 LOGIN
LOGIN‘พัชราวลัย’ อกหักรักคุดจากแฟนหนุ่มที่คบกันมา 5 ปี เพื่อนจึงพาไปนัดบอดกับหนุ่มต่าง ม. ทำให้เธอได้เจอกับ ‘พีรวิชญ์’ หนุ่มหล่อ อัธยาศัยดี เฟรนด์ลี่ เขาทำให้เธอยิ้มได้และนับวันยิ่งทำให้หัวใจคันนุบนิบราวมีมดไต่ “เราอยากจูบพรีมทั้งตัวเลย” พลันนั้น ปากร้อนประกบยอดอกกดคลึงด้วยริมฝีปากและลิ้นประสานกับมือตรงส่วนล่าง ปลุกปั่นอารมณ์ให้โหมกระพือ พรีมไร้แรงกำลังต้านด้วยว่าเธอเองก็มีใจให้เขา สัมผัสจับต้องร้อนแรงจึงยิ่งทำให้มีอารมณ์ร่วม ทว่า เมื่อมือแกร่งตลบชายกระโปรง เธอตะปบยึดมือนั้นไว้อย่างสับสน “ไม่เอา...” โซ่บอกย้ำข้างหู งับใบหูเล็กขบคลึงไล้เลีย “ไม่สอด” หน้าคมเคลื่อนจูบมาตามนวลแก้ม ปาดตวัดกลีบปากนุ่ม “แค่ภายนอก” “ไม่ถอด” เสียงสั่นเรียกรอยยิ้มประดับปากได้รูป “โอเค...ไม่ถอด” โซ่ยกกายนุ่มขึ้นมานั่งคร่อมตัก หลังบางเอนพิงแผงอก สอดมือใต้กระโปรงเข้ากอบกุมเนินนูนสาว ปากอุ่นประกบจูบปากนุ่มบดตะโบมโรมรันเสียงชื้นฉ่ำของการแลกลิ้นดังเบา ๆ เคล้าเสียงหวานที่เริ่มครางแผ่วสอดเสียงหอบหายใจหนักขึ้นทุกวินาที
View Moreบ่อยครั้งที่ พัชราวลัย ปรีดาศิริกุล หรือ พรีม เหลือบมองกล่องขนาดกะทัดรัดผูกโบสีชมพูสวยงามในถุงกระดาษแข็งตั้งแต่ยังอยู่ในรถไฟฟ้ากระทั่งตอนนี้ที่กำลังเดินตรงไปยังคอนโดสูงอันเป็นที่พักของเหล่านักศึกษาจากมหาวิทยาลัยละแวกนี้ ส่วนมากแล้วจะเป็นนิสิตแพทย์ของมหา’ลัย D เนื่องจากอยู่ใกล้มากกว่าที่อื่น
เธอกำลังจะไปหาคนรักซึ่งเป็นนักศึกษาแพทย์ปีสี่ของมหา’ลัย D คิดถึงหน้าคนที่ไม่ได้เจอกันร่วมสี่เดือน ได้แค่คอลล์วิดีโอกันเท่านั้น เนื่องจากนักศึกษาแพทย์ปีสี่ต้องขึ้นเวรแล้ว ทำให้อีกฝ่ายยุ่งมาก อย่าว่าแต่มาเจอกัน แค่เวลานอนเขายังไม่ค่อยจะมี
ปฏิภาณกับพัชราวลัยคบกันมาห้าปีแล้ว ความรักบ่มเพาะเอาตอนที่เธอกำลังเรียน ม.4 ส่วนเขาเรียน ม.6 ในโรงเรียนเดียวกัน เริ่มจากความเป็นพี่เป็นน้อง ค่อย ๆ พัฒนาจนกลายเป็นความรู้สึกลึกซึ้ง โดยมีสายตาพ่อแม่ของเธอซึ่งเป็นครูในโรงเรียนดังกล่าวรับรู้และเฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ หลังจากเขาเรียนจบและเข้าเรียนต่อแพทย์ที่มหาลัย D เธอเคยให้คำสัญญาว่าจะตามไปเรียน แต่โชคชะตาไม่เป็นใจ พัชราวลัยได้เข้าเรียนที่ ม.K ซึ่งอยู่ไม่ห่างจาก ม.D มากนัก แม้จะเป็นความรักระยะไกล