ออยรู้ดีว่าตันหยงเก่งเรื่องระบบคอมพิวเตอร์เพราะก่อนหน้านี้เธอเคยให้ตันหยงช่วยกู้ไฟล์ข้อมูลที่พยาบาลเผลอลบกลับมาได้จนหมด แต่ตันหยงบอกให้เธอเก็บเป็นความลับเพราะเธอไม่อยากมีปัญหากับเพื่อน ๆ ที่ฝึกงานด้วยกัน โดยเฉพาะส้ม
“พี่ออย นี่คอมพิวเตอร์ของใครคะ”
เธอถามเพราะเธอไม่เคยเข้ามาในห้องนี้มาก่อน เป็นห้องทำงานส่วนตัวที่ดูหรูหรามากกว่าห้องของคุณหมอคนอื่น ๆ และอยู่ด้านในสุด
“ห้องคุณหมอตะวัน คอมคุณหมอมีปัญหาตั้งแต่เมื่อคืน ทีนี้ปัญหามันคือข้อมูลคนไข้อยู่ในนี้ถูกลบออกไปหมดเหมือนโดนไวรัสน่ะ แล้วถ้าจะให้พวกพี่ต้องมานั่งคีย์ข้อมูลทีละคน คงใช้เวลาเกือบสองปีละมั้ง”
“รายชื่อคนไข้ มีเยอะขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“ก็มากอยู่ หมอตะวันเป็นหมอที่เก่ง ตอนนี้เขามีสอนที่มหาวิทยาลัยเป็นอาจารย์พิเศษ ยังไม่กลับเข้ามา ถ้าเขารู้ว่าคอมมีปัญหาละก็….เฮ้อ…คอพี่ขาดแน่”
“เดี๋ยวหยงลองดูให้นะคะ…ไหนดูซิว่าใครกล้ามายุ่งกับคอมของพ่อตัวร้าย”
“หืม พ่อตัวร้ายเลยเหรอ หยงกับหมอไม่เคยพบกันนี่”
“วันแรกไงคะ คุณหมอตวาดส้มจนหน้าหงายจนทุกคนขยาดเลยละค่ะ”
“อ๋อ วันนั้นนั่นเองที่จริงวันนั้นคุณหมออารมณ์เสียมาก่อนน่ะ เพราะ….เรื่องในข่าว”
“ข่าว..พี่ออยหมายถึง…”
“ก็นางแบบสาวนั่น ในคลิปนั่นน่ะ คือคุณหมอของเราเอง นี่รู้แล้วเหยียบเอาไว้เลยนะ เรื่องนี้เป็นความลับภายใน แม้ว่าจะเบลอหน้าเอาไว้แต่ที่นี่ใครก็รู้ว่าคุณหมอตะวันควงนางแบบคนนั้นอยู่”
“แล้วเขาโมโหอะไรคะ หรือว่าเขาโกรธที่แฟนของเขาโดนด่า”
“แฟนอะไรละ หมอไม่เคยนับว่าเธอเป็นแฟนเลยสักครั้ง”
“อ้อ ทำขนาดนั้นไม่ใช่แฟนอีกเหรอ”
“หืม หยงว่าอะไรนะ เจอแล้วเหรอ”
“เปล่าค่ะ ๆ ไหนดูซิ ขอล้วงหน่อยนะ….แม่เจ้า…”
“อะไร อะไรเหรอ”
“เปล่าค่ะ ๆ หยงว่าหยงเจอสาเหตุแล้วค่ะ รอเดี๋ยวนะคะ”
นึกไม่ถึงว่าคุณหมอจะตั้งระบบรักษาความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์เอาไว้แน่นถึงสองชั้น แต่ระดับตันหยงแล้วเรื่องแค่นี้แก้ไขได้สบายมาก หากไม่ใช่เพราะความเลินเล่อของพยาบาลที่เผลอไปลบข้อมูลในเครื่องของเขาก็คงไม่ถึงมือเธอที่มาจัดการ
