LOGINตอนที่ 8 เราเป็นแฟนกันแล้วNC
“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่” อานัสไหว้สวัสดีบิดามารดาของสรวิชญ์ ผู้ใหญ่ทั้งสองพนมมือแนบอกรับไหว้เพื่อนรักของลูกชาย “สวัสดีค่ะ” เอวาไหว้สวัสดีผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยความนอบน้อม แม้ว่าเธอจะไม่รู้จักกับผู้ใหญ่ทั้งสอง รวมถึงลูกชายของเขา แต่เธอเป็นเด็กมีมารยาท และเธอก็ไม่ลืมไหว้สวัสดีเพื่อนของอานัสเช่นกัน “แม่ไม่ได้เจอนัสแค่ปีเดียว นัสมีแฟนแล้วเหรอเนี่ย สวยมาก กิริยามารยาทก็งาม นัสช่างเลือกแฟนได้เหมาะสมกับตัวเองจริงๆเลยนะ” นางสุวิภาพูดเองเออเองทุกอย่าง แต่ก็สร้างความพอใจให้อานัสยิ่งนัก เขาได้แต่อมยิ้มและมองใบหน้าสวยที่เอาแต่นั่งเขินจนหน้าแดง ด้านสรวิชญ์แอบขำ เพราะเขารู้ว่าคนเจ้าชู้อย่างเพื่อนรัก คงไม่ได้เป็นแฟนกับหญิงสาวแน่นอน แต่เหตุใดทั้งสองจึงมาที่นี่ด้วยกัน เขาจะต้องหาจังหวะคุยกับเพื่อนเสียแล้ว “ขอบคุณครับคุณแม่ คุณแม่กับคุณพ่อสบายดีนะครับ” อานัสถามไถ่ผู้ใหญ่ทั้งสอง “พ่อสบายดี ส่วนแม่ก็ขี้บ่นเหมือนเดิมนั่นแหละ” นายวิทวัสตอบกลับเพื่อนของลูกชาย “เอ๊ะ คุณนี่ยังไงนะ ฉันไม่ได้ขี้บ่นสักหน่อย นัสอย่าไปเชื่อสิ่งที่พ่อพูดนะ” ทุกคนพากันนั่งขำเบาๆ ก่อนจะพากันนั่งทานอาหารมื้อเที่ยง อานัสคอยตักอาหารให้เอวาตลอด หญิงสาวรู้สึกเขิน แต่เธอก็วางตัวเป็นอย่างดี ไม่แสดงท่าทีอะไรออกมามาก “มึงพาสาวที่ไหนมาวะ” สรวิชญ์ถามอานัส ขณะที่เอวาขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ส่วนบิดามารดาของเขาก็เอาแต่นั่งก้มหน้าดูโทรศัพท์มือถือ เพื่อหาสถานที่ท่องเที่ยวในลอนดอน “เพื่อนรักของน้องสาวกูเอง” อานัสตอบ “อ๋อ ที่เมื่อคืนมึงบอกกูน่ะเหรอ” “ใช่” “เฮ้ย จะฟันแล้วทิ้งเหมือนที่ผ่านมา มันไม่ง่ายนะเว้ย” สรวิชญ์พูดในทำนองตักเตือนเพื่อนรัก “ก็ไม่ได้คิดว่าจะฟันแล้วทิ้ง คนนี้กูจริงจัง” “หึ มึงเพิ่งจะเจอน้องเขาไม่ใช่หรอวะ จะมาบอกว่าจริงจังได้ยังไง” “คนจะถูกใจกัน มันไม่จำเป็นต้องใช้เวลามากมายหลายวันหรอก เจอครั้งแรกก็ถูกใจได้ บางคนวันไนท์แล้วถูกใจกันเลยก็มีถมไป” “เออใช่ ขนาดกูวันไนท์กับผี กูยังหลงรักผีเลย” “อะไรนะ!” สรวิชญ์รีบยื่นมือไปปิดปากเพื่อนทันที เมื่อบิดามารดาของเขาสะดุ้งและหันมามองลูกชายกับเพื่อนของเขา “ไม่มีอะไรครับคุณพ่อคุณแม่ ไอ้นัสมันกำลังจะจาม