 LOGIN
LOGINห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่คือสถานที่นัดหมายระหว่างเธอกับนับดาว เธอมาถึงได้ไม่นาน คนนัดกระวีกระวาดตามมาในห้านาทีให้หลัง
“ขอโทษที่ช้านะ พอดีอาจารย์ปล่อยเลตมากวันนี้”
“ไม่เป็นไรค่ะ สั่งอะไรก่อนไหม” พรีมนั้นสั่งโกโก้ปั่นไปแล้ว
“ก็ได้ค่ะ”
ทางร้านเป็นระบบสั่งออนไลน์ นับดาวจึงหันไปสั่งกาแฟบนหน้าจอแท็บเล็ตที่อยู่ข้างโต๊ะ
พรีมสมัครใจรอให้อีกฝ่ายมีเวลาพักหายใจ จากปฏิกิริยาที่เห็น นับดาวไม่ใช่คนอารมณ์ร้ายอย่างในหนังในละคร อย่างพวกตัวร้ายที่ชอบแย่งคนรักคนอื่นแล้วมาออกลายแว้ดแหวใส่อีกฝ่าย
“พี่...อยากมาขอโทษพรีม” ที่สุดนับดาวก็เอ่ยออกมาหลังพนักงานนำกาแฟเย็นมาเสิร์ฟ
“เพื่ออะไรคะ”
“ไม่รู้สิ เพื่อความสบายใจของพี่มั้ง”
“ถ้าไม่ทำผิดแต่แรกน่าจะสบายใจกว่าไหม” ถ้าผู้หญิงคนนี้เลือกไม่มั่วกับโปรดตั้งแต่แรก “แต่จะโทษพี่ฝ่ายเดียวคงไม่ถูกนัก”
เรื่องแบบนี้ต้องใจตรงกันทั้งสองฝ่าย หากว่านับดาวเริ่ม แต่โปรดไม่เอาด้วย คงไม่มีวันนี้
“พี่รู้ว่าพี่ผิดถึงอยากมาขอโทษพรีมสักครั้ง”
พรีมหยิบแก้วโกโก้ขึ้นมาดูดเพื่อไล่บางอย่างที่จุกดันในช่องอก ยามมีโอกาสนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน เธอยังเสียความรู้สึก เพียงแค่ไม่ได้ร้องไห้อีกแล้ว
นับจากคืนนั้น ใครบางคนบอกว่าเธอไม่เหมาะกับน้ำตา พรีมไม่ยอมให้มันไหลออกมาอีกเลย แม้จะมีข้อความจากโปรดมาหาทุกวัน
รุ่นพี่สาวยิ้มเนือย เบือนสายตามองไปเรื่อยเปื่อยนอกร้าน
“พี่รู้ว่าโปรดยังง้อพรีมอยู่ ถ้าไม่ติดว่าต้องขึ้นเวรแล้วก็เรียนหนัก เขาคงมาหาพรีมด้วยตัวเองแล้วล่ะ”
“ถ้าเป็นแบบนั้น พี่ไม่เจ็บปวดเหรอ หรือว่าพี่พอใจแค่ได้เอากันขำ ๆ แค่นั้น”
“หึ...มันคงชินชาแล้วมั้ง สี่ปีมานี้พี่เห็นเขายุ่งกับผู้หญิงหลายคน คนไหนที่ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ โปรดมักจะปลีกตัวออกห่างทันที”
“ที่พูดนี่อยากปั่นพรีม”
