เริ่มต้นการทำงานร่วมกันในสัปดาห์ที่สอง เอลินอร์เริ่มเรียนรู้ได้มากขึ้น เธอศึกษาเอกสารที่ปฐพีเตรียมไว้ได้เกินครึ่ง บ่ายนี้เขาเลยบรีฟรายละเอียดเครื่องบริษัทกำลังวางแผนผลิตในเดือนหน้าให้เธอฟังอีกครั้งหลังจากที่ส่งรายละเอียดทุกอย่างให้เธอทางเมลตั้งแต่บ่ายวันเสาร์
“นายดิน ฉันออกแบบหลายชิ้นได้ไหม”
“แล้วแต่คุณหนูเลยครับ”
“ฉันอยากให้ทุกอย่างมันเข้าชุดกัน เน้นชิ้นเล็กๆ เวลาใส่จะได้น่ารักๆ จะดูไม่เวอร์ด้วยนายคิดว่าไง”
“ครับ เอาแบบที่คุณหนูคิดว่าเหมาะสมเพราะครั้งนี้เราจะเน้นไปที่ผู้หญิงวัยเริ่มต้นทำงาน ราคาแต่ละชิ้นก็ไม่แพงมากคุณหนูอย่าลืมใส่รายละเอียดด้วยนะครับว่าชิ้นไหนใช้เพชรแท้หรือเพชรสังเคราะห์ด้วยนะครับ”
“ฉันอยากใช้เพชรแท้ทุกชิ้น แต่ราคามันก็จะสูงเกินไปหรือจะใช้ทั้งสองแบบแต่ต่างราคากัน นายคิดว่าไง” เอลินอร์ถามคนที่มีประสบการณ์มากกว่า
“เราทำแบบนั้นก็ได้ครับ แต่ผมว่าคนซื้อคงคิดหนักเพราะถ้าเขาซื้อราคาหนึ่งแต่อีกคนซื้อราคาหนึ่งทั้งๆ ที่แบบมันเหมือนกันเขาคงรู้สึกไม่ดี ถึงแม้จะต่างกับที่เพชรแต่คนมองเขาไม่รู้หรอกนะครับว่าใครใส่เพชรแท้ ใครใส่เพชรสังเคราะห์”
“ฉันเข้าใจแล้ว ครั้งนี้ฉันจะใช้เพชรเทียมทั้งหมด จะเน้นไปที่การใส่ได้ทุกโอกาส แบบเก๋ๆ” เมื่อนึกถึงงานออกแบบที่ตัวเองชอบเอลินอร์ก็ยิ้มอย่างมีความสุข
“ถ้าคุณหนูไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามผมได้ตลอด”
“แล้วถ้าฉันไม่เข้าใจหลังเลิกงานล่ะถามได้ไหม”
“ก็แล้วแต่ว่าคุณหนูจะตีความหมายของคำว่าตลอดยังไง”
“แล้วอย่าโวยวายเวลาที่ฉันโทรไปกวนก็แล้วกัน”
“ใครจะกล้าโวยวายใส่คุณหนูล่ะครับ”
“ให้มันแน่เถอะ” เอลินอร์พูดอย่างเอาแต่ใจ
หญิงสาวตั้งใจจะออกแบบเครื่องประดับออกมาให้ดีที่สุด แต่เพราะเพิ่งเกิดเรื่องร้ายกับตนเองไปเมื่อสองวันก่อนสมองของเธอก็เลยตื้อจนคิดอะไรไม่ออก
“ผมว่าถ้าคิดไม่ออกก็อย่าเพิ่งคิดเลยครับ” เพราะสังเกตว่าเอลินอร์นั่งหน้ามุ่ยหน้าจอ macbook มานานเป็นชั่วโมงแล้ว
“ฉันกลัวงานเสร็จไม่ทันนี่”
“งานศิลปะแบบนี้มันต้องใช้เวลา ถ้าเราไปเร่งมากงานก็จะออกมาไม่ดี ผมว่าถ้าคุณหนูยังคิดอะไรไม่ออกก็อ่านงานตรงหน้าฆ่าเวลาไปก่อน”
“นายจะหลอกให้ฉันอ่านเอกสารพวกนั้นให้หมดล่ะสิ ฉันรู้ทันหรอกน่า”
“ผมจะหลอกคุณทำไม ผมก็แค่เสนอข้อคิดเห็นเองนะ”
“มันก็คล้ายๆ กันนั่นแหละ”
“คุณอยากออกไปหาแรงบันดาลใจไหมล่ะ”
