แชร์

ฝึกงานวันแรก

ผู้เขียน: Darann
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-16 15:28:20

ณ บริษัทเอ.เอส.เอ็น

“ทุกคนครับ! ผมขอรบกวนเวลาทุกคนสักครู่นะครับ!!” สิ้นเสียงของคุณธนิน พนักงานทุกคนในแผนกที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง ต่างก็พากันเงยหน้าขึ้นมาทางต้นเสียงกันอย่างพร้อมเพรียง

“นี่เกวลิน! เด็กฝึกงานคนใหม่ที่จะมาฝึกงานในแผนกของเราตลอดสามเดือนนี้ครับ” ทุกๆสายตาจับจ้องมาทางฉันที่ยืนอยู่ข้างๆคุณธนิน ซึ่งนั่นมันสร้างความประหม่าและตื่นเต้นกับฉันเป็นอย่างมากเลยล่ะ

ฮู่ววว!! ไม่คิดว่ามันจะตื่นเต้นขนาดนี้เลยแฮ่ะ!!

“สวัสดีคะ ฉันเกวลินค่ะ ต่อจากนี้ไปก็…ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” ฉันพูดแนะนำตัวเองออกไปตามที่ควรแล้ว แต่รีแอคที่ได้กลับมาดันมีแต่ความเงียบเพียงเท่านั้น ดูเหมือนว่า…ทุกคนจะหันกลับไปสนใจงานของตัวเอง มากกว่าเด็กฝึกงานอย่างฉันซะอีกนะ ซึ่งแบบนี้มันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วล่ะ

“เดี๋ยววันนี้คุณนั่งทำงานที่โต๊ะนี้ก่อนล่ะกันนะครับ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะให้คนย้ายโต๊ะไปไว้ที่หน้าห้องผู้จัดการ” คุณธนินพูดชี้แจงพลางชี้ไปยังโต๊ะตัวว่างที่วางอยู่ใกล้บริเวณนั้น

“ขอบคุณมากค่ะ”

“ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติมก็ใช้โทรศัพท์นั่นโทรมาหาผมล่ะกันนะครับ เบอร์ศูนย์สองสายจะตรงเข้ามาหาผม ส่วนศูนย์หนึ่งจะเป็นเบอร์ที่ต่อสายตรงไปหาผู้จัดการ” ผู้จัดการที่ว่า…ก็คือคุณคิมหันต์สินะ!

“เข้าใจแล้วค่ะ!”

“ถ้างั้น…ผมขอตัวก่อนนะครับ!”

“ค่ะ!” เมื่อชี้แจงทุกอย่างกับฉันเรียบร้อยแล้ว คุณธนินก็เดินหันหลังกลับไปทำงานของตัวเองตามเดิม ส่วนฉันเองก็เดินตรงมานั่งที่โต๊ะของตัวเองด้วยความประหม่าที่มากขึ้นกว่าเดิมทุกที

ปกติแล้วพนักงานออฟฟิศเขาจดจ่ออยู่กับงานของตัวเองมากขนาดนี้กันเชียวเหรอ? ทุกคนดูตั้งใจทำงานของตัวเองกันมากๆเลยล่ะ แต่เพราะทุกคนดูตั้งใจกันมากๆขนาดนี้ มันเลยทำให้ฉันยิ่งรู้สึกอึดอัดเข้าไปใหญ่ ฉันควรทำอะไรต่อดีนะ? นี่เป็นการฝึกงานครั้งแรกของฉัน เพราะงั้น…ฉันเลยไม่รู้ว่าควรทำอะไรต่อจากนี้ดี?

“นี่เธอมาฝึกงานในตำแหน่งอะไรเหรอ?” และในตอนที่ฉันกำลังนั่งมองไปมองมาอยูที่โต๊ะของตัวเองอยู่นั้น จู่ๆเสียงของพี่พนักงานผู้หญิงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะข้างๆฉันก็ดังขึ้นมา พี่เขา…คุยกับฉันอยู่รึเปล่านะ? ที่ไม่มั่นใจเพราะพี่เขาเอาแต่ก้มหน้ามองจอคอมไม่พักเลยน่ะสิ!

