แล้วเครื่องหมาย
'DEFEEAT'
'DEFEEAT'
'DEFEEAT'
'DEFEEAT'
'DEFEEAT'
'DEFEEAT'
ยังขึ้นไม่หยุด..มันผ่านไปเกือบสามชั่วโมงแล้ว..ที่แพ้สิบกว่าเกมติดต่อกัน...ริมฝีปากรูปกระจับของคนเป็นลูกสั่นด้วยความโกรธ
เธอไม่เข้าใจทำไมถึงแพ้...ส่วนคนเป็นพ่อขมวดคิ้วยุ่ง..จริงๆเขาไม่ชอบเล่นเกม..แต่..เขาแค่ไม่ชอบแพ้!!!
บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความมาคุ..เว้นก็แต่...'ไอ้คนชวนชาวบ้านเขาเล่น' ยังอารมณ์ดีไม่ผิดจากตอนเริ่มเล่น
คนเป็นเมียและแม่มองนาฬิกาข้างผนัง..มันบอกเวลาสี่ทุ่ม ตาโตสีน้ำตาลเริ่มหรี่ด้วยความง่วง..ตามมาด้วยเสียงหาว
"อื่อ...แค่นี้ก่อนนะ...ม๊ะม๊าง่วงแล้ว"
ไม่พูดเปล่ายัยตัวแสบปิดมือถือ..แล้วทิ้งหัวลงหมอน..หลับไปดื้อๆซะงั้น..ทิ้งให้อารมณ์คนในห้องยังคงคุกรุ่น
พ่อลูกมองหน้ากันอย่างจนใจ
"ฉันว่า..วันนี้..เราพอก่อนมั้ย?"เสียงคนตัวโตแหบพร่า..คนเป็นลูกรับคำอย่างจำใจ
ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นไปปิดไฟ..ก่อนจะมานอนพลิกไปพลิกมาบนฟูกด้วยอารมณ์หงุดหงิด..แทบไม่ต่างจากคนเป็นลูกที่ปกติเป็นคนนอนง่าย..พ่อกับลูกถอนหายใจพร้อมกัน
"คุณนอนไม่หลับเหรอ?"เด็กน้อยวัยประถมปลายถาม
"อื่อ"
"อีกเกมดีมั้ย?"น้ำเสียงคนเป็นลูกลังเล..แต่ถ้าให้นอนทั้งอารมณ์แบบนี้..ก็นอนไม่หลับคือกัน..รามิลไม่ตอบ..เพียงแต่ร่างสูงใหญ่ลุกไปเปิดไฟเป็นคำตอบ
สองพ่อลูก..จึงลุยเกมต่อด้วยประการฉะนี้
ทั้งสองเลือกเกม5-5 เหมือนเช่นเคย แต่รอบนี้ต่างกันที่..ให้คนอื่นเลือกตำแหน่งก่อน..สุดท้ายเลยเหลือตำแหน่งซัพพอร์ตกับออฟเลน
"คุณไปเล่นออฟนะ..หนูขอลองเล่นซัพ"น้ำเสียงคนพูดเต็มไปด้วยความจริงจัง...มนุษย์พ่อได้แต่พยักหน้า..เขาเองก็อยากลองเล่นตำแหน่งอื่นเช่นกัน
และเกมนั้น...เป็นเกมแรกที่ทั้งสองได้คำว่า 'WIN' ใบหน้าหล่อเหลาคมคายเปื้อนรอยยิ้ม ไม่ต่างกับใบหน้าของลูกสาว..ทั้งสอง Hi5 กันด้วยความดีใจ
และได้รู้ว่าปัญหาคือ 'ม๊ะม๊าที่เล่นตำแหน่งป่านั่นเอง'
คืนนี้..สองพ่อลูกนอนหลับสนิทได้เสียที
