Share

คู่หมั้น?

Author: Darann
last update Last Updated: 2025-05-16 15:28:49

ครืดๆๆ เสียงเครื่องถ่ายเอกสารกำลังทำงานดังขึ้น หลังจากที่ฉันใส่เอกสารที่ต้องการก็อปปี้ลงไปในเครื่องแล้วกดปุ่มสตาร์ทไปก่อนหน้านี้

งานก็อปเอกสารเนี่ยถือเป็นงานเบสิคที่เด็กฝึกงานทั่วไปจะได้ทำเลย ตอนนี้ฉันคงจะเป็นเด็กฝึกงานจริงๆแล้วสินะ

“นี่ได้ข่าวเรื่องเด็กฝึกงานที่มากับผู้จัดการรึยัง?” ระหว่างที่ฉันกำลังยืนรอเอกสารอยู่นั้น จู่ๆเสียงสนทนาของใครบางคนก็ดังขึ้นจากอีกฝั่งของผนังห้องที่ฉันยืนอยู่

ขวับ!! ฉันแอบชะโงกหน้าออกไปดูข้างกำแพงตามเสียงที่ดังขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะเห็นว่ามีพนักงานหญิงสองคนยืนคุยกันอยู่ใกล้ๆนี่เอง

เด็กฝึกงานที่มากับผู้จัดการ…หมายถึงฉันรึเปล่านะ?

“รู้สิแก จะไม่รู้ได้ไง คนเขาลือกันให้ทั่วทั้งบริษัท ได้ข่าวว่าเป็นเด็กทุนของอัศวนันทร์กรุ๊ปด้วยใช่มั้ย?” ใช่จริงๆด้วย หัวข้อหลักในการสนทนาของทั้งสองคนคือ…เรื่องของฉันจริงๆด้วยสินะ

ฉันก็พอจะรู้มาบ้างว่าการนินทากันในที่ทำงานมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ก็ไม่เคยคิดเลย ว่าฉันจะกลายมาเป็นหัวข้อในการนินทาของพนักงานตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาฝึกงานเลย

“แหมมม!! นอกจากจะเป็นเด็กทุนของอัศวนันทร์แล้ว ก็คงจะเป็นเด็กของผู้จัดการด้วยนั่นแหละ ไม่งั้นจะมาด้วยกันได้ไงล่ะ? แถมได้เข้ามาฝึกงานตำแหน่งสูงซะขนาดนั้น ไม่ใช่เด็กคุณคิมหันต์ก็คงทำไม่ได้หรอก”

เป็นอย่างที่ฉันเดาเอาไว้ไม่มีผิด ทุกคนคิดว่าฉันเป็นเด็กเส้นจริงๆด้วย พอได้มาฟังชัดๆแบบนี้แล้วก็แอบรู้สึกแย่กว่าที่คิดเลยแฮะ แต่ที่แย่กว่านั้นคือ…สิ่งที่พนักงานพวกนั้นกำลังพูดกันอยู่ มันไม่มีข้อไหนที่ฉันปฏิเสธได้เลยสักนิด ดูเหมือนว่าทุกอย่างที่พี่ๆเขาพูดมันจะ…เป็นความจริงทุกอย่างเลยแฮะ

ฉันเข้ามาฝึกงานที่นี่ก็เพราะคุณคิมหันต์จริงๆนั่นแหละ ตำแหน่งผู้ช่วยเลขาผู้จัดการนี่ คุณคิมหันต์ก็เป็นคนมอบหมายให้ฉันจริงๆ แบบนี้มัน…ก็ไม่ต่างอะไรจากเด็กเส้นชัดๆ

“พูดตรงๆ ฉันล่ะเสียดายความหล่อของผู้จัดการจริงๆเลย วันก่อนก็มีข่าวควงสาวเข้าโรงแรม วันนี้ก็ควงเด็กฝึกงานเข้าบริษัทอีก หล่อแต่เจ้าชู้แบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะแก” เขาคงไม่รู้สินะว่าผู้หญิงสองคนที่เขาพูดถึงอยู่ ก็คือฉันคนนี้คนเดียวกันเนี่ยแหละ

