เรือสำราญจอดเทียบท่าก่อนรุ่งสางและบรรดาแขกก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาไม่รู้ว่าการเดินทางจะสิ้นสุดเร็วกว่ากำหนดอย่างนี้?เมื่อคนอื่นๆ ออกจากเรือไป ไป๋หยวนหยวนก็เริ่มโวยวายทันที“ทำไมคุณไม่ปล่อยให้คนอื่นตามหาซูชิงอวี่ ผู้หญิงเลวคนนี้สมรู้ร่วมคิดกับบุคคลภายนอกเพื่อลักพาตัวลูกชายของฉันไปนะ เธอ…”เมื่อเฉินหลิ่งได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็อยากจะตบเธอไปหลายๆครั้ง เขาเตะคนที่ดูแลจันหมั่งเข้ามาจากประตูไป๋หยวนหยวนโกรธมากเมื่อเห็นเขาทำแบบนี้"คุณหมายความว่าไง? คุณไม่ไปตามหาซูชิงอวี่ แล้วคุณจับลุงของฉันมาทำไม?"“คุณกำลังทำอะไรอยู่ ผมอยากจะถามคุณด้วยว่าคุณอยากทำอะไร?”ลี่ถิงเชินนั่งบนโซฟาด้วยสีหน้าเศร้าหมอง และโยนกองรายการลงจากโต๊ะ“ผมใช้เงิน 500 ล้านเพื่อจัดงานวันเกิดของชิงเฉินนะ แต่เขาแอบเอาไปเท่าไหร่แล้วล่ะ?”จันหมั่งเป็นน้องชายคนเดียวของจันชิงเลียน หลังจากที่แม่ของเขาเสียชีวิต ครอบครัวไป๋ก็ใจดีกับเขามาโดยตลอด แต่เขานั้นคุ้นเคยกับความเกียจคร้านและเป็นนักพนันครั้งนี้ไป๋หยวนหยวนยืนกรานที่จะให้เขาจัดงานวันเกิด เธอบอกอย่างชัดเจนว่าเธอต้องการให้เขาได้ผลกำไรจากงานวันเกิดในครั้งนี้“ ผมเข้าใ
ในวันที่ซูชิงอวี่ตรวจพบมะเร็งกระเพาะอาหาร ลี่ถิงเชินก็กำลังอยู่กับคนรักเก่าเพื่อพาลูกชายไปตรวจร่างกายทางเดินโรงพยาบาล หลินเหยียนถือรายงานผลการตรวจเนื้อเยื่อ แล้วพูดอย่างเคร่งขรึม “ชิงอวี่ ผลการตรวจออกมาแล้วนะ เนื้องอกมะเร็งระยะ 3A ถ้าหากการผ่าตัดสำเร็จ อัตราการมีชีวิตห้าปีอยู่ที่ 15 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์”นิ้วมือเรียวยาวของซูชิงอวี่จับสายกระเป๋าสะพายไว้แน่น ใบหน้าซีดขาวมีสีหน้าเคร่งขรึม “รุ่นพี่คะ ถ้าไม่ผ่าตัดฉันยังมีชีวิตได้อีกนานแค่ไหน?”“ครึ่งปีถึงหนึ่งปี แตกต่างกันไปในแต่ละคน สถานการณ์ของคุณทำคีโมสองระยะก่อนแล้วค่อยผ่าตัด แบบนี้สามารถยับยั้งการแพร่กระจายและความเสี่ยงของการลุกลามได้”ซูชิงอวี่กัดปากพูดอย่างยากลำบาก “ขอบคุณค่ะ”“กับผมยังต้องขอบคุณอะไร? ผมจะจัดการเรื่องแอดมิทให้คุณตอนนี้เลยนะ”“ไม่ต้องค่ะ ฉันไม่คิดจะรักษา ฉันทนทุกข์ทรมานไม่ไหว”หลินเหยียนอยากจะพูดอีกสองสามคำ แต่ซูชิงอวี่โค้งทำความเคารพต่อเขา “รุ่นพี่คะ ยังต้องรบกวนพี่ให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับแทนฉันด้วยนะคะ ฉันไม่อยากให้คนในครอบครัวเป็นห่วง”ตระกูลซูล้มละลาย เพียงแค่แบกรับค่าใช้จ่ายมหาศาลของพ่อซู ซูชิงอวี่ก็ต้อ
