มีหรือที่ท่านโหวหลินจะไม่เข้าใจว่าที่ฮ่องเต้ทรงตรัสถามหมายความเช่นไรพลันก้าวไปข้างหน้าแล้วคุกเข่าคาราวะ "ทูลฝ่าบาท บุตรชายของกระหม่อมมีนิสัยหุนหันพลันแล่น กระทำการอุกอาจในที่ศักดิ์สิทธิ์เยี่ยงวัดวาอาราม ท้ายที่สุดถูกหมิงอ๋องติเตียนเฆี่ยนตีก็เพราะทำตัวเองทั้งสิ้น ขอฝ่าบาทได้โปรดพินิจ"ความหมายอีกนัยคือ เขาไม่ได้ถือโทษหมิงอ๋องในความเป็นจริง ท่านโหวหลินไม่ได้คิดจะคาดโทษหมิงอ๋องแต่แรกอยู่แล้วฐานะตระกูลหลินของเขาในยามนี้เป็นเช่นไร เขารู้แจ้งกว่าผู้ใดเพียงแต่หลังจากที่ฮ่องเต้ทรงทราบเรื่องนี้ ก็ทรงมีพระบัญชาเรียกให้เขาและฮูหยินเข้าวังมาเป็นการเฉพาะ แล้วทรงประกาศกร้าวต่อหน้าพวกเขาว่าจะโบยหมิงอ๋องโดยที่ไม่ให้โอกาสพวกเขาได้พูดสิ่งใดเลยเวลานี้ ได้ยินท่านโหวหลินกล่าวเช่นนี้ ฮ่องเต้กลับรู้สึกพอใจยิ่งเพียงแค่ส่งเสียงค้อนผ่านปลายจมูกเบาๆ แสดงออกถึงความเหยียดหยันเขาหันไปถามเซียวเหิง "แม่ทัพเซียวอยู่ในเหตุการณ์ เจ้าคิดเห็นเช่นไร"เซียวเหิงประสานมือคำนับ นัยน์ตาดำขลับเหลือบมองเฉียวเนี่ยนด้วยความลุ่มลึกผาดหนึ่ง ถึงจะเอ่ย "ทูลฝ่าบาท แม้เรื่องนี้จะเกิดจากวาจาและการทำที่ยั้งคิดของแม่นางเฉียว
ความตื่นเต้นกระสับกระส่ายในแววตาของนางถูกเซียวเหิงสังเกตเห็นจนหมดสิ้นแต่ไม่รู้เพราะเหตุใด นางที่มีท่าทีเช่นนี้กลับทำให้เขาใจเต้นกว่าที่ควรเป็นแต่เมื่อนึกถึงท่าทางใกล้ชิดของนางและหมิงอ๋องในท้องพระโรง ไฟโทสะของเขาก็พลันลุกโชน "ผ่านไปสามปี เหตุใดยังไม่รู้จักคิดเหมือนเดิม"ในที่สุดหัวใจที่ลุกลี้ลุกลนของเฉียวเนี่ยนก็สงบลงมาได้ นางออกแรงผลักเซียวเหิง แต่พื้นที่ในถ้ำมีจำกัด ต่อให้นางจะออกแรงมากเพียงใดก็เปลืองแรงเปล่า จึงดึงมือของเขาที่ปิดปากนางเอาไว้ออก ถลึงตาใส่เขาอย่างแรงปราดหนึ่ง "แม่ทัพเซียวลากข้ามาที่นี่เพื่อพูดเรื่องนี้หรอกหรือ"แววตาของเซียวเหิงหม่นลง บ่งบอกถึงความผิดหวังในตัวนาง "เจ้าอย่าบอกข้านะว่าเจ้าดูไม่ออกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดในวันนี้เป็นแผนการที่เต๋อกุ้ยเฟยวางไว้ ต่อให้แผลที่หลังของเจ้าจะสาหัสเพียงใด แต่ก็ไม่รุนแรงถึงขั้นเลือดซึมหลังจากวิ่งได้ไม่กี่ก้าว"นอกเสียจาก แผลของนางไม่ได้รับการจัดการตั้งแต่แรกแต่เห็นได้ชัดว่าเฉียวเนี่ยนรู้ดีว่าความรู้สึกหลังจากที่ทำแผลใหม่อีกครั้งแตกต่างจากครั้งก่อนหน้ามากเกินไปทว่านางไม่ได้คิดอะไร กลับเพียงแค่แค่นหัวเราะเบาๆ "หรือเรื่องที่ท่าน