“รอโหลดข้อมูลเสร็จก็กลับมาเป็นปกติแล้วค่ะพี่ออย”
“เฮ้อ…สวรรค์ทรงโปรดขอบใจมากนะหยง ช่วยชีวิตพี่ได้อีกครั้งหนึ่งจริง ๆ เย็นนี้ไปกินข้าวกัน พี่เลี้ยงเอง”
“ไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะพี่ออย ได้ทำเรื่องพวกนี้ก็นับว่าดีเหมือนกัน แก้เบื่อเรื่อง…ไร้สาระได้ด้วย”
“งั้นพี่เลี้ยงกาแฟนะ ไปกัน”
“แถมเค้กด้วยได้ไหมคะ”
“โอเคเลยถ้าไม่กลัวอ้วน คาเฟ่ชั้นสองละกันนะ”
“ค่า”
คาเฟ่ชั้นสอง
“อืมม อร่อยจัง”
“อารมณ์ดีขึ้นเลยสินะ”
“ต้องขอบคุณเค้กของพี่ออยจริง ๆ ค่ะ”
“คุณออย”
เสียงหนึ่งทักพวกเธอแต่ว่าตันหยงที่นั่งหันหลังอยู่ไม่ทันได้หันไปมอง
“คุณหมอตะวัน สวัสดีค่ะ”
“ครับ มาพักเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ พาน้องฝึกงานมาเลี้ยงขนมตอบแทนน่ะค่ะ”
“น้องฝึกงาน”
“อ้อใช่ ตันหยง นี่คุณหมอตะวันพึ่งเคยเจอสินะ”
(ไม่อยากเจอต่างหากละคะพี่ออย)
เธอคิดในใจแต่จะหนีตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว สองสัปดาห์ที่ผ่านมาเธอพยายามเดินเลี่ยงและไม่พบหน้าเขาอยู่ตลอด เพื่อน ๆ ของเธอทุกคนเคยเจอเขาแล้วเหลือแค่เธอเท่านั้น เธอจึงลุกขึ้นและยกมือไหว้เขา
“สวัสดีค่ะคุณหมอ ตันหยงค่ะ”
“ครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะคุณออยกาแฟผมได้แล้ว อ้อ แล้วเจอกันนะ ตันหยง”
เขาเดินกลับไปทันทีเมื่อทักทายเสร็จ ตันหยงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ซึ่งนั่นทำให้ออยแปลกใจไม่น้อยเพราะก่อนหน้านี้เพื่อน ๆ เธอทุกคนล้วนตื่นเต้นเมื่อพบคุณหมอตะวัน
“หยง ทำไมทำท่าแบบนั้น ไม่ดีใจเหรอที่เจอคุณหมอ”
“ดีใจ ไม่อ่ะค่ะ หยงไม่ใช่ส้มนะคะ”
“อ่อ ฮ่า ๆ เรานี่เปรียบซะพี่เห็นภาพเลย กินเสร็จแล้วกลับกันเลยไหม”
“ได้ค่ะ”
สัปดาห์ที่สาม
“นี่ ๆ ได้ข่าวหรือยัง”
“ส้มทำไมวันนี้ดูอารมณ์ดีจังเลย”
“นั่นสิ นึกว่าไม่พอใจซะอีกที่โดนใช้ให้ไปส่งเอกสาร”
“ตันหยง บางทีการส่งเอกสารก็เป็นเรื่องดีนะ นี่ฟัง ๆ เห็นบอกว่าพี่ ๆ ที่แผนกจะจัดงานเลี้ยงด้วยล่ะ”
“งานเลี้ยง”
“อืม ใช่ เลี้ยงพวกเราที่เป็นเด็กฝึกงาน เห็นบอกว่าคุณหมอก็จะมาด้วยนะ”
