Share

บทที่ 1207

Author: โม่เสียวชี่
ทางขึ้นเขาทุรกันดารยากแก่การสัญจร อีกทั้งคนสองคนยังขี่ม้าตัวเดียวกัน ไม่นานก็ช้าลง

เฉียวเนี่ยนมีแววกังวล ไม่วายหันกลับไปมองด้านหลังอยู่เรื่อย

แต่สายตาของหลินเย่ว์กลับมองไปยังศิลาจารึกไม่ไกลนัก แล้วมุมปากก็ยกขึ้นเล็กน้อย เอ่ยว่า "พวกเราเข้ามาถึงเขตสำนักราชาโอสถแล้ว วางใจเถอะ นักลอบสังหารจะไม่ตามมาแล้ว"

เฉียวเนี่ยนก็เห็นอักษรบนศิลาจารึกนั้นว่า ‘สำนักราชาโอสถ’ จึงคลายใจกังวลลงทันที

อาศัยแสงจันทร์ นางมองไปยังเส้นทางเบื้องหน้า "ข้างหน้าคือสำนักราชาโอสถหรือ?"

"อื้ม"

เสียงของหลินเย่ว์ดังมาจากเหนือศีรษะ ทุ้มต่ำและหนักแน่น "เดินไปอีกกว่าร้อยวาก็จะพ้นป่า ถึงตอนนั้นจะเห็นต้นท้อหลายต้น แม้ตอนนี้จะไม่ใช่ฤดูดอกบาน แต่ต้นท้อแถบสำนักราชาโอสถกลับเบ่งบานตลอดปี ใต้ต้นท้อต้นที่สาม จะมีหินก้อนเท่ากำปั้น หินนั้นเชื่อมกับกลไกภายในสำนักราชาโอสถ เพียงหมุนหิน สำนักราชาโอสถก็จะรู้ว่ามีแขกผู้ทรงเกียรติมาเยือน"

เฉียวเนี่ยนพยักหน้าช้าๆ แต่ยังสงสัย "เจ้ารู้เรื่องสำนักราชาโอสถมากมายถึงเพียงนี้ได้อย่างไร? เคยมาที่นี่หรือ?"

"เนี่ยนเนี่ยน"

หลินเย่ว์ไม่ได้ตอบคำถามเฉียวเนี่ยน น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความอ่อนโยน "พี่ใหญ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1208

    กองใบไม้แห้งในป่าลึกท่วมถึงข้อเท้าแม้รูปร่างของหลินเย่ว์จะไม่สูงใหญ่เท่าฉู่จืออี้ แต่เฉียวเนี่ยนก็ยังสูงแค่บ่าของเขาอยู่ดียิ่งไปกว่านั้น ตั้งแต่เขาเข้าร่วมกองทัพ ก็ผ่านการฝึกฝนมาแล้ว ร่างกายกำยำแข็งแรง น้ำหนักย่อมไม่เบาเฉียวเนี่ยนไม่มีแรงพอจะยกเขาขึ้นไปบนหลังม้าได้ จึงทำได้เพียงแบกเขาเดินไปข้างหน้าก้าวเดินไปอย่างยากลำบากเมื่อเฉียวเนี่ยนก้าวพลาด เหยียบกิ่งแห้งหักลง ร่างของหลินเย่ว์ที่อยู่บนหลังนางก็ไถลลงมาอีกแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแน่เฉียวเนี่ยนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ใช้ดาบในมือกรีดผ้าจากกระโปรงของตัวเอง ฉีกออกมาใช้ผูกหลินเย่ว์กับตัวเองให้แน่นจากนั้นจึงใช้ดาบแทนไม้เท้า ค่อยๆ ก้าวเดินไปข้างหน้าลมหายใจของหลินเย่ว์รินรดข้างหูนาง แผ่วเบาไม่ต่างจากเสียงกระพือปีกของจักจั่นยามใกล้สิ้นฤดูนางก็พลันนึกถึงตอนเด็กๆ ที่ตัวเองเคยส่งเสียงหัวเราะร่าอยู่บนแผ่นหลังของหลินเย่ว์นับครั้งไม่ถ้วนหลินเย่ว์มักจะแบกนางเสมอบางครั้งเพื่อเก็บผลไม้บนต้นไม้บางครั้งเพื่อจับหนอนตัวอ้วนเขาเคยแบกนางวิ่งผ่านตลาดอันคึกคัก เคยแบกนางหนีหลังจากเล่นต่อสู้กับผู้อื่นในตอนนั้น นางมักหัวเราะอย่างมีความ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1207

