“เฮ้ย แม่ง ทำไมทำนิสัยแบบนั้น พูดจาแบบนั้นกับผู้หญิงได้ยังไงกันวะ เลวดีจริงๆไอ้พี่นายน์ของแกเนี่ยฉันละเชื่อเลย แกเลิกชอบไอ้พี่นายน์นั่นได้แล้ว ถ้าแกไม่เลิกชอบฉันนี่ละที่จะเป็นคนบีบคอแก แล้วฉันจะพาแกไปออกกำลังกายลดน้ำหนักเอาให้ผอมสวยเอาให้ไอ้บ้านั่นเสียดายเลยคอยดู” พลอยทุบโต๊ะดังปัง! ความโกรธที่ได้รับรู้เรื่องราวที่ได้เกิดขึ้นกับเพื่อนทำให้เธอฉุนขาดขึ้นมาทันควัน
“พลอย..เรื่องแบบนี้มันคงต้องใช้เวลา เราขอเวลาหน่อยก็แล้วกันนะ” พาฝันยิ้มให้กับเพื่อนเรื่องของหัวใจแบบนี้มันคงต้องใช้เวลากันสักหน่อยเอาเป็นว่าเธอจะไม่ไปหาไม่ไปเจอพี่เขาอีกต่อไปแล้วเดี๋ยวมันก็คงจะดีขึ้นเอง
“พลอยจะพาเราออกกำลังกายเหรอ? มันจะเป็นไปได้เหรอก็เราอ้วนขนาดนี้” พาฝันก้มมองดูหุ่นตัวเองไม่อยากจะคิดเลยว่าเธอนั้นจะลดน้ำหนักได้ง่ายได้ยังไงกัน ในเมื่อเธอมีน้ำหนักถึง 90 กิโลกรัมเลยนะมันคงเป็นเรื่องยากสำหรับเธอเอามากๆเลย
กริ๊งงงงง~
เสียงออดของทางโรงเรียนดังขึ้นเมื่อหมดเวลาคาบเรียนแล้ว
“อือ~แกทำได้อยู่แล้วยัยพาฝัน สู้ๆ ฉันจะคอยอยู่เคียงข้างแกเอง ไปกลับบ้านกันได้แล้ว” พลอยโอบกอดร่างอวบอ้วนของพาฝัน ทั้งสองพากันลุกขึ้นยืนเก็บข้าวของและเตรียมที่จะกลับบ้าน
“ขอบใจนะ เรารักพลอยที่สุดเลย” พาฝันยิ้มกว้างดีใจที่สุดที่มีพลอยเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว เธอรู้สึกอบอุ่นเพียงพอแล้ว
-หน้าโรงเรียน-
“งั้นเราแยกกันตรงนี้เลยนะ พ่อเรามารับแล้ว เอาไว้เจอกันวันจันทร์นะยัยฝัน” พลอยพูดขึ้นเมื่อเห็นว่ารถของพ่อเธอเองกำลังขับเข้ามาจอดรอรับเธอ
“โอเค บัยบายนะ ไว้เจอกัน” ร่างอวบยกมือขึ้นโบกมือลาเพื่อนสนิทที่กำลังเปิดประตูรถแล้วเข้าไปภายในรถคันนั้นรอจนรถของเพื่อนขับออกไปแล้วเธอถึงโบกรถแท็กซี่กลับบ้าน
-บนรถแท็กซี่-
เมื่อขึ้นมาบนรถแท็กซี่แล้วพาฝันก็ไม่รอช้ารีบบอกไปยังลุงคนขับว่าเธอต้องการไปที่ไหน
“ไปสายไหม43ค่ะลุง”
“ได้เลยลูก ลุงจะออกรถแล้วนะ” ลุงคนขับรถยิ้มกว้างบอกกลับมายังเด็กสาวรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์และเริ่มขับรถออกจากหน้าโรงเรียนและพอได้อยู่คนเดียวอีกแล้ว พาฝันก็เริ่มคิดถึงคำพูดแรงๆของพี่นายน์คนนั้นอีกแล้ว
เฮ้อ~
คิดแล้วก็ถอนหายใจวนซ้ำไปมาอยู่แบบนั้น
“ฝันจะเลิกชอบพี่แล้วนะ ถึงฝันจะอ้วนยังไงพี่ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาพูดจาแรงๆแบบนั้น พี่แม่งไม่น่ารักเอาซะเลยเสียแรงที่เกิดมาหล่อซะเปล่า” เธอเริ่มคิดได้ว่าต้องการที่จะเลิกชอบคนอย่างพี่เขาแล้วถึงเธอจะชอบเขายังไงแต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาพูดว่าเธอแบบนั้น
