ทุกคนในที่แห่งนี้ต่างก็ตกตะลึงไม่ใช่เพราะว่าฉู่เฉินพูดถูกเรื่องที่เจียงรั่วเหยียนป่วยจนเข้าโรงพยาบาลเมื่อสามวันก่อนแต่เป็นอาการป่วยทางใจของเธอ!เรื่องนั้นผ่านมาห้าปีเต็มแล้ว แม้แต่คนข้างกายก็พูดถึงผู้ชายที่ทำให้เจียงรั่วเหยียนเจ็บปวดใจเจียนตายน้อยมากอันที่จริงตอนนั้นเจียงรั่วเหยียนเหมือนกับเด็กสาวคนอื่น ๆ เคยใฝ่ฝันถึงความรักอันหวานชื่น และเธอได้ตกหลุมรักรุ่นพี่คนหนึ่งในเวลานั้น ทว่าต่อมาเจียงรั่วเหยียนบังเอิญพบว่ารุ่นพี่คนนั้นมีความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทที่สุดของเธอในช่วงมหาวิทยาลัย ถึงขนาดที่พวกเขาสองคนยังฉวยโอกาสตอนที่เจียงรั่วเหยียนกลับบ้านช่วงวันหยุดทำเครื่องนอนของเจียงรั่วเหยียนเปรอะเปื้อนด้วย เจียงรั่วเหยียนที่ล่วงรู้เรื่องทั้งหมดก็ตบหน้าเพื่อนสนิทคนนั้นไปสองฉาดทันที แถมยังเรียกเจียงหย่วนให้มาเล่นงานรุ่นพี่คนนั้นอย่างหนักอย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ครั้งนั้น เจียงรั่วเหยียนก็เกิดความรังเกียจผู้ชายอยู่ในใจ พูดให้ถูกต้องคือเธอไม่ได้เป็นโรคเกลียดผู้ชาย แต่เพราะว่ายังไม่ได้คลี่คลายปมในใจ อุปนิสัยถึงได้เปลี่ยนไปอย่างมาก ถึงขนาดที่เส้นเลือดหัวใจอุดตันเพราะความโกรธแค้นที่
เมื่อเธอเห็นว่าคนที่อยู่ข้างหลังคือฉู่เฉิน ขาสองข้างพลันอ่อนยวบ นัยน์ตาเบิกโตเล็กน้อย เหงื่อเย็น ๆ ไหลซึมออกมาจนหลังเสื้อของเธอเปียกชุ่มทันที “ทำไม ยังไม่ยอมตัดใจอยากหาโอกาสฆ่าฉันอีกเหรอ? ฉู่เฉินหรี่ตาสองข้างเล็กน้อย มองเรือนร่างอ่อนช้อยงดงามของกุหลาบเพลิงอย่างละเอียด สะโพกอวบอิ่มถูกฉู่เฉินจับไว้แน่น“ไม่...คุณฉู่ คุณเข้าใจผิดแล้ว ถึงคุณจะให้ฉันยืมอีกสิบความกล้า ฉันก็ไม่กล้าเด็ดขาด ฉะ...ฉันได้รับคำสั่งให้มาพบลูกค้าคนหนึ่ง ฉันสาบานต่อฟ้าเลย!” กุหลาบเพลิงกลัวแล้วจริง ๆ หลังจากที่เสียท่าให้ฉู่เฉินครั้งก่อน จนถึงตอนนี้เธอยังคงเจ็บเหมือนถูกฉีกทึ้งก็ไม่ปาน“สาบานต่อฟ้า? ฉันไม่เชื่อคำสาบานของเธอหรอก”ฉู่เฉินพูดพลางยื่นมือไปลูบคลำที่เอวของกุหลาบเพลิงแล้วดึงมีดบัตเตอร์ฟลายเล่มนั้นออกมาถือเล่นไว้ในมือทันที“คุณฉู่ งั้นต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อฉันคะ?” กุหลาบเพลิงแทบจะควักหัวใจของตัวเองออกมาให้ฉู่เฉินดู เธออยากพิสูจน์ตัวเองมากจริง ๆ นะ“ถอดออก!” ฉู่เฉินกวาดมองไปบนแผ่นหลังที่ขาวนวลงดงามดั่งหยกของกุหลาบเพลิงด้วยสายตาเย็นชา“หา? มะ...ไม่เอานะ ฉะ...ฉัน...”กุหลาบเพลิงยังไม่ทันพูดจ