แต่ระยะทางไม่เคยทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเธอจืดจาง ยังคงติดต่อกันเสมอ วันหยุดมักจะนัดเจอกัน เธอประทับใจที่ปฏิภาณเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายและให้เกียรติเธอมาตลอด แม้จะคบกันมารวมถึงปัจจุบันเป็นเวลาห้าปีแล้ว หากเขาก็ไม่เคยล่วงเกินเธอมากไปกว่าการกอดจูบและจับมือ ยังไม่เคยลึกซึ้งกันเลยสักครั้งเดียว
สืบเนื่องจาก วันพรุ่งนี้เป็นวันเกิดปฏิภาณและเขาจะได้พักการขึ้นเวร เธอจึงตั้งใจมาหา มารอที่ห้องพักของเขาเองซึ่งเธอมีกุญแจสำรองอยู่ เพียงแค่คิดว่าคนรักจะกลับมาห้องและพบเธอรออยู่พร้อมกับของขวัญวันเกิด รอยยิ้มยินดีที่เธอจะได้เห็นก็ทำให้หัวใจดวงน้อยพองฟู
เธอคิดจะตั้งกล้องถ่ายวิดีโอตอนที่เขาเปิดประตูเข้ามาแล้วเจอเธอในห้องด้วย
“พี่โปรดต้องเซอร์ไพรส์มากแน่ ๆ”
เมื่อเดินถึงตึกสูงหลังที่เป็นเป้าหมาย พัชราวลัยใช้คีย์การ์ดเปิดประตูตึกเข้าไปด้านในอย่างง่ายดาย เรียกลิฟต์ กดไปชั้นที่คนรักพักอยู่ด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มเกลื่อนกระจาย ลิฟต์ไม่ค่อยมีคนใช้บริการนักแม้ว่าเวลาตอนนี้คือสี่ทุ่ม อันเป็นเวลาวุ่นวายของเหล่าชาวหอ ปฏิภาณเคยเล่าให้ฟังว่า คอนโดนี้ส่วนใหญ่เป็นพวกนิสิตแพทย์และนักเรียนพยาบาลพักกัน ซึ่งพวกเขามักต้องการความสงบเพื่อพักผ่อนจึงไม่แปลกใจอะไรที่ตึกจะเงียบ ประตูลิฟต์เปิดตรงชั้นยี่สิบ เธอก้าวไปยังห้องพักของเขาทันที จากการที่เธอลองถามหยั่งเชิงมา ปฏิภาณบอกว่าจะกลับห้องช่วงเที่ยงคืน ซึ่งก็เหลืออีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
ทว่า... เพียงเปิดประตูเสียงเพลงจังหวะหนักก็ดังกระแทกหู
“พี่โปรดกลับมาแล้วเหรอ”
พัชราวลัยกำลังจะอ้าปากเรียกชื่อเจ้าของห้องที่คงลงเวรมาแล้วด้วยความดีใจ แต่แล้วก็ต้องชะงักใจกระตุก สายตาปะทะเข้ากับรองเท้าระเกะระกะซึ่งเป็นรองเท้าผ้าใบต่างไซซ์ ชิ้นต่อไปที่กองบนพื้นคือเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ หากอีกชิ้นที่ตกอยู่ไม่ไกลทำให้หัวใจกระแทกโพรงอกรุนแรง มันคือกางเกงในลูกไม้สีหวานตัวบาง ซึ่งไม่มีทางเป็นของปฏิภาณ
