“เมื่อกี้เธอถามฉันว่าจะทำอะไรไม่ใช่เหรอ?”แววตาฉู่เฉินเต็มไปด้วยแววเย้าแหย่ เขากระชากผมของหลิ่วชิงเหอ“อื้อ…อื้อ…”หลิ่วชิงเหอดิ้นขัดขืนและพยายามด่าเขา แต่ไม่นานกลับเปลี่ยนเป็นเสียงอู้อี้ในลำคอเวลานี้ ป้าอู๋ที่กำลังง่วนอยู่ด้านล่างได้ยินเสียงเคลื่อนไว้จากชั้นบนก็ตกใจ รีบพุ่งตัวขึ้นไปบนชั้นสองทันทีเห็นประตูห้องของหลิ่วชิงเหอปิดสนิท ซ้ำยังมีเสียง “กุกกักๆ” ดังมาจากข้างในอีก ป้าอู่ตกตะลึง!“คุณผู้หญิง คุณผู้หญิงคะ? ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?”ป้าอู๋เคาะประตูเสียงดัง พลางตะโกนเรียกไปด้วยแต่กลับไร้เสียงตอบรับจากหลิ่วชิงเหอ ตรงกันข้าม เสียงในห้องกลับยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก“คุณผู้หญิง!”ภาพที่หลิ่วชิงเหอถูกคนเลวกระทำอย่างกำเริบเสิบสานผุดขึ้นมาในหัวของป้าอู๋ เธอร้อนรนขึ้นมา จึงใช้ตัวกระแทกประตูอย่างแรงแต่ประตูห้องที่ทำจากไม้เนื้อแท้นั้นแข็งแรงเกินไป แม้แต่ป้าอู๋ก็พังเข้าไปไม่ได้“ปะ…ป้าอู๋…ป้า…ไม่ต้องเข้า…ไม่ต้องเข้ามา รีบไป…รีบไปซะ!”ขณะที่ป้าอู่ถอยหลังไปสองสามก้าว เตรียมจะกระแทกประตูอีกครั้ง เสียงหอบหายใจของหลิ่วชิงเหอก็ดังออกมาจากในห้องก่อน“คุณผู้หญิง ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?”ป้าอู๋ทำได
“ไม่ทราบว่าเรื่องราวเป็นมายังไงกันแน่คะ?”คำถามนี้เห็นได้ชัดว่าตั้งใจโจมตีหลิ่วหรูเยียนจากคำพูดของเธอ ฉู่เฉินไม่มีความสามารถสักนิด แล้วเขาช่วยชีวิตผู้อาวุโสเว่ยต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร?หรือพูดอีกอย่างก็คือ ฉู่เฉินที่ไร้ความสามารถด้านการแพทย์ จะมีทักษะด้านการแพทย์ที่สูงขนาดนั้นได้อย่างไร?“เหอะ!”หลิ่วหรูเยียนเห็นว่ากระแสวิพากษ์วิจารณ์ไหลย้อนเข้ามาหาเธอ เธอจึงเลิกเสแสร้ง และพูดด้วยสีหน้าเหยียดหยันว่า “คุณซู คนเราแม้จะอับโชคแค่ไหนก็ต้องมีสักครั้งที่โชคเข้าข้างบ้างรึเปล่าล่ะคะ?”“แมวตาบอดตัวหนึ่งบังเอิญเจอหนูนอนตายก็เป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรมั้งคะ?”“ฉันยังยืนยันคำเดิม บริษัทยาไม่ใช่ว่าใครจะทำก็ได้ ศาสตร์ความรู้ที่เกี่ยวข้องมีมากเกินไป บริษัทของฉู่เฉินไม่มีทางพัฒนาได้ แม้จะมีเงินทุนหลายร้อยล้าน ก็ไม่มีทางเปลี่ยนความจริงที่ว่าซินฉู่ฟาร์มาซูติคอลต้องปิดตัวลง”สิ้นเสียง ผู้ชมในช่องไลฟ์สดจำนวนกว่าแสนคนต่างหันไปสนับสนุนความคิดของหลิ่วหรูเยียน“เหอะ ถ้าเขามีความสามารถด้านการแพทย์ที่สูงขนาดนั้นจริง จะเป็นอัมพาตไปถึงสามปีได้ยังไงล่ะ!”“นั่นน่ะสิ เ