วิธีการเชื่อมความสัมพันธ์ของมนุษย์แม่ที่ดูไม่ได้เรื่องได้ราว..แต่ดันได้ผลซะงั้น..เมื่อไอ้ต้าวตัวโตกับลูกสาวตัวน้อยเริ่มมีเรื่องคุยกัน..หลังจากช่วงระยะ 10 ปี..ที่เกิดช่องว่างทำให้ห่างเหิน..แทบจะต่อกันไม่ติด..กลับเริ่มมีเรื่องมีราวมาคุยกันมากขึ้น
กิจวัตรประจำวันหลังหนึ่งทุ่มของที่บ้านจึงเพิ่ม..การเล่นเกมสองสามเกมก่อนนอนเข้าไปด้วย
ในคืนต่อมาๆ เด็กหญิงตัวน้อยผู้ซึ่งชื่นชอบความสมบูรณ์แบบ กับคนเป็นพ่อผู้เกลียดการพ่ายแพ้..ช่วยกันศึกษาหาวิธีเอาชนะ
อันดับแรก..ม๊ะม๊าของเธอถูกสั่งห้ามไม่ให้จับตำแหน่ง 'ป่า' คนเป็นแม่ถูกยัดเยียดให้ไปเล่นตำแหน่งซัพพอร์ต..ส่วนผู้ชายคนเดียวของบ้าน..ถ้าไม่ได้ต่ำแหน่งออฟเลนก็โดนจับไปเล่นแครี่
เด็กหญิงดารินเอง เธอยึดตำแหน่งป่ากับเมจ
'ม๊ะม๊าอยากเล่นป่าอะ'เสียงยัยแสบเริ่มงอแง..เมื่อซัพมันไม่มีดาเมจจะตีใคร..เวลาเล่นจะหงุดหงิดหน่อย
'แต่ถ้าม๊ะม๊าเป็นป่า..ม๊ะม๊าก็จะปกป้องเขาไม่ได้นะ'
เธอบุ้ยหน้าไปทางคนเป็นพ่อ..ให้ตายยังไงเธอก็ยังไม่ยอมกลับไปเรียก 'ป๊ะป๋า'
ไอ้คนหลงผัวคิดตาม..ถ้าเล่นซัพพอร์ต..ชีวิตก็ตามติดคนเป็นสามีได้ตลอดเกม..เธอเลยยิ้มและยอมเล่นแบบเต็มใจ
หลังจากวันนั้นได้สามสี่วัน..เด็กหญิงดารินได้รับอนุญาตให้ไปโรงเรียน..เธอมีความสุขมาก..ถึงยังไงการได้ไปเรียนคือ ที่สุดสำหรับเธอแล้ว..เธอคิดถึงการสอบ.. และการบ้านที่คุณครูมอบให้
ส่วนรามิล..พอลูกสาวไม่อยู่บ้านก็แอบเบื่อเล็กๆ..พอจะเข้าไปช่วยงานครัว..มนุษย์เมียก็ไม่ยอม..กลัวจะเขาเหนื่อย หรือกลัวเขาจะทำข้าวของพังก็ไม่อาจรู้ได้..เพราะครั้งนึงเขาเคยเข้าไปช่วย'ยุ่ง' ..จนเธอขอร้องให้ไปนั่งเฉยๆ..ก็ช่วยเธอได้มากแล้ว
ตื่นมาเช้าวันนึง...กล่องของขวัญเล็กๆ ใบหนึ่ง ถูกวางไว้บนหัวนอน..พร้อมกับการ์ดที่มีลายมือน่ารัก..เขียนไว้ว่า
'ขอบคุณนะคะที่กลับมา..หนูรักพี่นะ
จากยัยแบนของพี่'
ไอ้ต้าวพี่ข้างบ้านหน้าขึ้นสีทันที..เขากำลังโดนผู้หญิงจีบ..ใจดวงโตๆคันยิบๆ..ใบหน้าหล่อเหลาแอบอมยิ้มโดยไม่รู้ตัว
มือหนาหยาบเปิดกล่องดู..ข้างในนั้นมีกระเป๋าตังสีน้ำตาลมียี่ห้อหนึ่ง..ข้างในมีแบงก์สีเทาห้าใบ...สมกับยัยตัวเล็กเคลมว่า..เธอนะสายเปย์ตัวจริง