พนักงานสาวสวยหลายคนเพิ่งจะมีสีหน้าผ่อนคลายก็สูดลมหายใจเย็นยะเยือกในพริบตา“เข้าไปดู!” พนักงานสาวสวยรุ่นใหญ่เดินเข้าไปใกล้ฉากกั้นห้องลองเสื้อด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะเอาหูแนบกับประตู ฟังเสียงข้างในอย่างระมัดระวังตอนแรกลูกค้าชายหญิงในร้านไม่ได้สนใจความผิดปกติทางฝั่งห้องลองเสื้อเลย แต่เมื่อพนักงานสาวสวยเหล่านี้พากันเข้าไปล้อม หลายคนก็มองไปทางห้องลองเสื้อเช่นกันบรรดาชายวัยกลางคนที่มาซื้อเสื้อผ้าเป็นเพื่อนแฟนหรือภรรยาได้ยินเสียงจากด้านใน พวกเขาก็มองหน้ากันแวบหนึ่งสายตานั้นบ่งบอกทุกสิ่งทุกอย่างแล้วใครแม่งกล้าขนาดนี้ ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากคลิปวิดีโอร้านยูนิโคล่เพิ่งจะผ่านไปได้ไม่นานเท่าไหร่เองนะ?มาอีกแล้วเหรอ?! ลูกค้าชายหลายคนพากันรวมตัวเข้ามาด้วยท่าทีเหมือนศึกษาเรียนรู้ เมื่อเห็นว่าควบคุมสถานการณ์ไม่ได้แล้ว พนักงานสาวสวยอายุค่อนข้างมากก็ตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของปัญหา ก่อนจะรีบเคาะประตูห้องลองเสื้อ “คะ...ใครน่ะ!”เสียงเลือนรางดังออกมาจากในห้องลองเสื้อตามเสียงเคาะประตูอย่างรีบเร่งซี้ด! ชั่วขณะหนึ่ง แม้แต่บรรดาพนักงานสาวสวยก็สัมผัสได้ถึงดวงตาที่เหมือนพยัคฆ์เหมื
“รั่วเหยียน!”เจียงหย่วนที่ได้ยินเสียงผิดปกติหันหน้าไปมอง ก่อนจะเห็นเจียงรั่วเหยียนเอามือสองข้างกุมลำคอเนียนสวย ลมหายใจเปลี่ยนเป็นถี่กระชั้นและยากลำบาก ดวงหน้าเล็กเขียวม่วงจนดำคล้ำแล้ว “แย่แล้ว!”เจียงหย่วนรีบพุ่งปราดเข้าไปหาเจียงรั่วเหยียน แต่วินาทีต่อมา เจียงรั่วเหยียนพลันตาเหลือก หมดสติไปทันที“รั่วเหยียน!” “ลูก!” เจียงไห่ตงรีบวิ่งมาเช่นกัน เขายื่นมือไปสัมผัสลมหายใจทางจมูกของเจียงรั่วเหยียนแล้วอดสูดลมหายใจเย็นยะเยือกไม่ได้ ครั้งนี้อาการป่วยของเจียงรั่วเหยียนรุนแรงกว่าครั้งก่อนมากอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้แม้แต่ลมหายใจทางจมูกก็อ่อนแรงมากแล้ว“ผมจะโทรเรียกรถพยาบาลเดี๋ยวนี้” เจียงหย่วนรีบล้วงโทรศัพท์ออกมา เขายังไม่ทันกดหมายเลขโทรออก เจียงไห่ตงก็ส่ายหน้าติดต่อกันแล้วพูดว่า “ไม่มีประโยชน์ ตอนที่รั่วเหยียนออกจากโรงพยาบาลครั้งก่อน หมอเจ้าของไข้บอกแล้วว่าถ้าเกิดอาการขึ้นอีก แม้แต่พวกเขาก็ปัญญาแล้วเหมือนกัน” พูดถึงตรงนี้ เจียงไห่ตงรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาแล้วค้นหาหมายเลขของฮว่าจิ่วหยาง ก่อนจะโทรศัพท์ไปหาทันทีผ่านไปเนิ่นนานถึงค่อยมีเสียงของฮว่าจิ่วหยางดังมาจากปลายสายว่า “ท่านอธิบ
ให้พยายามสุดความสามารถสักครั้งดูหมายความว่าอย่างไร?เจียงไห่ตงมองไปอย่างที่ฮว่าจิ่วหยาง “ท่านฮว่าแม้แต่ท่านก็ไม่มีความมั่นใจงั้นเหรอครับ?”ฮว่าจิ่วหยางพูดขึ้นมาด้วยเสียงเคร่งขรึม “ประธานเจียง พูดตามความจริง อาการป่วยของคุณหนูแปลกประหลาดเกินไป ผมไม่เคยพบโรคแบบนี้มาก่อนเลย”“หากแค่เธอตื่นขึ้นมา บางทีใครก็ตามที่ฝึกฝนการแพทย์มานานกว่าสิบปีก็สามารถทำได้ แต่ว่าหากต้องการรักษาชีพจรของเธอไว้ แม้แต่ผมก็เกินความสามารถ”อะไรนะ?!เมื่อได้ยินประโยคนั้น เจียงไห่ตงสองคนพ่อลูกต่างตกตะลึงเกินความสามารถงั้นเหรอ?