แชร์

Chapter 8

ผู้เขียน: อัญญาณี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-13 01:38:32

Chapter 8

“กูรู้สิ ทำไมกูจะไม่รู้ แต่เผอิญว่ากูไม่กลัว” อดิศรเดินเข้ามาใกล้เบิ้ม กระแทกเท้าไปยังหัวเข่าของเบิ้มจนเบิ้มเปลี่ยนท่าเป็นคุกเข่าบนพื้นถนน “เอาตัวผู้หญิงไปไว้ในรถ แล้วเอาเชือกมามัดมือมัดเท้าไอ้สองตัวนี้”

อดิศรสั่งลูกน้องอีกสองคนที่ทำตามคำสั่งอย่างมืออาชีพ ไม่นานเกินรอ เบิ้มกับมะแซก็ถูกมัดมือมัดเท้า ปล่อยทิ้งไว้ข้างรถยนต์ เสร็จสรรพอดิศร ชัยยุทธกับพวกได้เดินไปยังรถยนต์ ก่อนจะขับเคลื่อนออกจากจุดนั้น หลังจากได้เป้าหมายสำคัญกลับไปด้วย

หากจะกล่าวว่าเป็นเรื่องบังเอิญก็ว่าได้ ไม่ใช่มีเพียงเบิ้มกับมะแซที่ต้องการตัวขวัญข้าว และไปดักซุ่มดูความเคลื่อนไหวของขวัญข้าว อดิศรก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องการตัวขวัญข้าวไปให้เจ้านายและเพื่อนของตน เขากับพวกจึงมาดักซุ่มดุความเคลื่อนไหวของขวัญข้าว แต่พอมาถึงก็เห็นว่า เบิ้มกับมะแซมาดักดูก่อนหน้า อดิศรไม่อยากไก่ตื่น จึงจอดรถในระยะที่เบิ้มกับมะแซไม่สงสัย โดยอาศัยกล้องส่องทางไกลคอยสังเกตการณ์ พอเบิ้มกับมะแซเคลื่อนไหว อดิศรก็สะกดรอยตามไป และเห็นทุกอย่างที่ทั้งสองทำ

อดิศรรีบขับรถตามเบิ้มกับมะแซ หลังจากเห็นว่า ขวัญข้าวถูกทั้งสองลักพาตัว เขาไม่รู้หรอกว่า ทั้งคู่ทำไปเพราะอะไร เขาสนแต่เพียงว่าต้องชิงตัวขวัญข้าวมาให้ได้ และก็ทำสำเร็จ

เมื่อวานนี้หลังจากรายงานความคืบหน้าให้กัลป์ได้รับรู้ อดิศรได้บอกแผนการของตนให้กัลป์ฟังว่า หากต้องการรู้ข้อมูลของคชาให้มากกว่านี้ ต้องรู้จากคนใกล้ตัว และคนใกล้ตัวคนนั้นที่เขาพุ่งเป้าคือ ขวัญข้าว ซึ่งกัลป์ก็เห็นด้วยกับแผนการของอดิศร แผนลักพาตัวเธอจึงเกิดขึ้น ซึ่งอดิศรกับพวกไม่รู้เลยว่า กัลป์จะทำกับขวัญข้าวมากกว่าล้วงความลับ

            จังหวัดยะลา

            ปัญญากับคชาและลูกน้องอีกจำนวนหนึ่ง กำลังช่วยกันลำเลียงอาวุธสงครามขึ้นไปบนรถบรรทุก เพื่อขนย้ายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยอาศัยแนวชายป่าระหว่างอำเภอเบตงกับรัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซียเป็นเส้นทางขนส่ง พอไปถึงจุดนัดหมายจะมีคนมารอรับสินค้า ถือว่าสิ้นสุดการทำงานของปัญญากับพวก

            “พวกมึงเร่งมือหน่อย กูไม่อยากไปถึงช้า” ปัญญาเร่งลูกน้องที่แต่ละคนเหงื่อซก

            “โธ่พ่อ แค่นี้ก็เร่งกันจะตายอยู่แล้ว ว่าแต่ทำไมสินค้าลอตนี้มันเยอะจังเลยล่ะ ครั้งที่แล้วน้อยกว่านี้เกือบครึ่ง” คชาถามบิดา ขณะใช้แขนเสื้อปาดเหงื่อบนใบหน้า

