“มองพอแล้ว”ฉู่เฉินเอ่ยด้วยรอยยิ้มร้ายว่า “แต่ก็ยังมองไม่พอ” ในขณะที่พูด ฉู่เฉินค่อย ๆ เลื่อนสายตาลงมา ก่อนจะเหลือบเห็นความขาวนวลและความกลมกลึงจากในร่องของผ้าเช็ดตัวเมื่อสังเกตเห็นสายตารุกรานของฉู่เฉิน ดวงหน้าเล็กของหญิงสาวก็เย็นชาขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะถลึงตามองฉู่เฉินอย่างดุดันแล้วพูดพลางชี้ไปที่หน้าประตูโดยไม่มีความเกรงใจเลยแม้แต่น้อยว่า “ไสหัวไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!” “นี่ไม่ใช่บ้านของคุณ มีสิทธิ์อะไรมาไล่ผม?” ฉู่เฉินเอ่ยด้วยรอยยิ้มพลางจ้องมองสาวสวยหน้าสดตรงหน้าอย่างมีเหตุผลรองรับเต็มที่ “คุณ...” สาวสวยหน้าสดดูอัดอั้นตันใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็จัดการฉู่เฉินไม่ได้เลยถึงอย่างไรเธอพันผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมา ด้านในแทบจะเปลือยเปล่าหมด หากขยับตัวมากเกินไปเล็กน้อยก็จะโป๊หมดเลย! “อย่าเพิ่งรีบโกรธ คุณคือเจียงรั่วเหยียนใช่ไหม?” สายตาของฉู่เฉินค่อย ๆ เลื่อนจากต้นขาของสาวสวยหน้าสดไปที่หน้าอก ผ้าเช็ดตัวทั้งผืนพันรอบอกอวบอิ่มของเธอไว้ไม่อยู่ แค่คำว่าใหญ่คำเดียวจะพอบรรยายได้อย่างไร?“คุณรู้ชื่อของฉันได้ยังไง?” เห็นได้ชัดว่าคำพูดประโยคนี้ของฉู่เฉินทำให้เธอเอ่ยถามด้วยความกระวนกระวายใจ
เจียงรั่วเหยียนสูดลมหายใจลึก สุดท้ายถึงค่อยฝืนพยักหน้า หลังจากที่พูดทักทายกับหลินชือหย่าไม่กี่ประโยค เจียงรั่วเหยียนถึงค่อยวางสายแล้วพูดว่า “คุณเป็นหมอจริง ๆ เหรอคะ?”“จริงแท้แน่นอน”ฉู่เฉินเอ่ยด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม เจียงรั่วเหยียนเม้มริมฝีปากแล้วขมวดคิ้วพูดว่า “ฉันไม่สนว่าคุณเป็นหมอจริง ๆ หรือเปล่า แต่ถ้าคุณกล้าพูดเรื่องเมื่อกี้ออกไป ฉันจะเอาเรื่องคุณให้ถึงที่สุด!” “อีกอย่างฉันให้เวลาคุณมากสุดสามนาที หลังจากตรวจเสร็จแล้วรีบไปให้พ้นจากตรงหน้าฉันซะ ฉันไม่อยากเห็นคุณอีก!”ฉู่เฉินเลิกคิ้ว ยัยนี่แสบเป็นพริกขี้หนูเลย! ดูท่าเขายังคงเข้าใจความหมายของหลินชือหย่าผิดไปที่เรียกว่ารังเกียจผู้ชายไม่ใช่อายที่จะปฏิสัมพันธ์กับผู้ชายเลย เธอแค่บ้าคลั่งเท่านั้น“ผมต้องจับชีพจรคุณก่อน” ฉู่เฉินก้าวมาข้างหน้าแล้วยื่นมือไปคว้าข้อมือของเจียงรั่วเหยียน“ห้ามแตะฉันนะ!”เจียงรั่วเหยียนรีบถอยหลังก้าวหนึ่ง เอามือสองข้างไขว้หลังไว้ การกระทำนี้ทำให้หน้าอกของเธอพลันแอ่นไปข้างหน้าแล้วชนเข้ากับหน้าอกของฉู่เฉินพอดี ชั่วพริบตานั้นดวงหน้าเล็ก ๆ ของเจียงรั่วเหยียนแข็งทื่อ ฉู่เฉินกลับยิ้มฝืดเฝื่อนก