สุ้มเสียงกระเส่าดังเข้าหูในตอนที่เพลงจบลงเหมือนมีไฟร้อนลวกหัวใจ กระนั้นพัชราวลัยยังคิดในแง่บวกเกินสามร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า เสียงนั่นอาจเป็นเพื่อนของเขาสักคน หรือไม่ก็เสียงจากทีวี ถึงจะปลอบใจตัวเองแบบนั้น ร่างกายยังเบาหวิว แขนขาเหมือนไร้น้ำหนักขณะจรดปลายเท้าเดินไปยังหน้าห้องนอนที่ประตูเปิดกว้างสี่สิบห้าองศา
บางทีคนในนั้นอาจไม่ได้ตั้งใจปิดมันเลยก็เป็นได้
เมื่อสายตาปะทะกับสองคนบนเตียง พัชราวลัยตะครุบมือปิดปากด้วยความตื่นตระหนกและคาดไม่ถึง
ผู้ชายที่เธอจำได้เจนใจกำลังซุกไซ้หน้าอกเปล่าเปลือยอวบใหญ่ที่มีเสื้อชั้นในลูกไม้เข้าชุดกับกางเกงในที่ตกอยู่หน้าประตู มันรัดอยู่ใต้ฐานเต้าอวบอัด กระโปรงพลีตสั้นสีดำกองอยู่ตรงช่วงเอว ขณะกายใหญ่ของผู้ชายที่เปลือยท่อนบนแทรกอยู่กลางหว่างขาที่ถ่างอ้า ท่อนล่างของเขายังสวมยังกางเกงยีนสีซี้ด ทว่า...เธอมองเห็นชัดเจนว่า ความเป็นชายกำลังซุกแทรกอยู่ในกายผู้หญิง เสียงกระแทกกระทั้นดังเคล้าเสียงครางระงม เขาคือปฏิภาณ ชายคนรักของเธอเอง
ภาพตรงหน้าบีบบี้ความคิดในแง่ดีทั้งหลายแหล่แตกละเอียดเช่นเดียวกับหัวใจดวงน้อย ๆ ที่แตกสลายไม่เหลือชิ้นดี ถุงกระดาษในมือร่วงลงกระแทกพื้น เมื่อมือเกิดอาการอ่อนเปลี้ยถึงขีดสุด
เสียงของที่ตกกระทบพื้นเรียกความสนใจจากฝ่ายชายให้หันมามอง
“พรีม!!!”
เจ้าของชื่อถอยออกห่างประตู ความกดดันขุมหนึ่งขมวดวนในช่องท้องจนเกิดอาการคลื่นไส้ ความรู้สึกรับไม่ได้ถาโถมเข้าใส่จนหูอื้อตาลาย
“พรีม!”
ข้อมือถูกคว้ายึด กระชากให้หันกลับไปมอง เธอสะบัดออก ใช้สองมือระดมทุบอกกว้างเปล่าเปลือย หากพอสัมผัสได้ถึงความชื้นจากเหงื่อก็เกิดอาการขยะแขยงจนต้องลดมือลงพลางถอยออกห่าง ไม่มีการโวยวายต่อว่าด่าทอ เธอเหลือบมองเข้าไปในห้อง ได้เห็นหน้าผู้หญิงคนนั้น เธอคือเพื่อนในกลุ่มของโปรดชื่อนับดาว เพื่อนเขาลงรูปแล้วมักแท็กเขาประจำทำให้เธอรู้จักเพื่อนในกลุ่มเขาทุกคน นับดาวแต่งตัวพลางมองออกมาทำให้สบตากัน ดวงตาคู่นั้นมีร่องรอยตื่นตระหนก หากไม่ได้เขินอายมากมายอะไร
พรีมตวัดสายตามามองคนที่ยืนเสยผมยุ่งเหยิงด้วยท่าทางหัวเสีย
“จะมาทำไมไม่บอกพี่”
“ถ้าบอก พรีมจะได้เห็นอะไรดี ๆ เหรอคะ หรือพี่จะบอกว่าที่พรีมเห็นมันไม่มีอะไร”