“สวัสดีค่ะ คุณฉู่ ฉันชื่อสวี่ถิงถิง เป็นนักข่าวแนวหน้าของกลุ่มคอลัมน์รู้ทันวงการแพทย์ค่ะ ขอสัมภาษณ์สักครู่ได้ไหมคะ?”นักข่าวสาวสวยถามฉู่เฉิน“ผมไม่สนใจครับ!”ฉู่เฉินตอบเสียงเรียบ จากนั้นก็ดันมือของจินหลิงเอ๋อร์ที่แขนของเขาออกเบาๆ ก่อนจะหันตัวเดินเข้าบ้านไป“ปรมาจารย์ฉู่ เดี๋ยวก่อน”ขณะที่เหล่านักข่าวถูกฉู่เฉินเมินจนยืนอึ้งค้างอยู่กับที่นั้น จินเจิ้นหลงเอามือกุมหน้าอก พุ่งตัวออกไปท่ามกลางฝูงคน“คุณคะ ไม่ทราบว่าเมื่อครู่คุณเรียกคุณฉู่เหรอคะ? แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่คะ?”สวี่ถิงถิงแพลนกล้องไปทางจินเจิ้นหลงทันที“เหลวไหล ฉันไม่เรียกคุณฉู่แล้วจะให้เรียกเธอหรือไง?”จินเจิ้นหลงผลักสวี่ถิงถิงที่ยืนขวางตัวเอง ก่อนจะสบถด่า “เธอตาบอดหรือไง? ไม่เห็นเหรอว่าฉันบาดเจ็บขนาดนี้? นอกจากมาขอความช่วยเหลือ แล้วจะให้ทำอะไรได้อีก?!”พูดทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านี้ จินเจิ้นหลงก็เดินจ้ำไปทางฉู่เฉิน ก่อนจะคุกเข่าลงบนพื้น“ปรมาจารย์ฉู่ ตะ…ตระกูลจินของผมยินยอมน้อมรับคุณเป็นเจ้านาย ได้โปรดช่วยพวกเราสองพ่อลูกด้วยเถอะครับ”ขณะเอ่ย จินเจิ้นหลงดึงจินหลิงเอ๋อร์ให้คุกเข่าด้วยภาพที่เกิดขึ้นทำให้ช่องไลฟ์สดแตกตื่นฮือ
“ฉันคิดว่าวิญญาณของคุณอาฉู่ที่อยู่บนสวรรค์เองก็คงไม่อยากให้ฉู่เฉินตกต่ำและกลายเป็นจอมลวงโลกแบบนี้ เพราะฉะนั้นฉันมีหน้าที่เปิดโปงคำโกหกหลอกลวงของเขาค่ะ”ประโยคนี้ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างล้นหลามขึ้นอีกครั้งในช่องไลฟ์สด“คนอย่างไอ้ฉู่เฉินก็ยังกล้าเปิดบริษัทยาอีกเหรอ?”“ใช่ ต้องเปิดโปงคำโกหกหลอกลวงของเขา!”“ฉันอยากจะรู้นัก ไอ้แซ่ฉู่นี่จะปิดฉากยังไง มันเชิญนักแสดงมาไม่ใช่เหรอ? งั้นเรามารอดูกันว่ามันจะรักษาให้คนอื่นยังไง!”“ใช่ กับบริษัทที่ไร้คุณธรรมแบบนี้ ที่กล้าโปรโมตด้วยเรื่องลวงโลก ต้องแฉให้หมดเปลือก!”ชั่วขณะหนึ่ง ข้อสงสัยและคำด่าทอเต็มไปทั่วช่องไลฟ์สดกระแสความเดือดของช่องไลฟ์สดพุ่งขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ยอดผู้ชมทะลุหนึ่งแสนห้าหมื่นคนไปแล้วชาวเน็ตเกือบครึ่งมณฑลเจียง รวมถึงชาวเน็ตจากทั่วประเทศต่างก็รุมด่าฉู่เฉินซูซูเหลือบมองช่องแชตด้านล่าง ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย “เพื่อตอบสนองความต้องการของทุกคน รายการของเราเพิ่งตัดสินใจร่วมกัน แม้จะต้องเสี่ยงโดนฉู่เฉินฟ้องข้อหาบุกรุกสถานที่ พวกเราก็จะเปิดโปงหน้ากากที่แสร้งเป็นคนดีของเขาให้ได้ค่ะ”“ต่อจากนี้ แพลนกล้องไปฝั่งนักข่าวแนวหน้