เมื่อได้ยินเสียงตวาดอย่างรุนแรงนี้ ฉู่เฉินกับหลินชือหย่าต่างมองไปทางหน้าประตูพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายจากนั้นก็เห็นชายหนุ่มสวมชุดเครื่องแบบมังกรเขียวและรองเท้าบู๊ตทหารผลักประตูเดินเข้ามาในห้องรับแขกภายใต้การติดตามของบอดี้การ์ดหลายคน รอบตัวชายหนุ่มแผ่รัศมีน่าเกรงขามของผู้ที่อยู่เหนือกว่า นัยน์ตาเย็นชาจ้องเขม็งไปยังฉู่เฉินที่กำลังจับชีพจรให้เจียงรั่วเหยียน หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขาก็พากันมองไปทางฉู่เฉินด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรเช่นกัน ขณะเดียวกันมือของพวกเขาล้วนคลำไปทางด้านหลังเอวพร้อมกัน “พี่เจียงหย่วน พี่มาได้ยังไงคะ? วันนี้พี่เข้าไปทำงานที่แก๊งมังกรไม่ใช่เหรอคะ?” หลินชือหย่าเข้ามาหาด้วยสีหน้าประหลาดใจ ก่อนจะควงแขนของชายหนุ่มแล้วเอ่ยถาม ชายหนุ่มคือเจียงหย่วน พี่ชายแท้ ๆ ของเจียงรั่วเหยียน หัวหน้าแก๊งมังกรแห่งเจียงจงนับตั้งแต่ที่เจียงรั่วเหยียนออกจากโรงพยาบาล เธอก็อาศัยอยู่กับหลินชือหย่ามาตลอด ไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้ว เขาผ่านทางมาพอดีเลยถือโอกาสแวะมาเยี่ยม แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกเขาเห็นฉากเมื่อครู่นี้ เจียงหย่วนรู้จักน้องสาวของตัวเองดีกว่าใคร แค่ไปหาหมอที่โรงพยาบาล เจียงรั่ว
“ถ้าเกิดพี่เป็นห่วงเสี่ยวเหยียนจริง ๆ ทำไมถึงให้คุณฉู่ตรวจดูให้เธอไม่ได้ละคะ? ถ้าเกิดคุณฉู่รักษาโรคของเสี่ยวเหยียนได้จริง ๆ เสี่ยวเหยียนอาจจะพลาดโอกาสหายป่วยไม่ใช่หรือไงคะ?”เจียงหย่วนหัวเราะเบา ๆ ทีหนึ่ง มองฉู่เฉินอย่างละเอียดแล้วพูดว่า “เสียวหย่า พี่ไม่ได้พูดในฐานะพี่ชายนะ แต่เธอเคยเห็นแพทย์แผนจีนคนไหนอายุน้อยเหมือนอย่างเขาบ้าง?” “โรคของรั่วเหยียน ขนาดผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนจีนในประเทศหลายคนก็หมดปัญญาสู้ เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเขาจะรักษาหายได้เหรอ?”“คำพูดนี้ เธอถามตัวเขาเองสิว่าเชื่อไหม?”เจียงหย่วนเห็นนักต้มตุ๋มแบบฉู่เฉินมาเยอะแล้ว คนอายุน้อยถ้าไม่ได้ปลอมตัวเป็นอาจารย์ด้านฮวงจุ้ยก็ปลอมตัวเป็นหมอเทวดาหลอกเอาเงินหลอกล่วงละเมิดทางเพศไปทั่ว สาวบริสุทธิ์ไร้เดียงสาพวกนั้นถูกนักต้มตุ๋มพวกนี้ย่ำยีแล้วก็กระโดดลงแม่น้ำฆ่าตัวตายกันเกลื่อนกลาด“พี่เจียงหย่วน ที่ฉันพูดเป็นความจริงทั้งหมดนะคะ นอกจากนี้คุณฉู่ก็รักษาโรคของฉันจนหายด้วย” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เจียงหย่วนก็ขมวดคิ้วมองหลินชือหย่าแล้วพูดว่า “เสียวหย่า พี่จำได้ว่าเดือนที่แล้วเธอเพิ่งไปตรวจสุขภาพกับรั่วเหยียนนี่นา?”“ใ