            “เห็นนายบอกว่า ลูกค้าแถวตะวันออกกลางต้องการสินค้าเพิ่ม เลยสั่งผ่านนายหน้าคนนี้มาเยอะ”

            “ครั้งนี้ยังเต็มรถ ครั้งหน้าไม่ล่อสองคันเหรอเนี่ย ของยิ่งเยอะยิ่งแตะตาตำรวจนะพ่อ ฉันว่าคราวหน้าทยอยส่งดีกว่า ปลอดภัยไว้ก่อนไงพ่อ” คชากลับคิดว่า การส่งสินค้าในปริมาณมาก อาจทำให้ตำรวจดมกลิ่นเจอ ส่งของทีละน้อยแต่บ่อยครั้งน่าจะดีกว่า

            “กูก็คิดอย่างมึง แต่จะทำไงได้ล่ะ เรามันลูกน้องนายสั่งอะไรก็ต้องทำ อีกอย่างนายก็ปิดปากตำรวจแถวนี้ตั้งมาก คงไม่มีอะไรมั้ง” ไม่ใช่ว่าปัญญาไม่คิด เขาคิด เพียงแค่ค้านอะไรวิเศษไม่ได้ วิเศษเป็นคนเห็นแก่เงิน ยิ่งลูกค้าสั่งมากยิ่งชอบ แล้วการที่เห็นแก่เงินนี้เองที่ทำให้วิเศษขาดความรอบคอบ เขาเตือนหลายครั้งแต่ก็ไม่ฟังสักครั้ง “มึงรีบไปช่วยพวกมันดีกว่า เสร็จงานนี้ต้องไปส่งเนื้อต่ออีก”

            งานของปัญญาไม่ได้มีเพียงแค่ส่งอาวุธสงคราม เขายังมีภารกิจอีกหนึ่งอย่างคือ ส่งผู้หญิงไปขายบริการยังต่างแดน หญิงสาวที่ถูกนำตัวไปในครั้งนี้ มีทั้งเต็มใจและไม่เต็มใจ คนที่ไม่เต็มใจไม่ใช่ว่าจะไปถูกจับตัวมา แต่เป็นลูกหลานของลูกหนี้ที่ติดหนี้สินวิเศษ และไม่สามารถหาเงินมาใช้ตามตกลงกันไว้ วิเศษจึงข่มขู่ต่างๆ นานา ส่งผลให้ลูกหนี้หลายคนจำต้องบังคับลูกหลานให้มาขายบริการทางเพศ แลกกับการลบล้างหนี้สิน

คชาไม่พูดอะไร เขาเดินไปทำตามคำสั่งบิดา เพราะเขาเองก็อยากกลับบ้านเร็วๆ ทำงานครั้งนี้เขารู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย มันกังวลและพะว้าพะวงอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็ไม่ได้บอกให้บิดารู้ถึงความรู้สึกนี้ คิดว่ามันจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีดังเช่นผ่านมา

อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาการขนสินค้าเป็นอันเสร็จสิ้น คชาทำหน้าที่ขับรถบรรทุก มีปัญญานั่งอยู่ด้านหน้าคนขับ ส่วนลูกน้องที่เหลือนั่งอยู่ในรถจิ๊บอีกสองคันที่ขับตามมา คชาขับรถไปตามเส้นทางคุ้นเคย มุ่งหน้าตรงไปยังจุดนัดหมายใช้เวลาขับรถไปร่วมสองชั่วโมงกว่าจะถึง

            “มึงเป็นอะไรหรือเปล่า หน้าตามึงไม่ค่อยดีเลย” ปัญญาถามบุตรชาย ตลอดทางเขาสังเกตเห็นใบหน้าคชาที่ค่อนข้างเครียด คล้ายกับว่ามีเรื่องกังวลอยู่ในใจ ซึ่งน้อยครั้งนักที่เขาจะเห็นความเครียดบนใบหน้าลูกชาย

