FAZER LOGINแอบรักแอบเฝ้ามองมาเนิ่นนาน แต่เมื่อคิดจะตัดใจ สวรรค์ก็เป็นใจให้ประธานหนุ่มสายเปย์ มีหรือที่เขาจะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือ งานนี้เขาจึงต้องทั้งรุกทั้งรักไปพร้อมกัน
Ver maisจันทร์เจ้า ทองปัญญา เลขานุการสาวมากความสามารถของประธานบริษัท Eternal Gems ผู้ผลิตอัญมณีและเครื่องประดับรายใหญ่ระดับประเทศ กำลังนั่งพิมพ์รายงานการประชุมอย่างขะมักเขม้น ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงแจ้งเตือนข้อความจากสมาร์ตโฟนเครื่องหรู เธอละสายตาจากหน้าจอสี่เหลี่ยมตรงหน้า หันมาคว้าอุปกรณ์สื่อสารคู่ใจ กดเปิดข้อความขึ้นมาก็ต้องตกใจ
“โอ๊ย ทำงานลืมเวลาทุกที ป่านนี้ยัยหวานหิวแย่แล้ว” จันทร์เจ้าบ่นพึมพำกับตัวเองที่ทำงานจนเวลาล่วงเลยมาขนาดนี้ ซึ่งเธอก็มักจะเป็นเช่นนี้เสมอ จนบอสของเธอต้องเป็นฝ่ายคอยเตือนอยู่บ่อยครั้ง
แต่ทว่าหลายวันมานี้ท่านประธานหนุ่มเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ เลขาฯสาวจึงถือโอกาสนัดรับประทานอาหารกลางวันกับแวววิวาห์ รุ่นน้องคนสนิทที่เพิ่งจะเข้ามาทำงานที่นี่ได้ไม่นาน
จันทร์เจ้าคลิกเซฟรายงานการประชุม ก่อนจัดการชัตดาวน์เครื่องคอมพิวเตอร์ ลุกขึ้นคว้ากระเป๋าสะพายใบกะทัดรัด และหันไปหยิบกล่องขนมสีชมพูพาสเทลขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ก่อนจะเดินไปยังลิฟต์โดยสาร
เมื่อจันทร์เจ้าลงมาถึงชั้นล่างของบริษัท ก็เห็นหญิงสาวร่างเล็กหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักกำลังยืนโบกไม้โบกมืออยู่ตรงประตูทางออก
“รอนานไหม พี่ขอโทษนะทำงานเพลินไปหน่อย”
“ไม่นานเท่าไหร่ ก็แค่พยาธิในท้องร้องขอชีวิต” แวววิวาห์กล่าวพร้อมทำหน้าทะเล้น
“โธ่ พยาธิน้อยของพี่” จันทร์เจ้าว่าพลางยกมือลูบศีรษะเล็กของรุ่นน้อง “ไป ๆ เดี๋ยวพี่ไถ่โทษด้วยการเลี้ยงข้าวเที่ยง”
สองสาวเดินควงแขนกันออกไปจากบริษัท มุ่งหน้าสู่ร้านอาหารอีสานรสเด็ดเจ้าประจำซึ่งอยู่ในซอยข้างบริษัท
ทันทีที่พวกเธอไปถึงแวววิวาห์ก็จัดการสั่งอาหารมากมายด้วยความหิว ก่อนจะเดินตามจันทร์เจ้ามานั่งที่โต๊ะ
ระหว่างนั่งรอจันทร์เจ้าเปิดกล่องขนมที่เธอถือติดมือมา เลื่อนไปตรงหน้าแวววิวาห์ ด้านในมีกามารองหลากสีสันวางเรียงรายอัดแน่นเต็มกล่อง
“อ่ะ กินรองท้องก่อน”
“โห นี่มันมาการองเจ้าดังจากปารีสไม่ใช่เหรอพี่เจ้า”
“อืม บอสซื้อมาฝาก”
“วันนี้บอสมาด้วยเหรอ นึกว่ายังไม่กลับจากปารีสซะอีก” แวววิวาห์เอ่ยถามพร้อมหยิบมาการองสีเขียวพาสเทลขึ้นมากัดพลางเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
“บอสแวะเอามาให้เมื่อเช้าตอนลงจากเครื่องน่ะ ตอนนี้กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เดี๋ยวเข้ามาอีกทีช่วงบ่าย” จันทร์เจ้ากล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนหยิบขนมแสนอร่อยที่เธอโปรดปรานขึ้นมารับประทาน