เธอบอกเขาว่าจะเอาเงินใส่กระเป๋าให้อาทิตย์ละพัน..แต่ถ้าเขาอยากได้อะไรเพิ่มให้บอก..เธอพร้อมจ่าย
เขาเองก็อยากช่วยเธอบ้าง..คนตัวโตเข้าไปขอร้องยัยตัวเล็กที่ยังยืนง่วนสับหมูอยู่ในครัว..ใบหน้าจิ้มลิ้มแดงขึ้นสี..เหงื่อซึมตามกรอบหน้า..เธอเห็นเขาแล้วส่งยิ้มมาให้..สายตาคนตัวโตเต็มไปด้วยความเอ็นดูไม่รู้ตัว
"พี่หิวมั้ย..กินก่อนได้นะ..ไม่ต้องรออัญ"เธอบอกทั้งยังแยกหมูสับเข้าตู้เย็น..เสร็จแล้วหันมาตักโจ๊กใส่ถุง
"ไม่เป็นไรคะ..ที่เดี๋ยวพี่รอหนู"
"งั้นรอแปปนะพี่"
"แบน"
"จ๋า"
"เย็นนี้สอนพี่ขี่ไอ้สองล้อหน้าบ้านได้ปะ..เพื่อพี่ช่วยขับรถส่งของให้"เสียงทุ้มเต็มไปด้วยความอ่อนโยน..หญิงสาวเงยหน้ามองทันที..ดวงตากลมสีน้ำตาลครุ่นคิดลังเล
"ไอ้สอนขี่อะสอนได้...แต่อัญไม่อยากให้พี่ขี่เลยกลัวอุบัติเหตุ"
"พี่ไม่เป็นไรหรอก...ทีอัญยังขี่ได้เลย"
"แต่...พี่ไม่ชอบตากแดดไม่ใช่เหรอจ๊ะ..พี่เคยบอกว่ากลัวดำ"
ครั้งหนึ่งเธอเคยขอให้เขาขี่มอเตอร์ไซต์ไปส่งของที่ไปรษณีย์..เขาเคยบอกเธอว่า
'ไม่เอาอะพี่กลัวดำ..อัญก็ไปเองซิ..เดี๋ยวพี่ดูลูกให้'
คิ้วเข้มขมวดยุ่ง..ดวงตาคมคู่สวยเต็มไปด้วยความสยองตัวเขาในอดีต
'ผู้ชายบ้าอะไรวะกลัวดำ'
ก่อนที่เธอจะเสริม
"แล้วไม่จำเป็นต้องช่วยอัญหรอก อัญทำได้..แต่ถ้าพี่อยากจะกลับมาขี่..รอตอนเย็นนะจ๊ะ..เดี๋ยวหนูช่วยดูให้"น้ำเสียงคนพูดใจดี
คนตัวโตถอนหายใจ..ได้แต่ช่วยถือถุงออร์เดอร์ไปส่งไลน์แมน..เธอส่งยิ้มให้เขาอย่างขอบคุณ
เขามานั่งหน้าเซ็งที่หน้าจอเทรด..ตลาดช่วงเช้ากำลังทำราคาเปิด..ราคาบนหน้าจอเริ่มกะพริบ..ความคุ้นเคยบางอย่างทำให้ชายหนุ่ม..หันกลับมาสนใจมันอย่างจริงจัง
ยัยตัวเล็กในเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่..กางเกงขาสั้นง่ายๆ..ใบหน้าจิ้มลิ้มไร้เครื่องสำอางเช่นเคย หญิงสาวพึ่งอาบน้ำเสร็จ กลิ่นสบู่อ่อนๆรอยมาเจอตัวเธอ
"ทำอะไรอะพี่"
"พี่ขอลองเทรดหุ้นได้มั้ย?"รามิลถามลังเล
อันธิยาชะงักไปเล็กน้อย..ดวงตาคู่โตกระจ่างใส..มองลึกเข้าไปในดวงตาเขา..ควานหาความจริงจังในนั้น
เธอทรุดลงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเขา โดยไม่ได้หันเก้าอี้กลับมาด้านเขา..คางได้รูปเกยกับพนักพิงเก้าอี้..ขาสองข้างแกว่งไปมา..บางทีเธอก็ดูเด็กน้อยเหลือเกิน
หญิงสาวพยายามเรียบเรียงคำพูด..ไอ้ต้าวพี่ข้างบ้านคิด..เขาคง 'อด' แต่หญิงสาวกับทำในสิ่งที่ตรงข้าม
"อัญมีงบให้พี่มิลสามหมื่น...ไม่มากไม่น้อยกว่านี้..ถ้าพี่ทำได้ก็เป็นของพี่..แต่ถ้าจะเสียหมดเลยฉันก็ไม่ว่า..ถือว่าเป็นค่าครูตกลงมั้ยคะ"น้ำเสียงคนพูดจริงใจ...ได้รอยยิ้มกว้างของคนตัวโตกลับมา
"ทำไมหนูถึงไว้ใจพี่ละ"คนเป็นสามีถามด้วยความลังเล..เงินสามหมื่นไม่ใช่น้อย..ยิ่งสำหรับครอบครัวเล็กๆ ที่ทำอาหารขายไปวันๆ
ส่วนหุ้นที่ถือยาว..คงไปแตะไม่ได้อยู่แล้ว..เพราะเธอลงทุนเพื่อเอาปันผล
วันนั้นที่เขามองเธอ..ดวงตาสีน้ำตาลของยัยตัวเล็กระยิบระยับ..เธอให้คำตอบที่ทำให้เขาแปลกใจ
"มันไม่เกี่ยวกับไว้ใจ..ไม่ไว้ใจ..สำหรับอัญ เงินหาเมื่อไรก็ได้..แต่ไม่ใช่แบบมีให้พี่ผลาญเยอะแยะนะคะ..ต้องบอกพี่ไว้ก่อน"
"...."
"แต่..อัญก็พอจะมีงบให้พี่ได้ 'ลอง' หนูดีใจนะที่พี่สนใจจะหาเงิน..ดีกว่าอยู่ไปวันๆ..เหมือนสมัยก่อน"
"..."
"อีกอย่างคนเราจะเติบโตได้..ต้องได้ลองผิดลองถูก..ถ้าไม่เคยทำเลย..จะรู้ได้ยังไงว่าสิ่งที่ทำมันใช่หรือไม่ใช่..เงินก้อนนี้พี่จะใช้หมดอัญก็ไม่ว่า..เพียงแต่จะไม่มีมากกว่านี้..ตกลงมั้ยคะ"
"ครับ"
"งั้นเดี๋ยวหนูเปิดบัญชีออนไลน์ให้พี่ดีกว่า..พี่จะได้มีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง"
ไอ้ต้าวตัวเล็กไม่พูดเปล่า..กระโจนขึ้นไปบนบ้าน..เตรียมเอกสารมากรอกสมัครผ่านบาวเซอร์เว็บโบรเกอร์ให้เขาเรียบร้อย..ดวงตาดำขลับคู่สวยเต็มไปด้วยความลึกซึ้ง
เธอมองกลับมา..ก่อนจะโน้มตัวมาใกล้ๆ..นิ้วได้รูปสวย..ไล้บนริมฝีปากแสนเซ็กซี่ของชายหนุ่ม..ยัยตัวแสบหรี่ตามองเล็กน้อย
"มองหนูแบบนี้...ตกหลุมรักหนูแล้วอะดิ"น้ำเสียงคนตัวเล็กกระซิบพร่า..ใบหูของชายหนุ่มขึ้นสีทันที..ทั้งยังส่งมะเหงก..ให้ไอ้คนหื่นที่ชอบเต๊าะ
"ฝันไปเหอะแบน!!!"
