ฉู่เฉินยิ้มเย็น ก่อนจะหันไปพูดกับหลิ่วชิงเหอว่า “เมื่อกี้หลิ่วชิงเหอบอกชัดแล้วนี่ ถ้าจะแก้พิษให้เธอ จำเป็นต้องทำลายความบริสุทธิ์ของเธอซะ”“ถ้าไม่อยากตายก็ว่าง่ายหน่อย ความอดทนของฉันมีขีดจำกัดนะ”ได้ยินอย่างนั้น หลิ่วหรูเยียนถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้หลิ่วชิงเหอพูดเองกับปาก ถ้าจะแก้พิษให้เธอ ก็จำเป็นต้องทำลายความบริสุทธิ์ของเธอ!แต่เธอรับไม่ได้ที่ร่างกายของเธอจะต้องแปดเปื้อนเพราะฉู่เฉิน!“ไม่… ถึงตายฉันก็จะไม่ให้แกแตะต้องตัวฉัน!”หลิ่วหรูเยียนปกป้องหน้าอกอันขาวอิ่มของตัวเองสุดกำลัง เธอส่ายหน้า และตวาดเสียงดังหลิ่วชิงเหอเห็นอย่างนั้นก็หันไปมองฉู่เฉิน “ไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอ?”ฉู่เฉินแหงนหน้าหัวเราะ “อยากแก้พิษก็มีแค่วิธีนี้วิธีเดียว อีกอย่าง ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวก็จะแก้พิษได้หมด ใครให้พวกเธอสองแม่ลูกโลภมากขนาดนี้ แช่น้ำยาสามปี ย่อมมีราคาที่ต้องจ่ายอยู่แล้ว”“แกว่าไงนะ?”หลิ่วชิงเหอกับหลิ่วหรูเยียนอึ้งค้าง ไม่ได้แก้พิษได้ภายในครั้งเดียว?นี่หรือต้องโดนฉู่เฉินย่ำยีอีกหลายครั้ง?หลิ่วหรูเยียนสีหน้าย่ำแย่สุดขีดฉู่เฉินในสายตาของเธอเป็นแค่คนพิการคนหนึ่ง คนที่ไม่ใช่แม้กระทั่งผู้ชา
เธอต้องสมบูรณ์แบบไร้ที่ติเท่านั้น ถึงจะคู่ควรกับผู้ชายที่ยอดเยี่ยมอย่างราชันมังกรแต่ตอนนี้ เธอกลับต้องถูกไอ้พิการฉู่เฉินทำให้แปดเปื้อน!ไม่ว่าอย่างไร เธอก็รับไม่ได้ที่จะต้องเดินเข้าพิธีแต่งงานกับราชันมังกรด้วยร่างกายที่ไม่บริสุทธิ์เห็นอย่างนั้นก็เถอะ ถึงแม้ปกติหลิ่วหรูเยียนจะแต่งตัวเปิดเผย หรือถึงขั้นเรียกได้ว่าเซ็กซี่เกินต้าน แต่ลึกๆ ข้างในแล้วเธอเป็นคนรักนวลสงวนตัวมากแต่ก่อนที่เธอยอมให้ฉู่เฉินดูเธออาบน้ำ กระทั่งยังเหยียดหยามฉู่เฉินเหมือนไม่ใช่ผู้ชาย นั่นเป็นเพราะฉู่เฉินได้สูญเสียสมรรถภาพพื้นฐานของเพศชายไปแล้วอีกอย่าง ขอแค่ค้นพบตัวยาใหม่ได้สำเร็จ ฉู่เฉินก็ไร้ประโยชน์ พวกเธอจะฆ่ามันเมื่อไรก็ได้ถ้าเป็นแบบนั้น แทบไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่มันจะย่ำยีความบริสุทธิ์ของเธอเลยด้วยซ้ำแต่ตอนนี้ ไม่ว่าเธอจะยินยอมหรือไม่ เธอก็ได้หักหลังราชันมังกรไปแล้วแค่นึกถึงเรื่องพวกนี้ หัวใจของหลิ่วหรูเยียนก็แทบจะสลายแล้ว“หรูเยียน ยัยเด็กโง่ ขอแค่ลูกไม่พูด ราชันมังกรจะรู้ได้ยังไงว่าลูกเคยมีอะไรกับคนอื่นแล้ว? อีกอย่าง นี่ก็ยุคสมัยไหนแล้ว ใครยังจะมาใส่ใจเรื่องความบริสุทธิ์อะไรนี่อีก!”“ขอแค่เขารักล