ผมก็เลยเอามือปิดปากไว้” บิดามารดาของเขาก้มหน้าดูโทรศัพท์มือถือต่อ “มึงพูดอะไรของมึงวะไอ้เสือ” อานัสกระซิบถามเบาๆ “เดี๋ยวค่อยคุยกัน เด็กมึงมาแล้ว” อานัสใช้เวลาอยู่กับครอบครัวของเพื่อนราวๆ 1 ชั่วโมง จากนั้นเขาจึงนั่งรถแท็กซี่ไปที่บ้านของเอวาในช่วงบ่าย “น้องเอวาจะกลับไทยตอนไหนครับ” อานัสถามเอวาขณะที่เขานั่งลงโซฟา ภายในบ้านของเธอ “อีกประมาณสิบวันค่ะ เอวากลับพร้อมกันกับน้ำผึ้งนั่นแหละค่ะ” “พี่ขอไอดีไลน์ไว้ติดต่อกับน้องเอวาได้ไหมครับ” เขาพูดพร้อมกับจ้องมองใบหน้าสวย ราวกับจะกลืนกินให้ได้ “ได้ค่ะ” ทั้งสองแลกเปลี่ยนไอดีไลน์ของกันและกัน “น้องเอวาครับ” “คะ?” “พี่กำลังจีบน้องเอวาอยู่ รู้ตัวหรือเปล่าครับ” หญิงสาวถึงกับชะงักเล็กน้อย “ไม่รู้ค่ะ เพราะพี่นัสไม่ได้แสดงออกอะไรนี่คะ และอีกอย่าง เราก็เพิ่งจะรู้จักกันด้วยค่ะ” เธอตอบตามความเป็นจริง “นั่นแหละครับ พี่ถึงอยากบอกให้น้องเอวารู้ ว่าพี่กำลังจะจีบน้องเอวา แล้วน้องเอวามีแฟนหรือยังครับ” “ยังค่ะ” เขาทำให้เธอเขินอายครั้งแล้วครั้งเล่า “น้องเอวายังไม่ต้องตอบตกลงพี่ก็ได้นะครับ เพราะพี่จะจีบน้องเอวาไปเรื่อยๆ จนกว่าน้องเอวาจะตอบตกลงเป็นแฟนกับพี่ “แต่อีกไม่กี่วัน เอวาก็จะกลับไทยแล้วนะคะ” “กลับไทยก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ พี่โทรหาน้องเอวาทุกวันได้ ถ้าพี่ทนคิดถึงไม่ไหว พี่ก็จะบินไปหา ตกลงไหมครับ” หญิงสาวเริ่มอ่อนไหวกับคารมของพี่ชายเพื่อน เธอไม่รู้เลยว่าเขาก็เหมือนเสือร้าย ที่เคยลากเหยื่อมาขย้ำไม่ซ้ำหน้า “แล้วแต่พี่นัสเลยค่ะ” “อีกหนึ่งปีพี่ก็จะกลับไปอยู่ประเทศไทย จะได้อยู่ใกล้น้องเอวาไงครับ” “งั้นเอวาขอคุยกับพี่นัสสักหนึ่งปีนะคะ ถ้าถึงวันนั้น พี่นัสยังคุยกับเอวาอยู่ และยังจีบเอวา เอวาถึงจะตกลงเป็นแฟนกับพี่ค่ะ” “ตกลงครับ แต่...” “อะไรคะ” คิ้วสวยขมวดเล็กน้อย เมื่อเห็นอีกฝ่ายท่าทางอ้ำอึ้งเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง “คืนนี้พี่ขอนอนกอดน้องเอวาได้ไหมครับ เมื่อคืนพี่กอดน้องเอวาแล้วอุ่นมากเลยครับ” เธอถึงกับไปไม่ถูก พูดไม่ออก เมื่อเขาขอเธอตรงๆแบบไม่อ้อมค้อม “นะครับ ไม่ต้องกลัวว่าพี่จะปล้ำน้องเอวา พี่ไม่ทำหรอกครับ แค่อยากนอนกอด” หญิงสาวเริ่มใจอ่อนและหวั่นไหวไปตามคารมของเขา “ยังไม่ได้เป็นแฟนกันก็จะนอนกอดเลยเหรอคะ” “เมื่อคืนพี่ยังนอนกอดน้องเอวาทั้งคืนได้เลย แต่ถ้าน้องเอวาคิดมาก น้องเอวาก็ตอบตกลงเป็นแฟนกับพี่สิครับ” อยู่ๆเขาก็พูดเหมือนกับมัดมือชกเธอดื้อๆ “หนึ่งปีค่ะ” “ครับ ข้อนั้นพี่รู้ แต่พี่อยากนอนกอดน้องเอวานี่ครับ นะครับ” หญิงสาวทนต่อคำออดอ้อนไม่ไหว “ได้ค่ะ” อานัสยิ้มกว้าง เมื่อได้ยินคำตอบจากปากหญิงสาว (ฟอดดด) “อ๊ะ” “ขอบคุณนะครับ” เขาถือวิสาสะแนบปลายจมูกโด่งคมลงที่หน้าผากของเธอ หญิงสาวร้อนรุ่มไปทั่วเรือน ราวกับเหล็กที่โดนเผาด้วยไฟร้อนแรง “หนาวไหมครับ” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยถามคนที่กำลังนอนซุกอยู่ในอ้อมกอดของเขา “ไม่เท่าไหร่ค่ะ พี่นัสหนาวเหรอคะ” “ก็หนาวนะ แต่พอได้นอนกอดน้องเอวาก็หายหนาวแล้ว” หญิงสาวแหงนหน้าจ้องมองใบหน้าหล่อเหลา ทั้งสองนอนกอดกันอยู่ในห้องของเธอ มีเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่อง พอให้ได้มองเห็นหน้ากันและกันแบบเลือนลาง “น้องเอวารู้ตัวหรือเปล่าว่าตัวเองสวยมาก สวยจนพี่เผลอคิดไปไกลตั้งแต่แรกเจอ” “พี่นัสปากหวานจังเลยนะคะ พูดแบบนี้กับผู้หญิงมากี่คนแล้ว” “แค่น้องเอวาครับ” เขาไม่ได้พูดเกินจริง เพราะที่ผ่านมาอานัสไม่จำเป็นต้องจีบผู้หญิงก็มีสาวๆวิ่งมามอบกายให้เขาถึงเตียงนอนก็ว่าได้ “เชื่อได้เหรอคะ” “ได้แน่นอนครับ” “ปากหวานไม่เลิกเลยนะคะ” “น้องเอวารู้แล้วว่าปากพี่หวาน แล้วปากน้องเอวาล่ะครับ หวานหรือเปล่า พี่ขอชิมได้ไหมครับ” “พี่นัส อุ๊บ!” ยังไม่ทันที่เอวาจะได้ตอบกลับอะไร อานัสถือวิสาสะประกบจูบที่ริมฝีปากอวบอิ่มทันที หญิงสาวไร้ประสบการณ์ตัวอ่อนปวกเปียก เธอเผยอปากให้พี่ชายของเพื่อนลุกล้ำได้เต็มที่ อานัสรู้สึกพอใจกับการกระทำของสาวสวยคนนี้ เธอจูบตอบแบบไร้ประสบการณ์ เขาสอดแทรกลิ้นร้อนเข้าไปควานหาลิ้นเรียว และตวัดเกี่ยวลิ้นเล็กอย่างเมามัน ริมฝีปากทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่ม (จ๊วบๆๆ แผล็บๆๆ) มือหนาลุกล้ำเข้าไปในชุดนอนแบบเสื้อแขนยาว เขาบีบนวดหน้าอกอวบใหญ่ แล้วใช้นิ้วโป้งถูไถยอดอกหญิงสาวจนมันแข็งเป็นไต เอวาเคลิบเคลิ้มไปกับการกระทำของอานัส เธอไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกแบบนี้เลยสักครั้ง แต่การกระทำของเขาสามารถทำให้เธอยอมเป็นของเขาได้แน่นอน แต่อยู่ที่ว่าเขาจะทำหรือเปล่า กระดุมเสื้อถูกปลดออกสองเม็ด เผยให้เห็นหน้าอกใหญ่โตของหญิงสาว