LOGIN“น้องเอวาครับ”
“คะ?” “เราเป็นแฟนกันแล้ว พี่ขอเอาได้ไหมครับ” “...” เอวาถึงกับพูดอะไรไม่ออก เธอนิ่งเงียบไปทันทีที่เขาถามแบบนั้น “อย่าเงียบสิครับ แค่ตอบมาตามที่น้องเอวาต้องการ ถ้าน้องเอวาปฏิเสธพี่ก็จะไม่ทำ ถ้าไม่ปฏิเสธพี่ก็จะทำ พี่ขอเอาได้ไหมครับ” ตอนที่ 9 หนูรักพี่เสือนะคะ แม้ว่าเอวาจะรู้สึกอยากรู้อยากลองมากขนาดไหน แต่เธอก็ต้องห้ามใจและห้ามความรู้สึกของตัวเอง เพราะเธอกับเขาก็เพิ่งจะรู้กันแค่สองวัน เอวาไม่อยากทำให้ตัวเองดูไร้ค่า “เอวายังไม่พร้อมค่ะ เราเพิ่งรู้จักกันนะคะ ให้เอวาได้ทำความรู้จักพี่นัสมากกว่านี้ แล้วเราค่อยมาคุยกันเรื่องนี้อีกที” แม้ว่าอานัสจะรู้สึกปวดหนึบตรงกลางกาย แต่เขาก็เข้าใจเธอ “ได้ครับ พี่จะรอจนกว่าน้องเอวาจะพร้อม แต่อย่าลืมนะครับ เราเป็นแฟนกันแล้ว ห้ามไปคุยกับผู้ชายอื่น ตกลงไหมครับ” เขาไม่ได้พูดทุกอย่างออกมาด้วยความเสแสร้ง แต่อานัสรู้สึกหวงหญิงสาวขึ้นมาดื้อๆ เขาเคยเจอแต่ผู้หญิงเร่าร้อน ที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่เขาเพิ่งจะเคยเจอผู้หญิงอ่อนหวานและขี้อายแบบนี้ “ค่ะ ปกติเอวาก็ไม่คุยกับผู้ชายคนไหนอยู่แล้ว และก็ไม่เคยให้ใครถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้ด้วย” เธอพูดพร้อมกับหลบสายตาคม “พี่เชื่อครับ” (ฟอดดด) เขาแนบปลายจมูกลงที่หน้าผากมน “นอนเถอะนะครับ ดึกแล้ว” ทั้งสองนอนกอดกันแนบแน่น และหลับไปในที่สุด เวลาเลยผ่านมาถึงเที่ยงคืน สรวิชญ์ยังคงนอนเอาแขนเกยหน้าผาก เหมือนกับว่าเขายังรอใครบางคน ซึ่งก็คือผีสาวในค่ำคืนที่เราร้อน “ทำไมไม่มาหลอกอีกวะ แน่จริงออกมาสิ อ๋อ...หรือว่าเธอต้องการให้ฉันนอนหลับก่อน เธอถึงจะออกมาหาฉัน” สรวิชญ์พูดเองเออเองทุกอย่าง จากนั้นจึงพยายามข่มตานอน และในที่สุดเขาก็หลับไป “ที่รักขา...ทำอะไรอยู่คะ” (พรึ่บ) ร่างเล็กเดินเข้ามาสวมกอดเอวสอบจากด้านหลัง “ตื่นแล้วเหรอครับ พี่กำลังทำอาหารน่ะ ไปอาบน้ำได้แล้วนะ จะได้มาทานข้าวกัน” “โอเคค่ะ หนูรักพี่เสือนะคะ” เสียงหวานเอ่ยออกมา ทำให้คนฟังถึงกับชุ่มชื่นหัวใจ (พรึ่บ) เขาหมุนตัวหันหน้ามามองใบหน้าสวยหวาน จากนั้นจึงโน้มลงไปจดจูบที่หน้าผากมน “พี่ก็รักหนูนะครับ รักมากด้วย อย่าหายไปจากชีวิตพี่อีกนะครับ” “ค่ะ ที่รักของหนู” ความฝันทำให้สรวิชญ์มีความสุขสุดๆ แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจ เมื่อหญิงสาวที่เขายืนโอบกอดกำลังเลือนหายไปกับความมืด “อย่าไปจากพี่! กลับมาก่อน!” (พรึ่บ) “เฮ่อ...” สรวิชญ์ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อเขาดีดตัวลุกขึ้นนั่งหลังพิงขอบเตียง “ฝันไปเหรอวะ แล้วทำไมเธอถึงไม่ออกมาหาฉันอีก” เขาใช้ฝ่ามือลูบไล้ใบหน้าขึ้นลง และนั่งครุ่นคิดอยู่แบบนั้น “ผีอะไร หลอกเก่งชะมัด หลอกให้รักแล้วจากไปเงียบๆ แน่จริงออกมาหลอกอีกสิ รอบนี้จะกระแทกให้หนักกว่าเดิม กระแทกให้หายเป็นผีเลย ยัยผีบ้า เก่งมากนะ ที่ทำให้ฉันหลงรักเธอได้” เขานั่งบ่นคนเดียวอยู่นานพอสมควร กว่าจะหลับตานอนได้ก็ผ่านไปเป็นชั่วโมง “พี่กลับแล้วนะ อีกสองวันที่จะพาน้ำผึ้งมาหาน้องเอวานะครับ พรุ่งนี้พี่มีเรียน” อานัสบอกเอวา เขาแทบจะไม่อยากห่างจากเธอเลยสักนิด “ค่ะ ถึงห้องแล้วส่งข้อความมาบอกเอวาด้วยนะคะ” “ครับ รักน้องเอวานะครับ” (ฟอดดด) เขาพูดและหอมแก้มของเธอ เอวาถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินคำบอกรักจากพี่ชายของเพื่อนสนิท “บ๊ายบายค่ะ พี่นัส” “บ๊ายบายครับ น้องเอวา” อานัสนั่งรถแท็กซี่มาที่คอนโดที่สรวิชญ์พักอยู่ “มึงโทรให้กูมาหามีอะไรวะ ไอ้เสือ” “กูเหงา เลยโทรให้มึงมา” สรวิชญ์ตอบ และเขามีท่าทางซึมเศร้าเล็กน้อย ซึ่งดูเหมือนเขาไม่เป็นตัวของตัวเองเลยสักนิด “คนอย่างมึงเนี่ยนะจะเหงา แล้วมึงเป็นอะไร ทำไมหน้าซีดจังเลยวะ ไม่สบายก็ไปหาหมอนะไอ้เสือ” อานัสถามเพื่อนรักด้วยความสงสัยและค่อนข้างเป็นห่วง “กูไม่รู้จะเริ่มบอกมึงยังไง แต่กูก็ไม่รู้ว่าจะพูดกับใครได้ กูมีเรื่องที่จะเล่าให้มึงฟัง ก็เลยโทรให้มึงมาหาว่ะ” “ว่ามาเลยไอ้เพื่อนรัก” “กูมีอะไรกันกับผีว่ะ” “ฮะ! ว่าไงนะ!” อานัสแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่สรวิชญ์พูด เขาจึงถามย้ำด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างตกใจพอสมควร “กูเอากันกับผีผู้หญิง คืนฮาโลวีนที่ผ่านมานั่นแหละ ถึงกูจะเมา แต่กูก็ไม่ได้เพ้อเจ้อและก็ไม่ได้บ้า ผีสาวมานอนบนเตียงกู กูกระแทกจนแตกไปหลายน้ำ ผีสาวซิงด้วยนะเว้ย กูว่าห้องนี้ต้องเคยมีผู้หญิงไทยเสียชีวิตในห้องแน่ๆ ไม่งั้นจะมาหลอกกูได้เหรอวะ” สรวิชญ์พูดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนผีดุ ให้เพื่อนรักฟังทั้งหมด แต่อานัสก็ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไร เพราะเขาเองก็เคยอยู่ห้องนี้มาก่อน “ห้องนี้ไม่เคยมีใครตาย เชื่อกูดิ ตอนที่คอนโดนี้สร้างเสร็จใหม่ๆ กูเข้ามาเช่าอยู่เป็นคนแรก แล้วเจ้าของห้องก็เข้ามาอยู่เองสักพัก แล้วเขาก็ทาสีใหม่ จากนั้นก็ไปซื้อห้องเพิ่ม และโทรตามให้กูย้ายกลับมาเช่า กูก็เลยโทรตามให้มึงมาเช่าไง ถ้ามีผีจริงๆต้องมาหลอกกูตั้งนานแล้ว ขนาดน้องสาวกูมาอยู่ช่วงปิดเทอมปีที่แล้ว ยังไม่เคยเจอผีเลย ถ้ามีผี น้องกูไม่กล้าอยู่หรอก ผีคงมาหลอกมันแล้ว” “แต่มันเกิดขึ้นกับกูจริงๆนะเว้ย กูไม่ได้บ้า ไม่ได้เมา ไม่ได้แต่งเรื่อง แล้วกูก็....” สรวิชญ์ไม่รู้ว่าเขาควรจะพูดกับเพื่อนดีหรือเปล่า “อะไรวะ ไอ้เสือ” “กูหลงรักผีสาวไปแล้วว่ะ” สรวิชญ์พูดความจริงจากใจให้เพื่อนฟัง “เฮ่อ...