“…ผู้ช่วยเลขาผู้จัดการค่ะ” ฉันตอบพี่พนักงานออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆ

“ได้ข่าวว่าเธอเป็นเด็กทุนของอัศวนันทร์กรุ๊ปด้วยใช่มั้ย?” พี่เขา…คุยกับฉันอยู่จริงๆด้วยสินะ ว่าแต่…พี่เขารู้เรื่องที่ฉันเป็นเด็กทุนได้ยังไง?

“ใช่ค่ะ!”

“ถ้างั้นก็คงรู้จักกับผู้จัดการอยู่แล้วใช่มั้ย?” คำถามของพี่เขา…กำลังจะสื่อถึงอะไรกันแน่?

“ก็…ค่ะ” ถ้าบอกว่าไม่ก็คงจะดูเหมือนเป็นการโกหกหน้าด้านๆ เพราะก่อนหน้านี้ฉันเดินทางมาที่บริษัทพร้อมกับคุณคิมหันต์ เพราะงั้น…ทุกคนก็คงจะเห็นตอนที่เราเดินลงมาจากรถคันเดียวกันแน่ๆ แม้ว่าฉันจะพยายามร้องขอคุณคิมหันต์ให้ต่างคนต่างไปแค่ไหน แต่ก็อย่างที่รู้ ฉันเอาชนะคำสั่งของคนเอาแต่ใจอย่างคุณคิมหันต์ไม่ได้หรอก

“ไม่ว่าเธอจะรู้จักกับผู้จัดการมากขนาดไหนก็ตาม แต่ถ้าเธออยากจะฝึกงานต่อไปอย่างสงบล่ะก็…อย่าทำตัวเด่นเกินกว่าหน้าที่เด็กฝึกงานเชียวล่ะ ฉันเตือนด้วยความหวังดี” อ่าาา!! ฉันเข้าใจแล้วล่ะ ก่อนหน้านี้ตอนที่ฉันแนะนำตัวแล้วทุกคนพากันเงียบใส่ เพราะคิดว่าตัวเองเพิ่งมาใหม่เลยเข้าใจผิดคิดว่่าที่ทุกคนเงียบ ก็เพราะกำลังตั้งใจทำงานกันอยู่ แต่ดูเหมือนว่า…จะไม่ใช่อย่างนั้นสินะ

เหมือนว่าตอนนี้ฉันเพิ่งจะมาสังเกตเห็นแววตาของพนักงานคนอื่นๆที่แอบมองมาที่ตัวฉัน ทุกสายตาล้วนแล้วแต่เป็นสายตาที่กำลังดูถูกฉันทั้งนั้นเลย ความคิดที่อยู่ภายใต้สายตาดูถูกพวกนั้นคืออะไรกันนะ? พวกเขา…กำลังมองว่าฉันเป็นเด็กเส้นรึเปล่านะ? เพราะรู้จักกับผู้จัดการเลยได้เข้ามาฝึกงานตำแหน่งสูงขนาดนี้สินะ หรือเพราะเป็นเด็กทุนของอัศวนันทร์กรุ๊ปเลยได้เข้ามาฝึกงานที่บริษัทใหญ่ๆขนาดนี้ได้ พวกเขา…กำลังคิดแบบนี้อยู่ใช่มั้ย?

นี่แหละ…หนึ่งในสาเหตุที่ฉันไม่อยากเข้ามาฝึกงานที่นี่ เพราะฉันไม่อยากถูกมองด้วยสายตาดูถูกแบบนี้ไงล่ะ? พวกเขามองฉันด้วยสายตาดูถูก โดยที่ไม่รู้เลยว่าความจริงมันไม่ใช่อย่างที่เขาคิดซะหน่อย

กว่าฉันจะผ่านมาได้ขนาดนี้ ฉันต้องพยายามมากขนาดไหน พวกเขาไม่เคยรับรู้เรื่องนั้นด้วยซ้ำ แล้วทำไม…ทำไมถึงกล้ามามองฉันด้วยสายตาดูถูกแบบนี้ได้ล่ะ!?