“คุณคิมหันต์ก็คงไม่ต่างจากพวกคนรวยทั่วๆไปนั่นแหละ ชอบก็ควง เบื่อเมื่อไรก็เขี่ยทิ้ง เดี๋ยวก็เอาคนใหม่มาแทน นี่แหละนิสัยของคนรวย อยากได้อะไรก็ใช้เงินซื้อมาได้ง่ายๆ”

“ก็จริงของแก เป็นคนรวยทำอะไรไม่เคยผิดอยู่แล้ว คนที่ผิดก็คงจะเป็นคนที่โดนเงินฟาดหัวอย่างพวกสาวๆที่เขาควงมากกว่า” ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกเจ็บจี้ดในใจมากขึ้นเรื่อยๆ ฉัน…ไม่ใช่ผู้หญิงขายตัวสักหน่อยนะ ทำไมต้องมาพูดจาใส่ร้าย คิดเองเออเองเกินเรื่องแบบนี้ด้วย อีกอย่าง…คุณคิมหันต์ก็ไม่ใช่คนไม่ดีขนาดนั้นซะหน่อย แบบนี้มัน…มากเกินไปแล้ว

“มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วล่ะ เพราะคุณคิมหันต์น่ะ เขามีตัวจริงของเขาอยู่แล้วนี่”

กึก!! คำพูดต่อมาของพนักงานคนนั้นทำให้ฉันที่กำลังยกฝาเครื่องถ่ายเอกสารขึ้น ถึงกับต้องหยุดชะงักตัวแข็งขึ้นมาซะดื้อๆ สิ่งที่เขาพูดเมื่อกี้มันหมายความว่ายังไงกันแน่? ตัวจริงงั้นเหรอ? ตัวจริงที่ว่า…หมายถึงใครหรืออะไรกันแน่?

“ตัวจริง!? หมายความว่าไงอ่ะแก?”

“เอ้า! นี่แกไม่รู้หรอกเหรอว่าคุณคิมหันต์น่ะ…เขามีคู่หมั้นอยู่แล้วล่ะ”

ปัง!! คราวนี้ไม่รู้ทำไมแต่จู่ๆคำพูดพวกนั้นมันก็ทำให้ฉันถึงกับมือไม้อ่อนแรงจนเผลอปล่อยฝาเครื่องถ่ายเอกสารลงมาทับมือตัวเองอย่างแรง

“โอ๊ยยยย!!” ฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เพราะฝาเครื่องถ่ายเอกสารมันตกลงมาทับมือข้างขวาของฉันที่วางไว้บนเครื่องแสกนเอกสารอยู่ก่อนอย่างแรงมาก

เจ็บจัง! ทั้งแขนที่โดนทับ และหน้าอกข้างซ้ายของฉันที่จู่ๆก็เจ็บจี๊ดขึ้นมาแบบแปลกๆ

“เสียงอะไรน่ะ?” เสียงของพนักงานที่ยืนนินทาอยู่ใกล้ๆดังขึ้นมาอีกครั้ง และเหมือนว่าฉันจะได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาทั้งสองเดินเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆเลยด้วย

แย่แล้วสิ! ต้องรีบออกไปก่อนที่ทั้งสองคนจะมาเจอฉันซะก่อน แต่…ไอ้เจ้าฝาเครื่องถ่ายเอกสารนี่มันหนักขนาดนี้ตั้วแต่เมื่อไรกันนะ? ยกไม่ขึ้นเลยแฮะ

“เป็นอะไรมากมั้ยครับ?”

ฟึ่บ!! ในระหว่างที่ฉันกำลังพยายามยกฝาเครื่องถ่ายเอกสารที่มันทับแขนข้างขวาของฉันอยู่นั้น จู่ๆเสียงของคุณธนินก็ดังขึ้นมา ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาช่วยยกฝาเครื่องถ่ายเอกสารที่ทับแขนฉันไว้ออกไป

คุณธนินมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไรกันนะ? เขาคง…ไม่ได้ยินสิ่งที่พนักงานสองคนนั้นพูดหรอกใช่มั้ย?