“ไม่น่าไปรู้จักกับคนแบบพี่เขาเลย” เด็กสาวหวนนึกไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้น วันที่เธอได้พบเจอกับพี่เขาเป็นครั้งแรก ตอนนั้นเธออยู่ชั้นมัธยมปลาย ม.5
เด็กสาวร่างอวบอ้วนกำลังเตรียมที่จะข้ามถนนหลังจากเลิกเรียน วันนี้เธอเลือกที่จะกลับบ้านเองแต่วันนี้แสงแดดมันช่างร้อนแรงนักถึงจะเป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้วก็ตาม
และระหว่างที่กำลังจะข้ามถนนอยู่นั้นเด็กผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มมีอาการวิงเวียนศีรษะหน้ามืดขึ้นมาอย่างดื้อๆ
“ทำไมมันเวียนหัวแบบนี้นะ”
ระหว่างที่เธอกำลังยืนอยู่กลางถนนนั้นก็ได้มีรถคันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็ว เด็กสาวตกใจทำอะไรไม่ถูกเธอทำได้เพียงยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น
กรี๊ด~
“ระวัง!!” เสียงของใครก็ไม่รู้ร้องตะโกนดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของเธอ เขารีบวิ่งเข้ามาดึงตะครุบร่างของเด็กสาวเอาไว้ให้ห่างออกไปจากตรงนั้น ทั้งสองล้มลงไปกองกับพื้น มือแกร่งยังคงโอบกอดร่างเด็กสาวเอาไว้เพราะกลัวว่าเธออาจจะได้รับอันตราย
“เป็นอะไรหรือเปล่า?” ชายหนุ่มเอ่ยถามเด็กสาวด้วยความห่วงใยในตัวเธอ
“อ๊ะ! เจ็บข้อศอกค่ะ ปะ..เป็นแผลด้วย เฮือก” เธอมองไปตามขาและยกแขนขึ้นมองให้ถ้วนทั่วก็พบว่าข้อศอกของตัวเองนั้นเป็นแผลวงกลมและมันเริ่มมีเลือดไหลซึมออกมา
พาฝันที่ซึ่งเป็นคนที่กลัวเลือดมากก็ทำท่าเหมือนจะเป็นลมมันเหมือนจะหายใจไม่ทั่วท้อง วูบๆยังไงก็ไม่รู้เลือดยิ่งออกเธอยิ่งกลัว
“งั้นมานี่มาเดี๋ยวพี่พาไปทำแผลที่โรงพยาบาล” ชายหนุ่มประคองร่างเธอให้ลุกขึ้นยืนแล้วค่อยๆพาเธอเดินไปยังรถของเขาที่จอดอยู่ไม่ไกล
-โรงพยาบาล-
“ขอบคุณมากค่ะไม่ทราบว่าพี่ชื่ออะไรเหรอคะ” ตอนนี้ทั้งคู่ได้มาอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้วและพยาบาลกำลังทำแผลให้เธออยู่ เธอไม่รอช้ารีบขอบคุณผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้
“นายน์ เรียกพี่ว่า พี่นายน์ ก็แล้วกัน” เขาตอบกลับเธอด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแล้วมองดูที่บาดแผลซึ่งน่าจะมีอยู่แค่เพียงที่เดียวเท่านั้นซึ่งนั่นก็คือบริเวณข้อศอกที่เดียว
“ฝันเป็นยังไงบ้างลูก” เสียงทุ้มเข้มดังขึ้นซึ่งนั่นก็คือเสียงของพ่อของเธอที่พอพยาบาลได้โทรไปแจ้งเขาก็รีบมาโดยทันที
“พ่อ..ฝันไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ” พ่อรีบเข้ามาโอบกอดคนเป็นลูกเอาไว้ด้วยความห่วงใย