“เปล่า” คราวนี้รุ่นพี่สาวเบือนสายตามามองหน้ากันอย่างตรงไปตรงมา “พี่ยอมอยู่ตรงนี้ ยอมเป็นแค่เพื่อนในกลุ่ม ไม่เรื่องมาก ไม่เรียกร้องก็เพราะพี่รักโปรดจริง ๆ พี่รักเขามากจนยอมทุกอย่างขอแค่ได้อยู่ใกล้ ๆ เขาก็พอ ถ้าถามว่าพี่อยากเห็นแก่ตัวไหม อยากให้พรีมเลิกกับเขาให้เด็ดขาดหรือเปล่า พี่ยอมรับว่าอยาก ไม่มีใครอยากเป็นแค่ของใช้ใกล้มือของผู้ชายที่ตัวเองรักไปตลอด แล้ววันหนึ่งเขาก็ไปอยู่กับคนอื่นหรอกนะ”
“เลยจะมาบอกให้พรีมเลิกกับพี่โปรด แค่ลมปากหลักฐานไม่มีจะให้พรีมเชื่อเหรอ”
นับดาวมีท่าทีลังเล หากในที่สุดก็หยิบมือถือจากกระเป๋า กดปลดล็อก เลือกเข้าโฟลเดอร์รูปถ่ายแล้วส่งให้สาวรุ่นน้อง
พรีมรับมาดูแค่ภาพแรกที่เห็นทำเอาใจสูบฉีดเลือดหนักหน่วง บนรูปมีวันเดือนปีพร้อมสรรพ นิสิตแพทย์ช่วงปีแรก ๆ มีเวลาว่างเหมือนคณะอื่น ๆ วันว่างเหล่านั้น โปรดใช้มันเที่ยวเตร่กับเพื่อน เข้าผับเข้าบาร์ ออกค่ายอาสาต่างจังหวัด หากที่ทำให้ใจกระตุกคือหญิงสาวสวยที่เขานัวเนียแนบชิดด้วย หลายคนไม่ซ้ำหน้าเลยทีเดียว
“พี่แค่อยากบอกเรื่องที่พรีมไม่เคยรู้ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่เลย บางทีโปรดคงแค่เห็นผู้หญิงคนอื่นเป็นของใช้ใกล้มือแค่นั้น เขาอาจจะรักพรีมจริง ๆ ก็ได้”
“แล้วถ้าเขารักพรีม เลือกพรีม พี่จะทำยังไง”
“ไม่รู้สิ ถ้าเขายังต้องการพี่ พี่ก็คงยอมอยู่เงียบ ๆ ข้างเขาไปตลอดมั้ง”
“พี่แม่งเป็นผู้หญิงแบบไหนวะ” แบบไหนถึงได้ยอมเขาขนาดนี้
พรีมเริ่มมือสั่นทีเดียว หงุดหงิดหัวเสียที่เห็นผู้หญิงด้วยกันยอมตกเป็นเบี้ยล่างผู้ชายเพราะคำว่ารักคำเดียว ตัวเธอเอง ต่อให้รักขนาดไหน แต่พอเห็นเขามีคนอื่น เธอเลือกจะตัดใจ ยิ่งได้รู้แบบนี้ ไม่มีทางที่เธอจะยอมกลับไปเป็นของตายแน่นอน
นับดาวหัวเราะเสียงแผ่ว
“พี่ก็เป็นแค่ผู้หญิงโง่ ๆ ที่รักเขาหมดใจ”
“แต่พี่ควรรักตัวเองให้มากกว่านี้ไหม แล้วก็ไม่ต้องห่วงหรอก ต่อให้วันนี้พี่ไม่มา พรีมก็ไม่มีวันกลับไปคืนดีกับพี่โปรดอีกแล้ว ต่อให้เสียใจเสียดายเวลาที่คบกันมาแค่ไหนก็ตาม”
“พี่อยากเข้มแข็งได้อย่างพรีมนะ”
แววตาของนับดาวมองสาวรุ่นน้องอย่างชื่นชม เธอเห็นมาตลอด รักระยะไกลของคนทั้งสอง พรีมให้ความไว้ใจและเข้าใจชายคนรักอย่างที่สุด ไม่เรียกร้องงอแงแม้ว่าปีหนึ่งได้เจอกันแค่ไม่กี่ครั้งไม่กี่วัน
