ตอนที่ 10 เจ้าสาวอยู่ไหน
หลังจากที่หมอพีรพัฒน์เดินทางกลับถึงบ้าน ในหัวสมองของเขามันเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธและโมโห อลิสาเล่นไม่ซื่อกับเขา “ยัยบ้าเอ๊ย! อยากได้ฉันเป็นผัวจริงๆ หรือคิดจะเล่นสงครามประสาทกับฉันกันแน่” เขาพูดคนเดียวขณะล้มตัวลงนอนตรงกลางเตียงใหญ่ พร้อมกับใช้ลำแขนเกยหน้าผาก นับตั้งแต่วันที่ลืมตาดูโลก ชีวิตของพีรพัฒน์ไม่เคยต้องมีเรื่องวุ่นวายและปวดหัวได้ขนาดนี้ (ครืดครืดครืด) เสียงเรียกเข้าในแอพพลิเคชั่นไลน์ดังขึ้น คณะที่อลิสาหลับไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง “อื๊อ...ใครโทรมาเนี่ย” น้ำเสียงหวานบ่นพึมพำ ในขณะที่มือขวายื่นไปหยิบมือถือที่วางอยู่หัวเตียงนอนแล้วกดรับสาย ทั้งที่ยังไม่ลืมตาตื่น “ฮัลโหล” “ยัยโรคจิต!” “อื๊อ...มีอะไร นายโทรมาทำไมฉันจะนอนแล้ว” น้ำเสียงอู้อี้เหมือนคนที่กำลังละเมอ “เธอต้องการอะไรกันแน่ ต้องการจะเล่นสงครามประสาทกับฉันใช่ไหม” “เปล่านี่ ฉันก็แค่เปลี่ยนใจอยากจะแต่งงานขึ้นมากะหัน แค่นี้นะ ฉันจะนอน” “ห้ามวางจนกว่าจะคุยกันรู้เรื่อง” หมอพีรพัฒน์ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงดุดัน “ฉันคุยรู้เรื่องแล้ว ส่วนนายไม่ยอมรู้เรื่องก็ตามใจสิ ฉันง่วงมากแล้วนะ” “ห้ามนอน เปิดกล้องเดี๋ยวนี้ แล้วคุยกับฉันดีๆ” “แล้วทำไมต้องเปิดกล้องด้วย อะไรของนายอีก” แม้จะพูดเหมือนไม่พอใจที่เขาออกคำสั่ง แต่อลิสาก็ยอมทำตามอย่างง่ายดาย “มีอะไรก็ว่ามาสิ ฉันเปิดกล้องตามที่นายสั่งแล้ว” อลิสาวางโทรศัพท์มือถือไว้ที่หมอนข้าง เธอยังคงนอนตะแคงหลับตาคุยกับปลายสาย โดยที่ลืมไปเลยว่าตนเองนั้นสวมใส่เพียงเสื้อสายเดี่ยวตัวบางสีขาวและกางเกงขาสั้นสีชมพู ปลายสายถึงกับตกตะลึงกับสิ่งที่ปรากฏในจอมือของเขา “ถามทำไมไม่ตอบล่ะ จะพูดอะไรก็พูดมาสิ” “นึกไม่ออกแล้วว่ะ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร รู้แค่ว่าจะมอง” น้ำเสียงทุ้มพูดออกมาในขณะที่สายตาของเขาเอาแต่จ้องหน้าอกอวบใหญ่และเม็ดไตสีหวานกำลังดุนดันเสื้อขาวบางจนมองเห็นรูปร่างที่ใหญ่เกินตัว “ว้าย!” อลิสาถึงกับสะดุ้งเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอไม่ได้ใส่ชุดชั้นใน ฝ่ามือเล็กรีบปิดบริเวณเนินอกอวบใหญ่ทันที “ไอ้คนบ้า