“ดีเหมือนกันนะ ไปกันเลยไหม”
“ใจเย็นครับคุณหนู ผมไม่ได้หมายถึงตอนนี้”
“แล้วมันตอนไหนล่ะ”
“ก็หยุดยาวสามวันไงครับ คุณหนูออกไปเที่ยวไปหาแรงบันดาลใจได้สบายเลย”
“ใช้สิ ขอบใจนะที่บอก ว่าแต่ฉันจะไปเที่ยวไหนดีล่ะ แล้วจะไปกับใครละ ฉันเพิ่งกลับมาไม่ถึงเดือนเลย”
“อยากไปภูเก็ตไหมล่ะ”
“นายจะพาฉันไปเหรอ”
“ผมต้องไปเป็นตัวแทนคุณลุงในงานประชุมผู้ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ เลยอยากจะชวนคุณไปด้วย
“ไม่ล่ะ งานประชุมน่าเบื่อจะตาย”
“แต่ประชุมแค่วันเดียวนี่ครับ คุณจะได้แลกเปลี่ยนความคิดและได้เห็นวิสัยทัศน์ของบริษัทอื่นๆ ด้วย เวลาที่เหลือเราก็เที่ยวกัน”
“เที่ยวอย่างเดียวไม่ได้เหรอนายดิน” เอลินอร์ต่อรองเพราะเธอไม่อยากเข้าประชุมที่เขาพูดเลย
“อีกหน่อยงานพวกนี้คุณหนูก็ต้องไปเองนะครับ ครั้งนี้ผมจะไปแนะนำให้คุณหนูรู้จักกับคนอื่นๆ ไว้ เพราะทำธุรกิจเหมือนกันบางอย่างก็ต้องพึ่งพากันบ้าง”
“ก็คู่แข่งกันทั้งนั้นจะปั้นหน้าเข้าหากันทำไม”
“เขาเป็นคู่แข่งก็จริงแต่ถ้าเราไม่รู้จักคู่แข่งแล้วเราจะวางแผนรับมือยังไงล่ะ หรือที่ไม่อยากไปเพราะกลัวว่าจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่าคุณหนูเรียนจบมาจริงๆ หรือเปล่า”
“นายกล้าว่าฉันเหรอนายดิน”
“ผมก็แค่สงสัยเองนะครับ คุณหนูจะร้อนตัวไปทำไมกัน”
“ฉันรู้นายกำลังบังคับฉันทางอ้อม เอาล่ะฉันยอมไปกับนายก็ได้แต่มีข้อแลกเปลี่ยนนะ”
“ข้อแลกเปลี่ยนอะไร”
“นายต้องลงไปซื้อกาแฟร้านข้างล่างตึกให้ฉันทุกวันเป็นเวลาหนึ่งเดือน”
“ไม่ตกลงครับ”
“งั้นครึ่งเดือน”
“ไม่ครับ”
“อาทิตย์เดียวก็ได้”
“เต็มที่แค่สามวันครับถ้าไม่ตกลงคุณหนูก็ไปบอกพ่อกับแม่ของคุณหนูเองว่าเพราะอะไรถึงไม่ไปกับผม”
“นายเอาพ่อกับแม่มาขู่ตลอด”
“ไม่ได้ขู่ครับ เรื่องนี้พ่อของคุณหนูบอกให้ผมพาคุณหนูไปด้วย แต่ถ้าคุณหนูไม่อยากไปก็บอกท่านไปตรงๆ ว่าไม่อยากไป ท่านก็คงไม่ว่าอะไรหรอกก็แค่ผิดหวังนิดหน่อยที่ลูกสาวไม่ให้ความสำคัญกับบริษัทเท่าไหร่”
“ผู้ชายอะไรประชดเก่งชะมัด เอาล่ะ ฉันไปก็ได้ขอข้อแม้เพิ่มอีกอย่างได้ไหม”
“อะไรอีกละครับ ทำไมข้อแม้ถึงเยอะจัง”
“เย็นนี้นายต้องไปซื้อของเป็นเพื่อนฉัน”
“ไม่ครับผมไม่ถนัดซื้อของเลย”
“นั่นไง นายก็ไม่ให้ความสำคัญกับบริษัท”
“มันเกี่ยวกันตรงไหน”
