พลอยเพื่อนสนิทของพาฝันที่เดินไปเข้าห้องน้ำและเดินกลับเข้ามาก็ได้ยินคำพูดและเสียงหัวเราะเยาะเย้ยจากทางมิ้นท์ก็ได้รีบพุ่งตรงเข้ามายังนังเพื่อนตัวดีที่นั่งอยู่ข้างๆพาฝัน
“เอ๊ะนี่! ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเพื่อนเธอเลยนะ ร้อนตัวหรือไง!!” มิ้นท์รีบลุกขึ้นยืนถอยหลังออกไปเล็กน้อยเพราะเริ่มกลัวไปกับท่าทางของพลอยแต่ปากนางก็ยังคงดีเหมือนเดิม
“ทีแกยังร้อนตัวได้เลยนี่ ยังไง? ถ้าไม่ชอบเพื่อนฉันก็อย่ามาใกล้อย่ามาหลอกด่ากันแบบนี้ สวยตายแหละ” พลอยพุ่งตัวเข้าไปตรงที่มิ้นท์ยืนอยู่ใจอยากจะตบสั่งสอนมันสักทีสองทีแต่ก็โดนพาฝันดึงห้ามปรามเอาไว้เพราะไม่อยากให้มันกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต
เหล่าบรรดาเพื่อนๆในห้องต่างเดินเข้ามามุงดูโดยที่ไม่มีใครสักคนคิดที่จะเข้ามาห้ามทัพในครั้งนี้
“พลอยไม่เอาน่าเราไม่เป็นไร” พาฝันร้องห้ามเพื่อนสนิทที่ตอนนี้กำลังเดือดดาลแทนเธอมากถึงมากที่สุด มือเรียวรีบโอบกอดร่างของพลอยเอาไว้เพราะกลัวว่าเพื่อนจะเข้าไปตบตีมิ้นท์แล้วกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต
“จะไปไหนก็ไปเลยไป!! อย่าให้รู้ว่ามาพูดจาแบบเมื่อกี้กับเพื่อนฉันอีก ไม่งั้นแม่จะซัดให้หน้าหงายเลยคอยดู” พลอยที่เห็นว่าพาฝันร้องห้ามและบอกกับเธอว่าไม่เป็นไรก็เริ่มยืนนิ่งอยู่กับที่ สูดลมหายใจเข้าและออกเพื่ออยากผ่อนคลายอารมณ์โกรธที่มีอยู่ พร้อมทั้งเอ่ยปากไล่มิ้นท์ให้รีบออกไปจากตรงนี้
“ฝากไว้ก่อนเถอะ” มิ้นท์รีบเดินหนีหายออกไปจากห้องเรียนทันทีเพราะตอนนี้กลุ่มเพื่อนสนิทของเธอไม่อยู่ในห้องสักคน
“พลอย~” พาฝันรู้สึกซึ้งใจพลอยเป็นอย่างมากไม่ว่าจะกี่ครั้งที่เธอโดนบูลลี่ก็จะมีพลอยนี่แหละที่คอยออกตัวด่าคนที่เข้ามาว่าเธอแทบจะทุกครั้งเลยก็ว่าได้
“เออๆฉันพอแล้ว แม่งโคตรไม่ชอบคนแบบยัยนี่เลย” พลอยหรี่สายตามองไปยังพาฝันที่เหมือนจะน้ำตาไหลแล้วรีบปลอบใจยัยเพื่อนขี้แยคนนี้ทันที ตัวใหญ่แต่ทำไมขี้แงนักนะ
“แต่มันก็จริงอย่างที่มิ้นท์พูดนั่นแหละก็เรามันอ้วนแบบนี้” พาฝันก้มใบหน้าลงเล็กน้อยทั้งสองต่างพากันนั่งลงยังที่ของตัวเอง ไม่ผิดเลยที่มิ้นท์จะพูดจาแบบนั้นกับเธอก็เพราะว่ามันคือเรื่องจริงที่เธอนั้น’อ้วน’
“ก็แค่อ้วนเองมั้ย อ้วนแล้วอนาคตต่อไปจะลดน้ำหนักไม่ได้เลยเหรอ แล้วอ้วนหรือผอมเนี่ยมันเกี่ยวกับการที่จะเป็นดีไซน์เนอร์ด้วยหรือไง แกอย่ายอมแพ้แบบนี้ดิ!” พลอยของขึ้นขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่าพาฝันว่าตัวเองอีกแล้ว ทำไม อ้วนแล้วจะไม่มีวันผอมเลยหรือยังไงไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเพื่อนเธอถึงได้ชอบคิดแบบนี้อยู่เรื่อย
