หญิงสาวนึกถึงใบหน้าของชายหนุ่มที่เธอแม้จะไม่เคยเจอตัวจริงแต่เคยเห็นตามสื่อโซเชียล
นายแพทย์จักรินทร์ สิทธิรักษ์ เป็นหนึ่งในสูตินรีแพทย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ เขามีหน้าตาที่หล่อเหลาคมเข้ม อายุแค่สามสิบหก และเป็นที่คลั่งไคล้ของสาว ๆ มากมาย แต่เรื่องนั้นไม่ได้อยู่ในหัวเธอเลย
“นี่แสตมป์ ฉันยังได้ยินมาอีกนะว่าคุณหมอเขาชอบเด็กสาว ๆ เธอต้องสัญญานะ ว่าจะดูแลตัวเองให้ดี”
“รู้แล้วน่าเอวา เธอก็รู้ว่าฉันไม่มีวันยอมให้เขามายุ่งกับฉันในแบบนั้นหรอก”
เอวายิ้มอบอุ่น เอื้อมมือมาบีบมือของธาริกาที่วางอยู่บนโต๊ะ
“ดีแล้ว ฉันแค่อยากเตือนเธอให้รู้ไว้ก่อนน่ะ ฉันไม่อยากให้เธอเข้าไปในถ้ำเสือโดยที่ไม่มีใครเตือน”
“เวอร์ไปรึเปล่าเอวา”
“ใครจะรู้?” เอวาเลิกคิ้วล้อ “บางทีเขาอาจจะจับเธอกินทันทีที่เห็นก็ได้นะ”
“อุ๊ย ไม่หรอก ฉันจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นแน่”
“อย่างที่ฉันบอก แค่รู้ไว้ก็พอ เฮ้อ...ฉันอยากไปกับเธอด้วยจริง ๆ แต่คืนนี้ฉันมีงานต้องทำ แล้วงานเลี้ยงพวกนั้นก็เข้มงวดและเฉพาะกลุ่มมาก คนที่ไม่ได้รับเชิญไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมหรอก”
“แล้วถ้าฉันโทรหาพ่อขอให้เธอไปด้วยล่ะ”
เอวาส่ายหัว “ไม่ล่ะ คืนนี้ฉันมีงานค้างที่ต้องทำให้เสร็จ แต่คงไม่เป็นอะไรหรอก คุณลุงคุณป้าก็อยู่ด้วยนี่”
เมื่อเอ่ยถึงพ่อแม่ธาริกาได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ แล้วถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย
“พ่อกับแม่ไม่เคยยอมปล่อยฉันคลาดสายตาจากพวกเขาหรอก”
ร่างบอบบางทิ้งตัวลงกับเก้าอี้ เธอรักพ่อแม่ของเธอมาก แต่การถูกปกป้องอย่างเกินความจำเป็นก็ทำให้รู้สึกอึดอัดในบางครั้ง
“แต่คิดแล้วก็น่าเสียดาย” เอวากล่าวพลางจิบลาเต้อีกครั้ง “ฉันอยากไปเห็นคฤหาสน์หลังนั้นชัด ๆ สักที อยากรู้ว่าข่าวลือที่ได้ยินมาเป็นเรื่องจริงรึเปล่าน่ะสิ”
“มีเรื่องอะไรหรือ” ธาริกาถามด้วยความสงสัย
“ก็ฉันได้ยินข่าวลือมา” เอวาเอนตัวเข้ามาใกล้และลดเสียงลงเหลือเพียงกระซิบ “เขาว่ากันว่าที่คฤหาสน์หลังนั้นผีดุน่ะสิ คุณหมอจักรินทร์มาจากตระกูลเก่าแก่ แล้วที่นั้นเคยมีเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเกิดขึ้น”
“เธอว่าข่าวลือจะเป็นจริงรึเปล่า”
เอวายักไหล่ “ไม่รู้สิ แต่ฉันว่ามันคงจะน่าสนุกถ้าได้เข้าไปสำรวจตอนกลางคืน”
ธาริกาส่ายหน้า “ไม่เอาหรอก เออ...แต่ฉันว่าก็น่าลองดู”
ในใจเธอยอมรับว่าเธอชอบฟังเรื่องเล่า โดยเฉพาะเรื่องผีและเรื่องลี้ลับ แม้ว่าจะกลัวอยู่บ้างก็ตาม
“เธอคิดว่ามันจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักมั้ย คุณหมอเขาถึงไม่เคยมีคนรัก”
“ฉันคิดว่าเขาแค่เป็นเพลย์บอยไม่จริงจังกับใครมากกว่า แต่พูดก็พูดเถอะ ไม่ว่าจะมีผีหรือไม่มี ฉันว่าเธออย่าขุดคุ้ยลึกไปกว่านี้เลย”
“อืม รู้แล้ว”