นายแอบมองหน้าอกฉันอยู่ใช่ไหม” “ใครบอกว่าฉันแอบมอง ฉันมองตรงๆเลย ไม่ได้แอบ แล้วก็ไม่ต้องปิด ฉันจะดู” เขาพูดออกมา พร้อมทำแสดงสีหน้าและแววตาที่หื่นกระหาย “ไอ้โรคจิต! แค่นี้นะ” “เดี๋ยว” “อะไรอีกล่ะ” “ขอดูนมหน่อย เร็วดิ เปิดให้ดูสักทีจะไม่ลืมพระคุณเลย” “นายมันบ้ากว่าที่ฉันคิดเสียอีก ฉันไม่ใช่พวกใจง่าย ที่จะมาเปิดนมให้นายดู” “แต่ฉันก็เห็นมันแล้ว” “ไม่เห็นหรอก ฉันใส่เสื้อ แค่นี้นะ” “เดี๋ยว!” “โอ๊ย! อะไรอีกวะ” “บอกพ่อกับแม่ของเธอ ว่าเธอไม่อยากแต่งงานกับฉัน ยกเลิกงานแต่งซะ ถ้าเธอยังดื้อด้าน อย่ามาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน” “ดูปากฉันนะ ฉัน...ไม่...ยกเลิก ฮ่าๆๆ ฝันดีนะ” อริสาตอบกลับด้วยคำพูดที่ท้าทายก่อนจะวางสายไป หมอพีรพัฒน์โมโหจนแทบจะเหวี่ยงโทรศัพท์ทิ้ง แต่เขาก็ต้องพยายามข่มอารมณ์เอาไว้ “หมอพัฒน์ ทำหน้าให้มันดีๆหน่อย ทำไมต้องทำอย่างกับคนหมดแรง ไปช่วยหนูชมพู่เลือกชุดแต่งงานได้แล้ว ชุดของพัฒน์แม่จะเลือกให้เอง” คุณนายพิมพ์พรรณตำหนิลูกชายที่กำลังนั่งทำหน้าเบื่อหน่ายอยู่บนโซฟาภายในร้านชุดวิวาห์หรู เขาไม่อาจขัดคำสั่งของมารดาได้ ร่างสูงลุกขึ้นเดินไปยังห้องลองชุดที่อยู่ด้านด้านใน “สวยมากเลยค่ะคุณชมพู่” พนักงานในร้านกล่าวชื่นชมว่าที่เจ้าสาวที่กำลังสวมใส่ชุดราตรีสีขาวสะอาดตายืนส่องกระจก ขายาวก้าวเข้ามาหยุดยืนอยู่ด้านหลังว่าที่เจ้าสาว สายตาคมไล่สำรวจร่างสวยสง่าตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าคนตรงหน้าของเขาสวยสง่างดงามมาก แต่ถึงอย่างไร ความสวยนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาอยากจะแต่งงานกับเธอสักนิด “เลือกได้หรือยัง ฉันเห็นเธอเข้ามาตั้งนานแล้ว” “ได้แล้ว ออกไปรอข้างนอก ฉันจะเปลี่ยนชุด” “อืม” อลิสาเลือกชุดเจ้าสาวจนครบทั้งสองแบบ ซึ่งเป็นชุดไทยสีครีมที่ต้องสวมใส่ในพิธีแต่งงานช่วงเช้า แบบชุดราตรีสีขาวสวยหรูสำหรับสวมใส่ในช่วงเย็น จากนั้นคุณนายพิมพ์พรรณจึงได้พาลูกชายและว่าที่ลูกสะใภ้มาถ่ายพรีเวดดิ้ง “ยิ้มอะไรวะ” พีรพัฒน์เอ่ยถามในขณะที่ทั้งสองกำลังยืนให้ช่างถ่ายภาพ อลิสาเอาแต่ยิ้มขบขัน ราวกับว่าเธอกำลังทำเรื่องสนุกสนาน “ฉันเปล่ายิ้มสักหน่อย” “เธออย่าคิดนะว่าฉันมองเธอไม่ออก เธอจะเล่นเกมอะไรกับฉันอีก” “ก็บอกว่าไม่มีอะไรไง