    ทางขึ้นเขาทุรกันดารยากแก่การสัญจร อีกทั้งคนสองคนยังขี่ม้าตัวเดียวกัน ไม่นานก็ช้าลงเฉียวเนี่ยนมีแววกังวล ไม่วายหันกลับไปมองด้านหลังอยู่เรื่อยแต่สายตาของหลินเย่ว์กลับมองไปยังศิลาจารึกไม่ไกลนัก แล้วมุมปากก็ยกขึ้นเล็กน้อย เอ่ยว่า "พวกเราเข้ามาถึงเขตสำนักราชาโอสถแล้ว วางใจเถอะ นักลอบสังหารจะไม่ตามมาแล้ว"เฉียวเนี่ยนก็เห็นอักษรบนศิลาจารึกนั้นว่า ‘สำนักราชาโอสถ’ จึงคลายใจกังวลลงทันทีอาศัยแสงจันทร์ นางมองไปยังเส้นทางเบื้องหน้า "ข้างหน้าคือสำนักราชาโอสถหรือ?""อื้ม"เสียงของหลินเย่ว์ดังมาจากเหนือศีรษะ ทุ้มต่ำและหนักแน่น "เดินไปอีกกว่าร้อยวาก็จะพ้นป่า ถึงตอนนั้นจะเห็นต้นท้อหลายต้น แม้ตอนนี้จะไม่ใช่ฤดูดอกบาน แต่ต้นท้อแถบสำนักราชาโอสถกลับเบ่งบานตลอดปี ใต้ต้นท้อต้นที่สาม จะมีหินก้อนเท่ากำปั้น หินนั้นเชื่อมกับกลไกภายในสำนักราชาโอสถ เพียงหมุนหิน สำนักราชาโอสถก็จะรู้ว่ามีแขกผู้ทรงเกียรติมาเยือน"เฉียวเนี่ยนพยักหน้าช้าๆ แต่ยังสงสัย "เจ้ารู้เรื่องสำนักราชาโอสถมากมายถึงเพียงนี้ได้อย่างไร? เคยมาที่นี่หรือ?""เนี่ยนเนี่ยน"หลินเย่ว์ไม่ได้ตอบคำถามเฉียวเนี่ยน น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความอ่อนโยน "พี่ใหญ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1206