"แหนะๆๆ เห็นๆ อยู่ว่าหน้าแดง"ยัยตัวเล็กยังล้อไม่เลิก..เขาเสมองไปทางอื่นไม่กล้าสบตา..แต่ปากก็ยังคงเถียง
"ใครหน้าแดง...ไม่มี้"
ณ ศาลาทรงจีน หลังตึกเป่ยวันนั้นเป็นเสาร์เช้าเด็กหญิงดารินนั่งมองดูบ่อบัวที่กำลังบานสะพรั่ง มีผีเสื้อตัวน้อยบินวนรอบ...ในมือมีจดหมายที่คนเป็นทวดเขียนให้..ตั้งแต่วันที่ได้รับมันมา..เธอเองกลับเป็นฝ่ายที่ไม่กล้าจะเปิดมันขึ้นมาอ่าน..ส่วนหนึ่งเธอไม่อยากจะยอมรับว่า หนึ่งในบุคคลที่เธอเคารพรักมากที่สุดในชีวิต..ท่านได้เสียไปแล้วมือน้อยขาวผ่องสั่นเล็กน้อย..เธอสูดหายใจเข้าเพื่อรวบรวมความกล้า ก่อนจะตัดสินใจแกะซองจดหมายออกมาอ่าน‘ถึง จินเยว่..จินจินน้อยของเหล่ากงวันที่จินจินน้อยได้รับจดหมายฉบับนี้ เหล่ากงคงไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว..เหล่ากงรู้ว่าจินจินเองก็คงจะเสียใจไม่น้อย แต่เหล่ากงอยากจะบอกจินจินว่าการลาจากอาจเป็นเรื่องที่ยาก แต่ทุกคนล้วนหนีมันไม่พ้น เหมือนที่จินจินเองสูญเสียพ่อตั้งแต่อายุยังน้อยแต่เหล่ากงก็ยังเชื่ออย่างหนึ่งว่า..เหลนของเหล่ากงเป็นเด็กที่เข้มแข็ง จินจินจะต้องผ่านมันไปได้อย่างแน่นอนถ้าจะมีเรื่องไหนที่เหล่ากงเสียดายมากที่สุด ก็คงเป็นเพราะเราได้ใช้เวลาด้วยกันน้อยเกินไป มันมีหลายสิ่งที่เหล่ากงอยากเล่าให้หนูฟัง อยากดูการเติบโตของหนู อยากอยู่ถึงวันที่หนูมีคู่ชีวิต มีลูก แต่ไม้ใกล้ฝ
ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน..กลางทะเลระหว่างหมู่เกาะกับผืนแผ่นดินใหญ่ร่างผอมสูงค่อยๆ จมลงไปในน้ำทะเล มันทั้งมืดลึก และหนาวเหน็บ เสียงพายุพัดรุนแรงค่อยๆ เลือนหายไปจากโสตประสาท จิตใต้สำนึกพยายามบอกตัวเองให้ว่ายขึ้นไปเหนือน้ำให้ได้ ‘เมียกับลูกน้อย’ยังรอเขาอยู่..แต่..ถึงแม้จะว่ายน้ำเก่งตามประสาลูกทะเลมากแค่ไหนก็ตาม.. ณ เวลานี้...ตอนนี้ เรี่ยวแรงกับค่อยๆ หายไป..และพรากลมหายใจของการดิ้นรนครั้งสุดท้ายไปพร้อมกันด้วยรามิลมารู้สึกตัวอีกที ตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นเรียบร้อยแล้ว...ท้องฟ้าดำมืดเมื่อคืนเปลี่ยนเป็นสว่างจ้าฉายแสงสดใส ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอก...โชคดีเขารอดมาได้‘ให้มาตายตอนอายุแค่ยี่สิบสองมันจะใจร้ายไปหน่อยมั้ย!!’ไอ้ต้าวอดีตเดือนเกษตรคิดอย่างอารมณ์ดี แต่พอคิดได้ว่า..เมื่อวานวันเกิดยัยตัวเล็ก..เขากลับบ้านไม่ทัน..แม่เสือตัวจ้อยคงโกรธเขาเป็นแน่ แถมลูกสาวตัวน้อยถ้าไม่ใช่เขากล่อมนอน..ไม่รู้ว่ายัยหนูน้อยจะยอมนอนมั้ยนะคิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน พร้อมสะบัดทรายที่อยู่ตามขากางเกงออกดวงตาคมคู่สวยหันซ้ายแลขวา..สำรวจรอบๆ ไม่รู้ว่าน้ำทะเลพัดเขามาถึงไหน..หมู่บ้านที่อยู่ตรงหน้าเองก็ไม่คุ้นเคยเอาเ
ปิดเทอมฤดูร้อนวนมาอีกครั้ง รอบนี้ครอบครัวเล็กๆ ของอันธิยานัดกันไปเที่ยวทะเลทางใต้ โดยภากรเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดหาที่พัก เรือยอชต์สุดหรู นอกจากนี้ยังมีสมาชิกคนใหม่อยู่ในพุงยัยแบนสะท้านโลก..ตอนชายหนุ่มเห็นผลตรวจครั้งแรก...ความรู้สึกอิ่มเอมฟองฟูขึ้นเต็มหัวใจ..ดวงตาคมมองหน้าท้องแบนราบของไอ้ต้าวตัวเล็ก..เขานึกประหลาดใจเหลือเกินว่าข้างในพุงเล็กๆ นั้นจะมีเด็กน้อยอาศัยอยู่ ขณะเดียวกันเด็กหญิงดารินยิ้มแก้มบานแทบทั้งวัน เธอลากป๊ะป๋ากับม๊ะม๊า ไปหาซื้อเสื้อผ้า..ข้าวของเครื่องใช้..ของเล่นให้น้องน้อยตั้งแต่ยังไม่รู้เพศ ทั้งยังลงมือจัดห้องนอนเล็กให้น้องเอง เพราะห้องเดิมที่คนเป็นแม่ตั้งใจแต่งให้ลูกคนที่สอง กลับยกให้เด็กชายคีรีตัวแสบไปนานแล้ว เด็กหญิงเลือกโทนสีเขียว ซึ่งเป็นสีกลาง ทั้งยังขอห้องด้านล่างที่แต่เดิมเป็นห้องว่างไว้ทำ kid room เพิ่มอีกต่างหากแต่พอทำไปทำมา ก็พึ่งนึกได้...ถ้ามีน้องตอนนี้ เธอกับเด็กน้อยอายุจะห่างเกินหนึ่งรอบ...น้องสุดที่รักของเธอจะเหงา เหมือนที่เธอเคยเหงาในสมัยวัยเยาว์มั้ยนะ? เมื่อสมองของคนเป็นพี่สาวคนโตคิดได้..ใบหน้าสวยหวานแฝงแววเจ้าเล่ห์..วิธีที่เธอนึกออกคงต้องกดดันให้ป๊ะ
พอผ่านเรื่องราวทั้งหมดผ่านพ้นไป ชีวิตของครอบครัวเล็กๆ ก็กลับกลายมามีความสุขเหมือนดั่งเก่า เพิ่มเติมคงจะเป็นการหวงแหนช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมากยิ่งขึ้น..สิ่งที่ดีที่สุดของเรื่องคราวนี้ คือภากรไม่ต้องทำงานหนัก..เขามีความสุขกับการมีเวลาให้กับครอบครัวมากยิ่งขึ้น..ส่วนใหญ่ชายหนุ่มเลือกจะทำงานที่บ้าน เด็กชายคีรียังคงตามติดเด็กหญิงดารินไม่เปลี่ยน ส่วนเด็กหญิงดารินกลับชอบหนีไปเล่นกับแก๊งพี่ไค พี่ปาลมากกว่า ไม่ว่าจะพูด หรือแกล้งทำตัวใจร้ายไอ้ต้าวเพื่อนชายก็ยังคงติดหนึบราวกับว่ากลัวเธอจะหายไป เล่นเอาจินจินน้อยของเหล่ากงแทบกุมขมับทุกวันในขณะที่คนเป็นแม่กำลังวางแผนกับลูกชายกำมะลอสุดที่รัก ว่าจะไปเรียกร้องพ่อแม่ฝ่ายชายให้มารับผิดชอบ 'หมั้นหมาย' กันไว้ก่อนดีมั้ย? ผู้ชายดีๆ ถ้าไม่รีบจับจองตั้งแต่ต้นๆ เด็กผู้หญิงคนอื่นก็จ้องจะคาบไปกินนะซิ ซึ่งเด็กชายคีรีย่อมเห็นด้วย แววตาสองชั้นดีใจจนปิดไม่มิด แต่คนหนึ่งผู้ใหญ่ คนหนึ่งเด็ก...ยังคิดแผนไม่ออกว่าต้องทำอย่างไรดี ในส่วนของฝั่งครอบครัวคีรีนั้นไม่ติดปัญหาอะไร เพราะคุณหมอกินรี มักจะตามใจลูกๆ อยู่แล้ว ขณะพี่ไคเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่นทุกเดือน แม่ของเขายังไม่ว่าอ
