Share

บทที่ 809

Author: โม่เสียวชี่
เซียวเหิงสีหน้าเคร่งขรึม “รองผู้ตรวจราชการหลวงวั่นจะพูดสิ่งใดก็ต้องมีหลักฐาน หากเอาแต่พูดลอยๆ ดาบที่เอวของแม่ทัพผู้นี้คงไม่ยอมแน่”

วั่นเจ๋อเยว่ตกใจอีกครั้ง ครู่หนึ่งก็คล้ายจะนึกอะไรขึ้นได้ รีบกล่าวว่า “เป็นองค์หญิง! เป็นองค์หญิงส่งคนมาใส่ร้ายข้า! ฝ่าบาท แน่นอนว่า...”

“เพียะ!”

เสียงแว่วดังขึ้น ตบฉาดหนึ่งฟาดลงบนใบหน้าของวั่นเจ๋อเยว่เต็มแรง

มือของอัครมหาเสนาบดีวั่นสั่นระริก “ไอ้สารเลว! จนถึงวันนี้ ยังคิดจะโยงใครต่อใครไปทั่วอีกหรือ!”

เพียงฝ่ามือเดียว เพียงประโยคเดียว ท้ายที่สุดก็ทำให้วั่นเจ๋อเยว่สงบลงได้

วันนี้ เขาไม่มีทางรอดพ้นโทษอยู่แล้ว และหากยังคงคลุ้มคลั่งต่อไป เกรงว่าจะยิ่งนำภัยใหญ่หลวงมาสู่ตระกูลวั่น

ดังนั้น แม้ในอกยังเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและไม่ยินยอม เขาก็ยังต้องบังคับตัวเองให้เงียบลง ไม่เอ่ยสิ่งใดอีก

มีเพียงดวงตาที่แดงก่ำ น้ำตาไหลพราก ตัวสั่นระริก

ฮ่องเต้เองก็เดือดดาลจนแทบควบคุมไม่อยู่ “วั่นเจ๋อเยว่ช่างอุกอาจนัก! ทุบตีทารุณภรรยายังไม่พอ ยังทำเรื่องชั่วร้ายอย่างวางยาอีก ช่างสมควรตาย!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น อัครมหาเสนาบดีวั่นก็รีบทรุดตัวลงคุกเข่า “ฝ่าบาท...”

แต่กลับพูดคำขอ
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Pinakabagong kabanata

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 812

    เห็นสีหน้าของเฉียวเนี่ยนเริ่มแสดงความไม่สู้ดีออกมา องค์หญิงซูหยวนจึงหัวเราะออกมาในที่สุด“เอาล่ะ เจ้าไม่ต้องกังวล ขอเพียงเจ้าตั้งใจทำงานให้กับเรา เราก็ย่อมจะไม่ทำอะไรพระปิตุลาแน่” องค์หญิงซูหยวนกล่าวอย่างช้าๆ แต่เสียงของนางกลับยิ่งฟังดูเย็นเยียบ “ถึงอย่างไร เขาก็เป็นวีรบุรุษผู้ปกป้องบ้านเมืองนี่นะ”ยังคงเป็นน้ำเสียงที่ฟังไม่ออกว่าเป็นการชมเชยหรือแดกดันกันแน่เฉียวเนี่ยนสูดลมหายใจเข้าลึก ข่มความไม่สบายใจในใจลงไปเพียงได้ยินองค์หญิงซูหยวนกล่าวว่า “แต่เอาเข้าจริง เจ้าก็เป็นคุณหนูบุตรสาวสายตรงของจวนโหว หากอยากจะเป็นพระชายาอ๋องผิงหยางขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ถึงตอนนั้น เราจะช่วยพูดเรื่องดีๆ เกี่ยวกับเจ้าต่อเสด็จพ่อ เสด็จพ่อย่อมพระราชทานการสมรสให้เป็นแน่”เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย “องค์หญิงเพคะ หม่อมฉันมิได้มี...”“แต่ก่อนหน้านั้น เจ้าต้องช่วยเราอย่างหนึ่งก่อน”องค์หญิงซูหยวนไม่คิดจะฟังเฉียวเนี่ยนพูดเลย และก็ไม่ได้ยินว่าเฉียวเนี่ยนพูดอะไรออกมาด้วยซ้ำนางพูดต่อ “ในเมื่อเจ้าหมายมั่นจะเป็นพระชายาอ๋องผิงหยาง เช่นนั้นย่อมไม่เหลียวแลเซียวเหิงแล้ว ถ้าเช่นนั้นก็ช่วยเราหน่อ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 811

