“ฮ่าๆๆ ตลกน่า! มีปัญหาอะไรที่ปรมาจารย์คนนี้จัดการไม่ได้อีกเหรอ?”เวลานี้เอง เสียงชราของคนผู้หนึ่งดังมาจากทางประตู ชายชราที่ผมขาวเต็มหัว ใส่ชุดนักพรตสีเทา มือถือแส้หางม้า ท่าทางเหมือนผู้มีคุณธรรมสูงส่งเดินเข้ามาถังเจียวเจียวรีบลุกขึ้น เดินไปต้อนรับอย่างเคารพนบนอบ “ปรมาจารย์ขู่ไห่ คุณมาสักที เชิญนั่งก่อนค่ะ”“อืม” ปรมาจารย์ขู่ไห่รับคำ ก่อนจะนั่งลงอย่างเป็นธรรมชาติ“คุณปู่ ท่านนี้ก็คือปรมาจารย์ขู่ไห่ค่ะ” ถังเจียวเจียวยืดอกแนะนำอย่างภาคภูมิเพื่อเชิญปรมาจารย์ขู่ไห่ผู้นี้มา เธอต้องทุ่มเทเงินและคนไปไม่น้อยถังจิ้งจือเองก็รีบก้าวเข้าไปประสานหมัดทักทาย “ผมถังจิ้งจือครับ ขอคารวะปรมาจารย์ขู่ไห่”ปรมาจารย์ขู่ไห่พยักหน้าน้อยๆ เขาสะบัดแส้หางม้าในมือ พลางยกมืออีกข้างขึ้นมาลูบหนวดขณะรับคำท่าทางสูงส่งไร้เทียมทานฉู่เฉินยักคิ้วมองเขา พบว่าปรมาจารย์ขู่ไห่คนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ รอบกายมีพลังวิญญาณกระจายอยู่จางๆ“เจ้าหนู เมื่อกี้เธอบอกว่าปัญหาของตระกูลถังฉันแก้ไขไม่ได้ มีแค่เธอที่แก้ไขได้งั้นเหรอ?”ปรมาจารย์ขู่ไห่ขมวดคิ้ว ก่อนจะตวัดสายตาเย็นชามองมาทางฉู่เฉินถังจิ้งจือเห็นท่าไม่ดี รีบลุกขึ้นแก้ไ
“ปรมาจารย์ขู่ไห่ คุณต้องช่วยตระกูลถังของเรานะครับ” ถังจิ้งจือร้อนใจปรมาจารย์ขู่ไห่กระหยิ่มยิ้มย่อง ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบว่า “ง่ายมาก แค่อัญเชิญรูปปั้นกวนอูรูปนี้ออกไปก็พอ อีกเดี๋ยวผมแค่ทำพิธีให้คุณก็สิ้นเรื่องแล้ว”“ครับๆๆ ขอบคุณปรมาจารย์ขู่ไห่มาก” ถังจิ้งจือประสานหมัดขอบคุณเป็นการใหญ่ถังเจียวเจียวชำเลืองมองฉู่เฉินอย่างทะนงตัว “ไอ้น้อง ได้ยินหรือยัง? หาต้นเหตุเจอแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้แกช่วยเลยสักนิด!”“ตอนนี้แกรีบถอดกางเกง แล้วไปคุกเข่าอยู่หน้าประตูบ้านของฉัน ให้ฉันเหยียบไอ้นั่นของแกให้แหลกซะเถอะ!”ฉู่เฉินแค่นหัวเราะ ก่อนพูดว่า “งั้นเหรอ? หาต้นเหตุเจอแล้วจริงๆ เหรอ?”“เหลวไหล!”ปรมาจารย์ขู่ไห่ขมวดคิ้ว ก่อนจะตำหนิอย่างไม่พอใจ “เจ้าหนู บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าพูดจาส่งเดช!”ฉู่เฉินส่ายหน้า ก่อนยิ้มหยัน “ดูท่า ปรมาจารย์ขู่ไห่ที่เลื่องลือกันนักหนาก็เป็นแค่คนมีความสามารถครึ่งๆ กลางๆ ที่ไม่สมกับชื่อเสียงสักนิด”“ปัญหาของตระกูลถังไม่ได้เกิดจากรูปปั้นกวนอูสักหน่อย!”สิ้นประโยคของฉู่เฉิน บรรยากาศในห้องรับแขกกลายเป็นตึงเครียดขึ้นมาทันทีปรมาจารย์ขู่ไห่สีหน้าโกรธขึ้ง ตบโต๊ะพร้อมกับตะคอกเสีย
