“ผมขอโทษนะครับที่ถามคำถามนั้นออกไป คุณก็เลยร้องไห้อีก”
“ไม่เป็นไรคะ ฉันชินแล้ว ผ้าเช็ดหน้าของคุณฉันจะส่งมาให้ทางไปรษณีย์นะคะ เพราะไม่รู้ว่าจะมาที่นี่อีกเมื่อไหร่ หรือว่าคุณไม่อยากได้ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้แล้วก็บอกนะคะ ฉันจะได้เอาเก็บไว้ใช้เอง ย้ำเตือนถึงเจ้าของที่มีใจเอื้อเฟื้อต่อฉัน” เธอเหวี่ยงแหเพื่อให้เหยื่อติดกับดัก
“ผมคิดว่าส่งทางไปรษณีย์มันอาจจะยุ่งยาก จะให้คุณเลยก็ไม่ได้เพราะผ้าเช็ดหน้าผืนนี้เป็นผืนโปรดของผม เอาอย่างนี้ดีกว่าครับ เรานัดเจอกันดีไหมครับ” วชิราภรณ์กระหยิ่มยิ้มในใจ เหยื่อติดกับเธอแล้ว หญิงสาวทำท่าคิดพอเป็นพิธีก่อนจะตอบ
“ได้ค่ะ เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ ฉันไปก่อนนะคะ”
เธอดำเนินการอ่อยเหยื่อรอบสองทันที ก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าทำทีว่าจะเดินจากเขาไป แน่นอน...หญิงสาวมั่นใจว่าอีกฝ่ายจะต้องรั้งตัวเธอไว้ เป็นเพราะทั้งเขาและเธอยังไม่รู้จักกัน ไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของกันและกัน แล้วอย่างนี้จะนัดเจอกันได้อย่างไร
“เดี๋ยวครับ ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย เบอร์โทรก็ไม่มีแล้วอย่างนี้เราจะนัดเจอกันได้ยังไงล่ะครับ”
“แหม...ลืมไปเลยค่ะ ฉันชื่อวชิราภรณ์ค่ะ น้ำผึ้งคือชื่อเล่นค่ะ แต่ว่าคนมักเรียกว่าผึ้งเฉยๆ ส่วนเบอร์โทรก็ 0875913xxx คุณว่างวันไหนโทรมาหาฉันได้เลยค่ะ”
เสียงหวานใสเอ่ยบอก ส่งยิ้มละไมหวานหยดให้กับชายหนุ่มตรงหน้า หัวใจชายสั่นรัวเมื่อเห็นรอยยิ้มสวยงามของหญิงสาว รอยยิ้มและดวงตาช่างหวานสมกับชื่อเหลือเกิน...น้ำผึ้ง เขากดหมายเลขโทรศัพท์ของเธอเพื่อบันทึกลงในโทรศัพท์มือถือมือไม้สั่น
“ครับคุณผึ้ง ผมชื่อกัมปนาท เรียกสั้นๆ ว่าเอก็ได้ครับ แล้วผมจะโทรหานะครับ ว่าแต่คุณผึ้งจะไปไหนครับ ให้ผมไปส่งดีกว่านะครับ”
“อย่าเลยค่ะ ลำบากคุณเอเปล่าๆ ผึ้งไปเองได้ค่ะ” เธอแสร้งทำเป็นเกรงใจ ทว่าในจิตใจลิงโลดกับแผนการที่บรรลุเป้าหมายเกินคาด
“ไม่ลำบากเลยครับ ผมเต็มใจถือว่าไปส่งเพื่อนใหม่”
“ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณเอเต็มใจไปส่งผึ้ง ผึ้งก็ไม่ขัดศรัทธาค่ะ” เธอรับคำเสียงหวาน อีกฝ่ายยิ้มเต็มใบหน้า
“เชิญครับ” กัมปนาทผายมือให้สุภาพสตรีแสนสวยเดินไปที่รถ ก่อนที่เขาจะทำหน้าที่สุภาพบุรุษเปิดประตูรถยนต์ให้หญิงสาวสอดตัวเข้าไปนั่ง จากนั้นชายหนุ่มก็เดินอ้อมมานั่งฝั่งคนขับทะยานรถออกไปยังถนนเบื้องหน้า
“ขอบคุณคุณเอมากนะคะที่มาส่งผึ้งถึงที่ทำงาน” หญิงสาวกล่าวขอบคุณอีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้ม หลังจากที่รถยนต์แล่นมาจอดหน้าอาคารสำนักงาน
“ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจครับ ที่ทำงานของคุณผึ้งติดกับที่ทำงานของผมเลยนะครับ ที่ทำงานของผมอยู่ตึกบีครับ” คำบอกเล่าของกัมปนาทเรียกรอยยิ้มให้ประดับบนดวงหน้าสวย งานนี้ก็ง่ายขึ้นกว่าที่คิดอยู่ใกล้กันแค่นี้เอง
“จริงหรือคะบังเอิญจังเลย ยังแอบนึกอยู่ในใจเลยว่าทำไมคุณเอถึงได้ขับรถมาที่นี่ได้คล่องแคล่วเหลือเกิน ผึ้งแค่บอกชื่ออาคารคุณเอก็ขับรถมาที่นี่โดยไม่ต้องถามทางผึ้ง”
“สงสัยเป็นพรหมลิขิตมั้งครับ” เขาพูดทีเล่นทีจริง มองวชิราภรณ์ด้วยประกายตามีความหมาย
“ผึ้งไปก่อนนะคะสายแล้ว สวัสดีค่ะ”
เธอกล่าวคำอำลา มือนุ่มเปิดประตูรถยนต์ก้าวลงไปยืนบนพื้นคอนกรีต จากนั้นก็ปิดประตูรถ โบกมือให้สารถีหนุ่มเป็นการส่งท้าย เขาโบกมือกลับก่อนจะเคลื่อนรถไปยังอาคารบี
“ฉันจะฉีกอกให้ขาดกระจุยเลยคอยดู”
หลังจากที่รู้ว่ากัมปนาทคือหลานชายของวรางค์คนางค์ แผนร้ายผุดขึ้นมาในสมองของหญิงสาวทันที เธอจะทำให้กัมปนาทรักและลุ่มหลง จากนั้นก็จะสลัดทิ้งอย่างสิ้นเยื่อใย เธอรู้ว่าเขาไม่เกี่ยวข้องกับความแค้นระหว่างเธอกับศัตรูคู่อาฆาต ทว่าเขาคือเครือญาติของคนที่เธอชิงชัง เพราะฉะนั้นก็จะต้องได้รับผลของการกระทำนั้นไปด้วย
“วันนี้แกมาช้าจังเลย ไปไหนมา โทรไปก็ไม่รับสาย แล้วทำไมตาบวมอย่างนี้ล่ะ”
น้ำเสียงที่แสดงความเป็นห่วงของรุ่งรุจีเอ่ยถามวชิราภรณ์เพื่อนสนิทที่เดินทางมาทำงานล่าช้าร่วมหนึ่งชั่วโมง
“ก็มาแล้วไง ทำงานเถอะเดี๋ยวจะมีประชุมไม่ใช่เหรอ” คนที่ถูกถามเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามเพื่อน บ่ายเบี่ยงไปเรื่องงานแทน
“บอกมาก่อนว่าร้องไห้ทำไม” รุ่งรุจีคาดคั้นเพื่อนสาว
“แกรู้ได้ยังไงว่าฉันร้องไห้ ฉันไม่ได้ร้องซะหน่อย” วชิราภรณ์ปฏิเสธ
“แกอย่ามาบ่ายเบี่ยง ฉันรู้ว่าแกร้องไห้ ตาบวมขนาดนี้ยังจะมาเถียงอีก บอกมาแกร้องไห้ทำไม”
“ฉันไปบ้านพ่อมา”
วชิราภรณ์รู้ดีว่าตัวเองนั้นไม่อาจปิดบังความรู้สึกกับรุ่งรุจีได้ จึงยอมเปิดปากต้นเหตุของอาการตาบวมกับเพื่อนสาว น้ำเสียงสั่นเครือของคนที่ตอบเรียกความสะเทือนใจและความสงสารให้กับคนที่ได้รับคำตอบอย่างมากมาย รุ่งรุจีสาวหมวยโอบกอดร่างของคนที่กำลังร้องไห้เอาไว้แน่น คำตอบของเพื่อนคือความกระจ่างชัดทุกอย่าง
“จะไปทำไมผึ้ง แกไปทีไรแกก็ต้องร้องไห้ทุกที ฉันว่าแกสู้ไม่รู้ไม่เห็นเลยจะดีกว่า เจ็บน้อยกว่าที่แกไปเห็นเต็มตาเสียอีก” สาวหมวยปลอบโยนเพื่อน
“ฉันรู้ว่ามันเจ็บ แต่ก็อดไม่ได้ ฉันยังเจ็บขนาดนี้แล้วแม่ของฉันล่ะจะเจ็บมากขนาดไหน ฉันสงสารแม่จังเลยจี”
