยากหนีไป แต่เท้าเจ้ากรรมก็เหมือนถูกคนกดจุดเอาไว้ขยับเขยื้อนไม่ได้เลยแม้แต่น้อยก่อนที่จะคบกับลี่ถิงเชิน เขาถูกคนยกย่องว่าเป็นปีศาจกินคนที่ทำได้ทุกอย่างและตอน
ซูชิงอวี่เงียบสนิท เธอรับรู้ได้เป็นอย่างดี ก็เหมือนที่ลี่ถิงเชินเมื่อก่อนรักใคร่ตามใจเธอเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้กลับโหดเหี้ยมถึงที่สุด เธอพูดไม่ได้ว่าเขาเปลี่ยนไป เพียงแค่ด้านนี้เธอเพิ่งเคยได้เห็นก็เท่านั้นลี่ถิงเชินยังเป็นแบบนี้ ซูฉี่ผิงก็มีความเป็นไปได้ซูชิงอวี่โต้แย้งด้วยเสียงที่เบามาก “ไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาก็ไม่มีทาง…ฆ่าคน”นิ้วมือของลี่ถิงเชินลูบไล้แก้มของซูชิงอวี่อย่างเชื่องช้า “ซูซู คุณไร้เดียงสาจริง ๆ งั้นคุณก็คิดใช่ไหมว่าผมไม่มีทางจากคุณไป?”เสียงที่แนบชิดและคลุมเครือแบบนั้น ราวกับว่าเขายังคงเป็นคนรักที่อ่อนโยนข้างกายเธอในอดีต แต่ในดวงตาของเขาไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดความคิดของซูชิงอวี่ถูกเขาจิ้มถูกจุด ใช่ เธอเคยคิดจริง ๆ ว่าเขาจะไม่มีทางเปลี่ยนใจตลอดกาล จนกระทั่งเธอเห็นข่าวที่เขาประคองไป๋หยวนหยวนปรากฏตัวที่สนามบิน และความจริงนั้นก็ตอกเธอกลับมาอย่างแรงลี่ถิงเชินพูดต่อ “คุณอยากรู้ความจริงมาโดยตลอดไม่ใช่เหรอ วันนี้ผมจะบอกคุณเอาไว้เลยนะ ซูฉี่ผิงไม่ยอมเก็บเด็กคนนั้นไว้ ยิ่งไม่ยอมสร้างครอบครัวกับเสี่ยวหลุ่ย สามเดือนแรกเป็นช่วงเวลาทำแท้งที่ดีที่สุด วันนั้นพวกเขาโต้เถี
ในความทรงจำของซูชิงอวี่พ่อของเธอรักใคร่เอ็นดูคนในครอบครัว กับคนภายนอกก็มีเมตตา นอกจากช่วยเหลือนักเรียนแล้วก็มักจะบริจาคเงินเข้ากองทุนการกุศลอยู่เสมอดังนั้นตามรายงานพ่อของเธอเป็นคนใจดี ถ่อมตัว ถึงกับสมบูรณ์แบบเลยทีเดียวในตอนที่ซูชิงอวี่คุกเข่าลงเพื่อเก็บเอกสารที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นนั้น สีหน้าของเธอก็เย็นชาลงเมื่อได้อ่านละเอียดทีละใบๆเห็นได้ชัดว่าลี่ถิงเชินทำการบ้านมาดีมาก ผู้หญิงพวกนี้ต่อให้คบหากับซูฉี่ผิงแค่ไม่กี่วันก็มีหลักฐานชัดเจนเวลาสิบกว่าปีซูฉี่ผิงเปลี่ยนผู้หญิงหลายคน ต่างก็เป็นเด็กสาวที่หน้าตาไร้เดียงสาและหน้าตาสะสวยอันที่จริงเข้าใจได้ไม่ยาก ซูฉี่ผิงหน้าตาหล่อเหลา ถึงช่วงวัยกลางคนก็ไม่อ้วนขึ้น เขาที่ออกกำลังกายเป็นประจำ รูปร่างสูงมีทรวดทรง ลุงที่หล่อเหลา มีการศึกษา สง่างามและร่ำรวย เป็นแบบที่ฮิตกันมากที่สุดในตอนนี้ การที่จะมีเด็กสาวจำนวนมากโผเข้ามาหาก็เรื่องปกติแต่เขาเหมือนจะชื่นชอบเด็กสาวที่ออกมาจากในเขาและฐานะไม่ดีเป็นพิเศษน่าจะเป็นเพราะไม่เคยผ่านการแปดเปื้อนของโลกสะอาดยิ่งกว่าลี่ถิงเชินพิสูจน์และยืนยันถึงเรื่องนี้ “คุณคิดว่าเขาช่วยเหลือเด็กในเขตภูเขาก็เพื่อ