เขาถอนจูบอย่างอ้อยอิ่ง “ยอมเป็นแฟนพี่เถอะนะครับ ตกลงไหม” น้ำเสียงแหบพร่ากระซิบข้างหูหอมกรุ่น เอวาอยู่ในวัยที่อยากรู้อยากลอง เธอจึงไม่ปฏิเสธความรู้สึกตัวเองในตอนนี้ “ตกลงค่ะ” “ขอบคุณครับ แฟนของพี่” เมื่อพูดจบ เขาโน้มลงไปดูดเลียยอดอกสีหวานอย่างมูมมาม มือบางขยุ้มกลุ่มผมของชายหนุ่ม เพื่อระบายอารมณ์เสียวซ่าน “อ๊ะ...พี่นัส” (แผล็บๆๆ จ๊วบๆๆ) “อื๊อ...พี่นัสขา” เอวานอนส่ายหน้าส่งเสียงครวญคราง ยิ่งสร้างความอยากให้กับอานัสเต็มที่ (จ๊วบ) “น้องเอวาครับ” “คะ?” “เราเป็นแฟนกันแล้ว พี่ขอเอาได้ไหมครับ” “...” เอวาถึงกับพูดอะไรไม่ออก เธอนิ่งเงียบไปทันทีที่เขาถามแบบนั้น “อย่าเงียบสิครับ แค่ตอบมาตามที่น้องเอวาต้องการ ถ้าน้องเอวาปฏิเสธพี่ก็จะไม่ทำ ถ้าไม่ปฏิเสธพี่ก็จะทำ พี่ขอเอาได้ไหมครับ” ----------------------------------------- อ้าวพี่นัส อยู่ๆก็มาขอกันดื้อๆ น้องเอวาจะตอบตกลงหรือเปล่าน๊า ลุ้นกันตอนหน้าค่ะ เรื่องราวระหว่างพี่นัสและเอวาจะนำพาไปสู่เรื่องราวของน้ำผึ้งและพี่เสือต่อไป ฝากกดไลค์คอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะตอนที่ 33 ผีสาวสุดที่รัก(ตอนจบ)สามเดือนต่อมา“พี่เสือคิดยังไงถึงอยากจะไปปาร์ตี้วันฮาโลวีนที่ลอนดอนคะ”อัญรินทร์ถามสรวิชญ์ ขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งรอเวลาขึ้นเครื่อง เพื่อที่จะเดินทางไปประเทศอังกฤษ“ก็พี่อยากไปฉลองวันครบรอบสองปีที่พี่ได้เจอน้องผึ้งไงครับ ถึงแม้ว่าเรื่องราวในคืนนั้นจะเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว แต่มันก็มีความหมายสำหรับพี่มาตลอด น้องผึ้งก็ชอบไม่ใช่เหรอครับ”“ใช่ค่ะ ผึ้งชอบเทศกาลฮาโลวีนที่ลอนดอนมาก มันสนุกและตื่นเต้นมาก แต่ผึ้งก็ไม่ได้คิดว่าจะไปที่นั่นอีก เพราะพี่นัสเรียนจบแล้ว แต่ก็ยังดีที่พี่สะใภ้ของผึ้งคือเอวา อย่างน้อยผึ้งก็ต้องได้ไปเที่ยวบ้านคุณพ่อคุณแม่ของเอวา”“ครับ พี่ก็เลยถือโอกาสชวนน้องผึ้งไปลอนดอน เพราะอย่างน้อยเอวากับไอ้นัสก็อยู่ที่ลอนดอนอีกตั้งสองเดือน ไปครั้งนี้ พี่จะพาน้องผึ้งเที่ยวให้ทั่วเลยครับ”“ดีจังเลยค่ะ”อัญรินทร์ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ “ไปขึ้นเครื่องกันเถอะครับ”สรวิชญ์และอัญรินทร์ใช้เวลาอยู่บนเครื่องบินราวๆ 12 ชั่วโมง ทั้งสองเดินทางไปที่บ้านของเอวา และอานัสกับเอวาพร้อมครอบครัวของเธอกำลังรอต้อนรับคนทั้งคู่ที่มาเยือน“ตกลงวันฮาโลวีนที่จะถึงนี้ พวกเราจะไปเท