ความแค้นจุดประกายอยู่ในใจของวชิราภรณ์มาจากความรักและความสงสารกัญญา แม้ว่ามารดาไม่เคยแสดงออกให้เห็นว่าทุกข์และเจ็บปวดเพียงใด ทว่าหญิงสาวรับรู้ด้วยหัวใจว่า มารดาเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เธอนี่แหละจะเป็นคนเอาคืนสองแม่ลูกที่แย่งชิงบิดาไปอย่างสาสม ให้เจ็บมากกว่ามารดาเป็นร้อยเท่าพันทวี
“ผึ้งเป็นอะไร ใครทำผึ้ง”
ณัชญ์เดินเข้ามาหาสองเพื่อนสนิทที่กอดกันอยู่ตรงโต๊ะทำงาน เสียงร้องไห้ของวชิราภรณ์ทำให้หัวใจของคนที่ถามกระตุกวูบ ความเป็นห่วงแล่นพล่านทันควัน
295หนึ่งปีผ่านไป หลากหลายเรื่องราวเกิดขึ้นอย่างมากมายในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา มีทั้งสุขและทุกข์แตกต่างกันไป ณัชญ์ได้แต่งงานกับอรุณวรรณหลังจากที่เธอหายป่วย มีความสุขตามประสาครอบครัวที่อบอุ่น คงจะขาดอยู่อย่างหนึ่งที่ณัชญ์เพียรพยายามทำมาตลอดก็คือ การผลิตทายาท แต่สุดท้ายความพยายามของณัชญ์ก็สัมฤทธิ์ผล เขาสามารถเสกทารกน้อยเข้าไปอยู่ในท้องของภรรยาได้สำเร็จ ณ วันนี้อรุณวรรณท้องได้หนึ่งเดือนแล้ว ตัณติกรกับรุ่งรุจีก็มีความสุขไม่ยิ่งหย่อนกว่าใคร หลังจากที่แต่งงานได้เพียงสองเดือน ข่าวดีก็เกิดขึ้นกับคนทั้งคู่ ข่าวที่ว่านั้นก็คือ รุ่งรุจีตั้งครรภ์หนึ่งเดือน นั่นเท่ากับว่า เคล็ดลับและเทคนิคที่ตัณติกรศักษามาเห็นผล ความดีใจไม่ได้มีเพียงเขาและเธอเท่านั้น คนที่ดีใจจนออกนอกหน้าประหนึ่งว่าตัวเองกำลังตั้งท้องเองก็คือ อัชฌา ที่ขนซื้อของบำรุงร่างกายไปให้พี่สะใภ้ จนคนที่ท้องทานแทบไม่หวาดไม่ไหว และแล้วอัชฌาก็ได้หลานชายสมใจ ธัญญ์กับวชิราภรณ์ครองคู่กันอย่างมีความสุข ธัญญ์ดูแลเอาใจใส่ลูกเมียและแม่ยายเป็นอย่างดี และตอนนี้ความบาดหมางระหว่างกัญญากับธัญญ์ก็ต่อกันสนิท ไม่หลงเหลือควา
294หน้าของเธอแดงก่ำขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นสิ่งนั้น สิ่งที่ทำให้หญิงสาวรู้ว่าเขาปรารถนาเธอมากเพียงใดหลังจากที่ธัญญ์ก้าวขึ้นมาบนเตียง เขาไม่รีรอที่จะฝังร่างสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกับกายสาว แต่กว่าจะฝ่าความคับแน่นที่ไม่เคยล่วงล้ำเข้าไปจนสุด เหงื่อของเขาก็ไหลชโลมกาย ผ่อนลมหายใจออกมาแรงๆ หลายครั้ง เช่นเดียวกับเธอที่รู้สึกอึดอัดและเจ็บเล็กน้อยธัญญ์จูบเธออีกครั้งหลังจากที่นำพาร่างกายฝังลึกสุดทาง จุมพิตอย่างดื่มด่ำ เรียกร้องและเร้าอารมณ์ มือนุ่มๆ ลูบไล้ไปตามร่างกายแข็งแกร่งของธัญญ์อย่างเบามือ ใช้ปลายเล็บกรีดเป็นทางตรงกลางแผ่นหลังจนถึงเอว ลากปลายเล็บขึ้นๆ ลงๆ ไปมา จนเกิดเสียงครางเล็กๆ ในลำคอหนา“คุณธัญญ์ คุณธัญญ์” ทันทีที่ปากนุ่มได้รับอิสระ วชิราภรณ์ก็ปลดปล่อยเสียงครางรัญจวนออกมา เพราะเขาเริ่มบรรเลงเพลงรักแบบเต็มรูปแบบ เอวใหญ่ออกแรงขับเคลื่อนจากจังหวะเบา ช้าๆ แต่เน้นในจุดเชื่อมต่อในช่วงนาทีแรกจากนั้นค่อยๆ เพิ่มความแรงในเวลาต่อมา ความร้อน อาการเสียวสะท้านเดินทางมาย่ำเยือนกายสาวยามที่เขาขับจังหวะเข้าใส่ ส่งผลให้เธอส่ายร่อนสะโพกรับแรงกระชั้น ความหฤหรรษณ์ในการเสพสมในครั้งนี้จึงเพิ่มพูน แน่นในทรวง
293ธัญญ์กล่าวคำมั่นสัญญากับวชิราภรณ์ต่อหน้าฟ้าเบื้องบน ทะเลเบื้องล่าง เป็นคำมั่นที่เขาตั้งปฎิญาณไว้ในใจว่า ทำได้อย่างแน่นอน เธอน้ำตาปริ่มเมื่อได้ยินคำพูดหนักแน่นและสัญญาจากปากได้รูป“ผึ้งรักคุณค่ะ รักยังไงก็รักอยู่อย่างนั้นและจะรักตลอดไป”“เรามาเข้าหอกันเถอะ ผมทนไม่ไหวแล้ว”เขาพูดกระซิบอยู่ที่ใบหูสะอาดของเธอ ก่อนจะช้อนอุ้มร่างสวยขึ้นสูง ก้าวเท้าเดินเข้าไปในห้องนอน บรรจงวางร่างของวชิราภรณ์บนเตียงหนานุ่มอย่างเบามือ“ผมรักผึ้งครับ”ดวงตาพราวระยับของธัญญ์จ้องมองดวงตาประกายสวยของเธอนิ่งหลังจากที่กล่าวคำรักจบ ก้มใบหน้าลงจูบหน้าผากมน เรื่อยมาถึงดวงตาทั้งสองข้าง อ้อยอิ่งอยู่นานบนพวงแก้มนวลที่ถูกเขาสูดดมความหอมข้างละหลายครั้ง ก่อนจะมาแนบสนิทริมฝีปากบนกลีบปากสีชมพูอ่อนของเธอปลายลิ้นใหญ่แทรกซอนเข้าไปค้นหาความหวานหอมในช่องปากสาว ที่มีดีกรีรสชาติยอดเยี่ยมอยู่ทุกอณู แน่นอนว่าคนที่ร้างลา ร้างสัมผัสมานานเป็นปี ต้องรีบกอบโกยหารสหวานที่รสชาติยังคงติดค้างอยู่ในรู้สึก ฝ่ายหญิงก็ไม่ได้ปบ่อยให้เขารุกรานเพียงคนเดียว ตอบสนองจูบกลับไปจนเกิดเสียงครางครึ้มในลำคอหนาลิ้นเล็กนุ่มที่กล้าหาญตวัดพันพัวลิ้นใหญ่ ดู
292การจดทะเบียนสมรสในวันนี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่ของเขาและเธอ เพราะวชิราภรณ์บอกกับธัญญ์ว่า เธอไม่ต้องการพิธีแต่งงาน ขอเพียงเขาใช้ชื่อจริงนามสกุลจริงในการจดทะเบียนสมรสและรักเธอด้วยหัวใจที่แท้จริงเท่านั้นก็พอแล้ว ซึ่งคำขอของวชิราภรณ์นั้น ธัญญ์ให้ได้ทุกข้อทั้งคู่ก้าวเดินมายังรถตู้ราคาหลายล้านที่จอดอยู่บนลานจอดรถของสำนักงานเขต ก่อนจะก้าวขึ้นไปบนรถคันนั้น พอทุกคนนั่งประจำที่ กำพลสารถีได้ทะยานรถออกสู้ถนนสายหลัก มุ่งตรงไปยังโรงพยาบาลสงฆ์เพื่อเลี้ยงภัตตาหารเพลแก่พระภิกษุสามเณรที่พักรักษาตัวอยู่ที่นั่น หลังจากนั้นทั้งคู่ได้เดินทางไปทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา ถวายสังฆทานเพื่อเป็นสิริมงคลของการดำเนินชีวิตคู่ ตบท้ายด้วยการเลี้ยงฉลองชีวิตคู่กันสองต่อสองด้วยการล่องเรือเดินทางจากเมืองไทยไปประเทศญี่ปุ่น พอถึงที่นั่นทั้งสองจะอยู่ท่องเที่ยวหนึ่งสัปดาห์ ก่อนจะเดินทางไปยังประเทศอังกฤษเป็นลำดับต่อไปบนเรือสำราญขนาดใหญ่ที่บรรจุนักท่องเที่ยวพร้อมลูกเรือกว่าหนึ่งพัน กำลังแล่นอยู่บนทะเลสีฟ้าครามในยามพลบค่ำมุ่งหน้าสู่ประเทศญี่ปุ่นในขณะที่เรือกำลังแล่นวชิราภรณ์ได้เดินออกมาจากห้องพักที่อยู่ชึ้นบนสุดของเรือส
