공유

chapter 20

last update 최신 업데이트: 2025-01-03 14:37:22

“ท่าน...คนเพิ่งจะฟื้นไข้ ควรต้องพักผ่อนให้มาก ร่างกายจะได้ฟื้นตัวเร็ว ๆ มีเรื่องอื่นใดก็ค่อยคุยกันพรุ่งนี้เถอะ” ควรเป็นเขาที่จะต้องรีบนอนหลับเอาแรง ตื่นมาพรุ่งนี้สมองจะได้ปลอดโปร่ง จะได้มีหนทางรับมือกับท่านแม่ทัพได้โดยมิเพลี่ยงพล้ำเช่นครั้งนี้

“เจ้าจะนอน...เช่นนี้หรือ”

ตอนแรกเก้าเทียนรุ่ยก็เลิกคิ้วขึ้นด้วยมิเข้าใจ หากเมื่อเห็นสภาพของท่านแม่ทัพใหญ่ที่ตอนนี้มีเพียงแค่กางเกงและเสื้อตัวในติดกาย อีกทั้งผมที่ควรจะผูกรัดและสวมกวาน[1] ให้เหมาะสมกับฐานะแม่ทัพแห่งแคว้นฮั่นหยางก็มิได้อยู่ในที่ซึ่งมันควรอยู่ เขาก็เลยเข้าใจ

“ข้าต้องคอยดูแลท่าน จะตอนไหนก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ แต่งกายนอนเช่นนี้ก็มิแปลกอันใดมิใช่หรือไง” อีกทั้ง...เขาคิดเอาเองนะ อย่างน้อยแต่งกายเช่นนี้ก็พอจะป้องกันมิให้ถูกแม่ทัพกินเต้าหู้ได้โดยง่ายด้วย

“จะมิมีใครทำอันตรายเจ้าได้ทั้งนั้น”

หือ...เหมือนว่าท่านแม่ทัพจะกล่าวอะไรสักอย่างอยู่นะ หากเขาก็มิทันจะเอ่ยสิ่งใดออกไป เสื้อผ้าอาภรณ์ที่สวมใส่ก็หลุดออกจากกายคงเหลือเพียงแค่กางเกงและเสื้อตัวในเท่านั้น อีกทั้งร่างบอบบางก็โดนกอดรัด ศีรษะถูกจับให้อยู่แนบชิดกับต้นไหล่กว้าง แขนกำยำพาดบนสะเอว ก่อนปากหนาจะแนบบนหน้าผาก

“นอน”

แม้ยังมิอยากจะนอนและคิดว่าคงจะนอนมิหลับด้วย หากเป็นเพราะร่างกายที่เหนื่อยล้าและเหนื่อยใจ เมื่อหูได้ยินเสียงหัวใจของท่านแม่ทัพมันก็เหมือนได้ฟังบทเพลงขับกล่อม เขามิรู้ตัวว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ หากรู้ว่าเมื่อตื่นมาแล้วต้องพบกับความอับอายเช่นนี้ เขาจะพยายามฝืนตัวยอมหลับแน่นอน แล้วตอนนี้ก็อยากจะคว้าผ้าห่มมาคลุมศีรษะและห่อตัวเองเป็นก้อนกลม ๆ เพื่อกลิ้งลงจากเตียงไปให้เร็วที่สุดด้วย

กล่าวคือเขามิรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น รู้เพียงแค่ว่าเหล้าที่ดื่มในงานเลี้ยงค่ำคืนนั้นรสชาติแปร่งปร่าและฝืดคอเป็นที่สุด ถามว่าเหตุใดถึงต้องดื่มทั้งที่มิชอบ เพราะมันคือเหล้ามงคลของหลานชาย

วันเวลาผ่านเลยไปแม้เขาจะสงสัยว่าทำไมร่างกายถึงได้อ่อนแรงและใช้พลังยุทธ์ได้ไม่เต็มที่ จากสิบส่วนบางครั้งใช้ได้เพียงแค่ห้าหกส่วนเท่านั้น อีกทั้งยังเริ่มมีอาการปวดศีรษะร่วมด้วย แรก ๆ มันก็มิได้หนักหนาอันใด หากนานวันเข้ามันก็เริ่มบ่อยครั้งและทวีความรุนแรงมากขึ้น