ตอนที่ 32 ผู้หญิงคนนั้นคือว่าที่ลูกสะใภ้งานแต่งของอานัสและเอวาถูกจัดขึ้นภายในคฤหาสน์หรู แขกที่มาร่วมงานล้วนแล้วแต่เป็นญาติสนิทมิตรสหายของฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาว สรวิชญ์อยู่ช่วยงานเพื่อนรัก และค้างคืนที่บ้านของอานัส แต่เขาก็ไม่ได้เข้าไปในห้องนของอัญรินทร์อีก เพราะเขาให้เกียรติเธอและครอบครัว เขาสารภาพความในใจให้บิดามารดาของเธอรับรู้ ผู้ใหญ่ทั้งสองไม่ได้ห้ามพี่สรวิชญ์และอัญรินทร์คบกัน มารดาของเธอรู้สึกยินดีอีกต่างหาก แต่ทางด้านบิดามารดาของสรวิชญ์ยังไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ลูกชายหลงรักคือใครกันแน่“เดินเร็วๆสิคุณ แขกมากันเยอะแล้ว ฉันล่ะตื่นเต้นแทนเจ้านัสกับหนูเอวาจริงๆเลย”นางสุวิภาพูดกับสามี ขณะที่ทั้งสองลงจากรถแทกซี่ และกำลังเดินเข้าไปในงานแต่ง “บ้านอานัสใหญ่มากเลยนะคุณ ใหญ่โตมโหฬารกว่าบ้านเราอีก แขกก็มากันเยอะ ดีแล้วที่เรานั่งรถแท็กซี่มา ถ้าขับรถมาเองคงจะเดินไกลกว่านี้”นายวิทวัสพูดพร้อมกับย่างก้าวตามหลังภรรยาเข้าไปในงาน“เอ๊ะคุณ ผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”นางสุวิภาพูดกับสามี ขณะที่นางมองไปเห็นอัญรินทร์กำลังยืนต้อนรับแขกอยู่กับบิดามารดาของเธอ “คุณหมายถึงใคร คุณวิภา”นายวิทวัสถามภร
ร่างสูงเดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของอัญรินทร์ทันทีที่บิดามารดาของเธอขับรถออกจากบ้านไป อานัสเป็นคนนำกุญแจมาเปิดห้องของน้องสาวให้เพื่อนรัก สรวิชญ์ปิดประตูแล้วเดินเข้าไปนั่งตรงขอบเตียง เขาจ้องมองดูคนที่กำลังหลับอยู่“! เข้ามาทำไม ใครอนุญาตให้พี่เสือเข้ามาในห้องผึ้ง ออกไปเลยนะ ผู้ชายหลอกลวง!”ตอนที่ 31 ปรับความเข้าใจอัญรินทร์นอนจ้องหน้าสรวิชญ์อย่างเอาเรื่อง เขาเองก็มองเธอด้วยแววตาเศร้าลงเล็กน้อย“พี่จะมาอธิบายเรื่องทั้งหมด พี่ไม่ขออะไรมาก ขอแค่ได้พูดความจริงให้น้องผึ้งฟังทั้งหมด พอพี่เล่าจบแล้ว ถ้าน้องผึ้งยังอยากจะไล่พี่ไป พี่ก็จะไม่มาให้น้องผึ้งเห็นหน้าอีก พี่จะหนีไปไกลๆแบบไม่ต้องเจอใครเลยสักคน”เขาพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า คนฟังรู้สึกว้าวุ่นขึ้นมาทันที แต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะยอมอภัยให้เขาง่ายๆ เพราะเธอเองก็อยากจะลองฟังเหตุผลของเขาเหมือนกัน“จะพูดอะไรก็รีบพูดมา ผึ้งจะได้นอน”เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงห้วน“พี่กับทับทิมไม่เคยเป็นอะไรกัน ทับทิมเป็นลูกสาวของเพื่อนแม่พี่ แม่พี่ก็เลยอยากได้ทับทิมมาเป็นลูกสะใภ้ ตอนที่พี่กลับจากลอนดอน แม่พี่ถามว่าพี่มีแฟนหรือยัง ถ้ายังไม่มี แม่พี่ก็อยากให้พี่ทำความรู้จักกับ
ตอนที่ 30 ผู้ชายหลอกลวง!เวลาเลยผ่านมาถึงวันที่อานัสและเอวาใกล้จะเข้าพิธีแต่งงาน ว่าที่เจ้าบ่าวนำโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ขึ้นมาต่อสายหาเพื่อนรัก“ว่าไงไอ้นัส โทรมาตั้งแต่เช้าเลยนะ”สรวิชญ์ถามคนที่โทรเข้ามาด้วยน้ำเสียงงัวเงีย “น้ำผึ้งกลับมาบ้านแล้ว”“ว่าไงนะ!”สรวิชญ์ถามกลับด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เขาดีดตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความรู้สึกดีใจ“กูไม่จำเป็นต้องพูดซ้ำ จะมาบ้านกูก็รีบมานะ แค่นี้ล่ะ”ร่างสูงรีบลุกจากที่นอนวิ่งไปเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย สรวิชญ์รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่วันนี้เขาจะได้เจออัญรินทร์ หลังจากที่ไม่ได้เจอเธอมาเดือนกว่า“วี้ด~วี้ด”เสียงผิวปากเป็นทำนองเพลงดัง ทำให้นางสุวิภาและนายวิทวัสรู้สึกตกใจพอสมควร ลูกชายสุดที่รักกำลังเดินกำลังเดินลงบันไดมา สีหน้าของเขาเบิกบาน แตกต่างจากทุกวันที่ผ่านมา“สะ...เสือ ทำไมวันนี้ถึงได้แต่งตัวหล่อจังเลยลูก เสือจะไปไหน แล้วทำไมถึงได้อารมณ์ดีขนาดนี้ ไม่สบายหรือเปล่าลูก ให้แม่กับพ่อพาไปหาหมอดีไหม”นางสุวิภาถามลูกชายที่ดินผิวปากอยู่แบบนั้น“ผมจะไปง้อเมียผมครับ”สรวิชญ์พูดพร้อมกับยิ้มอย่างคนมีความสุขสุดๆ“เมีย!...แล้วผู้หญิงคนนั้
“คือ...กู...กูคิดถึงน้องสาวมึง”“คิดถึงน้องกู! มึงจะบ้าหรือเปล่า มึงจะไปคิดถึงน้องสาวกูทำไมวะ”อานัสยังคงแสดงท่าทีงุนงงกับสิ่งที่เพื่อนรักของเขาพูดออกมา“อุบัติเหตุทำให้มึงเสียสติหรือเปล่าวะ ไอ้เสือ”“กูคิดถึงน้องสาวมึง เพราะน้องสาวมึงเป็นเมียกูแล้ว”“ไอ้เชี่ยเสือ!”ตอนที่ 29 ผิดหวังในความรักอานัสจ้องหน้าสรวิชญ์อย่างเอาเรื่อง เขารู้สึกโกรธ และอีกความรู้สึกก็คิดว่าเพื่อนรักคงจะสมองฟั่นเฟือนจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น“กูให้มึงพูดอีกครั้ง เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ”“มึงตั้งใจฟังกูนะ และมึงก็ห้ามโวยวาย”“...”