โจวเทียนเฟิ่งกับเสียวหู่ตะลึงตาค้างไปทันทีไม่มีใครคาดคิดว่าฉู่เฉินจะบ้าบิ่นได้ขนาดนี้ เขาไม่เห็นโจวเทียนเฟิ่งอยู่ในสายตาเลยสักนิด“ฉู่เฉิน! รู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังพูดอะไรอยู่?”โจวเทียนเฟิ่งเบิกดวงตางามกว้าง สายตาคมกริบสีหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวดที่ได้รับจากการเน่าเปื่อยของผิวหนัง เธอเป็นถึงเจ๊ใหญ่แห่งเมืองเจียงจงเชียวนะ!เป็นบุคคลที่เมื่อขานเรียกใคร ผู้นั้นก็ต้องตอบรับฉู่เฉินที่ยืนอยู่ตรงหน้ากลับกล้าไล่เธอให้ไสหัวไป?เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ?“ผมย่อมรู้ดีแก่ใจว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่ ขอบอกให้รู้ว่าปัญหาของคุณเกิดจากพิษศพ เป็นโรคที่เกิดจากพลังหยิน หมอทั่วไปรักษาไม่หายหรอก”“ถึงคุณจะรักษายังไงก็ต้องตาย พูดง่ายๆ ก็คือ โรคของคุณมีแต่ผมที่รักษาได้!”ฉู่เฉินพูดอย่างเย็นชา“ฉู่เฉิน อย่าคิดว่าอวดฉลาดโชว์ความสามารถต่อหน้าผู้คนได้นิดหน่อยแล้วจะยกย่องตัวเองเป็นปรมาจารย์ได้จริงๆ! รีบรักษาให้ฉันซะ ก่อนที่ฉันจะโมโห!”โจวเทียนเฟิ่งพูดอย่างไม่พอใจสุดขีดหลายปีแล้วที่ไม่มีใครกล้าพูดอย่างนี้กับเธอ“ไอ้เด็กเปรต! รีบรักษาให้เจ๊ใหญ่เดี๋ยวนี้! ไม่งั้นฉันตัดไอ้จ้อนของแก!
“มีแต่ฉู่เฉินที่รักษาได้จริงเหรอ?” โจวเทียนเฟิ่งขมวดคิ้ว มองลำคอที่เริ่มเน่าเปื่อยของตนเองในกระจกสุดท้าย เธอได้แต่กัดฟันแล้วเลือกที่จะก้มหัวเพื่อยอมประนีประนอม “ไปหาฉู่เฉิน”เสียวหู่พยักหัว เขาเหยียบคันเร่งพาโจวเทียนเฟิ่งกลับไปยังบ้านใหญ่ตระกูลฉู่อีกครั้งเพียงแต่ ครั้งนี้เสียวหู่และโจวเทียนเฟิ่งไม่ได้วางตัวสูงส่งไม่เห็นหัวใครอย่างก่อนหน้านี้อีกแล้ว“คุณฉู่ๆ ได้โปรดช่วยชีวิตเจ๊ใหญ่ของเราด้วย”พริบตาเดียว เสียวหู่ตะโกนเข้าไปในห้องรับแขกอย่างนอบน้อม ทิ้งความอวดดีไปจนสิ้น“ไม่ช่วย ไสหัวไป!”เสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังออกมาจากในบ้านเสียวหู่ขมวดคิ้ว เขากัดฟันคุกเข่าอยู่หน้าประตู ตะโกนอีกครั้งว่า “คุณฉู่ ได้โปรดช่วยชีวิตเจ๊ใหญ่ของเราด้วย”“ขอแค่คุณยอมช่วย จะให้ผมจงอาหู่คนนี้ทำอะไรก็ยอม!”“แม้จะสั่งให้ผมเอาหัวโขกจนตายตอนนี้เลย ผมก็ยอม”เสียวหู่โขกหัวกับพื้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเลือดไหลอาบหน้าผากโจวเทียนเฟิ่งทบทวนครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายก็ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว ลดมาดอวดดีลง ก่อนจะตะโกนว่า “คุณฉู่ ก่อนหน้านี้ล่วงเกินแล้ว ได้โปรดเมตตาให้อภัยผู้น้อยสักครั้งเถอะ”“ขอแค่คุณยอมช่วย