เขามิได้บอกเล่าเรื่องนี้ให้ผู้ใดล่วงรู้ หากก็มิพ้นสายตาชิงชวนผู้เป็นลูกน้องคู่ใจและสหายสนิทที่เติบโตมาด้วยกัน

แรก ๆ ชิงชวนก็ช่วยเขาปกปิดพร้อมกับหาหมอที่มีฝีมือมาทำการรักษา หากยิ่งรักษาอาการกลับยิ่งแย่ลงและเป็นบ่อยขึ้น อีกทั้งยังมีความรุนแรงขึ้นด้วย ก็เลยรีบส่งข่าวให้อีกคนล่วงรู้เพื่อส่งหมอที่ดีที่สุดมารักษาพร้อมกับยาที่ดีที่สุด หากนั่นกลับกลายเป็นการเร่งอาการของเขาให้หนักและเร็วขึ้นกว่าเดิม นอกจากยาเทียบแรกที่กินเข้าไปจะมิได้ผลแล้วมันยังทำให้เขาหมดสติไปถึงสามวันด้วยกัน

อาการเขาแย่ลง วรยุทธ์และพลังปราณที่มีก็ใช้มิได้ เหมือนมันหายสาบสูญไปกลายเป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่แม้จับดาบก็ยังหนัก ร่างกายที่เคยสูงเพรียวเต็มด้วยกล้ามเนื้อเพราะได้ฝึกฝนฝีมืออยู่ประจำก็เริ่มผ่ายผอมซูบเซียวลง ยามเมื่อฤดูใบไม้ผลิผ่านพ้นฤดูร้อนมาเยือน เขาเริ่มที่จะกินอาหารมิได้และนอนก็มิหลับ ผ่านไปมิทันจะถึงครึ่งเดือนอาการปวดศีรษะก็รุนแรงขึ้น อีกทั้งในกายก็เหมือนกับมีบางอย่างเคลื่อนไหว ที่มันทำให้เขาเจ็บปวดราวกับจะถูกแยกออกจากกัน เมื่อถึงปลายฤดูร้อนเขาก็หมดสติไปและมิอาจฟื้นขึ้นมาได้อีก

เขาคิดว่าตนเองคงจะต้องตายไปแล้ว หากก็มิใช่ เขาเพียงแค่หลับไปพร้อมกับอาการเจ็บปวดทางร่างกายที่มันมิได้หายไปไหนเลย ยังคงเล่นงานเขาอยู่แทบจะทุกสามวันเจ็ดวัน แม้อยู่บนเตียง หากเขาก็รับรู้และได้ยินเรื่องราวที่ชิงชวน หมอที่มารักษาและ...เสด็จลุงพูดคุยกันถึงรับสั่งของหลานฮ่องเต้ที่สั่งการให้จัดหาหมอที่มีฝีมือทั่วทั้งแผ่นดินมารักษา ตัวยาที่จำเป็นต้องใช้ มิว่าหากยาและราคาสูงเพียงใด ขอให้บอกกล่าวไป มิว่าอย่างไรจะรีบจัดการหาให้พบและนำส่งให้ถึงมืออย่างเร็วที่สุด หากก็มิอาจทำให้เขาฟื้นขึ้นมาได้

แม้ตัวเขาและทุกคนมิได้อยากจะหมดหวังและถอดใจ หากมิว่าหมอจะเก่งเพียงใดและยาที่ได้รับจะดีแค่ไหน ก็มิอาจทำให้เขาฟื้นคืนสติขึ้นมาได้เลย แต่เมื่อยังมีลมหายใจได้ แม้ความหวังที่มีจะน้อยนิดหากทุกคนก็เลยมิย่อท้อในการสืบค้นหาหมอผู้มากความสามารถและยาที่จะนำมาใช้ปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมา จวบจนเสด็จลุงส่งข่าวมา มีหมอผู้หนึ่งที่อาจจะช่วยเหลือได้ ชิงชวนจึงรีบเดินทางไปรับมา

เมื่อใครคนนั้นก้าวเข้ามา...กลิ่นหอมอ่อน ๆ ทำให้เขารู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า น้ำเสียงหวานใสที่เต็มไปด้วยความสงสัยหากเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและจริงใจ เสียงบ่นงึมงำยามที่มิได้ดั่งใจ เสียงที่เต็มไปด้วยโทสะยามเมื่อถกเถียงกับชิงชวนหรือพยายามทำแล้วเขาก็ยังมิอาจฟื้นขึ้นมา มันทำให้เขาอยากรีบฟื้นไปมองคนที่กำลังกล่าวอยู่...