    คืนนี้ไร้สายลม แต่ในป่ากลับมีเสียงใบไม้สวบสาบเฉียวเนี่ยนใจสะท้าน กดเสียงเบาลง "หรือว่าจะมีสัตว์ป่าออกมา?""ไม่หรอก"หลินเย่ว์ลุกขึ้นชักดาบ เดินมาข้างหน้าเฉียวเนี่ยน ดึงนางขึ้นแล้วปกป้องไว้ด้านหลัง "ใกล้สำนักราชาโอสถ ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดกล้าเข้ามาใกล้"ในเมื่อไม่ใช่สัตว์ป่า เช่นนั้นก็เป็นนักลอบสังหาร!ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงเหมือนของมีคมฉีกอากาศดังขึ้นหลายสายในป่ามีลูกธนูหลายดอกพุ่งออกมา มุ่งตรงเข้าหาทั้งสองหลินเย่ว์รีบดึงเฉียวเนี่ยนถอยไปข้างหลัง ใช้ดาบสะบัดปัดลูกธนูออกแต่ยังไม่ทันตั้งหลัก ก็มีคนในชุดดำสิบกว่าคนพุ่งออกมาจากในป่าหลินเย่ว์พลันขมวดคิ้ว สบถในใจ "ตลอดทางไม่เห็นกองทัพตามมา ที่แท้ก็ดักซุ่มรออยู่ที่นี่!"ในกลุ่มคนชุดดำมีเสียงเย้ยหยันดังมา "ฮองเฮาทรงคาดการณ์ไว้นานแล้วว่าจะมาที่นี่ พวกเรามารออยู่ก่อนแล้ว วันนี้เห็นพวกเจ้าเอาตัวมาส่งถึงที่ เช่นนั้นก็รับความตายไปเถอะ!"สิ้นเสียง พวกเขาก็พร้อมใจกันบุกเข้ามาหลินเย่ว์รีบพุ่งไปข้างหน้า ต่อสู้กับคนชุดดำ พยายามจะสกัดไว้ทว่าแม้ฝีมือเขาจะก้าวหน้ากว่าก่อนมากเพียงใด แต่ฝ่ายตรงข้ามมากคน เขาสกัดได้สองสามคน แต่ไม่อาจหยุดยั้งสิบ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1205

    นางแน่ใจว่าท่านโหวหลินได้พูดอะไรบางอย่างกับนางเสียงของหลินเย่ว์ดังขึ้นอย่างกะทันหัน "คงจะถูกขังในเรือนจำนั่นแหละ!"เมื่อได้ยิน เฉียวเนี่ยนก็ชะงัก "ขะ ขังในเรือนจำหรือ?"แค่ขังในเรือนจำ?แต่หลินเย่ว์กลับพยักหน้าแรงๆ "ใช่แล้ว คนแซ่เซี่ยนั่นก็ไม่ได้เห็นเจ้ากับตา จะมั่นใจได้อย่างไรว่าคนในรถม้าคือเจ้า? ในเมื่อมั่นใจไม่ได้ แล้วจะตัดสินความผิดให้ท่านพ่อได้อย่างไร? ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ไม่ได้เกี่ยวโยงมาถึงจวนโหว"เพราะอย่างไรเสีย ชื่อของเฉียวเนี่ยนก็ไม่ได้อยู่ในบันทึกลำดับวงศ์ตระกูลของตระกูลหลินเมื่อก่อนเฉียวเนี่ยนคิดว่าหลินเย่ว์เป็นคนบุ่มบ่าม คำพูดคำจาไม่น่าเชื่อถือ แต่ตอนนี้ทุกคำที่เขาพูด เฉียวเนี่ยนกลับเชื่อหมดกระทั่งใจที่ตึงเครียดมาตลอดถึงตอนนี้ก็คลายลงอย่างสิ้นเชิง"เป็นเช่นนี้ก็ดีแล้ว"นางถอนหายใจยาว มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เผยรอยยิ้มที่แม้แต่นางเองก็ยังไม่รู้ตัวแต่หลินเย่ว์กลับเห็นเข้า ขอบตาก็รู้สึกแสบขึ้นมาอย่างไร้เหตุผลเขารีบก้มหน้าลง กลัวว่าเฉียวเนี่ยนจะจับสังเกตได้ จึงแกล้งทำท่าทางวุ่นวายขึ้นมา แล้วก็ทำให้เขาเจอบางสิ่งเข้าอย่างไม่คาดคิดจริงๆ"อ้อ จริงสิ!"หลินเย่ว์พูดพลา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1204

