LOGINเมื่อลูกสาวคนเล็กอย่าง ลูกหยี ต้องมาแต่งงานแทนพี่สาวที่หนีไปเพื่อหลีกเลี่ยงการแต่งงานกับ เอกณัฐ เพื่อนสนิทของพ่อที่มีอายุมากกว่าเธอถึง 20 ปี เจ้าของไร่ชาผู้เคร่งขรึม เธอไม่คิดเลยว่าชายผู้มีอดีตที่ผิดหวังจากรักครั้งเก่า คนที่ดูดุและเจ้าระเบียบจะกลับมีหัวใจที่อ่อนโยนเมื่อได้อยู่ใกล้กัน ความดื้อรั้นของเธอกลับเป็นสิ่งที่ทำให้เอกณัฐเปิดใจให้กับความรักครั้งใหม่ ความผูกพันเริ่มก่อตัวท่ามกลางธรรมชาติของไร่ชาและการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน ชีวิตใหม่ที่เธอคิดว่าเป็นเพียงภาระกลับกลายเป็นความอบอุ่นที่ไม่เคยสัมผัส ร่วมเดินทางไปกับการเติบโตของความรักระหว่างสองหัวใจที่แตกต่างกันใน “รักร้อยใจในไร่ชา”
View Moreเสียงดนตรีไทยบรรเลงคลอเบา ๆ ท่ามกลางบรรยากาศหรูหราของงานแต่งงานที่ถูกจัดขึ้นอย่างประณีตภายในบ้านทรงไทยสไตล์ล้านนาที่งดงาม แสงแดดอ่อน ๆ ลอดผ่านชายคาไม้ ช่อดอกไม้สดจัดอย่างละเอียดประดับประดาทุกมุมของงาน พ่อแม่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่างนั่งยิ้มอยู่ที่มุมหนึ่ง แขกผู้มีเกียรติมากมายกำลังพูดคุยด้วยความคาดหวัง แต่สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นงานแต่งงานอันสมบูรณ์แบบกลับถูกทำลายลงทันทีเมื่อมีเสียงกระซิบดังขึ้นจากแม่งานที่เข้ามาส่งข่าวแก่ครอบครัวว่า เจ้าสาวหนีไปแล้ว
“ลูกเกดไปไหน”
คุณวิภาแม่ของเจ้าสาวนาม รุ่งทิวาหรือลูกเกดตะโกนออกมาเสียงแหลมด้วยความตื่นตระหนกแทรกผ่านบรรยากาศทุกอณู ทุกคนในงานมองไปรอบ ๆ ด้วยความสงสัย มีแต่ความเงียบแปลกประหลาดเข้าปกคลุม แขกที่มาร่วมงานเริ่มซุบซิบกันอย่างอึกทึก
ในขณะเดียวกัน รุ่งกานดา (ลูกหยี) ที่นั่งอยู่ห่างออกไปในชุดเดรสสีเข้มที่โดดเด่น รู้สึกถึงสายตาที่จ้องมาทางเธอ เธอคือ น้องสาวของลูกเกด ที่ไม่เคยคิดฝันว่าตัวเองจะต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
“แล้วจะทำยังไงกันดี” คุณประสิทธิ์พ่อของลูกเกดมองไปทางเอกกับเพื่อนรุ่นน้องที่นั่งเงียบอยู่ ประสิทธิ์และเอกณัฐรู้จักกันมานานไปมาหาสู่กันคบเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน
เอกณัฐ เจ้าบ่าวในชุดสูทสีขาว ท่าทางสุขุม ถึงกับคิ้วขมวดเล็กน้อย ดวงตาคมนิ่งสงบเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง เขาอายุ 45 ปีและมีภาพลักษณ์ที่ตรงกันข้ามกับวัยรุ่นอย่างลูกหยี เขาเป็นเพื่อนสนิทกับพ่อของลูกเกดและรู้จักครอบครัวนี้มานานหลายปี ในใจเขานั้นไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้
“เธอหนีไปแล้วเพราะฉันแก่ใช่ไหม” เอกณัฐพึมพำในใจ ท่ามกลางความโกลาหล เขายังคงสงบเย็น
พ่อของลูกเกดหันไปมองหน้าลูกหยี เหมือนมีความคิดหนึ่งที่พุ่งเข้ามาในหัว
“ลูกหยี ลูก ไปแต่งแทนพี่ได้ไหม”
ลูกหยีเบิกตากว้าง หัวใจเต้นเร็วขึ้น เมื่อได้ยินคำพูดนั้น เธอไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมารับบทเจ้าสาวแทนพี่สาวที่หนีไป