ขนมราคาแพงนี้ เธอได้มีโอกาสลิ้มลองครั้งแรกตอนที่เพิ่งจะเริ่มทำงานที่นี่ใหม่ ๆ โดยบอสหนุ่มผู้ใจดีซื้อมาฝากจากฝรั่งเศส
และเมื่อเขารู้ว่าเธอชื่นชอบเจ้าขนมสีสันสดใสนี้ ทุกครั้งที่ชายหนุ่มเดินทางไปทำงานที่นั่น เขาก็จะซื้อกลับมาฝากเธอเสมอจนกลายเป็นเรื่องปกติไปโดยปริยาย
“...” แวววิวาห์นั่งนิ่ง หรี่ตามองรุ่นพี่คนสนิทอย่างใช้ความคิด
“อะไร ทำไมมองพี่แบบนั้นล่ะ”
“พี่เจ้าเคยคิดบ้างไหมว่าบอสเขาแอบชอบพี่”
“ยัยหวาน เธอจะบ้าเหรอ คนระดับ
บอสเนี่ยนะ หล่อ รวย ไม่รวยธรรมดานะ รวยมหาศาล ทำงานเก่ง เพอร์เฟ็กต์ขนาดนั้น เขาไม่มีทางมาชอบพี่หรอก แล้วอีกอย่างหนึ่งบอสก็รู้ว่าพี่น่ะมีแฟนแล้ว”เมื่อจันทร์เจ้าเอ่ยถึงต่อตระกูล แฟนหนุ่มที่เพิ่งคบหากันหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย แวววิวาห์ก็ทำหน้ามุ่ยขึ้นมาทันที ด้วยความที่
แวววิวาห์ก็รู้จักต่อตระกูลเช่นเดียวกัน ชายหนุ่มนั้นเรียนคณะเดียวกับแวววิวาห์และจันทร์เจ้า ซึ่งแวววิวาห์ไม่ค่อยถูกชะตาเท่าไรนัก เพราะหล่อนรู้สึกถึงความไม่จริงใจของชายหนุ่ม ที่ถูกปกปิดไว้ด้วยภาพลักษณ์อบอุ่นแสนดีต่อตระกูลตามจีบจันทร์เจ้าอยู่นาน ตอนแรกเธอก็ปฏิเสธไปหลายครั้ง แต่ชายหนุ่มก็ยังคงพยายามอย่างไม่ลดละ เพื่อนฝูงเองก็คอยเชียร์คอยชง จนท้ายที่สุดจันทร์เจ้าก็เริ่มใจอ่อน
ในเมื่อเธอเองก็ยังไม่มีใคร อีกทั้งยังใกล้จะเรียนจบในอีกไม่ช้า จันทร์เจ้าจึงลองเปิดใจคบหากับต่อตระกูล
หลังจากเรียบจบ ทั้งคู่ก็ต่างแยกย้ายกันไปทำงาน ในช่วงครึ่งปีแรกนั้นต่อตระกูลยังคงทำหน้าที่แฟนได้เป็นอย่างดี มีเวลาให้เธอเสมอ หากไม่ได้เจอกัน เขาก็หมั่นโทรหาไม่เคยขาด
ทว่าพอผ่านพ้นครึ่งปีแรกไป ชายหนุ่มก็เริ่มไม่มีเวลาให้เธอ โดยอ้างว่างานยุ่ง ซึ่งจันทร์เจ้าเองก็เข้าใจ เพราะงานเลขานุการของเธอนั้นก็หนักหนาไม่แพ้กัน
ช่วงหลังมานี้จันทร์เจ้ารู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเธอและคนรักนั้นแย่ลงกว่าเดิม เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะโทรหา ไม่มีแม้กระทั่งข้อความ และถ้าหากเธอโทรไปเขาก็มักจะแสดงความไม่พอใจอยู่ในน้ำเสียง ทำให้จันทร์เจ้าจึงเริ่มหันมาทบทวนความสัมพันธ์ และพยายามที่จะนัดแฟนหนุ่มมาเปิดอกคุยกันให้เข้าใจ แต่มันก็ช่างยากเย็นเหลือเกิน
“พี่เจ้า น้องถามตรง ๆ พี่มีความสุขแน่นะที่คบกับพี่ต่อ แล้วดูเมื่อวานตอนที่พี่เจ้าโทรไป...” คำถามแทงใจดำของแวววิวาห์ทำเอาจันทร์เจ้าอึ้งไป เนื่องจากเมื่อวานตอนที่สองสาวอยู่ด้วยกันช่วงพักกลางวัน จันทร์เจ้าลองโทรหาแฟนหนุ่มที่ขาดการติดต่อไปหลายวัน เพียงแค่จันทร์เจ้าเอ่ยถามว่าอยู่ที่ไหนทำอะไรอยู่เท่านั้นแหละ ฝ่ายนั้นกลับฉุนเฉียว ขึ้นเสียงผ่านโทรศัพท์ แม้กระทั่งแวววิวาห์ที่นั่งอยู่ติดกันยังได้ยิน
“ช่วงนี้ต่องานยุ่งน่ะ เมื่อคืนก็โทรมาขอโทษพี่แล้ว พี่ไม่เป็นไรหรอกนะหวาน”
“พี่เจ้า...หวานก็แค่อยากเห็นพี่มีความสุข ไม่ใช่ทำหน้าเศร้าทุกครั้งที่คุยโทรศัพท์กับแฟน”