“เฉพาะแผนกงั้นเหรอ”
“ใช่ ๆ ต้องเตรียมตัวแล้ว”
“ส้ม ไปส่งเอกสารนี่ให้หน่อยสิ”
“ตันหยง ทำไมต้องมาใช้ฉันด้วยเธอเป็นพี่ออยหรือไงห๊ะ”
“เอกสารนี่ไปส่งให้คุณหมอตะวัน ถ้าเธอไม่ไป....งั้นให้น้ำไปแทนนะ”
“เดี๋ยว ๆ ก็ไม่รีบบอกละปัดโธ่ ไปนะ”
ส้มเดินยิ้มมารับเอกสารจากตันหยงที่ยิ้มขำให้กับเพื่อนร่วมคลาสของเธอทันที อันที่จริงตั้งแต่เธอส่งเอกสารที่ต้องส่งเข้าห้องของหมอตะวันให้ส้มก็ดูเหมือนว่าเธอจะคุยกับเพื่อคนอื่น ๆ ดีขึ้นมากกว่าเดิม
“งานเลี้ยงงั้นเหรอ”
“ไม่ไปไม่ได้เหรอ น่าเบื่อจัง”
“ไหงงั้นละหยง เราว่าน่าสนุกออกนะ ฟังดู…”
“อะแฮ่ม ดูท่าข่าวจะมาถึงก่อนที่พี่จะมาแจ้งสินะ”
""พี่ออย""
“ว่าแล้วเชียวห้ามปฏิเสธนะ นี่เป็นงานเลี้ยงกึ่งต้อนรับกึ่งขอบคุณพวกเรา สถานที่ครั้งนี้คือพัทยาอย่าลืมจัดเสื้อผ้าไปให้พอละเราจะค้างคืนด้วย”
“โห จัดโรงแรมเลยเหรอคะ”
“ใช่ มีห้องพักให้ทุกคนด้วยหลังปาร์ตี้ รถรับส่งพวกพี่ก็จัดการเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาอย่ามาสายกันละ”
“ว๊าว สุดยอดเลย”
“เอาละ ๆ ไม่กวนแล้วรอเวลาเลิกงานแล้วสินะ”
“ค่า/ครับผม”
สามวันถัดมา
“แกไปเองได้แน่นะ”
“ไม่ต้องห่วงน่า แค่งานเลี้ยงแผนกเอง”
“ก็ดี ว่าแต่งานนี้คุณหมอนั่นไปด้วยป่าววะ”
“เห็นบอกว่าติดเข้าเวรนะ อาจจะตามไปละมั้ง"
"งั้นคนที่เสียดายที่สุดน่าจะเป็นยัยส้มแล้วล่ะ”
“ไม่มาก็ดี จะได้ไม่ต้องเกร็ง”
“อะไรกัน เขาจำแกไม่ได้นี่ ใช่ไหม”
“ก็ใช่ เจอกันที่แผนกหลายครั้ง เขาก็แค่ทักทายและคุยด้วยไม่กี่ประโยค น่าจะจำไม่ได้จริง ๆ เพราะตอนนั้นฉันปลอมตัว ฉันว่ามันก็เนียนอยู่นะ”
“เอาละ ๆ ไปเถอะ ไปดีมาดีนะ”
“ไปก่อนนะ”
โรงแรม SS / พัทยา
พวกเธอเดินทางมากับรถตู้ที่พวกพี่ ๆ จัดไว้ให้มาถึงพัทยาและโรงแรมนี้ เธอแต่งตัวและออกมาจากห้องพักและไปยังห้องจัดเลี้ยงที่ถูกจัดเอาไว้ที่ห้อง VIP สำหรับยี่สิบคน เมื่อเดินเข้าไปตันหยงจึงเห็นว่าน้ำกับกิตมาถึงแล้ว กิตเดินมารับตันหยงพร้อมกับมองเธอด้วยสายตาที่ชื่นชม
“วันนี้หยงสวยมาก”
“สวยมาก ๆ เลยจริง ๆ”
“ขอบใจ น้ำก็สวยมากเลย ถอดแว่นออกแล้วดูดีกว่าจริง ๆเห็นไหมล่ะ”
