LOGINณ ผับใหญ่หรูหราใจกลางเมืองแหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนมีเงิน กำลังมีนักเที่ยวกลางคืนที่เป็นพวกลูกไฮโซคนรวยหลั่งไหลกันเข้ามาใช้บริการรวมไปถึงพริมาก็ด้วย
ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยเที่ยวแหล่งอโคจรแบบนี้มาก่อน แต่เพราะฝันร้ายมันตามหลอกหลอนจนเธอข่มตาหลับไม่ลง เลยจำต้องออกมาลองท่องราตรีดูบ้าง
หญิงสาวจอดรถคันหรูที่พ่อเพิ่งจะซื้อให้เพื่อให้เธอเมื่อไม่นานมานี้เพื่อให้มีหน้ามีตาเทียบเท่ากับคนอื่นตรงลานจอดรถของผับที่เตรียมเอาไว้สำหรับต้อนรับแขก
"ดีกว่ากลับไปนอนฝันร้ายที่คอนโด"
เสียวหวานบ่นพึมพำกับตัวเองที่ไม่กล้าลงจากรถอยู่นานพอสมควรเพื่อรวบรวมความกลางในการออกเที่ยวกลางคืนครั้งแรก
ร่างบางที่ใส่ชุดเดรสรัดรูปสีดำสั้นแค่คืบก้าวลงจากรถอย่างกล้าๆ กลัวๆ ไร้ความสง่างามเดินเข้าไปในผับหลังจากตัดสินใจได้
พริมาเลือกที่จะไปนั่งในมุมที่ค่อนข้างไกลผู้คนเพื่อจะได้นั่งมองคนอื่นเพราะมันอาจทำให้เธอลืมเรื่องที่มันฝังใจลงไปได้บ้าง
"พี่พิชญ์"
หญิงสาวที่กำลังนั่งเหม่อลอยคิดนู้นคิดนี้ไปเรื่อยสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมีผู้ชายมายืนอยู่ข้างหน้า
คิ้วสวยขมวดเข้าหากันเล็กน้อยแสดงความหงุดหงิดที่มีคนมาก่อกวนยืนบังวิสัยทัศน์ในการมอง
แต่แล้วใบหน้าสะสวยของพริมาก็ต้องยิ้มอย่างฝืนๆ ออกมาเมื่อชายหนุ่มที่เดินเข้ามาคืนคนรู้จัก
"ขอนั่งด้วยคนสิ"
ยังไม่ทันที่เจ้าของโต๊ะที่เป็นหญิงสาวสวยจะเอ่ยอนุญาต พิชญ์ก็หย่อนก้นนั่งลงตรงข้ามกับเธอเรียบร้อยแล้ว
เขาไม่ได้เจอเธอมาสามปีแล้วเห็นจะได้เพราะพอเรียนจบก็ต่างแยกย้ายกันไปทำงาน
เธอยังคงเป็นผู้หญิงที่สวยสดใสน่ารักเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน จนสะดุดตาทำให้เขาต้องเดินเข้ามาหาเหมือนกับตอนเรียนมหาลัยไม่มีผิด
"มาคนเดียวเหรอ"
พิชญ์เป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาขึ้นก่อนหลังจากที่ปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมมาสักพัก
มันคงไม่แปลกที่เขากับพริมาจะไม่มีอะไรจะพูดคุยกันเพราะการไม่ได้เจอกันมานาน
อีกอย่างบริษัททนายความของบ้านเขาก็เป็นคู่แข่งกับบริษัททนายความของบ้านเธอ ยิ่งทำให้การต้องมีเรื่องพูดคุยกันน้อยเข้าไปอีก