“เอ่อ…ไม่เป็นไรค่ะ”

“แต่มือคุณแดงมากเลยนะครับ” คุณธนินพูดพลางจ้องมาที่แขนข้างขวาที่โดนฝาเครื่องถ่ายเอกสารทับก่อนหน้านี้ มันแดงจริงๆด้วย แล้วก็เจ็บมากอยู่พอสมควร นี่ฉันใจลอยจนทำให้ตัวเองเจ็บตัวมากขนาดนี้เลยเหรอ?

“ไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ เดี๋ยวก็หายแล้ว ขอบคุณคุณธนินมากนะคะที่ช่วย”

“แล้วนี่…คุณมาทำอะไรตรงนี้ครับ?”

“อ่อ! พี่ขิมให้ฉันเอาเอกสารมาก็อปปี้น่ะค่ะ”

“ผมว่ากำลังจะไปตามคุณอยู่พอดี ผู้จัดการเรียกให้คุณเข้าไปพบน่ะครับ” คุณคิมหันต์อยากเจอฉันงั้นเหรอ?

“งั้นเหรอคะ?” ตอนนี้ฉัน…ยังไม่พร้อมเจอเขาเลยแฮะ

“เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าคะ?” โอ๊ะ! เสียงพนักงานสองคนนั้นนี่

“ได้ค่ะ! เดี๋ยวฉันตามไป แต่ขอตัวเอาเอกสารไปคืนพี่ขิมก่อนนะคะ”

ฟึ่บ!! ฉันรีบคว้าเอกสารที่อยูตรงหน้าตัวเองขึ้นมากอดไว้แน่น ก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากตรงนั้นให้ไวที่สุด โดยที่ไม่คิดจะหันหน้ากลับไปมองพนักงานสองคนนั้นเลยด้วยซ้ำ

ถ้าขืนยังยืนอยู่ตรงนั้นเขาต้องจับได้ว่าฉันแอบฟังเขาสองคนนินทาฉันกันอยู่ ถ้าเป็นแบบนั้น…มันจะยิ่งอึดอัดกันเข้าไปใหญ่ แค่นี้ฉันก็รู้สึกแย่มากพอแล้ว

ถึงจะหนีออกมาได้แล้ว แต่ฉันก็ยังไม่สามารถลบคำพูดทิ้งท้ายที่พนักงานสองคนนั้นพูดได้เลย เรื่องที่คุณคิมหันต์…มีคู่หมั้นอยู่แล้ว!!

ทำไมฉัน…ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลยล่ะ? คุณคิมหันต์…มีคู่หมั้นอยู่แล้วจริงๆเหรอ? ทำไมนะ…ทำไมฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย?!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ปราถนารัก   ตอนจบ

    [คิมหันต์]“คุณคิมหันต์!! มาดูนี่เร็ววว~” เสียงของคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ริมทะเลหันมาร้องเรียกผมพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส“หึๆ” ผมที่ที่กำลังเดินอยู่ก็รีบเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปหาเกวลินโดยทันที พร้อมกับหิ้วไก่ทอดที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ติดมือมาด้วย ตามคำสั่งของคนตัวเล็ก“คุณคิมหันต์ พระอาทิตย์ตกสวยมากเลยว่ามั้ยคะ?” พอเดินเข้ามาถึงตัวเกวลินแล้ว เธอก็ยังคงยกยิ้มสดใสออกมาด้วยความสดใส แถมยังกระโดดไปมาดุกดิกด้วยความตื่นเต้นกับวิวพระอาทิตย์ตกริมทะเลตรงหน้าอีกด้วยผมที่ได้เห็นท่าทีของเธอที่น่ารักของเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู“ไหนว่าจะกลับห้องไง ทำไมถึงพามาที่นี่ล่ะ?” หลังจากออกมาจากห้างก่อนหน้านี้ ผมตั้งใจว่าจะพาเกวลินกลับไปพักที่ห้องของเธอทันที แต่เธอก็ดื้อดึงอ้อนให้ผมพามาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่จนได้ แล้วท่าทีตอนที่เกวลินอ้อนผมมันก็ดันน่ารักซะจนผมปฏิเสธเธอไม่ลงเลยจริงๆ“จะกลับเลยได้ยังไงล่ะคะ วันนี้อุตส่าห์ได้พักทั้งที ต้องออกมาเที่ยวซะหน่อยสิ”หมับ!! เกวลินพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ผม ขณะเดียวกันเธอก็ยื่นมือตัวเองมาจับมือที่ว่างอยู่ของผมเอาไว้ ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมใจสั

  • ปราถนารัก   แผนเซอร์ไพรส์กลับ

    [เกวลิน]“แน่ใจนะว่าไม่ต้องไปโรงพยาบาล” คุณคิมหันต์ที่ขับรถอยูข้างๆเอ่ยถามคำถามนีเป็นรอบที่สิบได้แล้วมั้ง? หลังจากที่ฉันดีขึ้นแล้ว คุณริมหันต์ก็จัดการเรื่องลางานกับผู้จัดการให้ฉัน แถมยังอาสาพาฉันกลับห้องอีกด้วย และตั้งแต่ที่ออกมามาจากโรงแรม เขาก็เอาแต่ถามย้ำกับฉันอยู่ได้ว่าไม่เป็นไรแน่นะ? ไม่ต้องโรงพยาบาลแน่นะ? ให้ฉันพาไปโรงพยาบาลมั้ย? ถามย้ำรอบที่สิบได้แล้วมั้งน่ะ“เกวไม่เป็นไรแล้วจริงๆค่า แข็งแรงดี สบายใจหายห่วงได้ค่ะ”“ถ้างั้นกลับห้องไปก็พักผ่อนให้เต็มที่่นะ”“เอ่อ คือว่า…ก่อนกลับห้อง เกวมีที่ที่ต้องไปก่อนน่ะค่ะ” จริงๆวันนี้ฉันต้องไปทำธุระสำคัญอย่างหนึ่ง ตอนแรกฉันตั้งใจว่าจะไปคนเดียวด้วยซ้ำ แต่คุณคิมหันต์ก็ดื้อดึงจะไปส่งฉันให้ได้ ฉันปฏิเสธเขาไม่ได้เลยจริงๆ เลยต้องยอมให้เขามาส่งให้จนได้“ไว้รอหายดีก่อนแล้วค่อยไปวันหลัง วันนี้เธอต้องกลับไปพักก่อน”“ไม่ได้ค่ะ เกวต้องไปทำธุระสำคัญมากๆ ต้องไปวันนี้เท่านั้นค่ะ”“ฉันไม่ให้ไป” คนตัวสูงข้างๆเอ่ยออกมาอย่างเด็ดขาด“คุณคิมหันต์! นี่คุณจะเห็นแก่ตัวเกินไปแล้วนะ ฉันไปแค่แปบเดียว คุณแค่ไปส่งฉันแล้วนั่งรออยู่บนรถก็ได้”“ธุระอะไรจะสำคัญไป

