Share

บทที่ 5

เกาชิงเหยียนแทบจะร้องไห้ เธอพูดทั้งน้ำตา “ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ได้รับการช่วยเหลือจากท่าน คุณพ่อทำตามคำแนะนำของท่านและเปลี่ยนแนวทางของเขา ละทิ้งพฤติกรรมชั่วเหล่านั้น เปลี่ยนไปทำธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย”

"ทุกปีเขาจะนำเงินห้าพันล้านบาทออกมาทำการกุศล สร้างสถานเด็กกำพร้าและโรงเรียนประถม ช่วยเหลือกลุ่มคนที่รายรับน้อยกับผู้ที่ไม่มีกำลังทรัพย์รักษาโรค"

“พ่อของฉันเปลี่ยนแปลงไปแล้วจริง ๆ ค่ะ หมอเทวดาลั่วต้องช่วยเขานะคะ เพียงแค่คุณยอมรักษา ตระกูลเกายินยอมมอบโสมพันปีให้!”

หลายวันมานี้ เกาชิงเหยียนไม่ลังเลที่จะใช้จ่ายเงินหลายแสนบาท เชิญหมอที่มีชื่อเสียงรักษาอาการให้พ่อ แต่สุดท้ายต่างก็ล้มเลิกกลางคัน

มีวันหนึ่งที่เธอนึกขึ้นได้กะทันหัน อาการของพ่อเมื่อสามปีก่อนแย่ยิ่งกว่านี้ แต่ประหลาดตรงที่เขาออกไปรอบหนึ่งก็หายแล้ว เกาฉี่เฉียงบอกว่าตัวเองโชคดี หายป่วยเอง ทำอย่างขอไปที

เกาชิงเหยียนไม่เชื่ออยู่แล้ว เพราะว่าหลังจากที่พ่อกลับมา นิสัยก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เหมือนกับเปลี่ยนไปคนละคน

จนกระทั่งเกาชิงเหยียนเปิดตู้เซฟออก ได้รู้เรื่องนี้จากบันทึกของพ่อ ถึงได้เข้าใจทันที

ผู้มีฝีมือมีกฎเกณฑ์เยอะ เป็นเรื่องปกติมาก

ถ้าพูดว่าบนโลกนี้มีใครที่ช่วยเหลือพ่อได้ มีเพียงหมอเทวดาลั่วท่านนี้เท่านั้น

เกาชิงเหยียนใช้ทุกวิธี ถึงได้เอาเบอร์มาจากเหลยเทียนสงที่อยู่ในบันทึก โทรหาลั่วอู๋ฉางทั้งที่มีความเสี่ยงที่จะเสียมารยาท เธอไม่สามารถมองดูพ่อเสียชีวิตไปเฉย ๆ ได้ ต่อให้ต้องผิดใจกับหมอเทวดาลั่วท่านนี้ เธอก็ต้องลอง

ลั่วอู๋ฉางเกิดความสงสาร ถอนหายใจเบา ๆ พูดขึ้น “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันก็จะแหกกฎสักครั้ง”

“ขอบคุณมากค่ะหมอเทวดาลั่ว” เกาชิงเหยียนเงยหน้าขึ้น น้ำตาไหลเป็นทางบนใบหน้าสวย

ลั่วอู๋ฉางตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “เพียงแต่ กฎอื่นยังคงเหมือนเดิม”

รับตรวจแต่ไม่ออกนอกสถานที่ เป็นนิสัยของเขา

เกาชิงเหยียนพยักหน้า “ฉันเข้าใจค่ะ ไม่ทราบว่าคุณอยู่ที่ไหนคะ ไปหาคุณอย่างไรคะ?”

“เมืองจิงไห่ โรงแรมฮิลตัน”

“ที่แท้คุณอยู่ที่เมืองจิงไห่ ดีมากเลย ฉันก็เป็นคนเมืองจิงไห่……ตอนนี้พวกเราอยู่ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด จะพาคุณพ่อนั่งเฮลิคอปเตอร์กลับไปเดี๋ยวนี้ค่ะ!”

……

เมืองหนานเฉิง สถานที่ที่ราคาแพงทุกตารางนิ้ว

ตระกูลหยางมีคฤหาสน์หรูหลังหนึ่งที่มีความสูงสามชั้นและมีสวนดอกไม้ทั้งข้างหน้าและข้างหลัง

ต้องรู้ไว้ว่าเมื่อสี่ปีก่อน ตระกูลหยางยังคงใช้ชีวิตอยู่ที่เขตชานเมืองชนบท ลั่วอู๋ฉางใจกว้างเชิญพวกเขามาที่เรือนหอที่ซื้อเอาไว้ ทั้งครอบครัวถึงได้เข้าไปอยู่ในหมู่บ้านใหม่ กลายเป็นคนในเมืองที่แท้จริง

และตอนนี้ ตระกูลหยางกลายเป็นตระกูลร่ำรวยตระกูลใหม่ไปแล้ว

แม่ยายสวีชุ่ยหลาน กับน้องภรรยาหยางจวิ้นหาว ทั้งสองคนดีใจจนยิ้มไม่หุบ

“ดีมากเลย พี่สาวแกหย่าได้สักที!”

สวีชุ่ยหลานเต้นแร้งเต้นกา พูดด้วยความดีอกดีใจ “ให้ฉันพูดนะ ควรจะถีบหัวส่งไอ้ลูกหมาสกุลลั่วไปตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ที่มันเข้าคุก ธุรกิจของตระกูลเราก็เหมือนกับนั่งจรวดพุ่งตรงขึ้นไป!”

“เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่า เมื่อก่อนที่เราไม่สำเร็จ ถูกไอ้ระยำนี่ถ่วงเอาไว้! ฉันล่ะเสียใจภายหลังจริง ๆ ตอนแรกไม่ควรตกลงให้มันกับหว่านอวี่คบกัน เสียเวลาช่วงวัยรุ่นของลูกสาวฉันไปสี่ปี”

“ถือว่ามันรู้จักเอาตัวรอด ยอมหย่าร้างอย่างรวดเร็ว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยมันไว้แน่!”

หยางจวิ้นหาวเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ ขมวดคิ้วพูด “ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นมั้ง! ผมได้ยินพี่สาวกับจ้าวเหม่ยอวิ๋นคุยกันโดยบังเอิญ บอกว่าจะชดเชยบ้าน รถ กับเงินสดสิบห้าล้านบาทให้ไอ้หมอนั่น ของพวกนี้รวมกัน เกรงว่าต้องใช้เงินยี่สิบห้าถึงสามสิบล้านบาท”

“งั้นนายไม่บอกแต่แรก? ถึงว่าทำไมมันถึงยอมหย่า เหตุผลอยู่ตรงนี้นี่เอง!” สวีชุ่ยหลานถลึงตาโต

หยางจวิ้นหาวพูด “ผมคิดว่าพี่สาวพูดไปแบบนั้น คิดไม่ถึงว่าเธอให้ไปจริง ๆ”

สวีชุ่ยหลานโมโหในทันที “ไอ้สกุลลั่วก็แค่ติดคุกสี่ปีเอง มีคุณสมบัติอะไรเอาเงินไปมากมายขนาดนี้ พวกเราไม่ได้ติดค้างอะไรมันสักหน่อย ไม่ได้แน่นอน!”

“ต้องเอากลับมา เงินก้อนนี้แม่ตัดสินใจแล้ว เอมาเปิดบริษัทให้แกแห่งหนึ่ง เป็นประธานใหญ่เหมือนกับพี่สาวแก!”

หยางจวิ้นหาวได้ฟัง ก็ดีใจอย่างบ้าคลั่งทันที “ดี เอาแบบนี้แหละ! ผมโทรหามันตอนนี้ ถามให้ชัดเจนว่าไอ้หมอนั่นอยู่ที่ไหน”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status