ไอ้เสือ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆมึงต้องพยายามตัดใจนะ ผีกับคนไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้หรอก กูไม่อยากเห็นมึงเป็นบ้า มึงต้องรีบตัดใจนะเพื่อน” “เออ...กูจะพยายาม” เวลาเลยผ่านไปสองเดือน สรวิชญ์ไม่เคยฝันถึงผีสาวตนนั้นอีกเลย และเขาเลือกที่จะย้ายออกจากห้องพักแห่งนั้น เพื่อที่เขาจะได้ลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นตามคำแนะนำของอานัส แต่ถึงเขาจะย้ายออกไปจนใกล้ถึงวันที่จะเรียนจบ สรวิชญ์ก็ไม่เคยลืมผีสาวตนนั้นได้เลย ทุกลมหายใจเข้าออกของเขายังคงมีแต่เธออยู่ในความรู้สึก เขาไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนอีก ถึงจะพยายามไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่น แต่เขาก็ทำไม่ลง เพราะใบหน้าสวยของผีสาวยังตามหลอกหลอนเขาอยู่ทุกคืนวัน “เดือนหน้าก็จะสอบแล้ว เรียนจบมึงจะกลับไทยเลยหรือเปล่าไอ้นัส” สรวิชญ์ถามเพื่อนรัก ขณะที่ทั้งสองเดินออกจากมหาวิทยาลัยหลังเลิกเรียน “กลับไทยเลย ตอนนี้หัวใจกูก็อยู่ไทยแล้ว” “หึ กูเห็นมึงบินกลับไทยเกือบทุกเดือน ยังไม่หายคิดถึงแฟนอีกเหรอวะ” “มึงจะบ้าหรือเปล่าไอ้เสือ คนเป็นแฟนกันมันจะเลิกคิดถึงได้ยังไง เรียนจบ มึงจะกลับไทยพร้อมกูเลยไหมวะ” “ก็กลับพร้อมกันสิวะ ไม่กลับกูจะทำหอกอะไรอยู่ที่นี่” “ก็ดี กูจะให้มึงช่วยว่ะ” “ว่ามาเลยไอ้นัส มึงจะให้กูช่วยอะไร” “เซอร์ไพรส์ ขอน้องเอวาแต่งงาน กูวางแผนกับน้องสาวแล้วแหละ แต่ต้องให้มึงช่วยอีกแรง” “เออๆ ไม่มีปัญหา จะเซอร์ไพรส์ที่ไหน ก็บอกกูแล้วกัน เออ...กูยังไม่เคยเจอน้องสาวมึงเลยว่ะ แล้วจะวางแผนกันยังไงวะ” “กลับถึงไทยค่อยนัดกันอีกที เดี๋ยวมึงก็ต้องเจอน้องกูอยู่แล้ว กูตั้งใจว่าจะเซอร์ไพรส์ตอนไปเที่ยวทะเลว่ะ” “โอเค ไอ้เพื่อนรัก ถึงวันนั้นค่อยบอกกูแล้วกัน” -------------------------------------------- พี่เสือกับน้องน้ำผึ้งใกล้จะได้เจอกันแล้วนะคะ ฝากกด like comment เป็นกำลังใจให้ด้วยน๊าตอนที่ 33 ผีสาวสุดที่รัก(ตอนจบ)สามเดือนต่อมา“พี่เสือคิดยังไงถึงอยากจะไปปาร์ตี้วันฮาโลวีนที่ลอนดอนคะ”อัญรินทร์ถามสรวิชญ์ ขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งรอเวลาขึ้นเครื่อง เพื่อที่จะเดินทางไปประเทศอังกฤษ“ก็พี่อยากไปฉลองวันครบรอบสองปีที่พี่ได้เจอน้องผึ้งไงครับ ถึงแม้ว่าเรื่องราวในคืนนั้นจะเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว แต่มันก็มีความหมายสำหรับพี่มาตลอด น้องผึ้งก็ชอบไม่ใช่เหรอครับ”“ใช่ค่ะ ผึ้งชอบเทศกาลฮาโลวีนที่ลอนดอนมาก มันสนุกและตื่นเต้นมาก แต่ผึ้งก็ไม่ได้คิดว่าจะไปที่นั่นอีก เพราะพี่นัสเรียนจบแล้ว แต่ก็ยังดีที่พี่สะใภ้ของผึ้งคือเอวา อย่างน้อยผึ้งก็ต้องได้ไปเที่ยวบ้านคุณพ่อคุณแม่ของเอวา”“ครับ พี่ก็เลยถือโอกาสชวนน้องผึ้งไปลอนดอน เพราะอย่างน้อยเอวากับไอ้นัสก็อยู่ที่ลอนดอนอีกตั้งสองเดือน ไปครั้งนี้ พี่จะพาน้องผึ้งเที่ยวให้ทั่วเลยครับ”“ดีจังเลยค่ะ”อัญรินทร์ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ “ไปขึ้นเครื่องกันเถอะครับ”สรวิชญ์และอัญรินทร์ใช้เวลาอยู่บนเครื่องบินราวๆ 12 ชั่วโมง ทั้งสองเดินทางไปที่บ้านของเอวา และอานัสกับเอวาพร้อมครอบครัวของเธอกำลังรอต้อนรับคนทั้งคู่ที่มาเยือน“ตกลงวันฮาโลวีนที่จะถึงนี้ พวกเราจะไปเท
ตอนที่ 32 ผู้หญิงคนนั้นคือว่าที่ลูกสะใภ้งานแต่งของอานัสและเอวาถูกจัดขึ้นภายในคฤหาสน์หรู แขกที่มาร่วมงานล้วนแล้วแต่เป็นญาติสนิทมิตรสหายของฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาว สรวิชญ์อยู่ช่วยงานเพื่อนรัก และค้างคืนที่บ้านของอานัส แต่เขาก็ไม่ได้เข้าไปในห้องนของอัญรินทร์อีก เพราะเขาให้เกียรติเธอและครอบครัว เขาสารภาพความในใจให้บิดามารดาของเธอรับรู้ ผู้ใหญ่ทั้งสองไม่ได้ห้ามพี่สรวิชญ์และอัญรินทร์คบกัน มารดาของเธอรู้สึกยินดีอีกต่างหาก แต่ทางด้านบิดามารดาของสรวิชญ์ยังไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ลูกชายหลงรักคือใครกันแน่“เดินเร็วๆสิคุณ แขกมากันเยอะแล้ว ฉันล่ะตื่นเต้นแทนเจ้านัสกับหนูเอวาจริงๆเลย”นางสุวิภาพูดกับสามี ขณะที่ทั้งสองลงจากรถแทกซี่ และกำลังเดินเข้าไปในงานแต่ง “บ้านอานัสใหญ่มากเลยนะคุณ ใหญ่โตมโหฬารกว่าบ้านเราอีก แขกก็มากันเยอะ ดีแล้วที่เรานั่งรถแท็กซี่มา ถ้าขับรถมาเองคงจะเดินไกลกว่านี้”นายวิทวัสพูดพร้อมกับย่างก้าวตามหลังภรรยาเข้าไปในงาน“เอ๊ะคุณ ผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”นางสุวิภาพูดกับสามี ขณะที่นางมองไปเห็นอัญรินทร์กำลังยืนต้อนรับแขกอยู่กับบิดามารดาของเธอ “คุณหมายถึงใคร คุณวิภา”นายวิทวัสถามภร
ร่างสูงเดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของอัญรินทร์ทันทีที่บิดามารดาของเธอขับรถออกจากบ้านไป อานัสเป็นคนนำกุญแจมาเปิดห้องของน้องสาวให้เพื่อนรัก สรวิชญ์ปิดประตูแล้วเดินเข้าไปนั่งตรงขอบเตียง เขาจ้องมองดูคนที่กำลังหลับอยู่“! เข้ามาทำไม ใครอนุญาตให้พี่เสือเข้ามาในห้องผึ้ง ออกไปเลยนะ ผู้ชายหลอกลวง!”ตอนที่ 31 ปรับความเข้าใจอัญรินทร์นอนจ้องหน้าสรวิชญ์อย่างเอาเรื่อง เขาเองก็มองเธอด้วยแววตาเศร้าลงเล็กน้อย“พี่จะมาอธิบายเรื่องทั้งหมด พี่ไม่ขออะไรมาก ขอแค่ได้พูดความจริงให้น้องผึ้งฟังทั้งหมด พอพี่เล่าจบแล้ว ถ้าน้องผึ้งยังอยากจะไล่พี่ไป พี่ก็จะไม่มาให้น้องผึ้งเห็นหน้าอีก พี่จะหนีไปไกลๆแบบไม่ต้องเจอใครเลยสักคน”เขาพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า คนฟังรู้สึกว้าวุ่นขึ้นมาทันที แต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะยอมอภัยให้เขาง่ายๆ เพราะเธอเองก็อยากจะลองฟังเหตุผลของเขาเหมือนกัน“จะพูดอะไรก็รีบพูดมา ผึ้งจะได้นอน”เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงห้วน“พี่กับทับทิมไม่เคยเป็นอะไรกัน ทับทิมเป็นลูกสาวของเพื่อนแม่พี่ แม่พี่ก็เลยอยากได้ทับทิมมาเป็นลูกสะใภ้ ตอนที่พี่กลับจากลอนดอน แม่พี่ถามว่าพี่มีแฟนหรือยัง ถ้ายังไม่มี แม่พี่ก็อยากให้พี่ทำความรู้จักกับ
ตอนที่ 30 ผู้ชายหลอกลวง!เวลาเลยผ่านมาถึงวันที่อานัสและเอวาใกล้จะเข้าพิธีแต่งงาน ว่าที่เจ้าบ่าวนำโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ขึ้นมาต่อสายหาเพื่อนรัก“ว่าไงไอ้นัส โทรมาตั้งแต่เช้าเลยนะ”สรวิชญ์ถามคนที่โทรเข้ามาด้วยน้ำเสียงงัวเงีย “น้ำผึ้งกลับมาบ้านแล้ว”“ว่าไงนะ!”สรวิชญ์ถามกลับด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เขาดีดตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความรู้สึกดีใจ“กูไม่จำเป็นต้องพูดซ้ำ จะมาบ้านกูก็รีบมานะ แค่นี้ล่ะ”ร่างสูงรีบลุกจากที่นอนวิ่งไปเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย สรวิชญ์รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่วันนี้เขาจะได้เจออัญรินทร์ หลังจากที่ไม่ได้เจอเธอมาเดือนกว่า“วี้ด~วี้ด”เสียงผิวปากเป็นทำนองเพลงดัง ทำให้นางสุวิภาและนายวิทวัสรู้สึกตกใจพอสมควร ลูกชายสุดที่รักกำลังเดินกำลังเดินลงบันไดมา สีหน้าของเขาเบิกบาน แตกต่างจากทุกวันที่ผ่านมา“สะ...เสือ ทำไมวันนี้ถึงได้แต่งตัวหล่อจังเลยลูก เสือจะไปไหน แล้วทำไมถึงได้อารมณ์ดีขนาดนี้ ไม่สบายหรือเปล่าลูก ให้แม่กับพ่อพาไปหาหมอดีไหม”นางสุวิภาถามลูกชายที่ดินผิวปากอยู่แบบนั้น“ผมจะไปง้อเมียผมครับ”สรวิชญ์พูดพร้อมกับยิ้มอย่างคนมีความสุขสุดๆ“เมีย!...แล้วผู้หญิงคนนั้
