Share

บทที่ 14

Author: ลั่วเหล่ย
เกาชิงเหยียนน้ำตาคลอ ท่าทางที่สะอื้นเห็นแล้วน่าสงสาร

หลี่เหวินหัวถลึงตาโต พูดเสียงดัง "คุณเกา คุณร้อนใจจนสับสนไปแล้ว ขอร้องไอ้คนต้มตุ๋นทำไม?"

“ไม่ขอร้อง หรือจะให้พึ่งคุณเหรอ?” เกาชิงเหยียนตวาดด้วยความโมโหความ

ความจริงพิสูจน์แล้ว ลั่วอู๋ฉางถูกต้องแล้ว

เขาบอกว่าห้ามเจาะ เกิดปัญหาจริง ๆ ด้วย เพียงแต่ผลที่ตามมาใหญ่หลวงเกินไป

เกาชิงเหยียนรู้สึกอับอายกับการกระทำที่ไม่แน่นอนของตัวเอง ตอนนี้คนที่ช่วยพ่อได้ มีเพียงลั่วอู๋ฉาง

“ถ้าพ่อฉันเป็นอะไรไป นายอย่าคิดที่จะมีชีวิตออกจากเมืองจิงไห่!”

หลี่เหวินหัวร้อนรน เริ่มปัดความรับผิดชอบอย่างรวดเร็ว “นี่จะโทษฉันได้อย่างไร ฉันพยายามเต็มที่แล้ว แผนการรักษาพ่อคุณเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว พวกเขาเป็นพยานได้”

“แม้แต่ฉันยังรักษาไม่ได้ ต่อให้เทพเซียนมาก็ไม่มีประโยชน์ แสดงว่าพ่อของคุณโชคไม่ดี ชีวิตเป็นแบบนี้ เกิดแก่เจ็บตายก็เป็นกฎธรรมชาติ ดึงดันไม่ได้ นี่เป็นเรื่องที่ไม่มีหนทาง”

“เพื่อเป็นการชดเชย ฉันสามารถนำศพของเขาไปเมืองหลวง ตรวจสอบสาเหตุให้ชัดเจน ถือว่าให้คำอธิบายกับคุณ”

หลี่เหวินหัวพบเจอเศรษฐีผู้มีอำนาจจนเคยชิน ใครบ้างที่ไม่แสดงความเคารพต่อเขา จึงไม่เห็นเกาฉี่เฉียงอยู่ในสายตาอยู่แล้ว

เมืองจิงไห่เดิมทีก็เป็นแค่สถานที่เล็ก ๆ ต่อให้เป็นผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น จะทำอะไรเขาที่เป็นผู้มีอำนาจทางการแพทย์ได้อย่างไร?

สำหรับคำสาบานก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้เก็บเอาไปใส่ใจด้วยซ้ำ สมญานามผู้มีอำนาจเขาก็ไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆ ยิ่งไม่มีทางเกษียณไปแบบนี้

เขาจะรู้ได้อย่างไรว่า ตระกูลเกาครอบคลุมทั้งด้านขาวด้านมืด

และเกาฉี่เฉียง ก็คือเจ้าพ่อของพื้นที่แห่งนี้

ถึงแม้หลายปีมานี้เกาฉี่เฉียงกลับเนื้อกลับตัว แต่เนื้อแท้ของตระกูลเกายังคงมีอยู่ มองข้ามไม่ได้ดังเดิม

“ใครก็ได้ เอาตัวไป!” เกาชิงเหยียนออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงโมโห

บอดี้การ์ดรูปร่างสูงใหญ่สิบกว่าคนพุ่งเข้ามา ควบคุมหลี่เหวินหัวและคนอื่น ๆ เอาไว้โดยไม่ชี้แจงใด ๆ

“พวกแกใจกล้ามาก ถึงได้ไม่เคารพต่อฉัน เชื่อไหมว่าฉันโทรแค่สายเดียว ก็ทำให้ตระกูลเกาของแกล่มสลายได้ ฉันรู้จักข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่มีอำนาจมากมาย!” หลี่เหวินหัวเคยโดนดูถูกแบบนี้ที่ไหนกัน ด่าอย่างสาดเสียเทเสีย

เกาชิงเหยียนไม่ได้รับการข่มขู่ “ถ้าพ่อฉันเสียชีวิต พวกแกต้องตายไปด้วยกัน! ยังคิดที่จะเรียกตัวช่วย ถึงเวลา แกเข้าฝันพวกเขาเถอะ!”

หลี่เหวินหัวเห็นเธอไม่ได้ล้อเล่น ตกใจจนหน้าเหี่ยวย่นซีดขาว ตั่วสั่นเทาอย่างรุนแรงทันที

“คุณลั่ว……” เกาชิงเหยียนมองดูลั่วอู๋ฉางด้วยสายตาแวววาว ใบหน้าเต็มไปด้วยความอ้อนวอน

ลั่วอู๋ฉางไม่ได้คิดจะตำหนิ เอาใจเขามาใส่ใจเรา หากตัวเองเป็นเธอ น่าจะทำเช่นเดียวกัน

ในเมื่อ จุดเริ่มต้นของเธอเพียงเพื่อรักษาพ่อให้หาย

เพียงแต่ ให้อภัยเธอง่ายดายแบบนี้ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึน เห็นได้ชัดว่าเธอได้เปรียบเกินไป

เหน็บแนมอย่างพอเหมาะสักหน่อย มีความจำเป็นอย่างมาก

“ครั้งหน้าทำผิดอีก ไม่มีทางปล่อยไปง่าย ๆ”

ลั่วอู๋ฉางทิ้งประโยคนี้ไว้ เดินตรงไปที่เตียงผู้ป่วย

ลั่วอู๋ฉางหยิบกระเป๋าเข็มหนังกวางออกมาอย่างไม่รีบร้อน หลี่เหวินหัวพูดเหยียดหยามทันที “เห็นแล้วยัง? ยุคไหนแล้ว เครื่องมือขั้นสูงต่าง ๆ ทันสมัย มันยังใช้วิธีล้าสมัยอะไรอยู่!”

“ฉันบอกแล้วว่ามันเป็นพวกต้มตุ๋น พวกคุณไม่ยอมเชื่อ เขาสามารถช่วยคนเอาไว้ได้ถึงจะแปลก ฉันพูดอย่างรับผิดชอบอีกครั้ง ต่อให้เทพเซียนมาก็ช่วยให้ฟื้นไม่ได้”

เกาชิงเหยียนพูดตวาด "หุบปาก!"

หลี่เหวินหัวเดิมทีอยากจะพูดเหน็บแนมอีกหลายประโยค แต่คำพูดมาถึงข้างปากเขาก็กลืนกลับเข้าไปอีก ให้ไอ้หมอนี่ลงมือ จะได้โยนความผิดทั้งหมดไปให้มัน ตัวเองวางตัวออกห่าง

ใช่ ทำแบบนี้แหละ!

ลั่วอู๋ฉางไม่สนใจกับคำพูดเหน็บแนมของหลี่เหวินหัว มังกรดำตัวใหญ่บินอยู่บนท้องฟ้า จะสนใจคำวิพากษ์วิจารณ์ของมดที่อยู่บนพื้นดินได้อย่างไร
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1059

    ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1058

    คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1057

    เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1056

    ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1055

    ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1054

    พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status