    เฉียวเนี่ยนทำหน้าตาไร้เดียงสา “องค์หญิงอยากฟังหม่อมฉันพูดอะไรหรือเพคะ”“เซียวเหอเคยเป็นสามีของเจ้า ตอนนี้เขายอมเสี่ยงเพื่อผู้หญิงอีกคนหนึ่ง เจ้าไม่โกรธหรือ?”เฉียวเนี่ยนจึงหัวเราะเบาๆ “เรื่องการแต่งงานระหว่างหม่อมฉันกับคุณชายใหญ่ตระกูลเซียว ก็เป็นเพียงการจัดฉากเพียงเพราะหม่อมฉันไม่อยากแต่งงานกับท่านแม่ทัพเซียวเท่านั้นเพคะ หม่อมฉันกับเขา ระหว่างเราจึงไม่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวใดๆ ทั้งสิ้น”องค์หญิงซูหยวนจ้องมองใบหน้าเฉียวเนี่ยน คิดอยู่ในใจว่านางดูเหมือนจะไม่ได้ชอบเซียวเหอจริงๆแต่ก็อดถามต่อไม่ได้ “เช่นนั้น เจ้าก็ไม่ได้ชอบเซียวเหิงด้วยหรือ?”ทั้งพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อหลีกเลี่ยงการสมรสพระราชทานจากเสด็จพ่อ ทั้งถึงขั้นยอมแต่งกับคนพิการ ไม่ยอมแต่งกับเซียวเหิง แบบนี้ก็คงเรียกว่าไม่ชอบได้ใช่ไหม!เฉียวเนี่ยนยิ้มบางๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อยแม้ว่าองค์หญิงซูหยวนจะรู้คำตอบในใจอยู่แล้ว แต่พอเห็นเฉียวเนี่ยนยอมรับอย่างเปิดเผยเช่นนี้ นางกลับรู้สึกโกรธขึ้นมาอย่างไร้เหตุผลหว่างขมวดคิ้วเล็กน้อย นางมองเฉียวเนี่ยนอย่างพิจารณาอีกครั้ง แล้วจึงหัวเราะเย็นชา “ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่าคุณหนูเฉียวจ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 810

