บ้านของพยัคฆ์ที่แม่ฮ่องสอนทำธุรกิจส่งออกผลไม้ แต่เหมราชเองก็มีธุรกิจในเครือที่ต้องดูแลอีกมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ เขาจึงไม่ค่อยอยู่บ้านเพราะต้องไปดูแลธุรกิจที่ต่างจังหวัด บางทีก็ไปต่างประเทศหลายวัน ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับพยัคฆ์ตั้งแต่เล็ก ๆ
แม้เขาจะไม่ค่อยได้อยู่กับลูก แต่เขาก็ให้แม่บ้านหรือป้าพรคอยดูแลอยู่ตลอด ส่วนสวนผลไม้หรือธุรกิจในบ้านจะมีลุงชัชซึ่งเป็นน้องชายช่วยดูแลด้วยอีกแรง
เหมราชหวังให้พยัคฆ์เรียนจบแล้วมาช่วยเขาดูแลธุรกิจที่บ้านต่อจากเขา เพราะเขาเองก็อายุมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ดังนั้นทุกเสาร์-อาทิตย์เหมราชจะให้พยัคฆ์มาเรียนรู้งานในสวนอยู่เป็นประจำ ส่วนเจ้าขาเองก็จะติดสอยห้อยตามเขาไปด้วยเสมอ ทั้งคู่ตัวติดกันจนคนงานในสวนเห็นจนชินตาไปแล้ว
“ตกปลาอีกแล้วเหรอคะ…พี่ยักไปเถอะ หนูไม่ไปหรอก สงสารน้องปลา” เด็กน้อยหน้ามุ่ย พร้อมกับสะบัดหน้าหนี
อีกครั้งแล้วที่พี่ยักของเธอชวนไปตกปลา เธอไม่ชอบเลยจริง ๆ การที่เอาตะขอไปเกี่ยวปากปลา ดึงขึ้นมา แล้วก็ปล่อยลงไป ไม่เห็นน่าสนุกตรงไหนเลย ดูน่าสงสารออก แต่พี่ยักกลับบอกว่ามันเป็นกีฬาชนิดหนึ่ง ใคร ๆ เขาก็ทำกัน แต่เธอไม่เห็นด้วยเลย ทุกครั้งที่เขาชวนเธอไปตกปลา เธอก็ได้แต่นั่งจ๋องอยู่ข้าง ๆ เขา ทำการบ้านบ้าง ให้อาหารไก่แถวนั้นบ้าง หรือไม่ก็เอาขาตีน้ำเล่น แต่วันนี้เธอตัดสินใจจะไม่ไปอีกแล้วเพราะมันน่าเบื่อและก็ไม่อยากดูปลาน่าสงสารโดนเบ็ดเกี่ยวอีก
“น่านะ ไปเป็นเพื่อนพี่หน่อยเถอะ ถ้าหนูไม่ไปแล้วจะไปอยู่ไหนล่ะ พี่ไม่อยากตกปลาคนเดียวนะ”
“พี่ยักก็ชวนพี่จ้อยไปตกด้วยสิ หนูจะทำการบ้านอยู่ในห้องค่ะ”
“เจ้าขา ไปกับพี่เถอะนะ เดี๋ยวพี่ให้เล่นน้ำเลย เอาไหม” เด็กน้อยตาลุกวาว เธอไม่เคยมีโอกาสได้เล่นน้ำอีกเลย หลังจากที่เคยจมน้ำเมื่อหลายเดือนก่อน ตอนที่พี่ยักสอนเธอว่ายน้ำครั้งแรก หลังจากนั้นก็ไม่เคยได้ลงเล่นอีกเลย แต่ตอนนี้เธอจะได้รับโอกาสนั้นอีกครั้ง เด็กสาวรีบเดินก้าวมาหาเขาทันที
“จริงเหรอคะ จะให้หนูเล่นจริง ๆ เหรอ”
“จริงสิ…สาบานด้วยเกียรติของลูกหมาเลย”
“ลูกเสือหรือเปล่า”
ทั้งคู่หัวเราะร่าและพากันเดินไปด้านหลังสวนส้มซึ่งมีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ รอบ ๆ สระจะเป็นบ้านพักคนงานและเล้าเป็ดเล้าไก่
“ก่อนจะเล่นสวมชูชีพก่อนนะ เพื่อความปลอดภัย” เด็กหนุ่มเดินมาสวมชูชีพให้น้องสาวตัวน้อยด้วยความเอาใจใส่
“หนูเล่นได้ถึงตรงไหนคะ”
“เล่นแถวนี้ได้ ห้ามไปไกลถึงฟากนู้น แล้วก็…อย่าเข้าใกล้รอบ ๆ เบ็ดพี่ เดี๋ยวจะโดนตะขอเกี่ยวเอา เข้าใจไหมคะ ?”
“รับทราบค่า” เด็กน้อยทำท่าตะเบ๊ะ เธอยิ้มตาหยีก่อนที่จะกระโดดลงน้ำไป
ตู้มมม !
เด็กหนุ่มเดินไปยังศาลา เขานั่งที่เก้าอี้เล็ก ๆ ก่อนหย่อนเบ็ดลงในน้ำ สายตาจ้องมองไปที่เด็กน้อยที่กำลังเอาขาตีน้ำอย่างสนุกสนาน เด็กน้อยว่ายวนไปมาในท่าหมาน้อยตะกุยน้ำ หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอยู่คนเดียว คนมองจินตนาการไปถึงวันที่เด็กน้อยคนนี้โตเป็นสาว เธอจะสวยขนาดไหนนะ โตขึ้นเธอจะมีคนมารุมจีบหรือเปล่า ? จะยังอยากเล่นน้ำกับเขาแบบนี้ไหม ? ความคิดนี้ทำให้ในใจเขาปั่นป่วนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“พี่พยัคฆ์ พี่…” เด็กหนุ่มละสายตาจากคนที่กำลังตีขาเล่นน้ำ แล้วหันมาหาจ้อยคนงานในสวนของบิดาที่อายุน้อยกว่าเขา 1 ปี
“มีอะไรจ้อย”
“นายใหญ่ให้มาตามพี่กับน้องเจ้าขาไปที่บ้านอะ”
“ป๋ากลับมาแล้วเหรอ”
“กลับมาได้สักพักแล้ว…เห็นนายใหญ่บอกมีเรื่องจะคุยด้วย”
“คุยเรื่องอะไร”
“ไม่รู้เหมือนกัน พี่รีบไปเถอะ”
ระหว่างที่กำลังคุยกับคนงานอยู่นั้น สายตาของพยัคฆ์ก็กลับมาที่เด็กน้อย แต่คราวนี้เขาไม่เห็นเธอ ไม่เห็นคนที่กำลังเล่นน้ำมีความสุข สิ่งที่เขาเห็นมีแต่ชูชีพที่ลอยอยู่เหนือน้ำเท่านั้น !
ฉิบหายแล้ว !
เด็กหนุ่มสบถในใจ จากนั้นก็ถอดเสื้อแล้วรีบกระโดดลงน้ำทันที เขาว่ายน้ำไปที่ที่เจ้าขาเล่นน้ำเมื่อครู่ ก้มลงดำน้ำดูก็พบกับร่างเด็กน้อยที่ลอยติดกับอวนดักปลาของคนงาน เขาพยายามดึงเธอให้ขึ้นสู่ผิวน้ำแต่ก็ทำไม่ได้ พยายามคลำไปที่ตัวก็พบว่าขาของเธอติดอยู่กับอวน ทำให้เขาเข้าใจได้ว่า ขณะเล่นน้ำขาเธอคงติดเข้าที่อวนและพยายามจะเอาออก เลยตัดสินใจถอดชูชีพเพื่อที่จะดำลงไปดึงขาที่ติดอยู่แต่ความสามารถในการดำน้ำของเธอเป็นศูนย์ เลยทำให้ต้องจมอยู่แบบนี้
เขามันเหี้ยจริง ๆ !
เด็กหนุ่มโทษตัวเอง พยายามดึงตาข่ายออกด้วยแรงที่มี ไม่นานขาเธอก็หลุดออกมาได้ เขาว่ายน้ำพาเธอขึ้นมาสู่ผิวน้ำและว่ายต่อเพื่อดึงเธอขึ้นมาสู่ข้างสระ ร่างทั้งร่างของเด็กน้อยอ่อนปวกเปียกราวกับร่างไร้วิญญาณ เด็กหนุ่มพยายามเรียกเธอหลายครั้งก็ไม่เป็นผล เธอยังคงไม่ตอบสนองใด ๆ ใบหน้าของเธอซีดเผือด ปากเขียวคล้ำไปทางม่วง ดวงตาน้อย ๆ ปิดสนิท
“เจ้าขา ตื่นสิเจ้าขา พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ…” เด็กหนุ่มร้องไห้ตัวโยน เขาวางเธอลงกับพื้น จับใบหน้าเรียวเล็กของเธอด้วยความอ่อนโยน บีบจมูกและปากเธอพร้อมกันจากนั้นก็แนบริมฝีปากตนประทับที่ริมฝีปากเด็กน้อย ค่อย ๆ เป่าลมเข้าปากน้องน้อยครั้งแล้วครั้งเล่า สลับกดปั๊มสองมือที่หน้าอกเธอ กดอย่างเป็นจังหวะไปเรื่อย ๆ ไม่นานนักเธอก็รู้สึกตัว
แค่ก…แค่ก !
เสียงไอของเด็กน้อยทำเขาตื่นจากภวังค์ความเศร้า เขาโอบรั้งเธอเข้ามาตระกองกอดไว้ในอ้อมแขนไม่ยอมปล่อย เขาเกือบไปแล้ว…เกือบจะเสียเธอไปแล้ว
“เจ้าขา ขอบคุณ ขอบคุณที่ไม่จากพี่ไป...” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความตื้นตัน ดีใจ
“พี่ยัก...แค่ก ๆ หนูหายใจไม่ออกค่ะ”
เด็กหนุ่มคลายอ้อมกอด จ้องมองไปที่ดวงตาเล็ก ๆ คู่นั้น ขนตาที่งอนยาวเป็นแพเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ ทำให้น่าเอ็นดูเสียเหลือเกิน
เด็กหนุ่มค่อย ๆ ขยับหน้าเข้าไปใกล้ เขาจุมพิตที่หน้าผากเธออย่างแผ่วเบาราวกับขนนก เอ่ยเสียงชวนหลงใหลออกมา
“พี่ขอโทษ…กลับบ้านกันนะ”
“หยุดร้องไห้แล้วฟังแม่…ที่แม่ตีเพราะต้องการให้ลูกรู้ ว่าการโกหกมันไม่ใช่เรื่องดี แล้วยิ่งโกหกปู่ให้ต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้ว ลูกเองก็ยังเล่นสนุกสนานบนความทุกข์ของคนอื่นได้ยังไง พร้อมพบ ไม่ว่าใครชวนทำอะไรไม่ดี หนูก็ต้องปฏิเสธไม่ใช่เข้าร่วม แถมยังเป็นคนคิดให้คนอื่น ๆ โกหกปู่อีก และอีกอย่าง เมื่อทำผิดแล้วก็ต้องยอมรับผิดของตัวเอง ไม่ใช่โบ้ยความผิดให้พี่เขา มันไม่ดีเลยนะลูก ส่วนพายุ ลูกเป็นพี่คนโต ต้องคอยดูแล ปกป้องน้อง ๆ เป็นตัวอย่างที่ดีของน้อง ๆ สิลูก ไม่ใช่พาน้องไปเล่นพิเรนทร์แบบนี้ พวกลูกเป็นพี่น้องกัน ต้องรักกันไว้ อย่าทะเลาะเบาะแว้งกัน เพราะเมื่อเกิดอะไรขึ้น