“รูปพวกนี้ พี่ไม่ได้คิดจะเอาไว้แบล็กเมล์เขาหรอก แรก ๆ แค่ถ่ายไว้ดูจะได้ย้ำเตือนตัวเองให้ตัดใจจากเขา พอนานวันเข้า พี่กลับยิ่งตัดใจไม่ได้ กติกาที่เขาให้พี่คือการคบกันแบบโอเพ่น มีแต่เขาที่โอเพ่น ส่วนพี่ถ้าไม่ใช่เขาพี่ก็ทำกับใครไม่ได้”
“พี่ไม่ลองมองคนอื่น บางทีอาจจะมีคนดี ๆ ที่ไม่เป็นเหมือนพี่โปรดก็ได้”
จากความชิงชังผันแปรเป็นความเห็นใจในฐานะลูกผู้หญิงด้วยกัน
“พี่คงทำได้ในสักวันหนึ่ง”
พรีมยื่นมือไปบีบมืออีกฝ่ายพลางนึกอยากหัวเราะลั่น จากที่คิดว่าจะมาปะฉะดะกับผู้หญิงของโปรดเต็มที่ กลายเป็นให้กำลังใจอีกฝ่ายอีกฝ่ายไปซะงั้น
ถึงวันนี้เธอคิดว่าอาจเป็นความโชคดีที่ได้เห็นพฤติกรรมของโปรดก่อนจะถลำลึกลงไปทั้งหัวใจและร่างกาย
หลังบอกลานับดาว พรีมเลือกจะเดินเล่นในซูเปอร์ในห้างเพื่อผ่อนคลายความหนักอกหนักอึ้งในจิตใจ แม้วันนี้จะยังลืมไม่ได้ แม้จะเหมือนเธอลำเอียงไม่ยอมให้โปรดได้แก้ต่างแก้ตัว แต่มันจะสำคัญตรงไหน ผู้ชายที่มีตรรกะความคิดเหมือนโปรด เธอไม่มั่นใจเลยว่าเขาจะกลับตัวกลับใจมีเธอแค่คนเดียวได้ในอนาคต เพราะฉะนั้นการเลือกพาตัวออกห่างน่าจะดีที่สุดแล้ว
จากคิดแค่เดินเล่น ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง พรีมได้ของใช้สามถุงใหญ่ หิ้วจนตัวเอียงออกมาหน้าห้างเพื่อเรียกรถกลับหอ

แผนการอันนั้นทำให้โซ่ต้องมายืนอยู่หน้าโต๊ะกระจกสำหรับแต่งหน้าและเก็บของของเมียรักในห้องวอล์กอินโคเซต ตามองขวดยาคุมเขม็ง พรีมเปลี่ยนมากินยาได้หนึ่งปีแล้ว เขาจะคุมเองเธอก็ไม่ยอม บอกกลัวพลาดท้องทั้งที่แต่งงานกันแล้วนี่แหละ“ยืนทำอะไรตรงนี้ ไม่เข้าไปนอนสักทีล่ะ”เสียงทักถามจากเมียรักมาพร้อมกับอ้อมกอดที่ทำให้ใจอุ่นได้ทุกครั้งพรีมเบี่ยงหน้ามาสบตากันผ่านกระจกเงา ก่อนสายตาจะหลุบมองเห็นบางอย่างในมือสามี“นั่นอะไร”“ยาบำรุง”“โซ่ป่วยเหรอ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”“เปล่า เราไม่ได้เป็นอะไร”สุ้มเสียงห่วงใยของเมียรักทำให้โซ่โยนขวดยาลงไปบนโต๊ะ หันมาอุ้มร่างนุ่มเข้าห้องนอน ตามขึ้นไปนอนกอด เริ่มอธิบายกับสายตาเป็นคำถามที่มองมา“ยาบำรุง ไอ้ฟีมมันแนะนำให้เรานำมาเปลี่ยนกับยาคุมของตัวเอง”ใส่ความออดอ้อนลงไปในคำท้ายเมื่อตาเมียไหวระริก