รังสีรอบกายเซียวเหิงพลันอึมครึมในบัดดล"เจ้าจะแต่งกับเขาจริงหรือ"น้ำเสียงที่แผ่วเบาแฝงไว้ด้วยความเยือกเย็นเฉียวเนี่ยนสบตาที่แดงฉานคู่นั้น ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "ใช่""แม้เขาจะเป็นคนพิกลพิการ ?"คำพูดของเซียวเหิงทำให้เฉียวเนี่ยนนิ่งเงียบเห็นดังนั้น เซียวเหิงจึงนึกว่านางยังไม่รู้ พลันพูดต่อ "เจ้าต้องรู้ไว้ว่าเขา...""ข้ารู้" เฉียวเนี่ยนตัดบทเซียวเหิง นางรู้ว่าเซียวเหิงต้องการจะพูดอะไรต่อหลิ่วเหนียง นางกำนัลที่นำทางนางเมื่อครู่แอบบอกเรื่องลับที่นางไม่เคยรู้มาก่อนเหล่านั้นกับนางหมดแล้วเซียวเหิงชะงักงันนางรู้ แต่ก็ยังดึงดันจะแต่งเช่นนั้นหรือดูเหมือนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้ น้ำเสียงของเขาแหบเครือ "หากเป็นเพราะคำพูดในตอนนั้นของข้า ข้าไปบอกฮูหยินหลินก็ได้ว่า..."เขาคิดว่าเป็นเพราะเขาเคยบอกว่า นางต้องแต่งออกไปก่อนถึงจะไปสู่ขอหลินยวนได้แต่ใครจะไปรู้ว่าเฉียวเนี่ยนกลับพูดขัดจังหวะเขาอีกครั้ง "ไม่ใช่เพราะท่านแม่ทัพ เพราะข้าอยากจะแต่งกับหมิงอ๋อง"เพราะร่างกายของท่านย่าคงทนได้อีกไม่นาน เพราะวันข้างหน้าจวนโหวไม่ใช่ที่พึ่งพิงสุดท้ายของนาง เพราะนางต้องหาทางออกให้กับตนเองเพราะหลาย
หัวใจของหลินเย่ว์ก็พลอยบีบคั้นไปด้วย ทว่าฮูหยินหลินวิ่งเข้ามาด้วยความรีบร้อน ดึงมือหลินยวนไป แล้วเอ่ยด้วยความสงสารจับใจ "โธ่เอ้ย เร็วเข้า รีบไปใส่ยากับแม่"ขณะพูดก็ดึงมือหลินยวนจะพาออกไปด้านนอกทว่าหลินยวนกลับไม่ยอมไป หยดน้ำตาค่อยๆ ร่วงเผาะลงมา "ข้าไม่ไป ท่าทางท่านพ่อเช่นนี้คงต้องลงโทษพี่ชายเป็นแน่ ข้าต้องอยู่ปกป้องพี่ชาย"ท่านโหวหลินเกิดใจอ่อนเพราะท่าทางร้องไห้น้ำตาเป็นสายฝนของหลินยวนหลินเย่ว์กลับขมวดคิ้วมุ่นภายในหัวเต็มไปด้วยภาพที่เฉียวเนี่ยนพูดว่าเขาได้ตายไปตั้งแต่สามปีที่แล้วต่อหน้ากลุ่มคนมากมายทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าเหตุใดจึงได้แตกต่างกันเช่นนี้เป็นน้องสาวของเขาเหมือนกัน คนหนึ่งไม่กลัวจะต้องบาดเจ็บเพื่อเขา อีกคนกลับใจจืดใจดำกับเขาเพียงนั้น...ทว่ากลับได้ยินท่านโหวหลินตำหนิเบาๆ "เขาไม่ควรถูกลงโทษหรือ ตีน้องสาวตัวเองต่อหน้าฝูงชนจนมีสภาพเช่นนั้น เจ้ายังใช่คนอยู่อีกหรือ เจ้ามันเดรัจฉาน !"พฤติกรรมในวันนี้ของหลินเย่ว์ใช่การลงโทษเฉียวเนี่ยนเสียเมื่อไหร่ เห็นๆ กันอยู่ว่าเป็นการทำให้หน้าตาของจวนโหวป่นปี้ยามนี้ ทุกคนในเมืองหลวงล้วนแต่รู้แล้วว่าลูกสาวที่จวนโหวเลี้ยงมาสิบห้าปี
หลังกลับไปยังจวนโหว เฉียวเนี่ยนอยากจะเข้าไปคาราวะท่านย่า ทว่ากลับมีคนมารายงานว่าท่านย่าหลับไปแล้วนางคิดว่า ในเมื่อท่านย่าหลับลง นั่นก็หมายความว่ายังไม่ได้ข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นในวัดฝ่าหัววันนี้ จึงเบาใจลงไปไม่น้อยตอนที่กลับไปถึงเรือนฟางเหอ หนิงซวงกำลังรอนางอยู่ด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด เฉียวเนี่ยนนึกถึงลูกถีบของหลินเย่ว์ก่อนหน้านี้ก็อดปวดใจไม่ได้หนิงซวงกลับมีท่าทีราวกับไม่เคยมีสิ่งใดเกิดขึ้นก็ไม่ปาน ยังคงปรนนิบัติเฉียวเนี่ยนเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างที่ผ่านมาแต่เฉียวเนี่ยนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็เอ่ยปากพูด "หนิงซวง เจ้ามีที่อื่นที่อยากจะไปอีกหรือไม่"ได้ยินดังนั้น หนิงซวงชะงักไปชั่วขณะ ใบหน้าที่เดิมก็ซีดเซียวอยู่แล้วยิ่งดูไร้เลือดฝาดกว่าเดิม "คุณหนูจะไล่บ่าวออกหรือเจ้าคะ"เฉียวเนี่ยนส่ายหน้า "ข้าไม่ได้จะไล่เจ้าไปไหน ข้าเพียงแค่...