อย่างนั้นก็หมายความว่า แม้แต่ท่านฮว่าก็ช่วยเขาไม่ได้งั้นเหรอ?หรือว่า... หรือว่ารั่วเหยียน...เมื่อนึกถึงตอนนี้ เจียงไห่ตงกลั้นน้ำตาจากการสูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รัก พูดกับฮว่าจิ่วหยางว่า “ท่านฮว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ขอให้คุณพยายามอย่างสุดกำลังนะครับ ชีวิตของลูกสาวคนเล็กผมฝากไว้ในมือท่านฮว่านะครับ”ฮว่าจิ่วหยางพยักหน้าอย่างรุนแรง “โอเค ผมจะพยายามให้ถึงที่สุด ผมจะเขียนใบสั่งยาให้แล้วทำตามที่ผมบอก นำยาไปต้มหลังจากนั้นก็ให้คุณหนูกิน จะเป็นหรือตายก็แล้วแต่โชคชะตาแล้วล่ะ”พูดจบ ฮว่าจิ่วหยางก็ร
อีกอย่างหมอไร้ความสามารถในเจียงจงพวกนั้น ก็ล้วนแต่ถูกเจียงไห่ตงเชิญมาวินิจฉัยดูแล้ว แม้แต่สาเหตุโรคของเจียงรั่วเหยียนก็ไม่สามารถวินิจฉัยออกมาได้ เป็นไปได้อย่างไรที่ใครสักคนจะโดดเด่นถึงขนาดที่ฮว่าจิ่วหยางยังสู้ไม่ได้?“ท่านฮว่าพูดจริงเหรอครับ? ไม่ทราบว่าตอนนี้ท่านผู้คนนั้นตอนนี้อยู่ที่ใดผมจะได้รีบส่งคน... ไม่สิ ผมจะไปหาเขาด้วยตัวผมเอง!”เจียงไห่ตงถามขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง“คนผู้นี้มีชื่อว่าฉู่เฉิน ก่อนหน้านี้ได้มีคลิปที่เขารักษาโรคมะเร็งเผยแพร่ไปทั่วในอินเทอร์เน็ต ตอนนั้นผมก็อยู่ในสถานการณ์จริง เห็นปาฏิหาริย์นี้ด้วยตาของตัวเอง”ฮว่าจิ่วหยางพูดขึ้นมาด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความศรัทธาอะไรนะ?ฉู่เฉินงั้นเหรอ?เมื่อได้ยินชื่อนี้ เจียงไห่ตงก็อดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้แม้ว่าคลิปนั้นเขาจะเคยเห็นมาก่อนแล้ว แต่ว่ามันบ้ามากที่จะรักษามะเร็งเต้านมได้ภายในเวลาเพียงชั่วโมงกว่า ตีเจียงไห่ตงให้ตายเขาก็ไม่เชื่อหรอกอีกทั้งยังมีข่าวลืออีกว่าฉู่เฉินเป็นคนหลอกลวงแต่เจียงหย่วนที่อยู่ข้างๆ กับตัวสั่นไปหมด ถามขึ้นมาอย่างตกใจว่า “ท่านพูดว่าอะไรนะครับ? เขาชื่อฉู่เฉินเหรอครับ?”ฮว่าจิ่วหยางพยักห
อีกด้านหนึ่ง ร้านกาแฟที่ห่างจากบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ไม่กี่สิบเมตรหลิ่วหรูเยียนสวมเสื้อเกาะอกและกระโปรงเอวสูง เธอชมวิวสวยข้างนอกหน้าต่างไปด้วย ดื่มกาแฟไปด้วยดวงตาที่สวยงามคู่หนึ่งจ้องมองไปที่รถตำรวจที่จอดอยู่ไม่ไกลจากบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ เป็นครั้งคราวและแอบเยาะเย้ยอยู่ในใจของเธอขอเพียงแค่ฉู่เฉินกลับมาจากบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ เขาก็จะถูกพาขึ้นรถตำรวจไป ขอเพียงแค่จางปินไม่ปล่อยเขาไป ไม่ว่าฉู่เฉินจะพูดปากเปียกปากแฉะ ก็ยากจะแก้ต่างเมื่อถึงตอนนั้นฉู่เฉินยังจะเข้าร่วมงานการแข่งขันแพทย์แผนจีนอะไรอีกด้วยความโหดเหี้ยมของจางปิน คาดว่าชีวิตที่เหลือของฉู่เฉินคงจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในคุกแล้วล่ะ!