            “ไม่รู้สิพ่อ มันบอกไม่ถูก”

            “มันยังไงล่ะ ที่ว่าบอกไม่ถูก” ปัญญาชักสงสัยมากขึ้น

            “ใจคอไม่ดียังไงไม่รู้พ่อ ใจไม่อยากทำงานวันนี้เลย”

            “มึงคิดมากไปเอง ทำงานแบบนี้มาตั้งกี่ครั้งแล้วก็ไม่เห็นมีปัญหา อย่าคิดอะไรให้มันมากเลย เดี๋ยวเราก็ได้กลับบ้านแล้ว”

ปัญญารู้ดีว่างานที่ทำมีความเสี่ยงสูง สักวันหนึ่งอาจจะพลาดพลั้ง แต่เขามีความเชื่อมั่นว่า ด้วยสติปัญญาและความสามารถของตนเอง เรื่องที่วิตกกังวลจะต้องผ่านพ้นไปด้วยดี งานวันนี้ก็เช่นกัน

คชาไม่พูดอะไรต่อ เขาขับรถไปตามเส้นทางดินลูกรัง ถนนหนทางค่อนข้างลำบาก แต่ด้วยความเคยชินมันจึงไม่ใช่เรื่องยากในการเดินทาง

อีกด้านหนึ่ง

ตำรวจนอกเครื่องแบบราวยี่สิบคน และตำรวจตระเวนชายแดนอีกจำนวนหนึ่ง ทั้งหมดมาพร้อมกับอาวุธครบมือ พวกเขาดักซุ่มอยู่แนวชายป่าริมถนนลูกรัง สายตามองไปยังรถบรรทุกและรถอีกสองคันที่กำลังแล่นเข้ามาใกล้พวกเขา

“ทุกหน่วยพร้อมนะ ระวังตัวด้วย รอสัญญาณจากผมก่อนแล้วค่อยบุก”

พันตำรวจตรีหรือสารวัตรนพดลบอกลูกน้องที่กระจายกำลังผ่านวิทยุสื่อสารหรือเรียกกันติดปากว่า วอ นพดลได้รับมอบหมายให้คอยจับตาดูวิเศษ ผู้กว้างขวางและมีอิทธิพลคนหนึ่งในจังหวัดชุมพร หรืออาจจะพูดว่าทั่วทั้งภาคใต้ตอนเหนือก็ว่าได้ วิเศษมีเบื้องหลังเป็นนักค้าอาวุธสงครามและอยู่ในขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ ด้วยอิทธิพลและอำนาจเงิน รวมถึงมีคนใหญ่คนโตคอยหนุนหลัง ส่งผลให้ไม่มีใครกล้าแตะต้องหรือคิดจะกวาดล้าง วิเศษเหิมเกริม ได้ใจกระทำชั่วมาอย่างยาวนานนับสิบปี