"ค่ะ มาคนเดียว"
เสียงหวานตะโกนแข่งกับเสียงเพลงตอบไปอย่างขอไปทีเพราะเธอแทบจะไม่มีอะไรจะสนทนากับพิชญ์
เพราะถ้าพ่อของเธอรู้เรื่องที่เธอมาเจอคู่แข่งทางธุรกิจคนนี้เขาเธอคงโดนตำหนิอย่างมากจากท่านเป็นแน่
"พี่ขอเลี้ยงเหล้าเราสักแก้วนะ หวังว่าคงจะไม่รังเกียจ"
เสียงหนาของชายหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างสุภาพเหมือนกับตอนที่เขาเข้าไปทำความรู้จักกับเธอตอนที่ยังเรียนอยู่มหาลัย
ด้วยเขาก็ยังเป็นชายหนุ่มที่ยังแอบชอบเธออยู่เหมือนเดิมแม้ในวันนี้เขาจะมีครอบครัวไปแล้วก็ตาม
"ค่ะ"
หญิงสาวตอบรับตามมารยาททั้งที่เธอไม่กินเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
พิชญ์ก็รีบลุกขึ้นไปจัดหามาให้ในทันที โดยตรงไปสั่งเหล้าที่หน้าเคาน์เตอร์บาร์ด้วยตัวเอง ชี้นิ้วสั่งนู้นนี้กับบริกรที่คอยให้บริการ
ผับแห่งนี้เขามีหุ้นอยู่ครึ่งหนึ่งโดยอีกครึ่งเป็นของเพื่อนชาวต่างชาติ
ไม่แปลกที่เขาจะโชว์ความเป็นเจ้าของต่อหน้าหญิงสาวเพื่อให้เธอนั้นประทับใจ
เพราะเขารู้ว่าเธอนั้นมองตามเขาโดยตลอดตามสัญชาตญาณ
ไม่นานนักพิชญ์หนุ่มหล่อที่สาวๆ ต่างต้องแอบมองจนเหลียวหลังก็กลับมาพร้อมกับเครื่องดื่มสองแก้ว
หนึ่งแก้วเขาส่งให้เธอ อีกแก้วหนึ่งเขาดื่มเอง
"ขอบคุณนะคะ"
พริมารับเหล้าสีสันสวยงามนั้นมาจากมือชายหนุ่มแล้วเอ่ยขอบคุณตามมารยาท
เธอวางมันลงบนโต๊ะกระจกเล็กๆ ตรงหน้าอย่างไม่ได้สนใจอยากจะกินมัน
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับเธอก็ไม่ค่อยจะถูกโรคกันอยู่แล้ว
เธอเคยดื่มครั้งหนึ่งตอนสมัยเรียนมหาลัยจำได้เลยว่าเมาเละ เช้ามาโดนทำโทษจากพ่อกับแม่จนเละเช่นกัน
ไม่จำเป็นเธอไม่แตะต้องมันจะดีกว่า
"พี่สั่งน้ำเปล่ามาให้ล้างคอ"
พิชญ์ที่พอรู้จักนิสัยใจคอของหญิงสาวมาบ้างเลยสั่งน้ำเปล่าตามมาอีกแก้วโดยให้บริกรเดินมาส่งที่หลัง พร้อมกับพูดติดตลกเพื่อเรียกรอยยิ้มจากเธอ
"ขอบคุณค่ะ"
พริมาขอบคุณอีกครั้งและรับน้ำเปล่าเย็นๆ แก้วนั้นมาจากเขา
เธอจิบน้ำเปล่านั้นต่อหน้าเขาเพื่อรักษามารยาท
และก็เพื่อขอบคุณเขาจากใจที่เขาดูจะเอาใจใส่เธอมากกว่าคนรู้จักที่เป็นศัตรูทางธุรกิจกัน
"ให้พี่ไปส่งไหม"
เขากับเธอนั่งคุยกันสักพักโดยที่เขาเป็นฝ่ายชวนคุยมากกว่าจนเวลาเดินหน้าไปเรื่อยๆ