กลัวว่าจะพลอยทำให้เจ้าลำบากไปด้วย"วันนี้หากไม่ใช่เพราะนาง หนิงซวงมีหรือจะต้องมาเจอกับเรื่องเดือดร้อนไร้สาระเหล่านี้แต่ใครจะไปรู้ว่าหนิงซวงจะตื่นตระหนกขึ้นมากะทันหัน "บ่าวไม่กลัว ! คุณหนูอย่าไล่บ่าวไปเลยนะเจ้าคะ บ่าวจะอยู่ข้างกายคุณหนู คอยปกป้องคุณหนู
ท่าทีตอบสนองเช่นนี้ เทียบกับคำพูดที่นางเอ่ยเมื่อครู่ ช่างน่าขำยิ่งนักเฉียวเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าเบาๆ พร้อมกับส่งเสียงหัวร่อฮูหยินหลินเองก็รู้ว่าคำพูดเมื่อครู่ของหลินยวนไม่เหมาะสม จึงรีบเข้าไปขัดจังหวะ "วันนี้หมิงอ๋องยังรักษาแผลอยู่ ส่งให้คนมาบอกว่าไว้จะพาเจ้าไปยังที่ที่พวกเจ้านัดกันเอาไว้แล้วในอีกหลายวันข้างหน้า"ที่ที่พวกเขานัดกันเอาไว้แล้วหรือเฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเบาๆ เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานหมิงอ๋องเคยบอกว่าหลังจบเรื่องจะพานางไปยังที่แห่งหนึ่งเพียงแต่นี่นับว่าเป็นการนัดกันเอาไว้แล้วไม่ได้หรอกกระมัง เขายังไม่รอนางตอบตกลงก็ไปเสียแล้วระหว่างที่กำลังคิด หลินยวนกลับขยับเข้ามาใกล้นางกว่าเดิม "ท่านหมิงอ๋องนัดพี่หญิงไปที่ใด สนุกหรือไม่""..."เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความระรื่นของนาง เฉียวเนี่ยนพลันนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้นางหันไปมองหลินยวน แล้วเอ่ยถามเสียงขรึม "เมื่อวาน เจ้าเป็นผู้บอกท่านหมิงอ๋องว่าข้าจะไปวัดฝ่าหัวใช่หรือไม่"นางจำได้ว่าหลินยวนเหมือนจะเคยพูดไว้ได้ยินดังนั้น หลินยวนนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าเบาๆคิ้วของเฉียวเนี่ยนมุ่นเล็กน้อย "เหตุใดเจ้าต้องทำเ
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใดที่เฉียวเนี่ยนได้ยินเสียงของหลินเย่ว์ก็เกิดความรู้สึกรำคาญอย่างหาที่เปรียบไม่ได้นางหันไปมองเขา เห็นเขาผลักเด็กรับใช้ที่กำลังประครองเขาอยู่ออก แล้วเดินกระเผลกเข้ามาทางนางอย่างรวดเร็ว "ขอโทษท่านแม่เสีย !"เฉียวเนี่ยนพินิจมองเขาปราดหนึ่ง คงเพราะแผลที่หลัง หลินเย่ว์จึงยืนได้ไม่ตรงนัก อีกทั้งหน้าผากยังมีเม็ดเหงื่อผุดพรายอยู่ไม่น้อย เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่ที่สาวก้าวเข้ามานั้นทำให้เขาเจ็บราวกับเหลือเพียงอีกแค่ครึ่งชีวิตแต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เขาก็ยังเลือกที่จะตำหนินางโดยไม่ห่วงเรื่องใดๆ ทั้งสิ้นที่จริงแล้วเมื่อมาลองๆ คิดดูให้ดี หลินเย่ว์มีนิสัยเช่นนี้ตั้งแต่เด็ก