ซี้ด!จนกระทั่งโจวเทียนเฟิ่งถอดชุดกี่เพ้าออกจนหมด ฉู่เฉินจึงได้เห็นอย่างแท้จริงว่าผู้หญิงคนนี้มีเรือนร่างราวกับนางพญามาร!ความอวบอิ่มด้านหน้า ทั้งกลมกลึงและเต่งตึง เว้าโค้งได้รูปจนน่าทึ่ง งดงามมากจริงๆเอวคอดแบบบาง โอบมือเดียวก็รอบแล้วส่วนบั้นท้ายก็ยิ่งผายกลมได้รูปตามแบบฉบับบั้นท้ายลูกพีช!ปกติผู้หญิงคนนี้ออกกำลังกายด้วยเหรอ?ถึงได้รักษาหุ่นได้ดีขนาดนี้!เรือนร่างของนางพญามารชัดๆ!หลิ่วชิงเหอเทียบกับเธอไม่ติดฝุ่นเลยแม้แต่น้อยเรียกว่านางพญามารไม่เกินจริงเลยแม้ว่าผิวหนังของเธอในตอนนี้จะเน่าเปื่อยไปบางส่วน แต่ก็ยังไม่อาจบดบังเสน่ห์อันเหลือล้นของเธอได้อยู่ดีนี่สิที่เรียกว่าผู้หญิงที่โตเต็มวัย และโตเต็มที่ทุกส่วนแล้วเสียด้วย“พู่…”ฉู่เฉินพ่นลมหายใจ ข่มอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ข้างใน ก่อนพูดว่า “นอนคว่ำลงไปครับ”“อืม…” โจวเทียนเฟิ่งรับคำ อดทนต่อความเจ็บปวดที่เกิดจากการเน่าเปื่อยของผิวหนัง และนอนคว่ำลงไปจากนั้น ฉู่เฉินเริ่มทายาสีดำสนิทลงตามตัวของโจวเทียนเฟิ่งเริ่มจากแผ่นหลัง ทาไล่ลงมาถึงบั้นท้ายฉู่เฉินอดไม่ได้ที่จะทึ่งกับความกลมกลึงและแน่นของบั้นท้ายของโจวเทียนเฟิ่
“ฉู่เฉิน...”โจวเทียนเฟิ่งพึมพำชื่อของฉู่เฉิน พ่นลมหายใจออกมา ถึงจะพบว่าไม่มีผ้าเช็ดตัวหรือเสื้อคลุมอาบน้ำอยู่ข้างในนี้“คุณฉู่ ช่วยเอาผ้าเช็ดตัวกับเสื้อคลุมอาบน้ำให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ?”ภายในห้องอาบน้ำ มีเสียงของโจวเทียนเฟิ่งดังออกมาฉู่เฉินตอบกลับว่า “สักครู่นะครับ”ทันใดนั้น เขาหยิบผ้าห่มจากข้างนอก ส่งให้โจวเทียนเฟิ่งอยู่ข้างในผ่านช่องแยกระหว่างประตู และพูดว่า “ที่บ้านผมไม่มีเสื้อคลุมอาบน้ำ ดังนั้นใช้ผ้าผืนนี้เช็ดไปก่อนนะครับ”“ขอบคุณค่ะ” โจวเทียนเฟิ่งแอบอยู่หลังประตู แง้มประตูออก เธอยืนแขนขาวออกไปรับผ้าห่มจากฉู่เฉินฉู่เฉินกลอกตา เห็นทรวงอกอวบอ้วนสีขาวเหมือนหิมะและร่องเนินที่ชวนให้คนหลงใหลซี้ดๆ!นี่มันลูกแตงโม!ลูกแตงโมชัดๆ!โจวเทียนเฟิ่งรับรู้ได้ถึงสายตาของฉู่เฉิน ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ภายในใจก็มีความคิดแปลกๆ ผุดขึ้นมา เธออยากจะแกล้งผู้ชายคนนี้มุมปากของเธอเผยรอยยิ้มเล่ห์เหลี่ยมขึ้นมา ทันใดนั้นช่องระหว่างประตูก็เปิดกว้างขึ้น“ฟู่!”ฉู่เฉินพ่นเลือดออกมาเต็มปาก เขารับไม่ได้กับภาพความงามอันหอมกรุ่นที่กำลังอาบน้ำอยู่ ดังนั้นเขาจึงรีบหันหลังกลับและจากไปโจวเทียนเฟิ่งยิ้ม