ค่ำคืนที่มืดมิด เธอกลับเข้าห้อง และอาบน้ำอย่างโดดเดี่ยวเดียวดายน้ำร้อนที่ร้อนจัดช่วยขจัดความหนาวเย็นของเธอ เธอขยี้ตาแดงก่ำเดินเข้าไปในห้อง ผลักประตูออก ห้องเด็กที่ตกแต่งอย่างอบอุ่นปรากฏตรงหน้าเธอเธอเขย่ากระดิ่งเบาๆ เสียงเพลงสดใสจากกล่องดนตรีดังขึ้นภายในห้อง ไฟสีเหลืองสลัวทั่วห้อง ทั้งๆ ที่เป็นภาพที่อบอุ่นถึงที่สุด ซูชิงอวี่น้ำตาไหลออกมาไม่หยุดบางทีนี่คงเป็นกรรมตามสนองของเธอ เธอปกป้องลูกของตัวเองได้ไม่ดี ดังนั้นสวรรค์จึงพรากชีวิตของเธอไปซูชิงอวี่ปีนขึ้นไปบนเตียงทารกขนาดหนึ่งร้อยยี่สิบเซนติเมตร นอนขดตัวคุดคู้อยู่อย่างนั้น น้ำตาของดวงตาข้างซ้ายไหลมายังข้างขวา จากนั้นก็ไหลลงที่แก้ม ทำให้ผ้าห่มทารกที่อยู่ใต้ตัวเปียกชื้นไปหมดแล้วในตอนนี้เธอกอดตุ๊กตาตัวหนึ่งไว้แน่นแล้วพูดพึมพำ “ขอโทษนะลูก เป็นความผิดของแม่ทั้งหมด แม่ปกป้องลูกได้ไม่ดี ไม่ต้องกลัวนะ อีกไม่นานแม่จะไปอยู่เป็นเพื่อนลูกแล้ว”หลังจากลูกเสียจิตใจของเธอแย่มาโดยตลอด เหมือนดอกไม้อันบอบบางที่เหี่ยวเฉาไปทุกวันเธอมองดูค่ำคืนที่มืดมิดแล้วคิดในใจว่าเพียงแค่ทิ้งเงินก้อนนี้ไว้ให้พ่อ เธอก็ไปหาลูกของตัวเองได้แล้วเช้าวันรุ่งขึ้น ฟ้
ไป๋หยวนหยวนสวมเสื้อคลุมแคชเมียร์สีขาวละเอียด ไข่มุกออสเตรเลียสีขาวบนติ่งหูทำให้เธอดูอ่อนโยนและมีสง่าเพียงแค่ผ้าคลุมไหล่ของเธอก็มีมูลค่าหลายหมื่น พนักงานขายเห็นเธอก็รีบเข้าไปต้อนรับ “คุณนายลี่ วันนี้ประธานลี่ไม่ได้มาเลือกเครื่องประดับเป็นเพื่อนคุณเหรอคะ?”“คุณนายลี่ ในร้านมีสินค้าใหม่ล่าสุด แต่ละรุ่นเหมาะสมกับคุณมากเลยนะคะ”“คุณนายลี่ หยกที่คุณให้ฉันเก็บไว้ให้ครั้งที่แล้วมาถึงแล้ว เดี๋ยวคุณลองสวมดูนะคะ ต้องเหมาะกับสีผิวของคุณอย่างแน่นอนค่ะ”พนักงานขายคำก็เรียกคุณนายลี่สองคำก็เรียกคุณนายลี่ ไป๋หยวนหยวนยิ้มกริ่มมองไปทางซูชิงอวี่ ในดวงตาเต็มไปด้วยความลำพองใจ ประกาศความชนะของเธอทุกคนต่างรู้ว่าลี่ถิงเชินตามใจเธอราวกับของล้ำค่า แต่กลับไม่รู้เลยว่าซูชิงอวี่ต่างหากถึงจะเป็นภรรยาที่แต่งงานถูกต้องตามประเพณีซูชิงอวี่กำหมัดเอาไว้แน่น ทำไมต้องมาเจอกับคนที่ไม่อยากเจอที่สุดในตอนที่อนาถแบบสุดๆอย่างนี้ด้วยนะไป๋หยวนหยวนถามอย่างอ่อนโยน “แหวนคุณภาพดีขนาดนี้นำมาแปลงมูลค่าในตอนนี้ จะต้องขาดทุนมากแน่”ซูชิงอวี่ยื่นมือออกไปแย่งกล่องแหวนกลับมา สีหน้าเคร่งขรึม “ฉันไม่ขายแล้วค่ะ”“ไม่ขายแล้วเหรอ? น่า