ป้าอู๋เชิญหลี่ฮุยเข้ามาในห้องรับแขกที่จริงเธอไม่มีทางเลือกอื่น เพราะหลี่ฮุยให้ของมามากเกินไป!ยังไม่ต้องพูดถึงยาบำรุงปราณสองเม็ดนั้นที่มีราคาสูงถึงสิบล้าน แค่โสมสองต้นนั้นก็มีราคาสูงเท่าเมืองเมืองหนึ่งแล้วอย่างไรเสียตระกูลหลี่ก็เป็นบริษัทการเงินที่มีชื่อเสียงในเมืองเจียงจง ไม่มีทางใช้ของคุณภาพไม่ดีมาสวมรอยอย่างแน่นอนถ้าหากไล่เขาไปจริงๆ เธอจะอธิบายกับหลิ่วชิงเหออย่างไรหลี่ฮุยขมวดคิ้ว เดิมทีเขาตั้งใจจะมาส่งของแล้วกลับเลยแต่ถ้าไม่ได้เจอแม้แต่หน้าของหลิ่วหรูเยียน เขาก็มาเสียเที่ยวน่ะสิ?ลังเลอยู่นาน สุดท้ายก็เดินเข้าไปในห้องรับแขกตามที่ป้าอู๋บอกนี่เป็นของขวัญราคาสามสิบล้านเชียวนะ ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องมอบให้หลิ่วหรูเยียนด้วยมือของตัวเองหลี่ฮุยสาวเท้าเข้าไปในห้องรับแขก หลังจากนั่งลงบนโซฟา เขาก็ถามอย่างสงสัยว่า “ตอนนี้หรูเยียนเป็นยังไงบ้างครับ? ผมได้ยินว่าแม้แต่หมอเทวดาซุนก็ยังรักษาไม่ได้ คงไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากหรอกใช่ไหมครับ?”นี่เป็นเรื่องที่หลี่ฮุยกังวลมากที่สุด ยังไงเขาก็ไม่ควรมอบของขวัญราคาแพงอย่างนี้ให้คนตายไม่ใช่เหรอ?ถ้าหากอาการป่วยของหลิ่วหรูเยียนถึงขั้นที่ไม่อาจควบคุ
มิหนำซ้ำ ภาพนี้กลับคล้ายภาพที่เธอฝันถึงหลายต่อหลายครั้งเพียงแต่ตัวเอกฝ่ายชาย กลับเปลี่ยนเป็นฉู่เฉินแทนราชันมังกรผู้หล่อเหลาภายใต้แสงสว่าง ดวงหน้าเรียวชมพูของหลิ่วหรูเยียนเริ่มแดงเรื่อเวลานี้ หลิ่วหรูเยียนราวกับได้กลายร่างเป็นกระต่ายสาวทรงเสน่ห์เธอปลดปล่อยตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ชั้นล่าง หลี่ฮุยเริ่มนั่งไม่ติดแล้วนี่มันวิธีรักษาบ้าอะไรเนี่ย?หลิ่วหรูเยียนแทบจะกลายเป็นนักร้องอยู่แล้วหลี่ฮุยกัดฟันชี้ไปบนชั้นสอง พูดกับป้าอู๋ว่า “ป้าอู๋ เกิดอะไรขึ้นกันแน่!”“ไหนว่าหรูเยียนป่วยหนักใกล้ตายแล้ว?”เวลานี้ หลี่ฮุยโมโหจนแทบหมดสติแล้วเขาตามจีบหลิ่วหรูเยียนอย่างยากลำบากมาเกือบปี จนวันนี้ก็ยังไม่เคยได้แม้แต่จับมือแต่ตอนนี้หลิ่วหรูเยียนกลับทำตัวเป็นนักร้องหญิงเสียงสูงอยู่กับคนอื่นต่อหน้าเขา?!อย่าว่าแต่เขาหลี่ฮุยที่เป็นถึงนายน้อยของตระกูลหลี่เลย แม้ผู้ชายธรรมดาคนอื่นก็ทนไม่ได้เหมือนกัน!นี่มันเหมือนเหยียบย่ำศักดิ์ศรีเขาอย่างไม่มีชิ้นดีชัดๆ!“คือ… คุณชายหลี่ คุณ… คุณน่าจะเข้าใจอะไรผิดไปนะคะ คุณหนูถูกพิษ แม้แต่หมอเทวดาซุนยังรักษาไม่ได้ ฉันคิดว่าหมอเทวดาท่านนี้ต้องใช้วิธีที่พิเศษบ