เรือนร่างอันเย้ายวนของสวี่ถิงถิงดึงดูดความสนใจจากผู้ชมส่วนใหญ่ในช่องไลฟ์สดทันทีประโยคที่เธอพูดเมื่อกี้จึงยิ่งเพิ่มเชื้อเพลิงให้กับผู้ชมในห้องไลฟ์สดให้เดือดพล่านกว่าเดิม!แอคเคาท์ที่ชื่อจักรพรรดิเสินเยวี่ยแห่งเจียงจง สาดคอมเมนท์ใส่หน้าจอว่า “ถ้าไอ้แซ่ฉู่นี่มีความรู้ด้านการแพทย์จริง ฉันยอมไลฟ์สดกินขี้เลย!”พอประโยคนี้ปรากฏบนหน้าจอ ชาวเน็ตหลายคนก็สาดคอมเมนต์เยาะเย้ยตามมาติดๆ“แหม จักรพรรดิเสินเยวี่ยมาหาแสงอีกแล้ว”“เหอะ ถ้ามันมีความรู้ทางการแพทย์จริง ฉันยอมไลฟ์สดตีลังกาขี้เลย”“พวกเอ็งเอาซะขี้มีคุณค่าขึ้นมาเลย!”ขณะเดียวกัน ฉู่เฉินพาจินเจิ้นหลงและจินหลิงเอ๋อร์สองพ่อลูกเข้าไปในห้องรับแขกจินเจิ้นหลงนั่งลงตรงมุมเล็กๆ ของโซฟาด้วยท่าทางนอบน้อม ก่อนจะพูดกับฉู่เฉินด้วยสีหน้าอ้อนวอน “ปรมาจารย์ฉู่ ผมไม่สำคัญเท่าไร ถ้าเป็นไปได้ คุณช่วยรักษาโรคเรื้อรังของลูกสาวผมให้ก่อนได้ไหมครับ”เขาคิดดีแล้ว ถึงตระกูลจินจะนับถือฉู่เฉินเป็นเจ้านายแล้วยังไง?ขอแค่ลูกสาวมีสุขภาพแข็งแรง แล้วแต่งงานกับเจ้าบ่าวที่เหมาะสมเร็วๆ เขาก็มีหน้าไปเจอแม่ของจินหลิงเอ๋อร์ที่จากไปแล้ว ฉู่เฉินขมวดคิ้วบอกว่า “อาการป่วยของ
ทักษะการแพทย์สูงต่ำเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลอกกันได้ ถึงแม้ฉู่เฉินคิดจะแสร้งทำก็ไม่รอดอยู่ดีคำพูดของซูซูเองก็ชักชวนให้ชาวเน็ตที่กำลังติดตามหลายคนเห็นด้วยเช่นกันพอเห็นกระแสสังคมพลิกกลับอย่างชัดเจน หลิ่วหรูเยียนแค่นเสียงและเอ่ยอย่างดูถูกว่า “ถ้าฉู่เฉินมีความสามารถด้านการแพทย์จริง ฉันหลิ่วหรูเยียนคนนี้จะคุกเข่าขอขมาให้เขาต่อหน้าชาวเน็ตนับล้านคนเลย!”ซูซูได้ยินก็เตือนด้วยรอยยิ้ม “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว คุณจะพูดเล่นแบบนี้ไม่ได้นะคะ คุกเข่าขอโทษ ไม่เพียงจะทำให้ชื่อเสียงของคุณเสียหาย แต่ภาพลักษณ์ของบริษัทก็จะ…”“เหอะ!”ซูซูยังไม่ทันพูดจบ หลิ่วหรูเยียนก็ยิ้มหยัน “คุณซู ฉันดูเหมือนกำลังพูดเล่นเหรอคะ? ฉันหลิ่วหรูเยียนเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น”“คนอื่นน่ะฉันไม่รู้หรอก แต่ฉันรู้จักฉู่เฉินดี เขาเป็นคนไร้ความรู้ความสามารถ เป็นแค่จอมลวงโลกที่หลอกลวงคนอื่นไปทั่ว”ซูซูเห็นหลิ่วหรูเยียนมั่นใจขนาดนี้ จึงไม่รู้จะเกลี้ยกล่อมอย่างไร ได้แต่ยิ้มเล็กน้อย และบอกว่า “โอเคค่ะ งั้นพวกเรามารอดูกันต่อไปก็แล้วกันนะคะ”ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉินยื่นมือประคองจินเจิ้นหลงให้ลุกขึ้นมา และเอ่ยเสียงเรียบว่า “ถึงจะยุ่งยากหน