เพียงแต่ยามนั้นหลินเย่ว์คอยปกป้องนางอย่างไม่คิดชีวิต ทว่าหลังจากที่หลินยวนกลับมา ก็เริ่มเพ่งเล็งนาง ปรักปรำนางโดยไม่สนสิ่งใดทั้งสิ้นเฉียวเนี่ยนรู้สึกหนาวเหน็บในใจ แต่กลับกล่าวออกมา "ท่านโหวน้อย เมื่อวานหลังจากที่สั่งให้ข้าขอโทษแล้วก็ถูกเฆี่ยนไปยกใหญ่ วันนี้เตรียมใจจะโดนลงโทษแบบใดอีกหรือ"พูดถึงเรื่องเมื่อวาน หลินเย่ว์ก็อดสูดหายใจเข้าลึกไม่ได้ แต่กลับยังคงดื้อดึง เชื่อว่าทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเฉียวเนี่
แผลที่หลังนางยังเจ็บอยู่เลย !แม้เมื่อวานหลินเย่ว์จะถูกตีจนสลบไป แต่ไม้กวาดพวกนั้นที่ใช้ตีเขายังไม่หักเลยสักด้าม อีกทั้งแผลที่หลังของหลินเย่ว์ก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น ดังนั้นวันนี้เขาถึงได้ลงจากเตียงได้ส่วนนางเล่า ?เพียงแค่ไม่กี่ครั้งก็ตีจนไม้กวาดหักเป็นท้อน ด้วยเรี่ยวแรงที่หนักหน่วง ทำให้ส่วนหน้าตัดที่หักออกจากกันขูดหลังนางเป็นแผลลึกเห็นได้เลยว่าเมื่อวานหลินเย่ว์เพียงแค่ต้องการจะตีนางให้ถึงแก่ชีวิตก็เท่านั้นแม้เฉียวเนี่ยนไม่ได้พูดให้ชัดเจน แต่ความดูถูกเหยียดหยามนี้ หลินเย่ว์กลับรับรู้ได้อย่างแท้จริงเขาพลันถลาเข้าไปใส่เฉียวเนี่ยนพร้อมกับยกหมัดขึ้นมา "ข้าว่าเจ้าคงถูกตีน้อยเกินไปถึงได้ปากแข็งเช่นนี้"ฮูหยินหลินรีบกอดรัดหลินเย่ว์เอาไว้ทันที "เย่ว์เอ๋อร์ อย่าวู่วาม !"ใครจะคิดว่าเฉียวเนี่ยนกลับก้าวเข้าไปหาหลินเย่ว์อีกก้าว "ท่านโหวน้อยยังอยากทุบตีข้าอยู่อีกหรือ วันนี้ตั้งใจจะตีที่ใด หน้าฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวา ต้องการให้ข้ายื่นมันไปให้ท่านด้วยตัวเองหรือไม่"เห็นนางอวดดีเช่นนี้ ความโกรธของหลินเย่ว์ก็ยิ่งลุกโชน เกือบจะหลุดจากพันธนาการของฮูหยินหลินได้แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหนิงซวงจะพุ่งเข้
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!” ท่านโหวหลินตกใจมาก ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วฮูหยินหลินเองก็เบิกตากว้างอย่างกะทันหัน มองหลินเย่ว์ด้วยความไม่เชื่อหลินยวนก็ตกใจมากเช่นกัน ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าทำไมหลินเย่ว์ถึงทำตัวผิดปกติเช่นนี้ก่อนหน้านี้ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้หรือ?เพราะเฉียวเนี่ยนตายแล้วรึ?แต่ในขณะนี้ หลินยวนไม่รู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อยสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงความตื่นตระหนกเท่านั้นเฉียวเนี่ยนตาย แล้วนางจะปัดความรับผิดชอบเรื่องของย่าเฉาได้อย่างไร?นางจะโยนความผิดให้ใคร?ทำเช่นไรดี?หลินยวนรู้สึกหวาดกลัวถึงขีดสุดแต่ไม่คิดว่าหลินเย่ว์จะพุ่งเข้ามาจับคอเสื้อของนาง “เจ้าเป็นใครกันแน่? พูดมา!”หลินยวนตกใจกลัวนางไม่เคยเห็นหลินเย่ว์ดุร้ายเช่นนี้มาก่อนน้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุด แต่ก็ยืนกรานว่าตัวเองเป็นบุตรสาวสายตรงแห่งจวนโหว“พี่ใหญ่ อย่าขู่ข้าเลย... ข้าเป็นน้องสาวของพี่นะ!”“หมอตำแยพูดเองกับปากว่า ข้าถูกนางสลับตัว! นางพูดเองกับปาก!”“ข้าหน้าเหมือนแม่มากเลยนะ พี่ใหญ่ ดูข้าสิ! ข้าจะไม่ใช่ลูกของแม่ได้อย่างไร!”นางปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองไม่ใช่!มิเช่นนั้น ด้วยสภาพของคนในตระกูลหลินยามนี้ พวกเขาจ
คิดไม่ได้แล้ว คิดต่อไม่ได้แล้ว...นางจะทนไม่ไหวแล้ว!ในขณะนั้นเอง มามาหลายคนคนที่พาหลินยวนลงไปก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็พาหลินยวนกลับมา "ทูลฮูหยิน เอวของคุณหนูรองไม่มีปานเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ย่าเฉาจึงรีบเอ่ยว่า "นางไม่ใช่ตั้งแต่แรก จะมีได้อย่างไร!"หลินยวนร้องไห้ตะโกน "ท่านแม่ ไม่ใช่เช่นนั้น! ท่านอย่าฟังคำพูดเหลวไหลของหญิงชั่ว!"ฮูหยินหลินราวกับโดนค้อนหนักทุบจนหัวเริ่มมึนงงนางไม่เคยสงสัยหลินยวนเลย เพียงแต่คนที่นางส่งไปไม่เคยได้เบาะแสอะไรกลับมาเลยก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งที่นางสงสัยว่ายวนเอ๋อร์กับเนี่ยนเนี่ยนเป็นพี่น้องฝาแฝด และหมอตำแยที่ทำคลอดให้นางขโมยไปคนหนึ่งฉะนั้น นางจึงรักลูกทั้งสองคนและตัดใจจากลูกทั้งสองคนไม่ได้...นางอยากจะเชื่อว่านางคลอดลูกฝาแฝดมากกว่าที่จะสงสัยว่าหลินยวนไม่ใช่ลูกของนาง!หายใจเข้าลึกๆ หลายที ฮูหยินหลินก็ดูเหมือนจะมีแรงกลับมา จึงยกมือขึ้นและเรียกเด็กรับใช้ที่อยู่ไม่ไกลออกไป "ไป ไปตามท่านโหวกลับมา! ตามท่านโหวน้อยกลับมาด้วย!"เรื่องนี้ นางทนรับคนเดียวไม่ไหวจริงๆเด็กรับใช้รีบรับคำและจากไปทันทีแต่หลินยวนยังคงร้องไห้ "ท่านแม่ ท่านไม่ควรเชื่อคำพูดของ
ชาวแคว้นจิ้งเชื่อว่าเด็กๆ เป็นของขวัญจากสวรรค์เหล่านางฟ้าบนสวรรค์เลือกครอบครัวที่เหมาะสม แล้วส่งเด็กๆ ลงมาทีละคนเด็กบางคนซุกซน ไม่ยอมลงมา นางฟ้ากริ้วโกรธ ก็เลยต้องลงมือรอยปานเล็กๆ นั่นต้องเป็นรอยที่นางฟ้าจิ้มแน่นอนส่วนรอยที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ต้องเป็นรอยที่นางฟ้าหยิกแน่นอนและรอยที่ใหญ่กว่านั้น อืม ต้องเป็นเด็กที่ซุกซนมาก นางฟ้าทนไม่ไหว จึงเตะลงมาฮูหยินหลินรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งเมื่อก่อน ยามที่นางดูแม่นมเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เนี่ยนเนี่ยน นางก็เคยพูดว่า เด็กคนนี้ต้องซุกซนมากแน่ๆ ถึงโดนนางฟ้าหยิกที่เอวเนี่ยนเนี่ยนมีปานที่เอวเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลินก็ค่อยๆ หันไปมองหลินยวน "เจ้ามีปานหรือไม่?"หลินยวนตกใจส่ายหัวไม่หยุด "ท่านแม่ อย่าฟังหญิงคนนี้พูดจาเหลวไหล..."แต่ก่อนที่นางจะพูดจบ ฮูหยินหลินก็ออกคำสั่ง "ใครก็ได้เข้ามาที! พาตัวนางออกไป ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วหาปาน!""เจ้าค่ะ!"มามาคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างตอบรับและพาหลินยวนออกไปหลินยวนไม่ยอมและดิ้นรน แต่นางจะสู้แรงเหล่ามามาได้อย่างไร?ในไม่ช้า ห้องโถงด้านหน้าก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้งฮูหยินหลินแทบจะนั่งไม่ไหวแล้ว แต่ก็ยัง
ขณะนั้น หลินยวนที่ถูกขังอยู่นอกเรือนลั่วเหมยก็เบิกตากว้างทันทีด้วยความไม่เชื่อด้านข้างมีสาวใช้กระซิบว่า "คุณหนู ท่านโหวน้อยเป็นอะไรไป ทำไมถึงดูเหมือนคนบ้าเช่นนี้? เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?"หลินยวนขมวดคิ้วนิดๆ นางเองก็ไม่รู้แต่การที่หลินเย่ว์คลุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน กลับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนางโอกาสที่ดีที่จะไปแสดงความน่าสงสารต่อหน้าฮูหยินหลิน เพื่อให้ฮูหยินหลินสงสารนาง!นางรู้ดีว่าแม้ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินจะช่วยชีวิตนางไว้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้รักนางเหมือนเมื่อก่อนบางที วันนี้นางอาจใช้โอกาสนี้เพื่อเรียกความรักของพวกเขากลับคืนมาได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลินยวนจึงไปหาฮูหยินหลินแต่ได้รับแจ้งว่า ฮูหยินหลินกำลังต้อนรับแขกอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าเพื่อแสดงความน่าสงสารของตน หลินยวนจึงมาที่ห้องโถงด้านหน้า โดยตั้งใจไม่มองแขกคนนั้นเลย นางเพียงแค่น้ำตาคลอเบ้าเดินไปหาฮูหยินหลินและคุกเข่าลง "ท่านแม่ ได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่ยวนเอ๋อร์ด้วย! ท่านพี่ไม่รู้เป็นอะไร ไล่ยวนเอ๋อร์ออกจากเรือนลั่วเหมย! ฮือๆ ๆ พี่ใหญ่ยังผลักยวนเอ๋อร์ด้วย ข้อเท้าของยวนเอ๋อร์เคล็ดเลยเจ้าค่ะ!"ฮูหยินหลินมองหลินยวนที่คุ
ไม่รู้ว่าตบหน้าตนเองไปนานแค่ไหน หลินเย่ว์ก็เหมือนนึกบางอย่างออก รีบรวบรวมเศษผ้าเหล่านั้นกลับเข้าไปซุกไว้ในอกของตนแล้วลุกขึ้นเปิดประตูออกไปข้างนอกเขาต้องไปหาเนี่ยนเนี่ยนออกจากประตู ก็เห็นต้นหวยขนาดใหญ่วัยเด็ก เนี่ยนเนี่ยนชอบปีนขึ้นไปเล่นบนต้นไม้มากที่สุดโขดหินจำลองที่อยู่ไม่ไกลก็เป็นสถานที่ที่เนี่ยนเนี่ยนชอบเล่นมากที่สุดเช่นกัน ครั้งหนึ่ง นางตกจากโขดหินจำลอง ทำให้เขาตกใจแทบแย่ แต่นางกลับยิ้มร่าเริง ไม่คิดอะไรมากศาลาหลังนั้น เขาเคยเล่นหมากรุกกับนางด้วยกันครั้นที่เด็กน้อยเพิ่งหัดเล่น นางชอบเล่นตุกติกมากที่สุด หมากกระดานหนึ่ง ต้องแก้เกมเป็นสิบๆ ครั้งต้นท้อเหล่านั้น ออกผลทั้งใหญ่และหวานมาก เนี่ยนเนี่ยนจะพาบ่าวรับใช้มาเก็บผลไม้ทุกครั้ง แล้วนำมาทำเป็นขนมหวานอร่อย ยกมาให้เขาที่ห้องหนังสือด้วยตัวเองทางเดินเส้นเล็กนี้ เป็นทางที่เนี่ยนเนี่ยนเดินบ่อยที่สุดเพราะเรือนของนางอยู่ใกล้กับเรือนของเขามากที่สุด ในวัยเด็ก หากนางฝันร้าย นางจะกอดหมอนของตน พาสาวใช้อีกกลุ่มหนึ่ง วิ่งเข้ามาในห้องของเขา แล้วบังคับให้เขาต้องนอนกับนางให้ได้นางพูดว่า: มีพี่ใหญ่อยู่ข้างกาย เนี่ยนเนี่ยนถึงจะวางใจ
ร่างกายของหลินเย่ว์สั่นเทาราวกับว่าเขาสามารถเห็นภาพของเฉียวเนี่ยนเมื่อสามปีก่อนที่ถูกพาตัวไปยังกรมซักล้างและร้องไห้คร่ำครวญนางไม่ยอมจำนน ไม่ยอมอยู่ที่นั่น จึงถูกมามาในกรมซักล้างเฆี่ยนตีครั้งแล้วครั้งเล่าจากนั้น นางก็นอนคว่ำอยู่ในห้องที่มีทั้งลมและฝนรั่วฉีกเสื้อผ้าบนร่างกายที่ขาดหลุดลุ่ยใช้นิ้วจุ่มเลือดจากบาดแผลเขียนทีละตัวอักษรว่า:พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยหัวใจของเขาเจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ออกหลินเย่ว์รีบพลิกเศษผ้าเหล่านั้นทีละชิ้นเกือบทุกชิ้นเขียนด้วยเลือดว่า: พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยพี่ใหญ่ รับข้ากลับบ้านด้วยพี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยยยเป็นเวลาสามปีแล้วที่เศษผ้าเปื้อนเลือดเหล่านี้บันทึกทุกครั้งที่นางขอความช่วยเหลือ และทุกครั้งก็เป็นการขอความช่วยเหลือจากเขาหลินเย่ว์เพิ่งตระหนักว่า ในใจของเฉียวเนี่ยน พี่ใหญ่ของเขาสำคัญมากเพียงใดในใจของนาง มีเพียงพี่ใหญ่เท่านั้นที่สามารถช่วยนางได้!แต่เขาทำอะไร?ในขณะที่นางนอนคว่ำอยู่บนเตียงไม้เย็นเฉียบ ขอความช่วยเหลือจากเขาด้วยเลือดสด เขาทำอะไรอยู่?เขาจะเข้าวังขอความเมตตาจากฮ่องเต้ แต่ถูกพ่อขวางไว้ ให้เขายึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลักส่วนรวม.
เขาไม่กล้าคิดต่อได้แต่บังคับตัวเองให้ดึงความคิดอันกระวนกระวายนั้นกลับมาเซียวเหิงใกล้ระเบิดแล้ว เขาจะบ้าตามไม่ได้!ดังนั้น เขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยักหน้า “ใช่ ต้องไม่เป็นอะไร”หลินเย่ว์ราวกับได้แรงกลับคืนมา เขาพยักหน้าและหันหลังเดินจากไปใช่ ต้องไม่เป็นอะไรรอให้เขากลับไปพักชั่วครู่ แล้วค่อยกลับมาหาเนี่ยนเนี่ยน...หลินเย่ว์ขี่ม้ากลับไป แต่ในหัวกลับปรากฏแต่ภาพขณะที่เฉียวเนี่ยนตกลงไปในแม่น้ำไกลจากเขามากไกลจนเขาไม่เห็นหน้านางชัดๆ ไกลจนเขาคว้าแม้แต่เงาของนางไว้ไม่ได้!แต่ทำไมพวกเขาถึงห่างกันได้ขนาดนี้?หรือว่าเขาค่อยๆ ผลักไสนางออกไปเอง?“ท่านโหวน้อย!”ทันใดนั้น เสียงหวานนุ่มนวลก็เรียกสติของหลินเย่ว์กลับคืนมาเขาชะงักไปครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ตกใจที่พบว่าตนมาถึงหน้าจวนโหวตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้“ท่านโหวน้อย!”เสียงเรียกดังขึ้นอีกครั้ง หลินเย่ว์จึงสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลเขาจำนางไม่ได้แต่เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนั้นจำเขาได้ และเมื่อเห็นเขามองมาก็รีบวิ่งมาหาหลินเย่ว์ "คารวะท่านโหวน้อย บ่าวชื่อหลิ่วเหนียง เป็น...สหายของคุณหนูใหญ่ขณะอยู่ในวัง"คำว่าส