“ขอบคุณสำหรับคำเตือนนะคะ แต่มันไม่ใช่อย่างที่พี่คิดหรอกค่ะ ฉันเป็นแค่…เด็กฝึกงานเท่านั้นจริงๆค่ะ!!”

“คำอธิบายพวกนั้นมันใช้ไม่ได้กับพนักงานคนอื่นหรอกนะ” พี่พนักงานคนนี้ดูเหมือนเขาจะมองฉันออกตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกันเลยนะ ก็อย่างที่พี่เขาว่า…แค่คำพูดมันไม่เพียงพอให้ฉันใช้แก้ตัวได้หรอก ทางเดียวที่จะทำให้สายตาดูถูกพวกนี้หายไป มีแค่การพิสูจน์ตัวเองเท่านั้นแหละ

“เข้าใจแล้วคะ ฉันจะพยายามให้เต็มที่ที่สุดค่ะ”

“ให้มันจริงอย่างที่พูดเถอะ” ถึงสายตาของพนักงานคนอื่นจะมองฉันไม่ดีเท่าไร แต่พี่พนักงานคนนี้…ดูจะแตกต่างจากพนักงานคนอื่นนิดหน่อยนะ ฉันว่า…ฉันควรจะผูกมิตรกับพี่เขาเอาไว้ดีกว่า

“ว่าแต่…พี่ชื่ออะไรเหรอคะ?”

“ขิม!!” สั้นๆงี้เลย

“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะพี่ขิม”

“เลิกพูดมาก แล้วเอาเอกสารพวกนี้ไปก๊อปปี้ให้ฉันหน่อยไป”

ฟึ่บ!! พี่ขิมละสายตาออกจากหน้าจอคอมพร้อมกระชับแว่นของตัวเองไปทีนึง ก่อนจะยื่นเอกสารชุดหนึ่งมาให้ฉัน พอได้เห็นหน้าพี่ขิมตรงๆแล้วก็รู้สึกว่า…พี่ขิมดูอัธยาศัยดีกว่าที่คิดเลยนะเนี่ย รู้สึกผ่อนคลายกว่าตอนแรกเยอะเลย

“ได้ค่ะ เกวจะรีบไปทำมาให้นะคะ” ว่าแล้วฉันก็ไม่รอช้าที่จะยื่นมือไปรับเอกสารจากพี่ขิมโดยทันที

เฮ้อออ! ชีวิตฝึกงานอีกสามเดือนต่อจากนี้ของฉันจะเป็นยังไงต่อไปนะ? นี่แค่วันแรกก็ทำฉันลำบากใจมากขนาดนี้แล้ว แล้วต่อไปฉันจะฝึกงานที่นี่รอดได้จริงๆมั้ยนะ?

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ปราถนารัก   ตอนจบ

    [คิมหันต์]“คุณคิมหันต์!! มาดูนี่เร็ววว~” เสียงของคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ริมทะเลหันมาร้องเรียกผมพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส“หึๆ” ผมที่ที่กำลังเดินอยู่ก็รีบเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปหาเกวลินโดยทันที พร้อมกับหิ้วไก่ทอดที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ติดมือมาด้วย ตามคำสั่งของคนตัวเล็ก“คุณคิมหันต์ พระอาทิตย์ตกสวยมากเลยว่ามั้ยคะ?” พอเดินเข้ามาถึงตัวเกวลินแล้ว เธอก็ยังคงยกยิ้มสดใสออกมาด้วยความสดใส แถมยังกระโดดไปมาดุกดิกด้วยความตื่นเต้นกับวิวพระอาทิตย์ตกริมทะเลตรงหน้าอีกด้วยผมที่ได้เห็นท่าทีของเธอที่น่ารักของเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู“ไหนว่าจะกลับห้องไง ทำไมถึงพามาที่นี่ล่ะ?” หลังจากออกมาจากห้างก่อนหน้านี้ ผมตั้งใจว่าจะพาเกวลินกลับไปพักที่ห้องของเธอทันที แต่เธอก็ดื้อดึงอ้อนให้ผมพามาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่จนได้ แล้วท่าทีตอนที่เกวลินอ้อนผมมันก็ดันน่ารักซะจนผมปฏิเสธเธอไม่ลงเลยจริงๆ“จะกลับเลยได้ยังไงล่ะคะ วันนี้อุตส่าห์ได้พักทั้งที ต้องออกมาเที่ยวซะหน่อยสิ”หมับ!! เกวลินพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ผม ขณะเดียวกันเธอก็ยื่นมือตัวเองมาจับมือที่ว่างอยู่ของผมเอาไว้ ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมใจสั

  • ปราถนารัก   แผนเซอร์ไพรส์กลับ

    [เกวลิน]“แน่ใจนะว่าไม่ต้องไปโรงพยาบาล” คุณคิมหันต์ที่ขับรถอยูข้างๆเอ่ยถามคำถามนีเป็นรอบที่สิบได้แล้วมั้ง? หลังจากที่ฉันดีขึ้นแล้ว คุณริมหันต์ก็จัดการเรื่องลางานกับผู้จัดการให้ฉัน แถมยังอาสาพาฉันกลับห้องอีกด้วย และตั้งแต่ที่ออกมามาจากโรงแรม เขาก็เอาแต่ถามย้ำกับฉันอยู่ได้ว่าไม่เป็นไรแน่นะ? ไม่ต้องโรงพยาบาลแน่นะ? ให้ฉันพาไปโรงพยาบาลมั้ย? ถามย้ำรอบที่สิบได้แล้วมั้งน่ะ“เกวไม่เป็นไรแล้วจริงๆค่า แข็งแรงดี สบายใจหายห่วงได้ค่ะ”“ถ้างั้นกลับห้องไปก็พักผ่อนให้เต็มที่่นะ”“เอ่อ คือว่า…ก่อนกลับห้อง เกวมีที่ที่ต้องไปก่อนน่ะค่ะ” จริงๆวันนี้ฉันต้องไปทำธุระสำคัญอย่างหนึ่ง ตอนแรกฉันตั้งใจว่าจะไปคนเดียวด้วยซ้ำ แต่คุณคิมหันต์ก็ดื้อดึงจะไปส่งฉันให้ได้ ฉันปฏิเสธเขาไม่ได้เลยจริงๆ เลยต้องยอมให้เขามาส่งให้จนได้“ไว้รอหายดีก่อนแล้วค่อยไปวันหลัง วันนี้เธอต้องกลับไปพักก่อน”“ไม่ได้ค่ะ เกวต้องไปทำธุระสำคัญมากๆ ต้องไปวันนี้เท่านั้นค่ะ”“ฉันไม่ให้ไป” คนตัวสูงข้างๆเอ่ยออกมาอย่างเด็ดขาด“คุณคิมหันต์! นี่คุณจะเห็นแก่ตัวเกินไปแล้วนะ ฉันไปแค่แปบเดียว คุณแค่ไปส่งฉันแล้วนั่งรออยู่บนรถก็ได้”“ธุระอะไรจะสำคัญไป