ปรมาจารย์ขู่ไห่ตบโต๊ะด้วยความโมโห “เหลวไหล! ลานบ้านอะไรกัน แกพูดจาเพ้อเจ้อซะมากกว่า! ปัญหาเกิดจากรูปปั้นกวนอูรูปนี้แท้ๆ แค่อัญเชิญรูปปั้นออกไป ปัญหาของตระกูลถังต้องแก้ไขได้แน่!”ฉู่เฉินยิ้มเย็น เขามองปรมาจารย์ขู่ไห่ด้วยหางตา ก่อนจะเอ่ยอย่างดูแคลนว่า “ที่บอกว่าความสามารถของคุณไม่สมชื่อเสียง ยังถือว่าชมเกินไปซะด้วยซ้ำ”“ปรมาจารย์ขู่ไห่ ผมขอถามคุณหน่อย บ้านหลังนี้เป็นฮวงจุ้ยลักษณะไหน?” ฉู่เฉินถามปรมาจารย์ขู่ไห่หัวเราะในลำคอ ก่อนตอบว่า “เจ้าหนู แกยังคิดจะทดสอบฉันอีกเหรอะ? งั้นแกคงต้องผิดหวังแล้วล่ะ ฉันเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการฮวงจุ้ยหยินหยางมาห้าสิบปีแล้ว”“ที่นี่มีลักษณะฮวงจุ้ยหอยเฒ่าคายมุก”ฉู่เฉินพยักหน้า ก่อนจะยิ้มหยันว่า “ตาเฒ่าอย่างคุณ ยังนับว่ามีความสามารถอยู่บ้าง”“แก!” ปรมาจารย์ขู่ไห่โมโหจนผมตั้งฉู่เฉินถามต่ออีกว่า “งั้นผมขอถามคุณ ฮวงจุ้ยแบบหอยเฒ่าคายมุก กลัวอะไรที่สุด?”ปรมาจารย์ขู่ไห่ตอบออกไปโดยไม่คิด “ย่อมต้องเป็นไอโลหิตพิฆาต ทันทีที่แปดเปื้อนไอโลหิตพิฆาต ฮวงจุ้ยหอยเฒ่าคายมุกก็จะแว้งกัด สถานเบาทรัพย์สินเสียหาย ผู้คนดูถูก สถานหนัก บ้านแตกสาแหรกขาด สมาชิกในครอบครัวล้มหายตา
ฉู่เฉินพูดจบก็หมุนตัว พากู้รั่วเสวี่ยออกไปทันที“สามหาว! แกว่ายังไงนะ? อยากตายรึไง?!”ถังเจียวเจียวเดือดดาลขณะที่กำลังจะก้าวขาออกจากประตู ฉู่เฉินพูดทิ้งท้ายโดยไม่แม้แต่จะเหลียวหลัง “ท่านถัง ขอเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้าย ปัญหาของตระกูลถังไม่ได้เกิดจากรูปปั้นกวนอู”“อัญเชิญรูปปั้นกวนอูออกไป ไม่เพียงไม่สามารถแก้ไขปัญหาของพวกคุณ แต่ยังทำให้หนักขึ้นไปอีก!”“ทันทีที่อัญเชิญรูปปั้นกวนอูออกไป บ้านหลังนี้จะไร้ซึ่งพลังของมันคอยกดข่มพลังร้าย ไอโลหิตพิฆาตในที่แห่งนี้จะยิ่งรุนแรง ถึงตอนนั้น ตระกูลถังของคุณจะอยู่ไม่เป็นสุขแน่นอน!”“และคนแรกที่จะถูกพลังด้านลบแว้งกัด ก็คือหลานสาวของคุณ!”“เธอจะถูกวิญญาณร้ายในที่แห่งนี้เข้าสิง ทำให้มีพฤติกรรมบ้าๆ บอๆ และวิญญาณร้ายนั่น ยังเป็นวิญญาณผู้หญิงที่บ้าผู้ชายอีกด้วย หากไม่จัดการให้ดี ความบริสุทธิ์ของหลานสาวคุณก็จะถูกทำลายทันที”“ดูแลตัวเองด้วยก็แล้วกัน!”พูดจบ ฉู่เฉินก้าวเท้าออกจากบ้านตระกูลถังเลยด้านหลัง ถังเจียวเจียวด่าทออย่างเกรี้ยวกราด“สารเลว! แกว่ายังไงนะ? คอยดูเถอะฉันจะเหยียบไอ้นั่นของแกให้เละ!”ถังเจียวเจียวโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ
กึก!ถังจิ้งจือสะดุดกึก นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของฉู่เฉินขึ้นมาได้“ปรมาจารย์ขู่ไห่ นี่มันยังไงกันแน่ครับ? คุณพูดอย่างมั่นอกมั่นใจว่าหากย้ายรูปปั้นกวนอูออกไปก็จะไม่มีปัญหาแล้วไม่ใช่เหรอ?” ถังจิ้งจือถามเสียงขรึมปรมาจารย์ขู่ไห่หน้าเปลี่ยนสี ยังคงพูดติดอ่าง “คือว่า เรื่องนั้น...”“เหอะ! ปรมาจารย์ขู่ไห่ วันนี้หากตระกูลถังของผมเกิดปัญหาอะไรขึ้น! คุณก็อย่าคิดจะไปไหน!” ถังจิ้งจือพูดอย่างเดือดดาล ขณะเดียวกัน มีบอดี้การ์ดหลายคนวิ่งเข้ามาคอยจับตาดูปรมาจารย์ขู่ไห่ไว้จากนั้น ถังจิ้งจือก็เดินออกจากตัวบ้าน ก่อนสั่งการว่า “ออกรถ! ไปหาปรมาจารย์ฉู่!”ในอีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉินเพิ่งมาถึงบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ได้ไม่นาน รถของถังจิ้งจือก็ขับมาจอดหน้าบ้านของเขา“ปรมาจารย์ฉู่ ปรมาจารย์ฉู่ครับ!”ถังจิ้งจือรีบลงจากรถ ยืนตะโกนอยู่หน้าบ้านฉู่เฉินขมวดคิ้ว ก่อนจะเดินออกมาจากบ้านพร้อมกับกู้รั่วเสวี่ย พอเห็นถังจิ้งจือที่อยู่หน้าบ้าน ก็พูดอย่างไม่พอใจ “ผู้นำตระกูลถัง คุณมาได้ยังไง?”ถังจิ้งจือรีบก้าวเข้ามา ก่อนจะประสานหมัดขอโทษ “ปรมาจารย์ฉู่ ก่อนหน้านี้ผมเลอะเลือนเอง ดันหลงเชื่อขู่ไห่ ปรมาจารย์ฉู่ได้โปรดช่วยหลานสา
ปรมาจารย์ขู่ไห่มาถึงลานบ้าน มองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถากถางว่า “ไอ้หนู อย่ามัวทำเป็นวางมาดอยู่เลย ในลานบ้านนี้มีปัญหาอะไรที่ไหนกัน?”ฉู่เฉินยิ้ม ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “อย่าใจร้อนสิ ตาแก่ อีกเดี๋ยวได้ถูกฉีกหน้ายกใหญ่แน่!”“ฮ่าๆๆ! ฉีกหน้าฉัน? แกฝันไปเถอะ!” ปรมาจารย์ขู่ไห่หัวเราะอย่างดูถูก“งั้นเหรอ? งั้นปรมาจารย์ขู่ไห่กล้าเดิมพันกับผมไหมล่ะ?” ฉู่เฉินเอียงคอยิ้มๆ สายตาเจ้าเล่ห์ปรมาจารย์ขู่ไห่อายุมากขนาดนี้แล้ว มีหรือจะทนการดูหมิ่นและยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากฉู่เฉินได้ เขาหน้าแดงก่ำ ตะคอกเสียงดัง “ทำไมจะไม่กล้า? วันนี้ถ้าแกหาต้นเหตุของปัญหาเจอในลานบ้านแห่งนี้ได้ ฉันคนนี้จะปิดเขา ไม่รับดูฮวงจุ้ยให้ใครอีกชั่วชีวิต!”“นอกจากนี้ ฉันจะคุกเข่าและเรียกแกว่าอาจารย์ฉู่!”“แต่ถ้าแกไม่เจออะไรเลย ไอ้หนู แกต้องคุกเข่าแล้วก็โขกหัวให้ฉันหนึ่งร้อยครั้ง!”“ไม่มีปัญหา” ฉู่เฉินยิ้มตอบกู้รั่วเสวี่ยยืนปิดปากกลั้นหัวเราะอยู่ข้างๆจากที่อยู่ด้วยกันมา เธอเริ่มรู้จักฉู่เฉินมากขึ้นอีกนิดแล้วถ้าฉู่เฉินพูดอย่างนี้ แสดงว่าเขามีความมั่นใจเต็มร้อย และขุดหลุมรอปรมาจารย์ขู่ไห่คนนี้ไว้เรียบร้อยแล้วฉู่เฉินยกมือชี้ไป
“ขู่ไห่ คุณแก่แล้ว”ปรมาจารย์ขู่ไห่หน้าแดงก่ำ เขาละอายใจและอึดอัดใจมา “ปรมาจารย์ฉู่ ผมแก่แล้วจริงๆ ความสามารถสู้คุณไม่ได้”“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะปิดเขา”ว่าแล้วปรมาจารย์ขู่ไห่กัดฟัน ก่อนจะคุกเข่าลงบนพื้น โขกหัวพร้อมกับกล่าวว่า “ผมขู่ไห่ ไม่ใช่คนผิดสัจจะ วันนี้ ขอกราบคุณเป็นอาจารย์!”