ตอนนี้พ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินรู้สึกเลยว่ากำลังถูกเด็กเมื่อวานซืน และผู้ช่วยคนสนิทรุมอยู่ เขาเองก็แค่คิดว่าตอนนั้นอยากจะไล่มินนี่ให้ออกไปจากชีวิต ก็เลยรับปากส่ง ๆ ไปก่อน ใครจะคิดว่าจะกลับมาทวงสัญญาที่เคยให้ไว้
"มินนี่ให้โอกาสพ่อเลี้ยงพูดอีกทีนะคะ สรุปว่าจำได้หรือเปล่าว่าให้สัญญาอะไรมินนี่ไว้ เพราะถ้าพ่อเลี้ยงพูดออกมาไม่ถูกใจมินนี่ รู้ใช่ไหมคะว่าหนูจะทำยังไงกับพ่อเลี้ยง"
หญิงสาวกอดอกจ้องมองไปยังชายหนุ่มด้วยความกดดัน คนอย่างมินนี่ไม่เคยกลัวพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวิน เธอรู้จุดอ่อนเขาทุกอย่าง และรู้ว่าต้องทำยังไงคนอย่างเขาถึงจะสยบอยู่แทบเท้า
ซึ่งตอนนี้ภวินรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกต้อนให้จนมุม โดนเด็กเมื่อวานซืนข่มขู่ ส่วนกรก็ไม่ได้มีความคิดที่จะช่วยเจ้านายเลย เพราะในช่วงเวลาที่ทั้งสองคนสัญญากัน เขาก็อยู่เป็นพยานด้วย
"แล้วสัญญาอะไรไว้ล่ะ มันก็หลายปีแล้วไงฉันก็จำไม่ได้หรอก"
"พี่กรจำได้ไหมคะ ว่ามินนี่กับพ่อเลี้ยงสัญญาอะไรกันไว้"
เธอหันไปหาผู้ช่วยคนสนิทของพ่อเลี้ยง พี่กรเป็นคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น และเขาจะไม่พูดปดเพราะรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร
"ถ้าเกิดว่าคุณมินนี่ไปเรียนต่อปริญญาโทกลับมาเมื่อไหร่ พ่อเลี้ยงจะยอมแต่งงานด้วยครับ"
"เห็นไหมคะขนาดไม่ใช่เรื่องของพี่กรเขายังจำได้เลย มินนี่ว่าพ่อเลี้ยงจำได้นะคะ แต่... ไม่อยากจำมากกว่า คนเรานี่ก็แปลก อยู่ด้วยกันสองคนพูดอีกอย่าง อยู่ต่อหน้าคนอื่นก็พูดอีกอย่าง เหอะ! สงสัยมินนี่จะคาดหวังกับพ่อเลี้ยงมากไปค่ะ"
เธอส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะหันหลังกลับเดินออกไปจากตรงนั้นทันที ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น ในตอนนี้เหมือนถูกค้อนขนาดใหญ่ทุบเข้ามาที่หัวอย่างแรง ความผิดหวังของเด็กคนหนึ่งที่โยนมาใส่ ให้ความรู้สึกเหมือนเขาทำอะไรร้ายแรง ไปฆ่าใครตายยังไงอย่างงั้น
"นี่กูผิดขนาดนั้นเลยเหรอวะ... แค่จำคำสัญญาไม่ได้เนี่ยนะ"
"แต่พ่อเลี้ยงจำได้นี่ครับ ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้ผมว่านัดของเราน่าจะต้องยกเลิก เพราะว่าพ่อเลี้ยงน่าจะมีเรื่องที่ต้องเคลียร์ด่วน ยังไงโชคดีนะครับ"
กรอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะโค้งตัว และเดินออกจากตรงนั้นทันที ปล่อยให้พ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินกำมือแน่น รู้สึกเจ็บใจเพราะไม่มีใครเป็นพรรคพวกเขาเลย แม้กระทั่งผู้ช่วยคนสนิทยังปันใจไปให้มินนี่ แล้วคิดเหรอว่าพ่อกับแม่เขาจะเข้าข้างซึ่งไม่มีทางแน่นอน
"ยัยเด็กบ้านั่นมันเล่นของหรือเปล่าวะ ทำไมมีแต่คนรักคนหลง เฮ้อ!"
เขาใช้เท้าเตะไปยังต้นไม้ด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะรีบจับข้อเท้าของตัวเองเอาไว้ แสดงสีหน้าที่เจ็บปวดเพราะข้อเท้ากระแทกใส่ต้นไม้อย่างจัง
"โอ๊ยเจ็บ ๆ ไอ้ต้นไม้บ้ามาขวางทำไมวะ แม่งเอ้ย!"
ชายหนุ่มสบถออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนจะกุมข้อเท้าของตัวเอง เดินกะเผลกกลับไปที่บ้าน เนื่องจากว่ากำลังจะมีเรื่องวุ่นวายมาทำให้เขาหงุดหงิดใจ จึงไม่มีอารมณ์ที่จะดื่มน้ำเมาในช่วงเวลานี้
มินนี่เดินทางมาถึงที่บ้านของพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวิน จอดรถกอล์ฟไว้หน้าบ้าน ก่อนจะเดินลงไป และเห็นนายแม่ของไร่อยู่ตรงนั้นพอดี
"คุณป้า..."
"มินนี่เจอพี่ไหมลูก"
"เจอแล้วค่ะกำลังเปิดไหดองเหล้าบ๊วย ท่าทางจะติดเหล้าหนักเหมือนกันนะคะ เฮ้อ!"
ทั้งที่ก่อนหน้านี้รับปากกับเธอไว้แล้วว่าจะไม่ดื่มเหล้าบ่อย แต่ดูท่าทางชีวิตคงจะว่าง เลิกจากทำงานก็ถามหาแต่น้ำเมา สงสัยต้องหาอะไรให้ดูชีวิตมีความวุ่นวาย จะได้เลิกคิดถึงเรื่องอบายมุขสักที
"ป้าก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วเหมือนกัน ไอ้เรื่องเหล้าเนี่ยพูดไปหลายรอบแล้วนะ ให้หาเมียไปตัวเป็นตนก็ไม่ทำ อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว ป้าหาผู้หญิงมาให้กี่คนก็ไม่สนใจ แล้วหนูมินนี่ล่ะไปอยู่เมืองนอกเมืองนามีแฟนกับเขาหรือยัง"
ความจริงแล้วนายแม่แห่งไร่ภวินเคยทาบทามหนูมินนี่ให้กับลูกชายตัวดี แต่ด้วยความที่อายุห่างกันเกือบ 15 ปี เธอจึงไม่กล้าที่จะคาดหวัง เพราะเด็กในวัยเพิ่งจะอายุ 25 ปี คงจะอยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ได้คบกับเด็กหนุ่มในวัยใกล้เคียงกัน เธอจึงไม่กล้าร้องขอเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์แบบนี้อีก
"ไม่มีหรอกค่ะ มินนี่ไปเรียนต่อเมืองนอกเพราะว่ามีคนสัญญาไว้ว่าถ้าหนูเรียนจบ เขาจะยอมแต่งงานกับหนูค่ะ"
"ใครกัน... แสดงว่าหนูมินนี่มีคนที่รักแล้วใช่ไหม ใครจะเป็นผู้ชายที่โชคดีคนนั้นนะป้าอยากเห็นหน้าจริง ๆ เลย"
นายแม่แห่งไร่ภวินยิ้มกว้างออกมาด้วยความใคร่รู้ ประจวบกับที่ลูกชายตัวดีจอดรถ และก็เดินตามหญิงสาวเข้ามาติด ๆ เธอเหลือบสายตาหันไปมองพ่อเลี้ยงภวินที่เดินเข้ามาด้วยใบหน้าง้ำงอ เมื่อถูกใครบางคนขัดใจก่อนหน้านี้
"คุณป้าก็ลองถามลูกชายตัวดีดูสิคะ ว่าเขาสัญญาอะไรกับหนูไว้เมื่อสองปีก่อน"
พุทราได้ยินแบบนั้นก็เบิกตากว้างอย่างตกใจ รีบหันไปมองใบหน้าของลูกชายก่อนจะเซ้าซี้ถามด้วยความกดดันอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ
"ไอ้ตัวดีแกไปสัญญาอะไรกับน้องไว้ อย่าบอกนะว่าแกเป็นผู้ชายคนที่สัญญากับหนูมินนี่ ถ้าเรียนจบมาเมื่อไหร่จะมาแต่งงานด้วย"
นายแม่ถึงกับเบิกตากว้างอย่างตกใจ ใครจะคิดว่าทั้งสองคนจะมีสัญญาอะไรบางอย่างที่เคยคุยกันไว้เมื่อสองปีก่อน ซึ่งคนอื่นน่าจะไม่รู้เรื่องด้วย
"อย่าบอกนะว่าเพราะลูกชายป้า ทำให้หนูยอมตัดสินใจไปเรียนที่เมืองนอก"
"ใช่ค่ะ พ่อเลี้ยงบอกว่าถ้ามินนี่ยอมไปเรียนปริญญาโทที่เมืองนอก จบกลับมาเมื่อไหร่เขาจะยอมแต่งงานด้วยค่ะ แต่ว่าตอนนี้ตีมึนไม่รักษาสัญญาเลย มินนี่ไม่ยอมนะคะ คุณป้าจะต้องให้ความเป็นธรรมกับหนู"
"ยัยเด็กบ้า! ทำไมเธอปากสว่างแบบนี้ มีอะไรก็มาคุยกันดิวะ จะบอกแม่ทำไมเนี่ย"
พ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินถึงกับตาโตด้วยความตกใจ ใครจะคิดว่ายัยเด็กแสบจะสารภาพกับแม่เขาไปตามตรง โคตรขี้ฟ้องเลยให้ตายสิ แล้วแบบนี้เขาจะแก้ตัวยังไงทันล่ะ แล้วนายแม่ตัวดีรู้เรื่องแบบนี้คิดเหรอว่าเขาจะรอดจากการถูกจับคลุมถุงชน
"ก็พ่อเลี้ยงไม่รักษาสัญญาเองนี่คะ ไม่รู้แหละถ้าพ่อเลี้ยงไม่ยอมแต่งงานกับมินนี่ มินนี่ก็จะประกาศให้ทุกคนรู้ว่าพ่อเลี้ยงเป็นคนที่ไม่มีสัจจะ"
"ยะ... ยัยเด็กบ้า!"
"แล้วมาดูกันค่ะ ว่าใครจะอับอายกว่าใคร"
หกปีต่อมา...บอกเลยว่าไร่ภวินแห่งนี้มีแต่ความวุ่นวายของจริง เมื่อหกปีที่แล้วเธอได้ให้กำเนิดบุตรชายคนแรกของบ้าน ชื่อหนูน้อยภูมินทร์แข็งแรงสมบูรณ์ เป็นที่รักใคร่ของทุกคนในไร่ รวมถึงคุณปู่คุณย่าคุณตา และคุณยายด้วย แต่ทว่า..."อย่าแย่งกันดิ! พี่บอกว่าอย่าแย่งกันไง!"เสียงตะโกนเสียงดังลั่นของภูมินทร์ดังขึ้น จนคนเป็นแม่ถึงกับต้องหันไปมอง เด็กแฝดจอมซนทั้งสามคนกำลังแย่งของเล่นกันอยู่ ทั้งที่คนเป็นพ่อซื้อมาให้เหมือนกันแล้ว เล่นเอาปวดหัวทั้งวันทั้งคืน จนรู้สึกท้อไปหมด"เอามาเดี๋ยวนี้เลยนะ""ก็ภูวดลมีแล้วไม่ใช่เหรอ อยู่ตรงนั้นไงทำไมไม่เล่น จะมาแย่งของเราทำไม""เอาให้น้องไปเถอะภูเวียง""ไม่ให้หรอก ทำไมต้องให้ด้วย""ภูพิงค์ก็ไม่ให้หรอก ของตัวเองก็มีเล่นสิ ไม่อย่างนั้นจะฟ้องแม่นะ"เด็กน้อยอายุอานามได้สี่ขวบกว่า ซึ่งคลอดออกมาเป็นเด็กแฝดสาม กำลังทำการเจรจาแย่งของเล่นกันอยู่ มันจะมีอยู่คนหนึ่งที่ไม่ยอมใคร จะต้องให้ได้ดั่งใจทุกอย่าง จนพี่น้องด้วยกันถึงกับเอือม"พี่ภูมินทร์ดูสิ พวกเขาไม่ให้ของเล่นผม""ของเราก็อยู่นี่ไง มันก็เหมือนกันแหละดูสิ ไม่ได้มีอะไรแตกต่างกันเลยสักนิด ทำไมเราถึงต้องอยากไปเล่นของคนอ
ใช้เวลาในการอยู่ในงานแต่งเกือบทั้งวัน จนในที่สุดทั้งสองคนก็ได้กลับขึ้นมาพักผ่อนยังห้องนอนของตัวเอง ซึ่งตอนนี้มินนี่ได้อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว นั่งอยู่บนที่นอนโดยที่ชายหนุ่มสวมกอดเธออยู่ทางด้านหลัง จ้องมองของขวัญตรงหน้าก่อนจะถอนหายใจออกมา"ทำไมของขวัญเยอะขนาดนี้เนี่ย คืนนี้เราจะแกะกันหมดไหมคะ""ก็ค่อย ๆ แกะก็ได้ไม่ต้องรีบหรอก ของส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นสินค้าที่สามารถเก็บไว้ได้นาน ถ้าไม่ไหวก็นอนพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ถ้าหนูว่างก็ค่อยมานั่งแกะก็ได้""เดี๋ยวคืนนี้จะลองนั่งแกะดูค่ะ ถ้าเกิดว่าไม่ไหวพรุ่งนี้ค่อยตื่นมาแกะต่อ ว่าแต่มินนี่มีของขวัญวันแต่งงานให้พ่อเลี้ยงด้วยนะคะ ไม่รู้ว่าจะอยากได้หรือเปล่า"เธอเงยหน้าขึ้นมองสบตากับชายคนรัก ก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์ จนทำให้พ่อเลี้ยงภวินถึงกับมึนงงในท่าทีของเธอ เพราะดูเหมือนว่าจะมีอะไรเซอร์ไพรส์เขา"อยากได้สิ อะไรที่หนูให้พี่ก็อยากได้ทั้งนั้น แล้วทำไมยิ้มเจ้าเล่ห์แบบนั้น เริ่มระแวงแล้วนะ""เห็นหนูเป็นคนยังไงเนี่ย นี่ค่ะเอาไปแกะดู"เธอส่งกล่องบางอย่างไปให้เขาในมือ เป็นกล่องเล็กนิดเดียวไม่ได้ดูมีราคาอะไรหรอก แต่เชื่อเถอะมันมีความหมายกั
และในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ฤกษ์งามยามดีในการแต่งงานของคู่บ่าวสาว ระหว่างพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวิน กับหนูมินนี่ สาวสวยดีกรีนักเรียนนอก ทุกคนจะทราบดีว่าเธอแอบชอบพ่อเลี้ยงภวินมาแต่ไหนแต่ไร ตามติดตั้งแต่เด็กจนในที่สุดเธอก็สมหวัง ทั้งสองคนได้เข้าพิธีแต่งงานในเช้าอันสดใส ฤกษ์งามยามดีคือเวลา 9:09 น.ขบวนขันหมากเคลื่อนที่เข้ามาในบ้านหลังใหญ่ใจกลางไร่ โดยข้างในนั้นมีคุณพ่อคุณแม่ของเจ้าสาวรออยู่ ส่วนมินนี่เธออยู่ในชุดไทย ประดับตกแต่งด้วยเครื่องทองดูสวยงามเหมือนหลุดออกมาจากในนิยาย"พี่เขามาแล้วลูก""มาแล้วเหรอคะคุณแม่"หญิงสาวจ้องมองออกไปยังประตูด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะมองสบตากับว่าที่เจ้าบ่าว ซึ่งเมื่อชายหนุ่มเห็นใบหน้าของว่าที่ภรรยา ก็ยิ้มออกมาทันทีแถมยังมองตาแทบไม่กระพริบ จนคุณแม่ต้องสะกิด"มาเปิดประตูเงินประตูทองก่อน มองน้องตาค้างเชียวนะ รีบ ๆ เอาซองให้เขาไป จะได้เข้าไปหาน้องไง""ได้ครับแม่"เขารีบส่งซองไปให้เด็กที่ถือประตูเงินประตูทอง ต่อรองกันอยู่พักใหญ่ และในที่สุดเขาก็ได้เข้าไปถึงในตัวบ้าน ซึ่งข้างในนั้นถูกตระเตรียมไว้สำหรับพิธีการในวันนี้"มินนี่... ทำไมหนูสวยจัง""พ่อเลี้ยงก็หล่อค่ะ"และเมื่อช
และในที่สุดเรื่องราวเลวร้ายทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี สองพี่น้องถูกพ่อกำนันส่งไปเรียนต่อที่เมืองนอกเป็นเวลาประมาณสามปี จะได้ดัดนิสัยให้เรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวเอง คงเลี้ยงแบบตามใจมานาน จนรู้ว่านิสัยเสียจนกู่ไม่กลับ ถึงได้ส่งไปดัดสันดานด้วยการให้ใช้ชีวิตด้วยตัวเองสักพัก"คนสวยของพี่ ไปเดินเล่นกันไหมคะ"วันนี้พ่อเลี้ยงภวินมีเวลาให้กับว่าที่ภรรยาทั้งวัน งานแต่งงานของเขาทั้งสองคนจะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ สถานที่ถูกตระเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว โดยมีผู้ใหญ่เป็นคนจัดสรรให้ทุกอย่าง"ไปสิคะ"เธอยื่นมือไปให้ชายหนุ่มจับตรงหน้า พ่อเลี้ยงภวินยิ้มกว้างออกมาก่อนจะกุมมือคนรักเอาไว้ พากันเดินออกจากตัวบ้าน ขับรถกอล์ฟวนเล่นในไร่พรางคุยกันไป"ไหนบอกว่าพาไปเดินเล่นไงคะ ขับรถวนเป็นรอบแล้วมั้ง""ใจเย็นสิคะ เดี๋ยวพี่พาหนูไปเดินเยอะก็บ่นอีกว่าเหนื่อย ขับรถเที่ยวเล่นแบบนี้ก็ดีนี่ อากาศเย็นสบายหนูจะได้ไม่ต้องเหนื่อยด้วย""ก็จริงนะคะ ช่วงนี้รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย ไม่มีใครมาตามก่อกวน ทำตัวเป็นสตอล์คเกอร์ ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ ได้อยู่กับผู้ชายที่รัก เป็นชีวิตที่สงบสุขดีนะคะ"เธอยิ้มออกมาก่อนจะยื่น
พ่อเลี้ยงภวินตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็เดินออกมาจากห้องนอน กะว่าจะหาอะไรให้มินนี่กิน เนื่องจากว่าเธอคงรู้สึกเหนื่อยจนตอนนี้ยังไม่มีวี่แววจะตื่นเลย แต่ทว่าก่อนที่จะได้ทำอะไร ก็ได้ยินเสียงโวยวายดังขึ้นจากหน้าประตูบ้าน เขาเดินลงมาชั้นล่าง จ้องมองไปยังสามคนพ่อลูก ที่ตอนนี้ถือพานธูปเทียนเดินเข้ามาพร้อมกัน"กำนัน... มีอะไรหรือเปล่า""ฉันพาลูก ๆ มาขอขมาพ่อเลี้ยงภวินจ้ะ แล้วหนูมินนี่ล่ะไม่อยู่ด้วยกันเหรอ"ใบหน้าของพ่อเลี้ยงดูไม่ค่อยจะรับแขกสักเท่าไหร่ จ้องมองไปยังมังกรอย่างเคียดแค้น และรู้สึกโกรธที่เขาคิดร้ายต่อว่าที่ภรรยา"ยังไม่ตื่นหรอกเธอพักผ่อนอยู่ เอางี้ละกันกำนันกับลูกไปรอที่ห้องรับแขก เดี๋ยวผมจะไปตามมินนี่""ได้จ้ะ ตามสบายเลยนะจ๊ะ"สามคนพ่อลูกรีบพากันไปนั่งรอที่ห้องรับแขก ส่วนพ่อเลี้ยงภวินเขาเดินกลับขึ้นไปชั้นบน เปิดประตูห้องนอนเข้าไป ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าของคนรักที่ดูสดใสขึ้นจากเมื่อคืน"คนสวยยิ้มได้แล้วเหรอคะ""ค่ะ พ่อเลี้ยงตื่นไม่เรียกมินนี่เลย แล้วออกไปไหนมาคะ""ก็ว่าจะไปหาของอร่อยมาให้หนูกิน แต่ว่ากำนันกับลูกมานั่งรออยู่ข้างล่าง หนูจะออกไ
พ่อเลี้ยงภวินพาว่าที่ภรรยาเดินทางกลับมาที่ไร่ และโกรธตัวเองมากที่พาเธอไปพบเจอกับเรื่องเลวร้ายแบบนั้น ตลอดทางเขาโอบกอดเธอไว้ ทั้งรัก และห่วงกลัวว่าเธอจะคิดมาก แต่ดูจากความแสบซ่าก็น่าจะพอหายห่วงได้"พ่อเลี้ยงรู้ไหมคะว่าไอ้มังกรมันกระโจนเข้ามาหามินนี่ค่ะ มันจะปล้ำมินนี่ตรงกำแพง มินนี่ก็เลยเอาเท้าถีบท้องมันกระเด็นหงายหลังเลยค่ะ""...""แล้วจากนั้นมินนี่ก็เอาเท้ากระทืบ กระทืบ กระทืบ กระทืบมันเลยค่ะ""เรากรีดร้องอย่างกับคนโดนเชือดเพื่ออะไร พี่ก็พอรู้ว่ามินนี่สามารถเอาตัวรอดได้ ก็เลยรอดูไปก่อนว่าสองพี่น้องคิดจะทำอะไร"มินนี่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองใบหน้าของว่าที่สามีด้วยความสงสัยในประโยคคำพูดของเขา หมายความว่ายังไง ที่เขาบอกว่าเราดูไปก่อนว่าสองพี่น้องคิดที่จะทำอะไร"พ่อเลี้ยงหมายถึงอะไรคะ แสดงว่าเห็นแล้วใช่ไหมว่ามินนี่ถูกลากเข้าห้อง""ก็พี่รู้สึกเอะใจแล้วก็เป็นห่วงก็เลยตามออกไป พอเห็นมินนี่เดินออกห้องน้ำมากำลังจะเดินไปหา ใครจะคิดว่าจะถูกใครก็ไม่รู้ลากเข้าไปที่ห้อง พี่ให้กรถ่ายคลิปเอาไว้เป็นหลักฐาน เพราะคนที่อยู่หน้าห้องตอนนั้นคือลิ้นจี่ เห็นว่ายังไม่มีใครเข้าไปในห้องนั้นก็เลยรอดูไปก่อน