291สองเดือนครึ่งต่อมาธัญญ์กับวชิราภรณ์เดินลงมาจากสำนักงานเขตหลังจากที่จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนหน้าที่จะจดทะเบียนดังกล่าว ธัญญ์ได้ให้เจ้าของบัตรประชาชนตัวจริงที่เขาจ้างวานให้ไปเปลี่ยนชื่อและนามสกุลจากเดิมคือนายพุฒิพงศ์ คงถาวร มาเป็น ธัญญ์ ซันแมคควีน อมรวัฒนา มาทำการจดทะเบียนหย่ากับวชิราภรณ์ เมื่อขั้นตอนดังกล่าวเสร็จเรียบร้อย ธัญญ์ได้จดทะเบียนสมรสกับเธอทันทีบ้านที่ห่างหายจากความสุขมานานเป็นปี ได้พลิกฟื้นกลับมาใหม่เต็มไปด้วยความสุขอีกครั้ง หลังจากที่ธัญญ์ออกจากโรงพยาบาล เขาก็กลับมายังบ้านที่เคยอยู่ร่วมกับวชิราภรณ์ แล้วเขาก็ได้พาคนที่เคยหนีจากที่นี่ไปให้หวนกลับมาอยู่ร่วมบ้านอีกครั้ง แต่มีอีกสองชีวิตที่เข้ามาพักพิงอาศัยด้วยคือ กัญญากับกวินทร์ ธัญญ์คิดว่าบ้านหลังนี้เล็กเกินไปสำหรับครอบครัวของเขา เพราะคิดว่าตนเองต้องมีทายาทเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เขาจึงคิดว่าจะหาบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่านี้ ความบังเอิญเกิดขึ้นเมื่อบ้านข้างๆ ติดป้ายประกาศขาย เนื่องจากจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ธัญญ์ตัดสินใจซื้อในทันที เนื้อที่ของบ้านหลังนี้กว่า 250 ตารางวา สามารถปลูกบ้านหลังใหญ่ เนื้อที่
290“เป็นอะไรคนดีของผม” เขาถามเมื่อก้าวขึ้นเตียงแล้วทอดกายลงนอนข้างร่างของสาวสวยที่มีท่าทางเหมือนคนกำลังร้องไห้“จี จีกลัว” เธอตอบเสียงสั่น“กลัวอะไรครับ” ตัณติกรเอ่ยถาม กรีดน้ำตาสาวที่เอ่อล้นตรงขอบตาอย่างแผ่วเบา“จี จีไม่บริสุทธิ์ จีกลัวคุณอาร์มไม่มีความสุข” รุ่งรุจีบอกสามีตามตรง“คิดอะไรโง่ๆ ความสุขของผมไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าจีจะมีความสาวให้ผมหรือเปล่า ความสุขของผมคือได้อยู่ใกล้ๆ จี ได้รัก ได้ดูแล ได้เอาใจใส่และได้รับความรักจากจีต่างหาก อย่างอื่นผมไม่สนใจ ต่อให้จีผ่านผู้ชายมาเยอะกว่านี้ผมก็ไม่สน ผมรักจีที่เป็นจี รักที่ปัจจุบัน ไม่ใช่อดีต”ตัณติกรกล่าวความรู้สึกที่กลั่นออกมาจากใจให้คนที่เขารักได้รับฟัง คำพูดของเขาทำให้สาวขี้กลัว หากยจากอาการดังกล่าวเป็นปลิดทิ้ง ความประหม่าเหือดหายไปจนสิ้น“จีรักคุณอาร์มค่ะ คุณอาร์มจะเป็นผู้ชายคนสุดท้ายที่จีจะมอบหัวใจให้”“แค่นี้แหละครับที่ผมต้องการ ผมรักจีนะครับ”เขามอบจุมพิตหวานๆ ทาบทับเรียวปากสวยเป็นอันดับแรกหลังจากที่พูดจบ ตามมาด้วยมือแกร่างที่เริ่มสำรวจเรือนร่างอรชรของภรรยา ไล่ตั้งแต่โคนขาสาวที่ถูกลูบไล้อย่างแผ่วเบา ทำเอาเธอรู้สึกเสียววาบร้อนวูบข