  • ปราถนารัก   เป็นห่วง

    [คิมหันต์]พรึ่บ!! ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ก่อนที่จะต้องหรี่ตาลงเมื่อแสงที่เล็ดลอดผ่านผ้าม่านสอดส่องเข้ามากระทบกับดวงตา และเมื่อปรับสายตาให้คงที่ได้แล้ว ผมถึงได้รู้ว่าตัวเองยังคงนอนอยู่ใขอบนเตียงในห้องพักของเกวลินเหมือนเดิมเพียงแต่ตอนนี้ที่ข้างๆที่เคยมีเกวลินนอนอยู่ด้วย กลับเหลือไว้เพียงแค่รอยยับที่ว่างเปล่าเท่านั้นเกวลิน…ยัยนั่นทิ้งผมไปอีกแล้วเหรอเนี่ย?ฟุ่บ!! ผมลุกขึ้นมาจากเตียงนอน ก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา แต่เมื่อก้าวเข้าไปในห้องน้ำแล้ว บางสิ่งบางอย่างอยู่ในนั้นกลับทำให้ผมแปลกใจขึ้นมาบนกระจกในห้องน้ำมีกระดาษอยู่สามแผ่นแปะเรียงกันไว้อย่างเป็นแถวเลยล่ะฟึ่บ! ผมเอื้อมมือไปหยิบกระดาษโน้ตแผ่นที่แปะอยู่บนกระจกห้องน้ำมาอ่าน‘เกวต้องออกไปทำงานแต่เช้าเมื่อคืนคุณดูเหนื่อยมากเกวเลยไม่อยากปลุก ขอโทษที่ปล่อยให้อยู่คนเดียวนะคะ’“หึ! ใครกันแน่ที่เหนื่อย” ผมยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจทันทีที่ได้อ่านข้อความที่เกวลินทิ้งไว้ให้ฟึ่บ!! จากนี้ก็หยิบกระดาษโน้ตใบที่สองขึ้นมาอ่านต่อ‘คุณอาบน้้ำแปรงฟันก่อนได้นะคะ เกวแขวนเสื้อผ้าที่คุณพอจะใส่ได้ไว้ให้ที่ตู้แล้ว’ผมอดไม่ไ

  • ปราถนารัก   เป็นลม

    วันต่อมาณ โรงแรมพาวิลงเลียน“อ้าวเกว” เสียงของรินณ์เอ่ยทักขึ้นทันทีที่รินณ์เดินเข้ามาในห้องพักพนักงาน ซึ่งมีฉันที่นั่งอยู่ก่อนหน้าแล้ววันนี้ฉันตั้งใจออกจากห้องมาแต่เช้า เช้าถึงขนาดที่คุณคิมหันต์ยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ “ไงรินณ์”“ทำไมมาเช้าจังอ่ะ วันนี้เกวเข้างานกะบ่ายไม่ใช่เหรอ?”“อ่อ เราแลกเวรกับพี่แอนอ่ะ พอดี…ตอนเย็นเรามีธุระต้องไปทำธน่ะ” ใช่แล้วล่ะ! จริงๆ วันนี้ฉันเข้างานกะบ่าย แต่ช่วงเย็นวันนี้ฉันมีที่ที่ต้องไปน่ะ เลยแลกเวรกับพี่แอนไว้“ไปไหนอ่ะ? หรือว่า…ไปเดทเหรอ?” รินณ์ยิ้มกรุ้มกริ่มพลางเดินเข้ามากระซิบใกล้ฉัน อะไรกัน? ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไงเนี่ย?“ดะ เดทอะไรกันเล่า? ไม่ใช่ซะหน่อย” “เอ้า! ไม่ใช่หรอกเหรอ แต่เมื่อคืนเราเห็นน้า ผู้หญิงชุดฟ้าที่เดินควงแขนกับคุณคิมหันต์” รินณ์เข้ามานั่งใกล้ๆ ก่อนจะเขยิบมากระซิบข้างๆหู“นี่รินณ์เห็นด้วยเหรอ?0_0!” ฉันถึงกับเบิกตาโพลงออกมาด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเมื่อคืนจะมีคนเห็นฉันกันคุณคิมหันต์ด้วย นี่ขนาดแอบย่องออกไปตอนไม่มีคนแล้วน่ะเนี่ย ยังมีคนเห็นอีกเหรอเนี่ย? “อื้ม เมื่อคืนเราอยู่ทำโอทีน่ะ”“นอกจากรินณ์แล้ว…”“ไม่ต้องห่วงหรอก เมื