“นี่นะสภาพคนป่วย...ช่างเป็นอะไรที่หมดสภาพจริง ๆ ”

หากเป็นหมอท่านอื่นที่มา เห็นสภาพเช่นนี้ของเขา น้ำเสียงเอ่ยออกมายามได้พบเห็น ย่อมเต็มไปด้วยความตกใจ เมื่อตรวจดูก็พร้อมที่จะบอกว่า...ไร้ความสามารถ มิอาจทำให้เขาฟื้นขึ้นมาได้ หากผู้ที่มาใหม่กลับมิใช่!

“นี่เจ้า!”

“หยุดเลยนะท่านรองแม่ทัพ ท่านจะโกรธข้ามิได้ ข้ากล่าวความจริง ดูสภาพนายของท่านสิ รูปร่างผ่ายผอม ผิวดำเกรียมไหม้ ยิ่งกว่าผักเน่าเสียที่ต้องรีบทิ้งเสียอีก ข้ายังคิดเลยว่านี่ใช่คนแน่เหรออยู่หรือเปล่า ช่าง...”

เขาสัมผัสได้ถึงพลังและได้ยินเสียงที่งึดงัดเต็มไปด้วยโทสะของสหายสนิท หากใครคนนั้นกลับมิรับรู้ ยังคงโต้ตอบกับชิงชวนพร้อมกับจับมือเขาไว้

[1] กวาน冠 คือเครื่องประดับบนศีรษะ บอกถึงยศของบุคคลนั้นๆ เช่น เหมี่ยนกวาน” หรือ “มาลามงกุฎ”  เป็นเครื่องประดับศีรษะของ ฮ่องเต้ มีลักษณะเป็นหมวกรูปทรงกระบอกม้วนอยู่บนศีรษะและประดับด้วยลูกปัดหยก 5 สีแขวนด้านหน้าและด้านหลัง สำหรับผู้หญิงชนชั้นสูง โดยเฉพาะตำแหน่งระดับมเหสี หรือ ฮองเฮา จะประดับด้วย กวานเฟิ่ง” หรือ “มงกุฎหงส์” สื่อความหมายว่าเป็นสัตว์ชั้นสูงมักต้องอยู่คู่กับมังกร (ฮ่องเต้) นอกจากนี้ก็มีเครื่องประดับศีรษะอื่นๆ ที่ออกแบบให้มีความหรูหรา จึงมีขนสัตว์ ลูกปัดและอัญมณีล้ำเข้ามาตกแต่งอยู่ด้วย

