แชร์

บทที่ 718

ผู้เขียน: โม่เสียวชี่
เฉียวเนี่ยนแทบจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาตลอดทาง จนเมื่อออกห่างจากเรือนลั่วเหมยได้ไกลแล้ว จึงได้หยุดฝีเท้าลง

นางหอบหายใจถี่ แต่ก็ไม่แน่ใจว่านั่นเป็นเพราะเหนื่อย หรือเพราะอยากระบายความรู้สึกแปลกประหลาดในใจออกมา

หนิงซวงที่ตามมาได้ทันอย่างยากลำบากก็หอบหายใจเช่นกัน แต่ก็ยังอดเป็นห่วงเฉียวเนี่ยนไม่ได้ “คุณหนู ไม่เป็นอะไรใช่ไหมเจ้าคะ?”

เฉียวเนี่ยนยืดตัวขึ้น สูดลมหายใจลึก แล้วจึงฝืนยิ้มออกมาอย่างแข็งทื่อ “อืม ไม่เป็นไร”

เรือนนี้ ต่อไปหากเลี่ยงได้ ก็ไม่อยากมาอีกแล้ว!

เมื่อปรับอารมณ์ได้แล้ว เฉียวเนี่ยนก็ตรงไปยังที่พำนักของหมอประจำจวน

จุดประสงค์ของการมาครั้งนี้ก็คือมาถามเรื่องของท่านพี่เซียวจากท่านหมอ จะปล่อยให้อารมณ์สับสนมาขัดขวางไม่ได้

เวลาราวหนึ่งก้านธูปต่อมา เฉียวเนี่ยนก็มาถึงเรือนของท่านหมอ

เรือนของท่านหมอไม่ใหญ่ มีห้องเพียงสองสามห้อง

พอเดินเข้าไปก็ได้กลิ่นยาสมุนไพรอ่อนๆ ลอยมา ในเรือนมีชั้นวางตั้งอยู่หลายชั้น แต่ละชั้นวางกระด้งไม้ไผ่ไว้สามสี่ใบ บนกระด้งมีสมุนไพรกำลังตากแห้งอยู่เป็นจำนวนมาก

ส่วนห้องทางทิศตะวันตก มีกลุ่มควันบางๆ ลอยออกมา

เฉียวเนี่ยนจึงเดินไปทางห้องนั้น แล้วก็พบว่าท่านหมออ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 720

    เฉียวเนี่ยนยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างเหม่อลอยอาจเพราะวันนี้นางระลึกถึงภาพในอดีตมากเกินไป จนเวลานี้กลับแข็งใจหันหลังจากไปอย่างเด็ดขาดไม่ได้เพียงได้ยินเสียงของท่านโหวหลินสั่นเล็กน้อย “ก็ ก็ถึงจะเป็นแค่แขก เจ้าของบ้านชวนกินข้าวสักมื้อก็เป็นเรื่องธรรมดา เจ้านี่รีบร้อนจะไปถึงเพียงนี้เลยหรือ?”นางมาจวนโหวในวันนี้ เมื่อรวมสิ่งที่พูดกับเขาและแม่เข้าไปด้วย เกรงว่าก็ยังพูดกับท่านหมอมากกว่าเสียอีก!เขาเองก็รู้ดีว่าเฉียวเนี่ยนจะมาวันนี้ แน่นอนว่าก็เพื่อมาหาท่านหมอ ยิ่งรู้ดีว่าทุกวันนี้ผู้คนต่างพูดกันว่านางคือศิษย์ของหมอเทวดา แท้จริงแล้วก็คือกำลังเรียนกับท่านหมอนั่นเองเขาไม่คิดขัดขวางเลยสักนิด กลับรู้สึกยินดีเสียด้วยซ้ำเพียงคิดว่า ท่านหมอเคยพูดว่าจะไม่ออกจากจวนโหวตลอดชีวิต แล้วหากเฉียวเนี่ยนไหว้ท่านหมอเป็นอาจารย์ วันหน้าเจ้าตัวก็ต้องมาที่จวนโหวอยู่เสมอเช่นนั้น อย่างน้อยพวกเขาก็จะได้เห็นหน้านางบ้างด้านหลังท่านโหวหลิน ยังมีหัวหน้าคนรับใช้ของจวนโหวยืนอยู่ด้วยเขาเองก็เป็นคนที่เห็นเฉียวเนี่ยนเติบโตมาตั้งแต่เล็กเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภายหลัง ในฐานะข้ารับใช้ เขาไม่อาจเอ่ยอะไรได้ แต่ในยามนี้ เ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 719