ทนายประจำบ้านยังคงอ่านพินัยกรรมไปเรื่อยๆ สรุปได้ว่า บ้านรองเองก็ได้บริษัทประกันภัย...ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าใหญ่อันดับสองของตระกูล และถ้าเป็นธุรกิจที่บริหารให้ดีสามารถต่อยอดได้หลายอย่าง ลูกชายคนที่สองมองหน้าคนในครอบครัวด้วยความตกใจไม่แพ้กันส่วนลูกสาวคนสุดท้องได้เงินสดมูลค่าหลายพันล้าน...ชวนให้บรรดาญาติห่างๆ อิจฉาไม่น้อยคฤหาสน์หลังใหญ่มอบให้กับอดิศัยลูกชายคนโต โดยมีหน้าที่ต้องดูแลมารดาจนสิ้นอายุขัย...ส่วนอื่นๆ ในคฤหาสน์ย่อยนั้นถูกเซ็นมอบที่ดินเป็นของลูกๆ หลานๆ นานแล้ว ในขณะที่หลานชายคนโต ที่แต่เดิมคาดว่าจะได้ทรัพย์สมบัติมากที่สุด กับได้เพียงจำนวนหุ้นหลักสิบ ถึงสิบห้าเปอร์เซ็นต์ในธุรกิจต่างๆ กันไป หลายคนส่งรอยยิ้มแสดงความเห็นใจมาให้ แต่ใครจะรู้ว่าภากรดีใจมากแค่...อะไรจะดีเท่ากับการไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ได้ส่วนแบ่งกันเล่า!!!ถ้าจะมีคนรู้ทัน ก็คงมีแต่ลูกสาวคนสวยที่เธอหันมายิ้มมุมปาก พร้อมทั้งยั่กคิ้วให้หนึ่งที แน่ละ...ป๊ะป๋าต้องขอบคุณเธอ เพราะเธอเป็นหนึ่งในคนที่เกลี้ยกล่อมเหล่ากง....ในเครือบริษัทมหาชนนั้น เดิมมีการวางรากฐานที่ดีอยู่แล้ว ถ้าไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ หรือผู้บริหารโง่เง่า อีโ
คุณวันชายหัวหน้าทนายประจำตระกูลอยู่ในชุดสูทสีเทา บุคลิกเคร่งขรึม..เขาอายุราวๆ ห้าสิบกว่า แต่เดิมเขาคือ เด็กในอุปการะของท่านเจ้าสัวธงชัยนั้นเอง ชายวัยเกษียณขยับแว่นตากลมสีใสเล็กน้อย ก่อนจะเดินมายืนด้านหน้า ในมือมีเอกสารพินัยกรรม..ทุกคนในห้องเงียบพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย"ฮะแฮ่ม...ทุกท่านในตระกูลมากันคบทุกคนแล้วใช่มั้ยครับ?"ทนายพูดพร้อมกวาดตา เช็กจำนวนคน ที่มีสิทธิ์ในพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้จัดทำไว้ พอเห็นว่าผู้มีสิทธิ์คบตามจำนวน จึงพยักหน้าก่อนจะอ่านเอกสารในมือต่อ"เอาละครับ วันนี้ผมจะมาประกาศพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้ทำไว้ อย่างแรกผมอยากทำความเข้าใจกับทุกคนว่า..นี้คือวัตถุประสงค์ของผู้ตาย และเป็นความตั้งใจแน่วแน่ ผมก็หวังว่าทุกคนจะเคารพในการตัดสินใจของท่านเจ้าสัว""...""ถ้าพร้อมแล้ว...ผมขอเริ่มเลยนะครับ""...""ข้าพเจ้า นายธงชัย กิตติวรชัยกุล ในขณะทำพินัยกรรมข้าพเจ้าขอยืนยันว่ามีสติสัมปชัญญะปกติดี โดยเมื่อข้าพเจ้าถึงแก่กรรมให้แบ่งทรัพย์สินต่างๆ ของข้าพเจ้าให้บุคคลดังต่อไปนี้ในส่วนของบริษัท..ข้าพเจ้าขอแบ่งแยกบริษัทออกเป็นดังนี้ ธุรกิจในเครือร้านสะดวกซื้อ..หุ้น 60%ที่ข้าพเจ้าถืออย