พูดจาใหญ่โตมาก เขากล้าได้อย่างไร!หลี่เหวินหัวตกตะลึงทันที วัยรุ่นคนนี้หยิ่งผยองเกินไปแล้วตัวเองเป็นหมอมาหลายสิบปี ต่อให้มีชื่อเรียกว่าผู้มีอำนาจ ได้รับการเยินยอจากในวงการและผู้ป่วยญาติผู้ป่วย ก็ไม่กล้าพูดออกมาแบบนี้“คนฟื้นชีวิตขึ้นมาไม่ใช่ความสามารถ รักษาหายถึงจะใช่ นายยังห่างไกล!”หลี่เหวินหัวพูดตอบโต้อย่างไม่ยอมแพ้ “ฉันถามนาย ผู้ป่วยโดนพิษอะไร นายรู้ไหม?”ไม่รอให้ลั่วอู๋ฉางให้คำตอบ เขาก็พูดด้วยความมั่นอกมั่นใจ “นายไม่รู้แน่นอน! ดังนั้นจึงรักษาสุ่มสี่สุ่มห้า เปอร์เซ็นต์ที่จะสำเร็จน้อยกว่าถูกลอตเตอรี่ด้วยซ้ำ โชคดีไม่ได้เข้าข้างบุคคลคนเดียวตลอดไป”“การกระทำที่เสี่ยงโชคแบบนี้ของนาย ถ้าหากทำสำเร็จ ฉันจะเขียนชื่อกลับหัว!”เกาชิงเหยียนไม่เพียงผิดหวังกับผู้มีอำนาจที่ว่าอย่างถึงที่สุด แต่ยังรังเกียจอย่างมาก “คนที่ไม่รักษาสัจจะ อย่าสาบานเลยดีกว่า จะได้ไม่ตกเป็นที่น่าหัวเราะของผู้เชี่ยวชาญ”หลี่เหวินหัวหน้าเหี่ยวย่นแดงก่ำทันที ถลึงตาโตตอบโต้กลับเสียงดัง “เมื่อครู่เป็นเพราะเขาโชคดี นับไม่ได้ ฉันไม่ยอมแพ้แน่นอน!”ลั่วอู๋ฉางฝังเข็มอย่างแม่นยำโดยไร้ความผิดพลาด แล้วพูดไปด้วย “งั้นฉันจะให
ดวงตาสองข้างเล็กกว่าเมล็ดข้าวฟ่าง อ้าปากแลบลิ้นสองแฉกสีดำ ส่งเสียงฟ่อ ๆ ทำให้คนขนลุกขนพอง“งู งูจริง ๆ ด้วย!” หลิวตงฉี่อุทานออกมางูตัวเล็กเหมือนกับตื่นตระหนก ร่างกายมุดออกมาจากรูเล็ก ๆ ทันที แล้วงอตัวจะกระโดดหนีไปมันเล็กขนาดนั้น หนีไปก็จะหาไม่เจอแล้วในตอนนี้เอง ลั่วอู๋ฉางถือแก้วกระเบื้องรับเอาไว้ จากนั้นปิดฝาลงงูตัวเล็กเลื้อยไปมาอยู่ในขวด หมดหนทางหนีเกาชิงเหยียนตกตะลึงจนหน้าซีด ถามขึ้น “คุณมังกรลั่ว นี่คืออะไรคะ?”ลั่วอู๋ฉางวางขวดลง พูด “หนอนงูทอง หนอนคุณไสยที่พิษร้ายแรงที่สุดในอาณาเขตแม้ว คนที่ปล่อยหนอนจะนำเซลล์ไข่งูผสมในน้ำ หรือในอาหาร เข้าไปในท้องของเหยื่อโดยไม่รู้ตัว ฟักตัวเป็นหนอนงูทอง”“มีคนทำร้ายพ่อฉันจริง ๆ ด้วย!” เกาชิงเหยียนดวงตาสั่นคลอน จากนั้นก็เผยความอาฆาตที่เย็นชา“เขากลับตัวกลับใจแล้ว คนพวกนั้นยังไม่ยอมปล่อยเขา ให้ฉันสืบออกมาได้ว่าใครเป็นคนทำ ไม่มีทางปล่อยมันไปแน่นอน!”พี่ตาวพูดด้วยหน้าตาดุดัน “หลังจากคุณหนูสืบออกมาได้ ให้บอกกับผมทันที ผมจะพาคนไปเอาเลือดมันออกด้วยตัวเอง!”ในตอนนี้เอง ดวงตาของเกาฉี่เฉียงขยับเล็กน้อย จากนั้น ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ“ที่นี่คือที่ไ