ด้วยกลัวเมียจะโกรธ“ทำแบบนั้นเพื่อ”หญิงสาวกลั้นยิ้มวางหน้าขึงขัง เข้าใจดีว่าสามีที่รักต้องการอะไร“เราอยากมีตัวเล็ก ๆ แล้ว”“ทำไมรีบล่ะ”หน้าคมขยับเข้ามาซุกบ่าเล็ก ฉวยเม้มต้นคอขาว“ถ้ามีตอนนี้ เลี้ยงไม่กี่ปีลูก ๆ ก็โตแล้ว เค้าจะได้สวีตกับตัวเองได้เต็มที่ไง ไม่ต้องไปวิ่งตามลูก
“ตกลงปะล่ะ”“ตกลง”พรีมตอบโดยไม่ลังเล ความรักที่มีต่อคนตรงหน้าไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แม้ตลอดสองปีมานี้จะอยู่ด้วยกันทุกวัน ใกล้ชิดกันยิ่งกว่าคนในครอบครัว หากเธอก็รู้สึกเหมือนเขา คือยังอยากใกล้ชิดกันให้มากขึ้นไปอีกร่างนุ่มถูกยกหมุนท่ามกลางเสียงหัวเราะทุ้มนุ่ม เธอเองก็ยิ้มกว้างก่อนหัวเราะไปด้วยกัน สองมือกอดรอบลำคอหนาอย่างไว้เนื้อเชื่อใจริมฝีปากต่างพานพบประกบกันหลังชายหนุ่มหยุดหมุน โอบอุ้มร่างนุ่มไว้อย่างนั้น จูบแสนหวานที่หวามไปทั้งหัวใจถูกมอบให้แก่กันและกันอย่างลึกซึ้งตรึงอารมณ์ “กลับห้องกันเถอะ”หญิงสาวเอ่ยชวนหลังจูบแสนหวานจบลง“ไม่อยากเดินเที่ยวต่ออีกหน่อยเหรอ”“ไว้พรุ่งนี้ก็ได้ เราอยากอยู่กับโซ่” ท้ายประโยคกระซิบอย่างมีความหมายชายหนุ่มอมยิ้ม โอบเอวเล็กพาเดินกลับที่พักทันที แต่เส้นทางที่เลือกใช้นั้นก็ยังประดับด้วยแสงไฟที่ให้ความงดงามและแสนโรแมนติก บ่อยครั้งที่เขากดจูบขมับบางด้วยความรัก ชี้ชวนให้ดูสิ่งต่าง ๆ“เหนื่อยมั้ย”“ไม่เหนื่อยหรอก ดูไฟเพลิน ๆ”แม้หญิงสาวจะตอบไปอย่างนั้น กายแกร่งยังเดินมาย่อตัวลงข้างหน้า วาดแขนไปด้านหลังเพื่อรั้งร่างเล็กขึ้นหลัง“แบบนี้นายเหนื่อยแย่เลย”เ
“นึกถึงวันแรกที่เราช่วยเธอหิ้วของขึ้นห้องน่ะ”“ทำไม มีอะไรพิเศษเหรอ”“เรามีเรื่องจะสารภาพแหละ”“ว่า”“วันนั้นของมันไม่ได้หล่นจากถุงหรอก เราหยิบออกเอง”“ทำไมล่ะ”หญิงสาวมองคนรักอย่างไม่อยากเชื่อ นึกถึงเหตุการณ์วันนั้นขึ้นมา เธอแปลกใจตั้งแต่ตอนนั้นเหมือนกัน ถุงที่เธอผูกปากถุงอย่างดีทำไมถึงเปิดได้“เราจะได้มีเหตุผลไปหาเธออีกไง”“เจ้าเล่ห์จริง ๆ”โซ่หัวเราะ “ยอมรับว่าเจ้าเล่ห์ ตอนนั้นอะไรที่จะทำให้เราได้คบกับเธอ เราทำหมดแหละ”พรีมมองค้อน