“เราไม่ยอมแพ้หรอกพลอย ยังไงเราจะขอลองดูสักตั้งแล้วพลอยล่ะจะเลือกเรียนคณะอะไรเหรอ?” พาฝันเม้มปากแน่นเธอก็แค่เด็กผู้หญิงขี้กลัวไม่มีความมั่นใจและเมื่อโดนเพื่อนบ่นถึงขนาดนี้ เธอก็เริ่มที่จะมีกำลังใจฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง
“เราคงเลือกเรียนบริหารอะ คงต้องช่วยงานต่อจากที่บ้านก็เลยต้องเลือกเรียนแบบที่ว่านั่นแหละ”
“แล้วไม่มีสาขาในดวงใจบ้างเลยเหรอ?” พาฝันพยักหน้ารับรู้ไปกับสิ่งที่เพื่อนกำลังอธิบายให้เธอได้รู้แต่ใจก็ยังอยากรู้ว่าพลอยไม่มีคณะที่อยากเรียนจริงๆบ้างเลยเหรอ
“อะไรก็ได้ที่จบง่ายๆ ฮ่าๆ” พลอยส่ายหน้าไปมาเธอเป็นคนที่คิดไม่เยอะ คณะไหนก็ได้ที่เรียนง่ายๆและจบเร็วๆนั่นแหละดีที่สุดสำหรับเธอแล้ว
“พลอยนี่ก็นะ ง่ายดีจริงๆ” พาฝันส่ายหน้าเช่นกันเมื่อได้ฟังคำพูดของเพื่อนสนิท
“ว่าแต่เมื่อวานได้ไปเจอพี่นายน์ อะไรของเธอนั่นมั้ย?” พลอยนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อวานเพื่อนของเธอบอกว่าจะซื้อขนมไปฝากชายหนุ่มรุ่นพี่ที่ซึ่งเธอแอบชอบและยังเป็นรักแรกของเธออีกด้วย
“ก็ได้ไปเจออยู่” ใบหน้าอวบหุบยิ้มลงทันทีพร้อมกับก้มหน้าลง เธอไม่กล้าสบตาเพื่อนสนิทเพราะกลัวจะเผลอร้องไห้ออกมา ยิ่งนึกถึงพี่เขาเธอก็ยิ่งเศร้าเข้าไปใหญ่
“แล้วทำไมทำหน้าแบบนั้นหรือว่ามีอะไรหรือเปล่า” พลอยสังเกตลักษณะท่าทางของพาฝันได้จึงเลือกที่จะเอ่ยถามเพื่อนออกมาด้วยความเป็นห่วงอาการแบบนี้มันต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆเพราะเพื่อนสาวของเธอพอได้ไปเจอพี่นายน์ของเธอแล้ว กลับมาทีไรเธอจะยิ้มแย้มจนแก้มปริมีความสุขทุกที
“คือ..”
“แกเล่าได้ถ้าแกอยากจะเล่า ฉันพร้อมและยินดีรับฟังและจะไม่ปริปากบอกใครเป็นเด็ดขาด เชื่อใจเพื่อนรักคนนี้ได้เลย!!” พลอยบีบมือให้กำลังเพื่อน รับรองได้เลยว่าเรื่องที่ออกมาจากปากของพาฝัน เธอจะไม่มีวันบอกให้ใครรู้เด็ดขาด
“เมื่อวานเราไปเจอพี่นายน์กำลังทำเรื่องอย่างว่าอยู่กับรุ่นพี่ผู้หญิงในบริษัทแหละ ทำกันในห้องน้ำไม่ได้ล๊อคประตูด้วย เราเปิดไปเจอพอดีก็เลยโดนไล่ออกมา” พาฝันพยักหน้าหงึกหงักและเริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้พลอยได้รับฟัง
“เหี้ยจริง!! เอาไม่เลือกสถานที่เลยคนสมัยนี้” พลอยถึงกับอ้าปากค้างและเริ่มของขึ้นขึ้นมาทันที เธอไม่รีรอที่จะด่านายน์ ชายหนุ่มรุ่นพี่ที่เพื่อนสนิทของเธอแอบชอบ
“แล้วพี่นายน์ของแกพูดอะไรอีก”