“อนาคตสงเคราะห์คนยากไร้ต่อไป ทำความดีให้มาก ๆ ฉันรับรองว่านายจะอายุยืนยาวร้อยปี” ลั่วอู๋ฉางพูดคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่มีใครกล้าสงสัยประโยคนี้ ลั่วอู๋ฉางใช้ทักษะการแพทย์ที่ประณีตของตัวเอง ทำให้พวกเขาตกตะลึงกันหมดเกาฉี่เฉียงรีบพูดขึ้น “ขอบคุณคุณลั่วมาก ฉันจะจดจำคำสั่งสอนของท่าานไว้ สาบานว่าจะเป็นคนดี ตอบแทนสังคมอย่างเต็มที่”หลี่เหวินหัวใช้สายตาละอายใจอย่งมาก มองไปทางรุ่นน้องหลิวตงฉี่ที่ประทับใจอย่างสุดซึ้งนี่ถึงจะเป็นความเมตตาของหมอลั่วอู๋ฉางถอนเข็มไปด้วย พูดไปด้วย “นายหมดสติไปนานมาก และก็เสียเลือดดีไปเยอะ การทำงานของร่างกายบกพร่องอย่างรุนแรง ต่อไปนายจะสลบไปอีกสามวัน นี่เป็นขั้นตอนการรักษาของฉันที่ขาดไม่ได้ นายไม่ต้องเป็นกังวล”“อีกสามวัน ฉันจะฝังเข็มให้นายอีกครั้ง ก็จะหายดี”เกาฉี่เฉียงแสดงความขอบคุณอีกครั้ง “บุญคุญที่ทำให้มีชีวิตของคุณลั่ว ฉันซาบซึ้งอย่างมาก ฉันคำขอร้อง หวังว่าคุณลั่วจะช่วยเหลือ”“นายว่ามา”เกาฉี่เฉียงมองไปทางลูกสาวเกาชิงเหยียน พูดว่า “ช่วงเวลาที่ฉันสลบไสล ย่อมหลีกไม่ได้ที่ฝูงมังกรไม่มีจ่าฝูง คิดว่าในตระกูลใกล้จะวุ่นวายแล้ว ขอให้คณช่วยดูแลเสี่ยวเหยียนหน่อ
แพทย์แผนตะวันตกชอบดูถูกแพทย์แผนจีนดั้งเดิม ลั่วอู๋ฉางกลับไม่เคยดูถูกแพทย์แผนตะวันตกจากที่เขาดู มาตรฐานของแพทย์มีระดับสูงต่ำ ทักษะการแพทย์กลับไม่มี ในเมื่อต่างช่วยกันรักษาผู้บาดเจ็บ ทำไมต้องแบ่งสูงต่ำด้วย?หลี่เหวินหัวขมวดคิ้วถาม “ความหมายของคุณคือ?”“จัดการอารมณ์ อุทิศตนให้กับการแพทย์ด้วยทัศนคติที่ถูกต้องและกระตือรือร้นมากยิ่งขึ้น ช่วยเหลือและรักษาคนให้มากขึ้น อย่าลืมเป้าหมายในตอนแรก” ลั่วอู๋ฉางพูดขึ้นหลี่เหวินหัวนิ่งอึ้ง เหมือนเข้าใจได้ทันทีเขาโค้งคำนับเก้าสิบองศาให้ลั่วอู๋ฉาง พูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ “ขอบคุณคุณลั่วที่ชี้แนะ ผมคิดว่าผมเข้าใจแล้วว่าต่อไปควรทำอย่างไร ขอบคุณความใจกว้างของคุณอีกครั้ง ลาก่อนนะครับ”ตั้งแต่นี้ไป หลี่เหวินหัวเปลี่ยนนิสัยเย่อหยิ่งตั้งตัวอยู่เหนือคนอื่นก่อนหน้านี้ มุ่งเน้นไปที่การช่วยชีวิตและการวิจัยทางการแพทย์ สุดท้ายกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีอำนาจและชื่อเสียงภายในประเทศที่แท้จริงเกาชิงเหยียนใช้สายตาเลื่อมใสอย่างมากมองไปที่ลั่วอู๋ฉาง หน้าสวยงดงามเขียนคำว่า “ยอมรับ” ตัวโต ๆจากฝีมือการแพทย์ของลั่วอู๋ฉาง ทั้ง ๆ ที่สามารถดูหมิ่นฝูงชนได้ ทำให้สายงานเดียวก