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 124 - จบ

    “แล้วเด็กสองคนนั้น” เสวียนลิ่วหลางเอ่ยถามเพราะหนานชวนส่งข่าวให้รู้บ้างแล้ว“ดูเป็นเด็กดีอยู่ขอรับ” นับตั้งแต่ที่เขาอยู่กับเสวียนลิ่วหลางมา มิเพียงแค่ร่างกายที่เปลี่ยนไป หากรับรู้ว่าภายในกายเริ่มมีพลังลมปราณมากพอที่จะสัมผัสได้ว่าใครมีวรยุทธ์และพอจะมองออกว่าผู้ใดมาดีหรือร้าย ทำให้มองออกว่าเด็กน้อยสองคนเป็นเด็กดีจริง ๆ จึงยินดีเป็นอย่างมากที่มารดามีคนดี ๆ มาคอยดูแล“แล้วท่านพี่ละขอรับ พบเจอเรื่องใดหรือไม่”หากเสวียนลิ่วหลางมิทันจะได้บอกกล่าวเรื่องที่ได้ไปตรวจสอบมา...มิได้มีสิ่งใดร้ายแรง ก็เป็นพวกมารปลายแถวกับเผ่าปีศาจที่มิชอบหน้ากันมาทะเลาะกัน แล้วกลุ่มจอมยุทธ์รุ่นใหม่เขาอยากแสดงว่าตนมีฝีมือเท่านั้น ก็มีบางคนเดินเข้ามา“มาทำไม” เสวียนลิ่วหลางเอ่ยเสียงเข้มดุ หากเด็กน้อยตรงหน้ากลับมิสนใจแล้วยังจะส่งยิ้มให้กับเก้าเทียนรุ่ยเพื่อยั่วโทสะยักษ์ใหญ่ตรงหน้าอีกด้วย“มิได้มาหาเจ้าเสียหน่อย มาหานั่น...” ปากเล็กสีแดงสดบุ้ยใบ้ไปทางเก้าเทียนรุ่ย “ต่างหากล่ะ...คิดถึงมากเลย”“ที่นี่เรือนข้า...ไปคิดถึงไกล ๆ หากมิอยากถูกจับโยนออกไป”“กล้ารึ...ข้าพี่ชายสองนะ เจ้ากล้าทำร้ายพี่ชายเมียเจ้ารึ”“ฮึ! พี่ชายที่นอก

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 123

    “อึก...อ้ายฉี!” ชิงชวนร้องเรียกด้วยความเกรี้ยวกราดเพราะยังมิทันได้เตรียมกายรับอ้ายฉีก็แทรกแท่งใหญ่ร้อนเข้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วยังจะหัวเราะร่าพร้อมกับกลั่นแกล้งเขาด้วยการขยับกายออกแล้วเคลื่อนกลับเข้าไปใหม่จนสุด“ไอ้เจ้าบ้าอ้ายฉี!”“อา...ข้ามันคนบ้านี่น่า เขาว่าคนบ้าทำอะไรก็มิผิด” ว่าแล้วอ้ายฉีก็เร่งเคลื่อนกายจู่โจมเข้าในพื้นที่เร้นลับของชิงชวนอย่างหนักหน่วงซ้ำแล้วซ้ำเล่า...จากนุ่มนวลกลับเป็นรุนแรงเมื่อถูกผนังอ่อนนุ่มบีบรัด“เจ้าว่า...ข้าจะบ้าได้มากกว่านี้ไหมอาชวน”“หยุดทำอย่างที่เจ้าคิดเลยนะอ้ายฉี” ชิงชวนห้ามปรามเมื่อพอจะรู้ว่าอีกฝ่ายคิดทำการสิ่งใด เขามิอยากเดินออกจากห้องพักอย่างอับอายเพราะถูกอีกฝ่ายจับกดจนเตียงพังอย่างเช่นโรงเตี้ยมที่ก่อนหน้าอ้ายฉีเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยขณะกล่าวออกไป “ข้ายังมิได้คิดอะไรสักหน่อย”“ฮึ! เจ้าอย่าคิดว่าข้าจะมิล่วงรู้ ข้าอยู่กับเจ้ามานานเท่าใดแล้ว ยามนี้หากมิใช่เพราะคิดว่าเดินทางกันพอแล้วกับในยุทธภพมีเรื่องมากมายชวนปวดหัว คิดว่าเจ้ากับข้าจะคิดกลับไปหาท่านแม่ทัพ...นายท่านกับคุณชายหรือไงกัน”“ครั้งนี้ข้ายอมก็ได้” หากมิใช่เพราะจะทำให้ชิงชวนอับอาย แต่เขาสัมผัสได้ว