“เขารู้ว่าเราแอบชอบเขา เขาบอกให้เราเลิกชอบ เขาบอกว่าไม่ชอบคนอ้วน เดินไปไหนกับเราเขาอาย ฮึก” พาฝันพูดไปน้ำตาก็เริ่มไหลออกมาเมื่อพลางนึกไปถึงคนใจร้ายที่ว่าเธอได้อย่างใจร้ายใจดำที่สุด
“ใจเย็นๆไม่ต้องแย่งกันถ้าพวกมึงต่างก็มีเด็กกันอยู่แล้วงั้นน้องคนนี้กูขอแล้วกัน” นักรบที่ฟังพวกมันจ้องจะแย่งน้องคนนี้แต่ติดที่ว่าต่างคนก็ต่างมีเด็กอยู่ก็ได้พูดขึ้นเพราะตอนนี้เขาว่างไม่มีความสัมพันธ์กับสาวคนไหน“ข้ามศพกูไปก่อนครับไอ้เหี้ยนักรบ!” นายน์ยกขาขึ้นมาวางเอาไว้บนเก้าอี้ สายตาดุถูกส่งไปยังไอ้นักรบเพื่อนรัก“ฮ่าๆ แม่งโคตรจะหวงก้างทั้งๆที่ยังไม่ทันได้จีบน้องเขาด้วยซ้ำ” นักรบหัวเราะออกมาดังลั่นดูก็รู้ว่าไอ้นายน์มันต้องชอบน้องคนนี้ เขาก็แค่แกล้งๆแหย่มันเพียงเท่านั้นไม่ได้คิดอยากจะเข้าไปจีบเธออย่างที่ปากพูดออกไปสักหน่อย“ระดับนี้แล้วคงไม่ต้องจีบข้ามไปเย..ได้เลย พวกมึงคอยดู!” นายน์ที่ดูจะมั่นใจเหลือเกินว่าเธอจะต้องชอบเขาอย่างแน่นอนก็พูดขิงเพื่อนไปทันทีพร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วมุ่งหน้าเดินเข้าไปหาเธอคนนั้น-พาฝัน-ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยจึงได้หันไปมองอย่างเพ่งเล็งและทันทีที่ได้มองเห็นว่าเขาคนนั้นเป็นใคร หัวใจก็เริ่มเต้นแรงขึ้นแต่มันไม่ได้ใจเต้นแรงเพราะยังชอบเขาหรอกนะก็แค่ตื่นเต้นว่าเขาจะจดจำฉันได้หรือไม่ต่างหาก ว่าฉันก็คือเด็กผู้หญิงคนนั้น คนที่อ้วนแล้ว
“ดีจัง..นี่ฉันยังคุยกับฝันอยู่เลยนะว่าอยากให้พวกแกได้รู้จักกัน พวกเราจะได้รวมทีมกันสี่คน พวกแกว่าดีมั้ย?” คะนิ้งยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจไปกับภาพตรงหน้าที่เพื่อนเข้ากันได้เป็นอย่างดี“เยี่ยมเลยงั้นแกแอดไลน์ฉันมานะ ยูจินน่ะฉันมีไลน์เรียบร้อยแล้ว ฉันสร้างกลุ่มไว้รอแล้วเดี๋ยวดึงแกลงกลุ่มเลย” พลอยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดไปที่หน้าไลน์กดเปิดคิวอาร์โค๊ดของตัวเองแล้วยื่นไปให้คะนิ้ง“โอเค ฉันแอดไลน์พลอยไปแล้วนะ” คะนิ้งรีบเปิดหน้าไลน์ของตัวเองเช่นกันและรีบแอดเพิ่มพลอยทันที พลอยพยักหน้ารับรู้และดึงคะนิ้งกับพาฝันเข้ามาในกลุ่มแชทที่มีเธอกับยูจินอยู่ด้วยกันแล้วคณะศิลปกรรมศาสตร์ในระหว่างที่พาฝันกับคะนิ้งกำลังนั่งรออาจารย์อยู่นั้นก็ได้มีรุ่นพี่สาวเดินเข้ามายืนหยุดหน้าห้องแล้วเริ่มมองไปยังเหล่านักศึกษาในชั้น สายตาคมมองไปทั่วๆห้องแล้วมาหยุดอยู่ที่พาฝันกับคะนิ้งรุ่นพี่คนนั้นเดินเข้ามายืนอยู่ข้างหน้าพาฝันและคะนิ้ง“น้องๆคะ สนใจลงประกวดดาวคณะมั้ยคะ พวกน้องสวยมากเลย” รุ่นพี่คนนั้นเชิญชวนฉันกับคะนิ้งให้ลงประกวดดาวคณะ ให้ตายตั้งแต่ได้รับพรวิเศษมาก็เริ่มมีอะไรแปลกเกิดขึ้นเยอะเลย เปลี่ยนไปมากจนฉันตามไม่ทัน“ฝั