ป้าอู๋ยืนอึ้งอยู่ที่เดิมไปชั่วขณะไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่คาดคิดว่าฉู่เฉินที่กระโดดออกทางหน้าต่างมาโดยตลอด วันนี้กลับเข้าตามตรอกออกตามประตู?สิ่งที่ทำให้เธอนึกไม่ถึงยิ่งกว่าก็คือ ฉู่เฉินกลับกล้าทำร้ายคุณชายตระกูลหลี่ตระกูลหลี่เป็นตระกูลที่มีอิทธิพลมากตระกูลหนึ่งในเมืองเจียงจง โดยเฉพาะธุรกิจการเงินของตระกูลหลี่ ยิ่งมีเส้นสายกว้างขวางในเมืองเจียงจงฉู่เฉินทำร้ายหลี่ฮุย ก็เท่ากับทำลายท้องฟ้าของเมืองเจียงจง!“คุณ… คุณฉู่ คุณชายหลี่คนนี้ เป็น… เป็นเพื่อนของคุณหนู พอรู้ว่าคุณหนูป่วย ก็เลยตั้งใจมาเยี่ยมคุณหนู”ป้าอู๋อธิบายด้วยริมฝีปากที่สั่นเทาฉู่เฉินได้ยินก็ตวัดสายตามองหลี่ฮุย ก่อนจะแค่นเสียง และหันหน้าเดินจากไปหลี่ฮุยกุมหน้าซีกที่ถูกตบจนชา ก่อนจะตะเกียกตะกายลุกขึ้นมา ชี้หลังของฉู่เฉิน “ไอ้แซ่ฉู่ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าแกเป็นใครนะ!”“ถึงแกจะมียาบำรุงปราณแล้วไงวะ? กล้าทำร้ายฉัน? ตระกูลหลี่ของฉันจะบดแกให้แหลกละเอียดด้วยนิ้วเดียวเมื่อไรก็ได้!”ครั้งนี้ หลี่ฮุยบันดาลโทสะแล้วจริงๆ!ไม่ใช่แค่นางฟ้าที่เขาตามจีบมาหนึ่งปีถูกฉู่เฉินแย่งกินไปก่อน แต่มันยังกล้าตบเขาฉาดใหญ่อีก!เหมือนฆ่าเขาอย่
“ไอ้แซ่ฉู่ แกคงไม่รู้สินะว่าตระกูลหลี่ของฉันทำอะไร การเงินโว้ย! แกได้ยินหรือยัง?”ฉู่เฉินยิ้มเย็น “ก็แค่บริษัทที่ดอกเบี้ยแพง ไม่เห็นมีอะไร ถึงแกจะพูดให้ดูดีแค่ไหน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพื้นเพของตระกูลหลี่ได้”พูดจบ ฉู่เฉินก็เดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองหลี่ฮุยจ้องแผ่นหลังของฉู่เฉินเขม็ง กำหมัดแน่น ก่อนจะกัดฟันพูดว่า “ไอ้แซ่ฉู่ วันนี้ฉันแค่ประมาท ถึงได้พลาดท่าให้แกแบบนี้ แต่แกรอก่อนเถอะ!”หลี่ฮุยคำรามอย่างเดือดดาล ก่อนจะหันไปมองป้าอู๋ กัดฟันพูดว่า “บอกนังแพศยาหลิ่วหรูเยียนด้วยนะ ถ้าไม่อยากโดนตระกูลหลี่ของพวกฉันหมายหัว ก็ให้ล้างก้นล้างตัวให้สะอาด แล้วปีนขึ้นมาบนเตียงฉันด้วยตัวเองซะ!”“ไม่อย่างนั้น ตระกูลหลิ่วของพวกแกก็จงรอโดนตระกูลหลี่แบนเรื่องการเงินได้เลย!”หลังจากพูดทิ้งท้ายไว้อย่างเจ็บแค้น หลี่ฮุยก็กลับไปอย่างฮึดฮัดกระทั่งเงาร่างของหลี่ฮุยกับฉู่เฉินหายลับไปจากประตู ป้าอู๋จึงได้สติ แล้ววิ่งขึ้นไปบนชั้นสอง พลางตะโกนว่า “คุณผู้หญิง! คุณหนู! เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ!”……ในอีกด้านหนึ่ง โจวเทียนเฟิ่งที่วางโทรศัพท์ลงอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะได้สติ จากนั้นก็รีบลุกขึ้นหยิบเสื้อคลุมมาปกปิด