"อยากเป็นคู่ค้าดีเด่น เกรงว่าไม่ใช่เรื่องง่ายแบบนั้น หนูคิดว่าพวกเราทำตามขั้นตอนค่อนข้างดีกว่า"หยางหว่านอวี่ขมวดคิ้วพูด “สามารถรักษาสถานะในตอนนี้ไว้ได้ ก็ไม่ง่ายแล้ว พวกคุณก็รู้ว่ามีคนมากมายเท่าไหร่อิจฉาตระกูลหยาง!”สวีชุ่ยหลานถลึงตาโต เหมือนโมโหที่ลูกไม่ได้ดั่งใจ พูดเสียงดังขึ้นมาก “ดังนั้นถึงได้ถือโอกาสนี้พยายามให้มากขึ้น ดูจากการให้ความสำคัญของตระกูลเกาที่มีต่อหยางซื่อกรุ๊ป ไม่น่าจะยาก”“สามปีพวกเขาเป็นฝ่ายดีต่อด้วย ปฏิบัติดูแลพวกเรามาโดยตลอด นี่ก็เป็นการพิสูจน์ที่ดีที่สุด!”หยางหว่านอวี่ยิ้มเจื่อน ๆ “แม่ เรื่องราวง่ายขนาดนั้นเหมือนที่แม่คิดที่ไหนล่ะ! จนถึงตอนนี้ พวกเรายังไม่รู้แน่ชัดเลยว่าตระกูลเกาทำไมถึงยื่นข้อเสนอที่ดีมากให้ จะทำบุ่มบ่ามไม่ได้”“บุ่มบ่ามตรงไหนกัน?”หยางซิ่งเหวินพูดวิเคราะห์ด้วยเข้าใจว่าความคิดตัวเองถูกต้อง “สู้สักตั้ง รถจักรยานเปลี่ยนเป็นรถมอเตอร์ไซต์ ต่อให้ไม่สำเร็จ อย่างน้อยก็รักษาสถานการณ์ปัจจุบันเอาไว้ ก็ไม่เสียอะไรนี่!”“ตระกูลเกาคงเห็นถึงโอกาสการพัฒนาของพวกเรา หรือไม่ก็สนใจลูก หรือบางทีอาจจะเริ่มปลูกฝังพวกเราตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ว่าอย่างไร นี่ก็คือโอกา
ประจวบเหมาะที่หยางหว่านอวี่เพิ่งเดินออกมาจากตึกแอดมิท ก็เห็นด้านข้างมีคนที่คุ้นเคยเดินออกมา“ลั่วอู๋ฉาง?”รอให้หยางหว่านอวี่ไปดูให้ชัด ๆ อีกฝ่ายก็เดินเลี้ยวหายไปเธอส่ายหน้า พูดกับตัวเอง “จะเป็นเขาได้อย่างไร!”ได้ยินว่าทางด้านห้องพักผู้ป่วยระดับสูงมีบุคคลใหญ่โตเข้าอยู่ บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าไปได้ตามใจชอบต้องเกิดภาพหลอนแน่ ๆ เหนื่อยใจ!สำหรับเรื่องที่ลั่วอู๋ฉางทำร้ายแม่และน้องชาย หยางหว่านอวี่เตรียมไปคิดบัญชีกับเขา หลังงานเลี้ยงการกุศลในเมื่อความก้าวหน้าของบริษัทสำคัญกว่า โอกาสจะหายไปได้ง่าย ๆ ต้องทุ่มเทเต็มที่ จะจมอยู่กับเรื่องเล็กๆ ไม่ได้“หว่านอวี่ หนูมาอยู่นี่ได้อย่างไร ไม่สบายเหรอ?”ชายสูงวัยที่ถือถุงยาอยู่ดีใจอย่างมาก รีบถอดหน้ากากบนใบหน้าออกหยางหว่านอวี่ยังนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องเมื่อครู่ ถูกชายสูงวัยที่ปรากฏตัวกะทันหันทำให้ตกใจ แล้วพูดออกมา “คุณอาอวี๋ หนูมาเยี่ยมผู้ป่วยค่ะ”ชายสูงวัยก็คืออวี๋ซือหยวน ได้ยินเธอพูดแบบนี้ ความเป็นกังวลบนใบหน้าลดน้อยลง พูดด้วยรอยยิ้ม “หว่านอวี่ หลายปีมานี้ที่เสี่ยวลั่วไม่อยู่ ลำบากเธอจริง ๆ จัดการธุรกิจใหญ่ขนาดนั้นเพียงลำพัง”“แต่อีกไ
