แชร์

บทที่ 575

ผู้เขียน: มู่โร่ว
จ้านเฉิงอิ้นและเหล่าผู้นำ ทั้งหมดต่างยืนอยู่บนสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุด ใช้กล้องส่องทางไกลมองไป

พื้นที่ราบใต้ยอดเขาสองสามแห่ง เต็มไปด้วยผู้คนแน่นขนัด

ทัพใหญ่เจ็ดแสนนาย ยาวเหยียดเป็นกิโลเมตร มองไม่เห็นที่สิ้นสุด

พวกเขาล้วนสวมชุดเกราะ มือถืออาวุธ บุกโจมตีเข้ามาทางฐานที่มั่นของกองทัพตระกูลจ้าน

ส่วนกองทัพตระกูลจ้านที่เมื่อคืนเหน็ดเหนื่อยมาทั้งคืน และพวกชาวบ้าน ทุกคนสะดุ้งตื่นเพราะเสียงอึกทึก

พวกเขาเพิ่งนอนได้ยังไม่ถึงสองชั่วยาม เบิกตาสะลึมสะลือพลางลนลานสวมชุดเกราะ พกอาวุธติดตัว และถูกผลักไปบนสนามรบอันโหดร้ายทั้งอย่างนี้

หยางชิงเหอคิดไม่ถึงว่า มู่ฉีซิวจะบุกโจมตีเข้ามาจริง ๆ

คนของเขาต้องยังไม่ถึงเมืองหลวงเป็นแน่

ก้าวนี้ของเขา เป็นการเสี่ยงอันตรายเพราะเข้าตาจน

จ้านเฉิงอิ้นมองทัพศัตรูที่ทอดสายตามองไปไม่เห็นจุดสิ้นสุด พลางถามหยางชิงเหอ “เจ้าบอกว่า เมื่อมู่ฉีซิวเห็นกระบอกเหล็กเหล่านี้จะถอยทัพ!”

หยางชิงเหอพยักหน้า “ใช่!”

“หากเป็นเมื่อวาน มีความเป็นไปได้เพียงหกส่วน เช่นนั้นวันนี้มีความเป็นไปได้เก้าส่วนที่จะถอยทัพ!”

เนื่องจากทัพกองกำลังหลักของมู่ฉีซิวไม่ได้มา กำลังอยู่ระหว่างทางไปเมืองห
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 576

    กระบอกไม้ไผ่สิบกว่าอัน ใหญ่กว่าที่ทำเมื่อวานหนึ่งเท่าหยางชิงเหอเห็น ก็เป็นกังวลเล็กน้อย“ไม่แน่ว่าจะใส่หน้าไม้ราชวงศ์ได้!”หวังเซิ่งกล่าว “ข้าขอลองหน่อย!”เขาใช้สายสองเส้นตรึงกระบอกไม้ไผ่ก่อนยิงออกไป ดึงสายจุดไฟ...ครั้นยิงหน้าไม้ออกไป...มู่ฉีซิว เยี่ยนซวี่ แม่ทัพลั่ว หลัวซู่ม่อเป่ยอ๋องทุกคนอยู่หน้าสุดของกองกำลังพวกเขาเพิ่งเดินมาถึงใต้หุบเขาแห่งหนึ่ง...ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงอึกทึกดังตูมเสียงหนึ่งจู่ ๆ บนยอดเขาก็มีเสียงระเบิดดังอึกทึกหลังจากนั้น ม้าก็อยากวิ่งหนีไปทุกทิศทุกทาง ราวกับตกใจทว่าวินาทีถัดมา ก็มีหินก้อนมหึมากลิ้งตกลงมาจากบนยอดเขาเนื่องจากหลุมลึกที่เกิดจากการระเบิด ทำให้หินผุกร่อนกลิ้งตกลงมาอย่างต่อเนื่องม้าของทหารม้าด้านหน้า วิ่งเตลิดไปคนละทิศคนละทาง เหยียบทหารไปไม่น้อยส่วนทหารที่อยู่เบื้องหลัง ครั้นเห็นดังนั้นก็รีบถอยหลังคนที่อยู่ด้านหน้าถอยหลัง คนที่อยู่ด้านหลังเบียดไปด้านหน้า การเดินหน้าของทัพใหญ่พลันเข้าสู่การชะงักหลัวซู่ม่อเป่ยอ๋องรีบรั้งบังเหียน พร้อมตะโกน “ทุกคนทำให้ม้าสงบ สงบสติ...”เมื่อเยี่ยนซวี่ได้ยินเสียงแสนคุ้นเคยนี้ สีหน้าก็ซีดเผือด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 577

    ครั้นมู่ฉีซิวเห็นภาพนี้ นัยน์ตาก็สั่นเครือ เขาหันหัวม้า แล้วตะโกนกับอีกสามคนว่า“วิ่ง วิ่งเร็วเข้า สู้ไม่ไหว...”“พวกเขามีปืนใหญ่!”พูดจบเขาก็ควบม้าเผ่นแนบออกไปองครักษ์อย่างไม่คิดชีวิตเขาเพิ่งหนีออกไปได้ไม่ถึงยี่สิบเมตร หินก้อนใหญ่ตรงที่ยืนเมื่อครู่ ก็เกิดเสียงอึกทึกตึงตังหินก้อนใหญ่พลันระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระเด็นออก แตกกระจัดกระจายร่วงลงมานายทหารนับสิบที่ยืนอยู่ตรงนั้นถูกระเบิดได้รับบาดเจ็บหลายคนถูกระเบิดตายคาที่!ทว่าครั้นหลัวซู่ม่อเป่ยอ๋องเห็นภาพนี้ มือที่กุมบังเหียนอยู่ก็กำขึ้นเป็นหมัด เส้นเลือดดำที่หลังมือปูดขึ้นมาภาพนี้ เขาคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่งทัพกองกำลังหลักม่อเป่ยของเขา ก็พ่ายแพ้ให้กับดินระเบิดของกองทัพตระกูลจ้านตอนนี้ไม่คิดเลยว่าดินระเบิดของพวกเขาจะยกระดับแล้ว สามารถใช้อุปกรณ์ติดตั้งทำให้เกิดการลุกไหม้ได้ตลอดเวลา มิหนำซ้ำยังกำหนดจุดระเบิดได้อีกด้วยมู่ฉีซิวเองก็เกือบถูกระเบิดตายแล้วหากเขาช้าไปอีกก้าวหนึ่ง...ต้องถูกระเบิดตายอย่างแน่นอน!แม้ว่าตอนนี้ เหล่าองครักษ์ของเขาจะช่วยเขาสกัดกั้นควันหลงของดินระเบิดมีองครักษ์ถูกระเบิดตายส่วนหลังของเขาเต็มไป

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 578

    ทัพใหญ่หยุดชะงักในฝูงชนแหวกออกเป็นทางขึ้นมาเส้นหนึ่งกองทัพธงเหลืองครั้นได้ยินว่าไม่ต้องทำศึกแล้ว ทั้งหมดก็ปกปิดรอยยิ้มแล้วออกไปตามมู่ฉีซิวพร้อมกันพวกเขาเป็นเพียงกองกำลังกบฏ แม้กองทัพตระกูลจ้านจะมีเพียงห้าหมื่นคนแต่ ได้ยินมาว่าอุปกรณ์สวมใส่ของกองทัพตระกูลจ้านดี!อาวุธของกองทัพตระกูลจ้านแหลมคมกองทัพตระกูลจ้านมีดินระเบิดที่มีพลานุภาพสูง...วันนี้นับว่าได้เห็นจะ ๆ กับตาแล้วดินระเบิดสองครั้ง ระเบิดพวกเขาไปยี่สิบกว่าคน หากตกลงท่ามกลางผู้คน คงจะระเบิดตายเป็นเบือมากขึ้นหากรู้ พวกเขาไม่ได้แตะกระทั่งชายเสื้อของกองทัพตระกูลจ้านผู้นำจะถอยทัพพวกเขาอยากรีบถอยทัพใจจะขาดพวกเขาทำเพื่อประทังชีวิตเท่านั้น เพื่อให้ได้มีชิวิตอยู่ในกลียุค ก็ล้วนเสียดายชีวิตมากทั้งสิ้น!ทหารเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยเห็นกองทัพธงเหลืองของมู่ฉีซิวไปแล้ว ต่างก็พากันมองไปที่หลัวซู่ม่อเป่ยอ๋อง...พวกเขาล้วนมีปมในใจเพราะดินระเบิดแล้ว!เมื่อครู่ยิงกระสุนปืนใหญ่มาสองครั้ง ทั้งหมดล้วนล้มตัวนอนลง พลางใช้สองมือกอดหัว หลบอยู่เบื้องหลังสิ่งกำบังความกลัวที่พวกเขามีต่อดินระเบิด ก่อตัวเป็นเงื่อนไขการตอบสนองกลับ มีการตอบส

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 579

    เสียวอู่วางหน้าไม้ราชวงศ์ฉินลง เขายิงลูกศรสองดอกออกไปพร้อมกัน เรี่ยวแรงแข็งแกร่งไม่เท่าพี่หวังเซิ่ง เล็งเป้าบิดเบี้ยว...ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทัพใหญ่เจ็ดแสนก็ถูกทำให้ตกใจกลัวและหลับไปทั้งอย่างนี้เขาพลันเลื่อมใสในตัวแม่นางหยางผู้นี้ขึ้นมาวิธีนี้ของแม่นางหยาง ไม่เพียงช่วยกองทัพตระกูลจ้านเอาไว้ได้ แต่ยังช่วยชาวบ้านรอบ ๆ ไปด้วย...และยังดึงสุดยอดโรงงาน ภูเขาเหมืองกลับมา บุกเบิกที่หลายพันหมู่รอบ ๆชาวบ้านไม่ต้องเร่ร่อนไปทั่วอีกต่อไปสายตาของหยางชิงเหอมองไปที่เสียวอู่ “ยิงหน้าไม้ราชวงศ์ฉินได้ไม่เลวนี่ ข้าจะบอกกับท่านแม่ทัพใหญ่ ให้เขาตบรางวัลให้เจ้า!”พูดจบ หยางชิงเหอก็หยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมา แล้วเปิดช่องสื่อสาร“เห็นหรือไม่ พวกเขาถอยทัพแล้ว สกัดกั้นตอนนี้ยังทัน...”วินาทีถัดมาก็ได้ยินจ้านเฉิงอิ้นตะโกนขึ้นว่า “เตรียมหิน ผลัก...”หลังจากนั้นก็มีเสียงชาวบ้านพร้อมใจกันผลักดันแว่วดังขึ้นมาจากในวิทยุสื่อสารเสียงหินภูเขากลิ้งตกปนกับเสียงระเบิดเป็นบรรดาระเบิดกระบอกไม้ไผ่ที่ซื่อเมิ่งผลิตออกมาเมื่อวาน ตอนนี้ส่งไปใช้ในสนามรบหลังจากนั้น เสียงเข่นฆ่านานาชนิดก็แว่วดังขึ้นมา*บนเขา จ้านเฉ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 580

    ทหารเพิ่งเข้ามาในทัพ ยังไม่เคยผ่านการฝึกฝนระบบทางการ จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างไร?สิ่งที่เขาต้องจัดการก็คือ ทหารผ่านศึกที่ผ่านมาร้อยสนามรบ มีประสบการณ์ที่จ้านเฉิงอิ้นพาออกมาจากด่านเจิ้นกวน อีกอย่างคือ ห้าหมื่นคนที่เซี่ยเวยนำไปยังแคว้นเยี่ยนที่สายของเขากล่าวในสาส์นลับ...ขอเพียงเขาไปขอให้ฮ่องเต้ต้าฉี่โยกย้ายกองทัพตระกูลจ้านแม้ฆ่าจ้านเฉิงอิ้นไม่ได้ ก็ยังทำให้เมืองหลวงต้าฉี่ว่างลงได้เขาแบ่งส่วนหนึ่งขึ้นเหนือ แล้วเอาเมืองหลวงที่ว่างลงมาโค่นล่มการปกครองของราชวงศ์ต้าฉี่!เขาแบ่งเป็นสองทางการจู่โจมจ้านเฉิงอิ้นไม่ใช่เป้าหมายหลัก เป้าหมายหลักก็คือการโจมตีเมืองหลวง ตั้งตนเป็นฮ่องเต้ขึ้นครองบัลลังก์สูงสุดทว่าตอนนี้...บางทีผู้นำใต้บัญชาของเขาอาจเข้าเมืองหลวงได้สำเร็จแต่เขาอาจจะไม่มีชีวิตรอดเขาประเมินจ้านเฉิงอิ้นต่ำเกินไปไม่คิดเลยว่าเขาจะรอจังหวะบุกโจมตี และซื้อตัวกองทัพลู่เจ๋อซื้อตัวหยางชิงเหอที่สมควรตายที่สุดก็คือ หยางชิงเหอผลิตปืนใหญ่ออกมา!ตอนนี้จะทำเช่นไร?เขาถูกองครักษ์ปกป้องเอาไว้ตรงกลาง หลีกเลี่ยงการเหยียบย่ำฝูงชน หลบไปทางที่คนน้อย ๆเขา จะได้อยู่ที่นี่ไม่ไ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 581

    หยางชิงเหอ ซื่อเมิ่งและเสียวอู่ยืนอยู่บนที่สูง ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองเห็นมุมมองได้กว้าง หยางชิงเหอถามเสียวอู่ว่า “สามาถยิงสังหารได้หรือไม่?”“ระยะห่างเกินไป ไม่ได้หรอก!”จากนั้น เขาก็หยิบนกหวีดขึ้นมาแล้วส่งมันให้กับหยางชิงเหอ“หากเป่าสิ่งนี้ พี่เซิ่งก็จะรู้ว่าเจ้าตัดสินใจที่จะสังหารมู่ฉีซิว และเขาจะพยายามทำทุกวิถีทางทำมันให้สำเร็จ”หยางชิงเหอมองดูนกหวีดรูปสัตว์ที่ทำมาจากทองสัมฤทธิ์ พลางส่ายหน้า“เขาคนเดียวอันตรายเกินไป ช่างมันเถิด!”เสียวอู่เอานกหวีดเก็บกลับเข้าไปในอกเขายิ้มออกมาด้วยประหลาดใจ นี่พี่เซิ่งมีโอกาสแล้วสินะ!สงครามครั้งใหญ่ยังคงดำเนินต่อไป กองทัพหกแสนคนต้านทานเอาไว้อย่างเด็ดเดี่ยวอย่างไรก็ตามกองทัพตระกูลจ้าน ได้โรมรันกับพวกมันอย่างยากลำบากมากเช่นกันทหารใหม่กับประชาชน ต่างก็ใช้ธนูทดกำลัง และใช้ดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังไล่ฟันกองทัพแคว้นเยี่ยนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งกองทัพลู่เจ๋อได้สกัดกั้นกองทัพธงเหลืองที่หลบหนีไปที่แนวหน้าเอาไว้ เมื่อศัตรูได้มาเผชิญหน้ากัน ก็ยิ่งโกรธแค้นกันมากขึ้นทั้งสองฝ่ายโรมรันฆ่าฟันกันอย่างดุเดือดเนื่องจากกองทัพลู่เจ๋อมีอุปกรณ์สวมใส่ที่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 582

    เหล่าทหารเจนศึกหลายคนกำลังพยายามประคับประคองอย่างยากลำบาก ทว่าพวกเขาเป็นเพียงไม้โดดเดี่ยวที่ยากจะประคองเอาไว้ได้ เนื่องจากฮ่องเต้แห่งแคว้นเยี่ยนได้สิ้นพระชมน์อย่างกะทันหัน พระองค์ไม่มีทายาท แคว้นเยี่ยนไม่มีผู้ใดให้สืบทอดในตอนแรกทุกคนต่างก็มีใจทว่าไร้แรงกำลัง กองทัพที่ไร้เครื่องยึดเหนี่ยว ก็เหมือนกับผืนทรายที่กระจัดดระจายบางทีพวกเขาเองอาจจะสิ้นหวังจนหมดสิ้น เพราะไร้หนทางที่จะออกไปจากวงล้อมที่แน่นหนาเช่นนี้ได้มีบางคนที่จับจ้องไปทางศพของเยี่ยนซวี่อยู่ตลอดเวลา การเคลื่อนไหวของมือจึงยิ่งงุ่มง่ามมากขึ้นเรื่อย ๆ มีบางคนที่นอนลงไปบนพื้นทั้งอย่างนั้น ไม่มีความปรารถนาที่จะต่อสู้เริ่มมีคนปลดอาวุธยอมจำนนแล้วทั้งยังมีคนที่นั่งลงไปกับพื้น แล้วพึมพำกับตัวเองว่า “สิ้นแล้ว ฮ่องเต้สิ้นพระชนม์แล้ว กองทัพแคว้นเยี่ยนพ่ายแพ้แล้ว กลับไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว!”“พวกเราต้องตายในต่างแคว้นแดนไกล ไม่สามารถกลับไปที่แคว้นเยี่ยนได้อีกต่อไปแล้ว ท่านแม่ น้องหญิง ลูก ๆ ทุกคน ข้าต้องขอโทษพวกเจ้าด้วยจริง ๆ ”เหล่าทหารหันไปทางแคว้นเยี่ยนแล้วโขกศีรษะคารวะจากนั้นก็หยิบมีดสั้นขึ้นมาหมายที่จะบั่นคอของตนเอง ทว่าใน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 583

    แม่ทัพผู้เฒ่าผู้นั้นแค่มองเพียงปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นจ้านเฉิงอิ้น ผู้ที่ยิงสังหารฮ่องเต้แห่งแคว้นเยี่ยนมือที่กำด้ามดาบของเขากำลังสั่นเทาแต่ไหนแต่ไรเขาก็เกลียดชังจ้านเฉิงอิ้นมากมาโดยตลอด ทว่าเพื่อชีวิตของคนนับแสนคนแล้ว เขาจำต้องกัดฟันถามหาคำมั่นจากจ้านเฉิงอิ้น!“เจ้าบอกว่าจะไม่สังหารพวกเขางั้นหรือ!”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “แต่ไหนแต่ไรกองทัพตระกูลจ้านก็ไม่ทารุณเฉลยศึกอยู่แล้ว ทว่างานที่ประชาชนทั่วไปควรกระทำ พวกเขาก็ต้องกระทำด้วยเช่นกัน พวกเราไม่เลี้ยงพวกไร้ประโยชน์!”เมื่อได้ฟังคำตอบเช่นนี้ ก็นับว่าเขาได้ให้คำมั่นแล้วแม่ทัพผู้เฒ่าที่มีผมสีดอกเลาหัวเราะออกมาด้วยเสียงอันดัง รอยยิ้มโศกเศร้าและสิ้นหวัง ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ พลางหลั่งน้ำตาออกมา“ข้าคือแม่ทัพแห่งแคว้นเยี่ยน บัดนี้เยี่ยนอ๋องแห่งแคว้นเยี่ยนได้ตายไป และไม่มีแคว้นเยี่ยนอีกต่อไปแล้ว เช่นนั้นข้ามีชีวิตต่อไปก็คงไม่มีความหมาย! ”“ข้าเกิดมาเพื่อปกป้องแคว้นเยี่ยน ทว่าเยี่ยนอ๋องได้ตายไปแล้ว เช่นนั้นข้าก็จะติดตามไป…”จากนั้นเขาชูดาบใหญ่ขึ้นมา ครั้นเฉินขุยจะหยุดเขา ก็สายเกินไปเสียแล้ว…เขาปาดลำคอของตนเองอย่างรุนแรง จากนั้นก็

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status