ก็มีแต่พวกเราพี่น้องเท่านั้นที่จะช่วยเหลือกันและกัน เข้าใจที่แม่พูดไหม ?” เด็กน้อยทั้งหลายพยักหน้าเข้าใจพลางก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นไปด้วย“เอาละ ๆ เข้าใจแล้วก็ดี ปู่เองก็ไม่ได้อยากให้ทำโทษหลาน ๆ หรอก เพียงแต่แค่เป็นห่วงก็เท่านั้นเอง” “ไม่ได้หรอกค่ะพ่อ เดี๋ยวแกจะเคยตัว โตขึ้นเป็นแบบพี่ยักทำไงล่ะคะ” หญิงสาวพูดทำเอาคนโดนพาดพิงหันขวับ เขาไปเกี่ยวไรด้วยว้า !“มาหลาน ๆ มาหาปู่มา เดี๋ยวเราไปอาบน้ำล้างตัวกัน เดี๋ยวปู่เอาสระลมยางให้เล่น”
8 ปีต่อมา…“แยกขาหน่อยสิจ๊ะเมียจ๋า” ชายหนุ่มสั่งขณะที่เขากำลังดันแก่นกายอันใหญ่โตเข้าไปในกายเนื้อหญิงสาวที่นอนหงายอยู่ด้านล่าง หญิงสาวว่าง่ายยอมทำตามโดยไม่อิดออด เสียงเร่งเร้าของเธอทำให้ความเร่าร้อนก่อตัวขึ้นภายในกายเขา ทันทีที่สอดเข้าไป…ความใหญ่โตทำให้หญิงสาวร้องครางออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่“ร้องดัง ๆ เลยค่ะที่รัก วันนี้ลูกไม่อยู่ บ้านนี้เป็นของเราแล้ว ร้องดัง ๆ สิคะ !” ชายหนุ่มบอก มือของยังเขากอบกุมที่เนินเนื้อของเมียสาวที่นอนครางกระเส่าอย่างได้อารมณ์ “ที่รัก…ขา…หนู…สะ...เสียวมากเลย” “อย่างนั้นแหละจ้ะยาหยี” ชายหนุ่มเร่งเครื่องความเร็วเดินหน้าเต็มกำลัง นานหลายเดือนแล้วที่เขาไม่ได้จัดเมียตัวเอง ตั้งแต่มีลูก...เมียก็เริ่มสนใจแต่ลูก ซึ่งลูกก็มีแต่ผู้ชาย เขาที่อยากมีลูกผู้หญิงก็พยายามหาเวลาเพื่อที่จะผลิตให้ได้สักคน แต่ก็เจอมารผจญ มารที่ว่าก็คือ ลูก ๆ ของเขาเอง ทุกครั้งที่เขาจะทำเรื่องอย่างว่า ก็เหมือนไอ้ 3 หน่อมันจะรู้ทุกครั้ง ครั้งนี้พ่อเขากลับมา ก็ได้โอกาสฝากลูก ๆ ไว้กับพ่อชั่วคราว ส่วนเขาเองก็จะได้มีเวลาปั๊มลูกสาวสักที...แต่ไม่ทันจะได้เสร็จสม…เสียงเรียกจากด้านนอกก็ดังขึ้น“ไอ้ย้ากกก…ม
@งานวัดประจำปีวันนี้เป็นวันลอยกระทง พยัคฆ์พาแฟนสาวไปเที่ยวงานประจำปีที่วัดแถวบ้าน เมื่อก่อนตอนเด็ก ๆ เขาและเธอก็พากันไปงานวัดบ่อย ๆ ชายหนุ่มพาแฟนสาวเดินเที่ยวภายในงาน บรรยากาศค่อนข้างครึกครื้น แสงไฟจากร้านค้าต่าง ๆ หรือซุ้มขายของต่างก็ติดไฟเรียกผู้คนกันระนาว เสียงเพลงบรรเลงอย่างอื้ออึง ซุ้มการละเล่นต่าง ๆ มีคนมุงล้อมเล่นกันอย่างสนุกสนาน ผู้คนต่างหลั่งไหลกันมาจากทั่วทุกที่ ทั้งเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ วัยรุ่น หรือแม้แต่คนเฒ่าคนแก่ก็มาร่วมงานวัดครั้งนี้ด้วย เพราะมีซุ้มให้ทำบุญอยู่ตรงมุมโบสถ์ของวัด ทั้ง 2 คนเดินมาเรื่อยก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าร้านขนมสายไหม “อยากกินเหรอคะ ?” ชายหนุ่มถามแฟนสาวตรงหน้า หญิงสาวระบายยิ้มหวาน พยักหน้าหงึก ๆ เป็นการให้คำตอบ เขาซื้อให้เธอ 1 ไม้ใหญ่สีชมพูฟูฟ่อง หญิงสาวกัดลงคำหนึ่งก็หลับตาปี๋ รสชาติความหวานแล่นถึงโสตประสาท “ขอพี่ชิมมั่ง” หญิงสาวกำลังจะยื่นสายไหมในมือให้แฟนหนุ่มชิม แต่เขากลับเอาหน้าเข้ามาใกล้แล้วตวัดลิ้นเลียที่ริมฝีปากเธอหน้าตาเฉย ทำเอาเจ้าตัวตกใจฟาดมือเล็ก ๆ ไปที่อกเขาอย่างจัง“พี่ยัก ! อายคนเขา”“อายทำไมคะ เขาจะได้รู้ว่าหนูมากับแฟนไง”“แค่ใส่เสื้อคู่เขาก็รู
@บ้านเหมราช“หนูไม่ต้องไปหรอกค่ะ อยู่นี่แหละเดี๋ยวพี่ก็กลับมาแล้ว” พยัคฆ์พูด ก่อนจะเตรียมตัวออกไปทำบุญครบรอบวันตายของแม่เขา“ทุกครั้งเลย วันครบรอบวันตายแม่พี่ทีไรหนูไม่เคยได้ไปเลย ทำไมเหรอคะ กลัวหนูไปรู้อะไรเข้าเหรอ ?” หญิงสาวเอียงคอถามอย่างทะเล้น“เปล่าซะหน่อย ก็เห็นว่าต้องไปดูไร่ชาไม่ใช่หรือไง พี่ไปเดี๋ยวเดียวเอง”“หนูก็อยากทำบุญให้แม่พี่บ้างนี่คะ ตอนเด็ก ๆ ก็ยังไปได้เลย ทำไมตอนนี้ถึงไปไม่ได้แล้วล่ะคะ” “ไปแล้วห้ามซนนะ ถ้าพี่ไม่ให้ไปตรงไหนก็ห้ามไปล่ะ เข้าใจไหมคะ ?” “เข้าใจค่า…พี่ย้ากกก” หญิงสาวเขย่งปลายเท้าจุมพิตเบา ๆ ที่แก้มแฟนหนุ่ม เขายิ้มมองสาวน้อยตรงหน้าด้วยท่าทีมีความสุขล้น จากนั้นทั้ง 2 คนก็ออกเดินทางไปยังวัดแถวบ้าน @วัดหลังจากถวายสังฆทาน สวดมนต์ นำอาหารและเครื่องดื่มมาถวายพระสงฆ์เรียบร้อยแล้ว เหมราชก็นำพยัคฆ์และเจ้าขาไปที่อัฐิของ ‘ลลิน’ หรือแม่ของพยัคฆ์ เพื่อจุดธูปเทียนและวางดอกไม้ที่หน้ารูป“ป๋า ผมขอถามอะไรหน่อยสิ” พยัคฆ์พูดขึ้นหลังจุดธูปเทียนและวางดอกไม้เรียบร้อยแล้ว “ถามอะไร ?”“แม่ไม่ได้ป่วยตายใช่ไหมป๋า”“ใครบอกเอ็ง”“ไม่มีใครบอก แต่ผมรู้สึกได้ว่ามันต้องมีอะไรมากกว่าน