ฉู่เฉินคิดแล้วคิดอีก สุดท้ายก็ตัดสินใจไปเขาคงไม่ควรทอดทิ้งสองสาวสวยไว้ใช่ไหม?ไม่นานเขาก็ถึงที่คลับน้ำพุร้อนอวี้หลง เมื่อฉู่เฉินเดินเข้าไปยังห้องโถง ก็มองเห็นกู้รั่วเสวี่ยและถังเจียวเจียวกึ่งนั่งกึ่งนอนตรงโซฟา“พี่ฉู่เฉิน ตรงนี้ค่ะ”กู้รั่วเสวี่ยโบกมือ ตะโกนเรียกฉู่เฉินสองมือของฉู่เฉินล้วงกระเป๋าอยู่ เดินเข้าไป พร้อมกับถามอย่างสงสัยว่า “พวกคุณสองคนมาเจอกันที่เมื่อไหร่กันครับ?”กู้รั่วเสวี่ยยิ้มพร้อมกับควงแขนฉู่เฉินให้นั่งลง พูดขึ้นมาว่า “ฮ่าๆ ฉันกับเจียวเจียวเป็นเพื่อนรักกันแล้วน่ะค่ะ”“เพื่อนรัก?” ฉู่เฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยมิตรภาพระหว่างผู้หญิงมันเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?ฉู่เฉินกวาดสายตาไปที่ถังเจียวเจียวที่นั่งอยู่ เธอยังคงมีท่าทีที่สูงส่ง มีเพียงแต่ครั้นเมื่อมองตัวเขา เธอก็จะเก็บความหยิ่งทะนงนั้นไว้ ตะโกนขึ้นมาว่า “ปรมาจารย์ฉู่”ฉู่เฉินพูดขึ้นมา “ช่างมันเถอะ คุณถัง เรียกผมว่าปรมาจารย์ฉู่มันดูห่างไกลกันเกินไป เรียกผมว่าฉู่เฉินก็ได้ครับ”ถังเจียวเจียวอึ้งไปชั่วครู่ มองไปยังกู้รั่วเสวี่ยแวบหนึ่ง กู้รั่วเสวี่ยยิ้มพร้อมพูดอย่างรีบร้อนว่า “เจียวเจียวเอางี้ไหม เธอก็เรียกเ
“ฮ่าๆๆ!”พวกอันธพาลต่างพากันหัวเราะ ทำเอาถังเจียวเจียวโกรธจนหน้าซีดเซียว ด่าขึ้นมาว่า “แก พวกแกมันหน้าไม่อาย!”“คนสวย จะบอกความจริงให้พวกเธอนะ ที่นี่แจ้งความไปก็ไม่มีประโยชน์ หากไม่อยากทำให้เรื่องมันยุ่งยากไปกว่านี้ ก็เชื่อฟังแล้วไปแช่ออนเซ็นกับพี่เป้าของพวกเราซะดีๆ”“พี่เป้าของพวกเราเป็นคนใจกว้าง ขอเพียงแค่พวกเธอทำให้พอใจ กระเป๋าแบรนด์เนมเอย อยากได้อะไรก็จะได้”หัวทองหนึ่งในนั้นกล่าวอย่างภาคภูมิใจ“ถุย! ใครอยากได้กระเป๋าจากเขากัน! ไสหัวไปนะ!”กู้รั่วเสวี่ยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาแต่ทว่าอันธพาลพวกนั้นกลับไม่ยอมหลีกทางให้ ไม่พอยังก้าวมาข้างหน้าอีกหลายก้าว สิ่งนี้ทำให้กู้รั่วเสวี่ยต้องถอยกลับไปสองสามก้าว จนโซซัดโซเซเกือบจะล้มลงยังดีที่ฉู่เฉินโอบเอวเล็กของกู้รั่วเสวี่ยไว้ทัน หลังจากนั้นเขาก็ไปบังข้างหน้าสองสาวเอาไว้ พูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันให้เวลาพวกแกสิบวินาที หายไปจากหน้าฉันเดี๋ยวนี้! ไม่อย่างนั้นละก็ผลลัพธ์ที่ตามมาพวกแกก็รับผิดชอบเองนะ!”“อะไรนะ? ไอ้หนุ่มแกพูดอีกรอบสิ?”หัวทองเอียงหัว ตะโกนออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจถึงขนาดยืนมือ ใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าอกพ