ฝานเฉินซีจากไปตอนที่ซูชิงอวี่อายุ 8 ขวบ วันนั้นเป็นวันเกิดของซูฉี่ผิง เธอกลับไปเตรียมงานวันเกิดให้พ่อด้วยความดีใจ แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นข้อตกลงหย่าร้างหนึ่งใบของพ่อแม่เพื่อไล่ตามเธอซูชิงอวี่ล้มลุกคลุกคลานกลิ้งตกจากบันได รองเท้าหลุดแล้วก็ยังไม่รู้ตัว เธอกอดขาของฝานเฉินซีแล้วร้องไห้ตะโกนไม่หยุด “แม่คะ อย่าไปเลยนะคะ!”ผู้หญิงที่สูงส่งลูบแก้มนุ่มของเธอ “ขอโทษนะ”“แม่คะ ครั้งนี้หนูสอบได้ที่หนึ่งของชั้น แม่ยังไม่ได้ดูข้อสอบของหนูเลยนะ ต้องให้ผู้ปกครองเซ็นชื่อ”“แม่คะ แม่อย่าทิ้งหนูไปเลยนะ หนูจะเป็นเด็กดี หนูรับปากว่าต่อไปจะไม่ไปสวนสนุกแล้ว หนูจะไม่ทำให้แม่โมโหอีก หนูจะเชื่อฟัง ขอร้องคุณแม่…”เธอแสดงความตัดรักของตัวเองออกมาอย่างตื่นตระหนก หวังว่าหญิงสาวจะอยู่ต่อ ฝานเฉินซีบอกเธอแค่ว่า การแต่งงานของเธอกับพ่อไม่มีความสุข และตอนนี้เธอก็หาความสุขที่แท้จริงเจอแล้วซูชิงอวี่เห็นคุณลุงแปลกหน้าคนหนึ่งนำกระเป๋าเดินทางวางไว้บนรถแทนเธอ พวกเขาจูงมือกันออกไปส่วนเธอที่เท้าเปล่าวิ่งตามไปหลายร้อยเมตร จนกระทั่งล้มลงบนพื้นอย่างแรง หัวเข่ากับฝ่าเท้าถูกทิ่มแทงจนเป็นแผล เธอเหม่อมองดูรถที่ตามไปไม่ทันตอ
ฝานเฉินซีมองไปยังลี่ถิงเชินอย่างงงงวย เธอไม่เคยได้ยินเรื่องที่ลี่ถิงเชินแต่งงาน“คุณลี่ พวกเราใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศหลายปี ไม่รู้ข่าวภายในประเทศ ลูกสาวของฉันกับคุณเกี่ยวข้องอะไรกัน?”ลี่ถิงเชินนิ่งเฉย พูดออกมาด้วยสีหน้าเฉยเมย “ต่อให้มีความเกี่ยวข้องนั่นก็เป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้ผมกำลังดำเนินการหย่าร้างอยู่”ซูชิงอวี่คิดไม่ถึงว่าความจริงใจที่มอบให้หลายปีมานี้ ถึงตอนสุดท้ายกลายเป็นเพียงอดีตเขาพูดออกอย่างง่ายดายโมโหไหม? โมโหแน่อยู่แล้วที่มากกว่านั้นคือผิดหวัง ตัวเองตาบอดที่หาตัวเหี้ยอะไรมาเป็นสมบัติล้ำค่าแบบนี้ซูชิงอวี่ล้วงกล่องแหวนออกมา ขว้างไปยังหน้าผากของลี่ถิงเชินอย่างแรง “ไอ้ผู้ชายเฮงซวยเอ๊ย ในชีวิตนี้เรื่องที่ฉันเสียใจมากที่สุดก็คือมีความสัมพันธ์กับคุณ พรุ่งนี้เก้าโมงเจอกันที่อำเภอ ใครไม่ไปคนนั้นเป็นลูกหมา!”กล่องกระแทกหน้าผากของเขาจนแดงแล้วตกลงบนพื้น แหวนหลุดร่วงอยู่ข้างเท้า ครั้งนี้ซูชิงอวี่ไม่ได้เหลือบมองแม้แต่น้อย เธอเหยียบแหวนแล้วผลักประตูออกไปสองปีมานี้รอบตัวซูชิงอวี่เกิดเรื่องขึ้นมากมาย เรื่องนี้ก็เหมือนกับฟางเส้นสุดท้ายที่จะทนได้ เธอวิ่งไปได้ไม่ไกลก็หมดสติไปตรงข้