ชิ” เธอมองค้อนเขาทันทีที่พูดจบ นับตั้งแต่วันที่ทั้งสองไปลองชุดแต่งงานและถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง อาการของหมอพีรพัฒน์ราวกับคนที่ไม่มีวันจะพบเจอความสุขอีก เขาเอาแต่ทำสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา “เป็นอะไรวะ เห็นทำหน้าเครียดมาหลายวันแล้ว” หมอมาวินเอ่ยถาม ในขณะที่ทั้งสองอยู่ในห้องเด็กอ่อน “อาทิตย์หน้ากูก็จะแต่งงานแล้วน่ะสิ ถูกมัดมือชก ถูกคลุมถุงชนว่ะ” “เป็นไงล่ะมึง มั่วไม่เลือกดีนัก พลาดจนได้” “ไม่ได้พลาด แต่ถูกมัดมือชก ไม่เคยคบ แล้วก็ไม่เคยได้กัน กูโคตรเครียดเลย” “ทำไม ว่าที่เจ้าสาวของมึงไม่สวยหุ่นไม่ เซ็กส์ไม่จัด ว่างั้น” “สวย สวยมากกว่าพวกผู้หญิงที่กูควงหลายเท่า เป็นลูกสาวเพื่อนแม่กู ปากก็บอกว่าเกลียดกู แล้วกูก็รู้ว่าเกลียดจริงๆนั่นแหละ แต่เสือกไม่ยกเลิกงานแต่ง แถมยังชอบหัวเราะเยาะท้าทายกูตลอด” “แล้วมึงกับว่าที่เจ้าสาวรู้จักกันมานานหรือยัง” “ยังไม่ถึงสองเดือนเลย” “อืม แบบนี้มันต้องมีอะไรแน่ๆ อยู่ๆคนที่บอกว่าเกลียดกันแต่อยากแต่งงานขึ้นมาทัน” หมอมาวินพูดในสิ่งที่เขาคิดและงุนงง “นั่นสิ ยัยเด็กนั่นแสบไม่เบา ดื้อด้านสุดๆ งานแต่งกูมึงต้องไปด้วยนะ เดี๋ยวกูชวนให้โอม กับไอ้นนท์ไปด้วย” “เออ กูต้องไปแน่ๆ เพื่อนจะแต่งงานทั้งที ต้องไปแสดงความยินดีด้วยสิวะ” “หึ คอยดูเถอะ กูจะฟันแล้วทิ้ง ในเมื่อคิดอยากเล่นกับไฟดีนัก ส่งตัวเข้าหอ กูจะจัดให้หนักเลย ไหนๆกูก็หนีไม่พ้นแล้ว” หมอพีรพัฒน์พูดออกมาด้วยความคับแค้นใจ “เฮ้ย เบาได้เบานะเพื่อน ระวังจะตกหลุมรักเจ้าสาวแบบไม่รู้ตัว” “ไม่มาทาง” เขาตอบออกไปอย่างมั่นใจ คนอย่างหมอพีรพัฒน์น่ะเหรอ จะรักใครเป็น งานแต่งงานของพีรพัฒน์และอลิสาถูกจัดขึ้นภายในคฤหาสน์ชาญณรงค์ แขกที่มาร่วมงานราวๆสองร้อยกว่าชีวิต ช่วงเช้าเป็นพิธีหมั้นและมอบสินสอดให้ฝ่ายเจ้าสาว “สวยมากเลยค่ะคุณชมพู่ สวยที่สุดเลย” ช่างแต่งหน้ากล่าวชื่นชมในความสวยของเจ้าสาวที่อยู่ในชุดไทยสีเงิน ผมยาวเกล้าสูงถักเปียล้อมลอบ ใบหน้าเรียวเล็กถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง ผ่านไปหลายนาที จนถึงขั้นตอนที่เจ้าบ่าวผ่านประตูเงินประตูทองเข้ามาด้านใน “คุณชาญคะ ไปรับลูกออกมาได้แล้ว