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พยาบาทพิศวาส   Chapter 137

    Chapter 137 กัลป์ประคองร่างอุ้ยอ้ายของภรรยาออกจากห้องน้ำ เขาพาขวัญข้าวมานั่งบนโซฟาปลายเตียง หยิบยาดมขึ้นมาให้เธอสูดดม จากนั้นก็ลุกเดินไปหยิบผ้าเย็นในตู้เย็นมาหนึ่งผืน นำมาเช็ดหน้าเช็ดลำคอและแขนให้เธอ “มาแพ้ท้องอะไรตอนนี้นะ จะคลอดอยู่ไม่กี่วันแล้ว” กัลป์ไม่เหนื่อยที่ต้องดูแลขวัญข้าว เขาเป็นห่วงเธอมากกว่า “ขวัญจะนอนพักก่อนไหม ถึงเวลากินข้าวเย็นพี่จะขึ้นมาปลุก” “ไม่เป็นไรค่ะ ขวัญไหวค่ะ” พูดไปสูดยาดมไป “พี่ว่าเรามีลูกกันแค่สองคนก็พอ ขวัญแพ้ท้องหนักมากทั้งสองท้องเลย พี่สงสาร”หลังจากคลอดลูกชายคนแรกนามว่ากรกันต์หรือน้องกรณ์ได้หนึ่งปีกว่า กัลป์กับขวัญข้าวมีลูกอีกคน ซึ่งท้องนี้เป็นลูกสาว ขวัญข้าวมีอาการแพ้ท้องเช่นเดิม อาเจียน เวียนศีรษะ หน้ามืด อ่อนเพลียง่าย แต่ไม่เหม็นหน้าสามีเหมือนท้องแรก กัลป์จึงดูแลขวัญข้าวได้เต็มที่ ดูแลมากกว่างานในบริษัทที่ให้อดิสรรับหน้าที่ผู้ช่วยรองประธานทำงานแทนอย่างที่รู้กันว่า ครรภ์แรกกัลป์ไม่ได้ทำหน้าที่สามีสักเท่าไหร่ มาท้องนี้เขาทุ่มเต็มที่ ทำหน้าที่พ่อและหน้าที่สามีไปพร้อมกัน ซึ่งทำได้ดีมากแม้ว่าจะเหนื่อยมากก็ตาม

  • พยาบาทพิศวาส   Chapter 136

    Chapter 136พิมประภาจากไปนานหกเดือนแล้ว ทว่าจิตราวดียังทำใจยอมรับกับการจากไปของลูกสาวไม่ได้ แต่ก็ดีขึ้นบ้างในบางครั้ง เจษฏาต้องจ้างพยาบาลมาดูแลมารดาอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่าจะคิดสั้นตา โดยมีสกลคอยช่วยดูแลภรรยาอีกคน“เรื่องบางเรื่องต้องให้เจอกับตัวถึงเข้าใจและสำนึก และบางครั้งว่าคนๆ หนึ่งจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว” วชิราภรณ์พูดอย่างคนอาบน้ำร้อนมาก่อน “พอดีป้าได้โสมมากจากเกาหลี ป้าฝากไปให้คุณพ่อกับคุณแม่ด้วยนะ”“ขอบคุณครับคุณป้า” คนรุ่นลูกยกมือไหว้ “ส่วนนี้เช็คครับคุณลุง”เจษฎาส่งเช็คที่ระบุจำนวนเงินสิบล้านส่งให้ธัญญ์ที่ยื่นมือมารับไว้ ก่อนธัญญ์ส่งคืนให้เจษฏา“ลุงยังไม่รีบใช้เงิน เจตต์เอาไปหมุนก่อนก็ได้ ตอนนี้ขยายตลาดไปจีนกับสิงคโปร์ไม่ใช่เหรอ ต้องใช้เงินเยอะ ขยายกิจการต้องมีเงินสำรอง” ธัญญ์พูดอย่างเข้าใจวงจรธุรกิจ“ผมพอมีครับ คุณพ่อบอกว่า ความซื่อสัตย์และการตรงต่อเวลาเป็นเรื่องสำคัญครับ รับปากใครไว้ก็ต้องทำให้ได้ครับ”“ลุงรับไว้แล้วไง และให้เจตต์เอาไปหมุนต่อ ถือว่าเจตต์ไม่ผิดคำพูดนะ” ธัญญ์มีข้อโต้แย้ง “รับไปเถอะ ลุงอยากช่วยเจตต์จริงๆ เจตต์จำเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้มากกว่าลุง เราสองคนช่วยเหลือกั