จางหลิงโดนหลี่เจี้ยนเย่ตะคอกใส่ พลันหายง่วงในพริบตา เธอถลึงตาใส่หลี่เจี้ยนเย่ ก่อนจะสะบัดเสียงบอกว่า “เหอะ! ไปก็ไปสิ! คนแซ่หลี่ อย่าเสียใจทีหลังก็แล้วกัน!”พูดจบ จางหลิงก็พลิกตัวลุกขึ้นนั่งในสภาพเปลือยเปล่า หยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาใส่ แล้วก็วิ่งออกไปตอนแรกเธอเป็นแฟนของหลี่ฮุย แต่ต่อมาไม่รู้ไปทำท่าไหน จางหลิงฉวยโอกาสตอนที่หลี่ฮุยไม่อยู่บ้าน ปีนขึ้นเตียงของหลี่เจี้ยนเย่ จากนั้นก็ไม่นาน เธอก็กลายเป็นแม่เลี้ยงของหลี่ฮุยหลี่เจี้ยนเย่เห็นจางหลิงหยิบกระโปรงเกาะอกขาสั้นมาใส่แล้วทำท่าจะไป ก็ร้อนใจกระโดดลงมาจากเตียงแต่เขายังไม่ทันไปรั้งจางหลิง ก็ถูกคำพูดประโยคถัดไปของเลขาทำให้ตะลึงค้างอยู่กับที่ไปทันที“ประธานหลี่ เรื่องนี้สำนักเฟิ่งน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องครับ ไม่ใช่แค่บริษัทพวกนี้ที่จะตัดขาดกับเรา สำนักเฟิ่งยังประกาศอีกว่า ใครที่ยืนอยู่ข้างตระกูลหลี่ของเรา ก็เท่ากับมีความแค้นกับสำนักเฟิ่ง!”อะไรนะ?หลี่เจี้ยนเย่งงไปหมดแล้ว!นั่งอยู่ในบ้านดีๆ ความซวยก็หล่นใส่หัว!“รีบส่งคนไปสืบเดี๋ยวนี้ นังโจวเทียนเฟิ่งนั่นทำไมจู่ๆ ถึงได้หมายหัวตระกูลหลี่เรา!”หลี่เจี้ยนเย่เริ่มลนลานขึ้นมาแล้วตระกูลหลี
กระสุนทะลวงเข้าไปในท้ายทอยของเขา และยังทะลุผ่านร่างภรรยาของเขาที่นอนอยู่ข้างๆ ในนัดเดียวด้วย!กระทั่งตายไป พวกเขายังไม่อยากเชื่อว่าจะตัวเองจะตายด้วยน้ำมือของนักฆ่าที่พวกเขาจ้างไปฆ่าฉู่เฉิน!หลังจากนั้น ประกายไฟแลบแปลบปลาบหลายสายก็พวยพุ่งพาดผ่าน คฤหาสน์ตระกูลจ้าวจมสู่ความเงียบกริบในพริบตา!หลังจากมั่นใจว่าทุกคนถูกฆ่าแล้ว นางเงือกจึงเก็บปืนไรเฟิล ก่อนจะลักลอบเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลจ้าวอย่างเงียบเชียบหลังจากยิงซ้ำแต่ละคนอีกนัด จึงค่อยจากไปอย่างเงียบเชียบ!เช้าตรู่ของวันนั้น ฉู่เฉินกำลังหลับสนิท แต่จู่ๆ เสียงฝีเท้าที่เบามากเสียงหนึ่งก็ดังมาจากลานบ้านฉู่เฉินลืมตาโพลง ปล่อยดวงจิตออกไปในระยะสิบเมตรทันทีในขณะที่ฉู่เฉินเพิ่งจะสัมผัสได้ถึงเงาร่างนั้น เรือนร่างอรชรที่สวมชุดเดินทางยามกลางคืนก็พุ่งเข้ามาในอ้อมกอดของฉู่เฉิน“ฉันเอง”นางเงือกเอ่ย ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดรูปคฤหาสน์ตระกูลจ้าว ยื่นให้ฉู่เฉินดู “ตระกูลจ้าวตายหมดแล้ว”ฉู่เฉินจ้องรูปหนึ่งในนั้นอย่างประหลาดใจ ก่อนถามนางเงือกว่า “คนคนนี้น่าจะเป็นลูกพี่ของจ้าวคังสินะ จากที่ฉันรู้มา เขาเป็นปรมาจารย์ยุทธ์ คุณที่มีแค่กำลังภายในระด
ชายหนุ่มหญิงสาวเหล่านี้แต่ละคนล้วนมีกลิ่นอายของผู้บำเพ็ญเพียร ต่อให้เป็นคนที่มีพลังฝึกปรืออ่อนด้อยที่สุดก็มีพลังฝึกปรือราว ๆ ระดับหลอมปราณชั้นแปดต่อให้เป็นปรมาจารย์ที่สามารถสั่นคลอนทั้งเมือง เมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเขาก็ไม่มีค่าพอให้เอ่ยถึงเลย และตู้หรงเฉิงก็เป็นตัวตนที่อยู่จุดสูงสุดในกลุ่มพวกเขา ด่าตู้หรงเฉิงก็เท่ากับด่าพวกเขาทุกคน!สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขาดูไม่ออกจริง ๆ ว่าฉู่เฉินมีอะไรโดดเด่นเหนือคนอื่น ราวกับว่าไม่มีแม้กระทั่งคลื่นพลังลมปราณเลยสักนิดดัยว คนธรรมดาคนหนึ่งถึงกับกล้าสบประมาทผู้บำเพ็ญเพียรเนี่ยนะ? “ไอ้หนู คุณบ้าดีเดือดมากเลยนะ”ตู้หรงเฉิงหรี่ตา ลมปราณระดับสร้างรากฐานชั้นหนึ่งรอบกายพลันระเบิดออกมา พรืด!หลิงเสวี่ยที่นั่งอยู่ข้างฉู่เฉินเห็นแบบนั้นก็แทบจะหลุดหัวเราะออกมาทันทีระดับสร้างฐานชั้นหนึ่งก็ไม่เลวจริง ๆ แต่นั่นต้องดูด้วยว่าเทียบกับใคร อย่าว่าแต่ฉู่เฉินเลย แค่เธอก็สามารถตบตู้หรงเฉิงให้ตายได้ในฝ่ามือเดียว! เพียงแต่ว่า ตอนที่ออกจากโลกแห่งการหยั่งรู้ ฉู่เฉินใช้ยันต์ซ่อนวิญญาณเก็บซ่อนลมปราณของพวกเธอสองคนไว้ ดังนั้นดูแล้วถึงไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดาต้องพูดว
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา หลินซานก็อึ้งไปด้านหนึ่งคือหลินเยว่หรูกับลั่วหัวเอ๋อร์เข้าพักแล้ว อีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉินก็เป็นแขกผู้มีเกียรติที่หลินเยว่หรูเชิญมาจะปล่อยให้ฉู่เฉินถูกเมินตรงนี้ไม่ได้หรอกใช่ไหม?แต่ตู้หรงเฉิงคนนี้ หลินซานเองก็ล่วงเกินไม่ไหวเช่นกันต่อให้เป็นตระกูลหลินก็ต้องไว้หน้าตระกูลตู้เล็กน้อย ถึงอย่างไรคนหนุนหลังของตระกูลตู้ก็แข็งแกร่งไม่ธรรมดาพอเห็นหลินซานอึ้งอยู่กับที่ ตู้หรงเฉิงก็เอ่ยด้วยสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยว่า “ว่ายังไง ลูกน้องตระกูลหลินอย่างคุณกล้าไม่ไว้หน้าผมด้วยเหรอ?” เมื่อคำพูดนี้ออกมา กลุ่มชายหนุ่มหญิงสาวที่อยู่รอบ ๆ ก็พากันมองไปทางหลินซานด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ในขณะเดียวกัน ชายร่างกำยำที่แต่งกายทะ มัดทะแมงไว้ผมเกรียนคนหนึ่งก็มองหลินซานอย่างพิจารณาด้วยสายตาเย็นชาหลังจากสิ้นเสียงของตู้หรงเฉิง“คุณชายตู้เข้าใจผิดแล้วครับ ผะ...ผมแค่...”ในตอนนี้เอง ชายร่างท้วมวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินลงมาจากชั้นสอง ก่อนจะเอ่ยตัดบทหลินซานว่า “ท่านทั้งหลาย เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอครับ?”ตู้หรงเฉิงหันหน้าไปมองชายวัยกลางคนแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าเย่อหยิ่งเล็กน้อยว่า “คุณเป็นเจ้าของ