    ม้าสองตัววิ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน กว่าจะมาถึงเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งจึงได้หยุดพักหลินเย่ว์จัดหาที่พักให้เฉียวเนี่ยนเรียบร้อยแล้ว ก็ออกไปเปลี่ยนม้าที่สถานีพักม้า จนกลับมาที่โรงแรมอีกครั้ง ท้องฟ้าก็มืดลงแล้วเดิมคิดว่าหลังจากเหน็ดเหนื่อยทั้งวันทั้งคืน เฉียวเนี่ยนน่าจะพักผ่อนแล้ว ไม่คิดเลยว่าประตูห้องของเฉียวเนี่ยนยังเปิดอยู่ จุดตะเกียงรอเขามองแสงไฟสลัวสีเหลืองที่ส่องออกมาจากในห้อง หลินเย่ว์กำหมัดแน่นเล็กน้อย ปรับอารมณ์ตนเอง ก่อนจะเดินเข้าไป“ยังไม่นอนอีกหรือ?”เขาถามเสียงทุ้ม ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นขณะนั้นเฉียวเนี่ยนก็กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะสี่เหลี่ยมเล็กๆ บนโต๊ะมีอาหารสองอย่าง และน้ำแกงหนึ่งถ้วยวางอยู่เห็นหลินเย่ว์ นางก็ไม่มีสีหน้าใด เพียงพูดว่า “รอเจ้ามากินข้าว”หลินเย่ว์จึงพยักหน้า เข้ามาในห้องแล้วนั่งลงมองอาหารตรงหน้า ดูน่าอร่อยกว่าอาหารแห้งที่กินมาตลอดทางมากนัก แต่หลินเย่ว์กลับไม่มีความอยากอาหารแม้แต่น้อยเขาหยิบตะเกียบขึ้น พูดว่า “ต่อไปไม่ต้องรอข้า” จากนั้นก็เริ่มกินเองเฉียวเนี่ยนก็คีบตะเกียบขึ้นมากินด้วยท่าทางดูเชื่องช้า ไม่รีบร้อนเหมือนหลินเย่ว์ที่ตักเข้าปากอย่างหิวโ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1203

    นาง... ไม่รู้ว่านี่เป็นความรู้สึกแบบใดกันแน่ รู้เพียงว่าหัวใจหนักอึ้ง หนักอึ้งนัก...ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใดในที่สุดรถม้าก็หยุดลงตรงป่าผืนหนึ่งเฉียวเนี่ยนจึงเปิดม่านรถออก ก็ได้ยินเสียงของหนิงซวง “คุณหนู!”เพียงเห็นหนิงซวงสวมชุดที่นางใส่เป็นประจำ เกล้าผมเช่นเดียวกับนาง รีบเร่งเข้ามาหา ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลและร้อนรนเฉียวเนี่ยนเห็นสภาพนั้น ก็พลันกังวลขึ้นมา “เจ้าทำตัวเช่นนี้ คือจะแต่งเป็นข้า เพื่อเบี่ยงเบนทหารที่ตามมารึ?”หนิงซวงพยักหน้าแรงๆ “ท่านอาจารย์บอกไว้ว่าทำเช่นนี้ถึงจะปกป้องคุณหนูได้ดียิ่งขึ้น!”“ไม่ได้!”เฉียวเนี่ยนเอ่ยปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิด นางรู้ดีว่าที่เสี่ยวอันจื่อสวมเสื้อที่นาถอดออก แต่งตัวเป็นนาง หลอกล่อทหารรักษาพระองค์อยู่นาน และถ่วงเวลาให้นางหนีก็จะต้องสูญเสียชีวิตไปเพราะเหตุนั้นแน่นอนดังนั้น นางจะให้หนิงซวงมาเดินหมากตานี้ได้อย่างไร?ทุกคนต่างเข้าใจดีว่าการให้หนิงซวงปลอมเป็นนาง หมายความว่าอย่างไรชั่วขณะนั้น ทุกคนต่างเงียบลงเป็นหลินเย่ว์ที่เอ่ยขึ้นก่อน “เรื่องนี้เดิมทีก็เป็นเรื่องที่จะต้องมีคนสละชีวิตเยอะอยู่แล้ว ต่อให้ไม่ทำเช่นนี้ ฮองเฮาก็ไม่ปล่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status