  • พยาบาทพิศวาส   Chapter 135

    Chapter 135 “พี่กัลป์อยากทำอะไรก็ทำสิคะ หมอไม่ได้ห้าม” กัลป์ละห่างลำคอระหง มือหยุดเคลื่อนไหว เงยหน้ามองคนพูด “ทำได้เหรอ ทำได้แน่นะ” เขาถามย้ำ รอลุ้นคำตอบ “ได้ค่ะ แต่อย่ารุนแรงนะคะ เดี๋ยวลูกตกใจ” ขวัญข้าวตอบ มองใบหน้าคมหล่อที่เวลานี้อาบด้วยรอยยิ้ม แต่แล้วรอยยิ้มพลันหุบลง เขาจูบหน้าผากเธอเบาๆ “พี่ว่า พี่อดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่า ตั้งแต่ขวัญรู้ว่าท้องก็แพ้ไม่หยุด หน้ามืดเวียนหัวก็บ่อย แล้วท้องก็ใหญ่มากด้วย พี่ไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาด พี่ทนได้ ขอแค่พี่ได้กอด ได้หอมและได้จูบขวัญก็พอ” แม้ใจกัลป์อยากทำตามอารมณ์มากแค่ไหน ทว่าเขาคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกเมียเป็นอันดับแรก แค่ได้ทำตามที่กล่าวไป กัลป์ก็พอใจแล้ว ขวัญข้าวยิ้มให้ชายหนุ่มตรงหน้า หอมแก้มเขาฟอดใหญ่ “พี่กัลป์น่ารักที่สุดเลย” “แน่นอนอยู่แล้ว และน่ารักกับขวัญคนเดียว” เขาพูดจริงจากใจ จูบปากเธอหนักๆ ซ้ำๆ หลายครั้ง “รักที่สุดในโลกด้วย” “ขวัญก็รักพี่กัลป์ค่ะ เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะคะ” “ครับ เรามาเริ่มต้นกันใหม่ พี่สัญญาว่าจะไม่ทำให้ขวัญเสียใจและร้องไ

  • พยาบาทพิศวาส   Chapter 134

    Chapter 134“ใช่ คงไม่เหงาแล้ว เราคงปวดหัวกับหลานจอมซนของเราน่าดูนะ” ธัญญ์พูดประโยคนี้วชิราภรณ์ก็รู้ว่า สามีตัดสินใจเช่นไร“แน่นอนค่ะ กัลป์ตอนเด็กๆ ซนหยอกซะเมื่อไหร่ เล่นเอาผึ้งหัวหมุนเลย หลานคนแรกของเราก็คงซนไม่ต่างกับพ่อ” ใบหน้าวชิราภรณ์อิ่มด้วยรอยยิ้ม“เรากลับบ้านกันเถอะ ให้กล้วยไม้อยู่ดูแลช้างต่อ” ธัญญ์เอ่ยบอกภรรยา ก่อนทั้งคู่จะเดินเคียงคู่กันกลับไปบ้านหลังใหญ่ ความคิดธัญญ์ตอนนี้เปลี่ยนไป เห็นทีเขาต้องปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่างเสียแล้ว กัลป์ก้าวเท้าเร็วๆ มายังบ้านหลังเล็ก เมื่อรู้จากพรรณพฤกษาว่า ขวัญข้าวเวียนหัวหนักมาก และเป็นลมไปเมื่อครู่ใหญ่ กัลป์ที่กำลังเดินทางกลับบ้านพอดีเมื่อมาถึงก็รีบมาบ้านหลังนี้ทันที กัลป์ร้อนใจมาก กลัวว่าเมียรักจะเป็นหนัก “แม่บัวครับ ขวัญเป็นไงบ้างครับ” กัลป์ถามบัวริน “ตั้งแต่เป็นลมไปเมื่อชั่วโมงก่อนก็ยังไม่ได้สติเลย ดีนะที่ตอนเป็นลมอยู่ในห้องน่ะ ไม่งั้นคงต้องให้นอนในห้องรับแขก” “ผมขึ้นไปดูขวัญก่อนนะครับ” ตอนนี้ขวัญข้าวหมดสติอยู่ เธอคงไม่เห็นหน้ากัลป์ จึงเป็นโอกาสดีที่เขาจะได้ชิดใกล้สาวอันเป็นที่รัก พูดจบก็เดิน