“จ้า ๆ มาเถอะนั่งกัน ๆ พวกคุณหมอกำลังออกมาแล้วละ”
“แล้ว..ส้มละ”
“เดี๋ยวก็คงมาแหละ”
“มาแล้ว รอนานไหมเพื่อน ๆ”
“ว๊าวว นางเอกของเรามาแล้วสินะ”
“แหมตันหยง เอาทิปไปร้อยหนึ่งค่าชมนะจ๊ะ”
“ชมจริง ๆ วันนี้เพื่อนสาวสวยมากก”
“ต้องงั้นสิ นี่งานเลี้ยงเชียวนะ มา ๆ ถ่ายรูปลงโซเชียลกันเร็ว ๆ”
พวกเธอผลัดกันถ่ายรูปและต่างคนก็เริ่มเอาลงโซเชียลของตัวเอง
“อะไรกันหน้าแบบนี้ ไม่เอาหยงอย่าแกล้งดิ ฉันเป็นดาวคณะเชียวนะ”
“งั้นก็ทำหน้าผอม ๆ เข้าไว้ พร้อมนะ”
“พร้อม สอง หนึ่ง”
ไม่นานพยาบาลและพี่ ๆ เจ้าหน้าที่ก็ทยอยเดินเข้ามา ผ่านไปกว่าครึ่งคืนที่งานเลี้ยงดำเนินไปด้วยความสนุกสนาน ดูเหมือนจะเป็นงานเลี้ยงที่จัดให้พวกเด็กฝึกงานโดยเฉพาะเพราะคืนนี้แต่ละคนได้ห้องพักส่วนตัวเพื่อพักโดยไม่ต้องกลับบ้าน
“เอาล่ะทุกคน พอประมาณแล้ว ดูสิ น้องกิตเมาแล้ว มาพี่ไปส่งที่ห้องเจอกันพรุ่งนี้นะทุกคน”
“คุณพ่อครับ ตันหยงพึ่งจะเรียนจบเองนะครับ งานแต่งก็ยังอีกสี่เดือนกว่าจะจัด เรือนหอก็ยังตกแต่งอยู่”“ไม่เห็นเป็นอะไรเลย มีหลานก่อนก็ได้นี่นาหรือว่าอาหยง กลัวว่าจะใส่ชุดเจ้าสาวไม่สวยงั้นเหรอ ไอหยาไม่ต้องกลัวหรอกยังไงหลานสะใภ้ปู่ก็สวยอยู่แล้วละน่า”“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะคุณปู่ คือว่า….”“คุณปู่ครับ ผมรู้หน้าที่ดีน่า คุณปู่อยากได้หลานกี่คนก็มาบอกผมสิ ผมเป็นคนทำนะไปขอตันหยงทำไมกันแล้วก็พวกคุณปู่กับพ่อใช้งานเมียผมให้น้อย ๆ หน่อยสิครับพวกเราจะได้มีเวลาทำหลานให้เยอะ ๆ หน่อย นี่อะไรใช้งาน หยงอย่างกับพนักงานของบริษัท ดูสิผอมไปหมดแล้วเนี่ย ชุดต้องแก้อีกแล้ว”“ไอ้นี่มันขี้บ่นได้แม่จริง ๆ เลย”“คุณคะ พูดดี ๆ นั่นก็ลูกคุณเหมือนกันลองพูดใหม่สิว่าเหมือนใคร”“เหมือนผมเอง เหมือนผม ๆ ตกลงไหม”“โธ่พ่อ ต่อหน้าแม่ทีไรเป็นแบบนี้ทุกที”“นี่ แกหัดเรียนรู้เอาไว้บ้างก็ดี เชื่อเมียไว้ชีวิตจะสบาย”“งั้นเหรอครับพ่อ เพราะเมียจะทำแทนเราเหรอ”“ไม่ใช่ จะได้ตัดเรื่องน่าเบื่อ แกอยากนั่งฟังเมียบ่นทั้งวันงั้นเหรอ”ตะวันหันไปยิ้มให้พ่ออย่างรู้ใจกันพร้อมกับหันไปที่ตันหยงและแม่ของเขาที่กำลังจัดแจงอาหารว่างในวันนี้“ว่าแต่เรือนหอแก