เสียงกรีดร้องของเขาดังก้องไปทั่วทิศ ในช่องไลฟ์สด เกิดการถกเถียงอย่างเร่าร้อนขึ้นอีกครั้ง“เชี่ย! ไอ้แซ่ฉู่ซ้อมปาเป้าอยู่รึไงวะ?”“แม่งเถอะ นี่ไม่ใช่การรักษาแล้ว นี่มันกำลังฆ่าคนชัดๆ”“แม้แต่คนดีๆ ก็ต้องถูกเขาทรมานจนตายแล้วมั้ง? นี่มันวิชาแพทย์แขนงไหนกันเนี่ย!”พริบตาเดียว ฉู่เฉินก็ตวัดเข็มเงินสามเล่มใส่ร่างของจินเจิ้นหลง แม้แต่ชาวเน็ตในหน้าจอก็นั่งไม่ติดแล้วหลิ่วหรูเยียนยิ่งพูดด้วยสีหน้าย่ามใจ “ฉันบอกแล้วว่าเขาเป็นแค่จอมลวงโลกที่ไม่มีความสามารถอะไรเลย ใครๆ ก็เคยเห็นการรักษาด้วยการฝังเข็ม แต่มีใครเคยเห็นการฝังเข็มแบบนี้บ้างล่ะคะ?”“ฉันว่าเราควรเปลี่ยนหัวข้อได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ค่าไอ้สวะอย่างเขา”จบประโยคนี้ กองทัพเรือในช่องไลฟ์สดสาดคอมเมนต์เต็มหน้าจอ ร้องขอให้ตัดภาพถ่ายทอดสดฝั่งฉู่เฉินออก ไอ้สวะที่เป็นแค่จอมลวงโลก มีอะไรน่าดูกัน สู้ดูสองสาวสวยในห้องไลฟ์สดคุยกันยังจะดีซะกว่า คอมเมนต์ประเภทนี้เต็มหน้าจอไปหมดซูซูเองก็ส่ายหน้าอย่างผิดหวัง การแสดงละครของฉู่เฉินเกินจริงไปมาก ฉันให้โอกาสนายแล้ว แต่นายใช้ไม่ได้เองจุดพลิกผันที่รอคอยมาไม่ถึง ซูซูได้แต่ผิดหวังอย่างมากในขณะที่ซูซ
ตึง!คำพูดของฮว่าจิ่วหยางทำให้ซูซูอึ้งค้างไปทันทีหรือฉู่เฉินจะมีความสามารถด้านการแพทย์จริง?หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ข้างๆ อดขมวดคิ้วไม่ได้ เธอหันไปมองซูซูซึ่งเป็นพิธีกรของรายการอย่างไม่พอใจคงไม่ใช่ว่ารายการนี้รับเงินใต้โต๊ะจากฉู่เฉิน แล้วตั้งใจหาตาแก่ไร้ชื่อคนหนึ่งมาเพื่อวางกับดักเธอหรอกนะ?เมื่อกี้เธอเพิ่งพูดต่อหน้าแฟนคลับกว่าล้านสองล้านคนว่า ถ้าฉู่เฉินมีความสามารถด้านการแพทย์จริง เธอจะคุกเข่าขอขมาฉู่เฉินชั่วขณะหนึ่ง ห้องไลฟ์สดแตกฮืออีกครั้ง“เชี่ย ไอ้เดรัจฉานเฒ่านี่มันใครวะ? ถึงได้มาวางท่าเป็นแพทย์จีนโบราณอยู่ตรงนี้!”“ยังมีหน้ามาบอกว่าเป็นวิชาเก้าเข็มลึกล้ำอะไรนั่นอีก ฉันว่าแกนั่นแหละไอ้หน้าโง่ล้ำลึก!”“คงไม่ใช่ว่ารายการต้องการเพิ่มเรตติงก็เลยหาคนมาป่วนหรอกนะ? ยังไงฉันก็ไม่เชื่อใครทั้งนั้น นอกจากเทพธิดาของฉันคนเดียว”“ไอ้พวกไร้สมอง พวกนายไม่รู้จักอาวุโสฮว่าจิ่วหยางรึไง? เขาเป็นผู้นำสิบหมอชื่อดังของเจ็ดมณฑลแห่งทิศใต้เชียวนะเว้ย! แม้แต่หมอเทวดาซุนเวลาเจออาวุโสฮว่ายังต้องเรียกว่าท่านอาวุโสด้วยความนอบน้อมเลย!”เวลานี้ ชาวเน็ตที่เคยติดตามฮว่าจิ่วหยางลุกขึ้นมาพูดปกป้องอาวุโสฮว่า
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณฉู่”หลินเยว่หรูขอบคุณเป็นล้นพ้นแล้ววางสายไปแต่หลินเจิ้งไท่ที่อยู่ทางด้านข้างกลับมองไปยังฉู่เฉินด้วยความสงสัยเขาอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นเจ็ด แต่หลินเยว่หรูกลับให้ฉู่เฉินช่วยต่อกรกับยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นเก้าเหรอ?