“ก็ฉันจะไปซื้อชุดเตรียมเข้าร่วมประชุมไง หรือนายจะให้ฉันใส่ชุดแบบนี้เข้าประชุมล่ะ” เอลินอร์ลุกยืนแล้วหมุนตัวให้เขาดูว่าชุดที่เธอใส่มาวันนี้นั้นมันไม่เหมาะกับการเข้าร่วมประชุมเลย เพราะถึงแม้ท่อนบนจะเป็นเบลเซอร์แขนยาวแต่ท่อนล่างเป็นกางเกงผ้าสีเดียวกันแต่มันสั้นจนเห็นไปถึงขาอ่อน
ปฐพีมองแล้วก็ต้องรีบไปทางอื่น ใจเขาเต้นแรงเมื่อสมองมันคิดไปถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ด้านในซึ่งเขาได้สัมผัสมาแล้วและยังรู้สึกติดอยู่ในความทรงจำอย่างไม่มีทางลืม
“งั้นเลิกงานผมจะไปด้วยแล้วกัน คุณโทรไปบอกที่บ้านด้วยนะ แม่คุณจะได้ไม่เป็นห่วง”
“เย็นนี้แม่ไปงานเลี้ยงกับเพื่อน”
“แล้วพ่อคุณล่ะไปด้วยไหม” เขาเป็นห่วงถ้าคุณเอกภพต้องอยู่บ้านคนเดียว
“ก็ไปด้วยกันทั้งสองคนนั่นแหละ ดีเหมือนกันฉันจะได้ไม่ต้องกินข้าวคนเดียว”
ปฐพีได้ยินแบบนั้นก็เบาใจ ชายหนุ่มเริ่มต้นทำงานของตนเองอีกครั้ง ระหว่างนั้นก็แอบมองหน้าเอลินอร์ไปด้วย ตั้งแต่มีหญิงสาวเข้ามานั่งในห้องทำงานด้วย เขาก็ไม่ค่อยมีสมาธิกับงานเท่าไหร่ แต่ถ้าให้เลือกก็จะให้เธอนั่งอยู่กับเขาในห้องนี้ไปเรื่อยๆ การได้เห็นเธออยู่ในสายตามันก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง
ตอนนี้เขาไม่ต้องคอยแอบมองคุณหนูอยู่ห่างๆ เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะเธอนั่งอยู่ตรงหน้าเขา นั่งอยู่ในห้องเดียวกับเขาทุกวัน
ปฐพีเคยคิดว่าสักวันหนึ่งเขาคงจะมีแฟนและเธอคนนั้นจะทำให้เขาลืมคุณหนูได้ แต่ไม่ว่าจะมีแฟนกี่คนต่อกี่คนเขาก็ยังไม่เคยลืมเธอได้เลย มันทำให้เขารู้สึกผิดกับผู้หญิงเหล่า นั้นจนในที่สุดก็ตัดสินใจว่าจะไม่คบใครอีกเพราะไม่อยากใครมาเป็นตัวแทนของคุณหนูเอลินอร์อีกต่อไปถึงตอนนี้ก็เกือบสามปีแล้วที่เขาครองตัวเป็นโสดและใช้ชีวิตแบบอิสระ
แต่พอได้กลับมาเจอคุณหนูอีกครั้งหัวใจของเขามันก็เต้นแรงขึ้น ในทุกเช้าที่ตื่นปฐพีมีความสุขมากที่รู้ว่าจะได้เจอกับเธอและได้นั่งมองเธออยู่แบบนี้ ชายหนุ่มไม่รู้หรอกว่าตัวเองจะมีโอกาสได้มองและได้ใกล้ชิดเอลินอร์ไปอีกนานแค่ไหน เพราะถ้าเธอมีคนรักเขาก็คงมองเธอแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว
เมื่อได้รับคำตอบจากภรรยาแล้วปฐพีก็เริ่มปฏิบัติการปั๊มทายาททันที ปฐพีอุ้มเจ้าสาวไปยังห้องนอน เขาวางเธอลงที่ปลายเตียงแล้วรั้งให้เธอเข้ามาแนบชิด จุมพิตไปบนริมฝีปากนุ่มสวย บดขยี้อย่างโหยหาเพียงแค่สัมผัสร่างกายก็ตื่นตัว ชายหนุ่มจับมือเล็กของภรรยาสาวไปสัมผัสกับส่วนแข็งขืนเพื่อให้เธอรับรู้ ว่าตอนนี้เขาต้องการเธอมากแค่ไหน “พี่ดินทำไมมันโตเร็วละคะ” “ก็พี่คิดถึงและต้องการหนูแอลไงครับ ไม่เจอกันหนึ่งเดือน แล้วพอเจอกันก็ได้แค่เดินจับมือ มันทรมานมากนะครับ รู้ไหมพี่ต้องการแอลมาก”เสียงของเขาบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าตัวเองนั้นต้องการเธอมากแค่ไหน ชายหนุ่มประคองใบหน้าคนรักแล้วประกบปากจูบอีกครั้งอย่างเร่าร้อนและเรียกร้องเอลินอร์เผยอปากรับลิ้นอุ่นเข้าให้เข้ามาตวัดไล้น้ำหวาน พร้อมส่งเสียงครางอย่างรัญจวน เมื่อฝ่ามือใหญ่ละจากใบหน้าลงมาทรวงอกอิ่มบีบคลึงเต้างามอย่างหนักมือ ปฐพีผละจูบออกเมื่อเธอเริมครางประท้วงเพราะกำลังจะขาดอากาศ สองตาสบประสานส่งผ่านความรู้สึกและความต้องการที่ต่างฝ่ายต่างต่างมีให้แก่กันอย่างท่วมท้นชุดนอนไม่ได้นอนและบราตัวจิ๋วที่พี่สะใภ้มอบให้ค่อยๆ
งานแต่งงานระหว่างปฐพีและเอลินอร์ถูกจัดขึ้นที่โบสถ์เก่าแก่แห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ความสวยงามของโบสถ์กับการออกแบบงานแต่งงานเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความสุข ซึ่งปฐพีเป็นคนออกแบบเองทั้งหมด ปฐพีสวมสูทสั่งตัดสีขาวที่ตัดเย็บอย่างประณีต แขกที่มาร่วมกันต่างมีใบหน้ายิ้มแย้มและรอคอยการปรากฏตัวของเจ้าสาว เมื่อเสียงดนตรีดังขึ้นชายหนุ่มก็หันไปมองที่ประตูทางเข้า เขารู้สึกใจเต้นแรง ในขณะที่แขกต่างลุกขึ้นยืนเพื่อให้เกียรติเจ้าสาวที่เดินควงแขนคุณเอกภพผู้เป็นบิดาเข้ามาใบหน้าสวยปกปิดด้วยผ้าสีขาว นั้นยิ่งกระตุ้นให้ทุกคนอยากเห็นว่าหญิงสาวผู้โชคดีคนนี้จะมีใบหน้าสวยงามแค่ไหน แม้ว่าปฐพีจะไม่มีคนรู้จักที่นี่มากนักแต่เพราะเขาเป็นทายาทอย่างถูกต้องตามกฎหมายคนเดียวของวิลเลียม เบอร์เรลนักธุรกิจชื่อดังของเมืองนี้งานแต่งครั้งนี้จึงมีคนจับตามองอยู่มากพอสมควรเมื่อคุณเอกภพเดินมาถึงยังแท่นพิธีเขาก็ส่งตัวลูกสาวให้กับปฐพี ที่ยื่นมือมารับเจ้าสาวของเขาด้วยความตื่นเต้น มือใหญ่สั่นเล็กน้อยและนั่นก็ทำให้เอลินอร์รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีกเมื่อเอลินอร์มายืนอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มก็ยกผ้าคลุมใบหน้า