หัวข้อสนทนาหลักๆ ก็คงเป็นเรื่องชีวิตการทำงานเพราะเขากับเธอค่อนข้างหัวอกเดียวกันที่ต้องทำงานหนักเพื่อนำพาตัวเองให้ประสบณ์ความสำเร็จสูงสุด
หญิงสาวก็มีท่าทีกระวนกระวายและขอตัวกลับมาขึ้นเสียดื้อๆ ทั้งที่ยังอยู่ในช่วงเวลาหัวค่ำอยู่เลย
เขาก็เลยอาสาที่จะไปส่งเธอเพราะน้ำเปล่าที่หมดไปครึ่งแก้วคงเริ่มออกฤทธิ์แล้ว
"ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะที่เลี้ยง"
พริมาพรวดพราดลุกเดินออกจากโต๊ะนั้นอย่างรีบร้อน เธอเดินตรงไปยังลานจอดรถในทันที
ใบหน้าของเธอเริ่มเต็มไปด้วยเหงื่อราวกับด้านในร่างกายมีใครจุดไฟอยู่ภายในนั้น
ลมหายใจเริ่มแรงขึ้นทั้งที่ไม่ได้เหน็ดเหนื่อยอะไรเพราะเธอแค่เดินอยู่
สายตาเริ่มพร่ามัวมองหารถของตัวเองแทบจะไม่เห็น
มือบางพยายามควานหากุญแจรถในกระเป๋าสะพายเพื่อจะนำมากดรีโมทหารถแต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ
"ให้พี่ไปส่งนะ"
พิชญ์เดินเข้ามาประคองเธอจากทางด้านหลัง สองแขนโอบรั้งเอวคอดกิ่วของเธออย่างจงใจ
นำพาลำตัวแสนแข็งแรงแนบชิดไปกับเรือนร่างอรชรที่มีเสื้อผ้าเพียงน้อยนิดปกปิดเอาไว้
ใบหน้าหล่อเหล่าที่ผ่านการดูแลมาอย่างดีแนบชิดไปกับใบหน้าหวานอย่างจงใจ
"ไม่"
พริมาพยายามเปล่งเสียงออกมาให้ดังที่สุดเพื่อหวังให้มีคนเข้ามาได้ยินและช่วยเธอออกไปจากตรงนี้
"ที่รักลุกขึ้นมาทำอะไรแต่เช้าครับ"เควินเดินตามภรรยาคนสวยของเขาที่แอบไปจดทะเบียนสมรสเอาไว้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันแรกๆ ที่ปราบเธออยู่หมัดเข้ามาภายในห้องครัวเขาเดินเข้าไปกอดเธอจากด้านหลังแล้วหอมแก้มเธอซ้ายทีขวาทีด้วยความคิดถึงด้วยเขานอนตื่นสายเพราะทำงานกลับมาเกือบสว่างแล้วเลยทำให้ไม่เจอกับเธอยามที่ลืมตาตื่นขึ้นมาความคิดถึงมันก็เลยก่อเกิดจนเขาอดใจไม่ไหวประเคนหอมใส่เธอไม่หยุดอยู่แบบนี้"ให้นอนตื่นสายทุกวันมันน่าเบื่อจะตายไป หนูเลยลองลุกขึ้นมาทำอาหารเช้า"โซเฟียที่กำลังหั่นผักเตรียมทำอาหารเช้าง่ายๆ ให้กับเขาอยู่ถึงกับต้องหยุดมือลงเพราะถ้ายังขืนหั่นอะไรต่อมีดคงได้บาดมือกันพอดีพร้อมกับมีรอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าด้วยปฏิเสธไม่ได้เลยว่าชอบให้เขาทำแบบนี้มันทำให้หัวใจของเธอพองโตทุกครั้งที่ได้รับสัมผัสใกล้ชิดจากเขา"พี่รักหนูนะ"และเควินก็บอกรักภรรยาของเขาตบท้ายหลังจากหอมเธอจนแก้มแดงเหมือนทุกครั้งไปหรืออาจจะเรียกได้ว่าบอกรักกันทุกๆ เช้าเลยก็ว่าจะไม่มีการละเลยคำพูดนี้ไปแม้แต่วันเดียวด้วยเขาอยากให้เธอรับรู้ทั้งการกระทำและคำพูดของเขาว่ามันชัดเจนแค่ไหน"หนูก็รักพี่ค่ะ"หญิงสายตอบกลับเขาเบาๆ ด้วยควา
"จะ จะทำอะไร"ร่างบางถูกวางลงบนเตียงนอนนุ่มขนาดคิงไซส์ที่ปูด้วยผ้าปูสีขาวสะอาดตาโดยมีร่างกำยำของเขาตามลงมาคร่อมร่างของเธอเอาไว้หญิงสาวพยายามถอยหนีอย่างสุดความสามารถเท่าที่จะทำได้และเหมือนจะพยายามหนีให้เสียแรงเปล่าเพราะเขาก็ตามเธอมาอย่างง่ายดายอยู่ดี"สอนเด็กดื้อไง"แก้มสากเข้าแนบชิดแก้มขาวของเธออย่างทะนุถนอมกระซิบตอบคำถามเธอที่ข้างใบหูเล็กๆ ของเธอ"ไม่นะ"มือบางยกขึ้นดันอกแกร่งของเขาเต็มแรงอย่างขัดขืนยังคงพยายามหาทางรอดทั้งที่โอกาสแทบจะไม่มีเลยสถานการณ์บีบมาขนาดนี้ยังไงเธอถูกเขาจับกินแน่นอน"กลัวอะไร"สองมือหนาของชายหนุ่มที่มีเส้นเลือดปูดโปนบนหลังมือเสริมให้ดูแข็งแกร่งมากขึ้นจับสองมือบางขึ้นไปตรึงไว้ที่ข้างศีรษะเล็กของเธอแล้วออกแรงกดระดับหนึ่งเพื่อจะให้เธอหยุดนิ่งเพื่อตอบคำถามเขา"ฉะ ฉันชอบผู้หญิง"เสียงหวานตอบออกมาอย่างตะกุกตะกักเต็มทน จนแทบฟังไม่ออกว่าเธอพูดว่าอะไรด้วยใจของเธอนั้นกำลังหวั่นไหวไปกับผู้ชายร่างหนาที่คร่อมร่างเธออยู่เธอกำลังเปลี่ยนไปจนรู้ตัวได้ไม่ใช่อย่างที่ปากกำลังพูดออกไปเพื่อจะปกป้องตัวเอง"หึๆ หนูไม่มีวันกลับไปชอบผู้หญิงได้อีกแล้ว"เขาผละออกจากร่างบางแล้วข
"เธอพร้อมเมื่อไหร่เราค่อยจัดงานแต่งงาน"เควินเห็นว่าเธอยังช็อกกับเรื่องที่ได้ยินอยู่ เขาเลยยอมถอยให้กับเธอเธออาจจะต้องการเวลาในการปรับตัว เพราะเรื่องนี้มันก็ดูกะทันหันมากพอสมควรขนาดเขาเองที่เป็นฝ่ายยินยอมตั้งแต่แรกยังต้องปรับตัวตั้งหลายอย่างปรับแม้กระทั่งยอมเปิดบ้านที่ซึ่งเป็นสถานที่ส่วนตัวที่สุดให้เธอเดินเข้ามาเป็นคนแรก"ฉันไม่แต่ง มันจะไม่มีงานแต่งอะไรทั้งนั้น"โซเฟียหันไปแหวใส่เขาที่นั่งกอดเธออยู่เสียงดังลั่นเมื่อสติกลับคืนมาจะไม่มีงานแต่งงานอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น แม้ว่าพ่อของเธอจะรู้เรื่องแล้วก็ตามเธอจะค้านผู้เป็นพ่อหัวชนฝา