ตันหยงเบียดบั้นท้ายบดกับกลางลำตัวของคู่หมั้นหนุ่มเมื่อเขาเริ่มจัดการกับกางเกงในลูกไม้สีขาวชิ้นสุดท้ายและฝังจมูกไปที่บั้นท้ายของเธอ“อื้อ…หมอ ทำอะไร”“ยืนดี ๆ สิ แอ่นตัวหน่อย หอมมากเลย ตันหยง”เขาใช้เวลาสำรวจกลีบคู่งามจากด้านหลังซึ่งปกติไม่เคยทำ แต่วันนี้เขาเห็นว่าเธอตื่นเต้นกับบรรยากาศใหม่ ๆ บนเรือ เลยอยากทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนเพื่อเพิ่มความตื่นเต้น“อ๊าา หมอ อย่าเลียแบบนั้นมันเสียว…อร๊อยย อ๊าา ทนไม่ไหวแล้ว ที่รักคะ”“หวานมาก ดูน้ำนี่สิ ตันหยง คุณชอบแบบนี้เองเหรอที่รัก”“อ๊าาา เร็วเข้า หยงต้องการมัน เอาเข้ามาเร็ว ๆ ที่รักคะได้โปรด”“ขอเลียอีกหน่อย”“อ๊าาาา หมอ…..อย่าเล่นแบบนี้ อ๊าาา”“ไม่เล่นแล้วก็ได้ ผมก็ไม่ไหวแล้ว”เขาเริ่มสอดใส่จากด้านหลังทันที ตันหยงแอ่นรับเขาได้ถูกจังหวะ เขาจึงสอดกายเข้าไปโดยง่ายมือของเธอดันที่กระจกและส่งเสียงร้องที่เร้าอารมณ์มากกว่าทุกครั้ง เขาคิดถูกแล้วที่พาเธอออกมาข้างนอกบ้าง อย่างน้อยเธอก็ยอมให้เขาทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนอย่างว่าง่าย“หมอคะ อ๊าาา อื้อ….”ลิ้นหนาเอื้อมไปทักทายเธออีกครั้ง ตันหยงหันมารับพร้อมกับกอดรอบคอของเขาเอาไว้แน่นเพราะเธอต้องเอี้ยวตัวกลับ
“ก็…หยงก็รู้นี่ เราเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง คืนนี้พักที่นี่นะ”“แต่ว่าคุณไม่บอกหยงสักคำว่าเราจะค้าง หยงไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย”“ผมเตรียมมาให้หมดแล้ว”“คุณทำแบบนี้อีกแล้วนะคะ”“เอาน่า โปรแกรมนี้ผมจัดเตรียมเพื่อคุณเลยนะ ไม่ต้องห่วงงานของคุณพ่อหรอก ผมลางานให้คุณแล้วบอกว่าคุณเองก็ต้องพักผ่อนสายตาบ้าง”“ทำแบบนี้ไม่ดีเลยนะคะ หยงไม่ได้อยากจะมาสักหน่อย”“ผมไม่อยากให้คุณหักโหมมากเกินไป ยังไงคุณก็ยังเป็นเด็กมหาลัยอยู่นะ”“แต่คุณก็น่าจะบอกหยงก่อนนี่คะ”“โกรธเหรอ”เขาเดินมายืนซ้อนด้านหลังของเธอและกอดตันหยงที่จับราวระเบียงเรือเอาไว้ เธอพึ่งรู้ตัวว่าเรือจอดแล้ว“หมอคะ อย่าทำรุ่มร่ามสิคะคนเยอะแยะ”“นี่เรือส่วนตัว