หมั่นไส้คนเจ้าเล่ห์มากกว่าจะโกรธคนโดนค้อนหัวเราะร่าท่าทางเบิกบานใจ ยักคิ้วหลิ่วตาให้สาวคนรัก“ทำไงได้เนอะ ชอบมากเลยคนนี้”วางของที่ถือมาไว้บนโต๊ะในครัวเสร็จ ชายหนุ่มยกร่างนุ่มขึ้นนั่งบนโต๊ะ โอบกอดไว้หลวม ๆ ส่งสายตารักใคร่มองสบตาคู่งามที่เต็มไปด้วยความรู้สึกไม่ต่างกัน“ใกล้ปีใหม่แล้ว ปีนี้อยากไปเที่ยวไหน อ๊ะ ๆ ไม่เอาเขาใหญ่แล้วนะ”“ไม่หรอก ปีนี้เราตามใจนาย อยากไปไหนล่ะ”“น่ารักฝุด ๆ แฟนใครน้อ...”“แฟนโซ่ไงคะ”โซ่คลี่ยิ้ม มอบจูบหวาน ๆ ซ่านซึ้งทรวง ถูกอกถูกใจในคำตอบ“ปีนี้เราไปเที่ยวญี่ปุ่นกันนะ ไปดูหิมะสวย ๆ หนาว ๆ แล้วลงแช่อนเซ็นอุ่น ๆ คงฟินดี”“ฮื่อ”หลั
โซ่พรมจูบไปทั่วหน้าปลั่งอย่างแสนรักขณะซึมซับความรู้สึกสุดพิเศษ ทั้งกอดรัดร่างนุ่มแน่นอย่างแสนหวงแหน หญิงสาวอิงแอบแนบซบไม่คิดผละห่าง แล้วก็รู้สึกถึงความต้องการของเขาผ่านความผ่าวร้อนที่คึกแข็งขึ้นมารวดเร็ว“มันใหญ่อีกแล้ว” เสียวหวานกระซิบ“มันอยากซุกพรีมอีก” โซ่เอ่ยยิ้ม ๆ หอมแก้มนุ่มแรง ๆ ก่อนทำท่าจะลุกจากโซฟา“ไปไหน”“หยิบถุงก่อน เราไม่อยากให้พรีมเสี่ยงถึงเราพร้อมรับผิดชอบทุกอย่างก็เถอะ” ถึงจะชอบที่ได้สัมผัสกันแบบไม่มีสิ่งขวางกั้นมากจับใจ ถึงแม้สถานะระหว่างกันคือคู่หมั้นที่ผ่านการเข้าพิธีหมั้นหมายด้วยความเห็นชอบของผู้ใหญ่แล้ว โซ่ไม่คิดจะให้มีเรื่องใดมาทำให้พรีมต้องหยุดชะงักการใช้ชีวิตในวัยนี้พรีมยึดต้นแขนใหญ่ไม่ยอมให้ลุก ซุกหน้ากับซอกคอหนา พึมพำเสียงเบา“ไม่เสี่ยงหรอก” ไม่ปล่อยให้คนรักนิ่วหน้าสงสัยนาน “เราไปฝังยาคุมมา”“พรีม! ตั้งแต่เมื่อไหร่” ได้ยินแบบนั้น ชายหนุ่มรีบจับแขนเรียวมาสำรวจ ก่อนจะเห็นรอยเล็ก ๆ ตรงแขนข้างหนึ่ง ช่วงก่อนหยุดยาวสิ้นปี ต่างคนต่างยุ่งเรื่องสอบและติวกับเพื่อน เขาถึงพลาดเรื่องนี้ หน้าเข้มขึ้น ลูบรอยเล็กแผ่วเบา“เจ็บหรือเปล่า เธอไม่จำเป็นต้องทำแบบเลยนะ”ท่าทางห่วง