มหาลัย ACชีวิตในรั้วมหาลัยได้เริ่มต้นขึ้นแล้ววันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของพาฝันและพลอย ทำให้พวกเธอทั้งสองขับรถออกมาจากคอนโดก่อนเวลาเล็กน้อยเพราะกลัวรถติดและตอนนี้พวกเธอทั้งสองได้มาถึงมหาลัยเป็นที่เรียบร้อย ทั้งสองเดินมาถึงยังแถวนักศึกษาปีที่1 ที่ต่างพากันพูดคุยสนุกสนานแบ่งแถวแยกไปตามคณะ“ตื่นเต้นมั้ยยัยฝัน” พลอยที่มือเย็นเฉียบจับเข้าไปที่มือของพาฝัน..เพื่อนรักซึ่งมือของเธอก็เย็นไม่ต่างไปกับมือของตนเอง“อื้อ~ เราตื่นเต้นมากเลยแต่เสียดายที่พวกเราไม่ได้เรียนด้วยกัน” ร่างบางพยักหน้ารัวๆยอมรับว่าตอนนี้รู้สึกประหม่าและตื่นเต้นเป็นอย่างมากอีกทั้งยังแอบเสียดายที่พวกเธอไม่ได้เรียนด้วยกันเหมือนดั่งตอนชั้นมัธยม“ตอนกลางวันหรือตอนเย็นถ้าว่างตรงกันก็รีบนัดกินข้าวด้วยกันเลยนะ อย่าลืมฉันเชียวล่ะ!!” พลอยไม่ลืมที่จะบอกกล่าวเน้นย้ำกับเพื่อนสนิทเอาไว้ เธอกลัวพาฝันจะลืมเธอถ้าไปเจอกับเพื่อนคนใหม่“เราไม่มีวันลืมพลอยเด็ดขาด เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเรา” พาฝันพูดหนักแน่น ใครจะไปลืมเพื่อนสนิทคนนี้ได้ลงคอ พลอยเป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งพี่น้องที่ยอมรับในตัวเธอ ในตอนที่เธอยังคงมีรูปร่างอ้วน“เหมือนกันแต่ต่อไปทั
-วันประกาศผลสอบเข้ามหาลัย-คาเฟ่ ChiChiพาฝันหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเข้าไปยังเว็บไซต์ที่ลงประกาศผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัย มือเรียวค่อยๆกดเลื่อนดูรายชื่อของตัวเองอย่างใจจดใจจ่อ ลุ้นสุดๆลุ้นจนเสียงหัวใจแทบจะหลุดออกมาเต้นรัวๆข้างนอกและแล้วเธอก็พบเข้ากับรายชื่อของตัวเองมือเรียวยกขึ้นสะกิดไปยังไหล่บางของเพื่อนสนิทที่กำลังเลื่อนดูรายชื่อของตัวเองผ่านทางหน้าจอโทรศัพท์มือถือไม่ต่างกันกับพาฝัน “พลอย~ เราสอบเข้าคณะที่เราเลือกได้แล้ว!!”“กรี๊ด~ เหมือนกัน นะ..นี่ไง ฉันตื่นเต้นจนมือสั่นไปหมดแล้ว” พลอยเห็นรายชื่อของตัวเองแล้วก็กรีดร้องขึ้นด้วยความดีใจพร้อมกับยืนโทรศัพท์มือถือไปให้พาฝันได้ดูว่าเธอเองก็สอบติดในคณะบริหารแล้วเช่นกัน“พวกเราจะเป็นนักศึกษาปี1 กันแล้ว” พาฝันยิ้มจนแก้มปริดีใจอย่างถึงที่สุดที่มีวันนี้ วันที่พวกเธอสอบติดในคณะที่เลือกและคาดหวังเอาไว้ตั้งแต่แรก“เออแล้วนี่แกได้บอกกับพ่อแม่เรื่องย้ายออกมาอยู่หออย่างที่ฉันบอกมั้ย..ฝัน”“เรารอผลสอบออกก่อนแล้วถึงจะขอพ่อกับแม่น่ะแต่พวกท่านคงให้อยู่แล้วเพราะจากบ้านเราไปมหาลัยไกลมากเลย พวกเราไปหารค่าห้องกันนะ..พลอย”“จัดไปวัยรุ่น” ทั้งคู่บีบมือให้ก