ขณะเดียวกันในรถตำรวจ ตำรวจหญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่งสวมเครื่องแบบรัดแน่นบนหน้าอกอันใหญ่โตของเธอ คลายกระดุมเม็ดที่สามที่อยู่ใต้ปกเสื้อ และพัดตัวเองด้วยมุมเสื้อหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็หันศีรษะและมองไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจหญิงอีกคนที่นั่งข้างๆ เธอ ซึ่งมีอายุราวๆ สามสิบปี มีดาวสองดวงอยู่บนไหล่ของเธอ และเธอยังคงมีเสน่ห์เหมือนเดิม “พี่เจวียน คนแซ่ฉู่นั่นหัวนอนปลายเท้าเป็นมาอย่างไรคะ ทำไมต้องให้พี่จับเขาด้วยตัวเองด้ว
“วันนี้อย่าบอกว่าพวกคุณมาเลย แม้ว่าคนของกรมตำรวจมาทั้งหมดก็อย่าได้คิดจะนำตัวนายท่านไป!”ระหว่างที่พูดอินซู่ซู่ก็ยื่นมือไปหยิบกระบี่สั้นออกมา“หืม?”จ้าวเจวียนมองไปที่อินซู่ซู่ด้วยสายตาเย็นชาทีหนึ่ง มองไปที่กระบี่สั้นในมือของเธอ หัวเราะขึ้นมาอย่างจองหอง “คุณกล้าชักกระบี่ออกมาต่อกรกับตำรวจงั้นเหรอ? รู้ไหมว่าโทษของการทำร้ายตำรวจคืออะไร?”เมื่อประโยคนี้ออกไป ฉู่เฉินก็ดึงอินซู่ซู่ไปข้างหลังเขา พูดกับเธอว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ กลับเข้าไปฝึกวิชาซะ”“นายท่าน แต่พวกเธอ...”หึ!โจวน่าส่งเสียงหึออกมา “ฉู่เฉินหากยังกล้าขัดขืนอีก พวกเรามีเหตุผลในการยิงพวกคุณข้อหาขัดขืนการจับกุมนะ!” เมื่อประโยคนี้สิ้นสุดลง โจวน่าก็หยิบปืนพกขึ้นมาทันที นำปากกระบอกปืนสีดำเล็งไปที่ฉู่เฉินฉู่เฉินหัวเราะออกมาอย่างเฉยชา สายตาของเขากวาดมองไปยังยอดหยกคู่ที่เกือบจะโผล่ออกมาของโจวน่า เขาหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “อย่าหุนหันพลันแล่นไปสิครับ แม้ว่าพวกคุณจะมาจับผม อย่างน้อยพวกคุณก็ต้องมีหมายจับมาหรือเปล่าครับ?”“เบิกตาของคุณดู ดูให้ดีๆ !”จ้าวเจวียนดึงหมายจับที่อยู่ตรงหน้าอกของเธอยับยู่ยี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อแจ็ก
เนื่องจากหลินเยว่หรูรุกหนักถึงขนาดนี้แล้ว ฉู่เฉินก็ไม่อาจทำตัวห่างเหินได้ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อการพบกันอีกครั้งในคืนนี้ หลินเยว่หรูทุ่มเทมากมายขนาดนั้น ถ้าไม่สามารถทำตามความต้องการของเธอได้ ก็คงจะทำให้ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วตรงหน้าเสียใจแทบขาดใจหรอกเหรอ?ตอนนี้ ฉู่เฉินถึงเข้าใจแล้วว่าคนในโลกเข้าใจผิดต่อโจโฉมานานนับพันปีในวินาทีต่อมา ฉู่เฉินจึงหยุดดิ้นรนปล่อยให้หลินเยว่หรูขยับฝึกฝนหอยเป๋าฮื้อในแนวนอนแม้ว่าหลินเยว่หรูจะผ่านมามากและมีประสบการณ์มากมาย แต่ด้วยเหตุที่ผู้หญิงไม่เก่งในการต่อสู้ระยะยาว ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็ถูกฉู่เฉินค่อยๆ เข้าควบคุมสถานการณ์เมื่อเห็นหลินเยว่หรูคุกเข่าอยู่บนเตียง ฉู่เฉินก็ยิ้มเยาะในใจและกล่าวว่า “ลั่วเทียนเต๋อ เรื่องนี้โทษผมไม่ได้นะ ภรรยาของคุณเป็นฝ่ายเสนอตัวให้ถึงที่ เมื่อหญิงมีสามีเชื้อเชิญ ถ้าปฏิเสธ แล้วจะยังเป็นผู้ชายอยู่อีกเหรอ?”