“ฉันตบแกเรียกสติ แกควรได้สติไม่ใช่มาโวยวายใส่ฉันนะ! แกรักษาสิ่งที่ผู้หญิงหวงแหนเอาไว้ได้ยี่สิบกว่าปี ฉันไม่นึกเลยว่าแกจะเสียมันให้กับคนที่ไม่รู้ค่าของมันเลย เขาไม่ได้รักแก เขาเพิ่งหย่ากับเมีย และแกก็กลายเป็นเพียงของเล่นแก้ว่างของเขาเท่านั้นเอง!”
เทียนหยดสะอื้ีนฮักๆ เมื่อถูกซ้ำเติม มือข้างหนึ่งกุมแก้มขวา มันชาหนึบไปทั้งวงหน้าด้วยการกระทำของมารดาแท้ๆ แล้วอย่างไรเล่า สิ่งที่บุตรสาวทำได้คงเป็นแค่การหันหลังให้มารดาที่รักแล้วเดินกลับเข้าห้องไปพร้อมกับหัวใจที่เป็นแผลยับเยิน
ผกากรองตามมาเงียบๆ ปาดน้ำตาอย่างทุกข์ระทมไม่แพ้คนเป็นลูก แลเห็นบุตรสาวนั่งอยู่ข้างฟูกนอนอันยับย่น บางแห่งมีร่องรอยของโลหิตเปรอะเปื้อนเป็นจุดๆ โธ่เอ๋ย...สมัตถ์ช่างไม่ทะนุถนอมแก้วตาดวงใจของนางบ้างเลย เขาไม่สงสารเทียนหยดบ้างหรือ บุตรสาวนางมิใช่สตรีก๋ากั่นโชกโชนเรื่องอย่างว่าสักนิด
“เขาไม่ใช่ของแก เทียนหยด เลิกร้องไห้เพราะเขาซะที เก็บที่นอนหมอนมุ้งซะ ไม่มีประโยชน์ที่แกจะเก็บไว้ประจานตัวเอง” นั่นคือสิ่งที่ผกากรองสั่งความบุตรสาวอยู่ที่หน้าประตู ก่อนจะก้าวจากไปพร้อมหัวใจของคนเป็นแม่
“ฉันตบแกเรียกสติ แกควรได้สติไม่ใช่มาโวยวายใส่ฉันนะ! แกรักษาสิ่งที่ผู้หญิงหวงแหนเอาไว้ได้ยี่สิบกว่าปี ฉันไม่นึกเลยว่าแกจะเสียมันให้กับคนที่ไม่รู้ค่าของมันเลย เขาไม่ได้รักแก เขาเพิ่งหย่ากับเมีย และแกก็กลายเป็นเพียงของเล่นแก้ว่างของเขาเท่านั้นเอง!”เทียนหยดสะอื้ีนฮักๆ เมื่อถูกซ้ำเติม มือข้างหนึ่งกุมแก้มขวา มันชาหนึบไปทั้งวงหน้าด้วยการกระทำของมารดาแท้ๆ แล้วอย่างไรเล่า สิ่งที่บุตรสาวทำได้คงเป็นแค่การหันหลังให้มารดาที่รักแล้วเดินกลับเข้าห้องไปพร้อมกับหัวใจที่เป็นแผลยับเยินผกากรองตามมาเงียบๆ ปาดน้ำตาอย่างทุกข์ระทมไม่แพ้คนเป็นลูก แลเห็นบุตรสาวนั่งอยู่ข้างฟูกนอนอันยับย่น บางแห่งมีร่องรอยของโลหิตเปรอะเปื้อนเป็นจุดๆ โธ่เอ๋ย...สมัตถ์ช่างไม่ทะนุถนอมแก้วตาดวงใจของนางบ้างเลย เขาไม่สงสารเทียนหยดบ้างหรือ บุตรสาวนางมิใช่สตรีก๋ากั่นโชกโชนเรื่องอย่างว่าสักนิด“เขาไม่ใช่ของแก เทียนหยด เลิกร้องไห้เพราะเขาซะที เก็บที่นอนหมอนมุ้งซะ ไม่มีประโยชน์ที่แกจะเก็บไว้ประจานตัวเอง” นั่นคือสิ่งที่ผกากรองสั่งความบุตรสาวอยู่ที่หน้าประตู ก่อนจะก้าวจากไปพร้อมหัวใจของคนเป็นแม่
หัวใจของคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานปีเริ่มสั่นไหวแปลกๆ ไม่รู้อะไรดลใจแต่สองขานางดันพาร่างเดินตรงมาที่ห้องของบุตรสาว เคาะประตูสองสามครั้ง แล้วเฝ้ารอให้คนมาเปิด...เคาะครั้งแรกคนข้างในยังเงียบ เคาะครั้งที่สองก็ยังเงียบอยู่ นางเริ่มใจคอไม่ดี เงื้อมือหมายจะเคาะอีกรอบ แต่ประตูไม้บานพอเหมาะก็ถูกดึงให้เปิดออกเทียนหยดยืนหน้าตื่นอยู่ตรงหน้านาง สีหน้าไม่ค่อยดีนัก เสื้อคลุมที่สวมก็ดูเหมือนว่ารีบร้อนสวม หาได้มีความเรียบร้อยให้เห็น“แม่...” เทียนหยดครางเรียกมารดา หันไปมองข้างหลังตัวเองอย่างรู้ซึ้งในความผิด สมัตถ์ขยับกายลุกขึ้นนั่ง ท่อนบนเปลือยเปล่า มีผ้านวมปกปิดท่อนล่างไว้ผกากรองหน้าถอดสี แลเห็นการเคลื่อนไหวภายในม่านมุ้งด้านหลังบุตรสาว หัวใจอันแข็งแกร่งพลันไหวยวบ หยดน้ำตารื้นขึ้นมาในบัดดล ทว่ายังก่อน คนอย่างผกากรองไม่ยอมให้ใครเห็นน้ำตาง่ายๆ หรอก“แต่งตัวดีๆ แล้วไปคุยกับฉันที่ระเบียง ทั้งสองคน!” นางสั่งเสียงห้วน สองมือกำหมัดแน่นข้างลำตัว ก้าวออกมาจากหน้าห้องของบุตรสาวได้ก็แลหาร่างละมุด “ละมุด! อยู่ไหน มาหาฉันที!”แม่สาวละมุดผู
EP 16ฉันเป็นอะไรสำหรับคุณ_____________ดวงเดือนเคลื่อนลงต่ำแล้ว แต่เทียนหยดมิอาจข่มตาให้หลับ สิ่งที่เกิดขึ้นมันยังค้างคาใจ เธอมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสมัตถ์บนเรือลำน้อย ท่ามกลางแสงจันทร์และสายน้ำยามราตรี มันน่าอับอายเมื่อมาคิดย้อนหลัง เธอทำไปได้อย่างไร มิกลัวใครมาเห็นบ้างหรือ แต่คิดไปก็เท่านั้น เพราะในเวลาดังกล่าวสมองและสองตาไม่มีเรื่องอื่นเลย มันจดจ่ออยู่แต่กับสมัตถ์และสัมผัสของเขาเท่านั้น“ฉันทำอะไรลงไปนะ” ถามตัวเองแต่ไร้ซึ่งคำตอบ อุตส่าห์เก็บความสดสาวให้รอดพ้นมือจีรวัฒน์มาได้ตั้งหลายปี กลับมาเสียให้กับคนที่ไม่มีสัมพันธ์ทางใจกับเธอเลย และพอย้อนถามตัวเองก็ให้ปวดใจนัก เพราะดันรู้แล้วว่ารู้สึกอย่างไรกับสมัตถ์ ชายที่ไม่เคยรักเธอน้ำตาเม็ดใสร่วงรินโดยพลัน เจ็บปวดในหัวใจยิ่งกว่าตอนที่ถูกจีรวัฒน์ทรยศหักหลัง เธอมั่นใจแล้วว่าสิ่งที่เกิดกับหัวใจครั้งนี้ มันเรียกว่า การแอบรัก รักเขาเพียงข้างเดียวก๊อกๆๆเสียงเคาะประตูดังขึ้นยามค่อนคืน เธอชั่งใจครู่หนึ่ง บนเร