ทุกคนในที่แห่งนี้ต่างก็ตกตะลึงไม่ใช่เพราะว่าฉู่เฉินพูดถูกเรื่องที่เจียงรั่วเหยียนป่วยจนเข้าโรงพยาบาลเมื่อสามวันก่อนแต่เป็นอาการป่วยทางใจของเธอ!เรื่องนั้นผ่านมาห้าปีเต็มแล้ว แม้แต่คนข้างกายก็พูดถึงผู้ชายที่ทำให้เจียงรั่วเหยียนเจ็บปวดใจเจียนตายน้อยมากอันที่จริงตอนนั้นเจียงรั่วเหยียนเหมือนกับเด็กสาวคนอื่น ๆ เคยใฝ่ฝันถึงความรักอันหวานชื่น และเธอได้ตกหลุมรักรุ่นพี่คนหนึ่งในเวลานั้น ทว่าต่อมาเจียงรั่วเหยียนบังเอิญพบว่ารุ่นพี่คนนั้นมีความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทที่สุดของเธอในช่วงมหาวิทยาลัย ถึงขนาดที่พวกเขาสองคนยังฉวยโอกาสตอนที่เจียงรั่วเหยียนกลับบ้านช่วงวันหยุดทำเครื่องนอนของเจียงรั่วเหยียนเปรอะเปื้อนด้วย เจียงรั่วเหยียนที่ล่วงรู้เรื่องทั้งหมดก็ตบหน้าเพื่อนสนิทคนนั้นไปสองฉาดทันที แถมยังเรียกเจียงหย่วนให้มาเล่นงานรุ่นพี่คนนั้นอย่างหนักอย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ครั้งนั้น เจียงรั่วเหยียนก็เกิดความรังเกียจผู้ชายอยู่ในใจ พูดให้ถูกต้องคือเธอไม่ได้เป็นโรคเกลียดผู้ชาย แต่เพราะว่ายังไม่ได้คลี่คลายปมในใจ อุปนิสัยถึงได้เปลี่ยนไปอย่างมาก ถึงขนาดที่เส้นเลือดหัวใจอุดตันเพราะความโกรธแค้นที่
เมื่อเธอเห็นว่าคนที่อยู่ข้างหลังคือฉู่เฉิน ขาสองข้างพลันอ่อนยวบ นัยน์ตาเบิกโตเล็กน้อย เหงื่อเย็น ๆ ไหลซึมออกมาจนหลังเสื้อของเธอเปียกชุ่มทันที “ทำไม ยังไม่ยอมตัดใจอยากหาโอกาสฆ่าฉันอีกเหรอ? ฉู่เฉินหรี่ตาสองข้างเล็กน้อย มองเรือนร่างอ่อนช้อยงดงามของกุหลาบเพลิงอย่างละเอียด สะโพกอวบอิ่มถูกฉู่เฉินจับไว้แน่น“ไม่...คุณฉู่ คุณเข้าใจผิดแล้ว ถึงคุณจะให้ฉันยืมอีกสิบความกล้า ฉันก็ไม่กล้าเด็ดขาด ฉะ...ฉันได้รับคำสั่งให้มาพบลูกค้าคนหนึ่ง ฉันสาบานต่อฟ้าเลย!” กุหลาบเพลิงกลัวแล้วจริง ๆ หลังจากที่เสียท่าให้ฉู่เฉินครั้งก่อน จนถึงตอนนี้เธอยังคงเจ็บเหมือนถูกฉีกทึ้งก็ไม่ปาน“สาบานต่อฟ้า? ฉันไม่เชื่อคำสาบานของเธอหรอก”ฉู่เฉินพูดพลางยื่นมือไปลูบคลำที่เอวของกุหลาบเพลิงแล้วดึงมีดบัตเตอร์ฟลายเล่มนั้นออกมาถือเล่นไว้ในมือทันที“คุณฉู่ งั้นต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อฉันคะ?” กุหลาบเพลิงแทบจะควักหัวใจของตัวเองออกมาให้ฉู่เฉินดู เธออยากพิสูจน์ตัวเองมากจริง ๆ นะ“ถอดออก!” ฉู่เฉินกวาดมองไปบนแผ่นหลังที่ขาวนวลงดงามดั่งหยกของกุหลาบเพลิงด้วยสายตาเย็นชา“หา? มะ...ไม่เอานะ ฉะ...ฉัน...”กุหลาบเพลิงยังไม่ทันพูดจ