หลังจากที่ฉู่เฉินใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงในการสั่งสอนอย่างเอาใจใส่ ในที่สุดหลินเยว่หรูก็ตัวอ่อนระทวยลงในอ้อมแขนของฉู่เฉินด้วยความพึงพอใจเมื่อมองไปที่หลินเยว่หรูที่ผมดำขลับยุ่งเหยิงอยู่บนหน้าผาก ทั่วร่างมีเหงื่อโทรมกายและดวงต
“ไม่ใช่เพราะคุณหรอกเหรอ”หลินเยว่หรูมองค้อนฉู่เฉิน ก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วโผเข้าสู่อ้อมกอดของฉู่เฉินและปล่อยโฮออกมาอย่างน่าสงสารการร้องไห้ โวยวาย ประชดประชันเป็นไพ่ตายสามอย่างที่ผู้หญิงมักใช้ เธอแน่ใจว่าวิธีนี้ใช้ได้ผลกับลั่วเทียนเต๋อแล้ว ย่อมต้องได้ผลกับฉู่เฉินด้วยเช่นกัน!แม้จะเป็นชายชู้ ก็ยังถือว่าเป็นสามีไม่ใช่เหรอ?เมื่อกี้หลินเยว่หรูก็ไม่ได้อยู่เฉยๆท้ายที่สุด เรื่องที่ถูกลั่วเทียนเต๋อไล่ออกจากบ้าน ก็ต้องหาวิธีแก้ไขให้ได้ ไม่งั้นพวกเธอสองแม่ลูกคงไม่สามารถพักอยู่ในโรงแรมไปได้ตลอด?ดังนั้นจึงโทรศัพท์หาหลินเทียนหยางพี่ใหญ่ของตนหลังจากโทรศัพท์คุยกัน หลินเยว่หรูถึงได้รู้ว่าฉู่เฉินเก่งกาจขนาดนั้นไม่เพียงแต่ตบหน้าหลินเจิ้งไท่เท่านั้น ยังขูดรีดเงินจำนวนมหาศาลจากสำนักชิงอวิ๋น และแม้แต่ถุงร้อยสมบัติของเจ้าสำนักก็ยังเปลี่ยนเจ้าของอีกด้วยผู้ชายแบบนี้ ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องจับให้อยู่หมัด ไม่สามารถปล่อยให้ฉู่เฉินมาเยี่ยมเยือนซอยร่มรื่นของเธอฟรีๆ ได้ไม่แน่ว่าในอนาคต ด้วยตำแหน่งสูงของฉู่เฉิน ตระกูลฝ่ายแม่ของตนอาจจะก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นก็ได้การร้องไห้ของหลินเยว่หรูในครั้งนี้ ทำให้ฉู่
“คุณแสร้งเป็นไม่รู้เรื่องอะไร เมื่อคืนคุณยังดูฝืนใจอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? เพิ่งผ่านไปแค่หนึ่งวัน เปลี่ยนเยอะเกินไปหน่อยมั้ง”ขณะกล่าว ฉู่เฉินก็ค่อยๆ ผลักหลิงเสวี่ยออกและมองสำรวจเธอด้วยสายตาพิจารณา“ฉันแค่อยากจะยืนยันเรื่องหนึ่ง”หลิงเสวี่ยเม้มริมฝีปากสีแดง แต่มือยังไม่หยุดเคลื่อนไหว ในพริบตาเดียวก็ฉีกกางเกงของฉู่เฉินออกอย่างรวดเร็วคล่องแคล่วถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อวานฉู่เฉินได้ทดลองขับเองแล้ว ส่วนใหญ่คงคิดว่าหลิงเสวี่ยเป็นคนที่ชำนาญไม่รอให้ฉู่เฉินเอ่ยปาก โทรศัพท์มือถือข้างตัวก็ดังขึ้น เมื่อก้มมองลงไปก็เห็นว่าเป็นสายจากหลินเยว่หรู ฉู่เฉินดึงกางเกงที่ถูกหลิงเสวี่ยฉีกออก ก่อนเดินไปยังอีกด้านหนึ่งแล้วรับโทรศัพท์“คุณฉู่ ฉันอยู่ห้องข้างๆ ห้องคุณนี่เอง เดี๋ยวฉันส่งหมายเลขห้องให้คุณนะคะ”ทันทีที่รับสายก็ได้ยินเสียงหอบหายใจเย้ายวนของหลินเยว่หรูดังมาจากอีกฝั่งซี้ด!ฉู่เฉินสามารถสัมผัสถึงไฟปรารถนาของหลินเยว่หรูผ่านทางสายโทรศัพท์ได้ติ๊ง!วินาทีต่อมา โทรศัพท์มือถือของฉู่เฉินก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น เป็นข้อความจากหลินเยว่หรูที่มีแค่หมายเลขห้องง่ายๆ หมายเลขเดียวฉู่เฉินเก็บโทรศัพท์ ดึงกางเกง
อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ลั่วหัวเอ๋อร์อาบน้ำอุ่นแล้ว นุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวและนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงครู่หนึ่ง ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าการขอความช่วยเหลือจากฉู่เฉินดูจะไม่ค่อยน่าเชื่อถือนักจึงหยิบโทรศัพท์โทรหาคุณตาหลินเจิ้งไท่ทันทีอย่ามองว่าโลกแห่งการหยั่งรู้จะเป็นโลกนอกอาณาเขต แต่สัญญาณโทรศัพท์ก็ยังเชื่อมต่อกันได้อย่างรวดเร็ว จากนั้น ปลายสายก็มีเสียงหนักแน่นของหลินเจิ้งไท่ดังขึ้น “หัวเอ๋อร์ใช่ไหม?”“คุณตา หนูเองค่ะ”ลั่วหัวเอ๋อร์ตอบรับ แล้วจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับตระกูลลั่วให้หลินเจิ้งไท่ฟังอย่างละเอียดสุดท้ายเธอก็กล่าวกับหลินเจิ้งไท่ว่า “คุณตาคะ หนูเป็นห่วงว่าคนแซ่ฉู่ที่แม่เรียกมาอาจจะแก้ปัญหาของตระกูลลั่วไม่ได้ ถึงแม้ว่าตอนนี้หนูกับแม่จะหนีออกมาแล้ว แต่น้องชายของหนูก็ยังพักรักษาตัวอยู่ในบ้านค่ะ”“อีกอย่าง ก็ไม่สามารถปล่อยให้พ่อของหนูเป็นอะไรไปได้ ไม่งั้นคุณตาก็มาที่นี่ด้วยตัวเองได้ไหมคะ?”หลินเจิ้งไท่อีกฝั่งเงียบไปนาน จากนั้นจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่นว่า “หัวเอ๋อร์ หลานคิดมากไปแล้ว มีคุณฉู่อยู่ เขาเก่งกว่าตาของหลานมากนัก แต่...”หลินเจิ้งไท่เล็กน้อย ก่อนจะกล่
เพียะ!เสียงดังสนั่นดังขึ้นอีกครั้ง ตู้หรงเฉิงถูกฉู่เฉินตบจนล้มคว่ำลงกับพื้น หน้าผากกระแทกพื้นอย่างแรงจนหัวโนห้อเลือดขนาดเท่าลูกซาลาเปาทันที!ใบหน้าที่หล่อเหลาแต่เดิมนั้น ขณะนี้ดูเหมือนเทพเจ้าแห่งอายุวัฒนะในภาพวาด“แม่งเอ๊ย คนชั้นต่ำอย่างแกร่วมมือกับเขาใช่ไหม! ยังไม่ไสหัวไปอีก!”ตู้หรงเฉิงกุมศีรษะตรงที่ปูดโนขึ้นมา กัดฟันจ้องมองผู้หญิงเจ้ามารยา และพยายามลุกขึ้นจากพื้นอย่างยากลำบากเขาเป็นถึงคุณชายใหญ่แห่งตระกูลตู้ กลับถูกทำให้เสียหน้า ความแค้นนี้ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องชำระ!เพียงข้างกายเขาไม่มียอดฝีมืออยู่ จึงทำอะไรฉู่เฉินไม่ได้เลยดังคำกล่าวที่ว่าคนฉลาดจะไม่ดันทุรังในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ ตู้หรงเฉิงจึงตัดสินใจและคุกเข่าลงต่อหน้าฉู่เฉินเสียงดังตุบ“ท่านผู้อาวุโส เป็นความผิดของผมที่ตาไร้แววมารบกวนการพักผ่อนของท่านผู้อาวุโส หวังว่าท่านผู้อาวุโสจะจะไม่ถือโทษ และโปรดยกโทษให้ผมสักครั้งด้วยเถอะครับ”ตู้หรงเฉิงสมแล้วที่เป็นทายาทของตระกูลผู้บำเพ็ญพรต เข้าใจความหมายของคำสี่คำอย่างประนีประนอมอย่างถ่องแท้ ก่อนจะก้มศีรษะโขกพื้นเสียงดังปั่กๆ ๆโดยไม่พูดอะไรอีกเมื่อเห็นฉากนี้ กลุ่มชายหนุ่ม
ปัง!สิ้นเสียงของตู้หรงเฉิง ฉู่เฉินก็ลุกขึ้นทันที จิกผมเขาและกระแทกกับโต๊ะน้ำชาอย่างแรง!เมื่อเกิดเสียงดังปังขึ้น โต๊ะน้ำชากระจกในโซนพักผ่อนก็ถูกตู้หรงเฉิงกระแทกจนแตกละเอียด“ตระกูลตู้เก่งมากเลยงั้นเหรอ? ใครให้คุณกล้าเข้ามาถึงก็โวยวายเสียงดัง?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินก็จิกผมของตู้หรงเฉิงแล้วดึงเขาขึ้นมาจากพื้น ในขณะนี้ ใบหน้าหล่อเหลาของตู้หรงเฉิงเต็มไปด้วยเศษแก้วและคราบเลือดเขาตกตะลึงไปทั้งคน ไม่ว่าจะมองยังไง ฉู่เฉินก็ไม่ดูเหมือนคนที่จะใช้กำลังเมื่อมีเรื่องขัดแย้งยิ่งกว่านั้น เมื่อกี้เขาได้แสดงตัวแล้วว่าเขาคือคุณชายของตระกูลตู้ฉู่เฉินกล้าลงมือกับเขาได้ยังไง?“แค่ตระกูลผู้บำเพ็ญพรตเล็กๆ ก็คิดว่าตัวเองไร้เทียมทานแล้วงั้นเหรอ? ยังกล้าเข้ามายุ่งกับชู้รักของผมอีก คุณรู้สึกว่าชีวิตยาวนานไปหรือว่าอยากตายตั้งแต่ยังหนุ่ม? ”ทันทีที่คำเหล่านี้กล่าวออกมา สีหน้าของหลิงเสวี่ยก็ดูน่าเกลียดขึ้นมาทันทีเธอได้กลายเป็นชู้รักของฉู่เฉินได้ยังไง?เมื่อคืนเธอโดนบังคับไม่ใช่เหรอ?“แก…แกกล้า…”พลั่ก!ไม่รอให้ตู้หรงเฉิงกล่าวจบ ฉู่เฉินก็ได้จิกผมของเขาแล้วตีเข่าใส่ร่างของตู้หรงเฉิงหงายหลังอย่างแรง ถู
ชายหนุ่มหญิงสาวเหล่านี้แต่ละคนล้วนมีกลิ่นอายของผู้บำเพ็ญเพียร ต่อให้เป็นคนที่มีพลังฝึกปรืออ่อนด้อยที่สุดก็มีพลังฝึกปรือราว ๆ ระดับหลอมปราณชั้นแปดต่อให้เป็นปรมาจารย์ที่สามารถสั่นคลอนทั้งเมือง เมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเขาก็ไม่มีค่าพอให้เอ่ยถึงเลย และตู้หรงเฉิงก็เป็นตัวตนที่อยู่จุดสูงสุดในกลุ่มพวกเขา ด่าตู้หรงเฉิงก็เท่ากับด่าพวกเขาทุกคน!สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขาดูไม่ออกจริง ๆ ว่าฉู่เฉินมีอะไรโดดเด่นเหนือคนอื่น ราวกับว่าไม่มีแม้กระทั่งคลื่นพลังลมปราณเลยสักนิดดัยว คนธรรมดาคนหนึ่งถึงกับกล้าสบประมาทผู้บำเพ็ญเพียรเนี่ยนะ? “ไอ้หนู คุณบ้าดีเดือดมากเลยนะ”ตู้หรงเฉิงหรี่ตา ลมปราณระดับสร้างรากฐานชั้นหนึ่งรอบกายพลันระเบิดออกมา พรืด!หลิงเสวี่ยที่นั่งอยู่ข้างฉู่เฉินเห็นแบบนั้นก็แทบจะหลุดหัวเราะออกมาทันทีระดับสร้างฐานชั้นหนึ่งก็ไม่เลวจริง ๆ แต่นั่นต้องดูด้วยว่าเทียบกับใคร อย่าว่าแต่ฉู่เฉินเลย แค่เธอก็สามารถตบตู้หรงเฉิงให้ตายได้ในฝ่ามือเดียว! เพียงแต่ว่า ตอนที่ออกจากโลกแห่งการหยั่งรู้ ฉู่เฉินใช้ยันต์ซ่อนวิญญาณเก็บซ่อนลมปราณของพวกเธอสองคนไว้ ดังนั้นดูแล้วถึงไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดาต้องพูดว