เพราะถึงเธอจะรักผู้ชายเธอก็ไม่มีวันยอมแต่งกับเควินแน่นอนเขามันเจ้าสำราญผู้หญิงเยอะเกินกว่าที่ผู้หญิงคนไหนจะรับได้"งั้นก็อยู่ด้วยกันเลย ไม่ต้องแต่งมัน"เมื่อเธอไม่อยากแต่งเขาก็ไม่บังคับให้เสียเวลาก็อยู่กันไปแบบนี้เลย ดีเสียอีกเขาจะได้อยู่กับเธอเร็วขึ้น ไม่ต้องรอเวลาที่เหมาะสมอะไรอีก"ฉันไม่แต่งและไม่อยู่ก่อนแต่งอะไรทั้งนั้น"ร่างบางลุกออกจากตักหนาของเขาที่เธอปฏิเสธไม่ได้ว่ามันอบอุ่นเกินบรรยายมากๆเธอเอื้อมไปหยิบหมอนอิงใบใหญ่แล้วเข้าไปใช้หมอนฟาดใบหน้าเขาเต็
"มันจะกินได้เหรอครับ"บอดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยทักเจ้านายสาวขึ้นหลังจากที่ยืนดูเธอทำเรื่องน่ากลัวมาสักพักเธอกำลังเอายาถ่ายโรยไปรอบๆเค้กค้อนโตที่สั่งให้เขาไปซื้อมาแล้วราดช็อกโกแลตปิดทับไปอีกชั้นเพื่อให้มองไม่เห็นยานั่น"เงียบเถอะแซม"โซเฟียที่กำลังก้มๆเงยๆเก็บรายละเอียดรอบๆเค้กป้ายยาของเธอหันไปมองหน้าลูกน้องแทนเค้กก้อนโตอย่างตำหนิเค้กก้อนนี้มีไว้ให้คนที่กล้าขัดใจเธอกินไม่ใช่ให้ผู้เป็นลูกน้องกินสักหน่อย จะมาห้ามอะไรเธอนักหนา"คุณหนูอย่าทำแบบนี้เลยครับ"แซมพยายามเตือนสติเจ้านายให้เธอหยุดที่จะทำเรื่องนี้เสียมันไม่เกิดผลดีกับเธอแน่ถ้าอีกฝ่ายกินเค้กเข้าไปจนท้องเสียด้วยเควินเป็นมาเฟียใหญ่มีอิทธิพลล้นมือ เขาคงไม่ปล่อยคนที่กลั่นแกล้งเขาลอยนวนไปแน่"ไปเตรียมรถ แล้วก็อย่าพูดมากด้วย"โซเฟียเช็ครายละเอียดของเค้กอีกครั้งแล้วก็จับมันยัดใส่กล่องกระดาษที่ซื้อมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะก่อนจะรีบไปแต่งตัวให้สวยกว่าเดิมรับกับใบหน้าที่แต่งเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วเพื่อจะไปสะกดสายตาของเควินให้มองเธอแล้วกินเค้กให้หมดก้อนงานนี้ต่อให้แข็งแรงแค่ไหนก็ต้องถ่ายไปถึงเช้าแน่นอน"ครับ"แซมจำต้องเดินไปทำตามคำสั่งของผู้เป็นเ
"ปล่อยนะ"มือบางเข้าคว้ามือหนาที่กำลังจะรุกล้ำเข้าไปหาอกอวบของเธอเมื่อภายในใจมันร้องเตือนว่าไม่ควรเปิดโอกาสให้เขาอีกแล้วที่ผ่านมาเธอเจ็บช้ำทั้งร่างกายและจิตใจมามากจนเกินจะรับไหวควรจะหยุดเขาเอาไว้แค่มื้ออาหารนี้เพื่อตัวเธอเอง"ทำไม"เควินหยุดการขยับของมือลงตามที่เธอห้ามเอาไว้ด้วยภายในน้ำเสียงนั้นของเธอมันมีอะไรบางอย่างสะกิดใจเขาไม่เหมือนกับทุกครั้งที่เธอพยายามจะหนีจากเงื้อมมือของเขา"ฉันไม่ชอบผู้ชาย