แผนการอันนั้นทำให้โซ่ต้องมายืนอยู่หน้าโต๊ะกระจกสำหรับแต่งหน้าและเก็บของของเมียรักในห้องวอล์กอินโคเซต ตามองขวดยาคุมเขม็ง พรีมเปลี่ยนมากินยาได้หนึ่งปีแล้ว เขาจะคุมเองเธอก็ไม่ยอม บอกกลัวพลาดท้องทั้งที่แต่งงานกันแล้วนี่แหละ“ยืนทำอะไรตรงนี้ ไม่เข้าไปนอนสักทีล่ะ”เสียงทักถามจากเมียรักมาพร้อมกับอ้อมกอดที่ทำให้ใจอุ่นได้ทุกครั้งพรีมเบี่ยงหน้ามาสบตากันผ่านกระจกเงา ก่อนสายตาจะหลุบมองเห็นบางอย่างในมือสามี“นั่นอะไร”“ยาบำรุง”“โซ่ป่วยเหรอ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”“เปล่า เราไม่ได้เป็นอะไร”สุ้มเสียงห่วงใยของเมียรักทำให้โซ่โยนขวดยาลงไปบนโต๊ะ หันมาอุ้มร่างนุ่มเข้าห้องนอน ตามขึ้นไปนอนกอด เริ่มอธิบายกับสายตาเป็นคำถามที่มองมา“ยาบำรุง ไอ้ฟีมมันแนะนำให้เรานำมาเปลี่ยนกับยาคุมของตัวเอง”ใส่ความออดอ้อนลงไปในคำท้ายเมื่อตาเมียไหวระริก ด้วยกลัวเมียจะโกรธ“ทำแบบนั้นเพื่อ”หญิงสาวกลั้นยิ้มวางหน้าขึงขัง เข้าใจดีว่าสามีที่รักต้องการอะไร“เราอยากมีตัวเล็ก ๆ แล้ว”“ทำไมรีบล่ะ”หน้าคมขยับเข้ามาซุกบ่าเล็ก ฉวยเม้มต้นคอขาว“ถ้ามีตอนนี้ เลี้ยงไม่กี่ปีลูก ๆ ก็โตแล้ว เค้าจะได้สวีตกับตัวเองได้เต็มที่ไง ไม่ต้องไปวิ่งตามลูก
“ตกลงปะล่ะ”“ตกลง”พรีมตอบโดยไม่ลังเล ความรักที่มีต่อคนตรงหน้าไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แม้ตลอดสองปีมานี้จะอยู่ด้วยกันทุกวัน ใกล้ชิดกันยิ่งกว่าคนในครอบครัว หากเธอก็รู้สึกเหมือนเขา คือยังอยากใกล้ชิดกันให้มากขึ้นไปอีกร่างนุ่มถูกยกหมุนท่ามกลางเสียงหัวเราะทุ้มนุ่ม เธอเองก็ยิ้มกว้างก่อนหัวเราะไปด้วยกัน สองมือกอดรอบลำคอหนาอย่างไว้เนื้อเชื่อใจริมฝีปากต่างพานพบประกบกันหลังชายหนุ่มหยุดหมุน โอบอุ้มร่างนุ่มไว้อย่างนั้น จูบแสนหวานที่หวามไปทั้งหัวใจถูกมอบให้แก่กันและกันอย่างลึกซึ้งตรึงอารมณ์ “กลับห้องกันเถอะ”หญิงสาวเอ่ยชวนหลังจูบแสนหวานจบลง“ไม่อยากเดินเที่ยวต่ออีกหน่อยเหรอ”“ไว้พรุ่งนี้ก็ได้ เราอยากอยู่กับโซ่” ท้ายประโยคกระซิบอย่างมีความหมายชายหนุ่มอมยิ้ม โอบเอวเล็กพาเดินกลับที่พักทันที แต่เส้นทางที่เลือกใช้นั้นก็ยังประดับด้วยแสงไฟที่ให้ความงดงามและแสนโรแมนติก บ่อยครั้งที่เขากดจูบขมับบางด้วยความรัก ชี้ชวนให้ดูสิ่งต่าง ๆ“เหนื่อยมั้ย”“ไม่เหนื่อยหรอก ดูไฟเพลิน ๆ”แม้หญิงสาวจะตอบไปอย่างนั้น กายแกร่งยังเดินมาย่อตัวลงข้างหน้า วาดแขนไปด้านหลังเพื่อรั้งร่างเล็กขึ้นหลัง“แบบนี้นายเหนื่อยแย่เลย”เ