  • ปราถนารัก   เป็นห่วง

    [คิมหันต์]พรึ่บ!! ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ก่อนที่จะต้องหรี่ตาลงเมื่อแสงที่เล็ดลอดผ่านผ้าม่านสอดส่องเข้ามากระทบกับดวงตา และเมื่อปรับสายตาให้คงที่ได้แล้ว ผมถึงได้รู้ว่าตัวเองยังคงนอนอยู่ใขอบนเตียงในห้องพักของเกวลินเหมือนเดิมเพียงแต่ตอนนี้ที่ข้างๆที่เคยมีเกวลินนอนอยู่ด้วย กลับเหลือไว้เพียงแค่รอยยับที่ว่างเปล่าเท่านั้นเกวลิน…ยัยนั่นทิ้งผมไปอีกแล้วเหรอเนี่ย?ฟุ่บ!! ผมลุกขึ้นมาจากเตียงนอน ก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา แต่เมื่อก้าวเข้าไปในห้องน้ำแล้ว บางสิ่งบางอย่างอยู่ในนั้นกลับทำให้ผมแปลกใจขึ้นมาบนกระจกในห้องน้ำมีกระดาษอยู่สามแผ่นแปะเรียงกันไว้อย่างเป็นแถวเลยล่ะฟึ่บ! ผมเอื้อมมือไปหยิบกระดาษโน้ตแผ่นที่แปะอยู่บนกระจกห้องน้ำมาอ่าน‘เกวต้องออกไปทำงานแต่เช้าเมื่อคืนคุณดูเหนื่อยมากเกวเลยไม่อยากปลุก ขอโทษที่ปล่อยให้อยู่คนเดียวนะคะ’“หึ! ใครกันแน่ที่เหนื่อย” ผมยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจทันทีที่ได้อ่านข้อความที่เกวลินทิ้งไว้ให้ฟึ่บ!! จากนี้ก็หยิบกระดาษโน้ตใบที่สองขึ้นมาอ่านต่อ‘คุณอาบน้้ำแปรงฟันก่อนได้นะคะ เกวแขวนเสื้อผ้าที่คุณพอจะใส่ได้ไว้ให้ที่ตู้แล้ว’ผมอดไม่ไ

  • ปราถนารัก   เป็นลม

    วันต่อมาณ โรงแรมพาวิลงเลียน“อ้าวเกว” เสียงของรินณ์เอ่ยทักขึ้นทันทีที่รินณ์เดินเข้ามาในห้องพักพนักงาน ซึ่งมีฉันที่นั่งอยู่ก่อนหน้าแล้ววันนี้ฉันตั้งใจออกจากห้องมาแต่เช้า เช้าถึงขนาดที่คุณคิมหันต์ยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ “ไงรินณ์”“ทำไมมาเช้าจังอ่ะ วันนี้เกวเข้างานกะบ่ายไม่ใช่เหรอ?”“อ่อ เราแลกเวรกับพี่แอนอ่ะ พอดี…ตอนเย็นเรามีธุระต้องไปทำธน่ะ” ใช่แล้วล่ะ! จริงๆ วันนี้ฉันเข้างานกะบ่าย แต่ช่วงเย็นวันนี้ฉันมีที่ที่ต้องไปน่ะ เลยแลกเวรกับพี่แอนไว้“ไปไหนอ่ะ? หรือว่า…ไปเดทเหรอ?” รินณ์ยิ้มกรุ้มกริ่มพลางเดินเข้ามากระซิบใกล้ฉัน อะไรกัน? ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไงเนี่ย?“ดะ เดทอะไรกันเล่า? ไม่ใช่ซะหน่อย” “เอ้า! ไม่ใช่หรอกเหรอ แต่เมื่อคืนเราเห็นน้า ผู้หญิงชุดฟ้าที่เดินควงแขนกับคุณคิมหันต์” รินณ์เข้ามานั่งใกล้ๆ ก่อนจะเขยิบมากระซิบข้างๆหู“นี่รินณ์เห็นด้วยเหรอ?0_0!” ฉันถึงกับเบิกตาโพลงออกมาด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเมื่อคืนจะมีคนเห็นฉันกันคุณคิมหันต์ด้วย นี่ขนาดแอบย่องออกไปตอนไม่มีคนแล้วน่ะเนี่ย ยังมีคนเห็นอีกเหรอเนี่ย? “อื้ม เมื่อคืนเราอยู่ทำโอทีน่ะ”“นอกจากรินณ์แล้ว…”“ไม่ต้องห่วงหรอก เมื