    ท่านหมอประคองเฉียวเนี่ยนให้ลุกขึ้น “ไม่จำเป็นต้องมีของพวกนั้น เจ้าศึกษาวิชาแพทย์ให้ดี ก็คือของขวัญไหว้ครูที่ดีที่สุดแล้ว!”ทั้งสองสบตากันแล้วยิ้มออกมา เฉียวเนี่ยนกลับนึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมาได้ “จริงสิท่านอาจารย์ ข้ามาวันนี้ ก็เพราะเรื่องของคุณชายใหญ่ตระกูลเซียว!”ได้ยินดังนั้น ท่านหมอก็ขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้น? โรคขากำเริบอีกหรือ?”“ก็ไม่เชิง” เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วกล่าว “เพียงแต่เมื่อคืนข้าพบว่า มือของคุณชายใหญ่ตระกูลเซียวเย็นเฉียบ ไม่เหมือนคนปกติ แต่แม้จะจับชีพจรแล้วก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะพิษในร่างเขายังไม่หมดสิ้นหรือไม่?”สีหน้าของท่านหมอก็พลันเคร่งเครียดขึ้นเช่นกัน “จับชีพจรแล้วไม่พบอะไร เช่นนี้อาจารย์อย่างข้าเองก็ไม่อาจฟันธงได้เช่นกัน”เฉียวเนี่ยนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าว “ใช่แล้ว ชีพจรดูเหมือนจะปกติ แต่ก็เหมือนจะมีบางอย่างแปลกๆ อยู่เหมือนกัน”แต่ตรงไหนที่แปลกนั้น เฉียวเนี่ยนก็ไม่สามารถอธิบายออกมาได้อย่างไรเสีย นางก็เพิ่งเรียนวิชาแพทย์มาไม่นาน หนังสือที่มีคำอธิบายอยู่ นางก็รักษาได้ แต่หากไม่มีคำอธิบาย นางก็ไม่ต่างจากแมลงวันที่บินหาทางไม่เจอท่านหมอก็ดูจ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 718

    เฉียวเนี่ยนแทบจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาตลอดทาง จนเมื่อออกห่างจากเรือนลั่วเหมยได้ไกลแล้ว จึงได้หยุดฝีเท้าลงนางหอบหายใจถี่ แต่ก็ไม่แน่ใจว่านั่นเป็นเพราะเหนื่อย หรือเพราะอยากระบายความรู้สึกแปลกประหลาดในใจออกมาหนิงซวงที่ตามมาได้ทันอย่างยากลำบากก็หอบหายใจเช่นกัน แต่ก็ยังอดเป็นห่วงเฉียวเนี่ยนไม่ได้ “คุณหนู ไม่เป็นอะไรใช่ไหมเจ้าคะ?”เฉียวเนี่ยนยืดตัวขึ้น สูดลมหายใจลึก แล้วจึงฝืนยิ้มออกมาอย่างแข็งทื่อ “อืม ไม่เป็นไร”เรือนนี้ ต่อไปหากเลี่ยงได้ ก็ไม่อยากมาอีกแล้ว!เมื่อปรับอารมณ์ได้แล้ว เฉียวเนี่ยนก็ตรงไปยังที่พำนักของหมอประจำจวนจุดประสงค์ของการมาครั้งนี้ก็คือมาถามเรื่องของท่านพี่เซียวจากท่านหมอ จะปล่อยให้อารมณ์สับสนมาขัดขวางไม่ได้เวลาราวหนึ่งก้านธูปต่อมา เฉียวเนี่ยนก็มาถึงเรือนของท่านหมอเรือนของท่านหมอไม่ใหญ่ มีห้องเพียงสองสามห้องพอเดินเข้าไปก็ได้กลิ่นยาสมุนไพรอ่อนๆ ลอยมา ในเรือนมีชั้นวางตั้งอยู่หลายชั้น แต่ละชั้นวางกระด้งไม้ไผ่ไว้สามสี่ใบ บนกระด้งมีสมุนไพรกำลังตากแห้งอยู่เป็นจำนวนมากส่วนห้องทางทิศตะวันตก มีกลุ่มควันบางๆ ลอยออกมาเฉียวเนี่ยนจึงเดินไปทางห้องนั้น แล้วก็พบว่าท่านหมออ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 717

    และทุกครั้งก็มักจะจับปลาได้หลายตัวครั้งหนึ่งจับได้ปลาตัวหนึ่ง ขนาดยาวกว่าต้นแขนของนางเสียอีก ดิ้นแรงมาก ตัวเล็กๆ อย่างนางจะอุ้มไว้ได้อย่างไร ปลาตัวนั้นใช้หางตบหน้านางไปหลายทีก่อนจะหนีกลับลงน้ำทำเอานางร้องไห้โฮ กลับไปจวนโหวทั้งน้ำตาต่อมาก็เป็นท่านโหวหลินทำทีว่าต้องล้างแค้นให้นาง ผ่านไปหนึ่งชั่วยามก็กลับมาในสภาพเปียกโชกทั้งตัว มือหนึ่งถือปลาตัวโตตอนเด็กๆ นางไม่เข้าใจอะไร เพียงรู้สึกว่าท่านพ่อของตนเก่งมากทว่ายามนี้เมื่อนึกย้อนกลับไป ปลาตัวที่หนีลงน้ำไปแล้ว จะจับกลับมาได้อย่างไร?ท่านโหวหลินย่อมต้องไปซื้อปลามาตัวหนึ่ง แล้วจึงแกล้งทำตัวเปียกปอนทั้งร่างก่อนกลับมาก็เพื่อเอาใจลูกสาวคนเดียวของพวกเขานางเคยเป็นลูกสาวผู้เป็นแก้วตาดวงใจคนเดียวของพวกเขาเห็นเฉียวเนี่ยนไม่ตอบ ฮูหยินหลินก็พูดอย่างลับๆ ล่อๆ ว่า “นางจะไปจับปลาน่ะสิ! ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าดูสิ เด็กคนนี้น่าประหลาดไหม? ตัวแค่นี้กลับมีความสามารถเช่นนี้! แต่ก็เพราะนางกตัญญู ข้าแค่เผลอเอ่ยปากอยากกินต้มปลา นางก็จำขึ้นใจ ไม่รู้ว่าไปเรียนการจับปลามาจากใคร!”พูดมาถึงตรงนี้ ฮูหยินหลินก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง “เมื่อวานนางยังร้องไห้กลับมาเลย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 716

    เมื่อผลักประตูเรือนลั่วเหมยเข้าไป สิ่งแรกที่เห็นก็คือต้นเหมยขนาดใหญ่หลายต้นตอนนี้เพิ่งจะต้นฤดูใบไม้ร่วง ต้นเหมยยังไม่ออกดอก แต่ไม้ดอกอื่นๆ ที่ปลูกแซมอยู่ระหว่างต้นเหมย อย่างดอกท้อ ยี่เข่ง และต้นฝนทอง ก็ทำให้เรือนลั่วเหมยอบอวลด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ตลอดทั้งปี มีชีวิตชีวาตอนนี้เป็นฤดูกาลที่ดอกพุดตานกำลังบานสะพรั่งดอกไม้สีสันสดใสและขนาดใหญ่เหล่านั้นแผ่บานออกมา ทำให้เรือนลั่วเหมยมีบรรยากาศที่แตกต่างออกไปครั้งล่าสุดที่มาเรือนลั่วเหมย คือตอนไหนกันนะ?เฉียวเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะคิดทบทวนอย่างละเอียดอืม น่าจะเป็นตอนที่นางถือดาบมาทำร้ายหลินยวนตอนนั้นนางมุ่งมั่นจะแก้แค้นให้ท่านย่าจ้องแต่จะหาหลินยวนให้เจอ ไม่ได้มองสถานที่ที่เติบโตมาด้วยสายตาแบบนี้เลยสักครั้งตอนนี้กลับได้มองอย่างถี่ถ้วนเสียทีแต่ว่ารูปปั้นหินข้างกำแพงเรือนได้ถูกเปลี่ยนเป็นกระถางต้นไม้ ชิงช้าทางตะวันออกของลานก็หายไปแล้ว กลับกลายเป็นศาลาเล็กๆ หลังหนึ่งแทนคงเป็นสิ่งที่หลินยวนอยากจะสร้างกระมัง!เรือนลั่วเหมยหลังนี้ ไม่ใช่เรือนที่อยู่ในความทรงจำของนางอีกต่อไปแล้ว“ฮูหยินเจ้าคะ ระวัง!” เสียงร้องเตือนดังมาจากไม่ไกลเฉียวเน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 715

    กล่าวจบก็หันหลังเดินออกไปเมื่อมองแผ่นหลังของเซียวเหิง เซียวเหออดถอนหายใจไม่ได้ คิดไปคิดมาก็ยังตัดสินใจไล่ตามไป“เจ้าบาดเจ็บสาหัส อย่าฝืนเลย!”ครานี้เซียวเหิงกลับไม่สะบัดมือของเซียวเหอออกอีก แต่ก็ยังคงจ้องเขาเขม็ง “นางยังพูดอะไรกับท่านอีกบ้าง?”เซียวเหอจึงนึกขึ้นได้ถึงเรื่องที่มือของตนเย็นเฉียบ แต่กลับไม่ใส่ใจ เพียงกล่าวว่า “ไม่มีอะไร”“จริงหรือ?”“เดินไปเถอะน่า”“…แค่ดูก็รู้เลยว่าพวกท่านพูดคุยกันอีกมากมายนัก”เพียงแต่ไม่ว่าเซียวเหิงจะซักไซ้เท่าไร เซียวเหอก็ไม่เอ่ยอะไรอีกวันรุ่งขึ้นเฉียวเนี่ยนยืนอยู่หน้าประตูใหญ่ของจวนโหว มองป้ายชื่อที่สูงใหญ่ด้วยใจที่เต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายทั้งที่ตอนจากไป นางเคยสาบานกับป้ายชื่อจวนนี้ไว้ว่าชาตินี้จะไม่มีวันกลับมาอีกแต่ตอนนี้เพิ่งผ่านไปได้ไม่นานเท่าไร?นางสูดลมหายใจเข้าลึก แต่นางก็ไม่อาจข่มความรู้สึกประหลาดในใจลงได้เพียงแต่เฉียวเนี่ยนคิดว่าครานี้นางกลับมาเพื่อท่านพี่เซียว เพื่อปกป้องหมอประจำจวน คิดว่าหากท่านย่ารู้เข้า คงยกโทษให้นางได้ในครานี้หนิงซวงยืนอยู่ข้างหลังเฉียวเนี่ยน ก็บังเอิญสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดของเฉียวเนี่ยน จึงอ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status