ขบวนขันหมากมาถึงแล้ว” คุณนายชมจันทร์บอกสามีให้ขึ้นไปรับลูกสาวบนชั้นสองของบ้าน เวลาผ่านไปหลายนาที แต่ก็ยังไม่ปรากฏตัวเจ้าสาว จนฝ่ายเจ้าบ่าวและแขกที่มาร่วมงานต่างงุนงงสงสัย เจ้าสัวชาญชัยเดินลงบันไดมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ท่ามกลางสายตาของแขกในงานที่กำลังมองมายังพ่อของเจ้าสาว “ชมพู่อยู่ไหนคะคุณ ทำไมถึงยังไม่พาลูกลงมาอีก” “ลูกไม่ได้อยู่ในห้อง ผมหาทุกห้องแล้ว ไม่เจอเลย แกหายไปไหนก็ไม่รู้” คุณนายพิมพ์พรรณและหมอณรงค์รีบเดินไปหยุดยืนข้างๆเจ้าสัวชาญชัยและคุณนายชมจันทร์ “หนูชมพู่ไปไหนคะ ทำไมถึงยังไม่ลงมาอีก” คุณนายพิมพ์พรรณเอ่ยถามขึ้นทันที ด้านหมอพีระพัฒน์รู้สึกใจคอไม่ดีเมื่อเห็นมารดาของเขากำลังแสดงสีหน้าเคร่งเครียดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “เกิดอะไรขึ้นครับคุณแม่ ทำไมน้องชมพู่ถึงยังไม่ลงมาอีก” “ชมพู่หายตัวไป น้าตามหาทุกห้องแล้ว แต่ก็ไม่เจอชมพู่” “!“ คุณนายพิมพ์พรรณแทบเป็นลมล้มพับ เมื่อได้ยินสิ่งที่เจ้าสัวชาญชัยพูดออกมา หมอพีรพัฒน์ต้องคอยประคองมารดาเอาไว้ เขาเองก็ตกใจไม่น้อย เขาไม่คิดว่าอลิสาจะเล่นงานเขาถึงขนาดนี้ ------------------------------- น้องชมพู่หายไปไหนนะ น้องทำแบบนี้ทำไม ฝากติดต่อไป สนุกแน่นอน ไรท์รับประกัน ฝากกดไลค์คอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ด้วยน๊าตอนที่ 17 ขโมยจูบร่างบางเดินกลับเข้ามาที่ห้องส่วนตัวของเขาอีกครั้ง เธอนั่งรอไม่กี่นาที เจ้าของห้องก็เปิดประตูเข้ามา เขาเพียงแค่ปรายตามองมาที่เธอโดยไม่ได้พูดอะไร“ทำไมถึงไม่กลับบ้าน”อลิสาถามเขา ในขณะที่เธอกำลังนั่งกอดอกที่โซฟา“ฉันติดงาน เธอก็เห็นนี่ เมื่อก่อนฉันก็อยู่ที่โรงพยาบาลมากกว่าอยู่บ้าน”“แล้วทำไมต้องปิดเครื่องด้วย ฉันโทรหานายตั้งหลายสาย”“แล้วทำไมฉันต้องโทรด้วย?”เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย จนคนฟังรู้สึกอึ้งไปชั่วขณะ“แล้วนี่นายจะกลับบ้านตอนไหน”“ฉันกลับตอนไหนเธอก็เห็นเองนั่นแหละ นอกเสียว่าเธอไม่อยู่ที่บ้านหลังนั้น เธอถึงจะไม่เห็น”“อืม”(พรึ่บ)ร่างเล็กลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เตรียมตัวจะเดินออกจากห้องไป“กลับบ้านไปเตรียมเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวไว้ด้วยแล้วกัน”เขาพูดตามหลัง