หลังจากที่ฟังผู้เป็นพ่อพูด เรื่องราวที่อัศวเคยเข้าใจกับที่พ่อเล่า มันทำให้เขาหยุดชะงักราวกับทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกหยุดหมุนไปโดยปริยาย เขาเข้าใจผิดมาตลอดว่าแม่ทิ้งเขาไปเพราะมีชู้ และไม่ยอมรับเขาไปเพราะรังเกียจเขา ที่แท้เป็นเพราะพ่อแท้ ๆ ของเขาเองต่างหากที่ทำผิดต่อแม่ พ่อทิ้งแม่ไปแต่งงานใหม่ นี่มันเรื่องอะไรกัน ! ทำไมเขาต้องมารับรู้อะไรแบบนี้ตอนนี้ด้วย ! เขารู้สึกดีใจที่แม่ไม่ได้คิดจะทิ้งเขา แต่กลับต้องมาเสียใจเพราะคนที่ทิ้งแม่ไปก็คือพ่อเขาเอง “ทำไมพ่อทำแบบนี้ ทำไมถึงทิ้งแม่ไป ทำไมถึงต้องมาพรากแม่ไปจากผม” ชายหนุ่มร้องไห้กอดหญิงสาวตรงหน้าด้วยความอาลัยและคิดถึงผู้เป็นแม่ที่เขารักมากที่สุด“พ่อขอโทษลูก พ่อขอโทษ อภัยให้พ่อด้วย พ่อเองก็เสียใจ และจมอยู่กับมันมามากพอควรกับเรื่องนี้ พ่อขอรับผิดทุกอย่างไว้เอง แกปล่อยน้องเขาลงมาเถอะนะ ถือว่าพ่อขอ” อดิสรเอ่ยปลอบลูกชายปล่อยเธอ ปล่อยเธอไป…ทำไมเขาถึงไม่มีความรู้สึกอยากจะปล่อยหญิงสาวในอ้อมกอดคนนี้ให้ออกจากอ้อมแขนเลย ราวกับว่าเธอคนนี้เป็นของเขามานานแล้ว“ผมปล่อยไม่ได้พ่อ” เพราะเขารักเธอเข้าแล้วจริง ๆ ความจริงรักตั้งแต่เจอหน้าเธอครั้งแรกเลยด้วยซ้ำ หญิงส
“จะดีเหรอวะ...มึงเดี้ยงซะขนาดนี้...ยังจะมาดวลอะไร” อัศวมองน้องชายต่างพ่อตรงหน้าราวกับเป็นขยะชิ้นหนึ่ง“กูไหว...ถ้ามึงแพ้กู…มึงต้องปล่อยเจ้าขาไป” พยัคฆ์ตอบ เขาพยายามจะรวบรวมสติและกำลังกายของตัวเองให้ลุกขึ้นสู้อีกครั้ง แม้ร่างกายตอนนี้จะไม่อำนวยก็ตาม แต่ใจเขาเชื่ออย่างสุดใจว่าสามารถทำได้ เขาต้องยื้อมันไว้ระหว่างที่พ่อกำลังมา“เฮอะ…สภาพอย่างมึงยังมีหน้ามาต่อรองกูอีก”“หรือมึงกลัวแพ้ ?”“ปากดี...อยากตายก็มาเถอะ กูจะสงเคราะห์ให้” อัศวทิ้งปืนในมือ สาวเท้าเข้าไปปล่อยหมัดหนัก ๆ ปะทะที่ใบหน้าคมคายของผู้เป็นน้อง ความเจ็บปวดพลุ่งพล่านเข้าไปยังโสตประสาทของชายหนุ่มที่นอนกองอยู่บนพื้น“พี่ยัก !! อย่าทำอะไรเขานะ” หญิงสาวที่ซ่อนอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ตะโกนเสียงดังออกมา “ออกมาแล้วเหรอคนสวย” อัศวหันมองเธอ…เขาจับจ้องอยู่ที่ดวงหน้าสะสวยราวกับตุ๊กตามีชีวิตของเธอ “เจ้าอย่าออกมา…กลับไปที่เดิม !!” ชายหนุ่มพยายามลุกขึ้น เขาอาศัยจังหวะที่อัศวมองแฟนสาวของเขา จัดการเตะเข้าที่ขาตามด้วยการพุ่งหมัดปะทะที่ใบหน้าผู้เป็นพี่จนหงายหลังไป อัศวนอนหงายหายใจหอบ เขาถุยเลือดลงบนพื้นและเช็ดเลือดที่มุมปาก ก่อนจะลุกขึ้นแล้วปะทะกันอ