ความสุขมันแสนสั้นเมื่อถึงเวลาที่ปฐพีจะต้องกลับไปทำงานอีกครั้ง เอลินอร์มาส่งคนรักที่สนามบิน แต่ครั้งนี้เธอไมได้เศร้าเหมือนครั้งก่อนเพราะปลายเดือนหน้าเธอครอบครัวก็จะบินไปเที่ยวอังกฤษตามคำเชิญของคุณลินดาและคุณวิลเลียม“อีกไม่ถึงเดือนเราก็จะเจอกันอีกแล้ว ครั้งนี้หนูแอลคงไม่งอแงให้พี่ต้องรีบกลับมาใช่ไหมครับ”“แอลไม่เคยงอแงนะคะ”“แล้วใครกันล่ะครับ ที่ไม่ยอมให้พี่โทรหาจนพี่ทนคิดถึงไม่ไหวรีบบินกลับมาแบบนี้”“มาโทษแอลได้ยังไงล่ะคะ พี่ดินอยากทนไม่ไหวเอง”“ถ้าไม่รักก็คงไม่รีบบินกลับมาหรอกครับ”“พี่ดินขา อย่าปากหวานแบบนี้กับใครนะคะ”“พี่ทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้ หนูแอลยังไม่ไว้ใจพี่อีกเหรอครับ”“ก็พี่ดินของแอลหล่อขนาดนี้เป็นใครก็ต้องหวง”“พี่ไม่เคยมองใครมานานหลายปีแล้ว มองแค่หนูแอลคนเดียว” ปฐพีกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เขาไม่อยากจะห่างเธอเลยแต่เพราะมีความจำเป็นเรื่องงานเลยต้องทำใจ“พี่ดิน เขาประกาศเรียกแล้ว”“พี่ไปก่อนะครับ รักหนูแอลนะ” ชายหนุ่มก้มจูบหน้าผากมนอย่างรักใคร่“แอลก็รักพี่ดินค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะพี่ดิน ถึงแล้วอย่าลืมโทรหาแอลนะคะ”“จะลืมได้ยังไงล่ะครับ พี่ไปก่อนนะครับ หนูแอลจะได้รีบกลับไปท
สามวันมาแล้วที่เอลินอร์ทำโทษปฐพี เธอทั้งคิดถึงและอยากเห็นหน้าอยากได้ยินเสียงแต่ก็ต้องอดทนเพราะไม่อยากจะกลายเป็นคนผิดคำพูด แม้ว่าเขาจะไลน์มาหาทุกวัน วันละหลายรอบแต่เธอก็เพียงแค่อ่านแต่ไม่คิดจะตอบกลับ“เหลือแค่สาวันเองจิ๊บๆ” หญิงสาวให้กำลังใจตัวเองก่อนจะเก็บของใช่ลงกระเป๋าเพราะเลยเวลาเลิกงานมานานนับชั่วโมง แต่เพราะวันนี้ไม่ต้องกลับไปนอนที่บ้านเนื่องจากบิดามารดาไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดเธอจังไม่เร่งรีบอะไร หญิงสาวแวะทานอาหารที่ร้านเดิมที่เคยมาทานกับปฐพีอยู่บ่อยๆ จากนั้นก็เข้าร้านสะดวกซื้อและเลือกอาหารแช่แข็งอีกหลายกล่องเพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดเธอจึงอยากจะพักผ่อนอย่างเต็มที่ แม้ว่าแพรวาจะโทรศัพท์มาชวนไปเที่ยวแต่เอลินอร์ก็ปฏิเสธเพราะรู้สึกไม่สนุกกับการไปในสถานที่แบบนั้นอีกแล้ว กลับมาถึงห้องก็เก็บของที่ซื้อมาเขาตู้เย็นก่อนจะรับอาบน้ำเตรียมเข้านอนซึ่งก็ไม่รู้ว่าคืนนี้จะนอนหลับไหม เพราะที่ผ่านมาสองคืนเธอก็นอนไม่ค่อยหลับเนื่องจากไม่ได้คุยกับปฐพีอย่างเคย เอลินอร์ออกมาจากห้องน้ำก็ต้องแปลกใจเพราะตอนนี้บนเตียงของเธอนั้นโรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงสดเป็นตัวหนังสือคำว