พนักงานสาวสวยหลายคนเพิ่งจะมีสีหน้าผ่อนคลายก็สูดลมหายใจเย็นยะเยือกในพริบตา“เข้าไปดู!” พนักงานสาวสวยรุ่นใหญ่เดินเข้าไปใกล้ฉากกั้นห้องลองเสื้อด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะเอาหูแนบกับประตู ฟังเสียงข้างในอย่างระมัดระวังตอนแรกลูกค้าชายหญิงในร้านไม่ได้สนใจความผิดปกติทางฝั่งห้องลองเสื้อเลย แต่เมื่อพนักงานสาวสวยเหล่านี้พากันเข้าไปล้อม หลายคนก็มองไปทางห้องลองเสื้อเช่นกันบรรดาชายวัยกลางคนที่มาซื้อเสื้อผ้าเป็นเพื่อนแฟนหรือภรรยาได้ยินเสียงจากด้านใน พวกเขาก็มองหน้ากันแวบหนึ่งสายตานั้นบ่งบอกทุกสิ่งทุกอย่างแล้วใครแม่งกล้าขนาดนี้ ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากคลิปวิดีโอร้านยูนิโคล่เพิ่งจะผ่านไปได้ไม่นานเท่าไหร่เองนะ?มาอีกแล้วเหรอ?! ลูกค้าชายหลายคนพากันรวมตัวเข้ามาด้วยท่าทีเหมือนศึกษาเรียนรู้ เมื่อเห็นว่าควบคุมสถานการณ์ไม่ได้แล้ว พนักงานสาวสวยอายุค่อนข้างมากก็ตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของปัญหา ก่อนจะรีบเคาะประตูห้องลองเสื้อ “คะ...ใครน่ะ!”เสียงเลือนรางดังออกมาจากในห้องลองเสื้อตามเสียงเคาะประตูอย่างรีบเร่งซี้ด! ชั่วขณะหนึ่ง แม้แต่บรรดาพนักงานสาวสวยก็สัมผัสได้ถึงดวงตาที่เหมือนพยัคฆ์เหมื
“รั่วเหยียน!”เจียงหย่วนที่ได้ยินเสียงผิดปกติหันหน้าไปมอง ก่อนจะเห็นเจียงรั่วเหยียนเอามือสองข้างกุมลำคอเนียนสวย ลมหายใจเปลี่ยนเป็นถี่กระชั้นและยากลำบาก ดวงหน้าเล็กเขียวม่วงจนดำคล้ำแล้ว “แย่แล้ว!”เจียงหย่วนรีบพุ่งปราดเข้าไปหาเจียงรั่วเหยียน แต่วินาทีต่อมา เจียงรั่วเหยียนพลันตาเหลือก หมดสติไปทันที“รั่วเหยียน!” “ลูก!” เจียงไห่ตงรีบวิ่งมาเช่นกัน เขายื่นมือไปสัมผัสลมหายใจทางจมูกของเจียงรั่วเหยียนแล้วอดสูดลมหายใจเย็นยะเยือกไม่ได้ ครั้งนี้อาการป่วยของเจียงรั่วเหยียนรุนแรงกว่าครั้งก่อนมากอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้แม้แต่ลมหายใจทางจมูกก็อ่อนแรงมากแล้ว“ผมจะโทรเรียกรถพยาบาลเดี๋ยวนี้” เจียงหย่วนรีบล้วงโทรศัพท์ออกมา เขายังไม่ทันกดหมายเลขโทรออก เจียงไห่ตงก็ส่ายหน้าติดต่อกันแล้วพูดว่า “ไม่มีประโยชน์ ตอนที่รั่วเหยียนออกจากโรงพยาบาลครั้งก่อน หมอเจ้าของไข้บอกแล้วว่าถ้าเกิดอาการขึ้นอีก แม้แต่พวกเขาก็ปัญญาแล้วเหมือนกัน” พูดถึงตรงนี้ เจียงไห่ตงรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาแล้วค้นหาหมายเลขของฮว่าจิ่วหยาง ก่อนจะโทรศัพท์ไปหาทันทีผ่านไปเนิ่นนานถึงค่อยมีเสียงของฮว่าจิ่วหยางดังมาจากปลายสายว่า “ท่านอธิบ