  • ปราถนารัก   ทำให้หายโกรธ nc 20++

    “อื้มมม~” เสียงครวญครางของเราสองคนดังลั่นไปทั่วทั้งห้องพักของฉัน เพราะรสจูบที่ร้อนแรงเกินกว่าจะต้านทานของกันและกัน เรียวลิ้นที่สอดประสานกันไปมาของเราสองคน มันเต็มไปด้วยความรุ่มร้อน แต่ก็แฝงไปด้วยความปรารถนาที่เหลือล้น ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าริมฝีปากของคนตัวสูงยิ่งหอมหวานน่าช่วงชิมมากกว่าเดิมขึ้นไปเรื่อยๆหมับ!! ฉันเอื้อมมือออกไปค้วาท้ายทอยของคนตัวสูงเหนือร่างลงมากอดไว้แน่น เพื่อให้เราสองคนแลกเปลี่ยนรสจูบจากกันและกันได้แนบแน่นกันมากยิ่งขึ้น“อื้อออ~” ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวที่ต้องการสัมผัสจากคุณคิมหันต์ เขาเองก็คงจะรู้สึกเช่นเดียวกันกับฉัน ฉันส่งเสียงครวญครางผ่านลำคอออกมาด้วยความเสียวซ่าน เมื่อคนตัวสูงเลื่อนไล้มือหนาของตัวเอง ลงไปสัมผัสกับกลีบกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ใต้กางเกงนอนของฉัน ในขณะที่ปากของเขาก็ยังคงดูดเม้ม ช่วงชิมรสหวานจากปากของฉันอย่างไม่ลดละ“อื้อ!!~” ฉันเริ่มจะทนกับความเสียวซ่านที่ถูกกระตุ้นทั้งช่วงบน และช่วงล่างไม่ไหวแล้ว จนต้องส่งเสียงร้องประท้วงผ่านลำคอออกมาเพื่อให้เขาปล่อยส่วนใดส่วนหนึ่งซะที ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหวจนขาดใจตายไปซะก่อน“อึก!

  • ปราถนารัก   ทำให้หายโกรธ

    หลังจากที่คุณคิมหันต์บุกเข้ามาหาถึงห้อง แล้วขอนอนค้างด้วย ตอนนี้เขา…กำลังนอนอยู่บนเตียงข้างๆฉันถึงแม้ว่าคุณคิมหันต์จะนอนก่ายหน้าผากอยูข้างฉัน แต่เขากลับไม่เอ่ยปากคุยอะไรกับฉันต่อเลยแม้แต่คำเดียวนี่เขา…กำลังไม่พอใจฉันอยูแน่ๆเลย“คุณคิมหันต์ หลับรึยังคะ?” ฉันรู้ว่าเขายังไม่หลับแน่ๆ“หลับแล้ว” หลับแล้วเขาจะตอบฉันได้ยังไงล่ะ?“คุณ…โกรธเกวเหรอคะ?”“…” สิ้นสุดคำถามของฉัน ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากคนข้างๆอีกเลย“เกวขอโทษนะคะ ที่ทิ้งคุณไว้ที่ร้านอาหารคนเดียว”“…” คราวนี้ก็ยังเงียบเหมือนเดิม“เกวแค่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับความจริงน่ะค่ะ”“เกวลิน…”“คะ?”“รู้ใช่มั้ย…ว่าฉันรักเธอ?” คุณคิมหันต์ที่เอาแต่หลับตาในตอนแรก ตอนนี้เขากลับลืมตาหันมามองฉันที่อยู่ใกล้ๆ ด้วยแววตาที่อ่อนโยน“…รู้ค่ะ” ฉันจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขา พลางเอ่ยคำตอบที่รู้ดีอยู่แก่ใจออกไปอย่างลึกซึ้ง“แล้วเธอล่ะ?” คำถามที่คาดไม่ถึงจากคนตัวสูงตรงหน้า ทำฉันอึ้งจนอ้าปากค้าง ทำไมเขาถึงถามแบบนี้ออกมาได้“รักสิคะ เกวรักคุณมากๆค่ะ”“ถ้างั้น…อย่าทิ้งฉันไปอีกได้มั้ยเกว?” คำถามที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือของคนตรงหน้า บวกกับ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status