“นึกถึงวันแรกที่เราช่วยเธอหิ้วของขึ้นห้องน่ะ”“ทำไม มีอะไรพิเศษเหรอ”“เรามีเรื่องจะสารภาพแหละ”“ว่า”“วันนั้นของมันไม่ได้หล่นจากถุงหรอก เราหยิบออกเอง”“ทำไมล่ะ”หญิงสาวมองคนรักอย่างไม่อยากเชื่อ นึกถึงเหตุการณ์วันนั้นขึ้นมา เธอแปลกใจตั้งแต่ตอนนั้นเหมือนกัน ถุงที่เธอผูกปากถุงอย่างดีทำไมถึงเปิดได้“เราจะได้มีเหตุผลไปหาเธออีกไง”“เจ้าเล่ห์จริง ๆ”โซ่หัวเราะ “ยอมรับว่าเจ้าเล่ห์ ตอนนั้นอะไรที่จะทำให้เราได้คบกับเธอ เราทำหมดแหละ”พรีมมองค้อน หมั่นไส้คนเจ้าเล่ห์มากกว่าจะโกรธคนโดนค้อนหัวเราะร่าท่าทางเบิกบานใจ ยักคิ้วหลิ่วตาให้สาวคนรัก“ทำไงได้เนอะ ชอบมากเลยคนนี้”วางของที่ถือมาไว้บนโต๊ะในครัวเสร็จ ชายหนุ่มยกร่างนุ่มขึ้นนั่งบนโต๊ะ โอบกอดไว้หลวม ๆ ส่งสายตารักใคร่มองสบตาคู่งามที่เต็มไปด้วยความรู้สึกไม่ต่างกัน“ใกล้ปีใหม่แล้ว ปีนี้อยากไปเที่ยวไหน อ๊ะ ๆ ไม่เอาเขาใหญ่แล้วนะ”“ไม่หรอก ปีนี้เราตามใจนาย อยากไปไหนล่ะ”“น่ารักฝุด ๆ แฟนใครน้อ...”“แฟนโซ่ไงคะ”โซ่คลี่ยิ้ม มอบจูบหวาน ๆ ซ่านซึ้งทรวง ถูกอกถูกใจในคำตอบ“ปีนี้เราไปเที่ยวญี่ปุ่นกันนะ ไปดูหิมะสวย ๆ หนาว ๆ แล้วลงแช่อนเซ็นอุ่น ๆ คงฟินดี”“ฮื่อ”หลั
โซ่พรมจูบไปทั่วหน้าปลั่งอย่างแสนรักขณะซึมซับความรู้สึกสุดพิเศษ ทั้งกอดรัดร่างนุ่มแน่นอย่างแสนหวงแหน หญิงสาวอิงแอบแนบซบไม่คิดผละห่าง แล้วก็รู้สึกถึงความต้องการของเขาผ่านความผ่าวร้อนที่คึกแข็งขึ้นมารวดเร็ว“มันใหญ่อีกแล้ว” เสียวหวานกระซิบ“มันอยากซุกพรีมอีก” โซ่เอ่ยยิ้ม ๆ หอมแก้มนุ่มแรง ๆ ก่อนทำท่าจะลุกจากโซฟา“ไปไหน”“หยิบถุงก่อน เราไม่อยากให้พรีมเสี่ยงถึงเราพร้อมรับผิดชอบทุกอย่างก็เถอะ” ถึงจะชอบที่ได้สัมผัสกันแบบไม่มีสิ่งขวางกั้นมากจับใจ ถึงแม้สถานะระหว่างกันคือคู่หมั้นที่ผ่านการเข้าพิธีหมั้นหมายด้วยความเห็นชอบของผู้ใหญ่แล้ว โซ่ไม่คิดจะให้มีเรื่องใดมาทำให้พรีมต้องหยุดชะงักการใช้ชีวิตในวัยนี้พรีมยึดต้นแขนใหญ่ไม่ยอมให้ลุก ซุกหน้ากับซอกคอหนา พึมพำเสียงเบา“ไม่เสี่ยงหรอก” ไม่ปล่อยให้คนรักนิ่วหน้าสงสัยนาน “เราไปฝังยาคุมมา”“พรีม! ตั้งแต่เมื่อไหร่” ได้ยินแบบนั้น ชายหนุ่มรีบจับแขนเรียวมาสำรวจ ก่อนจะเห็นรอยเล็ก ๆ ตรงแขนข้างหนึ่ง ช่วงก่อนหยุดยาวสิ้นปี ต่างคนต่างยุ่งเรื่องสอบและติวกับเพื่อน เขาถึงพลาดเรื่องนี้ หน้าเข้มขึ้น ลูบรอยเล็กแผ่วเบา“เจ็บหรือเปล่า เธอไม่จำเป็นต้องทำแบบเลยนะ”ท่าทางห่วง