เขาร้องขอ เทียนหยดมิปล่อยให้เขารอเก้อ โน้มใบหน้าไปจุมพิตเขาอย่างดูดดื่ม ลิ้นร้อนกอดกระหวัดรัดกัน หยอกล้อกันภายในโพรงปากอุ่นของเขา รสชาติของจุมพิตช่างหวานเกินห้ามใจ รสชาตินี้สินะที่ราตรีมิอยากเสียมันไป และเธอ...ก็จะไม่ยอมเสียมันไปเช่นกัน “อ๊ะ! เจ็บ!”เสียงครางอย่างสุขสมเปลี่ยนเป็นเสียงร้องอย่างเจ็บปวด กายสาวกำลังถูกรุกรานอย่างร้ายแรง ด้วยเสื้อนอนแบบกระโปรง มันทำให้เขาสะดวกเหลือเกินในการพาตัวตนสอดแทรกเข้ามา“ขอโทษคนดี เธอหวานเสียจนฉันทนไม่ไหว สาบานว่าจะทำ...เบาๆ อา...อืม...” เขาหลับตาพริ้ม รับรู้ถึงการอ้าอมและโอบรัดของโพรงเนื้อสาว มันเหมือนมีขนมสายไหมจำนวนมหาศาลโอบรัดตัวตนเขาไว้ มันรู้สึกดี ดีจนน่าใจหาย นี่สินะรสชาติของสาวพรหมจรรย์ ขอบอกเลยว่ามันวิเศษเหลือเกิน“สมัตถ์ขา...เทียนเจ็บ ได้โปรด...” เทียนหยดวอนขออย่างสิ้นท่า ความเจ็บร้าวที่เบื้องล่างทำให้เธอทำได้แค่กอดคอเขาไว้ ขืนกายมิให้พบเจอความเจ็บปวดที่ยังไม่จบสิ้น แต่สมัตถ์กลับกอดเธอแน่น แล้วดันร่างเธอลงไป เธอรู้สึกเหมือนมีมีดค่อยๆ กรีดเนื้อตรงนั้น ค่อยๆ กรีด อย่างช้าๆ รับรู้ได้ถ
เทียนหยดกลับตาปี๋ชั่วครู่ ก่อนจะค่อยๆ ลืมขึ้นมา สองขาเริ่มขยับพาบั้นท้ายและร่างอรชรไปยังกลางลำเรือ สมัตถ์นั่งรอเธออยู่ตรงนั้น เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างหวั่นเกรง ลุกมานั่งยองๆ แล้ววาดขาข้างหนึ่งข้ามไม้กระดานกว้างราวสองคืบที่ทำไว้สำหรับนั่ง ก่อนจะพาขาอีกข้างก้าวตามไป สมัตถ์เอื้อมมือมารอ เธอวางมือบนมือเขา ถูกแรงดึงจากมือแกร่งจนต้องพาร่างโผเข้าหาเขาในทันที“ว้าย!”เสียงร้องอย่างตื่นตระหนกยังไม่น่าหวาดกลัวเท่าสิ่งที่เรียกว่าอุบัติเหตุ แรงดึงของสมัตถ์ทำให้เทียนหยดเสียหลักโผทับร่างเขา เรือโคลงราวกับจะล่มอยู่ทุกวินาที พอๆ กับหัวใจของหนุ่มสาวที่เต้นโครมครามไม่แพ้กัน“โอ...ช่วยเงียบๆ แล้วอยู่เฉยๆ ถ้าเธอไม่อยากเปียก” เขาขู่น้อยๆ ร่างหล่อนทับร่างเขาในท่าที่สองขาเขาแบะออกแล้วหล่อนแทรกอยู่ตรงกลาง สองแขนหล่อนวางบนอกเขา ร่างอรชรก่ายเกยบนตัวเขาอย่างสนิทเสน่หา แล้วอย่างนี้จะไม่ให้บอกว่าสวรรค์ชอบกลั่นแกล้งเขาได้อย่างไร และให้ตายเถอะ...ตรงนั้นมัน...“ไม่ๆๆๆ ฉันต้องขยับก่อนที่มันจะ แข็ง มากกว่านี้” เธอบอกเสียงสั่นแล้วค่อยๆ ลุก แต่กลาย
“คะ?”“ก็เรื่อง...เอ่อ ทุกเรื่องแหละ ฉันคง...ถูกทำร้ายจนเพี้ยนน่ะ เป็นเธอแท้ๆ ที่คอยช่วยฉัน แต่ฉันกลับ...ทำอะไรบ้าๆ”หญิงสาวยิ้มเพลียๆ “มันคงดีกว่านี้ถ้าคุณไม่ขอโทษฉันละนะ คุณมันจอมทำลายบรรยากาศ” ว่าเขาแล้วลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินลงบันไดไม้เพื่อลงไปยังท่าน้ำเล็กๆสมัตถ์ตามมาอย่างงงๆ “เธอหมายความว่าอะไร”“ฉันจะไม่อธิบายอะไรทั้งนั้น เพราะฉันเมาแล้วคุณสมัตถ์ ฉันเมา! ว้าย!”โครม!“โอ! คุณพระ!”“อ๊ายยย!!! อีตาบ้า! มัวทำอะไรมาช่วยฉันสิ ฮือ...” ทำเป็นร้องฮือๆ อยู่ที่ตีนบันได เธอคงเมาแล้วจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่เดินตกบันไดทั้งที่เหลืออีกไม่กี่ขั้นหรอก ดีที่มิใช่หน้าน้ำ ท่าน้ำที่สร้างไว้จึงยังเหลือพื้นที่ให้เธอได้กลิ้งลงมานั่งอย่างนี้“อะไรของเธอกัน ฮ่าๆๆ” ว่าแล้วหัวเราะร่า นั่งลงยังบันไดขั้นที่สี่จากห้าขั้น ด้านล่างนั้นเทียนหยดนั่งแหมะบนพื้นไม้ หล่อนคงเมาแล้วล่ะ ไม่ได้สนใจดูแลตัวเองเลย เสื้อหล่อนเลื่อนออกจากไหล่อีกแล้ว คราวนี้มันหล่นทั้งสองข้าง
“เธอกลัวฉัน” เขาว่า มือข้างหนึ่งกำผ้าห่มผืนบาง ใช้แขนข้างเดียวกันนั้นประคองร่างอรชรไว้ ส่วนมืออีกข้าง ยกขึ้นมาจับพวงผมสวยที่ไหลมาระรานแก้มงามไปทัดยังหลังหูให้หล่อน“ปล่อย” เทียนหยดเลือกไม่ตอบ แก้มเธอร้อนผ่าว หัวใจก็เต้นแรง อาจจะแรงกว่าเขาด้วยซ้ำ ด้วยการสัมผัสที่แนบชิดทำให้เธอแทบจะนับอัตราการเต้นของหัวใจเขาได้“เดี๋ยวฉันหล่น” เขาว่า กอดเทียนหยดแน่นขึ้นอีก มันทำให้รับรู้ได้ถึงปลายถันอันหดแข็งที่บดเบียดอยู่กับอกเขา มันดันเสื้อหล่อนออกมาทำให้เขารู้ได้แม้ไม่ชัดเจนก็ตามเทียนหยดเองก็เช่นกัน ความแข็งขึงที่กำลังพองโตอยู่เบื้องล่างเธอรับรู้ได้ดี เธอเคยรับรู้ถึงมันหนหนึ่ง และไม่ปรารถนาจะพบเจอมันอีก แต่สวรรค์ก็กลั่นแกล้งกันได้“จับกิ่งส้มโอสิ” พยักพเยิดบอก มีกิ่งส้มโอกิ่งหนึ่งอยู่ในระดับที่เขาเอื้อมถึง แต่เขากลับไม่ยอมจับมัน“มันไม่นุ่มเหมือนตัวเธอนี่”“คุณสมัตถ์!”“ไม่หอมด้วย...” เขาว่าแล้วยิ้มทรงเสน่ห์ เล่ห์บุรุษที่ไม่เคยได้ใช้นับตั้งแต่แต่งงานกับราตรี บัดนี้ถู