จนเธอต้องหยุดชะงัก แล้วหันกลับมา“ทำไม มีอะไร”“พรุ่งนี้พ่อกับแม่ฉันจะพาไปเที่ยวที่จังหวัดพังงา เธอก็ควรจะเตรียมตัวให้พร้อม”“งั้นฉันจะโทรไปชวนพ่อกับแม่ของฉันไปด้วย”“อืม โทรสิ”อลิสาเปิดประตูเดินออกจากห้องของเขา และเธอก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นแพทย์หญิงคนดังกล่าวกำลังเดินผ่านหน้าห้องพอดี เธอมองดูอลิสาด้วยท่าทางงุน
ตอนที่16 ความรู้สึกเปลี่ยนไป“อื๊อ”เปลือกตาสีไข่ขยับไปมา ก่อนที่จะลืมตาตื่นในช่วงสายของวันจันทร์ เธอมองไปรอบๆห้องนอนกว้าง กลับไม่เห็นผู้ชายที่รังแกเธอทั้งคืน ร่างเล็กลุกขึ้นนั่งพิงพนักเตียงนอนอย่างยากลำบาก“ซี๊ด เจ็บจัง”เธอนิ่วหน้าเมื่อรู้สึกเจ็บตรงกลางกาย ก่อนจะหลุบตามองดูชุดนอนที่เธอสวมใส่อยู่ตอนนี้“ฉันใส่ชุดนอนชุดนี้ตอนไหน”เธอพูดเบาๆพร้อมกับพยายามนึกคิด แต่ก็นึกไม่ออก ดวงตากลมโตมองไปเห็นแผงยาบางอย่างที่วางทับกระดาษแผ่นหนึ่ง ตรงปลายเตียงนอน อลิสาคลานเข่าเข้าไปหยิบขึ้นมาดู“ยาคุมของเธอ กินซะ ถ้าไม่อยากท้อง”หมอพีรพัฒน์เป็นคนเขียนข้อความนั้น เธอรู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่ก็ยอมทานยาคุมตามคำสั่งของเขาอย่างง่ายดายเลยเวลามาจนถึงเที่ยงคืน พีรพัฒน์ไม่ได้กลับเข้ามาที่บ้าน อลิสาพยายามโทรหาเขา แต่ก็โทรไม่ติด เธอเข้าใจว่าเขาคงจะติดเคสผ่าคลอด ถึงไม่ยอมกลับบ้าน เพราะปกติก็จะเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว เวลาเลยผ่านข้ามคืนข้ามวัน พีรพัฒน์ก็ยังไม่ได้กลับมาที่บ้าน อลิสารู้สึกสับสน ต่างจากครั้งที่เธอยังไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งกับเขา “ทำไมถึงยังไม่กลับมาบ้านอีก โทรก็ไม่ติด”ร่างเล็กเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำ เธอรีบช
(ตุ๊บ)“โอ๊ย!”ร่างเล็กถูกโยนลงกลางเตียง“ไหนบอกว่าประจำเดือนยังไม่หยุดไง กล้ามากเลยที่โกหกฉัน แถมยังกล้าพาผู้ชายพวกนั้นเข้ามานัวเนียถึงในบ้าน ฉันจะทำให้เธอรู้ว่า คนที่กล้าลองดีกับฉันมันจะต้องโดนแบบไหน”(พรึ่บ)“ว้าย!”(จ๊วบ)“อ๊าย!”