“ได้! ไอ้เวร แกอย่าได้เสียใจทีหลังล่ะ!”หลินเป้าตะโกนขึ้นมาอย่างดุเดือด ควักโทรศัพท์ออกมา กดสายไปยังเบอร์หนึ่ง“ฮัลโหล พี่หู่ นี่ผมเองอาเป้า ผมกับพวกลูกน้องถูกคนทำร้ายอยู่ที่คลับน้ำพุร้อนอวี้หลง พี่รีบพาคนมาหน่อยครับ”ด้านปลายสายจงอาหู่เพิ่งออกมาจากคฤหาสน์ของโจวเทียนเฟิ่ง ขึ้นรถก็กดรับสาย ใบหน้าของเขาเข้มขึ้น ใบหน้าดำมืด กล่าวอย่าไม่พอใจว่า “แกว่าอะไรนะ? แกโดนทำร้ายงั้นเหรอ? แกไม่ได้บอกว่าแกเป็นคนของสำนักเฟิ่ง ไม่ได้บอกว่าเป็นคนของจงอาหู่เหรอ?”“บอกแล้วครับพี่หู่ แต่ว่าฝั่งตรงข้ามมันกำแหงมากครับ มันไม่เห็นสำนักเฟิ่งกับพี่อยู่ในสายตาเลย” หลินเป้าถลึงตาใส่ฉู่เฉินพร้อมกับพูดไปด้วย“แม่งเอ๊ย! ได้ ฉันรับรู้แล้ว รออีกสักพักเดี๋ยวฉันก็จะถึงแล้ว!” จงอาหู่พูดด้วยความโมโห วางสายไป เรียกเหล่าลูกน้อง เหยียบคันเร่งบึ่งไปยังคลับน้ำพุร้อนอวี้หลงภายในล็อบบีน้ำพุร้อนอวี้หลงหลินเป้าจ้องไปที่ฉู่เฉินด้วยสายตาที่เยาะเย้ยที่น่ากลัวที่ปรากฏบนใบหน้าของเขา และตะโกนว่า “ไอ้น้อง ฉันจะบอกแกให้นะ แกไม่รอดแน่! รอให้พี่หู่ของพวกฉันมาถึงเถอะ แกได้เจอดีแน่!”“ถ้าเข้าใจสถานการณ์แล้วก็รีบคุกเข่ากราบขอโท
เสียงนี้ทำไมมันดูคุ้นหูแบบนี้นะ?อีกทั้งมองไปยังคนตรงหน้าที่หันมาอย่างช้าๆ รูปร่างนั่น ใบหน้าด้านข้างนั่น ยิ่งมองก็ยิ่งคุ้นตาเมื่อถึงตอนที่ฉู่เฉินหันใบหน้าทั้งหมดมาที่พวกเขา จงอาหู่กลับตกตะลึงจนตัวสั่น สีหน้าซีดเซียว!“คุ คุณฉู่?!”จงอาหู่กลัวจนฉี่เล็ดเขาคิดไม่ถึงว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาจะเป็นฉู่เฉิน!“จงอาหู่ นายจะจัดการฉันเหรอ?” ฉู่เฉินถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่ได้ยิ้มจงอาหู่กลัวจนใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ รีบวิ่งเข้าไป โค้งคำนับยิ้มพร้อมพูดว่า “คุณฉู่ คุณก็พูดไป ผมไม่รู้ว่าคุณอยู่ที่นี่ครับ” ทางด้านหลินเป้าและคนอื่นอึ้งไปหมดเกิดอะไรขึ้น?ทำไมพี่หู่ถึงก้มหัวให้กับไอ้เด็กนั่น อีกอย่างดูๆ ไปเหมือนเขาจะกลัวมากๆ ด้วย“พี่หู่ พี่ทำอะไรน่ะ? ไอ้นี่แหละที่มันทำร้ายพวกเรา พี่รีบจัดการสั่งสอนพวกมันแทนพวกเราเร็ว” หลินเป้าตะโกนขึ้นมาจงอาหู่ได้ยินดังนั้น ก็หันร่างมา ก้าวเดินมา ถีบเข้าไปอย่างแรง หลินเป้าถูกเตะห่างออกไปสามหรือสี่เมตรด้วยเสียงปัง ล้มลงกับพื้นอย่างแรง และตะโกนด้วยความโกรธว่า “อวดดี! สั่งสอนคุณฉู่งั้นเหรอ? พวกแกไปเอาความกล้ามาจากไหน!”“ถึงพี่ใหญ่จะอยู่ที่นี่ เมื่อ
ชายหนุ่มหญิงสาวเหล่านี้แต่ละคนล้วนมีกลิ่นอายของผู้บำเพ็ญเพียร ต่อให้เป็นคนที่มีพลังฝึกปรืออ่อนด้อยที่สุดก็มีพลังฝึกปรือราว ๆ ระดับหลอมปราณชั้นแปดต่อให้เป็นปรมาจารย์ที่สามารถสั่นคลอนทั้งเมือง เมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเขาก็ไม่มีค่าพอให้เอ่ยถึงเลย และตู้หรงเฉิงก็เป็นตัวตนที่อยู่จุดสูงสุดในกลุ่มพวกเขา ด่าตู้หรงเฉิงก็เท่ากับด่าพวกเขาทุกคน!สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขาดูไม่ออกจริง ๆ ว่าฉู่เฉินมีอะไรโดดเด่นเหนือคนอื่น ราวกับว่าไม่มีแม้กระทั่งคลื่นพลังลมปราณเลยสักนิดดัยว คนธรรมดาคนหนึ่งถึงกับกล้าสบประมาทผู้บำเพ็ญเพียรเนี่ยนะ? “ไอ้หนู คุณบ้าดีเดือดมากเลยนะ”ตู้หรงเฉิงหรี่ตา ลมปราณระดับสร้างรากฐานชั้นหนึ่งรอบกายพลันระเบิดออกมา พรืด!หลิงเสวี่ยที่นั่งอยู่ข้างฉู่เฉินเห็นแบบนั้นก็แทบจะหลุดหัวเราะออกมาทันทีระดับสร้างฐานชั้นหนึ่งก็ไม่เลวจริง ๆ แต่นั่นต้องดูด้วยว่าเทียบกับใคร อย่าว่าแต่ฉู่เฉินเลย แค่เธอก็สามารถตบตู้หรงเฉิงให้ตายได้ในฝ่ามือเดียว! เพียงแต่ว่า ตอนที่ออกจากโลกแห่งการหยั่งรู้ ฉู่เฉินใช้ยันต์ซ่อนวิญญาณเก็บซ่อนลมปราณของพวกเธอสองคนไว้ ดังนั้นดูแล้วถึงไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดาต้องพูดว
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา หลินซานก็อึ้งไปด้านหนึ่งคือหลินเยว่หรูกับลั่วหัวเอ๋อร์เข้าพักแล้ว อีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉินก็เป็นแขกผู้มีเกียรติที่หลินเยว่หรูเชิญมาจะปล่อยให้ฉู่เฉินถูกเมินตรงนี้ไม่ได้หรอกใช่ไหม?แต่ตู้หรงเฉิงคนนี้ หลินซานเองก็ล่วงเกินไม่ไหวเช่นกันต่อให้เป็นตระกูลหลินก็ต้องไว้หน้าตระกูลตู้เล็กน้อย ถึงอย่างไรคนหนุนหลังของตระกูลตู้ก็แข็งแกร่งไม่ธรรมดาพอเห็นหลินซานอึ้งอยู่กับที่ ตู้หรงเฉิงก็เอ่ยด้วยสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยว่า “ว่ายังไง ลูกน้องตระกูลหลินอย่างคุณกล้าไม่ไว้หน้าผมด้วยเหรอ?” เมื่อคำพูดนี้ออกมา กลุ่มชายหนุ่มหญิงสาวที่อยู่รอบ ๆ ก็พากันมองไปทางหลินซานด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ในขณะเดียวกัน ชายร่างกำยำที่แต่งกายทะ มัดทะแมงไว้ผมเกรียนคนหนึ่งก็มองหลินซานอย่างพิจารณาด้วยสายตาเย็นชาหลังจากสิ้นเสียงของตู้หรงเฉิง“คุณชายตู้เข้าใจผิดแล้วครับ ผะ...ผมแค่...”ในตอนนี้เอง ชายร่างท้วมวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินลงมาจากชั้นสอง ก่อนจะเอ่ยตัดบทหลินซานว่า “ท่านทั้งหลาย เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอครับ?”ตู้หรงเฉิงหันหน้าไปมองชายวัยกลางคนแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าเย่อหยิ่งเล็กน้อยว่า “คุณเป็นเจ้าของ