“นี่เธอเป็นลูกสาวของคุณอาวิโรจน์อย่างงั้นหรือครับ” นายน์ที่รู้จักกับพ่อของเธอก็ถามเขาออกมาอย่างไม่อาจจะเชื่อว่าเด็กสาวที่เขาได้ช่วยชีวิตเอาไว้จะเป็นลูกสาวของผู้จัดการ
ซึ่งนั่นก็คือว่าพ่อของเด็กคนนี้น่ะเป็นลูกน้องของพ่อเขา
“ครับ พาฝัน เธอเป็นลูกสาวของผมเองครับ ขอบคุณที่พาลูกสาวของผมมาทำแผลนะครับ” พ่อพาฝันผละออกจากลูกสาวและหันหน้ามองนายน์ก็ยิ้มออกมา เมื่อได้รู้ว่านายน์ลูกเจ้าของบริษัทก็คือคนที่ได้ช่วยชีวิตลูกสาวของเขาเอาไว้นั่นเอง
นายน์จงใจยิ้มอย่างกวนประสาทพร้อมกับจงใจเน้นคำว่าเอาหนักแน่นทำเอาพาฝันที่อยู่ข้างกายถึงกับใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อพูดจบพี่นายน์ก็ออกดึงแรงพาฝันให้เดินออกไปขึ้นรถของเขาที่จอดอยู่ไม่ไกล30 นาทีต่อมาคอนโดนายน์ทันทีที่เดินเข้ามาภายในห้องคอนโดของนายน์ พาฝันก็รีบสาวเท้าเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อที่เธอนั้นจะเข้าไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายแล้วจะได้ออกไปหาซื้ออะไรกินแต่แล้วกลับมีมือของนายน์ดึงรั้งเธอเอาไว้ เขาออกแรงดึงเธอให้เข้ามาแนบชิดจนร่างทั้งสองร่างแนบชิดติดกันจนไม่มีช่องว่าง“จะไปไหนมาคุยกันก่อน!!”“ปล่อยฝันนะ! ฝันอยากอาบน้ำดูสิคะเหงื่อตัวเลย ” พาฝันที่โดนชายหนุ่มตัวร้ายกอดอยู่ก็ดีดดิ้นพยายามใช้มือดันอกแกร่งเอาไว้ ความหิวทำให้เธอหงุดหงิดจนอยากจะผลักไอ้พี่บ้านี่ให้ออกไปห่างๆติดก็แค่เธอไม่มีแรงมากพอก็เท่านั้น“เรื่องที่ไอ้เหี้ยนั่นพูดเมื่อวาน เธอเป็นคนบอกมันใช่มั้ย” นายน์ใช้มือจับเข้าที่คางเล็กให้หันมามองกันก่อนที่เขาจะเริ่มพูดเข้าประเด็นในสิ่งตัวเขาเองอยากรู้ซึ่งเขาคิดว่าต้องเป็นเธอนั่นแหละที่เป็นคนบอกไม่งั้นมันจะรู้ได้ยังไงจริงมั้ย“นี่พี่ยังไม่จบเรื่องนั้นอีกเหรอ ฝันไม่ใช่เป็นคนบอก” พาฝันมองจ้องสร
พลอยที่รู้นิสัยของพี่ชายตัวเองเป็นอย่างดีก็ยิ้มขึ้นที่มุมปากก่อนที่จะหันหน้ามองไปยังพาฝันนี่ถ้าไม่ติดว่ายัยฝันมีพี่นายน์นะเธอคงจะเชียวให้พี่ชายของเธอไปแล้วและพอพูดถึงพี่นายน์ขึ้นมาก็พาลให้คิดไปถึงเรื่องที่เขาประกาศชัดในตอนที่อยู่ที่โรงอาหารของคณะบริหาร“ดูท่าแล้วยัยฝันมีหวังคงจะหนีอิตาพี่นายน์ไม่พ้นอย่างแน่นอนเพราะเขาเล่นล็อคเป้าหมายเอาไว้ซะขนาดนั้นแล้ว” พลอยที่นึกขึ้นได้ก็เอ่ยขึ้น“แล้วเรื่องพี่นายน์แกจะเอายังไงต่อไป ประกาศชัดซะขนาดนั้นดูท่าแล้วแกคงหนีพี่เขาไม่พ้น” คะนิ้งอดเป็นห่วงในตัวเพื่อนสาวไม่ได้จึงรีบถามคำถามที่อยากเธอเองก็อยากรู้“เขาก็แค่พูดไปงั้นแหละเหมือนหมาหวงก้างอะ เราไม่คิดว่าเขาพูดจริงจังอะไรหรอก” พาฝันที่ฟังพลอยกับคะนิ้งพูดถึงเรื่องพี่นายน์ขึ้นมาก็ส่ายหน้าเบาๆเธอไม่คิดว่าสิ่งที่เขาพูดในตอนนั้นจะเป็นความรู้สึกจริงๆของพี่เขาหรอกนะอย่างมากก็คงแค่หวงก้างกลัวว่าพี่พอร์ชจะมาแย่งเธอไปนั่นแหละก็แบบว่ายังเล่นสนุกกับร่างกายเธอไม่พอก็เลยกลัวว่าจะไม่คุ้มละมั้ง“ช่างเถอะๆ ไปเข้าเรียนกันดีกว่านี่ก็ใกล้จะถึงเวลาเริ่มเรียนแล้ว” พาฝันบอกปัดอย่างคนที่ไม่คิดที่จะสนใจเพราะเธอในตอนนี้ไม่ไ