หลินเยว่หรูพูดจบก็รูดคีย์การ์ดห้องทันที ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทลั่วหัวเอ๋อร์อึ้งไปพักหนึ่ง จากนั้นถึงค่อยเข้าใจจุดประสงค์ของหลินเยว่หรูว่าต้องการโยนเคราะห์ให้คนอื่น ลั่วหัวเอ๋อร์พยักหน้าเล็กน้อยแล้วค่อยเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง .....อีกทางด้านหนึ่ง เมื่อหลินซานมาถึงเจียงจง ฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยก็เดินออกมาจากทางออกของเมืองชิงหลงที่อยู่ในเจียงจงพอดี เมื่อเห็นฉู่เฉิน หลินซานก็รีบเข้าไปต้อนรับแล้วเอ่ยด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มว่า “คุณฉู่ ผมได้รับคำสั่งจากคุณนายให้มารับคุณครับ” ฉู่เฉินมองหลินซานแวบหนึ่งแล้วขมวดคิ้วกล่าวว่า “คุณนาย? คุณนายไหน?”“คุณนายของบ้านชื่อหลินเยว่หรูครับ!”หลินซานรีบแนะนำตัวเองฉู่เฉินถึงค่อยพยักหน้า แล้วจูงมือหลิงเสวี่ยเดินไปยังรถเอสยูวีที่จอดอยู่ทางด้านข้าง“ไปกันเถอะ”ฉู่เฉินจูงหลิงเสวี่ยมานั่งที่เบาะหลัง แล้วออกคำสั่งอย่างเฉยชา หลินซานสตาร์ตรถทันที ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังโรงแรมในชานเมืองปินเฉิน หลายชั่วโมงต่อมา รถก็จอดอยู่ที่หน้าประตูโรงแรม“คุณฉู่ครับ เนื่องจากโรงแรมนี้อยู่ใกล้กับตระกูลลั่วมากที่สุด ดังนั้นเลยจัดเตรียมห้องเพ
เมื่อลั่วเทียนเต๋อเอ่ยคำพูดนี้ออกมา ลั่วหัวเอ๋อร์ก็อดรู้สึกหนักอึ้งในใจไม่ได้!เธอเคยเจอเจ้าสำนักน้อยคนนั้นแค่ครั้งเดียว แต่ว่าต่อให้เห็นผ่าน ๆ แค่แวบเดียวเท่านั้น เธอก็ดูออกได้ไม่ยากว่า นั่นเป็นคนไร้ประโยชน์ที่ดูดีแค่ภายนอกตามมาตรฐานเลย ถ้าต้องแต่งกับผู้ชายแบบนั้นจริง ๆ ชีวิตนี้ของเธอมีหวังได้จบสิ้นแล้วไม่ใช่หรือไง?และถ้าครั้งนี้กัวเฟิงช่วยตระกูลลั่วให้ผ่านพ้นวิกฤติได้จริง ๆ เธออยากปฏิเสธการแต่งงานก็คงไม่ได้แล้ว“เจ้าสำนักน้อย? ไอ้กัวเฟิงนั่นมันตัวอะไรกัน! ลูกสาวฉันจะไปแต่งงานกับเขาได้ยังไง!”หลินเยว่หรูกัดฟันกรอด ดึงลั่วหัวเอ๋อร์ให้มาอยู่ด้านหลังตัวเอง ก่อนจะเอามือชี้หน้าลั่วเทียนเต๋อแล้วพูดว่า “ไอ้คนแซ่ลั่ว คุณเป็นคนหาเรื่องเอง เลิกลากพวกเราแม่ลูกเข้าไปเกี่ยวข้องได้แล้ว” พอลั่วเทียนเต๋อได้ยินคำพูดนี้ โทสะก็พุ่งพล่านขึ้นมาเช่นกัน ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวด้วยใบหน้าแดงก่ำว่า “ดี! คุณมันแพศยาไร้ยางอาย รีบไสหัวออกไปจากบ้านตระกูลลั่วเดี๋ยวนี้เลยนะ!”“ไม่ต้องพึ่งตระกูลหลินของพวกคุณ ฉันก็จัดการเรื่องนี้ได้อยู่ดี!” อะไรนะ?หลินเยว่หรูถลึงตาใส่ลั่วเทียนเต๋อ กัดฟันกรอแล้วกล่าวว่า “คุณ