หลินเยว่หรูพูดจบก็รูดคีย์การ์ดห้องทันที ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทลั่วหัวเอ๋อร์อึ้งไปพักหนึ่ง จากนั้นถึงค่อยเข้าใจจุดประสงค์ของหลินเยว่หรูว่าต้องการโยนเคราะห์ให้คนอื่น ลั่วหัวเอ๋อร์พยักหน้าเล็กน้อยแล้วค่อยเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง .....อีกทางด้านหนึ่ง เมื่อหลินซานมาถึงเจียงจง ฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยก็เดินออกมาจากทางออกของเมืองชิงหลงที่อยู่ในเจียงจงพอดี เมื่อเห็นฉู่เฉิน หลินซานก็รีบเข้าไปต้อนรับแล้วเอ่ยด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มว่า “คุณฉู่ ผมได้รับคำสั่งจากคุณนายให้มารับคุณครับ” ฉู่เฉินมองหลินซานแวบหนึ่งแล้วขมวดคิ้วกล่าวว่า “คุณนาย? คุณนายไหน?”“คุณนายของบ้านชื่อหลินเยว่หรูครับ!”หลินซานรีบแนะนำตัวเองฉู่เฉินถึงค่อยพยักหน้า แล้วจูงมือหลิงเสวี่ยเดินไปยังรถเอสยูวีที่จอดอยู่ทางด้านข้าง“ไปกันเถอะ”ฉู่เฉินจูงหลิงเสวี่ยมานั่งที่เบาะหลัง แล้วออกคำสั่งอย่างเฉยชา หลินซานสตาร์ตรถทันที ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังโรงแรมในชานเมืองปินเฉิน หลายชั่วโมงต่อมา รถก็จอดอยู่ที่หน้าประตูโรงแรม“คุณฉู่ครับ เนื่องจากโรงแรมนี้อยู่ใกล้กับตระกูลลั่วมากที่สุด ดังนั้นเลยจัดเตรียมห้องเพ
เมื่อลั่วเทียนเต๋อเอ่ยคำพูดนี้ออกมา ลั่วหัวเอ๋อร์ก็อดรู้สึกหนักอึ้งในใจไม่ได้!เธอเคยเจอเจ้าสำนักน้อยคนนั้นแค่ครั้งเดียว แต่ว่าต่อให้เห็นผ่าน ๆ แค่แวบเดียวเท่านั้น เธอก็ดูออกได้ไม่ยากว่า นั่นเป็นคนไร้ประโยชน์ที่ดูดีแค่ภายนอกตามมาตรฐานเลย ถ้าต้องแต่งกับผู้ชายแบบนั้นจริง ๆ ชีวิตนี้ของเธอมีหวังได้จบสิ้นแล้วไม่ใช่หรือไง?และถ้าครั้งนี้กัวเฟิงช่วยตระกูลลั่วให้ผ่านพ้นวิกฤติได้จริง ๆ เธออยากปฏิเสธการแต่งงานก็คงไม่ได้แล้ว“เจ้าสำนักน้อย? ไอ้กัวเฟิงนั่นมันตัวอะไรกัน! ลูกสาวฉันจะไปแต่งงานกับเขาได้ยังไง!”หลินเยว่หรูกัดฟันกรอด ดึงลั่วหัวเอ๋อร์ให้มาอยู่ด้านหลังตัวเอง ก่อนจะเอามือชี้หน้าลั่วเทียนเต๋อแล้วพูดว่า “ไอ้คนแซ่ลั่ว คุณเป็นคนหาเรื่องเอง เลิกลากพวกเราแม่ลูกเข้าไปเกี่ยวข้องได้แล้ว” พอลั่วเทียนเต๋อได้ยินคำพูดนี้ โทสะก็พุ่งพล่านขึ้นมาเช่นกัน ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวด้วยใบหน้าแดงก่ำว่า “ดี! คุณมันแพศยาไร้ยางอาย รีบไสหัวออกไปจากบ้านตระกูลลั่วเดี๋ยวนี้เลยนะ!”“ไม่ต้องพึ่งตระกูลหลินของพวกคุณ ฉันก็จัดการเรื่องนี้ได้อยู่ดี!” อะไรนะ?หลินเยว่หรูถลึงตาใส่ลั่วเทียนเต๋อ กัดฟันกรอแล้วกล่าวว่า “คุณ