“อืม พี่รู้ว่าหวานเป็นห่วง แต่พี่ก็อยากทำให้เต็มที่ ถ้าวันหนึ่งมันถึงที่สุดแล้ว พี่จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง”
“ค่ะ...” แวววิวาห์ลากเสียงยาว “คุณเลขาฯคนสวยผู้จริงจังไปซะทุกเรื่อง น้องล่ะยอมเลยจริง ๆ”
แวววิวาห์กล่าวจบก็ส่งยิ้มให้กำลังใจ
จันทร์เจ้า และการสนทนานั้นก็ต้องจบลงเมื่อพนักงานยกอาหารมาเสิร์ฟ สองสาวจึงไม่รอช้า รีบลงมือจัดการอาหารอีสานรสเด็ดให้ตกถึงท้องอย่างรวดเร็วงานเปิดตัวเครื่องประดับคอลเล็กชันใหม่ของบริษัท Eternal Gems ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมกับเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องประดับและอัญมณีรายใหญ่ระดับประเทศแขกเหรื่อที่มาร่วมงานล้วนแล้วแต่เป็นไฮโซเซเลบริตี้ผู้มีชื่อเสียงในแวดวงสังคม หลายคนต่างหมายมั่นอยากจับจองเป็นเจ้าของเครื่องประดับหรูหราที่ถูกผลิตขึ้นมาอย่างประณีตวิจิตรบรรจง นอกจากนี้ยังมีนักธุรกิจจากอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับจากทั่วทุกมุมโลกให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากงานถูกจัดกินเวลายาวนานเกือบตลอดทั้งสัปดาห์ โดยในสองวันแรกจะเป็นงานจัดแสดงสินค้าสำหรับนักธุรกิจ และอีกสองวันหลังจากนั้นจะเป็นวันค้าปลีก ที่มีการเปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้ามาชื่นชมและเลือกซื้อเครื่องประดับได้ตามอัธยาศัย และในวันสุดท้ายเป็นงานเลี้ยงขอบคุณคู่ค้าและพนักงานของบริษัท“พี่เจ้าอันนี้อร่อยมาก”แวววิวาห์เดินถือจานอาหารที่หล่อนตักมาจนพูนจานวางลงตรงหน้าจันทร์เจ้า เลขาฯคนสวยหันมาเห็นก็ขำพรวดออกมา ใจหนึ่งก็ขำ อีกใจหนึ่งก็สงสารรุ่นน้องคนสนิทที่ต้องทำงานอย่างหนักมาตลอดทั้งสัปดาห์ วันนี้ทั้งวันสองสาวได้รับประทานเพียงแครกเกอร์และกาแฟเท่านั้น จึงไม่แปลกเลยที่แวววิวาห์จ
ภายในห้องพักผ่อนส่วนตัวของอาชวิน ชายหนุ่มจัดเตรียมข้าวของเครื่องใช้ของแฟนสาวเอาไว้ครบครัน จันทร์เจ้าใช้เวลาเพียงไม่นานก็ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกออกไป และสวมใส่ชุดใหม่ซึ่งเป็นชุดเดรสแบรนด์ดังคอลเล็กชันล่าสุดที่แฟนหนุ่มสายเปย์สั่งตรงมาจากปารีสเพื่อเธอโดยเฉพาะหลังจากสำรวจดูความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมจนพอใจ จันทร์เจ้าก็เปิดประตูออกมาจากห้องสองขาเรียวก้าวไปข้างหน้าได้เพียงสองก้าวก็หยุดชะงัก เนื่องจากภายในห้องทำงานของท่านประธานหนุ่ม ไม่ได้มีเพียงแค่อาชวิน แต่ทว่ามีใครอีกคนซึ่งเธอคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีกำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว“อ้าว คุณลุง มาได้ยังไงคะ แล้วเรื่องรถเรียบร้อยดีไหมคะ เอ๊ะ หรือว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ คุณลุงถึงได้ขึ้นมาถึงนี่” จันทร์เจ้าเดินตรงเข้ามาถามไถ่ชายชราด้วยความห่วงใย ทำเอาผู้อาวุโสเอ็นดูในความมีน้ำใจของหญิงสาวจนอดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้างออกมา“รถมาลากไปเรียบร้อยแล้วล่ะ ขอบใจหนูมากนะ ถ้าไม่ได้หนูลุงคงแย่”อาชวินยืนกอดอกทิ้งสะโพกพิงขอบโต๊ะทำงาน พลางมองทั้งสองคนสลับไปมา สีหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้“เจ้าขา...รู้จัก...” ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้เอ่ยถ