“ค่ะ ฉันรำคาญน่ะ มันร้อน” ว่าแล้วยิ้ม สมัตถ์เอื้อมมือมาหยิบผมปอยหนึ่งของเธอ มันเปียกลู่ระแก้ม เขาพามันไปทัดไว้กับใบหู ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรกับเธอ แต่ว่าใจเธอเต้นแรงเป็นบ้า“พี่เทียน! มาเร็วเข้า เร็ว! โอบรู้สึกไม่ค่อยดีเลย”พอโอบนิธิร้องบอกอย่างนั้น หนุ่มสาวก็จำต้องรีบไปตามเสียงเรียก และจำต้องเก็บความรู้สึกแปลกๆ เอาไว้ขบคิดทีหลัง แต่เทียนหยดมั่นใจ ความรู้สึกที่เกิด มันไม่ได้เกิดแค่กับตัวเองแน่นอน_____________มื้อค่ำอันแสนอร่อยถูกทำให้กร่อยด้วยอาการเจ็บป่วยของโอบนิธิ ผกากรองต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล และเด็กชายจำต้องแอดมิดอย่างเร่งด่วน เทียนหยดอยากไปเฝ้าน้องชายกับมารดา แต่กลายเป็นว่าต้องอยู่บ้านเป็นเพื่อนแขก เวลากลางคืนที่บ้านสวนของเธอนั้นเงียบสงบไร้แสงสี มีเพียงเสียงหรีดหริ่งเรไรขับกล่อมบรรยากาศ ละมุดกับครอบครัว มีบ้านอีกหลังตั้งอยู่ห่างออกไป เวลานี้บนเรือนจึงเหลือเพียงสมัตถ์และเทียนหยดเท่านั้นสองหนุ่มสาวอยู่ในชุดเตรียมเข้านอน เทียนหยดมีเสื้อคลุมสีขาวสวมทับชุดนอนแบบสายเดี่ยวตัวบางข้างใน เธอเลือกหยิบเสื้อคลุมตัวหนาเป็
“คุณสมัตถ์ เร็วสิ กรี๊ด! น้ำเย็นมากเลย!”เทียนหยดโบกมือให้เขา ก่อนที่จะถูกน้ำเย็นสาดเข้าเต็มรัก โอบนิธิยืนอยู่ข้างกัน ค่อยๆ เดินไปตามทางที่อัดแน่นด้วยผู้คน ถนนตรงนี้เป็นถนนในหมู่บ้านของชาวสวน ไม่ไกลจากหมู่บ้านมากนักมีวิทยาลัยอาชีวะตั้งอยู่ จึงไม่แปลกที่มีหนุ่มสาวเยอะเป็นพิเศษ“โอ...ฉันเปียก” เขาบ่นเมื่อเดินมาถึงเทียนหยด คนเยอะจนถนนแน่น เคยเห็นแต่ในข่าวโทรทัศน์ตรงถนนข้าวสาร แต่ไม่คิดว่าที่นี่คนจะแน่นได้ถึงขนาดนี้ แม้ระยะทางไม่ยาวแต่ก็ครึกครื้น สนุกสนานไม่น้อย“โอ๊ย! น้ำเย็นจังพี่เทียน” โอบนิธิร้องบ่น หันปืนไปฉีดน้ำใส่เพื่อนที่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน เทียนหยดอยากตอบอยู่หรอก แต่ว่า“พี่คนสวย ขอประแป้งหน่อยนะครับ”หนุ่มน้อยที่อายุน่าจะมากกว่าโอบนิธิสักสามปี เอ่ยขอเทียนหยด แน่นอนว่าหญิงสาวแทบจะเอียงแก้มให้“เอาเลยจ้าตัวเอง เอาเลย พี่มาเพื่อสิ่งนี้ ฮ่าๆๆ”แล้วเทียนหยดก็ถูกรุมประแป้งจากหนุ่มน้อยหัวเกรียน มันเป็นความสุขอย่างหนึ่งของเธอล่ะ แต่คนที่เดินตามหลังกลับทำหน้าบอกบุญไม่