“ก็หมายความว่าต่อไปเจ้าจะไม่รู้สึกรักผู้ชายคนนั้นอีกต่อไป เจ้าจะว่าอย่างไรจะยอมแลกความผอมความสวยกับสิ่งนี้หรือไม่?” หญิงคนนั้นถามย้ำเธออีกครั้งซึ่งคำถามนี้ทำเธอขนลุกชัน ใจหายอยู่ไม่น้อยที่ต้องคิดว่าต่อไปเธอจะไม่มีความรู้สึกรักชอบกับพี่ชายคนที่เธอเคยแอบชอบเขาอีกต่อไปพาฝันชั่งใจอยู่เพียงครู่แล้วจึงตอบกลับไปว่า“ฝันเองก็ไม่ต้องการที่จะชอบคนอย่างพี่นายน์อีกต่อไปแล้วค่ะ ถ้าทำให้ฝันผอมและสวยได้ ฝันยินดีแลก แต่ทุกคนจะยังจำฝันได้อยู่มั้ยคะ?” ร่างอวบเม้มปากแน่นแล้วถามกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ถามในสิ่งที่เธอยังคงสงสัย สิ่งที่เธอกังวลมากที่สุดก็คือพ่อกับแม่และเพื่อนๆที่โรงเรียนจะยังจำเธอได้หรือไม่เท่านั้นเอง“ครอบครัวและเพื่อนของเจ้าจะยังจำเจ้าได้อย่างแน่นอน จะจำได้ว่าเจ้ารูปร่างผอมแบบนี้มาตั้งแต่จำความได้แล้ว”“ฝันตกลงค่ะ” เธอพยักหน้าตอบตกลงในที่สุดและในชั่วพริบตาเดียว พาฝันจากเดิมที่มีรูปร่างอ้วนก็ได้เปลี่ยนไปราวกับว่าเป็นคนละคน“ลองส่องกระจกดู” เขายื่นกระจกที่อยู่ในมือของตนเองไปให้พาฝันเธอหยิบกระจกนำขึ้นมาส่องดูตัวเอง มองเข้าไปในกระจกปรากฏว่าเป็นรูปของหญิงสาวรูปร่างผอมบอบบางแต่ใบหน้าเธอช่างล
“ขอบคุณมากเลยนะคะ” พาฝันผละตัวออกจากพ่อแล้วรีบเอ่ยคำขอบคุณมอบให้กับเขาที่เป็นคนช่วยชีวิตเธอเอาไว้ ถ้าไม่ได้เขาเธอก็คงบาดเจ็บหนักหรือตายไปแล้วก็ได้“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ พี่ไปก่อนนะ” นายน์ที่เห็นว่าตอนนี้เด็กคนนี้มีพ่อคอยอยู่ดูแลแล้ว เขาจึงเลือกที่จะขอตัวกลับก่อน ก่อนไปก็ไม่ลืมที่จะบอกลาไปยังสาวน้อยรูปร่างอวบอ้วน“ขอบคุณพี่นายน์อีกครั้งนะคะที่พาหนูมาทำแผล” พาฝันเด็กสาววัยมัธยมรีบยกมือขึ้นขอบคุณไปยังชายหนุ่มที่ได้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ เขาเพียงแค่ยิ้มและเดินออกไปเดินออกไปพร้อมกับหัวใจของเธอ เธอตกหลุมรักเขาเข้าให้แล้ว“เป็นอย่างไรบ้างลูก เจ็บตรงไหนอีกบ้างหรือเปล่า” พ่อเอ่ยถามพาฝันอีกครั้งด้วยความเป็นห่วงลูกสาวเหลือเกิน“ฝันไม่เป็นอะไรแล้วค่ะพ่อ ว่าแต่พี่เขาคือใครเหรอคะทำไมพ่อถึงได้รู้จักเขา” พาฝันที่อยากรู้ว่าเขาคนนั้นคือใครแล้วทำไมพ่อของเธอถึงได้รู้จักกับเขาก็ได้ถามพ่อออกไป“เขาเป็นลูกชายของคุณปฐวี เจ้าของบริษัทที่พ่อทำงานอยู่น่ะ”“อ่อ เป็นแบบนี่เอง” เด็กสาวพยักหน้าหงึกหงักที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ลูกเจ้าของบริษัทที่พ่อของเธอทำงานอยู่อย่างนั้นเอง“ว่าแต่เราถามถึงพี่เขาทำไมหรื