ตลอดหลายเดือน บิดามารดาเดินทางกลับไทยเมื่อไหร่มักจะเรียกหาพรีมเข้าไปเล่นด้วย พวกท่านเอ็นดูพรีมมากกว่าเขาที่เป็นลูกชายซะอีก เหตุเพราะพรีมเป็นคนขี้อ้อนน่ารัก แม่ที่มีแต่ลูกชายจะไม่หลงยังไงไหวตัวเขายังหลงเธอจะตาย“ไว้ปิดเทอมใหญ่ค่อยไป จะได้อยู่กับท่านหลาย ๆ วันให้หายคิดถึงไปเลยดีไหม”“เธอว่าดี เราก็ว่าดี”“นายน่ารักที่สุดเลย”หญิงสาวแนบหน้าเข้าจูบแก้มขาวหนัก ๆ เป็นการให้รางวัลในความน่ารัก ก่อนจะเกาะกอดกายหนากระชับ เอนหน้าวางคางบนบ่ากว้าง ปล่อยให้เขาแบกเธอไปเรื่อย ๆครั้งนี้โซ่เลือกบ้านหลังใหม่อยู่ห่างจากหลังอื่นพอควรจึงมีความเป็นส่วนตัวและมองเห็นวิวสวยได้ทุกองศา“หนักหรือเปล่า เหนื่อยมั้ยให้เราลงเดินดีไหม”“ตัวเบายังกะนุ่น เอาตรงไหนมาหนัก”ชายหนุ่มยังยืนยันว่าไม่หนัก ไม่เหนื่อยด้วยการวิ่งขึ้นเขาโดยมีแฟนสาวเกาะหลัง“เกินไปแล้ว เดี๋ยวก็หัวใจวายหรอก”“ถ้าจะวายขอวายบนอกเธอดีกว่า”“นายนี่”โซ่หัวเราะร่วน ยอมหยุดวิ่ง เปลี่ยนมาก้าวเดินแทน ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็ถึงบ้านพักหลังงาม“ว่าไม่เหนื่อยแต่ได้เรื่องเหมือนกันนะเนี่ย มาปั๊มหัวใจหน่อยเร็ว”หน้าระรื่นยิ้มกรุ้มกริ่มไร้ร่องรอยความเหนื่อยล้า ถึงอย่
หลังจากคบหาดูใจกันมาพักใหญ่ โซ่ร่ำร้องอยากเปิดตัวกับครอบครัวของเธอบ้าง ทั้งที่เขาเองก็ได้รู้จักพี่สาวทั้งสองของเธอแล้ว แม้จะผ่านทางการคอลล์วิดีโอตอนที่เธอคุยกับพี่ ๆ บางครั้งเขาร่วมคุยด้วย แต่โซ่ให้เหตุผลว่ายังไม่เคยเจอตัวจริงกันอย่างเป็นทางการสักครั้ง ส่วนทางบิดามารดาเธอนั้น เขาเจอบ่อยเพราะพาเธอกลับบ้านทุกเดือนดังนั้นในวันหยุดสงกรานต์พรีมจึงได้พาชายหนุ่มมาบ้านที่นนทบุรีด้วย ซึ่งวันนี้พี่สาวทั้งสองพร้อมกับคนรักกลับมาบ้านเช่นกันโซ่หอบของฝากมากมายมาด้วยและไม่ลืมหิ้วกล้วยไม้ต้นใหญ่กำลังออกดอกสะพรั่งโดยมีช่อดอกยาวเฟื้อยเต็มต้น พอเธอถาม เขาบอกเล่าคร่าว ๆ ว่าเป็นกล้วยไม้ตระกูลช้างคนรับถูกอกถูกใจมาก ยิ้มกว้างหน้าบาน รีบบอกให้นำไปไว้ในเรือนกล้วยไม้ทันที“หนุ่มคนนี้นี่รู้ใจพ่อเราจริง ๆ” พัชรีเย้าลูกสาว“นั่นก็ขยันหาของมาเอาใจกันค่ะ พรีมห้ามก็ไม่ฟัง” กล้วยไม้บางต้นราคาแพงจนเธอตกใจ“แล้วพี่พลอยกับพี่เพลงมาถึงนานยังคะ พากันไปไหนแล้วล่ะ”ในบ้านไม่มีพี่สาวทั้งสอง พรีมรู้ว่าพวกเขามาถึงจากรถยนต์หรูสองคันที่จอดอยู่หน้าบ้าน“สักพักแล้วล่ะ ตอนนี้นั่งเล่นกันอยู่ในสวนหลังบ้าน”“งั้นเราไปสมทบกับพี่ ๆ กั