“เตรียมตัวเป็นนางบำเรอของฉันซะ”ตอนที่ 15 คุณหมอกระแทกเมียNC20+ใบหน้าหล่อร้ายซุกลงข้างซอกคอขาว เขาจู่โจมเธอราวกับเสือร้ายที่กำลังจะขย้ำเหยื่อให้แหลกเป็นชิ้นๆ ริมฝีปากหนาขบดูดลำคอขาวจนเกิดรอยแดงหลายจุด อลิสาร้องโวยวายด้วยความรู้สึกเจ็บ เขารุนแรงกับเธอเพราะกำลังโกรธ“หยุดนะ! ฉันเจ็บ”ข้อมือเล็กถูกมือหนารวบตึงไว้เหนือศรีษะ ชุดว่ายน้ำสีแดงสดที่ห่อหุ้มหน้าอกอวบใหญ่ ถูกมือหนาอีกข้างกระชากดึงจนเผยให้เห็นท่อนบนเปลือยเปล่า“อย่า!”เขามองหน้าอกอวบใหญ่ที่กำลังกระเพื่อมไปตามแรงหอบหายใจของคนใต้ร่าง สายตาหื่นกระหายที่เต็มไปด้วยความโกรธจ้องมองหน้าอกอวบใหญ่สลับกับมองใบหน้าสวยกำลังตื่นตระหนก“หึ ฉันเตือนเธอแล้วใช่ไหม ว่าอย่าคิดลองดีกับฉัน วันนี้ฉันจะสั่งสอนให้เธอหลาบจำ อย่าคิดพาไอ้หน้าไหนมาหยามหน้าฉันอีก เข้าใจไหม!”เขาตวาดใส่เธอดังลั่นห้อง“ทำไม เพราะอะไรฉันถึงพาผู้ชายม
อลิสาถึงกับตกใจ เมื่อเธอได้ยินสิ่งที่หมอพีรพัฒน์พูดกับปลายสาย“จ้างเด็กเอ็นมาที่บ้านงั้นเหรอ มันจะมากไปแล้วนะ ไอ้หมอสำส่อน ไอ้คนบ้าเซ็กส์ อยากคลายเครียดงั้นเหรอ ก็ได้ ฉันจะทำให้นายเครียดหนักกว่าเดิม คนเลว!”อลิสาก่นเบาๆพร้อมกับกำหมัดแน่นตอนที่ 14 ต่างคนต่างนัวเนีย“ว้าย!”(ตู้มมม)เสียงเหมือนคนตกน้ำดังมาจากหน้าบ้าน อลิสารีบเดินไปโผล่หน้าดูตรงช่องหน้าต่าง“คริคริ คุณพัฒน์ขา แบมเบียกหมดแล้ว เห็นไหมคะ”เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้น ในขณะที่หล่อนโผล่พ้นขึ้นมาจากน้ำ และยังมีสองสาวที่สวมบิกินี่ลายเสือ กำลังยืนนัวเนียลูบไล้ลำแขนแกร่งกลางสระว่ายน้ำ พีรพัฒน์สวมเพียงกางเกงบ๊อกเซอร์รัดรูปขาสั้นสีดำเพียงตัวเดียว เขากำลังเล่นน้ำกับสามสาวอย่างสนุกสนาน“หึ ไอ้คนมักมาก ไอ้หมอบ้าเซ็กส์ กล้าพาผู้หญิงพวกนี้มาหยามฉันถึงบ้าน จะเย้ยหยันฉันใช่ไหม”อลิสากำหมัดกัดฟันต่อว่าหมอพีรพัฒน์ด้วยอารมณ์เดือดดาล(ครืดครืด)เสียงโทรศัพท์ในมือของเธอดังขึ้นเบาๆ อลิสารีบกดรับสายทันที“ฮัลโหล”“ยัยชมพู่ แกเดินออกมารับพี่ๆสุดหล่อได้เลยนะ พวกเขามาถึงแล้ว ชุดที่แกฝากชั้นซื้อ ได้ครบแล้ว เดินออกมาตอนนี้เลย”เจนจิราเป็นฝ่ายโทรเข้