ตลอดหลายเดือน บิดามารดาเดินทางกลับไทยเมื่อไหร่มักจะเรียกหาพรีมเข้าไปเล่นด้วย พวกท่านเอ็นดูพรีมมากกว่าเขาที่เป็นลูกชายซะอีก เหตุเพราะพรีมเป็นคนขี้อ้อนน่ารัก แม่ที่มีแต่ลูกชายจะไม่หลงยังไงไหวตัวเขายังหลงเธอจะตาย“ไว้ปิดเทอมใหญ่ค่อยไป จะได้อยู่กับท่านหลาย ๆ วันให้หายคิดถึงไปเลยดีไหม”“เธอว่าดี เราก็ว่าดี”“นายน่ารักที่สุดเลย”หญิงสาวแนบหน้าเข้าจูบแก้มขาวหนัก ๆ เป็นการให้รางวัลในความน่ารัก ก่อนจะเกาะกอดกายหนากระชับ เอนหน้าวางคางบนบ่ากว้าง ปล่อยให้เขาแบกเธอไปเรื่อย ๆครั้งนี้โซ่เลือกบ้านหลังใหม่อยู่ห่างจากหลังอื่นพอควรจึงมีความเป็นส่วนตัวและมองเห็นวิวสวยได้ทุกองศา“หนักหรือเปล่า เหนื่อยมั้ยให้เราลงเดินดีไหม”“ตัวเบายังกะนุ่น เอาตรงไหนมาหนัก”ชายหนุ่มยังยืนยันว่าไม่หนัก ไม่เหนื่อยด้วยการวิ่งขึ้นเขาโดยมีแฟนสาวเกาะหลัง“เกินไปแล้ว เดี๋ยวก็หัวใจวายหรอก”“ถ้าจะวายขอวายบนอกเธอดีกว่า”“นายนี่”โซ่หัวเราะร่วน ยอมหยุดวิ่ง เปลี่ยนมาก้าวเดินแทน ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็ถึงบ้านพักหลังงาม“ว่าไม่เหนื่อยแต่ได้เรื่องเหมือนกันนะเนี่ย มาปั๊มหัวใจหน่อยเร็ว”หน้าระรื่นยิ้มกรุ้มกริ่มไร้ร่องรอยความเหนื่อยล้า ถึงอย่
หลังจากคบหาดูใจกันมาพักใหญ่ โซ่ร่ำร้องอยากเปิดตัวกับครอบครัวของเธอบ้าง ทั้งที่เขาเองก็ได้รู้จักพี่สาวทั้งสองของเธอแล้ว แม้จะผ่านทางการคอลล์วิดีโอตอนที่เธอคุยกับพี่ ๆ บางครั้งเขาร่วมคุยด้วย แต่โซ่ให้เหตุผลว่ายังไม่เคยเจอตัวจริงกันอย่างเป็นทางการสักครั้ง ส่วนทางบิดามารดาเธอนั้น เขาเจอบ่อยเพราะพาเธอกลับบ้านทุกเดือนดังนั้นในวันหยุดสงกรานต์พรีมจึงได้พาชายหนุ่มมาบ้านที่นนทบุรีด้วย ซึ่งวันนี้พี่สาวทั้งสองพร้อมกับคนรักกลับมาบ้านเช่นกันโซ่หอบของฝากมากมายมาด้วยและไม่ลืมหิ้วกล้วยไม้ต้นใหญ่กำลังออกดอกสะพรั่งโดยมีช่อดอกยาวเฟื้อยเต็มต้น พอเธอถาม เขาบอกเล่าคร่าว ๆ ว่าเป็นกล้วยไม้ตระกูลช้างคนรับถูกอกถูกใจมาก ยิ้มกว้างหน้าบาน รีบบอกให้นำไปไว้ในเรือนกล้วยไม้ทันที“หนุ่มคนนี้นี่รู้ใจพ่อเราจริง ๆ” พัชรีเย้าลูกสาว“นั่นก็ขยันหาของมาเอาใจกันค่ะ พรีมห้ามก็ไม่ฟัง” กล้วยไม้บางต้นราคาแพงจนเธอตกใจ“แล้วพี่พลอยกับพี่เพลงมาถึงนานยังคะ พากันไปไหนแล้วล่ะ”ในบ้านไม่มีพี่สาวทั้งสอง พรีมรู้ว่าพวกเขามาถึงจากรถยนต์หรูสองคันที่จอดอยู่หน้าบ้าน“สักพักแล้วล่ะ ตอนนี้นั่งเล่นกันอยู่ในสวนหลังบ้าน”“งั้นเราไปสมทบกับพี่ ๆ กั

Comments