กลัวอะไรถึงมีคนก็อยู่เรือลำอื่นต้องสนด้วยเหรอ”“หมอคะ นี่คุณวางแผนอะไรอยู่กันแน่คะ”ตันหยงหันมา ในเมื่อหนีไม่ได้ก็เผชิญหน้าไปเลย เขาบอกเองว่านี่เรือส่วนตัว ถ้าเป็นแบบนั้นก็เท่ากับว่าที่นี่มีเพียงแค่พวกเขากับคนขับเรือ แต่เมื่อครู่ตันหยงเห็นว่ามีเรือเล็กมารับคนขับกลับไปแล้ว“ผมไม่พาคุณมาขายหรอก หิวหรือยังไปกินข้าวกัน”“ค่ะ”ตะวันพาเธอเดินมาที่ด้านในที่มีโต๊ะอาหารวางอยู่ อาหารเย็นเตรียมเอาไว้สำหร
เขายกน้องชายที่ยังแข็งแกร่งอยู่ในมือให้เธอดู ตันหยงพลิกตัวหันไปคร่อมบนตัวเขาเอาไว้และเริ่มใช้ลิ้นกับปลายยอดอกสีเข้มตรงหน้า เธอเองก็ไม่ปิดบังความคิดถึงเอาไว้แล้วเช่นกัน“อาา หยง อย่าเร่งสิ ผมจะทนไม่ไหว อาจจะเผลอทำรุนแรง…”“คิดว่าแรงได้คนเดียวงั้นเหรอคะ หมอคะหยงคิดถึงหมอนะคะ”“ยอมสารภาพมาแล้วเหรอเด็กดื้อ กว่าจะพูดออกมาต้องรอให้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ”“ก็หยงกลัวว่าคุณ….”“ผมที่คุณเคยเจอครั้งแรกกับตอนนี้คนละคนกันแล้วนะ ไม่เชื่อจะพิสูจน์ให้ดู”“อ๊ะ อย่าค่ะ หยงขออยู่ข้างบนบ้าง อ๊าา หมอ มัน…แน่น จุก อ๊าาา หมอ!! เสียว อร๊ายยย”หยงเริ่มขยับเอวเล็ก ๆ แต่เซ็กซี่จนตะวันเริ่มหน้าแดงก่ำเพราะทนไม่ไหวกับการยั่วยวนแบบนี้ไม่ได้ เขาแพ้เธอทุกครั้งกับท่านี้ และมักจะทนได้ไม่นานเพราะมันทั้งเสียวและเร้าอารมณ์เป็นที่สุด “หยง โน้มลงมาหน่อย อยากกินนม”“อ๊าา ดูดแรงกว่านี้หน่อยค่ะ อ๊าา นั่นแหละที่รัก อ๊าา เด้งรับหน่อย อื้อ…ไม่ไหว จะแตก หมอคะ อ๊าา”“หยง…ตันหยง เมียจ๋า อาา…..เสียวมาก พอก่อน ท่านี้ไม่ไหว หันหลังไป”“แต่ว่า…หยงอยากมองหน้าหมอ”“แต่ผมจะทนไม่ไหว ขอท่านี้ก่อน คิดถึง”“หมอบ้า!!”“ทำไม ท่าหมามันเร่งอารมณ์คุณสิ
ตะวันวิ่งเข้ามาในห้องเพราะเธอไม่ได้ล็อกประตูเพราะนี่ยังไม่ห้าโมงแต่ว่าข้างนอกเกิดพายุฝนฟ้าคะนองเขาตัวเปียกเพราะรีบวิ่งลงจากรถและวิ่งเข้ามาในบ้านนึกเอาไว้แล้วว่าเธอคงจะกลัวแต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้ ร่างบางโผเข้าหาเขาทันที ตัวเธอสั่นเป็นลูกนกที่ตกจากรังหาแม่ไม่เจอ เขาไม่ควรปล่อยให้เธออยู่คนเดียวแบบนี้เลย“หยง