ธาริกาผลักความคิดนั้นไปข้างหลัง แต่เรื่องที่เอวาบอกก็ทำให้เธอเริ่มคิดขึ้นมาอยู่บ้าง ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็น่าจะสนุกที่จะลองตามร่องรอยผีในงานเลี้ยงคืนนี้ดู น่าจะเป็นความบันเทิงที่ดีในขณะที่พ่อแม่ของเธอกำลังยุ่งอยู่กับการเข้าสังคมของพวกเขา
ในหลายเดือนต่อมา เหตุการณ์ต่าง ๆ ก็เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น บิดามารดาของธาริกาและจักรินทร์ต่างพยายามอย่างยิ่งที่จะปรับความเข้าใจ และสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันส่วนทางญาติของจักรินทร์ก็แสดงไมตรี และกล่าวคำขอโทษต่อธาริกา สำหรับวิธีการที่พวกเขาเคยใช้จัดการปัญหาในอดีตจักรินทร์บอกกับพวกเขาว่า เขาไม่อยากจะรับฟังคำแก้ตัวใด ๆ อีก แต่ก็ยินยอมที่จะรับคำขอโทษนั้นไว้ แน่นอนว่าเรื่องราวไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้น พวกญาติ ๆ ของเขายังคงติดต่อมาหาเขาอีกครั้ง พร้อมกับของขวัญเพื่อแสดงไมตรีจิต และธาริกาก็ช่วยเกลี้ยกล่อม ให้เขาพยายามประนีประนอมและคืนดีกับครอบครัวของเขาด้วยแม้ว่าทุกอย่างจะยังไม่ราบรื่นถึงขั้นนั้น แต่จักรินทร์ก็เริ่มเปิดใจพยายามแล้ว บางครั้งเขาจะยอมไปทานอาหารเย็นกับที่บ้าน หรือในบางครั้ง พวกเขาก็จะมาทานอาหารเย็นที่คฤหาสน์ของพวกเขาถึงแม้ว่าภายหลัง จักรินทร์จะบ่นให้ธาริกาฟังอยู่บ่อยครั้ง ถึงคำพูดเสียดสี หรือการดูถูกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ยังคงแฝงอยู
การคลอดลูกเป็นความเจ็บปวดที่สุดที่เธอเคยประสบมา มันใช้เวลาหลายชั่วโมง ซึ่งเธอรู้ว่าเป็นเรื่องปกติ แต่เวลาดูเหมือนจะยืดยาวออกไปเรื่อย ๆ เธอเพียงแต่หวังว่าทุกอย่างจะจบลงเสียที เพื่อที่เธอจะได้อุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมแขนและหลับไปพร้อมกับจักรินทร์ที่อยู่ข้าง ๆเขาอยู่ที่นั่นตลอดเวลา คอยปลอบใจเธอให้ผ่านความเจ็บปวด ในขณะที่หมอแพรวาบอกให้เธอรู้ว่าเมื่อไหร่ควรเบ่ง และอธิบายความคืบหน้าของการขยายตัวของปากมดลูกธาริกาไม่เคยรู้สึกใกล้ชิดกับจักรินทร์มากไปกว่านี้ มันรู้สึกเหมือนว่าเธอสามารถเชื่อได้อย่างลึก ๆ แล้วว่าเขาจะไม่ทิ้งเธอไป ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องชั่วคราวสำหรับเขาแม้ว่าเธอจะเจ็บปวด แต่เธอก็รู้สึกมีความสุขด้วยเอวากำลังรอเธออยู่กับเพื่อนของจักรินทร์ในห้องรอใกล้ ๆ เพื่อนสาวแวะเข้ามาดูเธอบ่อย ๆ แม้ว่าหมอแพรวาจะพยายามไล่เธอออกไป เพราะไม่อยากให้มีอะไรมารบกวนเธอมากเกินไปในที่สุด ปากมดลูกของเธอก็ขยายพอที่ลูกน้อยจะออกมาได้ เธอรู
จักรินทร์ได้โทรจองไว้ล่วงหน้าเพื่อให้พนักงานตกแต่งตามที่เขาต้องการ ด้วยดอกไม้และเทียนทุกที่ วงดนตรีกำลังเล่นเพลงรักเบา ๆ“ฉันรู้ว่ามันไม่มาก แต่ฉันอยากทำให้วันนี้พิเศษสำหรับเธอ”“นี่มันสุดยอดมากเลยค่ะ”“ฉันรู้ว่าเธอจะชอบ”เขาโน้มตัวเข้ามาเพื่อจูบที่หน้าผากของเธอ แล้วพาเธอไปที่โต๊ะที่จัดไว้สำหรับทั้งห้าคนของว่างรออยู่บนโต๊ะแล้ว ปลาหมึกทอดและสลัด ผักย่างและตะกร้าฟรายส์กูร์เมต์ ชีสละลายพร้อมสำหรับจิ้ม ปากของเขาน้ำลายสอเมื่อเห็น และเขาได้ยินเสียงท้องของธาริการ้องข้าง ๆเมื่อพวกเขานั่งลง เขาหัวเราะเล็กน้อย “ดูดีไหม”เธอพยักหน้า “ฉันหิวมากเลยค่ะ”“ฉันหวังว่าทุกคนคงจะหิว เพราะเรามีคอร์สอาหารและเครื่องดื่มอีกหลายอย่างรออยู่ แต่ไม่ต้องรีบ เรามีเวลาทั้งวัน”“นายจองทั้งร้านไว้ทั้งวันเลยเหรอ” ชัชชนดูประหลาดใจ