  • พยาบาทพิศวาส   Chapter 133

    Chapter 133 พรรณพฤกษามองใบหน้าคชา ชายหนุ่มที่พรากความสาว ความสดใสของตนไปเมื่อสองปีกว่าด้วยสายตาอ่อนโยน ไม่มีความโกรธแค้นสักนิดเดียว ตอนนี้จิตใจเธอผ่องใสมาก ปรับชีวิตให้เป็นปกติ ไปเที่ยว ไปกินข้าว ไปดูหนังทำกิจกรรมหลายอย่างกับครอบครัวและเพื่อน เธอจำคำพูดก่อนเขาหมดสติในป่าได้ดี ราวกับว่ามันกลืนเข้าไปในความรู้สึก ไหลวนอยู่เช่นนั้น “ผมรักคุณ ผมขอโทษ”สองประโยคนี้แม้น้ำเสียงคชาจะเบาและขาดห้วง ทว่าพรรณพฤกษาได้ยินชัดเจน เธอเชื่อคำพูดคชา เชื่อว่ามาจากหัวใจที่แท้จริง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่เสี่ยงตายช่วยชีวิตตน เธอยังรู้ต่ออีกว่า คชาปลอมตัวเป็นต้นเข้ามาดูแลเธอ เพื่อชดเชยความผิดที่กระทำไว้ แม้พรรณพฤกษาจำเหตุการณ์ช่วงสติหลุดไม่ได้ แต่เธอก็เชื่อว่า คชาสำนึกผิดโดยแท้จริง และนับจากวันนั้นพรรณพฤกษาดูช่วยดูแลคชาทุกวัน วันหนึ่งนานกว่าสามชั่วโมง ช่วงแรกธัญญ์ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของบุตรสาว เพราะอย่างไรเสียคชาก็เป็นคนชั่ว คนไม่ดีที่ไม่น่าเข้าใกล้ อีกทั้งยังเป็นคนข่มเหงพรรณพฤกษา จึงไม่มีความจำเป็นต้องเอาใจใส่ดูแล แค่ให้อยู่บ้านหลังเล็กก็เพียงพอและถือว่าเมตตามากแล้ว“คุณพ่อขา กล้วยไม้เ

  • พยาบาทพิศวาส   Chapter 132

    Chapter 132อาหารเย็นมื้อนี้พิเศษอีกแล้ว ขวัญข้าวมองปลานิลสามรสและผัดผักคะน้าน้ำมันหอย มีข้าวสวยร้อนๆ อีกหนึ่งจานแล้วน้ำลายสอ เธอรู้ดีว่าอาหารสองอย่างนี้ใครเป็นคนทำ ทว่าคนทำกลับนำมาให้ตนและอยู่ร่วมลุ้นไม่ได้ ผัดผักน้ำมันหอยใส่กุ้งสด แม้ว่าผักจะสุกมากไปหน่อยแต่หน้าตาก็น่ากิน ส่วนปลานนิลสามรส เธอไม่คิดว่ากัลป์จะทอดปลาได้สวย หนังปลาคลุมเนื้อปลาสวยงาม ไม่เละ “กัลป์ตั้งใจทำเลยนะ ขวัญชิมเลย มันลุ้นอยู่” อดิสรที่ยกสำรับอาหารมาให้คนท้องเจ็ดเดือนรีบพูด ในมือถือโทรศัพท์เครื่องจิ๋วราคาไม่จิ๋ว เปิดเป็นวีดิโอคอลให้กัลป์ได้ยินและได้เห็นภาพขวัญข้าวกินอาหาร คนลุ้นไม่ได้มีแค่สองคน จักรภพกับนพดลก็พลอยลุ้นตามไปด้วย ขวัญข้าวตักเนื้อปลาสามรสขึ้นชิม ก่อนตักอีกครั้งเพื่อกินกับข้าว ยังไม่มีคำตอบของคนที่นั่งลุ้น เพราะเธอกินข้าวกับผัดผักคะน้าอีกหนึ่งคำ “เป็นไงวะ ขวัญว่าไงบ้าง” กัลป์ส่งเสียงถามผ่านวีดิโอคอล “ขวัญกำลังกินอยู่ ยังไม่ตอบเลย” อดิสรพลิกมือถือให้กัลป์เห็นขวัญข้าวกินข้าว แต่ก็รีบหมุนกลับมาตามเดิมเพราะเกรงว่าคนท้องจะเห็นหน้ากัลป์ อาการเหม็นขี้หน้ากัลป์อาจ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status