"อวี๋ซือหยวนเพิ่งอายุหกสิบเองไหม ทำไมอายุไม่เยอะก็เป็นโรคอัลไซเมอร์ได้?"หยางหว่านอวี่ยักไหล่ "หนูจะรู้ได้อย่างไร? ไม่พูดเรื่องเขาแล้ว หย่าร้างกันแล้ว ความสัมพันธ์ครอบครัวจบลงเท่านี้ ต่อไปก็ไม่มีไมตรีจิตอะไรแล้ว พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลหรอก""พวกลูกว่าไอ้ระยำลั่วอู๋ฉาง ทำไมถึงไม่ไปหาอวี๋ซือหยวนนะ?"ดวงตาของสวีชุ่ยหลานเป็นส่องเป็นประกายติดต่อกัน แล้วพูดว่า "มันอยู่ที่เมืองจิงไห่ เหลือญาติเพียงแค่ครอบครัวนี้แล้วไหม!"หยางซิ่งเหวินพูดโดยไม่ต้องคิด "จะเพราะอะไรอีกล่ะ? ไม่มีหน้ากลับไปไง! ติดคุกสี่ปี ออกมาก็ถูกทิ้ง กลับไปให้ถูกด่าเหรอ?"สวีชุ่ยหลานรู้สึกดีใจและพยายามเก็บซ่อนเอาไว้ไม่ให้ตัวเองแสดงออกมา "ลูกสาว ที่นี่มีพ่อลูกอยู่ก็พอแล้ว ลูกรีบกลับไปเถอะ เรื่องธุรกิจสำคัญ"หยางหว่านอวี่พยักหน้า "ค่ะ หนูจะไปเตรียมตัวเดี๋ยวนี้ มีอะไรโทรหาหนูนะ""รู้แล้ว รีบไปเถอะ!" สวีชุ่ยหลานเริ่มหงุดหงิดแล้วลูกสาวเพิ่งออกไป สวีชุ่ยหลานก็กระโดดลงจากเตียง พูดด้วยความตื่นเต้น "ตาหยาง โอกาสของพวกเรามาแล้ว!""ถือโอกาสตอนที่อวี๋ซือหยวนจำผิดวัน ไม่รู้ว่าลั่วอู๋ฉางถูกปล่อยออกมาแล้ว พวกเราไปหลอกเอาเงินเขาสักก้อ
ลั่วอู๋ฉางงุนงง ครอบครัวอาอวี๋ย้ายบ้านแล้ว?น้าวัยกลางคนพูดอธิบาย "เดิมทีครอบครัวสามคนอาศัยอยู่ที่นี่ ผู้ชายเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ขายบ้านให้กับพวกเรา"อาจารย์มหาวิทยาลัย งั้นก็ถูกแล้ว!ลั่วอู๋ฉางรีบถาม "เรื่องตั้งแต่ตอนไหนครับ?""สีปีที่แล้ว! พูดให้ถูกต้องไม่ถึงสี่ปี อีกเดือนสองเดือน ตอนนั้นพวกเขาขายอย่างรีบร้อนมาก ขายราคาไม่สูง พวกเราคิดว่าเหมาะสม ก็ซื้อเอาไว้"ลั่วอู๋ฉางถามอีกครั้ง "งั้นคุณน้ารู้ไหมครับว่า ครอบครัวนี้ย้ายไปที่ไหนแล้ว?"คุณน้าครุ่นคิดพูดว่า "เหมือนว่า เป็นทางด้านชุมชนโจวจวงล่ะมั้ง!""คุณแน่ใจไหมครับ?" ลั่วอู๋ฉางคิดว่าเป็นไปไม่ได้จากฐานะของอาอวี๋ของครอบครัวอาอวี๋ เปลี่ยนบ้านก็ควรจะเลือกหมู่บ้านใหม่ถึงจะถูก และบ้านเก่าก็ขายไปแล้ว ต่อให้อยู่ที่หมู่บ้านหรู ก็แบกรับไหว"มีครั้งหนึ่งฉันผ่านไปที่นั่น เห็นครอบครัวพวกเขาโดยบังเอิญ" น้ามั่นใจว่าตัวเองไม่ได้จำผิด พูดด้วยท่าทางจริงจัง"ตรอกซอยที่อยู่สุดทิศตะวันตก บ้านหลังที่อยู่ด้านในสุด ฉันยังทักทายกับพวกเขาอยู่เลย ได้ยินว่าพวกเขาเป็นผู้เช่า"ชุมชนโจวจวง เป็นชุมชนกลางเมือง ที่รื้อถอนสิบกว่าปีแล้วก็ยังรื้อไม่เสร็จ จิ