“พ่อพูดจริงเหรอ หนูนี่นะที่จะต้องแต่งงานกับ เขา” ลูกหยีหันไปมองเอกณัฐที่ยังคงนั่งนิ่ง ขมวดคิ้ว เขาเป็นผู้ชายที่เธอจำไม่ได้ชัดเจนจากวัยเด็ก ตอนที่เขายังเป็นเพียง “ลุงณัฐ” เพื่อนของพ่อ ที่เคยเห็นแค่ผ่านตา
เอกณัฐ เองก็ไม่ชอบสถานการณ์นี้ เขาเคยชอบลูกเกดเพราะเธอเป็นคนเรียบร้อย อ่อนหวาน แต่ลูกหยีกลับเป็นคนที่ตรงกันข้าม เธอมีความมั่นใจ แต่งตัวโดดเด่น ชอบท้าทายทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนจะเป็นผู้หญิงในแบบที่เขาไม่เคยต้องการ แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเกินกว่าจะปฏิเสธได้
“งานแต่งนี้ต้องไปต่อ ไม่ว่าใครจะเป็นเจ้าสาว” เอกณัฐคิดในใจ แม้ในหัวใจลึก ๆ จะเต็มไปด้วยความผิดหวัง
“น้องลูกหยี เป็นเจ้าสาวให้ลุงณัฐ แต่งงานกับลุงณัฐหน่อยนะลูก” คุณเพ็ญจันทร์แม่ของเอกณัฐหันมาขอร้องลูกหยีทันที เธอรู้สึกโล่งอกที่ลูกชายไม่ต้องมาแต่งงานกับลูกเกดคนพี่
“กะ ก็ได้ค่ะ” เมื่อทุกคนบีบบังคับ ลูกหยีเลยจำต้องพยักหน้ารับ
“นี่ลุงกล้าว่าลูกหยี เพื่อปกป้องผู้หญิงคนนี้เหรอคะ งั้นลุงก็เอาเธอเข้ามาอยู่ในบ้านแทนลูกหยีอย่างที่เธอต้องการเลยค่ะ ลูกหยีจะไปเอง” พูดจบร่างบางก็หันหลังเตรียมเดินจากไปแต่ยังช้ากว่าที่แขนเรียวจะโดนยึดไว้ด้วยมือแข็งแรงของเอกณัฐ “หยุดก่อนลูกหยี เธอกำลังเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์เริ่มจะบบานปลายกว่าที่เขาตั้งใจให้เกิด ลูกหยีแสดงให้เขาเห็นแล้วว่าเธอเองหึงหวงเขาเกินคาด ส่วนอิงอรก็หมดประโยชน์สำหรับเขาแล้ว ที่เขาทนให้เธอเข้ามาใกล้ชิด เพียงแค่จะยืมมือเธอเพื่อลองใจเด็กน้อยของเขาเท่านั้นเอง ผู้หญิงอย่างอิงอรทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธอเข้าหาเขาด้วยเจตนาอะไร ยังไงก็แล้วแต่ตอนนี้เธอหมดประโยชน์กับเขาแล้ว เขาต้องเคลียร์ตัวเองให้บริสุทธิ์จากเธอเสียก่อน ก่อนที่เด็กน้อยขี้งอนของเขาจะงอนหนักกว่านี้ ร่างสูงหันไปมองอิงอรที่ยังคงยืนอยู่ด้วยสีหน้าที่ทำเหมือนไม่สบายใจ “ส่วนเธออิงอร เธอมีอะไรก็พูดมาตรง ๆ อย่าพยายามทำอะไรที่ไม่เหมาะสมอีก” เอกณัฐพูดเสียงเรียบแต่เด็ดขาด อิงอรที่รู้ว่าตัวเองถูกจับได้ก็เริ่มรู้สึกถึงความเสียหน้า เธอพยายามเก็บอาการ แต่ก็ไม่สามารถปิดบังได
“คุณเอกณัฐคะ สวัสดีค่ะฉันอิงอรนะคะ พอดีอรเป็นคนงานใหม่ของที่นี่ค่ะ คืออรยังไม่ค่อยเข้าใจวิธีเก็บใบชาที่ถูกต้องสักเท่าไหร่ รบกวนคุณเอกณัฐช่วยสอนอรได้ไหมคะ” เสียงร้องเรียกชื่อของเอกณัฐด้วยน้ำเสียงหวานๆ ทำให้เอกณัฐที่กำลังเดินตรวจงานในไร่ ดูคนงานเก็บใบชาอยู่ถึงกับชะงัก ก่อนที่จะหันมาตามเสียงเรียกก็พบคนงานสาวที่น่าจะเพิ่งมาทำงานใหม่ เพราะเขาไม่ค่อยคุ้นหน้าสักเท่าไหร่ยืนส่งยิ้มให้เขาอยู่ เธอดูเป็นคนที่มีเสน่ห์ รูปร่างหน้าตาสวยน่าจะดึงดูดความสนใจจากผู้ชายได้เป็นอย่างดี“เอ่อ แล้วหัวหน้าคนงานไปไหนครับ ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้สอนคนงานก่อนที่จะมาลงเก็บใบชาจริงๆเหรอ” เอกณัฐถามอย่างสงสัย“ที่จริงหัวหน้าเขาสอนแล้วค่ะ แต่ว่าอรจำไม่ค่อยได้ไม่แน่ใจว่าทำถูกหรือเปล่า เลยอยากให้คุณเอกณัฐสอนอีกครั้ง” อิงอรส่งสายตาที่สื่อความหมายชัดเจนมาให้กับเอกณัฐแบบที่เธอเคยใช้กับคนอื่นได้ผลอิงอรเป็นคนงานใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานในไร่ชา เธอเป็นคนสวยเธอใช้ความสวยที่มีแลกกับสิ่งต่างๆที่เธออยากได้จากผู้ชาย ตั้งแต่วันแรกที่อิงอรเข้ามาทำงานที่ไร่ชา เธอรู้ดีว่าเอกณัฐเป็นเจ้าของไร่ชาและเป็นคนที่น่าเคารพ แทนที่เธอจะเคารพในฐานะนาย
วันหนึ่งในขณะที่ลูกหยีกำลังทำงานอยู่ในไร่ชา เธอพลาดลื่นล้มระหว่างที่เดินไปเก็บใบชา ทำให้เธอบาดเจ็บเล็กน้อยที่ข้อเท้า แม้จะไม่ใช่บาดเจ็บหนัก แต่เธอก็รู้สึกเจ็บแปล๊บที่ข้อเท้าและเดินไม่สะดวก เอกณัฐที่อยู่ใกล้ ๆ รีบเข้ามาช่วยเหลือทันทีโดยไม่พูดอะไรมาก เขาอุ้มลูกหยีไปนั่งที่ร่มไม้ใกล้ ๆ และตรวจดูอาการด้วยท่าทางจริงจัง ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้แสดงอาการตกใจ แต่สายตาที่แสดงถึงความห่วงใยนั้นกลับชัดเจนอย่างมาก “เธอต้องพักสักหน่อย อย่าเพิ่งฝืนลุกยืน นั่งพักก่อน” เอกณัฐพูดขณะก้มลงดูที่ข้อเท้าของเธอ อย่างน้องก็ไม่ได้หักหรือแพลงอย่างที่เขากังวล ถึงลูกหยีจะยังรู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่ก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางของเขา เธอรู้สึกถึงความใส่ใจที่เขามอบให้ แม้จะไม่พูดอะไรมาก แต่การกระทำของเขาก็ทำให้เธอรู้สึกถึงความห่วงใยของเขา แค่นี้ก็ทำให้ดวงใจน้อยๆ ของเธอเต้นอีกแล้ว “ไม่เป็นไรค่ะ แค่นิดเดียวเอง หนูยังทำงานต่อไหว” ลูกหยีพูดอย่างพยายามให้ตัวเองดูเข้มแข็ง แต่เอกณัฐกลับมองเธออย่างนิ่ง ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “เธอไม่ต้องฝืน เดี๋ยวฉันจะช่วยดูทำงานที่เหลือเอง เธอนั่งพักก่อน อย่าดื้อ เข้าใจไหม เดี๋
หลังจากที่ลูกหยีตัดสินใจรับผิดชอบงานในไร่ชาอย่างจริงจัง เธอก็เริ่มฝึกฝนทักษะการทำอาหารควบคู่ไปด้วย แม้ว่าเธอจะไม่ใช่คนที่มีทักษะการทำอาหารมาก่อน แต่เธอก็ตั้งใจอยากทำอาหารให้เอกณัฐได้ชิม โดยเฉพาะหลังจากที่เธอรู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากำลังพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น วันนี้ลูกหยีตัดสินใจทำอาหารเย็นด้วยตัวเอง เธอต้องการทำเมนูง่าย ๆ แต่ต้องการให้เป็นมื้อพิเศษที่เอกณัฐสามารถชิมแล้วรู้สึกถึงความใส่ใจของเธอ เธอแอบศึกษาในยูทูปมาหลายเมนูดูแล้วดูอีก จนในที่สุดเธอก็ตัดสินใจทำเมนูที่คิดว่าเธอทำได้ ลูกหยีเริ่มต้นด้วยเมนูที่ง่ายที่สุดสำหรับมือใหม่อย่างเธอ นั่นก็คือไข่เจียวหมูสับ แม้ว่าเมนูนี้จะดูธรรมดา แต่เธอก็จะพยายามทำให้มันดีที่สุด เธอเตรียมหมูสับ ผสมกับเครื่องปรุงเล็กน้อย จากนั้นก็ตอกไข่ลงในชาม แล้วตีส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันอย่างตั้งใจ ขณะที่ทอดไข่ในกระทะ เธอก็พยายามจับจังหวะการพลิกไข่ให้ดูสวยงามและไม่ไหม้เกินไป เธอรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอจะทำอาหารให้เอกณัฐได้ชิม“ขออย่าให้ไหม้เลยนะ ไม่งั้นเสียหน้าเเย่เลย” ลูกหยีบ่นพึมพำกับตัวเอง ขณะที่พลิ