ลูกสาวของเขาคงไม่ได้โดนฉู่เฉินเอาจนโง่งมไปแล้วใช่ไหม?แต่พอขบคิดให้ละเอียด ด้วยสถานะของฉู่เฉินในตอนนี้ ระดับสร้างรากฐานชั้นเก้ายังไม่อยู่ในสายตาเขาจริง ๆ ต่อให้ฉู่เฉินเป็นแค่คนธรรมดา แต่ใครจะกล้าแตะต้องเขาแม้กระทั่งปลายนิ้ว? “หัวหน้าจ้าว เมื่อกี้คุณบอกว่าจะพาผมไปส่งที่เจียงจงเหรอครับ?” ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง จิบชาแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “แน่นอนสิครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณฉู่มาที่เมืองชิงหลง ผมกับผู้เฒ่าหลินจะต้องออกมาต้อนรับสิบลี้ ไปส่งสิบลี้อย่างแน่นอน” จ้าวเต๋อฉวนพรูลมหายใจยาวออกมา ในที่สุดก็จะได้ส่งไอ้ตัวซวยคนนี้ออกไปสักทีเมื่อเห็นฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยลุกขึ้น หลินเจิ้งไท่ก็รีบตามไป คนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าตรงไปทางทางออกฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเจียงจงทันที ......อีกทางด้านหนึ่ง หลินเยว่หรูเพิ่งจะวางโทรศัพท์ลง ลั่วเทียนเต๋อก็ตบโต๊ะด้วย
“คุณฉู่ ตอนนี้ลูกชายของฉันฟื้นแล้ว หมอบอกว่าพักอีกหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ที่ฉันโทรหาคุณครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หลินเยว่หรูลังเลอยู่นาน ก่อนจะกล่าวต่อ “ไม่ทราบว่าช่วงนี้คุณฉู่พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?”“ช่วงนี้... คงไม่มีเวลาไปไปเยี่ยมเยียนเส้นทางที่ร่มรื่นของคุณหรอกครับ”ขณะที่ฉู่เฉินกล่าว ก็หันศีรษะไปมองหลิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆเมื่อเทียบกับหลิงเสวี่ยแล้ว สุดท้ายหลินเยว่หรูก็ยังด้อยกว่าอยู่ระดับหนึ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ในแง่ของความอดทน แม้ว่าหลิงเสวี่ยจะเป็นมือใหม่ แต่ความอดทนของเธอก็ดีกว่าหลินเยว่หรูไม่น้อยหลังจากศึกหนักเมื่อคืนนี้ หลิงเสวี่ยไม่เพียงแต่ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่กลับได้รับการพัฒนาอย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังมีร่างกายพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงฉู่เฉินไม่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินเยว่หรูยังคงมีร่างกายเป็นกระถางรับซึ่งเป็นเพียงการเล่นสนุกเท่านั้นและฉู่เฉินก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆหลินเยว่หรูที่ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “คุณฉู่คะ ฉัน... ฉันมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก