ทุกคนรัวถามเธอชนิดพูดเออตอบเอง แอนนี่ได้เพียงแต่พูดอ้าปากค้างเพราะพูดอะไรไม่ทัน ก่อนทุกคนจะเห็นท่านประธานลี่หานเดินมาที่แผนก ทำให้ทุกคนต้องหยุดคุยกันแล้วรีบก้มหน้าคำนับท่าน แต่เขากลับมาหยุดยืนตรงที่แอนนี่ยืนอยู่“เก็บของเสร็จหมดหรือยัง”“เสร็จแล้วค่ะ ของแอนนี่มีไม่เยอะ”“นี่กาแฟของโปรดเรา พี่ให้คนลงไปสั่งมาให้” เขาพูดพลางส่งแก้วน้ำในมือมาให้ นี่แค่ได้ยินเธอคุยกับมารีอาว่าอยากกินเฉย ๆ ก็รีบหามาให้ เล่นเอาใจกันเสียขนาดนี้ ไม่หลงก็แย่แล้ว“แล้วไม่รอแอนนี่ลงไปสั่งเองล่ะคะ ถือมาให้ถึงที่นี่ทำไม”“ก็เห็นเมื่อกี้บอกว่าอยากกินไม่ใช่เหรอ พี่กลัวน้ำแข็งมันละลายเลยรีบเดินเอามาให้”“ไม่เห็นพี่หานต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่คะ” แอนนี่ยิ้มเขิน“ไหนของมีอะไรบ้าง มีอะไรให้พี่ช่วยถือไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง”“อืม งั้นเดี๋ยวพี่ให้ผู้ช่วยยกของเราเอาไปไว้ที่รถดีกว่า”“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”เธอส่งยิ้มให้เขาในขณะที่เขาก็ยิ้มอ่อนโยนกลับมาที่เธอ ภาพที่ทุกคนมองเห็นประหนึ่งว่ามีไฟสปอตไลต์ฉายส่องลงมาที่คนทั้งคู่แล้วพวกเธอและเขาเหล่านั้นเป็นตัวประกอบ~อย่าบอกนะว่า~ ทุกคนเริ่มส่งสายตามองหน้ากันไปมาเลิ่กลั่ก“ขอบคุณทุก
ป่วนรัก 1 - ประธานคนใหม่เสียงเคาะแป้นพิมพ์ของคอมพิวเตอร์ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ในค่ำคืนที่เงียบสงบของออฟฟิศชั้น 21 ของตึกสูงใจกลางเมืองหรูมารีอา หญิงสาววัยยี่สิบสี่ปี ซึ่งทำหน้าที่เป็นพนักงานฝ่ายบัญชีบริหารของบริษัท ยังคงทำรายงานสรุปงบประมาณประจำปีจนแทบลืมเวลา จากที่ตั้งใจจะปิดคอมพิวเตอร์กลับบ้านตอนทุ่มครึ่ง แต่ทว่าเมื่อเผลอทำงานจนเพลิน สุดท้ายก็ลากทำงานยาวไปจนเกือบจะสี่ทุ่ม เธอยกแขนขึ้นมาบิดขี้เกียจเล็กน้อย ก่อนจะยอมล่าถอยยอมแพ้กับงานมหาศาลตรงหน้า“เฮ้อ ไม่ไหว พักก่อนดีกว่า” มารีอาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู เพราะดันปิดเสียงเอาไว้เลยไม่รู้ว่าแฟนของเธอ ‘อนิรุต’ ทั้งโทร.ทั้งไลน์มาหาเธอนับสิบสาย เมื่อเห็นว่าเป็นสายและข้อความจากแฟนของเธอปรากฎมาที่หน้าจอ หญิงสาวถึงกับหน้าเสียพลางถอนหายใจออกมาทันที“ตาย ลืมไปเลยว่าวันนี้เป็นวันครบรอบที่คบกัน”จะว่าลืมที่เดียวก็ไม่ถูก เพราะเป็นเธอเองต่างหากที่ไม่ได้ให้ความสำคัญ และครั้งนี้ก็เช่นกัน ไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไรที่เธอทุ่มเทให้กับงานทำงานจนกระทั่งลืมวันสำคัญของเขาเธอรู้ดีว่า หลายต่อหลายครั้งที่อนิรุตพยายามนัดให้ไปหาที่คอนโดมิเนียม เพราะเขาอย
ในความเงียบมีเพียงเสียงรองเท้าส้นสูงตกกระทบพื้น ขาเรียวเดินไปเรื่อย ๆ จนสุดทาง ก่อนจะได้ยินเสียงกึกกักตรงมุมมืดของห้องรับแขกมุมชงกาแฟข้าง ๆ-หรือว่าผี-...มารีอาเกิดความกลัวจนทำหน้าแหยในทันที สองมือเริ่มกระชับกระเป๋าแน่นขึ้น และถึงภายในใจจะเต็มไปด้วยความกลัว แต่ก็ยังแพ้ความสงสัยที่ตัวเองมี เธอรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปตามเสียงแม้จะเต็มไปด้วยความกลัวอยู่ลึก ๆและเริ่มเดินเข้าใกล้ขึ้น ...ใกล้ขึ้นแต่ทว่า...เมื่อไปเธอเดินถึง กลับเจอแต่ความว่างเปล่า ไม่มีอะไรอย่างที่เธอคิดในตอนแรก! มารีอาส่ายหัวให้กับความฟุ้งซ่านของตัวเอง ก่อนจะเดินถอยหลังกลับออกมาพลั่กกกก !“ว้าย!`”หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว เพราะทันทีที่เธอหันหลังกลับ ใบหน้าของเธอก็ชนกับอกแกร่งของใครบางคนที่อยู่ด้านหลัง“โอย” เสียงโอดครวญก่อนเอาลูบหน้าผากตัวเองเบา ๆ“มาทำอะไรตรงนี้ ทำไมยังไม่เลิกงาน” เสียงทุ้มเรียบเอ่ยทักเธอขึ้นมาก่อน และนั่นทำให้มารีอาถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อพบว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคือประธานคนใหม่ของเธอเอง“อ่อท่านประธานลี่นะเอง ขอโทษค่ะพอดีฉันคิดว่ามีใครลืมปิดไฟหน้าห้องท่าน เลยจะมาเดินดูค่ะ” เธอชี้โบ้ชี้เบ้ไปที่ไฟที่เ
หลังจากลี่คุนเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง มารีอาได้แต่แอบเบะปากตามหลัง แม้ลึก ๆ เธอจะยอมรับในฝีมือที่เขาสามารถพลิกฟื้นธุรกิจของคุณตาที่โดนพิษเศรษฐกิจเล่นงานจนเกือบไม่รอดให้สามารถกลับมายิ่งใหญ่ได้แบบเดิมในเวลาแค่ครึ่งปีแต่… ถึงแบบนั้น ในสายตาของมารีอา ลี่คุนก็ยังคงเป็นผู้ชายที่ยังมีข้อติ ผิดกับรูปร่างหน้าตาที่สุดแสนเพอร์เฟกต์ของเขา นั่นก็คือ นิสัยที่สุดแสนจะเย็นชา เคร่งขรึมและเอาจริงเอาจังกับงานจนเกินไปมารีอาหันหลังกลับ เพื่อเดินออกจากสำนักงานของเธอเพื่อออกไปที่ลิฟต์ แต่ก็ยังไม่วายเหลียวหันกลับไปมองที่ห้องทำงานของประธานคนใหม่ผู้ชายคนนี้เหรอ...เฮอะ ติดลบค่ะ... ลี่คุนเดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ เขาทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ เพื่อจัดการงานที่อยู่ตรงหน้าต่อก่อนหน้าเขาเพิ่งรู้สึกหงุดหงิดจากการรับโทรศัพท์จากลี่เหม่ยหลินลูกสาวคนเล็กของอาเขาที่ชื่อลี่หลาน เธอโทรศัพท์มาบอกเขาว่าจะบินมาเที่ยวเมืองไทยเพื่อมาหาเขาในเดือนหน้าและเรื่องน่าเบื่อสำหรับเขาก็บังเกิด ลี่คุนรู้ดีว่าเหม่ยหลินคิดอะไรกับเขา หากแต่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอเลยแม้แต่น้อยนอกจากการที่เห็นว่าเธอเป็นน้อ
ภายในห้องของคอนโด เปิดไฟหรี่แสงไฟสีนวลสลัวพอให้มองเห็น มารีอาเดินย่องก่อนที่เท้าของเธอกลับสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่างที่อยู่ที่พื้นเมื่อเธอก้มลงไปหยิบมันขึ้นมาดูด้วยความสนใจ ก่อนจะเห็นว่าเป็นชุดเดรสรัดรูปสีแดง เรียวคิ้วสวยถึงกับขมวดคิ้วหากันในทันที“ชุดของใคร?” มารีอาพึมพำก่อนจะแว่วได้ยินเสียงบางอย่างที่ห้องนอน สองขาเรียวขยับเท้าค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ ทั้งในมือยังกำชุดสีแดงเอาไว้แน่นตับ ตับ ตับ !!“อาาา ซี้ด... แรงอีกค่ะ ที่รัก”“อึมม ซี้ด...”ทั้งเสียงครวญคราง ทั้งเสียงเนื้อกระทบกัน สลับกันไม่หยุดหย่อน มารีอาเผอขยำเสื้อรัดรูปสีแดงของหญิงสาวคนนั้นเอาไว้แน่น หัวใจดวงเล็กเต้นแรงเมื่อเสียงนั่นชัดเจนมากยิ่งขึ้นจวบจนเมื่อก้าวถึงประตูห้องที่เปิดที่เปิดเอาไว้แง้มอยู่“อ๊ะ อ๊ายยยย”“อาาาาาาาา”เสียงทั้งคู่หวีดร้องเมื่อถึงจุดสุขสม มารีอายกมือขึ้นปิดปาก ภาพที่ปรากฏตรงหน้า“คุณนี่มันสุดยอดมากเลย ลูกพีช” ชายหนุ่มที่ยังคร่อมร่างกดแช่อยู่บนร่างหญิงสาวเอ่ยขึ้น“แหม เทียบกับคู่หมั้นหน้าจืดของคุณได้หรือเปล่า”“ยัยแว่นนั่นน่ะเหรอ ผมเอาไม่ลงหรอก โคตรจืดชืด แถมยังเชยเป็นคุณป้า ผมก็แค่หมั้นไว้ตามคำสั่งคุณพ
“เออก็ได้ โอเคเพื่อน งั้นเต็มที่เลย แกจับฉันแปลงโฉมเลย คืนนี้ฉันจะล่าผู้ชาย” มารีอายกมือขึ้นมากำหมัดบอกตัวเองสู้“แกเนี่ยนะ ล่าผู้ชาย คิก คิก”แอนนี่อดขำท่าทางของเพื่อนที่สุดแสนจะเรียบร้อยไม่ได้ จะว่าไปขนาดมารีอาเพิ่งไปเจอคู่หมั้นของเธอที่กำลังติ๊ดชึ่งกับสาวอื่น ทว่าเพื่อนของเธอกลับไม่มีน้ำตาเลยสักหยด แต่ดูท่าตอนนี้เหมือนมารีอาจะเจ็บใจที่โดนดูถูกมากกว่า“งั้นปะ ลุยยยย”แอนนี่ลากมารีอาเข้ามาในห้อง ก่อนจับเธอนั่งลงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วหยิบคอนแทกต์เลนส์ที่เธอซื้อไว้สำรองเก็บไว้หลายคู่ออกมา พร้อมกับเครื่องสำอางชั้นดีมากมายกองตรงหน้า“พร้อมนะเพื่อน” แอนนี่ยิ้ม“อือ พร้อม” มารีอายิ้มกว้าง....ในคลับเฮาส์ชั้นดีที่มีแต่คนมีฐานะระดับไฮโซและมีบัตรวีไอพีการ์ดเท่านั้นที่จะเข้ามาได้ โชคดีที่แอนนี่เพิ่งได้บัตรสมาชิกมาจากหนุ่มหล่อไฮโซเจ้าของโรงงานที่ตามจีบเธออยู่ให้มา ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้จริงจังด้วยแค่คบไปเล่น ๆมารีอาดึงกระโปรงรัดรูปสีดำให้ลงมา เพราะรู้สึกว่ามันสั้นและรัดรูปจนเกินไป แถมเสื้อเกาะอกเอวลอย โชว์หน้าท้องแบนราบที่สวยงามของเธอ มันทำให้เธอรู้สึกแปลก ๆ เพราะไม่เคยแต่งตัวแบบเปิดเผยเนื้อตัวข
เพราะได้แต่แอบมองอยู่ห่าง ๆ จึงช้ากว่าหนุ่มเพลย์บอยคนอื่นที่เข้ามาตีสนิทสองสาว ลี่คุนกับวศินได้แต่หันมามองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมา“ไม่ทันละ” วศินยักไหล่“กูไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะจีบ กูไม่ยุ่งอยู่แล้ว ผู้หญิงชุดดำคนนั้น คงเป็นเพื่อนกับคนในบริษัทกู คนอื่นจะเอาไปพูดเสีย ๆ หาย ๆ ได้”“แต่ถ้ามึงจีบติด มึงจะได้หาข้ออ้างกับน้องเหม่ยหลินไง ว่ามึงมีแฟนแล้ว เธอจะได้เลิกมาตามตื้อมึงไง ไม่ดีเหรอ”ลี่คุนได้แต่ยิ้มแทนคำตอบ แต่ก็หันไปลอบมองสาวสวยในชุดดำ ที่เมื่อครู่เธอยอมรับแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากชายหนุ่มแปลกหน้ามาดื่ม ดูท่าเธอจะไม่ระวังตัวเอาเสียเลยที่ยอมดื่มแอลกอฮอล์แก้วนั้นไม่ช้า มารีอาก็สำลัก เพราะเธอเองก็ไม่คุ้นเคยกับแอลกอฮอล์สักเท่าไรท่าทางที่ไม่ประสีประสาของมารีอาทำให้ลี่คุนไม่อาจละสายตาจากเธอไปได้เลย ก่อนหน้านี้ยังมองเธอเป็นเหมือนพญาหงส์ พอเธอดื่มเข้าไปเท่านั้นแหละ เธอกลับเหมือนลูกนกหงส์หยกตัวเล็ก ๆ แทน ลี่คุนแอบยิ้มมุมปากไม่รู้ตัว ไม่รู้ทำไมตั้งแต่เจอเธอก็ละสายตาจากเธอไม่ได้เลยแต่ถึงกระนั้น มันก็แค่เป็นการประทับใจเล็ก ๆ เขาไม่ได้คิดจะไปจีบหรือทำความรู้จักเธอ อย่างที่บอกเขาเห็นว่าสาว
ลี่คุนก้มลงมองร่างสาวสวยที่ซบอยู่ตรงหว่างขาเขา พร้อมกับคราบอ้วกที่เปรอะเปื้อนเต็มเสื้อของเขา สลับกับเงยมองหน้าวศินที่ตกใจไม่แพ้กัน“เอาไงดีวะ” ลี่คุนเอ่ย เพราะรู้สึกจัดการสถานการณ์ตรงหน้าไม่ถูก ครั้นมองไปหาเพื่อนของเธอที่มาด้วย ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าหายไปไหน หรือว่าเพื่อนของเธอจะทิ้งสาวสวยคนนี้ไปกับแฟนเสียแล้วเขาก้มตัวลงไปอุ้มมารีอา เพราะไหน ๆ ทั้งเขาและเธอก็ตัวเปื้อนไม่แพ้กัน“ไปที่โรงแรมกูแล้วกัน เดี๋ยวให้คนเปิดห้องให้ จะได้ล้างอ้วกของมึงสองคน”“อืม เอางั้นก็ได้” นาทีที่กลิ่นอ้วกคละคลุ้งคงทำอะไรไม่ดีเท่ากับการล้างตัวให้เร็วที่สุด และโรงแรมของวศินก็อยู่ไม่ไกลกับคลับเฮาส์แห่งนี้วศินรีบกดโทรศัพท์สั่งลูกน้องที่โรงแรม ให้จัดการเตรียมห้องให้เพื่อนทันที“เดี๋ยวกูเคลียร์บิลทั้งของพวกเรากับโต๊ะเธอให้ มึงรีบไปเหอะ เหม็นฉิบหาย ส่วนเสื้อผ้าเดี๋ยวกูให้คนหาให้ แล้วเดี๋ยวรีบตามเอาไปส่งให้เปลี่ยน”“เออ ไว ๆ ด้วยล่ะ เดี๋ยวรอเธอตื่นกูค่อยไปส่งเธอที่บ้าน”ลี่คุนได้ข้อมูลเลขห้องจึงรีบตรงไปที่โรงแรม ส่วนพนักงานที่ได้รับคำสั่ง เมื่อเห็นลี่คุนมาถึงเขาก็รีบพาไปยังห้องที่เจ้านายสั่งเตรียมไว้ทันทีมารีอายังคงหลั
ทุกคนรัวถามเธอชนิดพูดเออตอบเอง แอนนี่ได้เพียงแต่พูดอ้าปากค้างเพราะพูดอะไรไม่ทัน ก่อนทุกคนจะเห็นท่านประธานลี่หานเดินมาที่แผนก ทำให้ทุกคนต้องหยุดคุยกันแล้วรีบก้มหน้าคำนับท่าน แต่เขากลับมาหยุดยืนตรงที่แอนนี่ยืนอยู่“เก็บของเสร็จหมดหรือยัง”“เสร็จแล้วค่ะ ของแอนนี่มีไม่เยอะ”“นี่กาแฟของโปรดเรา พี่ให้คนลงไปสั่งมาให้” เขาพูดพลางส่งแก้วน้ำในมือมาให้ นี่แค่ได้ยินเธอคุยกับมารีอาว่าอยากกินเฉย ๆ ก็รีบหามาให้ เล่นเอาใจกันเสียขนาดนี้ ไม่หลงก็แย่แล้ว“แล้วไม่รอแอนนี่ลงไปสั่งเองล่ะคะ ถือมาให้ถึงที่นี่ทำไม”“ก็เห็นเมื่อกี้บอกว่าอยากกินไม่ใช่เหรอ พี่กลัวน้ำแข็งมันละลายเลยรีบเดินเอามาให้”“ไม่เห็นพี่หานต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่คะ” แอนนี่ยิ้มเขิน“ไหนของมีอะไรบ้าง มีอะไรให้พี่ช่วยถือไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง”“อืม งั้นเดี๋ยวพี่ให้ผู้ช่วยยกของเราเอาไปไว้ที่รถดีกว่า”“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”เธอส่งยิ้มให้เขาในขณะที่เขาก็ยิ้มอ่อนโยนกลับมาที่เธอ ภาพที่ทุกคนมองเห็นประหนึ่งว่ามีไฟสปอตไลต์ฉายส่องลงมาที่คนทั้งคู่แล้วพวกเธอและเขาเหล่านั้นเป็นตัวประกอบ~อย่าบอกนะว่า~ ทุกคนเริ่มส่งสายตามองหน้ากันไปมาเลิ่กลั่ก“ขอบคุณทุก
ผู้จัดการจินพูดรัวมาก รัวจนทุกคนเงียบสนิท เพราะพูดแทรกไม่ทัน ในขณะที่ผู้จัดการจินก็ไม่ได้สนใจยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาป้อย ๆ ตอนมารีอาอยู่กลับไม่เคยทำดีต่อเธอ พอไม่มีเธอขึ้นมา ก็นะ… เลยรู้ซึ้งถึงคุณค่าสิ้นเสียงของผู้จัดการจิน ตามด้วยเสียงเริ่มฮือฮาเพราะเริ่มคล้อยตามเพราะรู้สึกสงสารมารีอาขึ้นมาแต่ทว่า จู่ ๆ ผู้หญิงสวยคนนั้นกลับผละแขนจากลี่คุน แล้วเดินเข้ามาสวมกอดผู้จัดการจิน ท่ามกลางความตะลึงของทุกคน“มาร์ก็คิดถึงผู้จัดการจินนะคะ”~เอ๊ะ ! เสียงคุ้น ๆ~ผู้จัดการรีบเช็ดน้ำตา ในขณะที่มารีอาขยับตัวออกจากอ้อมกอด ผู้จัดการจินเริ่มเพ่งมองใบหน้าของมารีอาอย่างชัด ๆ“มาร์ มารีอา นี่ นี่ คือมารีอาจริง ๆ เหรอ”“ว่าไงครับ จะลาออกอีกไหม ?” ลี่คุนถามย้ำอีกรอบด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ“คะ คือ คือว่า… โอยจะเป็นลม” ...ในขณะที่ฝ่ายการตลาด ไม่รู้ว่าที่ข้างล่างเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เพราะพนักงานบางส่วนโดยเฉพาะที่ตำแหน่งต่ำลงมาก็ไม่ได้ลงไปต้อนรับทั้งหมดเนื่องจากต้องจำกัดพื้นที่“เฮ้อ คิดถึงยัยแอนจังเมื่อไหร่จะกลับมาน้า” เจ้อาร์ตบ่นพึมพำในขณะที่คนน้ำแข็งในแก้วกาแฟคาปูชิโน่เย็นที่ถืออยู่ในมือไปมา ยิ่งเป็นเครื่องดื่มกาแฟ
แต่อย่างน้อย วันนี้ก็ไม่มีแล้ว …มารีอาสาวพนักงานบัญชีที่ใส่แว่นหนา ๆ หน้าจืด ๆ คนที่ขี้เกียจแต่งหน้าแล้วใช้คำว่างานเยอะเอาแต่เฝ้าอยู่หน้าคอม คนเฉิ่ม ๆ ที่สวมเสื้อตัวโคร่ง ๆ ชอบทาแค่แป้งฝุ่นกับลิปมันมาทำงาน ตอนนี้เธออยู่กับเจ้าแม่สายแซ่บอย่างแอนนี่ เลยถูกจัดการแปลงโฉมเพื่อนเบา ๆ ด้วยการแต่งหน้าอ่อน ๆ รับกับใส่คอนแทกต์เลนส์สีน้ำตาลเข้ม ผมที่เคยมัดเรียบจนตึงเป๊ะ ถูกปล่อยมันออกมาให้เห็นความเงางามจนเหมือนเธอเป็นเคลือบมาอย่างไรอย่างนั้น ยิ่งผมดำเงาของเธอในตอนนี้ตัดกับสีผิวขาว ๆ ของมารีอา ดูผ่าน ๆ แบบไม่สังเกตดี ๆ ราวกับคนละคนกับสาวแว่นคนนั้นอย่างลิบลับแต่กลับกัน สาวแสบอย่างแอนนี่ที่ชอบใส่กระโปรงสั้นแค่คืบ หรือถ้ามีตรงไหนพอจะโชว์ได้เธอจะต้องใส่วับแวม ๆ อยู่เสมอ กลับโดนว่าที่เจ้าบ่าวหวงจนเธอต้องเปลี่ยนมาแต่งตัวมิดชิดขึ้น อย่างชุดรัดรูปเซ็กซี่ ๆ โดนเขาสั่งเองให้เอาไปเก็บหมด แต่ถ้าเธออยากจะใส่ก็ได้นะ แค่แลกกับคำขู่พร้อมการกระทำจากลี่หานที่ว่า...ถ้าแต่งตัวเซ็กซี่ออกจากบ้านเมื่อไหร่… จะโดนเขาจับถอด ! ช่วยไม่ได้ พอเห็นเมียตัวเองแต่งตัวเซ็กซี่แล้วมันเกิดอารมณ์ เลยต้องขอจัดการเธอก่อนเบา ๆ เล่นเอาแ
ข่าวลือเรื่องบริษัทใหญ่ระดับเอเชียอย่าง Lee Group ว่าสองพี่น้องตระกูลลี่จะมีการจัดแต่งงานเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ติดก็แค่… ทางสองพี่น้องตระกูลลี่ ต้องเดินทางกลับมาสู่ขอคนรักของพวกเขาที่เมืองไทยอย่างเป็นทางการก่อน จึงค่อยประกาศกำหนดวันแต่งงานให้ทราบโดยทั่วกันสำหรับเมืองไทย พนักงานหลาย ๆ คนทราบว่าประธานหนุ่มหล่ออย่างลี่คุนเป็นที่แน่ชัดอยู่แล้วว่าเจ้าสาวคือมารีอา พนักงานสาวบัญชีจอมเฉิ่ม กระนั้นหลายคนก็ยังคงจดจำภาพมารีอาสาวแว่นคนนั้นอยู่ดี หรือต่อให้บางคนที่เคยเห็นตอนเวลาทั้งคู่ออกเดตหรือตอนไปฝากท้อง ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงสวย ๆ คนคนนั้นคือมารีอาและแน่นอนข่าวลือก็คือข่าวลือ มักจะโดนแต่งแต้มจนเกินความเป็นจริงเสมอ โดยเฉพาะสาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ เพราะต่อให้เรื่องมีความจริงแค่หนึ่งเดียว แต่พวกเราก็มีความพิเศษสามารถพูดต่อ ๆ กันจนคนสุดท้ายที่ได้ยิน สรุปเป็นตัวเลขที่ร้อยได้… พวกเราเก่ง ^ ^และก็ตามข่าวที่ลือกันสุดฮิตในตอนนี้ คือเรื่องที่ประธานลี่คบซ้อน ! และที่ประธานลี่เลือกมารีอาแต่งงานด้วยเพราะว่าเธอพลาดท้องแค่นั้นเอง ส่วนผู้หญิงสวย ๆ อีกคน ที่หลายคนเคยเห็นก็เป็นแค่คู่ขาผู้จัดการจินเองก็ไม่ต่
เพียงครู่ก็มีเสียงดนตรีบรรเลงมาจากด้านหลังของเรือยอชต์“อะ เสียงอะไรน่ะ” มารีอาหันขวับไปตามต้นเสียง เพราะอยู่ ๆ ก็มีเสียงไวโอลินบรรเลงดังขึ้นมา แถมอยู่ ๆ ก็มีกลุ่มคนแต่งกายด้วยชุดสูทเต็มยศ แต่กลับพากันยกกระถางดอกไม้เป็นพุ่ม ๆ มาวางตกแต่งบริเวณรอบ ๆ ด้านหน้าของเรือที่พวกเธอนั่งอยู่ จนสองสาวลุกขึ้นยืนแบบงง ๆ“อะไรอะแก” แอนนี่หันไปมองหน้ามารีอาด้วยความแปลกใจ ก่อนที่สองสาวจะหันรีหันขวางไปตามเสียงเพลงด้วยสีหน้าประหลาดใจ ไม่ช้า นักสีไวไอลินก็เดินบรรเลงออกมา พร้อมกับลี่หานและลี่คุนที่เปลี่ยนเป็นชุดสูทเรียบร้อย พาเดินออกมาพร้อมกับช่อดอกไม้ช่อใหญ่แอนนี่กับมารีอาถึงกับนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนที่แอนนี่จะคลี่ยิ้มออกมา เธอมองสบตากับลี่หานที่ส่งยิ้มมาให้เธอด้วยสายตาแวววาวส่วนมารีอาไม่ต้องพูดถึง แค่เห็นลี่คุนที่เดินออกมาพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่ เธอถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง ดวงตาคู่ใสมีน้ำตาซึมเอ่อออกมาด้วยความตื้นตันสองหนุ่มยื่นช่อดอกไม้ให้พวกเธอรับไว้ ก่อนจะนั่งคุกเข่าตรงหน้า พร้อมยื่นกล่องแหวนเพชรให้กับสองสาว“แต่งงานกันนะครับ” สองพี่น้องตระกูลลี่เอ่ยขึ้นแทบจะพร้อม ๆ กัน แม้อะไร ๆ สำหรับพวกเขาแล
“นั่นสิเนอะ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อ จากผู้ชายที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเอื้อมถึง กลับมาเป็นคนที่ใกล้ตัวที่สุด แต่ก็นะเรื่องทั้งหมดก็เริ่มมาจากแกนั่นแหละแอนนี่ ถ้าวันนั้นแกไม่จับฉันแปลงโฉมจนไปเจอลี่คุน วันนี้ฉันกับเขาอาจจะแค่เดินสวนทางกันธรรมดา ๆ ในฐานะเจ้านายกับลูกน้องก็ได้”“แหมแก ก็ว่าไป ไม่หรอก… ระหว่างแกกับท่านประธานมันเป็นเรื่องของพรหมลิขิตต่างหากล่ะ ที่ทำให้แกกับประธานลี่ได้รักกัน”“ใช่เหรอ แต่ส่วนนึงก็มาจากแกนะ อืมแต่ก็นะ บางทีโชคชะตาหรือพรหมลิขิตอาจทำให้ฉันกับเขาได้รักกันจริง ๆ ก็ได้ แต่… ของแกไม่ใช่นะแอนนี่ แกกับพี่หานเป็นความตั้งใจล้วน ๆ ไม่ใช่พรหมลิขิต” มารีอายิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องที่รู้มาจากลี่คุน“บ้าน่า… ถ้าไม่ใช่พรหมลิขิต แล้วจะเป็นความตั้งใจได้ยังไง”“ก็ตอนแรก ฉันก็นึกว่าเป็นเพราะว่าลี่คุนกับฉันอยากจับคู่ให้แกกับพี่หาน เขาถึงยอมแต่งกับแก ที่ไหนได้ มาตอนหลังถึงรู้ว่าเพราะพี่หานเขาแอบปิ๊งแกจากรูปในไอจีก่อนต่างหากล่ะ ไม่งั้นคนอย่างพี่หานจะยอมตกลงไปเมืองไทยทำไม”“ชิ ทำมาพูดไป” แอนนี่ยิ้มเขิน ถึงลี่หานเองก็เคยบอกว่าแอบชอบเธอจากไอจี “เอาจริงนะยัยมาร์ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไรว
เกือบเที่ยงที่แอนนี่และลี่หานลงมากินข้าวมื้อแรกของวัน เล่นเอาทุกคนที่มานั่งรอรับประทานกลางวันมองหน้ากันไปมาแต่ก็อดอมยิ้มไม่ได้ นาน ๆ ทีจะเห็นคนอย่างลี่หานยอมสนใจอย่างอื่นมากกว่างาน และนาน ๆ ทีจะเห็นคนนิ่งขรึมแบบเขาออกอาการขนาดนี้แต่ถึงกระนั้น มิรินก็ยังอดเป็นห่วงลูกชายคนโตไม่ได้ เพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่ลี่หานจะนอนตื่นสาย เขาเป็นคนที่ตื่นเช้าเอามาก ๆ มาแต่ไหนแต่ไร เธอเลยไม่รู้ว่าที่ลี่หานลงมากินข้าวเอาป่านนี้เพราะยังรู้สึกไม่สบายอยู่หรือเปล่า“ลูกยังรู้สึกเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า ทำไมวันนี้ถึงลงมาช้านักล่ะลูก” เธอเอ่ยถามเองแต่กลับชะงักเอง เพราะเพิ่งสังเกตว่า ท่าทางในวันนี้ลี่หานกลับดูสบายดีและแข็งแรงกว่าที่คิด ยิ่งเห็นเขากำลังใช้มือข้างเดียวเลื่อนเก้าอี้ให้แอนนี่ ทั้ง ๆ ที่แขนอีกข้างยังใส่เฝือกอ่อนอยู่ แต่ทว่าเขาก็ยังพยายามเอาใจแอนนี่ มิรินถึงกับอึ้งไปนิดนึงก่อนจะคลายยิ้มออกมาแล้วส่ายหัวเบา ๆ“ได้กลับมานอนบ้านเลยนอนสบายไปหน่อยครับ เลยตื่นสาย” ลี่หานตอบด้วยน้ำเสียงสดใส ในวันนี้เขาช่างกระปรี้กระเปร่า ผิดกับเมื่อวานที่ดูเนือย ๆ อย่างคนอ่อนระโหยโรยแรงลิบลับ“แต่ผมว่าพี่ไม่ได้นอนเลยมากกว่า” ล
ครั้นจะไม่ขึ้นคร่อมบนร่างเขาก็คงไม่ได้แล้วสินะ แอนนี่ยกตัวขึ้นคร่อมบนร่างเขา เสื้อผ้าถูกถอดออกจนเหลือแต่ชั้นในลูกไม้สีดำที่ปิดบังหน้าอกที่อวบอิ่มแทบจะไม่มิดลี่หานยกยิ้มอย่างพอใจ เธอช่างเซ็กซี่และช่างดูเย้ายวนมากจริง ๆเธอก้มลงจูบเขาอย่างแผ่วเบา รู้สึกเขินจนรีบผละใบหน้าออกมา“แบบนี้เรียกว่าแค่ปากสัมผัสกันครับ ถ้าจูบต้องแบบนี้” เขารั้งศีรษะเธอให้ก้มลงจูบเขาอีกครั้ง เรียวลิ้นร้อนแทรกสัมผัสกันและกัน อกสวยที่แนบอยู่กับแผงอกของเขามันไม่ควรมีอะไรมาขวางกั้น เขาเอื้อมไปปลดตะขอชุดชั้นในของเธอจนหลุดออกลี่หานดันตัวขึ้นนั่ง ทั้ง ๆ ที่ร่างแอนนี่ยังคร่อมอยู่ เขาก้มใบหน้าฝังลงที่อกนุ่ม ก่อนใช้ปลายลิ้นดุนดันเม้มดูดที่ยอดอกสีชมพูสวยของเธอ“อื้อ” เสียงครางต่อต้านเมื่อถูกโลมเล้า เธอยกอกแอ่นให้เขาเชยชิมได้เต็มที่ สองมือเรียวเล็กขยำลงที่ผมสั้นของลี่หาน~เขากระตุ้นเก่งเกินไปแล้ว~สองมือแอนนี่เลื่อนมาที่ชั้นในชาย เมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่มันปะทุแน่น เขายกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เธอถอดมันออกได้ง่ายขึ้นเช่นเดียวกับเธอแอนนี่ค่อย ๆ กดสะโพกลงไปช้า ๆ“อ๊ะ” เกมนี้เธอเป็นฝ่ายเริ่มก็จริง แต่กลับรู้สึกหวาดหวั่นก
@ที่ห้องนอนแอนนี่ค่อย ๆ แง้มประตูก่อนชะโงกหน้าเข้าไปภายในห้อง ทว่า… เธอกลับไม่เห็นลี่หานอยู่ที่เตียง ทั้ง ๆ ที่กว่าเธอจะตามขึ้นมาก็เกือบสามสิบนาทีแล้ว~แปลกที่ไม่เห็นเขาอยู่ที่ห้อง~“ลี่หานคะ” แอนนี่เรียกพลางมองไปรอบ ๆ ห้อง ก่อนจะเห็นม่านชายประตูที่ระเบียงพลิ้วไหวอยู่ เธอค่อย ๆ ก้าวเข้ามาที่ริมระเบียง เห็นลี่หานที่ยืนหันหลังมองพระจันทร์อยู่ แอนนี่ถึงกับอมยิ้มออกมาแล้วเดินไปหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ“พระจันทร์ที่นี่สวยจังนะคะ” เธอพยายามหาเรื่องชวนเขาคุยแต่ทว่าเขาไม่ตอบ ไม่แม้กระทั่งหันมามองหน้าเธอ แอนนี่อมยิ้ม นึกรู้ได้ทันทีว่าเขางอนเธอเป็นเด็กอีกแล้ว“ไหนบอกซิ งอนแอนนี่เรื่องอะไรน้า” เธอแกล้งเย้าพลางชะโงกหน้าเข้าไปมองคนงอนที่ไม่ยอมสบตาเธอด้วยซ้ำ“เอ จะทำยังไงดีเนี่ยให้หายงอน ก็ไม่รู้ว่างอนเรื่องอะไรเนอะ แอนนี่จะได้ง้อถูก”เงียบ ลี่หานยังนิ่ง นอกจากไม่ตอบรับกับท่าทีของแอนนี่เขาหมุนตัวหนีกลับเข้าไปในห้อง ทำท่าเหมือนไม่สนใจเธอเข้าไปอีก แอนนี่ถึงกับถอนหายใจก่อนจะเดินตามไป“โอเคค่ะ ถือว่าง้อแล้ว ถ้าไม่หายงอนก็ไม่ง้อแล้วนะ”“พี่จะอาบน้ำ” เสียงคนทำท่าปั้นปึ่งเมื่อครู่รีบพูดแทรกเข้ามาทันที เมื่อได้ย