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณฉู่”หลินเยว่หรูขอบคุณเป็นล้นพ้นแล้ววางสายไปแต่หลินเจิ้งไท่ที่อยู่ทางด้านข้างกลับมองไปยังฉู่เฉินด้วยความสงสัยเขาอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นเจ็ด แต่หลินเยว่หรูกลับให้ฉู่เฉินช่วยต่อกรกับยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นเก้าเหรอ?ลูกสาวของเขาคงไม่ได้โดนฉู่เฉินเอาจนโง่งมไปแล้วใช่ไหม?แต่พอขบคิดให้ละเอียด ด้วยสถานะของฉู่เฉินในตอนนี้ ระดับสร้างรากฐานชั้นเก้ายังไม่อยู่ในสายตาเขาจริง ๆ ต่อให้ฉู่เฉินเป็นแค่คนธรรมดา แต่ใครจะกล้าแตะต้องเขาแม้กระทั่งปลายนิ้ว? “หัวหน้าจ้าว เมื่อกี้คุณบอกว่าจะพาผมไปส่งที่เจียงจงเหรอครับ?” ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง จิบชาแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “แน่นอนสิครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณฉู่มาที่เมืองชิงหลง ผมกับผู้เฒ่าหลินจะต้องออกมาต้อนรับสิบลี้ ไปส่งสิบลี้อย่างแน่นอน” จ้าวเต๋อฉวนพรูลมหายใจยาวออกมา ในที่สุดก็จะได้ส่งไอ้ตัวซวยคนนี้ออกไปสักทีเมื่อเห็นฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยลุกขึ้น หลินเจิ้งไท่ก็รีบตามไป คนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าตรงไปทางทางออกฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเจียงจงทันที ......อีกทางด้านหนึ่ง หลินเยว่หรูเพิ่งจะวางโทรศัพท์ลง ลั่วเทียนเต๋อก็ตบโต๊ะด้วย
“คุณฉู่ ตอนนี้ลูกชายของฉันฟื้นแล้ว หมอบอกว่าพักอีกหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ที่ฉันโทรหาคุณครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หลินเยว่หรูลังเลอยู่นาน ก่อนจะกล่าวต่อ “ไม่ทราบว่าช่วงนี้คุณฉู่พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?”“ช่วงนี้... คงไม่มีเวลาไปไปเยี่ยมเยียนเส้นทางที่ร่มรื่นของคุณหรอกครับ”ขณะที่ฉู่เฉินกล่าว ก็หันศีรษะไปมองหลิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆเมื่อเทียบกับหลิงเสวี่ยแล้ว สุดท้ายหลินเยว่หรูก็ยังด้อยกว่าอยู่ระดับหนึ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ในแง่ของความอดทน แม้ว่าหลิงเสวี่ยจะเป็นมือใหม่ แต่ความอดทนของเธอก็ดีกว่าหลินเยว่หรูไม่น้อยหลังจากศึกหนักเมื่อคืนนี้ หลิงเสวี่ยไม่เพียงแต่ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่กลับได้รับการพัฒนาอย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังมีร่างกายพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงฉู่เฉินไม่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินเยว่หรูยังคงมีร่างกายเป็นกระถางรับซึ่งเป็นเพียงการเล่นสนุกเท่านั้นและฉู่เฉินก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆหลินเยว่หรูที่ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “คุณฉู่คะ ฉัน... ฉันมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก