LOGINอยากเป็นเมียฉันนักก็เป็นไปเลย คอยดูเถอะจะปล่อยให้เหี่ยวเฉาน้องสาวไม่ได้ใช้การ กลายเป็นซากฟอสซิลที่มีแต่ฝุ่นเกาะ...!
View Moreนิยาย เซตผัวแก่ก็มีหัวใจ เรื่องที่ 1
ต่อหน้าทุกคนทำเก่ง ปากแจ๋วไม่ไหว
ด่าเมียฉ่ำมาก
พออยู่กันสองต่อสองเท่านั้นแหละ
เมียจ๊ะ เมียจ๋า รักเมียที่สุดในโลก
สรุปว่าเป็นเจ้าของไร่หรือเป็นไบโพล่า...?
ภวิน ภาคภูมิ กนกกุลเกียรติ อายุ 40 ปี
เจ้าของไร่องุ่นที่ใหญ่ที่สุดของทางภาคเหนือ
นอกจากจะมีไร่องุ่นในพื้นที่เกือบร้อยไร่แล้ว
เขายังมีโรงบ่มไวน์ และมีแบรนด์เป็นของตัวเอง
ไม่มีใครอยากจะเชื่อหรอกว่าอายุอานาม 40 ปีแล้วยังไม่ได้แต่งงานมีเมียเป็นตัวเป็นตน
แม่ของเขาก็พยายามหาผู้หญิงมาให้หลายคน
ทว่าดูเหมือนจะไม่ถูกใจลูกชายเลย
"อย่าบอกนะว่าเพราะลูกชายป้า ทำให้หนูยอมตัดสินใจไปเรียนที่เมืองนอก"
"ใช่ค่ะ พ่อเลี้ยงบอกว่าถ้ามินนี่ยอมไปเรียนปริญญาโทที่เมืองนอก จบกลับมาเมื่อไหร่เขาจะยอมแต่งงานด้วยค่ะ แต่ว่าตอนนี้ตีมึนไม่รักษาสัญญาเลย มินนี่ไม่ยอมนะคะ คุณป้าจะต้องให้ความเป็นธรรมกับหนู"
"ยัยเด็กบ้า! ทำไมเธอปากสว่างแบบนี้
มีอะไรก็มาคุยกันดิวะ จะบอกแม่ทำไมเนี่ย"
มินนี่ มาริสา อนันต์ชัยกุล อายุ 25 ปี
ลูกสาวน้องคนสนิทของคุณแม่ ไปเรียนปริญญาโทอยู่ที่เมืองนอกได้เกือบ 2 ปีแล้ว
และในที่สุดเธอก็กลับมาอยู่ที่ประเทศไทยอย่างถาวร
พร้อมกับทวงสัญญาบางอย่างจากตาแก่...
"เธอยังเป็นเด็กจะมาดื่มเหล้าได้ยังไง
ใครสั่งใครสอนไม่ทราบ"
"เด็กอะไรกันคะ อายุตั้ง 25 ปีแล้ว
มีผัวได้แล้วนะคะรู้หรือเปล่า"
"ไปเรียนเมืองนอกเมืองนามา 2 ปี
ปากดีขึ้นเยอะเลยนะ หึ"
"ไม่ได้ปากดีอย่างเดียวนะคะ อย่างอื่นก็ดีนะ"
"ยะ...ยัยมินนี่!"
"พ่อเลี้ยงสัญญาอะไรไว้กับมินนี่ จำได้หรือเปล่าคะ"
"โห! พ่อเลี้ยงกลัวเมียนี่หว่า"
"กลัวเมียบ้านมึงสิ... คนอย่างกูไม่เคยกลัวใครโว้ย อยากกลับก็กลับไปเองดิ ไม่ไปหรอก"
"ถ้าพ่อเลี้ยงไม่กลับไปนอนกอดมินนี่ อย่างนั้นมินนี่ไปหาผัวใหม่มานอนกอดแทนแล้วกัน..."
"เห้ย...! ยัยเด็กบ้า อยากตายหรือไง"
หรือที่จริงแล้วเขามีเหตุผลบางอย่างในการปิดบังความรักในครั้งนี้....
หกปีต่อมา...บอกเลยว่าไร่ภวินแห่งนี้มีแต่ความวุ่นวายของจริง เมื่อหกปีที่แล้วเธอได้ให้กำเนิดบุตรชายคนแรกของบ้าน ชื่อหนูน้อยภูมินทร์แข็งแรงสมบูรณ์ เป็นที่รักใคร่ของทุกคนในไร่ รวมถึงคุณปู่คุณย่าคุณตา และคุณยายด้วย แต่ทว่า..."อย่าแย่งกันดิ! พี่บอกว่าอย่าแย่งกันไง!"เสียงตะโกนเสียงดังลั่นของภูมินทร์ดังขึ้น จนคนเป็นแม่ถึงกับต้องหันไปมอง เด็กแฝดจอมซนทั้งสามคนกำลังแย่งของเล่นกันอยู่ ทั้งที่คนเป็นพ่อซื้อมาให้เหมือนกันแล้ว เล่นเอาปวดหัวทั้งวันทั้งคืน จนรู้สึกท้อไปหมด"เอามาเดี๋ยวนี้เลยนะ""ก็ภูวดลมีแล้วไม่ใช่เหรอ อยู่ตรงนั้นไงทำไมไม่เล่น จะมาแย่งของเราทำไม""เอาให้น้องไปเถอะภูเวียง""ไม่ให้หรอก ทำไมต้องให้ด้วย""ภูพิงค์ก็ไม่ให้หรอก ของตัวเองก็มีเล่นสิ ไม่อย่างนั้นจะฟ้องแม่นะ"เด็กน้อยอายุอานามได้สี่ขวบกว่า ซึ่งคลอดออกมาเป็นเด็กแฝดสาม กำลังทำการเจรจาแย่งของเล่นกันอยู่ มันจะมีอยู่คนหนึ่งที่ไม่ยอมใคร จะต้องให้ได้ดั่งใจทุกอย่าง จนพี่น้องด้วยกันถึงกับเอือม"พี่ภูมินทร์ดูสิ พวกเขาไม่ให้ของเล่นผม""ของเราก็อยู่นี่ไง มันก็เหมือนกันแหละดูสิ ไม่ได้มีอะไรแตกต่างกันเลยสักนิด ทำไมเราถึงต้องอยากไปเล่นของคนอ
ใช้เวลาในการอยู่ในงานแต่งเกือบทั้งวัน จนในที่สุดทั้งสองคนก็ได้กลับขึ้นมาพักผ่อนยังห้องนอนของตัวเอง ซึ่งตอนนี้มินนี่ได้อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว นั่งอยู่บนที่นอนโดยที่ชายหนุ่มสวมกอดเธออยู่ทางด้านหลัง จ้องมองของขวัญตรงหน้าก่อนจะถอนหายใจออกมา"ทำไมของขวัญเยอะขนาดนี้เนี่ย คืนนี้เราจะแกะกันหมดไหมคะ""ก็ค่อย ๆ แกะก็ได้ไม่ต้องรีบหรอก ของส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นสินค้าที่สามารถเก็บไว้ได้นาน ถ้าไม่ไหวก็นอนพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ถ้าหนูว่างก็ค่อยมานั่งแกะก็ได้""เดี๋ยวคืนนี้จะลองนั่งแกะดูค่ะ ถ้าเกิดว่าไม่ไหวพรุ่งนี้ค่อยตื่นมาแกะต่อ ว่าแต่มินนี่มีของขวัญวันแต่งงานให้พ่อเลี้ยงด้วยนะคะ ไม่รู้ว่าจะอยากได้หรือเปล่า"เธอเงยหน้าขึ้นมองสบตากับชายคนรัก ก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์ จนทำให้พ่อเลี้ยงภวินถึงกับมึนงงในท่าทีของเธอ เพราะดูเหมือนว่าจะมีอะไรเซอร์ไพรส์เขา"อยากได้สิ อะไรที่หนูให้พี่ก็อยากได้ทั้งนั้น แล้วทำไมยิ้มเจ้าเล่ห์แบบนั้น เริ่มระแวงแล้วนะ""เห็นหนูเป็นคนยังไงเนี่ย นี่ค่ะเอาไปแกะดู"เธอส่งกล่องบางอย่างไปให้เขาในมือ เป็นกล่องเล็กนิดเดียวไม่ได้ดูมีราคาอะไรหรอก แต่เชื่อเถอะมันมีความหมายกั
และในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ฤกษ์งามยามดีในการแต่งงานของคู่บ่าวสาว ระหว่างพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวิน กับหนูมินนี่ สาวสวยดีกรีนักเรียนนอก ทุกคนจะทราบดีว่าเธอแอบชอบพ่อเลี้ยงภวินมาแต่ไหนแต่ไร ตามติดตั้งแต่เด็กจนในที่สุดเธอก็สมหวัง ทั้งสองคนได้เข้าพิธีแต่งงานในเช้าอันสดใส ฤกษ์งามยามดีคือเวลา 9:09 น.ขบวนขันหมากเคลื่อนที่เข้ามาในบ้านหลังใหญ่ใจกลางไร่ โดยข้างในนั้นมีคุณพ่อคุณแม่ของเจ้าสาวรออยู่ ส่วนมินนี่เธออยู่ในชุดไทย ประดับตกแต่งด้วยเครื่องทองดูสวยงามเหมือนหลุดออกมาจากในนิยาย"พี่เขามาแล้วลูก""มาแล้วเหรอคะคุณแม่"หญิงสาวจ้องมองออกไปยังประตูด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะมองสบตากับว่าที่เจ้าบ่าว ซึ่งเมื่อชายหนุ่มเห็นใบหน้าของว่าที่ภรรยา ก็ยิ้มออกมาทันทีแถมยังมองตาแทบไม่กระพริบ จนคุณแม่ต้องสะกิด"มาเปิดประตูเงินประตูทองก่อน มองน้องตาค้างเชียวนะ รีบ ๆ เอาซองให้เขาไป จะได้เข้าไปหาน้องไง""ได้ครับแม่"เขารีบส่งซองไปให้เด็กที่ถือประตูเงินประตูทอง ต่อรองกันอยู่พักใหญ่ และในที่สุดเขาก็ได้เข้าไปถึงในตัวบ้าน ซึ่งข้างในนั้นถูกตระเตรียมไว้สำหรับพิธีการในวันนี้"มินนี่... ทำไมหนูสวยจัง""พ่อเลี้ยงก็หล่อค่ะ"และเมื่อช
และในที่สุดเรื่องราวเลวร้ายทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี สองพี่น้องถูกพ่อกำนันส่งไปเรียนต่อที่เมืองนอกเป็นเวลาประมาณสามปี จะได้ดัดนิสัยให้เรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวเอง คงเลี้ยงแบบตามใจมานาน จนรู้ว่านิสัยเสียจนกู่ไม่กลับ ถึงได้ส่งไปดัดสันดานด้วยการให้ใช้ชีวิตด้วยตัวเองสักพัก"คนสวยของพี่ ไปเดินเล่นกันไหมคะ"วันนี้พ่อเลี้ยงภวินมีเวลาให้กับว่าที่ภรรยาทั้งวัน งานแต่งงานของเขาทั้งสองคนจะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ สถานที่ถูกตระเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว โดยมีผู้ใหญ่เป็นคนจัดสรรให้ทุกอย่าง"ไปสิคะ"เธอยื่นมือไปให้ชายหนุ่มจับตรงหน้า พ่อเลี้ยงภวินยิ้มกว้างออกมาก่อนจะกุมมือคนรักเอาไว้ พากันเดินออกจากตัวบ้าน ขับรถกอล์ฟวนเล่นในไร่พรางคุยกันไป"ไหนบอกว่าพาไปเดินเล่นไงคะ ขับรถวนเป็นรอบแล้วมั้ง""ใจเย็นสิคะ เดี๋ยวพี่พาหนูไปเดินเยอะก็บ่นอีกว่าเหนื่อย ขับรถเที่ยวเล่นแบบนี้ก็ดีนี่ อากาศเย็นสบายหนูจะได้ไม่ต้องเหนื่อยด้วย""ก็จริงนะคะ ช่วงนี้รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย ไม่มีใครมาตามก่อกวน ทำตัวเป็นสตอล์คเกอร์ ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ ได้อยู่กับผู้ชายที่รัก เป็นชีวิตที่สงบสุขดีนะคะ"เธอยิ้มออกมาก่อนจะยื่น