“ยัยฝันเป็นอย่างไรบ้างลูกช่วงนี้ไม่เห็นโทรมาหาแม่บ้างเลย” ผู้เป็นแม่เดินเข้ามาโอบกอดร่างบอบบางของลูกสาวเอาไว้ด้วยความคิดถึงอีกทั้งยังพูดออกมาด้วยความน้อยใจที่ช่วงนี้พาฝันนั้นไม่ค่อยโทรหาเธอบ้างเลยพาฝันที่ได้ยินแบบนั้นก็เม้มปากแน่นจะให้เธอโทรหาพ่อกับแม่ได้อย่างไรในเมื่อตัวเธอนั้นนอนอยู่ในห้องของผู้ชาย เธอจึงเลือกที่จะพูดโกหกเพราะอยากให้พ่อและแม่ของเธอสบายใจ“ฝันสบายดีค่ะแม่ ช่วงนี้ฝันมีทำรายงานเยอะเลยค่ะก็เลยไม่ค่อยมีเวลา เอาเป็นว่าต่อไปฝันจะโทรหาแม่ก่อนนอนนะคะ จุ๊บ~”“แล้วนี่กินอะไรกันหรือยังคะ ฝันซื้ออาหารมาเต็มเลย” มือเล็กๆชูถุงอาหารที่อยู่ในมือขึ้นก่อนที่จะมาถึงบ้านเธอและเพื่อนได้แวะยังร้านอาหารกันก่อนจึงทำให้เธอได้มีโอกาสสั่งอาหารมาฝากยังพ่อและแม่ของเธอ“ยังเลยลูกวันนี้พ่อกับแม่เบื่อๆอาหารที่บ้านก็เลยว่าจะสั่งอาหารกันอยู่พอดี งั้นลูกซื้อมาแบบนี้ก็ดีเลย ไปกินกันข้าวกันเถอะนะคะคุณ” แม่พาฝันยิ้มแก้มปริดีใจมากที่วันนี้ลูกสาวเข้ามาบ้านแถมยังซื้ออาหารเข้ามาฝากเธอกับผู้เป็นสามีด้วยอีกไม่รอช้าแม่จึงเอ่ยชวนพ่อให้รีบลุกขึ้นเพื่อเดินไปยังโซนครัวของบ้าน“อืม ไปสิ” พ่อรีบลุกขึ้นพาฝันที่เห็นแบ
นายน์กัดฟันแน่นปฏิเสธ พยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดออกจากการจับของเพื่อนแต่ก็ไม่อาจหลุดไปได้เลยพวกมันทั้งสองคนจับเขาแน่นมากแน่นจนเกินไป ชายหนุ่มที่ไม่อยากแยกห่างจากเธอแม้แต่เพียงวันเดียวจู่ๆภายในหัวสมองของเขาก็เกิดความคิดแล่นเข้ามาว่า..เธออยากไปกับมัน“ฝันไม่ได้อยากไปกับใครทั้งนั้น!! ขอละคะขอให้ฝันได้หยุดพักหัวสมองบ้างไม่รู้จะมาทะเลาะอะไรกันที่นี่ ไม่อายคนอื่นเขาบ้างเหรอคะ ดูสิคะมีแต่คนมอง พวกพี่ไม่อายแต่ฝันอายนะ”เมื่อพาฝันพูดเสร็จเธอก็ถือโอกาสนั้นเดินสาวเท้าออกไปจากโรงอาหารของคณะทันที คะนิ้งและยูจินก็รีบเดินตามพาฝันไปติดๆเหลือก็เพียงแต่พลอยที่ยังคงต้องอยู่รอพี่ชายตัวดีของเธอ“เดี๋ยวก่อนสิฝัน!” นายน์ทำท่าจะวิ่งตามพาฝันไปแต่ก็ทำได้เพียงแค่คิดเพราะความจริงไอ้เพื่อนเวรทั้งสองมันยังคงจับเขาอยู่เหมือนเดิม“แล้วสรุปมึงจะเอายังไงมึงบอกมาเลยดีกว่าว่าจะเรียกเท่าไหร่” พอร์ชเมื่อเห็นว่าพาฝันเดินออกไปแล้วก็ถามไปยังเจ้าหนี้ของเธอ มันอยากได้เท่าไหร่ให้เรียกมาเขาจะยอมจ่ายมันตามที่ร้องขอ ถ้ามันแลกมาได้กับการเป็นอิสระของรุ่นน้องสาว ยังไงเขาก็ยอม“กูไม่รับเงินจากคนอย่างมึง!” นายน์ตะคอกเสียงใส่พอร์ชก่อนที่จ