เหตุการณ์นี้ทำให้ถังจิ้งจือตกตะลึงอย่างมากปรมาจารย์ขู่ไห่คุกเข่าเรียกฉู่เฉินว่าอาจารย์จริงๆฉู่เฉินยิ้มน้อยๆ “ลุกขึ้นมาเถอะ”ปรมาจารย์ขู่ไห่ลุกขึ้น ใบหน้าแดงก่ำ ก่อนเอ่ยว่า “อาจารย์ฉู่อยู่เหนือกว่า นับแต่นี้ไป วงการฮวงจุ้ยของเมืองเจียงจง อาจารย์ฉู่นับว่าเป็นผู้มีเกียรติสูงสุด”“เอาล่ะ ผมไม่ได้สนใจฮวงจุ้ยอะไรพวกนั้น” ฉู่เฉินโบกมือปรมาจารย์ขู่ไห่ยืนอยู่ด้านหนึ่งด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน“หลังจากนี้ เรื่องการขจัดอาถรรพ์มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของคุณแล้วกัน” ฉู่เฉินเอ่ยขู่ไห่รีบรับคำ “ครับๆๆ”จากนั้น ขู่ไห่หาพู่กัน หมึก และผ้ายันต์สีเหลืองมา ก่อนจะวาดยันต์ผนึกวิญญาณติดไว้บนผ้าห่อศพผืนนั้นไอโลหิตrพิฆาตที่แผ่อยู่รอบๆ ผ้าห่อศพผืนนั้นพลันหายไปในพริบตาขู่ไห่หยิบผ้าห่อศพผืนนั้นขึ้นมากับมือตัวเอ
“สตรีศักดิ์สิทธิ์ เป็นอะไรไปหรือ?”หญิงสาวเบี่ยงตัว ขณะที่ชายวัยกลางคนคนหนึ่งถามด้วยท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตนต้วนหลงไห่ ประธานสมาคมศิลปะการต่อสู้ของเมืองเจียงจงหญิงสาวขมวดเรียวคิ้วงามเล็กน้อย ก่อนเอ่ยว่า “เปล่า ไปกันเถอะ”ก่อนจะไป หญิงสาวมองหอสมบัติด้วยสายตาเย็นยะเยือกเวลานี้ ฉู่เฉินเดินเข้าไปข้างในหอสมบัติ พอเข้าไป เขาก็ต้องตกตะลึงไปทันทีหอสมบัติแห่งนี้ สมแล้วที่เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนและซื้อขายของเก่าโบราณที่ใหญ่ที่สุดของเมืองเจียงจงของโบราณในที่แห่งนี้ มีมากมายนับไม่ถ้วน หลากหลายละลานตาแต่ละชิ้นล้วนแล้วแต่มีราคาหลายล้าน!“คุณคะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?” ในขณะที่ฉู่เฉินกำลังยืนอึ้ง พนักงานหญิงในชุดสูทสีแดงตัวเล็กกับกระโปรงรัดสะโพกคนหนึ่ง เดินประสานมือไว้ใต้หน้าอกอันน่าภาคภูมิใจเข้ามาอย่างเป็นมิตรพร้อมกับรอยยิ้มเรียวขายาวๆ คู่นั้นสวมใส่ถุงน่องสีดำบางๆนี่สิมืออาชีพ! ต้อนรับแขกทุกคนด้วยความจริงใจและรอยยิ้ม“มีกระถางหลอมยาอายุสามร้อยปีขึ้นไปไหมครับ?” ฉู่เฉินถามพนักงานหญิงมองพิจารณาฉู่เฉินเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มตอบว่า “มีค่ะ เชิญตามฉันมาทางนี้ได้เลยค่ะ”ถานเชี่ยนเชี่ยนเพิ่งมาทำงา
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก
ในความเป็นจริงทั้งเมืองชิงหลง แทบจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของสำนักชิงอวิ๋นตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ก็ล้วนเป็นศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นเช่นกันถ้าตระกูลหลินเป็นฝ่ายเริ่มเสนอการสังหารฉู่เฉินพื่อแย่งชิงสมบัติ จากนั้นนำหยกโลหิตกิเลนไปมอบให้กับธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋น ดูเหมือนว่าตระกูลหลินของพวกเขาก็คงจะได้ความดีความชอบเป็นอันดับแรกสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจ้าวเต๋อฉวนเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลจ้าวและยังเป็นเจ้าสำนักชิงอวิ๋นอีกด้วยถ้าใจร้อนอยากได้ความดีความชอบโดยปกปิดตระกูลจ้าว ทันทีที่เป็นศัตรูกับตระกูลจ้าว ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าในอนาคตจะไม่ถูกจ้าวเต๋อฉวนกีดกันดังนั้น ข้อเสนอของหลินฮ่าวจึงได้รับการเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากบรรดาผู้เฒ่าตระกูลหลินอย่างรวดเร็วในไม่ช้า ตระกูลหลินก็เริ่มดำเนินการ โดยส่งยอดฝีมือจำนวนมากติดตามหลินฮ่าวไปดักรอฉู่เฉินนอกเมืองชิงหลงอีกด้านหนึ่ง ยังได้ส่งลูกหลานตระกูลหลินไปจำนวนไม่น้อยไปแจ้งตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่แค่ยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานขั้นที่หกของตระกูลหลิน ก็มีมากถึงสิบกว่าคนแล้วเมื่อรวมกับตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ ภายใต้การร่วมมือของสามตระกูล ไม่ต้องพูดถึง
แม้ว่าจะไม่มีตึกสูง แต่ที่นี่ก็มีสินค้าอุปโภคบริโภคสมัยใหม่บางชนิดจำหน่ายด้วยเหมือนกันหลังจากฟังคำแนะนำของหลิงเสวี่ย ฉู่เฉินก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ได้ งั้นไปที่เมืองชิงหลงกันก่อน”อันที่จริง ในด้านหนึ่งฉู่เฉินต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่งการหยั่งรู้ และในอีกด้านหนึ่งก็ต้องการค้นหาวัตถุดิบยาในเมืองชิงหลงด้วยอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจ้าทึ่มก็ถึงคอขวดแล้ว และจำเป็นต้องคิดหาวิธีที่จะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นผีดิบเหินฟ้าโดยเร็วที่สุดไม่อย่างนั้น ฉู่เฉินก็คงจะขาดคู่ซ้อมที่แข็งแกร่งไปคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ“คุณจะไปเมืองชิงหลงจริงๆ เหรอ? คุณควรรู้ไว้ว่าตอนนี้คุณในโลกแห่งการหยั่งรู้ก็เหมือนกับเป็นสมบัติที่มีชีวิต ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนเท่าไหร่ที่กำลังเล็งคุณอยู่”หลิงเสวี่ยกล่าวพลางขมวดคิ้วแน่นไม่ใช่ว่าเธอเป็นห่วงฉู่เฉินมากขนาดนั้น แต่ถ้าฉู่เฉินตกอยู่ในอันตราย เธอก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย“เมื่อวานเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ยังมีใครกล้าคิดร้ายกับผมอีกงั้นเหรอ?”ฉู่เฉินถามด้วยความสงสัยชิ!หลิงเสวี่ยกลอกตามองฉู่เฉินและกล่าวด้วยสีหน้าจนใจ “คุณคิดว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้จะสร้างความฮือฮาได้มากขนาดไหน แม้ว่า