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 122

    “ใบหน้าเมียข้ายามนี้ช่างงดงามเหลือเกิน เร่งอีกหน่อยสิท่านพี่ ข้าอยากได้ยินเสียงร้องของอาเหว่ย” จวินต้าเกอเอ่ยยามทอดสายตามองใบหน้าที่แสดงออกถึงความสุขสมยามถูกกระแทกด้วยความต้องการ“ได้สิน้องข้า” เฮยต้าเกอตอบรับ ผนังอ่อนนุ่มช่างบีบรัดเสียจนเขาถึงหายใจหอบแรงทำให้เขาขยับโยกกายด้วยความหนักหน่วงรุนแรงตามความต้องการที่มันเพิ่มมากขึ้น...และมากขึ้นจางเหว่ยสัมผัสได้ถึงกระแสความร้อนที่ไหลพุ่งเข้าสู่ร่างกายพร้อมกับเสียงครางของเฮยต้าเกอ ก่อนคลื่นความร้อนครั้งใหม่จะถาโถมเข้าหา“ข้าถูกพี่ใหญ่กลั่นแกล้ง แล้วยังจะต้องพาหมูป่ากลับมา ระหว่างทางก็ยังจะพลัดตกลงไปในแม่น้ำด้วย กว่าจะถึงบ้านก็เหนื่อยมิใช่น้อย เมียข้าช่วยปลอบโยนข้าหน่อยนะ” จวินต้าเกอเอ่ยขณะสองมือใหญ่ลูบคลำไปทั่วร่างกายพร้อมกับใช้แท่งใหญ่ยักษ์ของตนเองกดรุกล้ำเข้าไปในร่องทางด้านหลังของจางเหว่ยยามถูกผนังอบอุ่นห่อหุ้มและรัด ความต้องการของจวินต้าเกอก็เพิ่มมากขึ้น เขาขยับกายตัวราวกับพายุฝนที่กำลังกระหน่ำสาดซัดอย่างรุนแรง“หากเมียข้ายังจะทำสีหน้าเช่นนั้น...วันนี้เราคงจะมิได้ไปหานายท่านกับคุณชายเป็นแน่” เฮยต้าเกอกล่าวขณะวางมือลูบไล้บนอกเมียรัก“ข้า

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 121

    “ท่าน...ท่านพี่” จางเหว่ยเอ่ยทักสองบุรุษที่เดินเข้ามาในบ้านเสียงแผ่วเบา ด้วยอย่างไรเขาก็ยังมิชินกับการเป็นฟูเหรินของบุรุษด้วยกัน แต่มิใช่เพราะเขาจำต้องผูกพันธสัญญาหรือมิเต็มใจอยู่กับกระทิงสองพี่น้องหรอกนะ แต่เพราะใจของเขาก็รู้สึกดีกับทั้งสองคนอยู่มิน้อย ยิ่งเมื่อผ่านพ้นค่ำคืนผูกพันธสัญญาไปแล้ว เฮยต้าเกอและจวินต้าเกอก็ดูแลเขาอย่างดี“มิสบายหรือเมียข้า” เฮยต้าเกอเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง“ข้ามิได้เป็นอะไร หากแต่ท่านพี่กับท่านพี่จวิน เหตุใดถึงได้กลับมาเรือนเร็วเช่นนี้ ยังมิทันจะเที่ยงเลย ท่านมิสบาย...บาดเจ็บใช่หรือไม่” จางเหว่ยเอ่ยถามพลางมองดูว่าบุรุษตรงหน้ามีบาดแผลที่ส่วนใดของร่างกายบ้าง“มิได้เป็นเช่นนั้น วันนี้โชคดี ได้หมูป่าตัวใหญ่มา เลยคิดกันว่ารีบกลับบ้านจะดีกว่า หมูป่าตัวใหญ่เช่นนี้ถ้าได้นั่งล้อมวงกินกันหลาย ๆ คนคงจะดีมิใช่น้อย อาเหว่ยอยากพามันไปกินกับนายท่านกับคุณชายหรือไม่” เฮยต้าเกอกล่าวถึงเสวียนลิ่วหลางกับเก้าเทียนรุ่ย“แต่กว่าท่านพี่จะจับมันได้...มิง่ายเลยนะขอรับ” แม้จะดีใจที่กระทิงสองพี่น้องยังคิดถึงความรู้สึกของเขา“สัตว์มีอยู่เต็มป่า จะจับเมื่อไหร่ก็ได้ แต่นายที่ดีอย่างนายท่