  • ปราถนารัก   ทำให้หายโกรธ nc 20++

    “อื้มมม~” เสียงครวญครางของเราสองคนดังลั่นไปทั่วทั้งห้องพักของฉัน เพราะรสจูบที่ร้อนแรงเกินกว่าจะต้านทานของกันและกัน เรียวลิ้นที่สอดประสานกันไปมาของเราสองคน มันเต็มไปด้วยความรุ่มร้อน แต่ก็แฝงไปด้วยความปรารถนาที่เหลือล้น ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าริมฝีปากของคนตัวสูงยิ่งหอมหวานน่าช่วงชิมมากกว่าเดิมขึ้นไปเรื่อยๆหมับ!! ฉันเอื้อมมือออกไปค้วาท้ายทอยของคนตัวสูงเหนือร่างลงมากอดไว้แน่น เพื่อให้เราสองคนแลกเปลี่ยนรสจูบจากกันและกันได้แนบแน่นกันมากยิ่งขึ้น“อื้อออ~” ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวที่ต้องการสัมผัสจากคุณคิมหันต์ เขาเองก็คงจะรู้สึกเช่นเดียวกันกับฉัน ฉันส่งเสียงครวญครางผ่านลำคอออกมาด้วยความเสียวซ่าน เมื่อคนตัวสูงเลื่อนไล้มือหนาของตัวเอง ลงไปสัมผัสกับกลีบกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ใต้กางเกงนอนของฉัน ในขณะที่ปากของเขาก็ยังคงดูดเม้ม ช่วงชิมรสหวานจากปากของฉันอย่างไม่ลดละ“อื้อ!!~” ฉันเริ่มจะทนกับความเสียวซ่านที่ถูกกระตุ้นทั้งช่วงบน และช่วงล่างไม่ไหวแล้ว จนต้องส่งเสียงร้องประท้วงผ่านลำคอออกมาเพื่อให้เขาปล่อยส่วนใดส่วนหนึ่งซะที ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหวจนขาดใจตายไปซะก่อน“อึก!

  • ปราถนารัก   ทำให้หายโกรธ

    หลังจากที่คุณคิมหันต์บุกเข้ามาหาถึงห้อง แล้วขอนอนค้างด้วย ตอนนี้เขา…กำลังนอนอยู่บนเตียงข้างๆฉันถึงแม้ว่าคุณคิมหันต์จะนอนก่ายหน้าผากอยูข้างฉัน แต่เขากลับไม่เอ่ยปากคุยอะไรกับฉันต่อเลยแม้แต่คำเดียวนี่เขา…กำลังไม่พอใจฉันอยูแน่ๆเลย“คุณคิมหันต์ หลับรึยังคะ?” ฉันรู้ว่าเขายังไม่หลับแน่ๆ“หลับแล้ว” หลับแล้วเขาจะตอบฉันได้ยังไงล่ะ?“คุณ…โกรธเกวเหรอคะ?”“…” สิ้นสุดคำถามของฉัน ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากคนข้างๆอีกเลย“เกวขอโทษนะคะ ที่ทิ้งคุณไว้ที่ร้านอาหารคนเดียว”“…” คราวนี้ก็ยังเงียบเหมือนเดิม“เกวแค่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับความจริงน่ะค่ะ”“เกวลิน…”“คะ?”“รู้ใช่มั้ย…ว่าฉันรักเธอ?” คุณคิมหันต์ที่เอาแต่หลับตาในตอนแรก ตอนนี้เขากลับลืมตาหันมามองฉันที่อยู่ใกล้ๆ ด้วยแววตาที่อ่อนโยน“…รู้ค่ะ” ฉันจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขา พลางเอ่ยคำตอบที่รู้ดีอยู่แก่ใจออกไปอย่างลึกซึ้ง“แล้วเธอล่ะ?” คำถามที่คาดไม่ถึงจากคนตัวสูงตรงหน้า ทำฉันอึ้งจนอ้าปากค้าง ทำไมเขาถึงถามแบบนี้ออกมาได้“รักสิคะ เกวรักคุณมากๆค่ะ”“ถ้างั้น…อย่าทิ้งฉันไปอีกได้มั้ยเกว?” คำถามที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือของคนตรงหน้า บวกกับ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status