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณฉู่”หลินเยว่หรูขอบคุณเป็นล้นพ้นแล้ววางสายไปแต่หลินเจิ้งไท่ที่อยู่ทางด้านข้างกลับมองไปยังฉู่เฉินด้วยความสงสัยเขาอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นเจ็ด แต่หลินเยว่หรูกลับให้ฉู่เฉินช่วยต่อกรกับยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นเก้าเหรอ?ลูกสาวของเขาคงไม่ได้โดนฉู่เฉินเอาจนโง่งมไปแล้วใช่ไหม?แต่พอขบคิดให้ละเอียด ด้วยสถานะของฉู่เฉินในตอนนี้ ระดับสร้างรากฐานชั้นเก้ายังไม่อยู่ในสายตาเขาจริง ๆ ต่อให้ฉู่เฉินเป็นแค่คนธรรมดา แต่ใครจะกล้าแตะต้องเขาแม้กระทั่งปลายนิ้ว? “หัวหน้าจ้าว เมื่อกี้คุณบอกว่าจะพาผมไปส่งที่เจียงจงเหรอครับ?” ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง จิบชาแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “แน่นอนสิครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณฉู่มาที่เมืองชิงหลง ผมกับผู้เฒ่าหลินจะต้องออกมาต้อนรับสิบลี้ ไปส่งสิบลี้อย่างแน่นอน” จ้าวเต๋อฉวนพรูลมหายใจยาวออกมา ในที่สุดก็จะได้ส่งไอ้ตัวซวยคนนี้ออกไปสักทีเมื่อเห็นฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยลุกขึ้น หลินเจิ้งไท่ก็รีบตามไป คนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าตรงไปทางทางออกฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเจียงจงทันที ......อีกทางด้านหนึ่ง หลินเยว่หรูเพิ่งจะวางโทรศัพท์ลง ลั่วเทียนเต๋อก็ตบโต๊ะด้วย
“คุณฉู่ ตอนนี้ลูกชายของฉันฟื้นแล้ว หมอบอกว่าพักอีกหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ที่ฉันโทรหาคุณครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หลินเยว่หรูลังเลอยู่นาน ก่อนจะกล่าวต่อ “ไม่ทราบว่าช่วงนี้คุณฉู่พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?”“ช่วงนี้... คงไม่มีเวลาไปไปเยี่ยมเยียนเส้นทางที่ร่มรื่นของคุณหรอกครับ”ขณะที่ฉู่เฉินกล่าว ก็หันศีรษะไปมองหลิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆเมื่อเทียบกับหลิงเสวี่ยแล้ว สุดท้ายหลินเยว่หรูก็ยังด้อยกว่าอยู่ระดับหนึ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ในแง่ของความอดทน แม้ว่าหลิงเสวี่ยจะเป็นมือใหม่ แต่ความอดทนของเธอก็ดีกว่าหลินเยว่หรูไม่น้อยหลังจากศึกหนักเมื่อคืนนี้ หลิงเสวี่ยไม่เพียงแต่ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่กลับได้รับการพัฒนาอย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังมีร่างกายพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงฉู่เฉินไม่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินเยว่หรูยังคงมีร่างกายเป็นกระถางรับซึ่งเป็นเพียงการเล่นสนุกเท่านั้นและฉู่เฉินก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆหลินเยว่หรูที่ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “คุณฉู่คะ ฉัน... ฉันมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้