อานัสยืนนิ่งเงียบ เอวาต้องลากเก้าอี้อีกตัวมาให้ชายคนรักนั่ง“น้ำผึ้งเป็นเมียกู”“!”แม้ว่าอานัสจะรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังนิ่งเงียบเพื่อฟังเพื่อนรักพูดต่อ“ผีสาวที่กูหลงรักมาตลอด คือน้องสาวของมึง”สรวิชญ์ตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้เพื่อนรักฟังทั้งหมด แม้ว่าอานัสจะรู้สึกโกรธสรวิชญ์ แต่ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นไปแบบนี้แล้ว เขาก็ต้องข่มอารมณ์เอาไว้ และตลอดเวลาที่ผ่านมา สรวิชญ์ก็พูดกับเขาเสมอว่าเขาหลงรักผีสาวในค่ำคืนนั้นมาตลอด และเพื่อนของเขาก็ไม่เคยไปยุ่งกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย เขาจึงมั
ร่างสูงเดินออกจากคฤหาสน์หรูด้วยความรู้สึกกลัดกลุ้มในหัวใจ สรวิชญ์ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเขาถึงจะได้คุยกับอัญรินทร์ให้เข้าใจรถสปอร์ตหรู แล่นไปตามถนนใหญ่อย่างไร้จุดหมาย สรวิชญ์เอาแต่ครุ่นคิดและเหม่อลอยขณะขับรถ(บึ๊นนนน!)(เอี๊ยดด!)(โคร่ม!)อยู่ๆรถก็เกิดเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง สรวิชญ์ติดอยู่ในรถหรูที่เกิดอุบัติเหตุ พลเมืองดีผ่านมาเจอตอนเกิดเหตุ และได้ติดต่อให้รถกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือ แล้วนำร่างของสรวิชญ์ไปส่งที่โรงพยาบาลทันทีตอนที่ 28 น้องสาวมึงเป็นเมียกู“อือ”“ตาเสือลูกแม่!”เสียงครางอู้อี้ดังขึ้นมาในช่วงเช้าของวันใหม่ นางสุวิภาเรียกลูกชายด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูตื่นเต้น เนื่องจากลูกชายคนเดียวของนางเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา หลังจากที่เขาหลับไปหลายชั่วโมง“เป็นไงบ้างลูก ปวดตรงไหนหรือเปล่า”นายวิทวัสถามลูกชายที่กำลังกวาดสายตามองรอบๆห้อง และมีท่าทีมึนงง“ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับคุณพ่อ คุณแม่”น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยถามบิดามารดาด้วยความสงสัย“เสือประสบอุบัติเหตุรถคว่ำน่ะลูก โชคดีนะที่เสือไม่เป็นอะไรมาก แค่หัวแตก”“นั่นสิ แม่ตกใจจนแทบจะเป็นลม ตอนเจ้าหน้าที่ทางโรงพยาบาลโทรไปบอก เสือเจ็บตรงไหนไหมลูก”บิดา