ตอนที่ 13 จ้างเด็กเอ็นมาที่บ้านรถสปอร์ตหรูคันสีน้ำเงิน ถูกขับเคลื่อนเข้ามาจอดภายในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังกลางกรุง เจ้าบ่าวเจ้าสาวป้ายแดงเดินเข้าไปในลิฟต์ ช่วงเวลาห้าทุ่มตรง ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันตั้งแต่อยู่ในรถจนถึงเวลานี้ ในหัวสมองของอลิสามีความคิดหลากหลาย หลังจากที่เธอถูกเขาจู่โจมบนเตียงนอน“รอฉันอยู่ในห้อง ห้ามออกไปไหน ถ้าฉันกลับมาไม่เจอเธอ ฉันจะตามไปทำโทษด้วยการกระแทกหนักๆ เธอควรจะรู้ไว้ ถ้าเธอหนีฉันพ้น เธอคงหนีได้ตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว”เขาพูดพร้อมกับจ้องมองที่ใบหน้าเรียวเล็ก อลิสาทำปากขมุบขมิบเหมือนเด็กที่กำลังต้องการเถียงผู้ใหญ่ แต่เธอก็ยอมทำตามด้วยการขึ้นไปนอนอยู่ที่กลางเตียงใหญ่“วันมงคลของมึงทั้งที แทนที่จะได้เข้าเรือนหออยู่กับเจ้าสาวทั้งคืน แต่ดันมีเคสผ่าคลอดด่วน กูเห็นใจมึงว่ะเพื่อน”หมอมาวินพูดขึ้น ขณะหมอพีรพัฒน์เดินออกจากห้องผ่าคลอดมาเจอกับเขาพอดี“ไม่เป็นไรหรอก หน้าที่มันต้องสำคัญกว่าสิ่งอื่น หมอเดือนฉายลางานหลายวัน มันก็ต้องเป็นหน้าที่ของกูที่ต้องผ่าคลอดฉุกเฉิน และอีกอย่าง งานแต่งก็ไม่ใช่งานที่กูอยากจะให้เกิดขึ้น”“แต่เมื่อเช้ามึงก็ดูซีเรียสมาก ตอนที่เจ้าสาวไม่ยอมมาเข้าพิธ
หลังจากที่บิดามารดาทั้งสองฝ่ายอวยพรให้เจ้าบ่าวเจ้าสาว และส่งตัวเข้าหอเรียบร้อย ทุกคนต่างพากันแยกย้ายเดินทางกลับบ้าน “หึ ยัยตัวแสบ แผนการโง่ๆของเธอทำอะไรฉันไม่ได้หรอก มาให้ฉันทำโทษเธอเดี๋ยวนี้ แล้วเธอจะได้รู้ว่า คนอย่างฉันมันใจร้ายขนาดไหน” (พรึ่บ) “ว้าย...อ๊าย...ปล่อยฉันนะ ไอ้หมอบ้า” ตอนที่ 12 ฉันจะเขี่ยเธอทิ้งNC ข้อมือเล็กถูกดึงกระชากจนจนร่างบางถลา หน้าอกอวบใหญ่กระแทกเข้าที่หน้าท้องหนา ทั้งสองยังอยู่ในชุดวิวาห์ มือหนาออกแรงบีบที่ปลายคางเรียว อลิสารู้สึกเจ็บจนแทบน้ำตาไหล “เธอจำคำของฉันไว้นะ ฉันเกลียดเธอ เกลียดมาก และฉันจะทำให้ชีวิตของเธอต้องจมอยู่กับความทุกข์ตลอดไป เธอกล้ามากเลยนะ ที่เล่นสกปรกกับฉันแบบนี้ ทำให้ฉันเจ็บใจฉันไม่ว่า แต่เธอทำให้แม่ของฉันตกใจจนแทบจะเป็นลมในงานแต่งอัปยศนั่น ทั้งๆที่เธอมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ แต่เธอกลับตอบตกลงแต่งงานกับฉัน แล้วคิดจะหักหน้าฉันด้วยการหนีงานแต่ง” (พรึ่บ) สองฝ่ามือเล็กออกแรงผลักอกแกร่งให้ถ่อยห่าง “ก็ฉันต้องการให้นายเป็นคนปฏิเสธเอง นายควรจะพูดตั้งแต่ตอนที่ฉันบอกว่าจะแต่งงานกับนาย นายมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธตั้งแต่ตอนนั้น แต่นายก็ไม่ทำ ฉันรอ