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณฉู่”หลินเยว่หรูขอบคุณเป็นล้นพ้นแล้ววางสายไปแต่หลินเจิ้งไท่ที่อยู่ทางด้านข้างกลับมองไปยังฉู่เฉินด้วยความสงสัยเขาอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นเจ็ด แต่หลินเยว่หรูกลับให้ฉู่เฉินช่วยต่อกรกับยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นเก้าเหรอ?ลูกสาวของเขาคงไม่ได้โดนฉู่เฉินเอาจนโง่งมไปแล้วใช่ไหม?แต่พอขบคิดให้ละเอียด ด้วยสถานะของฉู่เฉินในตอนนี้ ระดับสร้างรากฐานชั้นเก้ายังไม่อยู่ในสายตาเขาจริง ๆ ต่อให้ฉู่เฉินเป็นแค่คนธรรมดา แต่ใครจะกล้าแตะต้องเขาแม้กระทั่งปลายนิ้ว? “หัวหน้าจ้าว เมื่อกี้คุณบอกว่าจะพาผมไปส่งที่เจียงจงเหรอครับ?” ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง จิบชาแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “แน่นอนสิครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณฉู่มาที่เมืองชิงหลง ผมกับผู้เฒ่าหลินจะต้องออกมาต้อนรับสิบลี้ ไปส่งสิบลี้อย่างแน่นอน” จ้าวเต๋อฉวนพรูลมหายใจยาวออกมา ในที่สุดก็จะได้ส่งไอ้ตัวซวยคนนี้ออกไปสักทีเมื่อเห็นฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยลุกขึ้น หลินเจิ้งไท่ก็รีบตามไป คนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าตรงไปทางทางออกฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเจียงจงทันที ......อีกทางด้านหนึ่ง หลินเยว่หรูเพิ่งจะวางโทรศัพท์ลง ลั่วเทียนเต๋อก็ตบโต๊ะด้วย
“คุณฉู่ ตอนนี้ลูกชายของฉันฟื้นแล้ว หมอบอกว่าพักอีกหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ที่ฉันโทรหาคุณครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หลินเยว่หรูลังเลอยู่นาน ก่อนจะกล่าวต่อ “ไม่ทราบว่าช่วงนี้คุณฉู่พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?”“ช่วงนี้... คงไม่มีเวลาไปไปเยี่ยมเยียนเส้นทางที่ร่มรื่นของคุณหรอกครับ”ขณะที่ฉู่เฉินกล่าว ก็หันศีรษะไปมองหลิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆเมื่อเทียบกับหลิงเสวี่ยแล้ว สุดท้ายหลินเยว่หรูก็ยังด้อยกว่าอยู่ระดับหนึ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ในแง่ของความอดทน แม้ว่าหลิงเสวี่ยจะเป็นมือใหม่ แต่ความอดทนของเธอก็ดีกว่าหลินเยว่หรูไม่น้อยหลังจากศึกหนักเมื่อคืนนี้ หลิงเสวี่ยไม่เพียงแต่ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่กลับได้รับการพัฒนาอย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังมีร่างกายพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงฉู่เฉินไม่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินเยว่หรูยังคงมีร่างกายเป็นกระถางรับซึ่งเป็นเพียงการเล่นสนุกเท่านั้นและฉู่เฉินก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆหลินเยว่หรูที่ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “คุณฉู่คะ ฉัน... ฉันมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้