“ฮึ่ย~ ไอ้เด็กเวรนี่พูดออกมาได้” พอร์ชขบกรามแน่นด้วยความโกรธเคืองสิ่งที่มันพูดในวันนี้ถือว่ามันได้รับชัยชนะได้ทำให้ทุกคนได้รู้ว่าพาฝันคือผู้หญิงของมันแต่แล้วอย่างไรละในเมื่อเขาเองก็ชอบเธอเหมือนกันและไม่สนใจด้วยว่าเธอจะเคยเป็นของใครมาก่อน“แล้วมึงจะทำไม?” นายน์ยิ้มอย่างผู้ชนะเอ่ยเสียงท้าทายไปยังพอร์ชพี่ชายของพลอย“กูชอบน้องฝัน!” พอร์ชเม้มปากแน่นแล้วตัดสินใจพูดในสิ่งที่ตัวเองกำลังมีความรู้สึก เขาชอบเธอเขาชอบน้องฝันและไม่ใช่ชอบในตอนหลังนี้แต่เขาชอบเธอตั้งแต่เมื่อตอนที่เธอยังอยู่ในชั้นมัธยมปลาย พาฝันที่ได้ฟังก็นิ่งเงียบตกใจอยู่ไม่น้อย“บอกชอบเมียชาวบ้านเขาเนี่ยนะมึงนี่แม่งโคตรเลวเลย” นายน์กัดฟันกรอดด้วยความโมโหไอ้ผู้ชายเหี้ยคนนี้ที่กำลังยืนสารภาพรักกับเมียของเขา มือหนากำหมัดแน่นพลางมองพาฝันว่าจะรู้สึกเช่นไรใบหน้าเรียวสวยสั่นไหวอย่างเห็นได้ชัดทำให้เขาถึงกับต้องเม้มปากอดกลั้นความรู้สึกของตัวเองเอาไว้เขากลัวว่าจะต้องเสียเธอไปให้กับมัน..“กูชอบน้องเขาก่อนมึงด้วยซ้ำ ชอบ..ตั้งแต่ตอนที่เธอยังอยู่ชั้นม.ปลาย” พอร์ชยิ้มมุมปากพูดต่อบอกความรู้สึกของตัวเขาเองที่มีต่อเธอมันเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนนั้นตอนที
คิมหันต์รีบตบบ่าแกร่งของเพื่อนรักเพื่อเป็นการปลอบใจแต่เมื่อมาลองคิดเล่นๆดูแล้วถ้าเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นกับตัวเขาเองยังไงก็คงต้องเครียดซึ่งนายน์สามารถรับรู้ได้ถึงความห่วงใยของกลุ่มเพื่อนสนิทก็พยักหน้านิ่งอย่างเข้าใจและขอบคุณ“กูว่ากูจะเลิกสูบบุหรี่ อยากพัก ว่าจะเลิกเหล้าด้วยเลย” ตัวเขาเองเมื่อกลับมาคิดๆดูแล้วเขาได้คำตอบว่าควรที่จะลองเลิกสูบบุหรี่และเหล้าดูเสียก่อนอย่างน้อยถ้าส่วนนั้นมันไม่หายการเลิกเหล้าเลิกบุหรี่ก็ยังเป็นผลดีต่อสุขภาพร่างกายของตัวเขาเอง“มันก็ดีแต่มันก็เลิกยากนะ!” นักรบที่นั่งฟังอยู่ก็พูดขึ้นเลิกบุหรี่นั้นเลิกยากมากครั้งหนึ่งเขาเลยลองเลิกดูแล้วแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ“ของแบบนี้ก็ต้องลองวะเพื่อน พวกกูเอาใจช่วยนะ” คิมหันต์ตบไหล่ปลอบใจเพื่อนอีกครั้งไม่ว่าไอ้นายน์มันจะเป็นยังไงเขาและเพื่อนจะคอยเอาใจช่วยมันอยู่ตรงนี้ไม่ทิ้งมันไปไหนแน่นอน“แล้วน้องฝันรู้ยัง” กัปตันถามไปถึงน้องฝันคนสวยไม่รู้ว่าป่านนี้ไอ้นายน์จะบอกความลับนั้นกับเธอหรือยังเพราะเรื่องนี้มันสำคัญมากสำหรับชีวิตคู่“ยัง! กูไม่กล้าบอก ถ้าบอกมีหวังได้ดีใจหัวเราะออกมาแน่เลย ยิ่งไม่อยากให้กูเอาอยู่ด้วย” นายน์ส่ายหน้าไปม