เอลินอร์ออกจากงานออกจากงานเลี้ยงของคุณติณณ์ก็ตรงไปคอนโดเพราะคืนนี้เธอบอกกับบิดามารดาว่าจะค้างที่นี่ เนื่องจากจะกลับดึกก็ไม่อยากจะขับรถไปที่บ้านเพราะว่าระยะทางจากคอนโดไปที่งานเลี้ยงของคุณติณณ์นั้นใกล้กว่าบ้านของเธอมาก หญิงสาวพยายามจะข่มอารมณ์โมโหของตนมาตั้งแต่อยู่ในงาน พอประตูห้องปิดลงเธอก็กรีดร้องอย่างสุดเสียงเพื่อระบายความโกรธที่ทนจะอัดอั้นมาเกือบชั่วโมง อันที่จริงเธอก็อยากจะกรี๊ดตั้งแต่อยู่ในงานเพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่พลอยลดานำมาบอก แต่เพราะเมื่อคืนตนเองไปในนามบริษัทจึงทำแบบนั้นไม่ได้ “พี่ดินนะพี่ดินทำแบบนี้กับแอลได้ยังไง”เอลินอร์ตัวสั่นเทาขณะกดวิดีโอคอลไปหาคนรัก พอเขากดรับเธอก็พูดกับเขาด้วยอารมณ์โมโหสุดขีด “พี่ดิน พี่ทำแบบนี้กับแอลได้ยังไง ไหนพี่ว่าไม่เคยมีอะไร ไม่เคยนอนด้วย แล้วนี่ถึงกับนัดกันไปถึงอังกฤษ ไหนพี่ดินบอกว่ารักแอล ให้แอลรอ ให้แอลอดทน แล้วยังไงคะ ในขณะที่แอลอดทนอยู่ทางนี้พี่ดินก็มีความสุขอยู่ทางนู้น พี่ว่ามันยุติธรรมกับแอลไหมล่ะ พี่ดินใจร้าย พี่ดินทำลายความไว้ใจของแอล” เอลินอร์พูดยาวเหยียดก่อนจะร้องไห้อย่างหนักเมื่อพูดจ
เกือบเดือนแล้วที่เอลินอร์กับปฐพีไม่ได้เจอกับเพราะต่างฝ่ายต่างก็มีหน้าที่ของตนเองที่ต้องรับผิดชอบ แต่พวกเขาก็ยังคงคุยกันอยู่ทุกวันเหมือน เธอกับครอบครัววางแผนว่าจะไปเยี่ยมครอบครัวของเขาที่อังกฤษปลายเดือนหน้า แต่ระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ได้วิดีโอคอลคุยกันบ้างแล้ว เอลินอร์ทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดีทั้งในฐานะรองประธานบริษัทและในฐานะนักออกแบบเครื่องประดับ พนักงานทุกคนยอมรับในความสามารถของหญิงสาว และต่างพากันชื่นชมเจ้านายของตนเองที่ทั้งสวยและเก่งจนหาตัวจับยาก หญิงสาวรับผู้ช่วยส่วนตัวมาหนึ่งคนชื่อกมลมาศเพื่อจะได้ออกไปทำงานข้างนอกกับเธอในขณะที่คุณแขไขก็ยังทำหน้าที่เป็นเลขาได้เป็นอย่างดี "คุณแอลคะ งานเย็นนี้มาศเตรียมชุดให้แล้วนะคะ” “แอลไม่อยากไปเลยค่ะ พี่มาศไปแทนแอลได้ไหมคะ” “ได้ยังไงล่ะคะคุณแอล เขาเป็นคู่ค้าคนสำคัญเลยนะคะ ถ้าคุณแอลไม่ไปมาศว่าท่านประธานคงจะไม่ค่อยพอใจแน่ๆ” “แอลไม่ชอบงานแบบนี้เลยค่ะ” “แล้วแต่ก่อนใครไปล่ะคะ หรือว่าท่านประธานไปเอง” “ก็คงจะเป็นผู้ช่วยคุณพ่อนั่นแหละ พอเขาออกไปงานทุกอย