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา หลินซานก็อึ้งไปด้านหนึ่งคือหลินเยว่หรูกับลั่วหัวเอ๋อร์เข้าพักแล้ว อีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉินก็เป็นแขกผู้มีเกียรติที่หลินเยว่หรูเชิญมาจะปล่อยให้ฉู่เฉินถูกเมินตรงนี้ไม่ได้หรอกใช่ไหม?แต่ตู้หรงเฉิงคนนี้ หลินซานเองก็ล่วงเกินไม่ไหวเช่นกันต่อให้เป็นตระกูลหลินก็ต้องไว้หน้าตระกูลตู้เล็กน้อย ถึงอย่างไรคนหนุนหลังของตระกูลตู้ก็แข็งแกร่งไม่ธรรมดาพอเห็นหลินซานอึ้งอยู่กับที่ ตู้หรงเฉิงก็เอ่ยด้วยสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยว่า “ว่ายังไง ลูกน้องตระกูลหลินอย่างคุณกล้าไม่ไว้หน้าผมด้วยเหรอ?” เมื่อคำพูดนี้ออกมา กลุ่มชายหนุ่มหญิงสาวที่อยู่รอบ ๆ ก็พากันมองไปทางหลินซานด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ในขณะเดียวกัน ชายร่างกำยำที่แต่งกายทะ มัดทะแมงไว้ผมเกรียนคนหนึ่งก็มองหลินซานอย่างพิจารณาด้วยสายตาเย็นชาหลังจากสิ้นเสียงของตู้หรงเฉิง“คุณชายตู้เข้าใจผิดแล้วครับ ผะ...ผมแค่...”ในตอนนี้เอง ชายร่างท้วมวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินลงมาจากชั้นสอง ก่อนจะเอ่ยตัดบทหลินซานว่า “ท่านทั้งหลาย เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอครับ?”ตู้หรงเฉิงหันหน้าไปมองชายวัยกลางคนแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าเย่อหยิ่งเล็กน้อยว่า “คุณเป็นเจ้าของ
หลินเยว่หรูพูดจบก็รูดคีย์การ์ดห้องทันที ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทลั่วหัวเอ๋อร์อึ้งไปพักหนึ่ง จากนั้นถึงค่อยเข้าใจจุดประสงค์ของหลินเยว่หรูว่าต้องการโยนเคราะห์ให้คนอื่น ลั่วหัวเอ๋อร์พยักหน้าเล็กน้อยแล้วค่อยเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง .....อีกทางด้านหนึ่ง เมื่อหลินซานมาถึงเจียงจง ฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยก็เดินออกมาจากทางออกของเมืองชิงหลงที่อยู่ในเจียงจงพอดี เมื่อเห็นฉู่เฉิน หลินซานก็รีบเข้าไปต้อนรับแล้วเอ่ยด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มว่า “คุณฉู่ ผมได้รับคำสั่งจากคุณนายให้มารับคุณครับ” ฉู่เฉินมองหลินซานแวบหนึ่งแล้วขมวดคิ้วกล่าวว่า “คุณนาย? คุณนายไหน?”“คุณนายของบ้านชื่อหลินเยว่หรูครับ!”หลินซานรีบแนะนำตัวเองฉู่เฉินถึงค่อยพยักหน้า แล้วจูงมือหลิงเสวี่ยเดินไปยังรถเอสยูวีที่จอดอยู่ทางด้านข้าง“ไปกันเถอะ”ฉู่เฉินจูงหลิงเสวี่ยมานั่งที่เบาะหลัง แล้วออกคำสั่งอย่างเฉยชา หลินซานสตาร์ตรถทันที ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังโรงแรมในชานเมืองปินเฉิน หลายชั่วโมงต่อมา รถก็จอดอยู่ที่หน้าประตูโรงแรม“คุณฉู่ครับ เนื่องจากโรงแรมนี้อยู่ใกล้กับตระกูลลั่วมากที่สุด ดังนั้นเลยจัดเตรียมห้องเพ