    เดิมทีองค์หญิงซูหยวนก็แค่มาดูเรื่องสนุกเมื่อเห็นอัครมหาเสนาบดีวั่นยังฝืนรักษาท่าทีไว้เช่นนั้น สีหน้าที่เต็มไปด้วยการเยาะเย้ยในดวงตาขององค์หญิงซูหยวนพร้อมรอยยิ้มตรงมุมปากยิ่งเผยออกชัดเจนขึ้นก็แค่คนแก่ใกล้จะลงโลงคนหนึ่งเท่านั้น ยังกล้ามาต่อกรกับนาง ช่างไม่รู้จักประมาณตนจริงๆ!คราวนี้แค่วั่นเจ๋อเยว่คนเดียว หากยังกล้ามายั่วโมโหนางอีก คราวหน้าก็นางจะจับทั้งตระกูลวั่นโยนเข้าคุกให้หมด!คิดเช่นนี้แล้ว องค์หญิงซูหยวนก็อดหัวเราะคิกคักเบาๆ ออกมาไม่ได้ แล้วจึงหันไปมองเฉียวเนี่ยน “ทำได้ดีมาก ตามองค์หญิงผู้นี้ไปเข้าเฝ้าเสด็จแม่กันเถอะ!”กล่าวจบ องค์หญิงซูหยวนก็หันหลังเดินจากไปเฉียวเนี่ยนกลับยังไม่ได้ตามไปทันที สายตาอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองทางท้องพระโรงก็เห็นราชครูชิวจากไปลำพัง เมิ่งซ่างซูเองก็ดูจะพูดอะไรบางอย่างกับอัครมหาเสนาบดีวั่นส่วนท่านโหวหลินกับเซียวเหิงต่างก็ยืนอยู่ตรงนั้น พากันมองมาทางนางราวกับว่ากำลังรอนางกลับไปพูดอะไรด้วยสักอย่างเฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วแน่นเป็นปม ท้ายที่สุดก็ละสายตาแล้วรีบตามองค์หญิงซูหยวนไปเส้นทางไปยังตำหนักเรือนนอนฮองเฮานั้นไม่ถือว่าใกล้ ระหว่างทาง องค์หญิง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 809

    เซียวเหิงสีหน้าเคร่งขรึม “รองผู้ตรวจราชการหลวงวั่นจะพูดสิ่งใดก็ต้องมีหลักฐาน หากเอาแต่พูดลอยๆ ดาบที่เอวของแม่ทัพผู้นี้คงไม่ยอมแน่”วั่นเจ๋อเยว่ตกใจอีกครั้ง ครู่หนึ่งก็คล้ายจะนึกอะไรขึ้นได้ รีบกล่าวว่า “เป็นองค์หญิง! เป็นองค์หญิงส่งคนมาใส่ร้ายข้า! ฝ่าบาท แน่นอนว่า...”“เพียะ!”เสียงแว่วดังขึ้น ตบฉาดหนึ่งฟาดลงบนใบหน้าของวั่นเจ๋อเยว่เต็มแรงมือของอัครมหาเสนาบดีวั่นสั่นระริก “ไอ้สารเลว! จนถึงวันนี้ ยังคิดจะโยงใครต่อใครไปทั่วอีกหรือ!”เพียงฝ่ามือเดียว เพียงประโยคเดียว ท้ายที่สุดก็ทำให้วั่นเจ๋อเยว่สงบลงได้วันนี้ เขาไม่มีทางรอดพ้นโทษอยู่แล้ว และหากยังคงคลุ้มคลั่งต่อไป เกรงว่าจะยิ่งนำภัยใหญ่หลวงมาสู่ตระกูลวั่นดังนั้น แม้ในอกยังเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและไม่ยินยอม เขาก็ยังต้องบังคับตัวเองให้เงียบลง ไม่เอ่ยสิ่งใดอีกมีเพียงดวงตาที่แดงก่ำ น้ำตาไหลพราก ตัวสั่นระริกฮ่องเต้เองก็เดือดดาลจนแทบควบคุมไม่อยู่ “วั่นเจ๋อเยว่ช่างอุกอาจนัก! ทุบตีทารุณภรรยายังไม่พอ ยังทำเรื่องชั่วร้ายอย่างวางยาอีก ช่างสมควรตาย!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น อัครมหาเสนาบดีวั่นก็รีบทรุดตัวลงคุกเข่า “ฝ่าบาท...”แต่กลับพูดคำขอ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 808