หลังกลับจากนครปฐม อาชวินและจันทร์เจ้าก็ต้องวุ่นวายกับการเตรียมงานเปิดตัวเครื่องประดับคอลเล็กชันใหม่ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนหน้างานของจันทร์เจ้าที่มากขึ้นเป็นเท่าตัว อาชวินจึงมีคำสั่งให้แวววิวาห์ขึ้นมาเป็นผู้ช่วยเลขานุการ แถมยังขึ้นเงินเดือนให้อีกด้วย มีหรือที่แวววิวาห์จะปฏิเสธวันนี้อาชวินออกไปตรวจดูความเรียบร้อยของเครื่องประดับที่จะให้นางแบบใส่ขึ้นโชว์ในวันงานโดยไม่ยอมพาจันทร์เจ้าไปด้วย ซึ่งก็น่าแปลกใจไม่น้อย เพราะตั้งแต่ได้แวววิวาห์มาช่วยงาน ประธานหนุ่มก็มักจะพาคนรักติดตามไปด้วยทุกครั้งแต่พอมาลองนึกดูอีกที ได้อยู่ทำงานที่บริษัทก็ดีเหมือนกัน เธอจะได้มีเวลาสะสางงานอื่น ๆ ที่คั่งค้างยาวเป็นหางว่าว“ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ กินเดี๋ยวก็ติดคอหรอกยัยหวาน”จันทร์เจ้าร้องปรามขณะที่เธอและแวววิวาห์กำลังนั่งรับประทานอาหารกลางวันในร้านอาหารสไตล์คาเฟ่แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริษัทตั้งแต่บริกรนำอาหารมาเสิร์ฟ แวววิวาห์ก็จัดการสวาปามอาหารในจานอย่างรีบร้อนด้วยความหิว“ก็มันหิวอ่ะพี่เจ้า” รุ่นน้องกล่าวเสียงอู้อี้ทั้งที่ยังมีอาหารอยู่ในปาก“โอ๊ย ยัยเด็กคนนี้ เคี้ยวให้เสร็จก่อนค่อยพูด”เมื่อถูกรุ่นพี่ที่รักบ
หลังจากเก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อย คุณเดือนเพ็ญก็เตรียมอาหารเสร็จพอดี ทั้งสามคนจึงมานั่งล้อมวงกันรับประทานอาหารเย็นบนแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน โดยอาหารที่ท่านนำมาต้อนรับแขกนั้นก็เป็นเมนูง่าย ๆ ที่ลูกสาวคนสวยของท่านโปรดปราน เช่น คะน้าหมูกรอบ นอกเหนือจากนั้นก็เป็นเมนูมาตรฐาน ที่ท่านคาดว่าแขกคนสำคัญน่าจะพอรับประทานได้ เช่น ต้มจืดเต้าหู้หมูสับ ไข่เจียวหมูสับ และผักน้ำพริกและชายหนุ่มก็ไม่ทำให้หญิงสูงวัยต้องผิดหวัง เพราะเขาสามารถรับประทานอาหารทุกอย่างในสำรับได้อย่างเอร็ดอร่อย หนำซ้ำยังเติมข้าวถึงสามรอบ กินไปชมไปไม่ขาดปาก เล่นเอาคุณเดือนเพ็ญยิ้มไม่หุบกันเลยทีเดียวนอกจากนี้อาชวินยังคอยดูแลเอาใส่จันทร์เจ้า คอยตักอาหารที่หญิงสาวโปรดปรานให้เป็นระยะ อีกทั้งยังคอยหมั่นหันมาถามไถ่คุณเดือนเพ็ญ คอยสังเกตว่าท่านต้องการจะตักอาหารอะไรในสำรับ เขาก็จะรีบคอยอำนวยความสะดวกให้ท่านทันทีนั่นก็ยิ่งทำให้คนเป็นแม่ชื่นชอบแฟนหนุ่มของลูกสาวมากขึ้นอีกเป็นกองหลังจากรับประทานอาหารกันจนอิ่มหนำสำราญ อาชวินก็ช่วยเก็บสำรับนำไปไว้ในครัว และช่วยล้างทำความสะอาดภาชนะต่าง ๆ แม้คุณเดือนเพ็ญจะห้ามปราม แต่ชายหนุ่มก็ยังขันอาสาที่จะทำส