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 120

    “อ่า...รอค่ำคืนนี้ก่อนนะเมียรักของข้า รุ่งสางแล้วเราต้องเร่งทำเวลา” ยามนี้จวนแม่ทัพยังมีงานให้เขาทำอยู่ อีกทั้งยังบางคนที่มิอยากให้เขาออกไปใช้ชีวิตที่อื่นก็มาคอยอ้อนวอนขอร้อง“อื้อ...” เก้าเทียนรุ่ยรับคำก่อนจะยกตนเองขึ้นเพื่อตอบรับเจ้ายักษ์ใหญ่ที่ค่อย ๆ สอดดันเข้ามาในร่างก่อนจะถอนออกอย่างเชื่องช้า แล้วย้อนกลับเข้ามาอีกครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกครั้งจะลึกขึ้นเรื่อย ๆร่างเล็กบางไหวโยกตามแรงเคลื่อนไหว ผนังด้านในรับรู้สึกแท่งร้อนที่บุกรุกเข้ามาในกายครั้งแล้วครั้งเล่า บ้างก็เชื่องช้า บ้างก็รวดเร็ว“ท่านพี่”ใบหน้าแดงระเรื่อของเก้าเทียนรุ่ย ดวงตากลมใสที่ยามนี้ฉายแววปรารถนาอย่างชัดเจนทำให้เสวียนลิ่วหลางยิ่งถาโถมแท่งร้อนบุกรุกเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามด้วยความปรารถนาที่รุนแรง เสียงสะท้อนของร่างกายที่กระทบกันดังทั่วห้องเช่นเดียวกับเสียงหอบของสองคนที่ดำดิ่งกับความใกล้ชิดเสวียนลิ่วหลางพลิกกายบางให้ลงนอนคว่ำ ใบหน้าเก้าเทียนรุ่ยแนบกับหมอนหนุน แขนแกร่งสอดรัดเอวเล็กขณะกดสะโพกพาแท่งเหล็กร้อนให้ดำดิ่งสอดแทรกไปในช่องทางที่อ่อนนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนเสียงคำรามจะแผดดังขึ้นพร้อมกระแสความร้อนไหลพุ่งเข้าสู่

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 119

    “เอาเป็นข้า...” เด็กน้อยเคลื่อนไหวกายเพียงเล็กน้อยแต่กลับรวดเร็วเสียจนแทบจะมองมิทัน เพียงแค่มิถึงหนึ่งจิบชาดูเหมือนว่าทุกคนที่ยังคงอ่อนแรงยกเว้นเสวียนลิ่วหลางก็ดีขึ้น“ข้าช่วยพวกเจ้าได้เพียงแค่นี้ ส่วนที่เหลือก็เป็นเรื่องของพวกเจ้าเองแล้ว”“เดี๋ยว!” เก้าเทียนรุ่ยร้องเรียกเด็กน้อยตรงหน้าที่หันกายจะจากไป“มีอะไรอีก ข้ามิได้คิดร้ายกับพวกเจ้านะ”“เปล่า ข้ามิได้คิดเช่นนั้น แต่...” เก้าเทียนรุ่ยขบเม้มปากเข้าหากัน มิรู้ว่ามันเป็นความรู้สึกของเขาเองหรือเปล่าที่รู้สึกคุ้นเคยกับเด็กน้อยตรงหน้าประมาณหนึ่ง จนมันอดที่จะคิดมิได้“หากเจ้ามิพูดอะไร ข้าจะไปแล้วนะ”“เจ้า...คุณเป็นหนึ่ง” เก้าเทียนรุ่ยเอ่ยเสียงแผ่วเบา“หือ...” คิ้วของเด็กน้อยเลิกขึ้น“ใช่หรือไม่”เด็กน้อยคลี่ยิ้ม ก่อนจะเอ่ยออกไปว่า “จะใช่หรือมิใช่ จะมีสิ่งใดแตกต่างไปล่ะ ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมิอาจย้อนกลับไปแก้ไขสิ่งใดได้แล้ว เจ้านั่นแหละ...ได้โอกาสแล้วก็ใช้ชีวิตนับจากนี้ไปให้มีความสุขเถอะ” กล่าวจบเด็กน้อยที่มิบอกกล่าวให้ทุกคนรู้เป็นผู้ใดจากไปพร้อมกับร่างของเสวียนลิ่วหลางที่ทรุดล้มลงศีรษะแนบชิดกับลำคอเก้าเทียนรุ่ย“ท่านพี่!”“ท่านแม่ทัพ!”

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status