    เมื่อคำกล่าวนั้นหลุดออกไป อัครมหาเสนาบดีวั่นก็เข้าใจขึ้นมาในทันที ว่าเฉียวเนี่ยนได้วางแผนสำรองไว้ที่ตระกูลวั่นแล้วไม่ ไม่ใช่เฉียวเนี่ยนเป็นเพียงแค่หมอหญิงเท่านั้น ตอนไปที่ตระกูลวั่นก็ได้เข้าไปเพียงที่พักของเมิ่งอิ้งจือเพียงที่เดียวหากนางทิ้งหลักฐานไว้ในที่พักของเมิ่งอิ้งจือ ข้อกล่าวหาของนางก็สามารถถูกโต้แย้งได้โดยง่ายดาย เช่นนั้นการกระทำเช่นนี้ของเฉียวเนี่ยน ก็เหมือนเป็นการลากตัวเองลงน้ำหากไม่ใช่เฉียวเนี่ยน เช่นนั้น เป็นผู้ใดกัน?จู่ๆ ในหัวของอัครมหาเสนาบดี ก็มีภาพรอยยิ้มเย็นชาขององค์หญิงซูหยวนผุดขึ้นมาในตอนนี้เอง สีหน้าเขาก็ดูแย่มากส่วนฮ่องเต้ก็ทรงออกคำสั่ง "เรียกคนไปตรวจสอบที่พักอาศัยของวั่นเจ๋อเยว่เดี๋ยวนี้!"ไม่ได้ให้ตรวจค้นทั้งตระกูลวั่น ก็ถือเป็นการไว้หน้าอัครมหาเสนาบดีวั่นมากแล้วและก็เป็นการบอกอัครมหาเสนาบดีวั่น ว่าเรื่องนี้จะไม่ไปเกี่ยวพันกับคนอื่นๆ ในตระกูลวั่นมากนักส่วนอัครมหาเสนาบดีวั่นเองก็เข้าใจดี ว่าหากพบยาพิษในที่พักของวั่นเจ๋อเยว่จริงๆ เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปกป้องตระกูลวั่นให้ดีที่สุด ด้วยการละทิ้งหลานชายคนโตที่เขารักที่สุด!หน้าของวั่นเจ๋อเยว่ซ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 807

    จึงมิกล้าเอ่ยสิ่งใดต่อแต่สิ่งที่เขาควรพูด ก็ได้กล่าวชัดเจนหมดแล้วในฐานะสามี วั่นเจ๋อเยว่ไม่ยอมรับว่าตนได้ลงมือกับเมิ่งอิ้งจือในฐานะพ่อแท้ๆ เมิ่งซ่างซูก็แสดงจุดยืนที่ไม่กล่าวโทษตำหนิวั่นเจ๋อเยว่‘เรื่องภายในครอบครัว’ เรื่องนี้ดูเหมือนว่าจะจบลงได้ด้วยการลดขนาดเรื่องใหญ่ให้เล็กลงส่วนข้อหาของเฉียวเนี่ยนที่ ‘อาศัยเดชากดขี่ผู้อื่น’ ‘ใส่ร้ายผู้ภักดี’ กลับสามารถขยายให้ใหญ่ขึ้นได้ไม่จำกัดช่วงหนึ่ง ทิศทางของคนในท้องพระโรงก็ชัดเจนขึ้นทันตาความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลวั่นกับตระกูลเมิ่ง ก็ดูจะเหนียวแน่น ไม่อาจทำลายได้ฮ่องเต้สีหน้าหม่น เคียงว่าจะตัดสินเรื่องนี้ แต่ไม่คิดว่าเฉียวเนี่ยนจะเอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง“ฝ่าบาท หม่อมฉันยังมีเรื่องจะกราบทูลเพคะ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น วั่นเจ๋อเยว่และคนอื่นๆ ต่างก็ขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าเฉียวเนี่ยนจะพยายามต่อสู้แบบไม่กลัวใครอะไรอีกฮ่องเต้ก็เพียงขมวดคิ้ว แล้วตรัสว่า “พูดมา”“โรคของคุณหนูเมิ่ง มิได้เกิดจากการถูกทารุณอย่างเดียว หากแต่ถูกวางยาพิษด้วยเพคะ”เมื่อประโยคนั้นหลุดออกมา ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างตกใจวั่นเจ๋อเยว่ยิ่งตะโกนอย่างเดือดดาล “เฉียวเนี่ยน อย่า

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status