แชร์

บทที่ 688

ผู้เขียน: โม่เสียวชี่
แม้ว่าองค์หญิงซูหยวนจะฝืนพักอยู่ในจวนอ๋อง แต่กลับไม่มีสิ่งใดเป็นที่สบอารมณ์ ไม่ว่าจะเรื่องกินเรื่องดื่มก็ไม่มีสิ่งใดพึงใจ เพียงวันเดียวก็โกรธเกรี้ยวไม่น้อย

เฉียวเนี่ยนทำเป็นไม่รับรู้ คิดไว้ว่าตราบใดที่องค์หญิงซูหยวนยังรู้จักกาลเทศะ ไม่ถึงขั้นทำร้ายคนในจวน นางก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ

ดังนั้น ผู้ที่ทนไม่ไหวก่อนจึงเป็นองค์หญิงซูหยวน

ยังไม่ทันถึงยามพลบค่ำ องค์หญิงก็ให้คนมาส่งข่าว บอกว่าอยากพบ

เฉียวเนี่ยนจึงตามคนผู้นั้นไปยังเรือนหลันซิ่ง

องค์หญิงซูหยวนกำลังนั่งเหม่ออยู่ใต้ชายคา

พอเห็นเฉียวเนี่ยนเดินเข้ามา องค์หญิงซูหยวนจึงนั่งหลังตรงขึ้น ขมวดคิ้ว มองเฉียวเนี่ยนที่กำลังเดินเข้าใกล้

เฉียวเนี่ยนก้าวขึ้นไปด้านหน้าแล้วคำนับ “ขอถวายบังคมองค์หญิงเพคะ”

องค์หญิงซูหยวนรับคำอย่างเย็นชา “อืม”

แล้วจึงหันไปเหลือบมองอวิ๋นเอ๋อร์ที่อยู่ข้าง ๆ

อวิ๋นเอ๋อร์เข้าใจในทันที รีบพาเหล่านางกำนัลและขันทีคนอื่น ๆ ถอยออกไป

ไม่นานนัก ภายในเรือนก็เหลือเพียงเฉียวเนี่ยนกับองค์หญิงซูหยวน

องค์หญิงซูหยวนลุกขึ้นมายืน เดินช้า ๆ มาหยุดตรงหน้าเฉียวเนี่ยน ดวงหน้าแฝงไปด้วยความขุ่นเคือง “เจ้าคงไม่คิดว่าจะเอาแต่ยื้อเวลา แล้วเ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
LiYi Tk
องค์หญิงจะมีจุดจบยังไงน้อ เคยทำร้านเนียนๆ สงสันอาจจะโดนปลดออกจากองค์หญิง ทำร้านเนียนนี่ยนสมควรแล้ว
goodnovel comment avatar
teamhirun
อ้าขาที เดือดร้อนชาวบ้าน
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 692

    ตลอดสามวันที่เหลือ องค์หญิงซูหยวนอ้างว่าเป็นหวัดเพราะอากาศเย็น จึงนอนพักอยู่ในห้องตลอดสามวันในสามวันนี้ นอกจากอวิ๋นเอ๋อร์แล้วก็มีแค่เฉียวเนี่ยนที่คอยดูแลอยู่ข้างกายสามวันต่อมา องค์หญิงซูหยวนก็จากจวนอ๋องผิงหยาง กลับวังด้วยสีหน้าผุดผ่องส่วนหนิงซวงก็กลับมาจากเรือนเล็กเสียทีเพียงแต่ตอนที่กลับมา เด็กสาวคนนี้อารมณ์ไม่ค่อยดีนักพอเห็นเฉียวเนี่ยน หนิงซวงก็ตาแดงก่ำ “คุณหนู บ่าวไปหาช่างดูแลสวนมาดูแล้ว ต้นเหมยแดงเติบโตได้ดีมาก บอกว่าหน้าหนาวปีนี้ต้องออกดอกเต็มกิ่งแน่! ส่วนที่อื่น ๆ ในเรือนเล็กที่ต้องจัดการ บ่าวก็จัดการไปหมดแล้วเจ้าค่ะ”เห็นหนิงซวงทำท่าจะร้องไห้ เฉียวเนี่ยนก็อดเป็นห่วงไม่ได้ “เป็นอะไร ถูกใครรังแกมาหรือเปล่า?”หนิงซวงส่ายหน้ารัว น้ำตาร่วงลงมา “บ่าวรู้ว่าคุณหนูทำแบบนั้นเพราะหวังดีถึงให้บ่าวออกมา แต่บ่าวก็เป็นห่วงคุณหนู ฮือ ๆ ๆ คุณหนู บ่าวไม่ใช่คนที่กลัวลำบาก ต่อไปหากมีเรื่องแบบนี้อีก คุณหนูอย่าไล่บ่าวไปได้ไหมเจ้าคะ?”หนิงซวงไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้จริง ๆตอนคุณหนูตกลงไปในแม่น้ำฉางหยาง ทิ้งนางไว้คนเดียวที่เมืองหลวง ตอนนั้นหัวใจของนางก็เจ็บปวดมากแล้วแต่ครั้งนั้นก็เข้าใจไ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 691

    องค์หญิงซูหยวนมองเฉียวเนี่ยนด้วยแววตาเย็นชา แววตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “อย่าได้พาลให้คนอื่นมารับเคราะห์รึ? หมายความว่า ข้าจะพาลลงกับเจ้าแทนก็ได้อย่างนั้นหรือ?”เฉียวเนี่ยนจ้องมองดวงตาขององค์หญิง ไม่ได้หลบเลยแม้แต่น้อย “หากหม่อมฉันสามารถปกป้องให้พระองค์ผ่านพ้นเคราะห์นี้ไปได้อย่างปลอดภัย ก็ย่อมแสดงให้เห็นว่าหม่อมฉันมีประโยชน์ต่อพระองค์”ใครจะกล้ารับประกันว่าตนจะไม่ล้มป่วย ไม่มีภัยในภายหน้าแล้วจะไม่จำเป็นต้องพึ่งนางอีก?เมื่อได้ฟังดังนั้น องค์หญิงซูหยวนก็เริ่มคิดคำนวณในใจ แววตากวาดมองเฉียวเนี่ยนจากหัวจรดเท้า แล้วจึงเอ่ยว่า “เมื่อก่อน เป็นข้าที่ส่งเจ้าไปอยู่กรมซักล้าง ทั้งยังสั่งให้คนรังแกเจ้าทุกวัน แล้วเหตุใดเจ้าจึงไม่โกรธแค้น?”“เป็นหนี้ต้องชำระ เป็นคนผิดต้องชดใช้กรรม เคราะห์กรรมของหม่อมฉันล้วนมีต้นตอมาจากหลินยวนเท่านั้น บัดนี้หลินยวนก็ตายแล้ว เรื่องนี้ก็ถือว่าชำระสะสางสิ้นแล้วเพคะ”นัยว่า นางไม่โกรธแค้นอีกต่อไปแล้วองค์หญิงซูหยวนมองเฉียวเนี่ยน พยายามค้นหาเสี้ยวหนึ่งของความเสแสร้งในดวงตาของนางแต่ไม่คาดคิด ในดวงตาของเฉียวเนี่ยนกลับมีเพียงความจริงใจองค์หญิงซูหยวนจึงถอนหายใจเบา ๆ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 690