แม้จักรินทร์จะพยายามอย่างเต็มที่ แต่พ่อแม่ของธาริกาก็ยังไม่ยอมรับความสัมพันธ์ของพวกเขา ทั้งคู่พูดคุยกับเธอบ้าง แต่เป็นการพูดคุยสั้น ๆ และไม่บ่อยนัก แม่ของเธอจะส่งข้อความมาถามไถ่เป็นครั้งคราว ส่วนพ่อของเธอก็ส่งข้อความมาเป็นระยะ ๆ ในช่วงแรก โดยเฉพาะจะถามเธออยู่บ่อย ๆ ว่าเธอเปลี่ยนใจหรือยัง แต่เธอบอกอย่างหนักแน่นให้หยุดถามเรื่องนั้นเสียที และในที่สุดบวรพจน์ก็หยุด หลังจากนั้นข้อความจากเขาก็เริ่มห่างหายขึ้น จักรินทร์สงสัยว่ามารินีเป็นคนที่ผลักดันให้สามีพูดคุยกับธาริกาทั้งคู่ไม่ยอมพูดคุยกับจักรินทร์ แม้ว่าเขาจะพยายามโทรหาพวกเขาบ่อย ๆ เพื่อแจ้งเรื่องราวของธาริกา พยายามแสดงให้พวกเขาเห็นว่าเขาเป็นคนที่ไว้ใจได้และเหมาะสมกับลูกสาวของพวกเขาธาริกาอยากให้พ่อแม่ของเธอมาที่อำเภอในวันที่พวกเขาจดทะเบียนสมรส แต่มันก็ไม่เกิดขึ้นเธอพยายาม แต่แม่ของเธอบอกว่าเนื่องจากเธอและบวรพจน์ไม่เห็นด้วย พวกเขาจึงไม่มาในวันที่พวกเขานัดหมายเพื่อทำให้ทุกอย่างเป็นทางการ จักรินทร
“เชิญเลยค่ะ”ธาริกาโน้มตัวเข้าหาจุมพิตของชายหนุ่ม ขณะที่เขาก้มลงมาทาบทับร่างของเธอ มือแกร่งทั้งสองข้างเท้าลงบนเตียง คร่อมร่างของเธอไว้ เธอแหงนคอขึ้น ปล่อยให้เขาประทับจูบลงมาตามลำคอระหง ปลุกปั่นให้ผิวเนื้อบริเวณที่เขาเคยฝากรอยเขี้ยวคำรามไว้ก่อนหน้านี้ ให้กลับมาส่งเสียงครวญครางด้วยความรัญจวนอีกครั้ง“อืม...อา...”ทันทีที่สัมผัสลมหายใจร้อนรินรดแผ่ซ่านลงมา ธาริกาก็พลันเปล่งเสียงครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ร่างกายของเธอสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ยังคงโหยหาความสุขสมที่เขาเคยปรนเปรอให้ก่อนหน้านี้“ชอบไหม ที่รัก”ธาริกาพยักหน้า“ว่ายังไง”“ชอบค่ะ แด๊ดดี้ขา”“ดีมาก”เสียงทุ้มครางต่ำในลำคออย่างพึงพอใจ พลางขยับตัวเลื่อนร่างของธาริกาขึ้นไปบนเตียง และตามขึ้นมาทาบทับร่างของเธออีกครั้ง“อยากให้ฉั
“ของแด๊ดดี้ค่ะ” ธาริกาพูดพร้อมเสียงคราง รู้ว่าอีกไม่นานเธอจะถึงจุดสุดยอด “ฉันเป็นของแด๊ดดี้”“ใช่แล้ว และฉันจะไม่ปล่อยเธอไปไหน”จักรินทร์ยังคงเล่นกับปุ่มสวามของหญิงสาวต่อไปอีกหลายนาที จนเธอทนไม่ไหว เธอกัดฟันเพื่อกลั้นเสียงร้องไว้เมื่อความสุขครั้งแรกถาโถมเข้ามา“อ๊า...คุณหมอไนล์!” เธอหลุดปากออกมา เขามองเธอด้วยแววตาเจ้าเล่ห์“ฉันทำให้เธอรู้สึกดีไหม”“ดีมากค่ะ”จักรินทร์ยิ้มมุมปาก ถอนหายใจก่อนที่จะเอนตัวกลับ“ฉันอยากจะทำต่อในรถ แต่เกรงว่าจะไม่มีที่พอ และฉันต้องระวังไม่ให้รุนแรงเกินไปด้วย”หญิงสาวทำปากยู่ ส่งเสียงครางขัดใจเล็ก ๆ“ฉันสัญญาว่าจะทำต่อทันทีเมื่อเรากลับถึงบ้าน ฉันจะพาเธอตรงเข้าห้องนอนและทำให้เธอครางจนเสียงแห้งไปเลย”ชายหนุ่มผละออกมาและกลับไปนั่งตัวตรงอีกครั้ง ธาริกา