จ้าวฟางมีความสำคัญต่อเขาก็เหมือนที่เธอมีความสำคัญกับซูฉี่ผิง“ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเป็นพ่อที่ดี แต่เขาไม่ใช่คนดีแน่นอน ภายใต้เนื้อหนังที่แสร้งทำเป็นคนดีแอบซ่อนหัวใจปีศาจอยู่ ซูซู เรื่องราวมาจนถึงขั้นนี้แล้ว ผมก็จะไม่ปิดบังคุณอีกต่อไป”ลี่ถิงเชินคุกเข่าข้างเดียว สองมือประคองใบหน้าของซูชิงอวี่ บนใบหน้าเผยรอยยิ้มแบบโรคจิต“ผมเคยเห็นคุณเป็นดั่งชีวิตของผม รักคุณถึงขึ้นไม่อาจถอนตัวได้ แต่ใครใช้ให้คุณเป็นลูกสาวคนเดียวของซูฉี่ผิงล่ะ ผมเคยรักคุณมากแค่ไหน ตอนนี้ก็เกลียดคุณเท่านั้น”แม้ว่าเขาจะยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่ซูชิงอวี่กลับรู้สึกเย็นวาบที่แผ่นหลัง“วันนั้นตอนที่ฉันกับไป๋หยวนหยวนตกน้ำพร้อมกัน คุณจงใจช่วยเธอใช่ไหม? คุณให้ลูกของเราชดใช้ลูกของน้องสาวคุณด้วยชีวิต?”“ใช่ ทำมาอย่างไรก็ทำกลับอย่างนั้น”ซูชิงอวี่สองมือดึงคอเสื้อของเขา น้ำตาไหลลงไปตามโหนกแก้ม “คุณบ้าไปแล้วเหรอ เขาเป็นลูกของพวกเรานะ! เขายังไม่ได้ลืมตามาดูโลกนี้เลยด้วยซ้ำ เขาผิดอะไร? เขาไม่มีความผิดนะ!”ลี่ถิงเชินเอียงหน้ายิ้มอย่างชั่วร้าย “แล้วน้องสาวของผมผิดอะไรล่ะ? ลูกของเธอมีความผิดเหรอไง?”ซูชิงอวี่มองดูลี่ถิงเชินที่น่าเ
ซูชิงอวี่น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอรู้ดีว่าตัวเองกับลี่ถิงเชินกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้วเขาหักหลังตัวเอง แถมยังลงมือกับตระกูลซู และตระกูลซูก็เป็นหนี้ชีวิตน้องสาวของเขาเดิมทีบัญชีเหล่านั้นก็ไม่สามารถคิดคำนวณได้ชัดเจนอยู่แล้ว ก็เหมือนกับเรื่องวุ่นวายที่พันกันเอาไว้อย่างแน่นหนา ยิ่งพันกันก็ยิ่งแน่นมากขึ้น ความรู้สึกผูกมัดทำให้พวกเขาหายใจไม่ออก สุดท้ายก็เดินไปทางจุดของความตายลี่ถิงเชินประคองแก้มของเธอ นิ้วโป้งลูบคราบน้ำตาของเธอออก “ซูซู อย่ารักผม เกลียดผมเถอะ ผมหักหลังคุณ ผมทำร้ายลูกของเรา ผมหันหลังกลับไม่ได้แล้ว”เธอรู้สึกถึงความหวั่นไหวในใจของเขา ความอ่อนโยนที่หาได้ยาก เหมือนกับภูเขาน้ำแข็งที่เกิดพืชสีเขียวสดออกมาแต่ในไม่ช้าพืชเขียวสดนี้ก็ถูกพายุฝนลูกใหม่ทำลายจนหมดสิ้นลี่ถิงเชินออกจากห้องที่เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง และทิ้งเพียงแผ่นหลังให้กับซูชิงอวี่เท่านั้นซูชิงอวี่รู้ดีว่า การหันหลังครั้งนี้ก็คือการอำลาโดยไม่พบกันอีกระหว่างพวกเขาไม่มีทางย้อนกลับไปได้อีกแล้วตอนที่ซูชิงอวี่ออกไปอีกครั้ง ในบ้านไม่มีเงาของแม่บ้านจางแล้ว แม่บ้านจางที่จิตใจดีงามคิดว่าพวกเขาแค่ทะเลาะกันนิดหน่อย ด