ผมมาแล้วไม่ต้องกลัวนะ”“ฮือ…คุณไปไหนมา กรี๊ด!! ฟ้า…ฟ้าผ่าอีกแล้ว”เสียงฟ้าผ่าทำให้เธอกรีดร้องอีกครั้ง เธอกอดเขาเอาไว้แน่น หัวใจเธอเต้นแรงจนเขากลัวว่าเธอจะช็อกเพราะความตื่นกลัว เธอในตอนนี้เหมือนกับเป็นโรค แพนิกจนเขาต้องกอดเธอเอาไว้แน่นพร้อมกับลูบหลังเธอพลางปลอบ“ไม่ต้องกลัวนะผมอยู่นี่แล้ว ไม่ต้องกลัวนะหยง ได้ยินผมไหมพยักหน้าให้ผมหน่อย”เธอทำตามที่เขาบอกแต่ตัวยังสั่นอยู่จนเขาไม่ค่อยวางใจ ภาพที่เขาวิ่งเข้ามาเห็นคือเธอซุกตัวกอดเข่าอยู่มุมห้องและกรีดร้องจนน่าสงสาร เขาจะกลับมาตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้วแต่ว่างานยังไม่เสร็จก็เลยต้องมาในวันนี้ “หยงกลัว กรี๊ด!!!”“หยง ผมอยู่นี่มองหน้าผมเอาไว้ มองสิหยงอย่าหลับตา ตั้งสติก่อนหายใจเข้าลึก ๆ เชื่อผม ผมช่วยคุณได้”เขาเอามือปิดที่หูของเธอ ตันหยงค่อ
“แต่นั่งแบบนี้มันอึดอัด ขยับไปนั่งตรงโน้น”“แต่ผมอยากนั่งใกล้ ๆ คุณนี่ จะได้แกะกุ้งให้คุณด้วย”“เอาแต่ใจไม่เปลี่ยน”“ใครใช้ให้คุณมีเสน่ห์เกินไปละ ผมถึงได้คลั่งรักคุณขนาดนี้ ช่วยไม่ได้ละนะ”“ปากเปราะ”“พูดจริง ๆ ไม่เชื่อเหรอลองชิมก็ได้นะ”“อาหารมาแล้วครับ”เสียงของบริกรที่เคาะประตูทำเอาอารมณ์ของตะวันเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาทันที “กำลังจะดีอยู่แล้วเชียว”ตันหยงขยับออกมาและรอให้บริกรนำอาหารที่เขาสั่งวางบนโต๊ะจนหมดและขอตัวออกไป ปล่อยให้ทั้งคู่ได้มีเวลาดื่มด่ำกับบรรยากาศพระอาทิตย์ตกด้วยกัน“ที่จริงห้องที่คุณพักอยู่ตอนนี้ก็เห็นพระอาทิตย์ตกดินเหมือนกันนะ คุณไม่เคยดูเหรอ”“ไม่ค่ะ หยงปิดม่านไว้ตลอดเลย”“ทำไมละคงไม่คิดว่าจะมีใครส่องคุณจากกลางทะเลหรอกมั้ง คุณไม่รู้เหรอว่าที่วิลล่านั่นมีอุปกรณ์ช่วยตรวจจับการสอดส่องจากข้างนอก”“รู้สิคะ แค่ไม่อยากให้สมาธิว่อกแว่กเท่านั้น แล้วก็กลางคืน….”“คุณกลัวผีเหรอ”“คุณหมอคะ อย่ามาล้อเล่น”“ให้ตายสิ เรื่องจริงเหรอ”“กินข้าวสิคะ ไหนบอกว่าหิวไม่ใช่เหรอ”เขาหันมายิ้มให้กับคนข้าง ๆ ดีละเขารู้จุดอ่อนเธอแล้ว และรู้แล้วว่าคืนนี้จะทำยังไงให้ได้เข้าไปในห้องนอนนั่น เขาแกะกุ