ลมแม่น้ำเย็นเยือกพัดมา เหมือนกับมีดที่เย็นเฉียบทะลุเข้ากระดูก ซูชิงอวี่ลุกขึ้นวิ่งไล่ตามไปแต่เธอประเมินค่าร่างกายในตอนนี้ต่ำไป วิ่งได้ไม่กี่เมตรก็ล้มลงบนพื้นอย่างแรง ประตูรถเปิดออก รองเท้าหนังแฮนด์เมดแวววาวคู่หนึ่งหยุดลงตรงหน้าของเธอเธอค่อยๆ มองไปยังกางเกงตรงทื่อของชายหนุ่มช้าๆ จากนั้นสบตากับดวงตาเย็นชาของลี่ถิงเชิน“ลี่…” ซูชิงอวี่เอ่ยปากอย่างอ่อนแอมือคู่หนึ่งที่ข้อต่อกระดูกชัดเจน ชั่วขณะซูชิงอวี่เหมือนเห็นวัยรุ่นชุดขาวในอดีตที่ทำให้เธอตกตะลึง เธอยื่นมือไปทางเขาโดยไม่รู้ตัวในตอนที่สองมือจะสัมผัสกัน ลี่ถิงเชินดึงมือกลับอย่างแรง ให้ความหวังกับเธอแล้วก็ดึงกลับอย่างไม่ไว้หน้า ทำให้ร่างกายของเธอที่ลุกขึ้นล้มลงบนพื้นอย่างแรงอีกครั้งเธอที่เดิมทีไม่ได้บาดเจ็บเมื่อล้มลงครั้งนี้ฝ่ามือทับเศษแก้วที่แตกอยู่บนพื้นพอดี รอยเลือดที่สะดุดตาไหลลงมาตามฝ่ามือดวงตาดำของเขาหยุดนิ่ง แต่กลับไม่มีท่าทางใดๆซูชิงอวี่งุนงงอยู่ครู่หนึ่ง เธอนึกถึงเมื่อก่อนตัวเองนิ้วโดนบาดแผลเล็กก็ถูกเขาพาไปโรงพยาบาลตอนดึกหมอที่เข้าเวรยังหัวเราะ “คุณผู้ชายท่านนี้ โชคดีที่คุณมาเร็ว ถ้ามาช้ากว่านี้หน่อยบาดแผลจะหายแล้ว
ตอนที่ซูชิงอวี่เอ่ยถึงคนคนนั้นน้ำเสียงเรียบเฉยมาก เหมือนกับปล่อยวางแล้วแต่หลินเหยียนรู้ดีว่าเคยรักใครจริงๆ สักคนเป็นไปได้อย่างไรที่พูดว่าปล่อยวางก็ปล่อยวางได้? เธอก็แค่เก็บซ่อนบาดแผลเอาไว้ ตอนที่ไม่มีคนถึงจะปลอบใจตัวเองหลินเหยียนไม่ได้ถามอะไรมาก แต่เปลี่ยนเรื่องคุย “ค่าผ่าตัดของคุณลุงคุณยังไม่ได้จ่ายเงิน ถือว่าเป็นเพื่อน ผมให้คุณยืมก่อน ต่อไปคุณค่อยคืนผมก็ได้”เขารู้ว่าซูชิงอวี่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ หาเงินอย่างลำบาก เคยอยากจะยื่นมือเข้ามาช่วยครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ซูชิงอวี่ก็ปฏิเสธมาโดยตลอดครั้งนี้ซูชิงอวี่ยังคงส่ายหน้า “ไม่ต้องค่ะรุ่นพี่”“ชิงอวี่ อาการป่วยของคุณลุงเป็นเรื่องที่เร่งด่วน หรือคุณยอมที่จะถูกคนชั่วคนนั้นดูถูกแต่ไม่ยอมรับความหวังดีจากผมงั้นเหรอ? ผมเพียงแค่อยากช่วยคุณ คุณรู้ว่าถึงแม้บ้านผมจะเทียบกับตระกูลลี่ไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ครอบครัวธรรมดาๆ เงินแค่นี้สำหรับผมขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก คุณไม่ต้องลำบากใจ”ซูชิงอวี่สองมือประคองแก้วน้ำหันมองไปทางเขาช้าๆ สีหน้าของเธอขาวซีด มองแล้วทำให้คนรู้สึกสงสาร“รุ่นพี่ ฉันรู้ว่าพี่เป็นคนดี แต่…ฉันไม่มีอนาคตแล้ว”บุญคุณนี้ก็ดี เงินเหล่านี