"เนี่ยนเนี่ยน!""เนี่ยนเนี่ยน!""ไม่!"เสียงดังสามเสียงดังขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกันเซียวเหอและหลินเย่ว์ชักดาบออกมาพร้อมกัน ในขณะที่ชายหนวดเคราและเด็กหนุ่มยังไม่ทันได้ตั้งตัว พวกเขาก็ถูกปาดคอไปแล้วส่วนเซียวเหิงนั้น เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นและกระโดดลงไปในแม่น้ำฉางหยางเมื่อเห็นเช่นนั้น เซียวเหอและหลินเย่ว์จึงรีบคว้าตัวเซียวเหิงกลับพร้อมกัน"ปล่อย!" เซียวเหิงตะโกนเสียงทุ้มต่ำและดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ดวงตาทั้งสองจ้องมองไปที่ผิวน้ำที่ราบเรียบไร้ระลอกคลื่น พยายามมองหาร่างของเฉียวเนี่ยนเขาพยายามกระโดดลงไปในแม่น้ำอย่างต่อเนื่องแต่สองมือที่อยู่ข้างกายเขาคอยคว้าเขาไว้และดึงเขากลับมาเขาจึงทำได้เพียงปัดมือเหล่านั้นออกเนี่ยนเนี่ยนยังอยู่ในแม่น้ำ เขาต้องไปช่วยเนี่ยนเนี่ยน!“เพียะ!”เสียงตบที่ดังสนั่น ทำให้เซียวเหิงได้สติเซียวเหอกำลังจับคอเสื้อของเซียวเหิงไว้แน่น เสียงแข็งกร้าวเริ่มสั่นคลอน และเอ่ยว่า “เนี่ยนเนี่ยนจะไม่เป็นอะไร! นางว่ายน้ำเป็น! สิ่งที่เจ้าต้องทำในยามนี้คือพาสมุนหานางที่ปลายน้ำ ไม่ใช่กระโดดลงไป!”หากแม้แต่เซียวเหิงก็กระโดดลงไปด้วย แล้วพวกเขาจะช่วยใคร ช่วยเซียวเหิงหรือช
“อย่าหุนหันพลันแล่น!” เซียวเหอลงจากม้าเป็นคนแรก พร้อมตะโกนใส่พวกโจรภูเขาเมื่อเห็นรอยเลือดสีแดงฉานปรากฏบนคอของเฉียวเนี่ยน หัวใจของเขาก็พลันบีบรัดเซียวเหิงและหลินเย่ว์รีบลงจากม้าตามมาติดๆสีหน้าของเซียวเหิงดูมืดมนอย่างยิ่ง และกำหมัดแน่นเขาโกรธตัวเองที่ยามนั้นทำไมไม่กำจัดพวกโจรภูเขาให้หมดสิ้น ปล่อยให้เฉียวเนี่ยนตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ได้ยิ่งโกรธตัวเองที่หลงกลพวกโจรภูเขา!หลินเย่ว์มองเฉียวเนี่ยนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จิตใจว้าวุ่น เขาตะโกนเสียงดัง "พวกเจ้าต้องการอะไร ข้าให้ได้ทุกอย่าง! ปล่อยน้องสาวข้า!"ดวงตาของเฉียวเนี่ยนหม่นหมองนางนึกไม่ถึงว่าหลินเย่ว์จะมาด้วยแล้วพลันพบว่า แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ นางก็ยังไม่อยากเจอหลินเย่ว์ยิ่งไม่อยากได้ยินเขาเรียกนางว่า 'น้องสาว'ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางเกลียดพี่ใหญ่ถึงเพียงนี้?ก่อนที่นางจะครุ่นคิดมากกว่านี้ ก็ได้ยินเสียงของชายที่มีหนวดเคราตะโกนว่า "อยากให้พวกข้าปล่อยคนอย่างนั้นหรือ? ง่ายมาก! เอาหัวของเซียวเหิงมาให้พวกเรา!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเหอและหลินเย่ว์ก็ตกใจแต่ก็นึกไม่ถึงว่าเซียวเหิงจะชักดาบยาวที่เอวออกมาและวางไว้บนคอของตนโด