และฉันก็เกลียดนายมากด้วย อย่ามายุ่งกับฉันอีกได้ไหม ขอร้องล่ะ"น้ำเสียงสั่นเครือถูกเปล่งออกมาจากลำคออย่างอยากลำบากน้ำตาใสๆไหลออกจากดวงตากลมสวยอย่างเชื่องช้าเธอร้องไห้ออกมาเป็นครั้งที่สองตั้งแต่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนนี้ที่มากกว่าการทำงานทั่วๆไปขอให้การเสียใจนี้เป็นครั้งสุดท้ายสำหรับเธอก็แล้วกันขอให้เขาเข้าใจและยอมปล่อยเธอไปมีชีวิตในแบบของเธอเหมือนเดิม"โซเฟีย"เควินพยายามจะยกมือขึ้นกอดร่างบางที่กำลังร้องไห้เขาอยากปลอบเธอด้วยเรื่องที่เธอกำลังเสียใจเพราะเขาเองที่เป็นสาเหตุในเรื่องนั้น"เอามือออกไปสิ"โซเฟียตวาดใส่เขาทั้งน้ำตาเมื่อมืออันน่าขยะแขยงของเขายังไม่ยอมไปให้พ้นจากตัวเธอ"ขอโทษ"
"น่าเบื่อจริงๆบ้านตัวเองก็ไม่ยอมกลับไป"โซเฟียกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ในอ้อมกอดของเควินได้ครึ่งวันเธอก็ลุกขึ้นมาหาอะไรใส่ท้องเพราะเริ่มมีอาการแสบท้องแล้วด้วยไม่ได้กินอะไรลงท้องเลยตั้งแต่เมื่อวานเย็นและก็ไม่อยากนอนกับคนที่ไม่ชอบหน้าต่อด้วยเลยหาเรื่องหนีมาซะเลยทั้งที่ร่างกายของเธอยังอ่อนแรงและยังอยากพักอยู่เธอเดินตรงไปยังห้องครัวเพื่อจะทำอาหารเองง่ายๆรองท้องสักนิดแล้วค่อยสั่งอาหารจากข้างนอกมากินต่อระหว่างทางเดินที่เดินไปบ่นคนที่ยังนอนอยู่ในห้องของเธอไปสายตาหวานก็ไปสะดุดเข้ากับอาหารสองจานบนโต๊ะอาหารคนหิวจนแสบท้องอย่างเธอแวะเข้าไปหามันในทันที"มาอยู่บ้านฉันก็ช่วยประหยัดหน่อยไหม หัดเกรงใจคนอื่นบ้างสิ"และในจังหวะเดียวกันแขกไม่ได้รับเชิญอย่างเควินก็เดินลงมาจากชั้นสองของบ้านโซเฟียหันไปพูดแขวะเขาในทันทีด้วยอาหารสองจานตรงหน้าค่อนข้างใช้วัตถุดิบที่ดี ราคาแค่สองจานนี้ก็ปาไปหลายพันบาทเขาที่มาอาศัยบ้านเธออยู่ควรกินแค่ข้าวผัดใส่ไข่ก็พอมั้ง"ฉันสั่งมาจากโรงแรม"เควินที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวหนึ่งผืนห่อคลุมท่อนล่างมาหย่อนก้นนั่งลงตรงเก้าอี้หน้าจานอาหารจานใหญ่กว่าที่อยู่ตรงหน้าของเธอที่เขาสั่งมาจากโรง





![คีรินทร์ วาเลนซิโอ [ ใต้ปีกมาเฟีย ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)