“คือ...กู...กูคิดถึงน้องสาวมึง”“คิดถึงน้องกู! มึงจะบ้าหรือเปล่า มึงจะไปคิดถึงน้องสาวกูทำไมวะ”อานัสยังคงแสดงท่าทีงุนงงกับสิ่งที่เพื่อนรักของเขาพูดออกมา“อุบัติเหตุทำให้มึงเสียสติหรือเปล่าวะ ไอ้เสือ”“กูคิดถึงน้องสาวมึง เพราะน้องสาวมึงเป็นเมียกูแล้ว”“ไอ้เชี่ยเสือ!”ตอนที่ 29 ผิดหวังในความรักอานัสจ้องหน้าสรวิชญ์อย่างเอาเรื่อง เขารู้สึกโกรธ และอีกความรู้สึกก็คิดว่าเพื่อนรักคงจะสมองฟั่นเฟือนจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น“กูให้มึงพูดอีกครั้ง เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ”“มึงตั้งใจฟังกูนะ และมึงก็ห้ามโวยวาย”“...”อานัสยืนนิ่งเงียบ เอวาต้องลากเก้าอี้อีกตัวมาให้ชายคนรักนั่ง“น้ำผึ้งเป็นเมียกู”“!”แม้ว่าอานัสจะรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังนิ่งเงียบเพื่อฟังเพื่อนรักพูดต่อ“ผีสาวที่กูหลงรักมาตลอด คือน้องสาวของมึง”สรวิชญ์ตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้เพื่อนรักฟังทั้งหมด แม้ว่าอานัสจะรู้สึกโกรธสรวิชญ์ แต่ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นไปแบบนี้แล้ว เขาก็ต้องข่มอารมณ์เอาไว้ และตลอดเวลาที่ผ่านมา สรวิชญ์ก็พูดกับเขาเสมอว่าเขาหลงรักผีสาวในค่ำคืนนั้นมาตลอด และเพื่อนของเขาก็ไม่เคยไปยุ่งกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย เขาจึงมั
ร่างสูงเดินออกจากคฤหาสน์หรูด้วยความรู้สึกกลัดกลุ้มในหัวใจ สรวิชญ์ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเขาถึงจะได้คุยกับอัญรินทร์ให้เข้าใจรถสปอร์ตหรู แล่นไปตามถนนใหญ่อย่างไร้จุดหมาย สรวิชญ์เอาแต่ครุ่นคิดและเหม่อลอยขณะขับรถ(บึ๊นนนน!)(เอี๊ยดด!)(โคร่ม!)อยู่ๆรถก็เกิดเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง สรวิชญ์ติดอยู่ในรถหรูที่เกิดอุบัติเหตุ พลเมืองดีผ่านมาเจอตอนเกิดเหตุ และได้ติดต่อให้รถกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือ แล้วนำร่างของสรวิชญ์ไปส่งที่โรงพยาบาลทันทีตอนที่ 28 น้องสาวมึงเป็นเมียกู“อือ”“ตาเสือลูกแม่!”เสียงครางอู้อี้ดังขึ้นมาในช่วงเช้าของวันใหม่ นางสุวิภาเรียกลูกชายด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูตื่นเต้น เนื่องจากลูกชายคนเดียวของนางเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา หลังจากที่เขาหลับไปหลายชั่วโมง“เป็นไงบ้างลูก ปวดตรงไหนหรือเปล่า”นายวิทวัสถามลูกชายที่กำลังกวาดสายตามองรอบๆห้อง และมีท่าทีมึนงง“ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับคุณพ่อ คุณแม่”น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยถามบิดามารดาด้วยความสงสัย“เสือประสบอุบัติเหตุรถคว่ำน่ะลูก โชคดีนะที่เสือไม่เป็นอะไรมาก แค่หัวแตก”“นั่นสิ แม่ตกใจจนแทบจะเป็นลม ตอนเจ้าหน้าที่ทางโรงพยาบาลโทรไปบอก เสือเจ็บตรงไหนไหมลูก”บิดา