    สองวันถัดมา เฉียวเนี่ยนก็หาวิธีออกจนได้ในตําราแพทย์ไม่มีตำรับขับเด็ก แต่ในหอรักษาโรคมีเฉียวเนี่ยนนำตำรับนั้นกลับมาศึกษาอย่างละเอียด โชคดีที่นางพลิกอ่านตําราแพทย์ที่หมอประจำจวนให้มาหลายรอบจนจำตำรับยาช่วยชีวิตต่าง ๆ ได้ขึ้นใจและเข้าใจลึกซึ้ง นางจึงรวบรวมความกล้า เปลี่ยนตัวยาหลายอย่างในตำรับขับเด็ก แล้วเพิ่มยาบำรุงร่างกายลงไปอีกหลายขนาน จากนั้นจึงเคี่ยวยาจนได้หนึ่งชาม แล้วถือไปวางไว้ตรงหน้าองค์หญิงซูหยวนน้ำยาสีดำสนิทยังมีไอร้อนลอยขึ้นอยู่อวิ๋นเอ๋อร์จะก้าวเข้ามารับไป แต่เฉียวเนี่ยนกลับถอยหลังหนึ่งก้าว หลบมือของอวิ๋นเอ๋อร์เห็นดังนั้น องค์หญิงซูหยวนก็ขมวดคิ้วทันที “บังอาจ! เฉียวเนี่ยน เจ้าคิดจะเล่นลูกไม้อะไรอีก?!”“หม่อมฉันไม่กล้าเพคะ!” เฉียวเนี่ยนตอบเสียงอ่อน แต่ในน้ำเสียงกลับแฝงความเด็ดขาดนางมององค์หญิงซูหยวนแล้วพูดเสียงเบา “ตอนนี้คนนอกถูกพระองค์ทรงไล่ออกไปหมดแล้ว คนที่สามารถอยู่รับใช้ใกล้ชิดได้ก็มีแค่หม่อมฉันกับอวิ๋นเอ๋อร์เท่านั้น เช่นนั้นก่อนที่พระองค์จะเสวยยา หม่อมฉันมีเรื่องหนึ่งที่ต้องถามให้แน่ชัด”อวิ๋นเอ๋อร์เป็นคนสนิทของซูหยวน รู้เรื่องที่พระองค์ตั้งครรภ์อยู่ ย่อมไม่จำ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 689

    ไม่เป็นไร คืนนี้ค่อยหาทางอีกที หากคิดไม่ออกว่าควรใช้ยาขับแบบใดดีที่สุด ค่อยตัดสินใจก็แล้วกัน!ยามค่ำมืดมิดในห้องของเฉียวเนี่ยนยังคงจุดเทียนสว่างอยู่นางก็พลิกอ่านตําราแพทย์ที่หมอประจำจวนให้มาหลายเล่มไปหลายรอบแล้ว แต่กลับยังไม่เจอวิธีขับเด็กที่เหมาะสมขณะที่กำลังคิด นอกห้องกลับมีเสียงดังขึ้นกะทันหันเสียง ‘ตึก’ ดังขึ้นเบา ๆ เป็นเสียงหินกระทบประตูเฉียวเนี่ยนชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ในหัวกลับผุดภาพของใครคนหนึ่งขึ้นมา หัวใจก็พลันยินดี รีบรุดไปเปิดประตูกลับเห็นว่า ในลานไม่มีใครเลยนางขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ จึงหันกลับไปมองอย่างเร็วก็เห็นว่าเซียวเหิงอยู่ในห้องตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้นางรีบปิดประตูห้อง แล้วจึงหันไปมองเซียวเหอ “ท่านพี่เซียว!”คงเพราะรู้สึกว่าตนเองเข้ามาห้องสตรีในยามดึกเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เซียวเหอจึงเอ่ยเสียงเบา “คนขององค์หญิงก็อยู่ในจวนอ๋อง ข้ากลัวจะถูกใครพบเข้า”“ข้าเข้าใจ” เฉียวเนี่ยนรีบกล่าว “เชิญนั่งก่อนเจ้าค่ะ ท่านพี่เซียว”เซียวเหอถึงได้นั่งลงเฉียวเนี่ยนรินน้ำให้เซียวเหอหนึ่งถ้วย แล้วจึงถาม “หรือว่าเรื่องของทหารองครักษ์จะคืบหน้าแล้วเจ้าคะ?”

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 688

    แม้ว่าองค์หญิงซูหยวนจะฝืนพักอยู่ในจวนอ๋อง แต่กลับไม่มีสิ่งใดเป็นที่สบอารมณ์ ไม่ว่าจะเรื่องกินเรื่องดื่มก็ไม่มีสิ่งใดพึงใจ เพียงวันเดียวก็โกรธเกรี้ยวไม่น้อยเฉียวเนี่ยนทำเป็นไม่รับรู้ คิดไว้ว่าตราบใดที่องค์หญิงซูหยวนยังรู้จักกาลเทศะ ไม่ถึงขั้นทำร้ายคนในจวน นางก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจดังนั้น ผู้ที่ทนไม่ไหวก่อนจึงเป็นองค์หญิงซูหยวนยังไม่ทันถึงยามพลบค่ำ องค์หญิงก็ให้คนมาส่งข่าว บอกว่าอยากพบเฉียวเนี่ยนจึงตามคนผู้นั้นไปยังเรือนหลันซิ่งองค์หญิงซูหยวนกำลังนั่งเหม่ออยู่ใต้ชายคาพอเห็นเฉียวเนี่ยนเดินเข้ามา องค์หญิงซูหยวนจึงนั่งหลังตรงขึ้น ขมวดคิ้ว มองเฉียวเนี่ยนที่กำลังเดินเข้าใกล้เฉียวเนี่ยนก้าวขึ้นไปด้านหน้าแล้วคำนับ “ขอถวายบังคมองค์หญิงเพคะ”องค์หญิงซูหยวนรับคำอย่างเย็นชา “อืม”แล้วจึงหันไปเหลือบมองอวิ๋นเอ๋อร์ที่อยู่ข้าง ๆอวิ๋นเอ๋อร์เข้าใจในทันที รีบพาเหล่านางกำนัลและขันทีคนอื่น ๆ ถอยออกไปไม่นานนัก ภายในเรือนก็เหลือเพียงเฉียวเนี่ยนกับองค์หญิงซูหยวนองค์หญิงซูหยวนลุกขึ้นมายืน เดินช้า ๆ มาหยุดตรงหน้าเฉียวเนี่ยน ดวงหน้าแฝงไปด้วยความขุ่นเคือง “เจ้าคงไม่คิดว่าจะเอาแต่ยื้อเวลา แล้วเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 687

    ได้ยินคำว่าสิบวัน องค์หญิงซูหยวนก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงแสดงความไม่พอใจในลำคอ แล้วจึงก้าวเท้าเดินเข้าไปในจวนอ๋องผิงหยางเฉียวเนี่ยนเดินตามหลังนางไปด้านหลัง ประตูใหญ่ของจวนอ๋องผิงหยางค่อย ๆ ปิดลง กั้นสายตาวุ่นวายนั้นไว้ข้างนอกองค์หญิงซูหยวนถึงได้หยุดฝีเท้า หันกลับมาแล้วมองไปทางเฉียวเนี่ยน “ข้าจะแนะนำให้นี่รู้จักหน่อย นี่คือนางกำนัลประจำตัวของข้า อวิ๋นเอ๋อร์”ได้ยินดังนั้น เฉียวเนี่ยนก็หันไปมองอวิ๋นเอ๋อร์เพียงเห็นว่านางเชิดหน้ามองเฉียวเนี่ยนอย่างยโส เต็มไปด้วยท่าทีข่มผู้อื่นเพราะมีคนหนุนหลังเฉียวเนี่ยนแววตาราบเรียบ ย่อกายเล็กน้อยให้อวิ๋นเอ๋อร์เป็นการคารวะ ทำให้อวิ๋นเอ๋อร์ยิ่งได้ใจมากขึ้นเป็นแค่สาวใช้ที่คอยปรนนิบัติองค์หญิงเท่านั้น กลับทำเหมือนตนเป็นองค์หญิงเสียเองเห็นได้ชัดว่ายังไม่รู้ว่าตัวเองใกล้ถึงวันตายแล้วเห็นเฉียวเนี่ยนให้ความเคารพสาวใช้ของตนถึงเพียงนี้ องค์หญิงซูหยวนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะออกมา “ข้ารู้ว่าเจ้าฉลาด แต่ก็ยังอยากเตือนเจ้าสักคำ อย่าทำตัวฉลาดเกินไป! คิดว่าจัดการส่งสาวใช้ของตัวเองออกไปแล้ว ข้าจะไม่มีทางกำราบเจ้าได้งั้นหรือ? น่าขัน!”พูดมาถึงตรงนี้ องค์

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status